พี่สาวนางร้าย ปักธงตายตั้งเเต่ตอนเเรก !? 22
หลังจากวันนั้นที่หนูเผลอผลับไป หนูก็ตื่นขึ้นมาอีกทีในเช้าวันรุ่งขึ้น
ข้างเตียงของหนูมีพี่ริซที่นอนหลับอย่างสงบอยู่
“ฟรี้………”
เสียงหอบหายใจที่เป็นจังหวะเฉกเช่นหน้าอกที่ยุบพองอย่างช้าๆ
ใบหน้าที่ใสกระจ่าง ขนตาที่ยาวสลวย ซ้ำยังเส้นผมที่นุ่มลื่น และกลิ่นหอมของดอกกุหลายที่ขนาดนั่งอยู่ห่างๆก็ยังได้กลิ่น
หนูมุดขึ้นเตียงของพี่ริซและจับจองใบหน้ายามหลับของพี่ริซไว้แต่เพียงผู้เดียว
นานแค่ไหนแล้วนะ ที่ไม่ได้เห็นพี่ริซอยู่ในสภาพนี้
พี่ริซมักจะตื่นก่อนหนู และ นอนหลับหลังหนูเสมอ
นานๆครั้งถึงจะได้เห็นใบหน้ายามหลับของพี่ริซ
“พี่ค่ะ……”
นี่ก็เช้าแล้ว ได้เวลาตื่นได้แล้วนะ
รู้สึกกลับมากระปี้กระเป่าเพราะนอนมาตั้งนาน ไข้ที่ลุมๆอยู่ก็หายไปแล้วเรียบร้อย เรียกได้ว่าฟื้นคืนพลังกายกลับมา 100 % แถมยังจำเรื่องเมื่อวานได้เกือบทั้งหมด
“อื้อออ”
นี่เราทำบ้าอะไรของเราลงไปกัน ?
ทำไมถึงมองตาลุงแก่ๆนั่นเป็นพี่ริซไปซ่ะได้ ?
แถมยังล้างสมองตาลุงที่ไหนก็ไม่รู้ให้คิดว่าเป็นน้องสาวของพี่ริซอีก !
คิดบ้าอะไรของเราเนี่ย !?
ในโลกนี้น้องสาวของพี่ริซน่ะมีแค่เราคนเดียวเท่านั้น ไม่มีที่ว่างให้คนอื่นหรอก
ถ้ามีคนมาพยายามแอบอ้างตำแหน่งของเรา เราก็จะทำให้มันกลายเป็นปุ๋ยไปซ่ะให้หมด
“งือ…พี่ริซ…พี่ริซของหนู”
เพราะตอนนี้หลับอยู่ ก็เลยปล่อยตัวได้เต็มที่ แต่ต้องไม่ส่งเสียงดังเดี๋ยวพี่ริซจะตื่น
“อุมุ….”
ฟุบ !
เอาหน้าถูไปกับหน้าอกที่นุ่มนิ่มของพี่ริซ กลิ่นหอมและสัมผัสนุ่มนิ่มราวกับหมอนนิ่มๆ…ฮุๆๆ ฮุๆๆๆ เป็นของหนู ช่วงเวลาที่ไร้ป้องกันนี่ หนูจะทำอะไรกับพี่ริซก็ได้
“อื้อ…พี่ริซ พี่ริซ”
รู้สึกหัวใจเต้นตึกตัก ใบหน้าร้อนผ่าว
ใครกันหนอที่มีจิตใจดีงาม และ งดงามเช่นนี้
ใครกันที่ช่างอบอุ่น และ สมบูรณ์แบบได้มากถึงเพียงนี้
ใครกันที่เป็นพี่สาวที่ทั้งใจดีและก็น่ารัก
อ่า….ใช่แล้ว คนๆนั้นคือพี่ริซของหนู พี่สาวที่หนูรักที่สุดในโลกยังไงล่ะ ไม่มีพี่สาวคนไหนในโลกที่ดีมากไปกว่าพี่ริซของหนูอีกแล้ว
“งืออออ”
อยากจะแช่แข็งช่วงเวลาที่หนูครอบครองพี่ริซเอาไว้แบบนี้ตลอดไปจัง
พอเงยหน้าขึ้นมอง เลยปลายคางออกไป ก็พบกับริมฝีปากชีชมพูนวลน้ำที่ชวนให้รู้สึกวาบหวิวอย่างน่าประหลาด
“……………………”
พอนึกว่าพี่ริซที่หนูรักจะจูบกับใครซักคนที่เธอรักในอนาคต หนูก็รู้สึกอิจฉาคนๆนั้นขึ้นมา
ซักวันหนึ่ง พี่ริซอาจจะตกหลุมรักกับใครซักคนแล้วแต่งงานกับคนๆนั้น จากนั้นก็จูบด้วยริมฝีปากอันแสนบริสุทธิ์คู่นั้น
แบบนี้ยอมรับไม่ได้ เราต้องเป็นที่หนึ่งของพี่ริซ เรื่องแบบนั้นไม่มีทางยอมรับเป็นอันขาด
ถึงจะรู้ดีว่าเป็นเรื่องต้องห้าม และ ถ้าโดนรู้เข้าคงโกรธแน่ๆ แต่ของสำคัญของพี่ริซหนูไม่ยอมยกให้ใครเป็นอันขาด
ดังนั้นต้องแย่งชิงมันมาก่อน
“พี่ริซ…แฮ่ก…พี่ริซของหนู”
วางปลายนิ้วลงบนริมฝีปากของเธอ สัมผัสได้ถึงความนุ่มนิ่มและเต่งตึง
ถ้าเราแย่งชิงมาก่อนที่พี่ริซจะมอบให้ใคร เราก็จะกลายเป็นคนแรกของพี่ริซอย่างไม่ต้องสงสัย
แม้จะไม่เข้าใจว่าจูบนั้นสำคัญไฉน แต่ยังไงถ้ามันเป็นสิ่งที่สื่อถึงความรัก งั้นสิ่งนั้นก็ควรจะมอบให้กับหนูเป็นคนแรก หาใช่ใครอื่น
“……………”
ลูบริมฝีปากของพี่ริซอย่างช้าๆ ก่อนจะเอาปลายนิ้วที่สัมผัสริมฝีปากของเธอมาสัมผัสริมฝีปากของหนู
ท่ามกลางหัวใจที่เต้นระรัวจนแทบจะทะลุออกจากอก หนูเมินเฉยอุณหภูมิที่พุ่งสูงถึงขีดสุด แล้ว เขยิบหน้าเข้าไปใกล้ริมฝีปากของพี่ริซอย่างช้าๆ
อีกนิดเดียว ….แค่อีกนิดเดียว
ถึงไม่เข้าใจว่าจูบคืออะไร แต่ถ้าได้จูบกับพี่ริซที่หนูรัก หนูต้องเข้าใจแน่ๆว่ามันสำคัญมากแค่ไหน และนั่นก็จะหมายความว่าหนูได้จูบแรกของพี่ริซไปด้วยยังไงล่ะ !
“อะแฮ่มๆ”
“— !!!”
ทว่า ก่อนที่ริมฝีปากของเราสัมผัสกัน เสียงกระแอมไอก็ดังขึ้นที่ตรงประตูของห้องพยาบาล
“ขอโทษที่ขัดจังหวะนะ ทำแบบนี้ตอนที่พี่สาวของเธอหลับจะดีหรอ ? ถึงพอมารู้ที่หลังแล้วเจ้าตัวจะไม่โกรธ แต่ว่า จูบแรกน่ะมันต้องเร่าร้อนกว่านี้นะ แบบนี้ไม่ผ่านหรอกเน้อ~ ”
“ใครกันนะ !?”
เมื่อมองไปที่ประตู หนูก็พบกับหญิงสาวในชุดคลุมตัวยาวผู้สวมฮู้ดขาวปิดใบหน้า เป็นน้ำเสียงที่ดูยั่วยวน และ มีรูปร่างทรวดทรงโค้งเว้าที่ดูอันตราย แม้จะสวมผ้าคลุมมิดชิดทั่วร่างก็ตาม
แค่ได้เจอกันครั้งแรกก็รู้สึกได้เลยว่าผู้หญิงคนนี้น่าจะไม่ใช่คนธรรมดาๆ
ฉันรีบดึงพี่ริซเข้ามากอดแล้วจ้องตาเขียวใส่ผู้หญิงคนนั้นด้วยความระแวง
ในใจตั้งสมาธิเตรียมร่ายเวทย์สลายสสารใส่ทุกเมื่อ
“ใจเย็นก่อนๆ ยินดีที่ได้รู้จักนะไอรินจัง ฉันของชื่อเมอลิน เป็นเพื่อนสนิทของพี่สาวของเธอยังไงล่ะจ้ะ”
“ไม่จริง โกหกเห็นๆ พี่ริซไม่มีทางเป็นเพื่อนกับคนที่ไม่น่าไว้ใจแบบนี้ได้หรอก”
“อะไรกัน….ถ้าไม่เชื่อล่ะก็ ไว้พี่สาวของเธอตื่น ลองถามดูก็ได้นะ”
“………………”
“แต่ถ้าเธอทำอะไรฉัน แล้วไอริซจังมารู้ตอนตื่นเข้า เดี๋ยวก็โดนโกรธเอาอีกหรอก”
“นี่แก ? จะขู่กันอย่างงั้นหรอ ?”
“ฮุๆ…ไม่ได้ขู่ซักหน่อย”
“…………………..”
“…………………..”
“…………………..”
“…………………….”
จี่……………
เราสองคนจ้องหน้ากันไม่วางตา เกิดภาพหลอนราวกับมีประกายไฟเกิดขึ้นมาระหว่างดวงตาของเราทั้งคู่
เราจ้องหน้าผู้หญิงคนนี้พลางคิดอย่างถี่ถ้วนว่าควรจะปลุกพี่ริซก่อนเลยดีกว่า
แต่แล้ว—
จ้อก ~
“อ๊ะ !”
เราลูบท้องตัวเองที่ส่งเสียงร้องออกมา จะว่าไปยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เมื่อวานนี่นา
“จังหวะนี้แหล่ะ !”
ฟุบ !
“—- !!!”
พริบตาที่เรามองท้องของตัวเอง เหตุการณ์ทุกอย่างก็เกิดขึ้นเร็วมาก !
ชิ ! ไม่น่าประมาทเลย
ในตอนที่เงยหน้ากลับขั้นมา ผู้หญิงคนนั้นก็โผล่เข้ามาในระยะกระชั้นชิดจนจมูกแทบจะชนกัน
ไม่ทันแล้ว ! ร่ายเวทย์สลายสสารไม่ทัน !?
หนอย ! แต่อย่างน้อยต้องเอาตัวบังพี่ริซเอาไว้ แล้วใช้ช่องว่างตอนที่รับการโจมตีสวนกลับใส่อีกฝ่าย
“อ้ามมมม”
ทว่า การโจมตีที่ได้รับกลับเป็นเสียงแปลกๆของผู้หญิงคนนั้นแล้วก็อะไรบางอย่างที่ถูกยัดเข้าปาก
“อุก !”
อะไรกัน !?
รสชาติที่หวานนุ่มละลายในปากนี่ !?
ความกลมกล่อมราวกับนมวัวที่สาดกระจายไปทั่วปากแล้วหมุนควงไปทั่วลำคอ โดยที่มีรสชาติขมจางๆปลุกจิตสำนึกให้หลุดจากความหวานของน้ำตาลที่ประปรายไปทั่วลิ้น
ทุกครั้งที่กัดลงไปก็จะสัมผัสได้ถึงความนิ่มยวบยาบที่มากยิ่งขึ้น แถมยิ่งเวลาผ่านไปความหวานที่ค่อยๆแผ่กระจายไปทั่วปากก็จะทำให้ขนกายลุกซู่ซ่า
“อึก !”
อะไรกัน ?
ควบคุมใบหน้าตัวเองไม่ได้
ริมฝีปากของเรามันขยับไปเองโดนอัติโนมัติ !?
“อะ..อะ…”
กระทั่งเสียงของเราก็ยังถูกแย่งชิงการควบคุมไป
รู้สึกร่างกายชุ่มฉ่ำราวกับว่าถูกโยนลงไปในอ่างน้ำที่เต็มไปด้วยน้ำนมอุ่นๆไม่มีผิด
นี่มัน….ไม่จริงใช่ไหม ?
การโจมตีของเธอคนนี้ มันช่าง
“อาย่อย !!!”
อ้าาาา
หุบยิ้มไม่ได้เลย หวานๆๆๆๆ อร่อยๆๆ ทนไม่ไหวแล้วอ่า
อะไรกัน ! นี่ขนาดพยายามบีบแก้มตัวเองไม่ให้เผลอยิ้มแล้วน่ะเนี่ย สุดท้ายก็ยังเผลอหลุดยิ้มออกมา แถมยังส่งเสียงแปลกๆออกมาอีก
อร่อยๆๆๆ เจ้านี่มันอะไรกัน ไม่เคยกินของที่อร่อยขนาดนี้มาก่อนเลย
“เจ็บใจ….อร่อย…อยากกินอีก…อ่า ไม่ใช่อย่างงั้นสิ…แต่อร่อย….ไม่เคยเจออะไรที่หวานนุ่มชุ่มลิ้นขนาดนี้มาก่อน เจ็บใจๆๆ เจ็บใจที่สุด ทำไมถึงหุบยิ้มไว้ไม่ได้กันน่ะ…ฮึก….อะไรกันน้ำตานี่ ! นี่มันเวทมนต์ชนิดไหนกันเนี่ย ?”
“เดี๋ยวนะ ? นี่ฉันแค่ให้เธอกินช็อกโกแล็ตธรรมดาๆเองนะ จะร้องไห้ทำไมเนี่ย ?”
“ฮึก ! เจ้านี่ชื่อช็อกโกแลตอย่างงั้นหรอ ? หวานจัง อร่อยจัง….ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีของอร่อยแบบนี้อยู่ในโลกด้วย”
“หา !? เว่อไปแล้ว…ไม่สิ ? นี่เธอไปอยู่แถวไหนมาถึงไม่เคยกินช็อคโกแลตมาก่อนได้ล่ะเนี่ย ?….อ่า จริงสิ จะว่าไปสำหรับพวกชนชั้นล่างอย่างพวกเธอ คงไม่มีประสบการณ์อะไรแบบนี้สินะ”
จะว่างั้นก็ใช่…สำหรับพวกเราที่อยู่ชนบท ของหวานที่รู้จักมีเพียงแค่ผลไม้เท่านั้น
เจ้าสิ่งที่เรียกว่าขนมหวานน่ะ ถ้าไม่ใช่คนที่มีฐานะปานกลางขึ้นไป ไม่มีทางมีสิทธิได้กินหรอก
ก็ของหวานน่ะแพงจะตาย
แต่จะว่าก็ว่าเถอะ ถ้าต้องตายเพื่อได้กินขนมหวาน เราก็คิดว่าชีวิตนี้ไม่มีอะไรให้เสียดายอีกแล้วล่ะ
‘ไอริน อย่าโดนล่อซื้อนะ !’
‘แค่ขนมหวานเอง จะใจง่ายแบบนั้นไม่ได้นะ’
‘ไอรินน่าสงสาร’
‘อื้มๆ ฉันเข้าใจ ครั้งแรกที่สัมผัสลิ้น มันเหมือนกับได้ขึ้นสวรรค์เลยล่ะ’
ระหว่างที่เรากำลังรู้สึกมีความสุขราวกับขึ้นสวรรค์ เหมือนพวกลูกบ้านจะบ่นอะไรบางอย่าง แต่เราไม่มีเวลาไปสนใจ
“ฮุๆ มีเพิ่มอีกเยอะเลยนะ ลองชิ้นนี้ดูสิ เป็นช็อกโกแลตสอดไส้ซีส”
“ซีส !? มันคืออะไรอ่ะ ?”
“ลองชิมดูสิ !”
‘อย่าไปหลงกลนังผู้หญิงนั่นนะ ไอริน !?’
‘เอาด้วย ! เราก็อยากลองเหมือนกัน ! กินเลยๆ ถ้าไอรินกิน เราก็จะได้ชิมด้วย’
‘เฮ้ย ! แกจะช่วยไอรินแน่รึเปล่าเนี่ย ?’
‘เอาด้วยๆๆ’
‘กินไปเลยไอรินจ้างงงงงงงงง’
‘ไอ้พวกบ้า ! หยุดนะโว้ยยยยยยย ความตั้งใจที่จะล้างบางพวกมนุษย์มันหายไปไหนหมดแล้ว ! หยุดก่อน ! อย่าไปฟังพวกมันไอริน ! หยุดนะ ! อย่ากินมันเข้าไป !!! ไม่น๊าาาาาาาาาาาาา’
ง่ำ !
ช่างหัวเสียงโหวกเหวกในหัวแล้วกัดมันเข้าไปทั้งๆอย่างงั้น
ตอนแรกแข็ง แต่พอฟันผ่านไปได้อีกไม่กี่มิลก็มีความหวานปะทุออกมาแล้วกัดต่อไปไม่ได้ยาก
ความแข็งและความนิ่มที่ห่อหุ้มความลื่นไหลอยู่ข้างใน รสชาติขมอ่อนและหวานเข้มที่สอดประสานกันและกันราวกับโลกใบนี้ที่มีความแข็งแกร่งคอยโอบกอดความอ่อนโยนอยู่ข้างใน
เจ้าสิ่งนี้คือของหวานที่อัดแน่นด้วยปรัชญาบางอย่างที่ยากจะเอ่ยออกมาเป็นคำพูด
ช็อกโกแลตที่ห่อหุ้มซีสที่ยืดออกมา ประหนึ่ง เปลือกโลกที่ห่อหุ้มด้วยลาวา
ทันทีที่กัดเข้าไปลึกๆจนเปลือกโลกแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ลาวาที่ทะลักออกมาก็นำพามาซึ่งการทำลายและสรรค์สร้างสิ่งใหม่ๆ ทว่า ซีสหรือก็คือลาวาที่ยืดและหวานหอม มันราวกับจะเตือนให้รู้ว่าแม้การทำลายจะยิ่งใหญ่มากเพียงใด แต่สายสัมพันธ์ของคนเราก็จะไม่มีวันขาดออกจากกัน ประหนึ่ง ซีสที่ยืดออกไปได้ไกลแสนไกล แม้จะเอาฟันกัดมันจนขาด แต่มันก็ยังเหนียวติดฟันและค่อยๆเสริมความหวานขึ้นเรื่อยๆ
“อ่า……..นี่มัน…ไม่ใช่แค่ขนมแล้ว”
นี่สินะ…สิ่งที่พี่ริซอยากจะบอกเรามาโดยตลอด
ความงดงามของโลกใบนี้
สิ่งสวยงามที่พี่ริซอยากแสดงให้เราเห็นมาโดยตลอด
มันคือ ช็อกโกแลตพวกนี้นี่เอง !!!
“เอาอีกไหม ทางนี้มีเยอะเลย”
“อื้ม ! เอาอีก ! ขอบคุณค่า !”
“อ๊ะ ! ”
แม้อีกฝ่ายจะประหลาดใจที่เราเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่ท่าทางเสียมารยาทนั่น มันช่างเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ แก่นแท้ของสัจธรรมชีวิตที่อีกฝ่ายยื่นให้กับตัวเรา
ผู้หญิงคนนี้จริงๆแล้วอาจจะไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นก็ได้ ถึงจะดูไม่น่าไว้ใจก็ตามเถอะ
ถ้าเราฆ่าล้างพวกมนุษย์ไปจนหมด เราคงไม่มีของหวานแบบนี้ให้กินแน่ๆเลย
เพราะได้ลิ้มลองพวกมัน เราถึงได้รู้ว่า บางที่มุมมองเราอาจจะคับแคบไปบ้างก็ได้
เราต้องรู้ว่าอะไรควรทำลาย และ อะไรไม่ควรทำลาย
พวกมนุษย์ควรหายๆไปให้หมด แต่ถ้าไม่มีมนุษย์แล้วใครกันเล่าจะผลิตช็อกโกแลต
ถ้าเราฆ่าล้างพวกมันไปก่อนจะได้สูตรขนมมา มันคงจะน่าสงสารสำหรับช็อกโกแลตพวกนี้น่าดู
เพราะงั้นเราตัดสินใจได้แล้ว
“อื้ม ! ไว้รู้สูตรทำขนมพวกนี้ครบ ก็ค่อยทำตามแผนทีหลังก็ไม่สาย~”
“หมายถึง ?”
“ เมอลินเป็นเพื่อนของพี่ริซสินะ !!!”
“อะ…ก็ ชะ ใช่ ! ใช่แล้วจ้า~”
“เข้าใจแล้ว หลังจากนี้ก็จงมาเป็นแม่ครัวทำขนมส่วนตัวของเราซ่ะ แล้วเราจะไว้ชีวิตเธอและครอบครัวของเธอให้”
“ ??? …..[เด็กคนนี้พูดอะไรอ่ะ ตามน้ำไปดีไหมเนี่ย ?]”
“ตกลงนะ !”
“อะ…อื้ม ! [อ๊ะ ! กินจนปากเปื้อนแล้ว น่ารักจังเลย เอาเป็นว่าเออออไปก่อนล่ะกัน]”
หลังจากนั้นเราก็กินช็อกดกแลตจนอิ่มแปล้ เสร็จแล้วก็ไปเปลี่ยนชุดที่อีกฝ่ายเตรียมเอาไว้ให้
แม้ชุดที่ยื่นให้จะดูใส่ยากและน่าอายนิดหน่อยเพราะโปรงสั้น แต่เมอลินที่เป็นเพื่อนสนิทของพี่ริซบอกว่าพี่ริซจะชอบ เราก็เลยลองเชื่อใจเธอที่เป็นคนสอนให้เรารู้จักกับหนึ่งในความสวยงามของโลกใบนี้ดู
พี่ริซในวันนี้ก็ตื่นสายกว่าที่คิดจนรู้สึกเป็นห่วง แต่พอตื่นขึ้นมาแล้วเจอหนูในชุดนางพยาบาล พี่ริซก็กรี๊ดกร๊าดดีใจยกใหญ่จนทำให้หนูรู้สึกว่าไม่เสียแรงที่ลองใส่ถุงน่องเป็นครั้งแรก
‘จอมมารของเรา….โดนล่อซื้อซ่ะแล้ว’
‘อ่า….ห่างไกลจากเป้าหมายไปเยอะเลยนี่หว่า’
‘ช็อกโกแลต..อร่อยจัง’
‘นี่แกก็โดนล่อซื้อไปกับเขาด้วยหรอเนี่ย !?’
นี่ก็เป็นอีกวันที่ช่างสดใส แม้แต่พวกลูกบ้านในหัวก็ยังคงส่งเสียงเจี้ยวจ้าวอย่างสนุกสนานเหมือนทุกครั้ง
อ่า….ต้องเป็นประสงค์ของช็อกโกแลตไม่ผิดแน่ ไว้ล้างโลกใบนี้เสร็จแล้วมาสร้างศาสนาช็อกโกแลตกันดีกว่า
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
ไอริซ : เมอลิน….นี่เธอแอบล้างสมองน้องสาวของฉันอยู่สินะ
เมอลิน : หา ! ฉันแค่ให้ช็อกโกแลตธรรมดาจริงๆนะ สาบานได้เลย !
หมอโยฮัน : ……
เมอลิน : เดี๋ยวสิ ! ทำไมคุณมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นล่ะ !? จริงๆนะ ฉันไม่ได้ทำจริงๆ !!!
ไอริน : พี่ริซค่ะ ! ไว้ซักวันหนึ่งเรามาสร้างจักวรรดิช็อกโกแลตกันเถอะค่ะ !!!
ไอริซ : ………
หมอโยฮัน : ……
เมอลิน : เด็กคนนี้คงมีไข้อยู่แหล่ะ ฮ่าๆๆ ก็บอกว่าไม่ได้ทำอะไรเลยยังไงยะ !!!
แน่นอนว่าหลังจากนั้น หมอโยฮันก็ต้องเสียเวลายกใหญ่เพื่อตรวจหาเวทมนต์ตกค้างในร่างของไอรินและขนมที่เมอลินมอบให้เด็กสาว
ผลลัพธ์ของการตรวจสอบในครั้งนั้น มันทำให้เมอลินความแตกเรื่องที่แอบใส่ยาสเน่ห์ลงไปในช็อกโกแลตที่มักจะวางไว้ให้คุณหมอกินยามเหนื่อย ซึ่งเรื่องราวต่อจากนั้นก็หาได้สำคัญกับเรื่องหลักแต่อย่างใด จึงขอล่ะไว้ในฐานที่เข้าใจล่ะกันเนอะ ~ ♪
Comments