พี่สาวนางร้าย ปักธงตายตั้งเเต่ตอนเเรก !? 21

Now you are reading พี่สาวนางร้าย ปักธงตายตั้งเเต่ตอนเเรก !? Chapter 21 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“นี่มัน….อลิซ ?”

เด็กสาวผู้มีเรือนผมสีเทาหม่นและมีดวงเนตรสีดำสงบ

ร่างเล็กๆสวมชุดกระโปรงสีฟ้าสว่าง ฝ่ามือฝ่าเท้าเล็กๆที่เลยพ้นชุดกระโปรงขยับขึ้นลงแล้วก้าวเข้ามาใกล้ฉันอย่างช้าๆ

เด็กน้อยอายุเพียง 7 ขวบผู้มีพลังควบคุมความฝันโยกศีรษะกลมเล็กไปมา โดยที่ดวงตากลมโตจ้องฉันๆไม่วางตา

ท่ามกลางโลกอันขาวสว่างที่อยู่ข้างในความฝัน มีเพียงแค่ฉันและเธอเพียงสองคน

“นี่ฉันเผลอหลับไปอย่างงั้นหรอเนี่ย ? ว่าแต่คนอื่นๆล่ะ”

“ไม่อยู่…พี่สาว ไม่หลับตามเวลา”

“อ่าว…แบบนี้ก็แย่น่ะสิ”

“คนอื่นๆตื่นกันไปหมดแล้ว ก็เลยมีแค่หนูที่นอนรอพี่สาวอยู่”

ฟุบ !

พูดจบ เด็กสาวร่างเล็กก็สวมกอดเอวของฉันแล้วเอาแก้มถูไถไปมากับท้องของฉัน

“นึกว่าจะเป็นอะไรไปแล้วซ่ะอีก….ดีใจจัง”

พอเห็นเด็กสาวผมเทาเข้ามาอ้อน ฉันก็ลูบหัวของเธอเบาๆพลางขอโทษ

“ขอโทษที พอดีเมื่อวานมีเรื่องอะไรนิดหน่อย ?”

“มีคนไล่ตามมาอีกหรอ ?”

“ไม่หรอก…ตั้งแต่หนีมา หลังจากสัปดาห์แรกก็ไม่เห็นทางนั้นโผล่มาอีกเลย รู้สึกสงบสุขจนน่าหวั่นใจแปลกๆ”

โลกแห่งความฝัน 

สถานที่แห่งนี้คือมิติที่เกิดจากความฝันซึ่งถูกควบคุมโดยอลิซ ผู้ครอบครองแก่นแห่งนิทรา

มันคือสถานที่รวบตัวของเหล่าผู้ครอบครองแก่นมนตราทั้ง 53 คน ที่กระจัดกระจายไปทั่วทุกสรทิศ ทุกคนจะถูกลากมายังสถานที่แห่งนี้ทุกครั้งที่นอนหลับด้วยพลังของอลิซ 

ฉันตั้งชื่อโลกแห่งความฝันที่พวกเรามารวมตัวกันแห่งนี้ว่า ‘อลิซเน็ตเวิร์ก’

“ว่าแต่ทางฝั่งอลิซละ ? สบายดีรึเปล่า ?”

“ค่ะ ทางหนูดูเหมือนจะสลัดคนที่สะกดรอยตาไปแล้ว แต่ทางพี่ลีโอ เห็นบอกว่าทางนั้นตามกัดไม่ปล่อยเลย ”

ลีโอ เด็กหนุ่มท่าทางเข่งขรึมที่สวมแว่นแล้วชอบวางตัวเป็นผู้ใหญ่

เขาคือเด็กหนุ่มอายุ 12 ที่ช่วยฉันวางแผนหลบหนี และเป็นถึงผู้ครอบครอง แก่นกลางแห่งวายุ

มันทำให้เขามีความสามารถควบคุมสายลม อีกทั้งเขายังเป็นหนึ่งในทีมช่วยเหลือที่ตามฉันไปช่วยไอรินในวันนั้น

“แบบนั้น แย่เลยนะเนี่ย”

“แต่พี่ลีโอเขาบอกว่าไม่เป็นอะไร ไม่ต้องเป็นห่วง พี่เขาจัดการเองได้ เรื่องแค่นี้ไม่ต้องให้พี่ไอริซมาช่วยหรอก”

“งั้นหรอ….”

“ทะเลาะกันหรอ ? ”

“เปล่า…ไม่ใช่อย่างงั้นหรอก”

“แต่ลีโอดูไม่พอใจเท่าไหร่….เหมือนกับไม่อยากเจอหน้าพี่สาวเลยนะ”

“อื้ม….อลิซไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”

ฉันลูบหัวไอริซพลางนึกถึงเหตุการณ์ในวันที่พวกเราไปช่วยไอรินด้วยกัน

การที่เขาไม่อยากเจอหน้าฉันอีกครั้ง ไม่ใช่เรื่องแปลก 

ความผิดในเหตุการณ์นั่นเป็นเพราะการตัดสินใจของฉันที่ไม่ฟังคำคัดค้านของลีโอ

เพราะงั้นในตอนนี้ สำหรับลีโอแล้ว ตัวฉันก็เลย—

 

“พี่สาว….”

“หืม ? มีอะไรหรอ ?”

พอรู้ตัวอีกทีอลิซก็ซ้อนตาขึ้นมา

“กอดหนูหน่อยสิ”

“โอ๋ๆๆ”

ว่าแล้วฉันก็โอบร่างเล็กๆเขามากอดแล้วลูบหัวของสาวน้อยร่างเล็กคนนี้เบาๆ

“—– ♪”

อลิซครางในอ้อมแขนของฉันอย่างมีความสุข อารมณ์ที่กลั้นไม่อยู่ทำให้มีหางสุนัขส่ายไปส่ายมาที่ก้นของเธอซึ่งฉันมั่นใจว่าไม่ได้ตาฝาด เพราะในโลกแห่งความฝัน แม้แต่ฉันเองก็สามารถเสกหูกระต่ายขึ้นมาได้เอง

“คิดถึงพี่สาวจังเลย แวะมาหาหนูบ้างสิ”

“ยากจัง..ทิศทางที่พี่ไปกับของอลิซ มันอยู่กันคนล่ะทางเลยน่ะ”

“งั้นมาทางหนูแทนไม่ได้หรอ ? ทางที่พี่สาวไปมันทางเดียวกับพี่ลีโอเลยนะ แล้วก็การเดินทางไปทางนั้นคงไม่น่าจะปลอดภัยอีกแล้วตามข้อมูลที่พี่ลีโอให้มา เพราะโดยรอบมีการวางกองกำลังติดตามไว้เต็มเลย”

“ถึงอย่างงั้น เส้นทางที่พี่คิดว่าจะไป มันก็ถูกกำหนดเอาไว้แล้วอยู่ดี อาจจะเลื่อนเวลาไปซักหน่อย แต่กำหนดการก็ไม่เปลี่ยนแปลงจ้ะ”

“งือ……ไม่อยากเจอหนูหรอ ?”

อลิซทำหน้าเหงาหงอย แต่ฉันก็ยิ้มแห้งๆแล้ววางหน้าผากของฉันลงบนหน้าผากของเธอ

“อยากเจอสิ….”

มองไปในดวงตาสีดำสนิทตรงๆ จากนั้นก็พูดสิ่งที่รู้สึกออกมาจากใจจริง

“อยากเจอมากๆเลยล่ะ….พี่ก็คิดถึงพวกเธอเหมือนกัน…แต่ว่า—”

“……………….”

“พี่มีสิ่งที่ต้องทำอยู่….และนั่นก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่พี่ทำได้เพื่อพวกเธอทุกๆคน”

“…………….”

“ขอโทษนะ….ใจจริงแล้ว พี่ก็อยากไปเจออลิซอีกซักครั้งอยู่หรอก”

พอฉันพูดออกไปแบบนั้น อลิซก็กอดฉันแน่นมากยิ่งขึ้น

ทันใดนั้นเอง โลกที่เต็มไปด้วยแสงสีขาวก็กลายเป็นสีดำ

กึก ! 

พริบตานั้น สิ่งเดียวที่ฉันเห็นก็มีแค่อลิซและฉันเพียงแค่สองคน

“หนู….แอบมองความฝันของพี่ลีโอมาแล้ว”

“—- !!!”

“แล้วหนูก็แอบดูความฝันของพี่สาวแล้วด้วย”

ความจริงที่ออกจากปากของสาวน้อยตรงหน้าทำให้หัวใจของฉันหล่นวูบลงไปถึงตาตุ่ม

“อลิซ………”

“เพราะงั้นหนูเลยเข้าใจ….ว่าที่พี่ลีโอไม่อยากเจอพี่ริซ…ถ้าไม่ได้ทะเลาะกัน มันต้องมาจากสาเหตุอื่นแน่ๆ”

“งั้นหรอ…เป็นเพราะพี่เผลอหลับไปสินะ…ดันเผลอฝันจนได้ ความแตกซ่ะแล้วสิ”

ตามปกติ เพราะรู้ดีว่าอลิซสามารถมองดูความฝันของคน ฉันจึงพยายามควบคุมจิตสำนึกของตัวเองให้มุ่งตรงมาที่โลกแห่งความฝันแห่งนี้ทุกครั้งที่หลับ เพื่อที่อย่างน้อยฉันจะไม่เผลอปล่อยให้จิตสำนึกของตัวเองไหลไปตามความฝันที่เกิดขึ้นมาในหัวของฉันเอง เพราะ มันเสี่ยงที่จะทำให้อลิซรู้ถึงความจริงในวันนั้น

เพราะเมื่อคืน เหนื่อยเกิน แล้วเผลอหลับไป ฉันก็เลยเผลอฝันถึงเหตุการณ์ในวันนั้นจนทำให้อลิซแอบเข้ามาแง้มดูความฝันของฉันจนได้

ไม่น่าประมาทเลย ความแตกซ่ะแล้ว

“………………”

“ในเมื่อรู้ความจริงขนาดนั้นแล้ว งั้นสำหรับอลิซ ยังยอมรับพี่สาวว่าเป็นพี่อยู่รึเปล่า ?”

“หนูก็….ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่า—”

อลิซเดินเข้ามาหาฉันแล้วกอดฉันแน่น

“จะไม่ปล่อยไปเป็นครั้งที่สองอีกแล้ว”

ร่างกายของฉันไม่อาจขยับไปไหน

พริบตาที่ปราศซึ่งคนอื่นๆและโลกแห่งความฝันถูกย้อมเป็นสีดำ จิตสำนึกในโลกแห่งนี้ของฉันก็ถูกอลิซควบคุมเอาไว้โดยสมบูรณ์

“พี่สาวจะต้องอยู่กับหนูที่นี่ตลอดไป”

ดวงตาที่ดำมืดจับจ้องฉันราวกับจะกลืนกิน

“พี่สาวจะต้องอยู่กับหนู…อยู่กับอลิซ ในโลกแห่งความฝันแห่งนี้ไปชั่วกัปชั่วกัลป์”

“…………….”

“อยู่ในโลกอันสงบสุขแห่งนี้ไปตลอดกาล หลุดพ้นจากโลกอันโหดร้ายที่มีแต่จะทำร้ายพวกเราทุกๆคน”

“…………….”

“จะไม่ปล่อยให้พี่สาวต้องเจอเรื่องแย่ๆแบบนั้นอีก จะไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนั้นกับพี่สาวอีกเป็นครั้งที่สอง”

“นี่คง….หลังจากนี้คงไม่ได้วางแผนจะขังทุกคนไว้ในโลกแห่งความฝันใช่ไหมเนี่ย ?”

ทว่า เด็กสาวที่กอดฉันแน่น กลับพยักหน้าขึ้นลงอย่างช้าๆ

“ทุกคนจะปลอดภัย…ภายในโลกแห่งนี้ที่หนูสร้างขึ้นมา”

“แบบนี้อลิซจะกลายเป็นวายร้ายเอานะ”

“ไม่เป็นไร ถ้าเพื่อปกป้องทุกคน หนูไม่สนหรอก”

อลิซยิ้มกว้างอย่างใสซื่อ แต่ดวงตาของเธอช่างดำมืดซ่ะเหลือเกิน

“หนูจะปกป้องทุกคน เหมือนกับที่ทุกคนปกป้องหนู…ภายในโลกแห่งความฝันที่หนูสร้างขึ้นมาเอง !”

พูดจบร่างกายของฉันก็ขยับไปเองโดยอัตโนมัติ

มือสองข้างลูบแก้มของอลิซเบาๆ

พร้อมกันนั้นก็ยื่นริมฝีปากเข้าไปใกล้ใบหน้าของอลิซอย่างช้าๆ

ไม่อาจควบคุมได้

ร่างกายในโลกแห่งความฝันถูกแย่งชิงการควบคุมไปโดยสมบูรณ์

ริมฝีปากของฉันค่อยๆสัมผัสริมฝีปากของอลิซอย่างเบาๆโดยมิอาจควบคุมได้

แบบนี้ฉันคงต้องโดนขังอยู่ภายในโลกแห่งนี้ตลอดไปแน่ๆ

“หึๆๆ พี่สาวจะกลายเป็นของหนู กลายเป็นของหนูแต่เพียงผู้—-”

โป้ก !

ว่าไปนั่น ล้อเล่นจ้า~  ♪

“อ๋อย ?”

อลิซล้มก้นจ้ำเบ้าหลังจากที่โดนฉันกระแทกหัวใส่ไปทีหนึ่ง เธอลูบหัวของตัวเองด้วยท่าทางงุนงง โดยที่บนหัวของเธอมีดวงดาวสีเหลืองวนไปวนมาอยู่ห้าดวง

“ทะ ทะ ทำไมถึง ? หลุดการจากการควบคุมของหนูไปได้ละ ?”

ฉันก็เลยเฉลยหลักการของโลกใบนี้ให้น้องสาวผู้เต็มไปด้วยความยันดาเระคนนี้ฟัง

“บทบัญญัติของเวทย์แห่งความรักข้อที่หนึ่ง ! พี่สาวย่อมชนะน้องสาวเสมอ !”

“กฎแบบนั้นไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อน พี่สาวคนขี้โกง  !!! ”

ระหว่างที่อลิซโวยวาย เพียงแค่ฉันดีดนิ้วไปทีเดียว โลกที่กลายเป็นสีดำมืดก็กลับมาปกคลุมด้วยสีขาวบริสุทธิ์อีกครั้ง

“เป็นไปไม่ได้ โลกใบนี้ต้องถูกอลิซควบคุมโดยสมบูรณ์แล้วนี่น่า ?”

“ฮุๆ ไม่มีเวทมนต์ชนิดไหนเอาชนะเวทย์แห่งความรักของพี่สาวไปได้หรอก”

ว่าแล้วฉันก็ดึงน้องสาวสุดแสนอันตรายคนนี้เข้ามากกอดแน่น จนอลิซดิ้นพล่านไปมาเพราะหายใจไม่ออก

“นี่แน่ะๆ ซนจริงนะเราน่ะ”

“อื้อ ๆๆๆๆ !?”

“เฮ้อ..ทำไมน้องๆที่อยู่รอบตัวฉันแต่ล่ะคนถึงมีแต่คนที่แข็งแรงแก่นแก้วกันซ่ะจริงน้า”

บางคนแค่กระพริบตา เมืองทั้งเมืองก็ถูกสลายกลายเป็นฝุ่น

บางคนสามารถดึงผู้คนมากักขังในโลกแห่งความฝันชั่วกัปชั่วกัลป์

บางคนสามารถเสกทอนาโดแล้วสร้างภัยพิบัติทางธรรมชาติปลอมๆขึ้นมาได้

ในขณะที่บางคนสามารถเสกคนให้กลายเป็นขนมหวานก็ยังมี

มีแต่ตัวป่วนเต็มไปหมด แต่ก็ไม่ได้เกลียดหรอกนะ

รักมากๆ รักที่สุดเลยล่ะ

“นี่แน่ะๆ จะหายดื้อรึยัง ?”

“บุ๊ ฮ่าว์ ? หายใจออกแล้ว !? เกือบจมหน้าอกพี่สาวตายซ่ะแล้วสิ”

“ว่าไง ? โดนไปขนาดนี้ยังคิดจะทำแบบเมื่อกี้อีกรึเปล่า ?”

หงึกๆ 

เด็กสาวผมเทาพยักหน้าขึ้นลงอย่างมั่นคง ฉันก็เลยมอบอ้อมกอดแห่งความรักไปชุดใหญ่อีกรอบ

“นี่แน่ะ~  ♪”

“— !?”

แม้ช่วงแรกจะดิ้น แต่สุดท้ายมือที่สะบัดไปมาก็ผ่อนลงแล้วแน่นิ่งไปทั้งๆอย่างงั้น

หลังจากนั้นฉันเลยวางหัวของเธอที่สลบไปบนตักของตัวเองแล้วนั่งรอจนกว่าอลิซจะตื่น

เวลาที่อลิซนอนหนุนตักของฉันจึงผ่านไปอย่างช้าๆ จนกระทั่งผ่านไปได้ประมาณหนึ่งชั่วโมง

“……………….”

“………………”

อลิซแง้มตามองเล็กน้อย

“—- ?”

“—– !!!”

แต่พอเห็นหน้าฉันก็แกล้งหลับกลับไปใหม่

“………….”

จากนั้นก็แง้มตาสีดำจ้องมาที่ฉันอีกรอบนึง

“ตื่นแล้วสินะ”

ฟุบ !

แต่พอฉันพูดออกไปแบบนั้น อลิซก็หลับตาไปอีกรอบ

“ตื่นได้แล้วมั้ง”

“ฟรี้ ~ อลิซยังหลับอยู่เลยค่า”

“เฮ้อ….ตื่นแล้วก็ลุกได้แล้วนะ”

“ยังหลับอยู่ค่ะ….”

พูดจบอลิซก็ก้มหน้าเอาหัวซุกตักของฉัน

“จะเปลี่ยนวิธีขังพี่ไว้ในนี้ด้วยวิธีนี้แทนหรอ ?”

“จากประสบการณ์ที่ผ่านมา อลิซคิดใหม่แล้วค่ะว่าการใช้กำลังไม่มีทางมีประสิทธิภาพเท่าวิธีนี้  ถ้าอลิซไม่ยอมตื่น พี่สาวจะต้องให้หนูนอนหนุนตักไปตลอดอย่างแน่นอน”

“แต่เราตื่นแล้วนิ ?”

“กำลังจะหลับใหม่ รอแปปหนึ่งค่ะ”

“………………..”

“ฟรี้~ ”

“นี่แน่ะๆๆ จักจี้ๆ”

“อุหวา ตื่นๆๆ หนูจะตื่นแย้ว ฮ่าๆๆๆ เลิกจี้ อุฮิๆๆ เลิกจักอะอี้ หนูได้แว้วก้า !”

หลังจากอลิซหอบแฮ่กๆด้วยใบหน้าเหนื่อยหอบหลังจากสิ้นท่าจากการโจมตีด้วยนิ้วของฉัน ฉันก็กำชับอลิซอีกรอบนึง

“ห้ามเอาเรื่องที่แอบดูความฝันของพี่และลีโอไปเล่าให้คนอื่นฟังเด็ดขาดเลยนะ”

“งั้นถ้าพี่สาวไม่อยากให้คนอื่นรู้ความจริงก็ต้องอยู่กับหนูตลอดไป”

“แบบนั้นพี่สาวจะโกรธจริงๆนะ ห้ามทำเด็ดขาด ไม่งั้นพี่จะไม่แวะมาหาเราที่นี่อีกแล้วนะ”

“อึก !……เรื่องนั้น”

พอฉันมองเธอด้วยสายตากดดัน อลิซที่ทำสายตาล่อกแล่กไปมาก็ถอนหายใจแล้วยอมแพ้ในที่สุด

“หนูรู้ว่าพี่สาวไม่ทำแบบนั้นหรอก เพราะถ้าไม่มาที่นี่พี่ก็ไม่มีทางรู้ความเคลื่อนไหวของคนอื่นพอดี…หนูยังมีประโยชน์กับพี่อยู่ เพราะงั้นพี่สาวไม่มีทางทิ้งหนูไปหรอก”

“………………”

“แต่เข้าใจแล้วค่ะ…..ถ้าพี่สาวไม่อยากให้พูด หนูก็จะไม่พูดก็ได้ เข้าใจแล้ว—- อู้ๆๆๆ อำอะไออ่ะ ?”

ฉันเอามือขยำแก้มอลิซด้วยท่าทางอารมณ์เสีย ก่อนจะกล่าวตักเตือนเธอ

“ช่วยจำไว้อย่างนะ ต่อให้อลิซไม่มีความสามารถนี้  พี่ก็ไม่มีวันทิ้งเธออย่างแน่นอน พี่ไม่ใช่นักวิจัยพวกนั้นนะ น้อยๆหน่อยเถอะเรา”

อลิซสะดุ้งเล็กน้อยเหมือนพึ่งรู้สึกตัวว่าทำให้ฉันไม่พอใจจริงๆ

“ถ้างั้น….อยู่กับหนูที่นี่ตลอดไป…ไม่ได้หรอ ?”

“ไม่ได้จ้ะ….”

อลิซมองฉันอย่างเหงาหงอย ในขณะที่ฉันหันหลังให้แล้วค่อยเดินออกไปจากโลกแห่งนี้อีกครั้ง

“จะไปแล้วหรอ ?”

“อื้ม…ไว้พรุ่งนี้จะมาใหม่”

ร่างกายของฉันค่อยๆจางหายไป ภาพของโลกแห่งความฝันค่อยๆเลือนลางลงอย่างช้าๆ

ภาพของเด็กสาวที่ก้มหน้าทำหน้าเหงาหงอยทำให้ฉันรู้สึกปวดใจเล็กน้อย

“นี่อลิซ—”

“???”

“ซักวันหนึ่ง ฉัน….ไม่สิ—”

ฉันส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะเดินไปลูบหัวของอลิซเบาๆ

“ซักวันหนึ่ง จะมีคนมาพาเธอออกไปจากโลกใบนี้  เพราะงั้นจนกว่าจะถึงเวลานั้น ช่วยอดทนรออีกหน่อยน่ะ พี่สัญญาว่า เมื่อวันนั้นมาถึงเธอจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนกับตอนนี้อย่างแน่นอน”

.

.

.

.

.

.

สิ้นคำพูดนั้น เด็กสาวผมเทาก็เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของฝ่ามือที่ลูบหัวเธออยู่จนถึงเมื่อกี้

ทว่า เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมา ที่ตรงนั้นก็ไม่มีใครอยู่อีกแล้ว

“ฮึก !”

เด็กสาวปาดน้ำตา ใบหน้าเริ่มกลับมาชื้นแฉะอีกครั้ง

กึก !

ทว่า เมื่อเธอมองไปที่เท้าของตัวเองที่เหมือนจะสะดุดอะไรบางอย่าง อลิซก็พบกับตุ๊กตานุ่นขนาดเท่าฝ่ามือที่มีลักษณะเป็นเด็กผู้หญิงผมสีเงินและสวมมงกุฏสีฟ้าเอาไว้บนหัว

“………….”

อลิซปาดน้ำตาแล้วยิ้มแห้งอย่างอ่อนแรงพลางล้มตัวลงข้างตุ๊กตาตัวนั้น

จากนั้นเด็กสาวก็กอดตุ๊กตาแล้วหลับไปทั้งๆอย่างงั้น ภายในโลกแห่งความฝันที่ไม่ควรจะหลับซ้อนหลับได้อีก

อลิซยังคงหลับอยู่ในโลกแห่งความฝันแห่งนี้ แล้วรอคอยจนกว่าเพื่อนๆของเธอจะกลับมาประชุมกันอีกครั้ง เมื่อถึงเวลานั้น เธอถึงจะค่อยตื่นกลับมาอีกครั้งหนึ่ง

เด็กสาวผู้ติดอยู่ในโลกแห่งความฝันนี้ไม่อาจรู้ได้เลยว่าคำพูดลอยๆในวันนี้จะเกิดขึ้นอีกครั้งในอนาคตอันใกล้….ยามที่การเดินทางของเธอคนนั้นสิ้นสุดลง

 

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

 

อืม….. นี่ฉันนอนไปนานแค่ไหนกันนะ

พอลืมตาตื่นขึ้นมา ดูจากทิศทางของแสงอาทิตย์ที่รอดเข้ามาทางหน้าต่าง

นี่ก็น่าจะเลยเที่ยงไปแล้วล่ะมั้ง

“ฮ้าว….. ไอรินเป็นยังไงบ้างนะ”

“ตื่นแล้วหรอคะ พี่ริซ ?”

ฉันบิดขี้เกียจได้ไม่ทันไร เสียงอันน่ารักน่าเอ็นดูก็ต้อนรับการตื่นนอนของฉันอย่างรวดเร็ว

“ไอรินตื่นเร็วจัง ผิดคาดเหมือนกันนะ—”

กึก !

ฉันต้องมองเด็กสาวร่างเล็กที่ยืนอยู่ข้างเตียงฉันอีกรอบ

ขาเรียวเล็กถูกห่อหุ้มด้วยถุงน่องสีขาว

กระโปรงสีสะอาดเข้าคู่กับเสื้อและหมวกสีขาวตรากาชาดสีแดงฉูดฉาด

ร่างเล็กๆเรือนผมสีเงิน นัยน์ตาสีแดง เข้าคู่กับชุดพยาบาลตัวเล็กๆนี่ได้เป็นอย่างดี

อื้มๆ ไอรินในชุดพยาบาลล่ะ น่ารักจังเลย

“………………………”

“………………………”

“……………………….”

“………………………”

“คือ…คือว่า”

ไอรินบิดตัวไปมาด้วยความเขินอาย ในขณะที่ฉันจ้องมองเธอไม่วางตา

“อะแฮ่มๆ เป็นไงชุดที่ฉันเลือกให้เด็กคนนี้ สุดยอดดีใช่ไหมล่ะ ?”

ทันใดนั้นเอง จอมเวทย์สาวที่ชื่อว่าเมอลินก็เปิดประตูห้องเข้ามา

“หืม ? มีอะไรหรอ ?”

ฉันกวักมือเรียกเธอเข้ามา ก่อนจะควักเหรียญทองหนึ่งเหรียญใส่มือของเธอ

“ขอซื้อชุดนี้ต่อค่ะ”

“อะ อะ โอ้ว…นั่นนะคงต้องไปขอโยฮันนะ”

“เดี๋ยวสิค่ะ ! พูดอะไรของพี่กัน !? อย่ามาตัดสินใจซื้อชุดให้หนูเองเออเองสิ คิดว่าหนูจะใส่ให้พี่ดูทุกวันรึไง ?”

“ตายจริง ทั้งๆที่เมื่อกี้ตอนแต่งตัวยังกระตือรือร้นกว่านี้แท้ๆ”

“ฮึ่ม ! ”

พอโดนเมอรินแฉ ไอรินก็พุ่งเข้าไปต่อยใส่เมอลินที่หัวเราะโฮะๆรัวๆ ทว่า หมัดเล็กๆที่อ่อนแอกลับโดนหน้าอกมหึมาดีดการโจมตีสะท้อนกลับจนไอรินลงไปคุกเข่าที่พื้นด้วยความสิ้นหวัง

“ฆ่ามันๆๆ แบบนี้ต้องฆ่านังผู้หญิงนี่ด้วยเวทย์สลายสสาร”

“อย่าฆ่าปิดปากคนอื่นแบบนี่สิไอริน”

ฉันทุบสันมือลงบนหัวไอรินเบาๆจนเธอหลุดเสียงร้อง ‘อุเกี๊ยก~  ’ น่ารักออกมา

“จะว่าไปแล้ว” 

ฉันมองไอรินที่เอามือกุมหัว

ภาพของน้องสาวตัวน้อยคนนี้ซ้อนทับกับเด็กอีกคนหนึ่งที่ตัวเตี้ยกว่านิดหน่อย

“ถ้าเป็นไปได้ก็ขอซักสองชุดล่ะกันค่ะ”

“????”

เมอลิน และ ไอริน ได้แต่เอียงหัวด้วยความงุนงงเล็กน้อย

“เอาไว้สำรองหรอ ?”

“ขอบอกไว้ก่อนว่าครั้งหน้าหนูไม่ใส่แล้วนะ”

“ฮุๆ นั่นสินะ”

ฉันหัวเราะเบาๆ ในขณะที่ทั้งสองต่างทำหน้าไม่เข้าใจ

“กำลังคิดอะไรอยู่หรอคะ ?”

“ความลับจ้ะ”

ฉันพูดเช่นนั้นกับน้องสาวที่มองฉันด้วยสายตาเคลือบแคลง ก่อนจะดึงไอรินที่พยายามดิ้นหนีไปมาหอบแก้มฟอดใหญ่

 

— เรื่องราวของไอรินต่อจากนี้ไปจะไม่เหมือนกับในเกมอีกต่อไปแล้ว

 

ฉันรู้ดี และ ฉันมั่นใจว่า หลังจากการเดินทางนี้สิ้นสุดลง มันจะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เผลอแปบเดียว 20 กว่าตอนเเล้ว ขอบคุณที่อุตส่าห์กดเข้ามากันนะครับ

เกี่ยวกับตอนนี้อาจจะมีใครบางคนสงสัยก็ได้ว่าไอริซกับอลิซกำลังเก็บความลับเรื่องอะไรกัน ซึ่งถ้าอยากรู้ล่ะก็ ผมขอเเนะนำให้ลองอ่านเรื่องย่อใหม่ จากนั้นก็ลองตีความนัยยะที่จะสื่อในบทต้นตอนที่ 20 ดู จากนั้นย้อนกลับไปอ่านตอนที่ 1-3 ใหม่อีกรอบ เเล้วก็มาอ่านตอนที่ 4 ใหม่  ผมได้เฉลยข้อมูลคร่าวๆของเหตุการณ์นี้เอาไว้เกือบหมดเเล้ว ถ้าเกิดข้ามไปอ่านบทสนทนาของตัวร้าย(มีอยู่2ตอน)ที่เนื้อหาเยอะมากๆเเล้วเชื่อมโยงบทสนทนาของพวกเขา มันก็ได้เฉลยข้อสงสัยในตอนนี้เอาไว้เกือบหมดเเล้ว ว่า เรื่องในวันนี้ที่ทั้งคู่พูดหมายถึงอะไร

เเต่ถ้าไม่อยากสปอยตัวเอง ก็ขอเเนะนำว่าให้ตามต่อไปเรื่อยๆโดยไม่กดย้อนกลับไปดูล่ะกันครับ ทว่า ถ้าอยากรับบทเป็นโคนันเเละสนุกไปกับการตีความตอนจบของเรื่องนี้ล่ะก็ ขอเเนะนำเป็นอย่างยิ่งเลยครับ

เเล้วก็ถ้าตั้งใจอ่านย้อนอดีตของไอรินเเละสังเกตุบทสนทนาของพวกลูกบ้านดีๆ มันก็จะโยงกับเหตุการณ์ในวันนั้นที่พูดถึงในตอนนี้ได้อีกด้วย

อ่อ เเล้วก็ชื่อตอนน่ะ ผมไม่ได้ตั้งชื่อตอนเล่นๆในบางตอนหรอกนะครับ ลองดูสารบัญดีๆก็ได้ครับ 555

 

 

 

 

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด