ระบบเติมเงินข้ามภพ 212 เพลิงโหมในอู๋เจิ้ง

Now you are reading ระบบเติมเงินข้ามภพ Chapter 212 เพลิงโหมในอู๋เจิ้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 212

เพลิงโหมในอู๋เจิ้ง

“ท่านพ่อ จื่อเช่าล่ะ?” กู๋หลิงถามหากู๋จื่อเช่าอย่างเป็นกังวล

“ถ้าในอีกหนึ่งชั่วยาม จื่อเช่ายังไม่กลับมาอีกล่ะก็ เขาคงมีภัยเป็นแน่!” กู๋หยุนเฟิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา

เรื่องที่ส่งกู๋จื่อเช่าไปหวางตู้นั้นมีเพียงผู้อาวุโสในตระกูลกับกู๋หลิงที่เป็นผู้สืบทอดของจ้าวตระกูลเท่านั้นที่รู้

“หากจื่อเช่าไม่กลับมาจริงๆล่ะก็ ข้าจะขอสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกท่านเอง” ได้ยินดังนั้น แม้จะตกใจ แต่ไม่นานนัก กู๋หลิงก็ตัดสินใจแน่วแน่และกล่าวกับผู้เป็นพ่อ

สถานการณ์ของสกุลกู๋นั้นอยู่ระหว่างความเป็นและความตาย สีหน้าของผู้คนในตระกูลทั้งผู้น้อยและผู้ใหญ่ต่างเคร่งเครียดไม่แพ้กัน

“จริงอย่างเจ้าว่า ข้าจะไม่ยอมทนเห็นตระกูลของเราถูกทำลายลงง่ายๆแน่ ลูกหลิง! ไปเรียกทุกคนมาประชุมแผนเดี๋ยวนี้!” เมื่อได้ยินปณิธานอันแน่วแน่ของผู้เป็นลูก กำลังใจของ กู๋หยุนเฟิงผู้พ่อเองก็กลับมาอีกครั้ง

แม้ว่าสถานการณ์จะมืดแปดด้าน ศัตรูรายล้อมจากทุกทิศ แต่ถ้าพวกเขาเปิดฉากการปะทะแล้ว ต่อให้ทัพพรรคธารสวรรค์แข็งแกร่งเพียงใด ย่อมต้องมีช่องโหว่ กู๋หยุนเฟิงต้องการใช้จุดนี้ซื้อเวลาให้พวกเด็กๆและคนหนุ่มสาวหลบหนีไป ตราบใดที่พวกเขามีชีวิตรอดสกุลกู๋ก็ยังคงดำรงอยู่

“ขอรับท่านพ่อ!” กู๋หลิงประสานมือรับคำสั่ง ก่อนเดินออกไปเชิญเหล่าผู้อาวุโส

แม้จะไม่มีใครโทษเขา แต่กู๋หลิงนั้นก็รู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยคิดจะชดใช้ความผิดนั้นด้วยชีวิต แต่เขาเลือกที่จะชดใช้ด้วยการมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อแก้ไขปัญหา

ไม่นานนักสกุลกู๋ทุกคนก็มารวมตัวกันที่สวนตามคำเชิญ ผู้อาวุโสบางคนเมื่อไม่เห็นวี่แววของกู๋จื่อเช่าก็เริ่มมีสีหน้าที่สิ้นหวัง บรรยากาศในสวนหย่อมเต็มไปด้วยความหดหู่ แต่ภายใต้การนำของกู๋หยุนเฟิง ผู้คนก็หันมาเผชิญกับความจริงและร่วมเป็นร่วมตายกับตระกูล

เมื่อปลุกใจพวกเขาเสร็จสิ้น จ้าวตระกูลก็อธิบายแผนการทั้งหมดของเขาโดยละเอียด แม้คนหนุ่มสาวจะคัดค้านและพร้อมจะสู้ตายไปด้วยกัน แต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องยอมรับแผนของผู้นำตระกูลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ในขณะเดียวกันฝั่งพรรคธารสวรรค์เองก็ยังไม่ได้รับข่าวคราวของกู๋จื่อเช่า แต่ดูเหมือนความอดทนของประมุขยู่จินใกล้ถึงขีดจำกัดขึ้นทุกที

“พี่น้องพรรคธารสวรรค์ทุกท่านจงฟังข้า! กวาดล้างพวกสายเลือดปีศาจให้สิ้นซาก อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว!”

“ฆ่าาาาาา!” ทันทีที่ได้รับคำสั่ง สมาชิกพรรคธารสวรรค์ก็โหมการโจมตีใส่คฤหาสน์สกุลกู๋อย่างไม่รอช้า

ตู้มมมมมมมมมมม!

ภายใต้การนำอันบ้าคลั่งของยู่จิน ทำให้ประตูหน้าคฤหาสน์ที่เสริมแกร่งมาเป็นอย่างดี พังทลายลงอย่างไม่เป็นท่า สมาชิกรุ่นอาวุโสของตระกูลกู๋ที่ตั้งรับอยู่ก็เปิดฉากโจมตีสวนกลับในทันที

“กู๋หยุนเฟิง อย่าอยู่เลย!” เมื่อยู่จินเห็นใบหน้าของกู๋หยุนเฟิงก็ฟิวส์ขาดในทันที เขาชักดาบควบม้าตรงมาด้วยจิตสังหารที่เปี่ยมล้น หมายปลิดชีพศัตรูที่อยู่เบื้องหน้าด้วยความอาฆาตแค้น

กู๋หยุนเฟิงไม่ได้ร้อนรนแต่อย่างใด เขาคุกเข่าเบี่ยงตัวหลบวิถีดาบได้อย่างทันท่วงที แต่คมดาบก็เฉือนปลายผมของเขาขาดสะบั้น

“ต่อให้ข้าตาย เจ้าก็อย่าหวังว่าจะทำลายตระกูลกู๋ของเราได้!” กู๋หยุ่นเฟิงลุกขึ้น กำมือแน่นพร้อมประกาศก้าวต่อหน้าศัตรู

ทันใดนั้นเอง ผู้อาวุโสสองคนก็เข้ามาผนึกกำลังกับกู๋หยุนเฟิง

“ท่านจ้าวตระกูล ให้ข้าช่วยท่านอีกแรง!”

ยู่จินเห็นดังนั้นก็แสยะยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ “ดี ดาหน้าเข้ามาพร้อมกันให้หมด จะได้สิ้นเรื่องเสียที!”

ในขณะเดียวกันกู๋หลิงก็นำเด็กๆและคนหนุ่มสาวอพยพออกมา แต่ทว่าพวกเขาก็ไม่สามารถหลุดรอดสายตาของพรรคธารสวรรค์ไปได้

“คิดหนีงั้นเรอะ อย่าได้ฝัน!”

“พวกเจ้าหนีไป ตรงนี้ให้ข้าจัดการเอง” เมื่อถูกพบตัว กู๋หลิงก็เดินออกมายืนบังทางพวกคนโฉดเอาไว้ และตะโกนสั่งให้พวกเด็กๆหนีไป

“แต่ว่าท่านพี่กู๋…”

“ข้าบอกให้ไปก็ไปเซ่! รีบไป! ถ้ายังไม่ไปอีกล่ะก็อย่ามาเรียกข้าว่าพี่อีก!” แม้จะปวดใจแต่ก็ไม่มีวิธีไหนจะได้ผลไปกว่าวิธีนี้อีกแล้ว แต่ทว่าทันใดนั้นเอง

ฟิ้วววววววววววววววววววว!

ครืนนนนนนนนนนน

ลำแสงสีดำพุ่งตัดผ่านเหนือน่านฟ้าเมืองอู๋เจิ้น เสียงของมันดังสนั่นหวั่นไหวจนทุกคนในบริเวณนั้นต้องเอามือทั้งสองมาป้องหูของตัวเองไว้แน่น

“น่ะ นั่นมัน ประมุขอารามวิถีสวรรค์งั้นรึ!?”

“บ้าน่า เขารู้เรื่องพวกเราได้ยังไง?”

“ใครมันบังอาจแพร่งพรายแผนการของพวกเรา? ในพรรคเรามีไส้ศึกงั้นรึ!”

เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีใครสามารถต้านทานพลังอำนาจของประมุขอารามสวรรค์ เหล่าพรรคธารสวรรค์จึงตกอยู่ในอาการตื่นตระหนก ความคิดที่จะเอาตัวรอดก็ประเดประดังเข้ามาอย่างไม่จบไม่สิ้น

“พรรคธารสวรรค์ พวกเจ้าจงใจเพิกเฉยต่อคำเตือนของข้า รู้หรือไม่มีโทษเช่นไร?” เย่เย่ลอยตัวเหนือสมรภูมิ กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ก่อนโคจรปราณไปยังฝ่ามือทั้งสองจนเกิดประจุสายฟ้าสีม่วงขึ้น

เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ

ทันทีที่เย่เย่วาดฝ่ามือมาด้านหน้า อสนีบาตก็พุ่งใส่กองกำลังของพรรคธารสวรรค์ที่รายล้อมคฤหาสน์ตระกูลกู๋จนเกิดแรงระเบิดอย่างรุนแรง

“เหวอออออออออออ”

ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!

ร่างของผู้เคราะห์ร้ายนับสิบสลายกลายเป็นธุลีลอยไปในอากาศ พรรคพวกที่อยู่รอบๆรัศมีระเบิดก็เข่าทรุดลงกับพื้นด้วยความหวาดกลัวและพยายามกระเสือกกระสนคลานหนีไปอย่างน่าสมเพช

“ไม่จริงน่า ศิษย์พี่!?”

“นี่ไม่ใช่เวลาจะมาห่วงคนอื่น หนีก่อนเถอะ!”

“ข้าสาบาน ข้าจะไม่ยุ่งเกี่ยวใดๆกับพรรคธารสวรรค์อีก พระเจ้าได้โปรดยกโทษให้ข้าสักครั้งด้วยเถอะ!”

เสียงกรีดร้องของเหล่าสมาชิกพรรคมารดังระงมไปทั่วสมรภูมิ ดูเหมือนว่าการมาเยือนของประมุขอารามวิถีสวรรค์นี้จะทำให้สถานการณ์พลิกกลับโดยสิ้นเชิง

“ไม่! ไม่จริง เป็นไปไม่ได้!? เจ้าพวกแปดนิกาย กับราชสำนักมัวทำอะไรกันอยู่?” เมื่อยู่จินเหลือบหันไปเห็นสภาพของพวกแนวหลัง ก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ

เย่เย่ที่สังเกตเห็นคลื่นพลังปราณในตัวยู่จิน ก็รู้ได้ทันทีว่าชายผู้นั้นคือตัวการ แทนที่จะเปลืองพลังปราณไปกับการฆ่าพวกลูกกระจ๊อก ครั้งนี้เขาจึงตวัดฝ่ามือฟาดสายฟ้าใส่ประมุขพรรคโดยตรง

เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!

ในเสี้ยววินาทีนั้นยู่จินก็รู้ตัวดีว่าไม่มีทางหลบพ้น เขาจึงตัดสินใจโคจรพลังปราณทั้งหมดที่มีไหลเวียนไปทั่วร่างเพื่อเสริมสร้างพลังป้องกัน และวาดฝ่ามือเป็นวงเพื่อลดทอนพลังทำลายล้าง แต่พลังขั้นเทพอสูรของเขาก็ไม่อาจต้านทานมวลพลังปราณที่เหนือกว่าถึง 2 ขั้นได้ ทำให้กายหยาบของเขาสลายหายไปพร้อมกับแรงระเบิด โดยที่ไม่ทิ้งช่วงให้เขาสั่งเสียเลยแม้แต่น้อย

“ทะ ท่านประมุข?”

เมื่อเห็นประมุขพรรคตายไปต่อหน้าต่อตา กองกำลังของพรรคธารสวรรค์ก็ทิ้งอาวุธ และวิ่งหนีไปคนละทิศคนละทางอย่างไม่คิดชีวิต แต่ทว่าพวกเขาก็ไม่อาจรอดพ้นรัศมีการโจมตีของสลาตันฟ้าคำรามได้

เปรี้ยงงง เปรี้ยงงงงง เปรี้ยงงงงงงงงงง!

ผู้คนมากมายหลายชีวิตถูกคร่า ภายใต้ใบหน้าอันเย็นชาที่ซุกซ่อนอยู่ใต้หน้ากากของเย่เย่ สมรภูมิอู๋เจิ้งเต็มไปด้วยหลุมด้วยบ่อ และทะเลเพลิงสีม่วงที่เกิดจากอานุภาพการทำลายล้างของชายผู้ที่มีพลังเข้าใกล้พระเจ้าขึ้นไปทุกที…

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบเติมเงินข้ามภพ 212 เพลิงโหมในอู๋เจิ้ง

Now you are reading ระบบเติมเงินข้ามภพ Chapter 212 เพลิงโหมในอู๋เจิ้ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 212

เพลิงโหมในอู๋เจิ้ง

“ท่านพ่อ จื่อเช่าล่ะ?” กู๋หลิงถามหากู๋จื่อเช่าอย่างเป็นกังวล

“ถ้าในอีกหนึ่งชั่วยาม จื่อเช่ายังไม่กลับมาอีกล่ะก็ เขาคงมีภัยเป็นแน่!” กู๋หยุนเฟิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา

เรื่องที่ส่งกู๋จื่อเช่าไปหวางตู้นั้นมีเพียงผู้อาวุโสในตระกูลกับกู๋หลิงที่เป็นผู้สืบทอดของจ้าวตระกูลเท่านั้นที่รู้

“หากจื่อเช่าไม่กลับมาจริงๆล่ะก็ ข้าจะขอสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกท่านเอง” ได้ยินดังนั้น แม้จะตกใจ แต่ไม่นานนัก กู๋หลิงก็ตัดสินใจแน่วแน่และกล่าวกับผู้เป็นพ่อ

สถานการณ์ของสกุลกู๋นั้นอยู่ระหว่างความเป็นและความตาย สีหน้าของผู้คนในตระกูลทั้งผู้น้อยและผู้ใหญ่ต่างเคร่งเครียดไม่แพ้กัน

“จริงอย่างเจ้าว่า ข้าจะไม่ยอมทนเห็นตระกูลของเราถูกทำลายลงง่ายๆแน่ ลูกหลิง! ไปเรียกทุกคนมาประชุมแผนเดี๋ยวนี้!” เมื่อได้ยินปณิธานอันแน่วแน่ของผู้เป็นลูก กำลังใจของ กู๋หยุนเฟิงผู้พ่อเองก็กลับมาอีกครั้ง

แม้ว่าสถานการณ์จะมืดแปดด้าน ศัตรูรายล้อมจากทุกทิศ แต่ถ้าพวกเขาเปิดฉากการปะทะแล้ว ต่อให้ทัพพรรคธารสวรรค์แข็งแกร่งเพียงใด ย่อมต้องมีช่องโหว่ กู๋หยุนเฟิงต้องการใช้จุดนี้ซื้อเวลาให้พวกเด็กๆและคนหนุ่มสาวหลบหนีไป ตราบใดที่พวกเขามีชีวิตรอดสกุลกู๋ก็ยังคงดำรงอยู่

“ขอรับท่านพ่อ!” กู๋หลิงประสานมือรับคำสั่ง ก่อนเดินออกไปเชิญเหล่าผู้อาวุโส

แม้จะไม่มีใครโทษเขา แต่กู๋หลิงนั้นก็รู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยคิดจะชดใช้ความผิดนั้นด้วยชีวิต แต่เขาเลือกที่จะชดใช้ด้วยการมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อแก้ไขปัญหา

ไม่นานนักสกุลกู๋ทุกคนก็มารวมตัวกันที่สวนตามคำเชิญ ผู้อาวุโสบางคนเมื่อไม่เห็นวี่แววของกู๋จื่อเช่าก็เริ่มมีสีหน้าที่สิ้นหวัง บรรยากาศในสวนหย่อมเต็มไปด้วยความหดหู่ แต่ภายใต้การนำของกู๋หยุนเฟิง ผู้คนก็หันมาเผชิญกับความจริงและร่วมเป็นร่วมตายกับตระกูล

เมื่อปลุกใจพวกเขาเสร็จสิ้น จ้าวตระกูลก็อธิบายแผนการทั้งหมดของเขาโดยละเอียด แม้คนหนุ่มสาวจะคัดค้านและพร้อมจะสู้ตายไปด้วยกัน แต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องยอมรับแผนของผู้นำตระกูลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ในขณะเดียวกันฝั่งพรรคธารสวรรค์เองก็ยังไม่ได้รับข่าวคราวของกู๋จื่อเช่า แต่ดูเหมือนความอดทนของประมุขยู่จินใกล้ถึงขีดจำกัดขึ้นทุกที

“พี่น้องพรรคธารสวรรค์ทุกท่านจงฟังข้า! กวาดล้างพวกสายเลือดปีศาจให้สิ้นซาก อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว!”

“ฆ่าาาาาา!” ทันทีที่ได้รับคำสั่ง สมาชิกพรรคธารสวรรค์ก็โหมการโจมตีใส่คฤหาสน์สกุลกู๋อย่างไม่รอช้า

ตู้มมมมมมมมมมม!

ภายใต้การนำอันบ้าคลั่งของยู่จิน ทำให้ประตูหน้าคฤหาสน์ที่เสริมแกร่งมาเป็นอย่างดี พังทลายลงอย่างไม่เป็นท่า สมาชิกรุ่นอาวุโสของตระกูลกู๋ที่ตั้งรับอยู่ก็เปิดฉากโจมตีสวนกลับในทันที

“กู๋หยุนเฟิง อย่าอยู่เลย!” เมื่อยู่จินเห็นใบหน้าของกู๋หยุนเฟิงก็ฟิวส์ขาดในทันที เขาชักดาบควบม้าตรงมาด้วยจิตสังหารที่เปี่ยมล้น หมายปลิดชีพศัตรูที่อยู่เบื้องหน้าด้วยความอาฆาตแค้น

กู๋หยุนเฟิงไม่ได้ร้อนรนแต่อย่างใด เขาคุกเข่าเบี่ยงตัวหลบวิถีดาบได้อย่างทันท่วงที แต่คมดาบก็เฉือนปลายผมของเขาขาดสะบั้น

“ต่อให้ข้าตาย เจ้าก็อย่าหวังว่าจะทำลายตระกูลกู๋ของเราได้!” กู๋หยุ่นเฟิงลุกขึ้น กำมือแน่นพร้อมประกาศก้าวต่อหน้าศัตรู

ทันใดนั้นเอง ผู้อาวุโสสองคนก็เข้ามาผนึกกำลังกับกู๋หยุนเฟิง

“ท่านจ้าวตระกูล ให้ข้าช่วยท่านอีกแรง!”

ยู่จินเห็นดังนั้นก็แสยะยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ “ดี ดาหน้าเข้ามาพร้อมกันให้หมด จะได้สิ้นเรื่องเสียที!”

ในขณะเดียวกันกู๋หลิงก็นำเด็กๆและคนหนุ่มสาวอพยพออกมา แต่ทว่าพวกเขาก็ไม่สามารถหลุดรอดสายตาของพรรคธารสวรรค์ไปได้

“คิดหนีงั้นเรอะ อย่าได้ฝัน!”

“พวกเจ้าหนีไป ตรงนี้ให้ข้าจัดการเอง” เมื่อถูกพบตัว กู๋หลิงก็เดินออกมายืนบังทางพวกคนโฉดเอาไว้ และตะโกนสั่งให้พวกเด็กๆหนีไป

“แต่ว่าท่านพี่กู๋…”

“ข้าบอกให้ไปก็ไปเซ่! รีบไป! ถ้ายังไม่ไปอีกล่ะก็อย่ามาเรียกข้าว่าพี่อีก!” แม้จะปวดใจแต่ก็ไม่มีวิธีไหนจะได้ผลไปกว่าวิธีนี้อีกแล้ว แต่ทว่าทันใดนั้นเอง

ฟิ้วววววววววววววววววววว!

ครืนนนนนนนนนนน

ลำแสงสีดำพุ่งตัดผ่านเหนือน่านฟ้าเมืองอู๋เจิ้น เสียงของมันดังสนั่นหวั่นไหวจนทุกคนในบริเวณนั้นต้องเอามือทั้งสองมาป้องหูของตัวเองไว้แน่น

“น่ะ นั่นมัน ประมุขอารามวิถีสวรรค์งั้นรึ!?”

“บ้าน่า เขารู้เรื่องพวกเราได้ยังไง?”

“ใครมันบังอาจแพร่งพรายแผนการของพวกเรา? ในพรรคเรามีไส้ศึกงั้นรึ!”

เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีใครสามารถต้านทานพลังอำนาจของประมุขอารามสวรรค์ เหล่าพรรคธารสวรรค์จึงตกอยู่ในอาการตื่นตระหนก ความคิดที่จะเอาตัวรอดก็ประเดประดังเข้ามาอย่างไม่จบไม่สิ้น

“พรรคธารสวรรค์ พวกเจ้าจงใจเพิกเฉยต่อคำเตือนของข้า รู้หรือไม่มีโทษเช่นไร?” เย่เย่ลอยตัวเหนือสมรภูมิ กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ก่อนโคจรปราณไปยังฝ่ามือทั้งสองจนเกิดประจุสายฟ้าสีม่วงขึ้น

เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ

ทันทีที่เย่เย่วาดฝ่ามือมาด้านหน้า อสนีบาตก็พุ่งใส่กองกำลังของพรรคธารสวรรค์ที่รายล้อมคฤหาสน์ตระกูลกู๋จนเกิดแรงระเบิดอย่างรุนแรง

“เหวอออออออออออ”

ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!

ร่างของผู้เคราะห์ร้ายนับสิบสลายกลายเป็นธุลีลอยไปในอากาศ พรรคพวกที่อยู่รอบๆรัศมีระเบิดก็เข่าทรุดลงกับพื้นด้วยความหวาดกลัวและพยายามกระเสือกกระสนคลานหนีไปอย่างน่าสมเพช

“ไม่จริงน่า ศิษย์พี่!?”

“นี่ไม่ใช่เวลาจะมาห่วงคนอื่น หนีก่อนเถอะ!”

“ข้าสาบาน ข้าจะไม่ยุ่งเกี่ยวใดๆกับพรรคธารสวรรค์อีก พระเจ้าได้โปรดยกโทษให้ข้าสักครั้งด้วยเถอะ!”

เสียงกรีดร้องของเหล่าสมาชิกพรรคมารดังระงมไปทั่วสมรภูมิ ดูเหมือนว่าการมาเยือนของประมุขอารามวิถีสวรรค์นี้จะทำให้สถานการณ์พลิกกลับโดยสิ้นเชิง

“ไม่! ไม่จริง เป็นไปไม่ได้!? เจ้าพวกแปดนิกาย กับราชสำนักมัวทำอะไรกันอยู่?” เมื่อยู่จินเหลือบหันไปเห็นสภาพของพวกแนวหลัง ก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ

เย่เย่ที่สังเกตเห็นคลื่นพลังปราณในตัวยู่จิน ก็รู้ได้ทันทีว่าชายผู้นั้นคือตัวการ แทนที่จะเปลืองพลังปราณไปกับการฆ่าพวกลูกกระจ๊อก ครั้งนี้เขาจึงตวัดฝ่ามือฟาดสายฟ้าใส่ประมุขพรรคโดยตรง

เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!

ในเสี้ยววินาทีนั้นยู่จินก็รู้ตัวดีว่าไม่มีทางหลบพ้น เขาจึงตัดสินใจโคจรพลังปราณทั้งหมดที่มีไหลเวียนไปทั่วร่างเพื่อเสริมสร้างพลังป้องกัน และวาดฝ่ามือเป็นวงเพื่อลดทอนพลังทำลายล้าง แต่พลังขั้นเทพอสูรของเขาก็ไม่อาจต้านทานมวลพลังปราณที่เหนือกว่าถึง 2 ขั้นได้ ทำให้กายหยาบของเขาสลายหายไปพร้อมกับแรงระเบิด โดยที่ไม่ทิ้งช่วงให้เขาสั่งเสียเลยแม้แต่น้อย

“ทะ ท่านประมุข?”

เมื่อเห็นประมุขพรรคตายไปต่อหน้าต่อตา กองกำลังของพรรคธารสวรรค์ก็ทิ้งอาวุธ และวิ่งหนีไปคนละทิศคนละทางอย่างไม่คิดชีวิต แต่ทว่าพวกเขาก็ไม่อาจรอดพ้นรัศมีการโจมตีของสลาตันฟ้าคำรามได้

เปรี้ยงงง เปรี้ยงงงงง เปรี้ยงงงงงงงงงง!

ผู้คนมากมายหลายชีวิตถูกคร่า ภายใต้ใบหน้าอันเย็นชาที่ซุกซ่อนอยู่ใต้หน้ากากของเย่เย่ สมรภูมิอู๋เจิ้งเต็มไปด้วยหลุมด้วยบ่อ และทะเลเพลิงสีม่วงที่เกิดจากอานุภาพการทำลายล้างของชายผู้ที่มีพลังเข้าใกล้พระเจ้าขึ้นไปทุกที…

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+