ระบบเติมเงินข้ามภพ 221 ร่วมมือ

Now you are reading ระบบเติมเงินข้ามภพ Chapter 221 ร่วมมือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 221

ร่วมมือ

“อะแฮ่ม ขอเข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน สำนักข่าวพิราบฟ้าของข้ามีมติเป็นเอกฉันท์ว่าต้องการร่วมมือกับหอการค้าหยูเย่ของท่าน ไม่ทราบว่าเถ้าแก่เย่มีความเห็นว่ายังไง?” เซี่ยงเฟ่ยหลินยกแก้วชาขึ้นมาสูดกลิ่น พลางเหลือบตามองดูปฏิกิริยาของเย่เย่

พอเป็นสำนักพิราบฟ้าเย่เย่ก็ไม่ได้ปฏิเสธเสียทีเดียว เขาผายมือให้เซี่ยงเฟ่ยหลินอธิบายเสริม

“เชิญท่านว่าต่อ”

เมื่อสบโอกาสเซี่ยงเฟ่ยก็ไม่รอช้า กล่าวต่อด้วยรอยยิ้ม “จากแหล่งข้อมูลของสำนักข้ากล่าวว่า หอการค้าหยูเย่ขายสินค้ามากมายหลากหลายชนิดนับตั้งแต่ก่อตั้ง ล้วนแล้วแต่เป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูงกว่าร้านอื่นๆในภูมิภาคเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีสินค้าบางชนิดที่ไม่เคยปรากฏในหน้าประวัติศาสตร์ของแผ่นดินฉางหลางอีกด้วย ไม่ทราบว่าที่ข้ากล่าวมาถูกต้องหรือไม่?”

“ใช่แล้ว” เย่เย่กอดอกพยักหน้าสองครั้งเบาๆ เขาไม่คิดจะปฏิเสธข้อมูลของเซี่ยงเฟ่ยหลิน นั่นก็เพราะข้อมูลที่คู่สนทนากล่าวมานั้นไม่ได้เป็นความลับมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

เซี่ยงเฟ่ยหลินเห็นสีหน้าเรียบเฉยของเย่เย่ เขาก็ว่าต่อ “ผู้คนต่างกล่าวขานกันว่า เถ้าแก่เย่ได้นำสมบัติที่ตกทอดมาจากครั้นบรรพกาลมาขายทอดตลาดเพื่อทำกำไร และสันนิษฐานกันไปต่างๆนานาว่าอีกไม่นานท่านคงขายมันจนหมด แต่ข้ากลับไม่คิดเช่นนั้น”

จ้าวสำนักพิราบฟ้าเว้นจังหวะสั้นๆ และพูดต่อ “จากข้อมูลที่สำนักข้ารวบรวมมา ข้าคาดว่าเถ้าแก่เย่มีแหล่งที่มาของสินค้าที่มั่นคง และจำนวนของสินค้าที่มหาศาลเกินกว่าที่คนทั่วไปคาดคิด ดังนั้นท่านจึงสามารถปล่อยสินค้าออกมาได้เรื่อยๆตามความต้องการของลูกค้า และของตัวท่านเอง”

พอเซี่ยงเฟ่ยหลินพูดจบ บรรยากาศการเจรจาระหว่างทั้งสอง จากเดิมที่ดูสบายๆกลับตึงเครียดขึ้นในทันที

การคาดการณ์ที่แม่นยำราวกับตาเห็นของจ้าวสำนักพิราบฟ้า เล่นเอาเย่เย่หวั่นใจอยู่ไม่น้อย จิตสังหารค่อยๆแผ่ออกมาทางสายตาโดยที่เขาไม่รู้ตัว

‘ฆ่า ฆ่า ฆ่า’ สัญชาตญาณดิบที่แฝงในจิตใต้สำนึกของ เย่เย่ เริ่มดังก้องขึ้นในหัว และสั่งให้เขาลงมือ

ตึง!

เสียงวางแก้วชาลงบนโต๊ะของชายวัยกลางคน ทำให้เย่เย่ได้สติ ต่อให้ฆ่าเซี่ยงเฟ่ยหลินไปแล้วก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าข้อมูลของเขาจะไม่ถูกเปิดเผย

จ้าวสำนักพิราบฟ้านั้นไม่ใช่คนเขลา ไม่แน่ว่าเขาอาจเตรียมการทั้งหมดมาเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ หากเขาตาย ความลับของเย่เย่ก็อาจถูกเปิดเผยต่อหน้าสาธารณชนเป็นแน่ และเมื่อถึงตอนนั้นต่อให้ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นประมุขแห่งอารามวิถีสวรรค์ ทุกสายตาก็ต้องจับจ้องมาที่เขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เมื่อเย่เย่คิดได้ดังนั้น เขาก็สลัดเสียงในหัวออกก่อนที่มันจะครอบงำเขาไว้ได้ทันท่วงที และตอบจ้าวสำนักพิราบฟ้ากลับไปอย่างใจเย็น

“ท่านเซี่ยงช่างหลักแหลมยิ่งนัก ข้าน้อยขอคารวะจากใจจริง แต่ขอกล่าวตามตรงว่ามีสิ่งหนึ่งที่ข้ากังวล ข้าเกรงว่าสำนักของท่านอาจฉวยโอกาสลอบทำร้ายข้าได้ในอนาคต ด้วยเหตุนี้ข้าจึงมิอาจวางใจได้” เย่เย่ถามขึ้นด้วยความสุขุม และสายตาที่เยือกเย็น

เซี่ยงเฟ่ยหลินประหม่าเล็กน้อย ก่อนผ่อนลมหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา และหัวเราะกลบเกลื่อนตอบกลับเย่เย่ไป

“ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านเย่อย่าได้กล่าวเช่นนั้น ข้าไม่ได้มีเจตนามาบังคับขู่เข็ญท่านสักหน่อย เอางี้ท่านเย่เองก็รู้ดีว่าสำนักของข้าน่าทึ่งขนาดไหน เรามีข่าววงในมากมายที่ท่านไม่อาจหาได้จากขี้ปากชาวบ้าน และยังรู้ถึงความต้องการสินค้าจากหลายสำนัก กองกำลัง รวมไปถึงตระกูลใหญ่ๆแน่นอนว่าหากท่านสามารถจัดหาได้ตามความต้องการของพวกเขาย่อมทำกำไรให้กับท่านอย่างงามเลยทีเดียว”

พอเย่เย่ได้ฟังจนจบ ก็ตกอยู่ในห้วงความคิดอยู่พักใหญ่ เป็นไม่กี่ครั้งที่เย่เย่สองจิตสองใจอยู่นาน ไม่อาจหาข้อสรุปได้ในเวลาอันสั้น

แต่ท้ายที่สุด เขาก็เงยหน้าขึ้น พูดกับเซี่ยงเฟ่ยหลิน “ย่อมได้ แต่เจ้าต้องบัญญัติกฎต้องห้ามเพิ่ม 1 ข้อว่าห้ามสืบ หรือขายข้อมูลของหอการค้าหยูเย่เพิ่มอีกไม่ว่ากรณีใดๆ หากข้าพบว่าใครก็ตามในสำนักของเจ้าฝ่าฝืนจะถือว่าการร่วมมือระหว่างเราเป็นโมฆะในทันที และข้าก็ไม่อาจรับประกันความปลอดภัยของสำนักเจ้าได้”

“ได้ ข้ารับข้อเสนอ” ดูเหมือนว่าเซี่ยงเฟ่ยหลินจะคาดคะเนเอาไว้อยู่แล้วว่าเย่เย่จะยื่นเงื่อนไขแบบนี้มา เขาจึงตอบตกลงไปโดยไม่ลังเล

“หากท่านไม่รังเกียจ ข้ายินดีที่จะเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับท่าน และขอสาบานว่าจากนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า ข้าเซี่ยงเฟ่ยหลินและท่านมีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้าน ไม่คิดคดทรยศซึ่งกันและกัน หากไม่แล้วขอให้ฟ้าลงโทษ ดินลงทัณฑ์”

ที่เซี่ยงเฟ่ยหลินกล่าวเช่นนี้ก็เพื่อเป็นหลักประกันไม่ให้ เย่เย่มาถล่มสำนักของตน

“ข้าสาบานก็ได้ แต่เรื่องพี่น้องร่วมสาบานเนี่ยข้าขอผ่าน” เย่เย่ผายมือ กล่าวปฏิเสธอย่างเรียบๆ

จากคำสาบานของจ้าวสำนักพิราบฟ้า ก็ทำให้เย่เย่เดาเจตนาของเขาได้คร่าวๆ ตราบใดที่สำนักข่าวพิราบฟ้าไม่ผิดต่อคำสัญญาที่ให้ไว้เย่เย่ก็ไม่คิดจะทำลายสำนักของพวกเขาเป็นทุนเดิมจึงได้ตอบรับข้อเสนอของเซี่ยงเฟ่ยหลิน

“ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านเย่ช่างมีอารมณ์ขันเสียจริง” เมื่อทั้งสองทำข้อตกลงร่วมกันเสร็จสรรพ สีหน้าที่เคร่งเครียดของเซี่ยงเฟ่ยหลิน ก็ดูผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด

“เช่นนั้นข้าขอตัวลาก่อน” เมื่อเสร็จธุระ เซี่ยงเฟ่ยหลินก็ขอตัวกลับ และได้ทิ้งเอกสารปึกหนึ่งไว้ให้เย่เย่

ลู่จุ้นที่รออยู่หน้าประตูห้องตั้งแต่เริ่มจนจบ ก็หรี่ตามองหลังที่เดินจากไปของชายวัยกลางคนด้วยความสงสัย

ปกติแล้วเย่เย่มักจะหัวรั้น และไม่รับข้อเสนอจากใครง่ายๆมาก่อน แต่ครั้งนี้กลับต่างออกไป ลู่จุ้นจึงอดสงสัยถึงบทสนทนาของทั้งสองไม่ได้ แต่เขาก็ได้แต่เก็บความอยากรู้อยากเห็นนั้นเอาไว้ในใจ

ทันใดนั้นเอง เสียงเรียกของเย่เย่ก็ได้ปลุกเขาตื่นขึ้นจากความคิดฟุ้งซ่าน “ลู่จุ้น เจ้าจงไปปล่อยข่าวว่าหอการค้าของเรามียาขจัดพิษร้อนแบบที่ไม่มีผลข้างเคียงที”

หลังจากเซี่ยงเฟ่ยหลินกลับไปได้ไม่นาน เย่เย่ก็เดินออกมาจากห้องพร้อมกล่องหยกขนาดเท่าฝ่ามือ ยื่นให้กับลู่จุ้นโดยที่ไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก

สิ่งที่เซี่ยงเฟ่ยหลินทิ้งไว้ให้กับเขาก็คือเอกสารคำร้อง โดยระบุลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับลูกค้าที่ต้องการสินค้าอย่างเร่งด่วน หนึ่งในบรรดาลูกค้าเหล่านั้นคือ กู่เชิง ประมุขสกุลกู่ที่ถูกธาตุ หยางเข้าแทรกระหว่างฝึกวิชา จึงไหว้วานสำนักข่าวพิราบฟ้าให้ปิดข่าวเอาไว้เนื่องจากกลัวศัตรูปองร้าย

นอกจากนี้กู่เชิงยังส่งคนไปเสาะหาวิธีขจัดพิษร้อนในตัวเขา แต่วิธีที่เขาพบล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อร่างกายเขาในระยะยาว เขาจึงไม่กล้าพอที่จะเสี่ยง แต่สองสามวันมานี้อาการของเขาก็กำเริบขึ้นมา หากไม่รีบรักษาอาจส่งผลให้สูญเสียวรยุทธ์ที่เขาสั่งสมมาตลอดทั้งชีวิต

ครั้นเมื่อเย่เย่ได้อ่านคำร้องของกู่เชิง เขาก็นึกแผนทำเงินบางอย่างขึ้นได้ พร้อมกับแลกยาคืนสมดุลออกมาจากระบบ…

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบเติมเงินข้ามภพ 221 ร่วมมือ

Now you are reading ระบบเติมเงินข้ามภพ Chapter 221 ร่วมมือ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 221

ร่วมมือ

“อะแฮ่ม ขอเข้าเรื่องเลยก็แล้วกัน สำนักข่าวพิราบฟ้าของข้ามีมติเป็นเอกฉันท์ว่าต้องการร่วมมือกับหอการค้าหยูเย่ของท่าน ไม่ทราบว่าเถ้าแก่เย่มีความเห็นว่ายังไง?” เซี่ยงเฟ่ยหลินยกแก้วชาขึ้นมาสูดกลิ่น พลางเหลือบตามองดูปฏิกิริยาของเย่เย่

พอเป็นสำนักพิราบฟ้าเย่เย่ก็ไม่ได้ปฏิเสธเสียทีเดียว เขาผายมือให้เซี่ยงเฟ่ยหลินอธิบายเสริม

“เชิญท่านว่าต่อ”

เมื่อสบโอกาสเซี่ยงเฟ่ยก็ไม่รอช้า กล่าวต่อด้วยรอยยิ้ม “จากแหล่งข้อมูลของสำนักข้ากล่าวว่า หอการค้าหยูเย่ขายสินค้ามากมายหลากหลายชนิดนับตั้งแต่ก่อตั้ง ล้วนแล้วแต่เป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูงกว่าร้านอื่นๆในภูมิภาคเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีสินค้าบางชนิดที่ไม่เคยปรากฏในหน้าประวัติศาสตร์ของแผ่นดินฉางหลางอีกด้วย ไม่ทราบว่าที่ข้ากล่าวมาถูกต้องหรือไม่?”

“ใช่แล้ว” เย่เย่กอดอกพยักหน้าสองครั้งเบาๆ เขาไม่คิดจะปฏิเสธข้อมูลของเซี่ยงเฟ่ยหลิน นั่นก็เพราะข้อมูลที่คู่สนทนากล่าวมานั้นไม่ได้เป็นความลับมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

เซี่ยงเฟ่ยหลินเห็นสีหน้าเรียบเฉยของเย่เย่ เขาก็ว่าต่อ “ผู้คนต่างกล่าวขานกันว่า เถ้าแก่เย่ได้นำสมบัติที่ตกทอดมาจากครั้นบรรพกาลมาขายทอดตลาดเพื่อทำกำไร และสันนิษฐานกันไปต่างๆนานาว่าอีกไม่นานท่านคงขายมันจนหมด แต่ข้ากลับไม่คิดเช่นนั้น”

จ้าวสำนักพิราบฟ้าเว้นจังหวะสั้นๆ และพูดต่อ “จากข้อมูลที่สำนักข้ารวบรวมมา ข้าคาดว่าเถ้าแก่เย่มีแหล่งที่มาของสินค้าที่มั่นคง และจำนวนของสินค้าที่มหาศาลเกินกว่าที่คนทั่วไปคาดคิด ดังนั้นท่านจึงสามารถปล่อยสินค้าออกมาได้เรื่อยๆตามความต้องการของลูกค้า และของตัวท่านเอง”

พอเซี่ยงเฟ่ยหลินพูดจบ บรรยากาศการเจรจาระหว่างทั้งสอง จากเดิมที่ดูสบายๆกลับตึงเครียดขึ้นในทันที

การคาดการณ์ที่แม่นยำราวกับตาเห็นของจ้าวสำนักพิราบฟ้า เล่นเอาเย่เย่หวั่นใจอยู่ไม่น้อย จิตสังหารค่อยๆแผ่ออกมาทางสายตาโดยที่เขาไม่รู้ตัว

‘ฆ่า ฆ่า ฆ่า’ สัญชาตญาณดิบที่แฝงในจิตใต้สำนึกของ เย่เย่ เริ่มดังก้องขึ้นในหัว และสั่งให้เขาลงมือ

ตึง!

เสียงวางแก้วชาลงบนโต๊ะของชายวัยกลางคน ทำให้เย่เย่ได้สติ ต่อให้ฆ่าเซี่ยงเฟ่ยหลินไปแล้วก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าข้อมูลของเขาจะไม่ถูกเปิดเผย

จ้าวสำนักพิราบฟ้านั้นไม่ใช่คนเขลา ไม่แน่ว่าเขาอาจเตรียมการทั้งหมดมาเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะ หากเขาตาย ความลับของเย่เย่ก็อาจถูกเปิดเผยต่อหน้าสาธารณชนเป็นแน่ และเมื่อถึงตอนนั้นต่อให้ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นประมุขแห่งอารามวิถีสวรรค์ ทุกสายตาก็ต้องจับจ้องมาที่เขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เมื่อเย่เย่คิดได้ดังนั้น เขาก็สลัดเสียงในหัวออกก่อนที่มันจะครอบงำเขาไว้ได้ทันท่วงที และตอบจ้าวสำนักพิราบฟ้ากลับไปอย่างใจเย็น

“ท่านเซี่ยงช่างหลักแหลมยิ่งนัก ข้าน้อยขอคารวะจากใจจริง แต่ขอกล่าวตามตรงว่ามีสิ่งหนึ่งที่ข้ากังวล ข้าเกรงว่าสำนักของท่านอาจฉวยโอกาสลอบทำร้ายข้าได้ในอนาคต ด้วยเหตุนี้ข้าจึงมิอาจวางใจได้” เย่เย่ถามขึ้นด้วยความสุขุม และสายตาที่เยือกเย็น

เซี่ยงเฟ่ยหลินประหม่าเล็กน้อย ก่อนผ่อนลมหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา และหัวเราะกลบเกลื่อนตอบกลับเย่เย่ไป

“ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านเย่อย่าได้กล่าวเช่นนั้น ข้าไม่ได้มีเจตนามาบังคับขู่เข็ญท่านสักหน่อย เอางี้ท่านเย่เองก็รู้ดีว่าสำนักของข้าน่าทึ่งขนาดไหน เรามีข่าววงในมากมายที่ท่านไม่อาจหาได้จากขี้ปากชาวบ้าน และยังรู้ถึงความต้องการสินค้าจากหลายสำนัก กองกำลัง รวมไปถึงตระกูลใหญ่ๆแน่นอนว่าหากท่านสามารถจัดหาได้ตามความต้องการของพวกเขาย่อมทำกำไรให้กับท่านอย่างงามเลยทีเดียว”

พอเย่เย่ได้ฟังจนจบ ก็ตกอยู่ในห้วงความคิดอยู่พักใหญ่ เป็นไม่กี่ครั้งที่เย่เย่สองจิตสองใจอยู่นาน ไม่อาจหาข้อสรุปได้ในเวลาอันสั้น

แต่ท้ายที่สุด เขาก็เงยหน้าขึ้น พูดกับเซี่ยงเฟ่ยหลิน “ย่อมได้ แต่เจ้าต้องบัญญัติกฎต้องห้ามเพิ่ม 1 ข้อว่าห้ามสืบ หรือขายข้อมูลของหอการค้าหยูเย่เพิ่มอีกไม่ว่ากรณีใดๆ หากข้าพบว่าใครก็ตามในสำนักของเจ้าฝ่าฝืนจะถือว่าการร่วมมือระหว่างเราเป็นโมฆะในทันที และข้าก็ไม่อาจรับประกันความปลอดภัยของสำนักเจ้าได้”

“ได้ ข้ารับข้อเสนอ” ดูเหมือนว่าเซี่ยงเฟ่ยหลินจะคาดคะเนเอาไว้อยู่แล้วว่าเย่เย่จะยื่นเงื่อนไขแบบนี้มา เขาจึงตอบตกลงไปโดยไม่ลังเล

“หากท่านไม่รังเกียจ ข้ายินดีที่จะเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับท่าน และขอสาบานว่าจากนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า ข้าเซี่ยงเฟ่ยหลินและท่านมีสุขร่วมเสพมีทุกข์ร่วมต้าน ไม่คิดคดทรยศซึ่งกันและกัน หากไม่แล้วขอให้ฟ้าลงโทษ ดินลงทัณฑ์”

ที่เซี่ยงเฟ่ยหลินกล่าวเช่นนี้ก็เพื่อเป็นหลักประกันไม่ให้ เย่เย่มาถล่มสำนักของตน

“ข้าสาบานก็ได้ แต่เรื่องพี่น้องร่วมสาบานเนี่ยข้าขอผ่าน” เย่เย่ผายมือ กล่าวปฏิเสธอย่างเรียบๆ

จากคำสาบานของจ้าวสำนักพิราบฟ้า ก็ทำให้เย่เย่เดาเจตนาของเขาได้คร่าวๆ ตราบใดที่สำนักข่าวพิราบฟ้าไม่ผิดต่อคำสัญญาที่ให้ไว้เย่เย่ก็ไม่คิดจะทำลายสำนักของพวกเขาเป็นทุนเดิมจึงได้ตอบรับข้อเสนอของเซี่ยงเฟ่ยหลิน

“ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านเย่ช่างมีอารมณ์ขันเสียจริง” เมื่อทั้งสองทำข้อตกลงร่วมกันเสร็จสรรพ สีหน้าที่เคร่งเครียดของเซี่ยงเฟ่ยหลิน ก็ดูผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด

“เช่นนั้นข้าขอตัวลาก่อน” เมื่อเสร็จธุระ เซี่ยงเฟ่ยหลินก็ขอตัวกลับ และได้ทิ้งเอกสารปึกหนึ่งไว้ให้เย่เย่

ลู่จุ้นที่รออยู่หน้าประตูห้องตั้งแต่เริ่มจนจบ ก็หรี่ตามองหลังที่เดินจากไปของชายวัยกลางคนด้วยความสงสัย

ปกติแล้วเย่เย่มักจะหัวรั้น และไม่รับข้อเสนอจากใครง่ายๆมาก่อน แต่ครั้งนี้กลับต่างออกไป ลู่จุ้นจึงอดสงสัยถึงบทสนทนาของทั้งสองไม่ได้ แต่เขาก็ได้แต่เก็บความอยากรู้อยากเห็นนั้นเอาไว้ในใจ

ทันใดนั้นเอง เสียงเรียกของเย่เย่ก็ได้ปลุกเขาตื่นขึ้นจากความคิดฟุ้งซ่าน “ลู่จุ้น เจ้าจงไปปล่อยข่าวว่าหอการค้าของเรามียาขจัดพิษร้อนแบบที่ไม่มีผลข้างเคียงที”

หลังจากเซี่ยงเฟ่ยหลินกลับไปได้ไม่นาน เย่เย่ก็เดินออกมาจากห้องพร้อมกล่องหยกขนาดเท่าฝ่ามือ ยื่นให้กับลู่จุ้นโดยที่ไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก

สิ่งที่เซี่ยงเฟ่ยหลินทิ้งไว้ให้กับเขาก็คือเอกสารคำร้อง โดยระบุลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับลูกค้าที่ต้องการสินค้าอย่างเร่งด่วน หนึ่งในบรรดาลูกค้าเหล่านั้นคือ กู่เชิง ประมุขสกุลกู่ที่ถูกธาตุ หยางเข้าแทรกระหว่างฝึกวิชา จึงไหว้วานสำนักข่าวพิราบฟ้าให้ปิดข่าวเอาไว้เนื่องจากกลัวศัตรูปองร้าย

นอกจากนี้กู่เชิงยังส่งคนไปเสาะหาวิธีขจัดพิษร้อนในตัวเขา แต่วิธีที่เขาพบล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อร่างกายเขาในระยะยาว เขาจึงไม่กล้าพอที่จะเสี่ยง แต่สองสามวันมานี้อาการของเขาก็กำเริบขึ้นมา หากไม่รีบรักษาอาจส่งผลให้สูญเสียวรยุทธ์ที่เขาสั่งสมมาตลอดทั้งชีวิต

ครั้นเมื่อเย่เย่ได้อ่านคำร้องของกู่เชิง เขาก็นึกแผนทำเงินบางอย่างขึ้นได้ พร้อมกับแลกยาคืนสมดุลออกมาจากระบบ…

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+