ระบบเจ้าสำนัก 492 : กลุ่มผู้เยาว์อัจฉริยะ

Now you are reading ระบบเจ้าสำนัก Chapter 492 : กลุ่มผู้เยาว์อัจฉริยะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่  492 : กลุ่มผู้เยาว์อัจฉริยะ

ผู้กลายพันธุ์ทั้งหมดต่างก็ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว  ชัดแล้วว่ามีแค่อ้าวอู่ซูที่ใจเย็นอยู่ได้ ตอนนั้นหากใครกล้าที่จะปฏิเสธ มันก็มีแค่อย่างเดียวที่รอพวกเขาอยู่ซึ่งก็คือความตาย !

 

ดังนั้นต่อให้ถูกด่าว่าเป็นขยะ ก็ไม่มีใครกล้าเถียงอ้าวอู่ซู

 

โชคดีที่อ้าวอู่ซูแม้ว่าจะอึดอัดใจ แต่เขาก็รู้จักคนของเขาดี เฉินกูแข็งแกร่งเกินไป ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกนี้ไม่อาจจะหยุดเฉินกูได้

 

เขาระบายความอึดอัดออกมาแค่เพียงเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะใจเย็นลงได้ เขายกมือขึ้นและพูดต่อ  “ เอาล่ะ ไปทำสิ่งที่พวกเจ้าควรจะทำ อย่ามัวมาอยู่ที่นี่ต่อ ”

 

ชัดแล้วว่าเขาไม่คิดจะหวังพึ่งอินทรีย์เทา,ทลายบูรพาและพวกกลายพันธุ์คนอื่นๆ ในการไล่ตามเฉินกูไปเพราะมันไม่อาจจะเป็นไปได้

 

“ รองผู้นำ…”  อินทรีย์เทาพูดขึ้นมา

 

“ หุบปาก  ! ” อ้าวอู่ซูฮึดฮัดออกมา

 

ตอนนั้นอินทรีย์เทาไม่กล้าจะพูดอะไรอีกต่อไป เขามองไปยังผู้กลายพันธุ์คนอื่นๆก่อนจะรีบบินออกไปทันที

 

อ้าวอู่ซูมองไปยังทางที่เฉินกูหนีไปก่อนจะพึมพำเล็กน้อยและหันกลับ

 

ประมาณสิบอึดใจ อ้าวอู่ซูก็ปรากฏตัวที่ยอดเขาหิมะอีกครั้ง

 

ที่บนยอดเขานั้น หิมะยังคงตกลงมา  บนยอดเขาปกคลุมไปด้วยหิมะหนา มันไม่มีมนุษย์, สัตว์อสูรหรือแม้แต่ต้นไม้เลยที่รอด ที่นี่ราวกับพื้นที่หวงห้าม

 

อ้าวอู่ซูยืนอยู่บนยอดเขามองไปยังเขตกลาง สายตาเขาเต็มไปด้วยความโลภและคาดหวัง  “ เขตกลาง ราชาสัตว์อสูร…รออีกหน่อยเถอะ ข้าจะเปลี่ยนแปลงพันธมิตรกลายพันธุ์ในอีกไม่ช้า ทวีปป่าต้องตกเป็นของเรา  แม้ว่าราชาสัตว์อสูรจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่ก็ไม่อาจจะหลีกหนีจากเงื้อมมือพันธมิตรกลายพันธุ์ไปได้ ”

 

แม้ว่าเขาจะได้เห็นความแข็งแกร่งของเฉินกูไปแล้ว แต่อ้าวอู่ซูก็มั่นใจในพันธมิตรกลายพันธุ์ของเขา

 

ยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุดแข็งแกร่งก็จริง แต่ใช่ว่าจะไร้เทียมทาน พันธมิตรกลายพันธุ์ตอนนี้ไม่ได้ขาดยอดฝีมือระดับสูงสุด หากให้เวลาพวกเขาอีกสักพัก พวกเขาก็สามารถสร้างยอดฝีมือระดับสูงสุดได้มากกว่าเดิม และถึงกับสร้างกองทัพยอดฝีมือระดับสูงสุดขึ้นมาได้ เขาอยากดูว่าเมื่อเผชิญหน้ากับกองทัพยอดฝีมือระดับสูงสุด เฉินกูจะรับมือยังไง

 

“ ตอนนี้คงต้องรออีกสักหน่อย ” อ้าวอู่ซูฮึดฮัดออกมา  “ ตอนที่พันธมิตรกลายพันธุ์ปกครองที่นี่ได้ ทวีปป่าแห่งนี้จะเปลี่ยนไป ! ”

 

เวลาผ่านไปช้าๆ อ้าวอู่ซูยืนนิ่งราวกับรูปปั้นหิน เขามองไปที่เขตกลางโดยไม่ไหวติงเลยแม้แต่น้อย

 

ไม่รู้ว่านานแค่ไหน ก่อนที่มิติรอบตัวของอ้าวอู่ซูจะเกิดการผันผวน ก่อนจะมีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมา

 

ผู้กลายพันธุ์ที่เป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นต่ำ ที่อ้าวอู่ซูส่งไปยังสำนักงานงานได้ปรากฏตัวขึ้นข้างๆเขา ผู้กลายพันธุ์รีบก้มหน้าด้วยความเคารพ  “ รองผู้นำ ร่างของภูผาได้ถูกส่งกลับไปที่สำนักงานงานแล้ว ”

 

อ้าวอู่ซูมองไปที่อีกฝ่าย และพบว่าอีกฝ่ายลังเลไม่คิดจะออกไปจากที่นั่นทันที

 

“ มีอะไรอีก ? ” อ้าวอู่ซูคิ้วขมวด

 

“ รองผู้นำ ตอนที่ข้าเดินทางไปที่นั่น ผู้นำได้ฝากคำพูดมากับข้าสองประโยค ”  ผู้กลายพันธุ์ก้มหน้าด้วยความลังเล  “ ผู้นำบอกว่าการทดสอบผู้กลายพันธุ์ชุดล่าสุดนั้น ตอนนี้ผลลัพธ์ออกมาแล้ว ครั้งนี้มันเหมือนจะมียอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุดกำเนิดขึ้นมา…”

 

สีหน้าเขาดูซับซ้อนขึ้นมาเล็กน้อย

 

ยาพลิกชีวิตแบบใหม่ ทำให้คนกลายเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงได้ บางคนอยู่ขั้นกลางและมีบางคนขึ้นไปยังขั้นสูงสุดได้ แต่เขากลับเป็นได้แค่ยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นต่ำ ความยุติธรรมอยู่ที่ไหนกัน ?

 

อ้าวอู่ซูแสดงสีหน้าแปลกใจออกมา  “ยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุดรึ ? เจ้ามั่นใจหรือว่าเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุด ? ”

 

ความแข็งแกร่งของยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุดนั้น อ้าวอู่ซูได้เห็นมากับตาตัวเองแล้ว เขารู้ดีว่ายอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุดน่ากลัวแค่ไหน เขายังคิดถึงวิธีจัดการกับเฉินกูอยู่เพื่อผลิตยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุดขึ้นมา แต่ไม่คิดว่าสำนักงานใหญ่จะมอบความแปลกใจครั้งใหญ่ให้กับเขา

 

มันไม่เกินไปที่จะบอกว่าเมื่อพวกเขามียอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุด พันธมิตรกลายพันธุ์ก็ไม่ต้องหลบซ่อนจากมนุษย์และสัตว์อสูรอีกต่อไป พวกเขาสามารถทำการโจมตีได้เต็มกำลัง แม้ว่าจะไม่อาจยึดครองทวีปป่าได้ในเวลาอันสั้น แต่สุดท้ายพวกเขาก็จะสามารถทำลายทั้งมนุษย์และสัตว์อสูรลงได้ !

 

ลองคิดภาพดู การที่มียอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุด 1 คน, ขั้นสูง 3 คน, ขั้นกลาง 8 คนและขั้นต่ำอีกจำนวนมาก ลองคิดดูว่าจะมีใครต้านทานได้บ้าง ?

 

ผู้กลายพันธุ์พยักหน้าตอบรับ  “ผู้นำบอกว่าครั้งนี้โอกาสที่จะสำเร็จอยู่ที่ 8 ใน 10  นอกจากยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุดแล้ว มันก็มียอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงอยู่หลายคน…”

 

อ้าวอู่ซูดวงตาเป็นประกายขึ้นมา  “ หือ ? ยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงกี่คนกัน ?”

 

ผลก็คือเพื่อจะยึดครองทวีปป่าแห่งนี้, เพื่อที่จะทำลายมนุษย์และสัตว์อสูรอ้าวอู่ซูจึงมั่นใจมากกว่าเดิม !

 

“ ใช้เวลานานแค่ไหนกัน ? ” อ้าวอู่ซูแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา ?

 

“ ยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุดจะกำเนิดขึ้นมาใน 3 วัน และยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงที่เหลือคงไม่เกิน 5 วัน ” ผู้กลายพันธุ์ตอบกลับ

 

“ ไม่เลว ” อ้าวอู่ซูเผยรอยยิ้มออกมา นี่ถือว่าเป็นข่าวดี  “ เฉินลู่ลู่กับอาจารย์นางไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ ! ” อ้าวอู่ซูเงียบไปชั่วครู่และพูดต่อ  “ ใช่สิ เจ้าบอกว่าผู้นำได้ฝากคำพูดมากับเจ้าสองเรื่อง นอกจากเรื่องนี้แล้วมีอะไรอีกรึ ?”

 

ผู้กลายพันธุ์พึมพำออกมา  “ ผู้นำบอกว่าสำนักงานใหญ่ยังต้องการอัจฉริยะ หรือก็คือผู้เยาว์อัจฉริยะที่โดดเด่น บอกว่าหากได้คนแบบนั้นมาเป็นพื้นฐานแล้ว ก็มั่นใจได้มากกว่าเดิมว่าจะสร้างยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงสุดได้ ดังนั้นผู้นำจึงหวังว่าท่านจะหากลุ่มอัจฉริยะเหล่านั้นมา เพื่อนำมาทดสอบ….”

 

เมื่อได้ยินแบบนั้น อ้าวอู่ซูก็คิ้วขมวด  “ กลุ่มผู้เยาว์อัจฉริยะรึ ?”

 

เขาถึงกับกุมขมับ  “ อัจฉริยะที่เราหามาก่อนหน้านี้ถูกใช้ไปหมดแล้วรึ ? ”

 

แม้ว่าในทางทฤษฎีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์แบบไหนเมื่อกินยาพลิกชีวิตแบบบใหม่เข้าไป พวกเขาก็มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดได้ แต่ผลลัพธ์ในการทดสอบได้แสดงให้เห็นว่ายิ่งพรสวรรค์สูงส่งเท่าไหร่ รวมไปถึงที่อายุน้อยเท่าไหร่นั้น ก็ยิ่งแสดงผลของยาได้มากขึ้นเท่านั้น

 

ทลายบูรพา,หมึกเพชรฆาต,ภูผาทุกคนต่างก็เป็นพวกที่มีพรสวรรค์ ดังนั้นพวกเขาจึงกลายเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงได้ พวกยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นต่ำคนที่เหลือนั้น มีพรสวรรค์สูงกว่าคนทั่วไปก็เท่านั้น คนเดียวที่ได้รับการยกเว้นคืออินทรีย์เทา กล่าวได้ว่าอินทรีย์เทานั้นคือคนที่โชคดี เขาไม่ได้มีพรสวรรค์ที่ดีนักแต่กลับก้าวขึ้นมาเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นสูงได้ราวกับว่าได้รับพรจากพระเจ้า

 

เพราะแบบนี้ ทลายบูรพา,หมึกเพชฌฆาตและคนอื่นๆ จึงไม่พอใจในตัวอินทรีย์เทาเท่าไหร่นัก อินทรีย์เทารู้ตัวมาเสมอ เขาไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนอื่นๆและเอาแต่ประจบอ้าวอู่ซู ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รับผลกระทบจากคนอื่นมากเท่าไหร่

 

“ แต่…อัจฉริยะที่คล้ายกับทลายบูรพาและหมึกเพชรฆาตนั้น จะมีมากเท่าไหร่ในโลกนี้ ?”

 

ตลอดหลายพันปีมานี้ พวกเขาได้ลักพาตัวอัจฉริยะมานับไม่ถ้วน ส่วนมากล้วนกลายเป็นตัวทดลองที่ล้มเหลว เพราะกลุ่มอัจฉริยะพวกนั้นถึงทำให้มียาพลิกชีวิตแบบใหม่ขึ้นมา โชคร้ายที่อัจฉริยะที่ล้มเหลวต่างก็ถูกกำจัดไปหมดแล้ว…

 

“ ผลของยาแบบใหม่นี่น่าทึ่งจริงๆ  ความต้องการอัจฉริยะเหมือนจะเป็นสิ่งจำเป็น…” อ้าวอู่ซูถอนหายใจออกมา “  ตลอดหลายวันมานี้ เราเก็บตัวอัจฉริยะมาได้จำนวนมาก แต่คนแบบนั้นมันหายาก และถูกใช้ไปจนหมด แต่ตอนนี้กลับต้องการหาอัจฉริยะแบบนั้นเพิ่ม ข้ากลัวว่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่าย ”

 

อ้าวอู่ซูคิ้วขมวดและถามอีกฝ่าย  “ เจ้ามั่นใจหรือว่าต้องเป็นผู้เยาว์อัจฉริยะ ?”

 

หากเป็นแค่อัจฉริยะทั่วไป เขาก็ยังมีทางหาคนแบบนั้นได้ ในโลกนี้ใช่ว่าจะขาดอัจฉริยะ ตลอดเวลามันจะมีคนแบบนั้นกำเนิดขึ้นมาจำนวนมาก แต่…การที่เป็นทั้งอัจฉริยะและวัยเยาว์นั้นมันยิ่งทำให้ตัวเลือกของอ้าวอู่ซูน้อยลง

 

“ อายุต่ำกว่าร้อยปี…” อ้าวอู่ซูปวดหัวขึ้นมา  “ มันฟังดูง่ายแต่อัจฉริยะแบบนั้นข้าจะหาได้จากที่ไหน ?”

 

ตอนแรกเขาคิดว่าอายุควรจะต่ำกว่า 3000 ปี แม้ว่าจะไม่ดีนักก็ตาม แต่เขากลับไม่คิดว่าข้อกำหนดจากผู้นำจะสูงถึงเพียงนี้ มันไม่ได้มีอัจฉริยะที่อายุต่ำกว่า 100 ปีมากและบางคนก็ถูกจับตามองโดยกองกำลังใหญ่ พวกกองกำลังใหญ่ต่างก็ดึงคนแบบนั้นไปเข้าร่วมมานานแล้ว ฉะนั้นจึงเหลืออัจฉริยะแบบนั้นไม่มาก

 

ผู้กลายพันธุ์ไม่กล้าพูดอะไรและเอาแต่ก้มหน้า  เขารู้เรื่องภายในแค่เพียงบางส่วนเพราะความแข็งแกร่งที่ไม่ได้สูงนัก เขาไม่มีสิทธิจะพูดอะไรมากในพันธมิตรกลายพันธุ์ เขาพูดตามที่ผู้นำฝากมา สำหรับเรื่องอื่นๆแล้วเขาไม่ต้องกังวล

 

สักพักอ้าวอู่ซูก็โบกมือขึ้น  “ ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าไปได้ ”

 

ผู้กลายพันธุ์ตอบกลับทันที  “ ข้าขอตัว ! “

 

เมื่อพูดจบเขาก็พุ่งออกไปโดยไม่ลังเล หากไม่ใช่เพราะผู้นำฝากคำพูดกับเขามา เขาก็ไม่อยากจะอยู่กับอ้าวอู่ซูต่อ  หากเทียบกับผู้นำที่ดูใจดีแล้ว เขากลัวอ้าวอู่ซูมากกว่า  รอยยิ้มที่อ้าวอู่ซูแสดงออกมาทำให้เขากดดันอยู่ตลอด หากเขาพูดอะไรผิดพลาดไป มันก็เท่ากับเขาหาเรื่องตาย

 

ไม่นานยอดเขาก็ตกสู่ความเงียบอีกครั้ง

 

อ้าวอู่ซูเงยหน้าขึ้นขบคิด  “ อัจฉริยะที่อายุน้อยกว่า 100 ปี….เขตกลางไม่ต้องคิดเลย ตอนนี้ยอดฝีมือระดับสูงสุดของมนุษย์ต่างก็อยู่ที่เขตกลาง ดูเหมือนว่าแม้แต่ราชาสัตว์อสูรก็อยู่ที่นั่นด้วย มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะลักพาตัวเหล่าผู้เยาว์อัจฉริยะจากที่นั่น ”

 

“ แต่…” อ้าวอู่ซูคิ้วขมวดขึ้นมา  “ บนทวีปนี้อัจฉริยะส่วนใหญ่อยู่ที่เขตกลาง เขตใต้ เขตตะวันออกและเขตตะวันตก ส่วนที่เป็นปลารอดจากแหนั้นล้วนถูกพวกเราลักพาตัวมาหมดแล้ว หากคิดจะควานหาอัจฉริยะอีกรอบ เกรงว่าคงจะไม่ง่าย…”

 

อ้าวอู่ซูไม่ได้คิดถึงเขตเหนือ เพราะเขตเหนือเป็นที่ที่ล้าหลังและไม่ค่อยมีทรัพยากร การจะหาอัจฉริยะแบบที่เขาต้องการได้นั้นคงมีสักคนในรอบหลายหมื่นปี มันคงจะเสียเวลาเปล่าถ้าหากต้องไปหาอัจฉริยะแบบนั้นที่เขตเหนือ

 

“ ผู้นำ ท่านสร้างปัญหาให้ข้าจริงๆ !” อ้าวอู่ซูถอนหายใจออกมาและรู้สึกหมดหนทาง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด