เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก 255 ความทรมานจากอาหารสมุนไพร / 256 มีทุกข์ร่วมทุกข์

Now you are reading เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก Chapter 255 ความทรมานจากอาหารสมุนไพร / 256 มีทุกข์ร่วมทุกข์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 255 ความทรมานจากอาหารสมุนไพร

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วไม่ได้กลับบ้านหลายวัน ในตู้เย็นไม่มีของเหลือแล้ว ขณะกำลังจะโทรสั่งอาหารก็เห็นสวีรั่วชีเปิดประตูบ้าน ไม่รู้ว่าไปทำอะไร

 

 

“นี่ อะไรอะ?” เธอมองกล่องเก็บความร้อนสีสันหลากหลายอย่างฉงนใจ

 

 

“ข้าว” สวีรั่วชีตอบเธออย่างสั้นกระชับ

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วมองโลโก้ ‘ซีเหยียน’ แล้วก็เบ้ปาก “คนรวยก็คือคนรวย สั่งข้าวมากินยังต้องสั่งของแพงขนาดนี้เลย”

 

 

“ฉันไม่ได้สั่งสักหน่อย” สวีรั่วชีเซ็นชื่อลงบนใบเสร็จ ก่อนจะหิ้วของเข้ามาด้านใน

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่ววางของจากในครัวแล้วรีบเข้ามาช่วยเขา ได้ยินเขาพูดเช่นนี้แล้วก็พูดชื่อหนึ่งขึ้นมาอย่างฉงนใจ “สวีอันหราน?”

 

 

สวีรั่วชีได้ยินชื่อนี้ก็หงุดหงิด ตอบรับอย่างไม่ยินดีนัก “อืม”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วกุมใจตัวเอง “ยังไม่ทันตั้งตัวก็โดนพวกเธอโชว์สวีตใส่หน้าซะแล้ว แถมฉันยังต้องกินความสวีตนี่เข้าไปอีก”

 

 

“เธอจะไม่กินก็ได้นะ” สวีรั่วชีถลึงตาใส่คนที่ได้ผลประโยชน์แต่ยังพูดมาก

 

 

“นี่เป็นสิ่งที่เธอเอาตัวเข้าแลกเลยนะ ฉันก็ต้องกินสิ!”

 

 

“เอาตัวเข้าแลกบ้านเธอสิ!” สวีรั่วชีตีบั้นท้ายเด้งๆ ของเธอไปหนึ่งที “ไปล้างมือก่อน”

 

 

ทั้งคู่แย่งน้ำจากก๊อก แย่งก้อนสบู่กันเป็นเด็กๆ

 

 

หลังจากสวีรั่วชีกลับมาจากแอฟริกาแล้วก็เป็นหวัดนิดหน่อย หลังจากงานหมั้นก็ยังดีๆ อยู่ แต่คืนนั้นหลังจากที่คุยกับคุณพ่อสวีก็เริ่มเป็นไข้ ทำเอาสวีอันหรานตกอกตกใจนึกว่าเธอติดเชื้อไวรัส จึงลากเธอไปตรวจร่างกาย สองสามวันนี้ก็ให้เธอกินแต่อาหารที่ทำจากสมุนไพรตลอด

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วมองดูอาหารที่หน้าตาไม่เลวก็เริ่มขยับ หยิบช้อนตักซันเย่าเก๋ากี้บดคำใหญ่ แต่เมื่อเข้าปากแล้วก็เต็มไปด้วยรสชาติจืดสนิท รู้สึกเหมือนถูกหลอกอย่างไรอย่างนั้น

 

 

สวีรั่วชีเห็นสีหน้าของเธอก็รู้ว่าสิ่งที่เธอคิดอยู่ในใจจะต้องสุดยอดมากแน่ๆ

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วลากซุปไก่เข้ามา มองดูโสมที่ลอยอยู่ด้านบนก็ดันกลับไปอย่างรู้สึกเอียน

 

 

“พวกเธอเหมือนอยู่ในช่วงบำรุงครรภ์เลยอะ!”

 

 

สวีรั่วชีอยากจะเล่นงานเธอสักหน่อยแต่โดนเล่นงานกลับเสียเอง จึงหยิบปีกไก่ยัดปากเธอ “กินข้าวไปเลย! พูดอะไรไร้สาระ!”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วมองใบหน้าที่เหมือนจะขึ้นสีของเธอ ก่อนจะแทะปีกไก่ที่ไร้รสชาติอย่างเจ็บปวด

 

 

“ฉันอยากจะเรียกพ่อครัวมาคุยเลย ทำไมอาหารสมุนไพรต้องทำให้รสชาติแย่ขนาดนี้ด้วย เธอไม่ได้จะอยู่ไฟสักหน่อย!”

 

 

สวีรั่วชีเกือบจะทำน้ำซุปหกราดหน้าตัวเอง “เธอระวังปากหน่อย”

 

 

“หรือว่าเธอจะแท้งจริงๆ? สวีอันหรานเลวขนาดนั้นเลยเหรอ…”

 

 

สวีรั่วชีเอ่ยเตือน “เธอกินข้าวไปเถอะ อย่าคิดไปเอง จะเป็นไปได้ยังไง”

 

 

ก่อนหน้าที่ซย่าเสี่ยวมั่วจะกินข้าวยังโพสต์รูปภาพลงในเวยปั๋วอย่างตื่นเต้นอยู่เลย แต่พอกินเข้าไปแล้ว หัวใจก็รู้สึกขาดความรักความเมตตา

 

 

เห็นสวีรั่วชีที่ถึงแม้จะไม่ชอบแต่ก็กินอาหารทุกอย่างไปกว่าครึ่งแล้ว ก็พูดเสียงเบา “พลังของความรักนี่ยิ่งใหญ่เนอะ”

 

 

สวีรั่วชีเอือมระอากับสาวโสดที่ทำท่าจะอาเจียนตรงหน้าแล้ว ก็หยัดตัวลุกขึ้นเก็บจานชาม

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วเอาอาหารที่กินเหลือตอนเที่ยงมาอุ่น ก่อนจะเอ่ยอย่างปวดใจ “โชคดีนะที่ฉันรู้ก่อน”

 

 

หยิบซุปไก่ที่สวีรั่วชีกินเหลือมาแล้วเอาโสมออก ก่อนจะเอาไปลงหม้อแล้วปรุงใหม่อีกครั้ง สุดท้ายก็หยิบขาหมูต้มมาหั่นจิ้มซอสกิน

 

 

“เธอมีทักษะแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย” สวีรั่วชีมองดูอาหารที่มาวางบนโต๊ะอีกครั้ง ลูบท้องที่น่าสงสารของตัวเองแล้วไม่มองเธออีก

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วกินข้าวเสร็จ ก็เห็นมีคนในคอมเม้นต์ในเวยปั๋วว่า [อาหารสมุนไพรรสชาติแย่มากเลย]

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วกดไลก์ให้เธอ ก่อนจะคอมเม้นต์ตอบ [รสชาติแย่มากจริงๆ แต่เพื่อนรักฉันกินเข้าไปเยอะเลยเพราะความรัก ทุ่มเทสุดๆ]

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 256 มีทุกข์ร่วมทุกข์

 

 

สวีรั่วชีเห็นเธอกินเสร็จแล้วจึงพูดเข้าเรื่องสำคัญ

 

 

“ช่วงก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นทำไมเรื่องใหญ่แบบนั้น”

 

 

“เซียวอู๋อี้ออกมาดิ้นไง” ซย่าเสี่ยวมั่วเห็นว่ามีคนขอรูปเธอกับเพื่อนสนิท จ้องใบหน้างดงามแบบอาหารมื้อใหญ่ในงานเลี้ยงใหญ่โตของสวีรั่วชีอย่างตั้งอกตั้งใจ ก่อนจะปฏิเสธอย่างหนักแน่น

 

 

“ตอนแรกฉันพูดอะไรไปนะ บอกให้เธอจัดการแบบถอนรากถอนโคนเลยเธอก็ไม่ฟัง”

 

 

“ครั้งนี้น่าจะจัดการแบบถอนรากถอนโคนแล้วล่ะ กลุ่มทนายของฉันฟ้องร้องเซียวอู๋อี้สำเร็จแล้ว”

 

 

สวีรั่วชีไม่คาดหวังว่าเธอจะตัดสินใจฟ้องร้องเซียวอู๋อี้จริงๆ “ข้อหาอะไร”

 

 

“ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของฉัน”

 

 

“ชิ” สวีรั่วชีกลับไปนั่งบนโซฟา นึกว่าเธอจะทำอะไรเจ๋งๆ ซะอีก สุดท้ายก็เรื่องแค่นี้เอง

 

 

“ดังนั้นตอนนี้ก็สามารถลงรูปเซลฟี่ได้อย่างเต็มที่แล้ว โฮ่ๆๆ”

 

 

“ดังนั้นการที่ก่อนหน้านี้เธอไม่มั่นใจในหน้าตาของตัวเองก็มีประโยชน์สินะ”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วคว้าคอเขาเข้ามาหา ก่อนจะพูดเสียงโหด “วันนี้ฉันจะลากเธอมาถ่ายด้วย”

 

 

ทั้งคู่เอียงหัวชนกันแล้วถ่ายไปหนึ่งรูป ใบหน้าสะสวยของสวีรั่วชีกลบรัศมีซย่าเสี่ยวมั่วจนมิด

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วเห็นคอมเม้นต์ด้านล่างแล้วก็ใช้สายตากวาดมองสวีรั่วชี

 

 

สวีรั่วชีหยิบรีโมตเปลี่ยนช่องไม่หยุด เธอก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรเหมือนกัน ก็บอกไปแล้วว่าอย่าโพสต์ สุดท้ายซย่าเสี่ยวมั่วบอกว่านางฟ้าตัวน้อยของเธอเป็นเด็กผู้หญิงที่มองคนจากภายใน…แต่ท้ายที่สุดตัวเองกลับโดนเล่นงานไปด้วย

 

 

หลิวหลี 111 : [อาจารย์มั่วอวี๋คือคนที่อยู่ด้านขวาต่างหาก]

 

 

แรงบันดาลใจกับกางเกงในไปด้วยกัน : [เขาบอกว่าอาจารย์เป็นคนที่ทั้งสวยและมีความสามารถไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงไม่ใช่คนซ้ายล่ะ]

 

 

คนโสดต้องการสวีต: [คอมเม้นต์บนใช้ตาข้างไหนมองว่าคนทางซ้ายไม่สวยเหรอ]

 

 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วเจ็บปวดกว่าเดิมอีก ปิดเวยปั๋วแล้วหาเรื่องต่อ

 

 

“เธอกับสวีอันหรานไปถึงขั้นไหนกันแล้ว”

 

 

“สวีอันหรานอารมณ์คึกดีไหม”

 

 

“พวกเธอคิดจะมีลูกกันกี่คนล่ะ”

 

 

“ไม่ต้องหน้าแดงเลย มีอะไรก็พูดมาจะหน้าแดงทำบ้าอะไร”

 

 

“ฉันอยากจะบีบคอเธอชะมัด” สวีรั่วชีพูดความในใจออกมา หยิบโยเกิร์ตออกมาแล้วยื่นให้เธอหนึ่งถ้วย “ช่วงฮีตของเธอมาไวไปหน่อยนะ สงบสติอารมณ์หน่อย สงบไปให้ถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้าเลย”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วนั่งพิงโซฟาด้วยท่าทางเหมือนอาเสี่ยแล้วตักโยเกิร์ตเข้าปากทีละคำ

 

 

“ฉันลองนับนิ้วดูแล้ว ก็พบว่ายังไม่ได้คิดบัญชีกับเธอเลย”

 

 

สวีรั่วชีรู้อยู่ก่อนแล้วว่าสมองของเธอยังไม่คงที่

 

 

“ถามมาเถอะ ฉันจะพยายามตอบให้ ถ้าอันไหนไม่อยากหลอกเธอฉันก็จะไม่ตอบ”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วหยิกแก้มเขา “รู้ทันอีก”

 

 

“เธอรู้จักเหยียนเค่อมานานแล้วใช่ไหม”

 

 

ความเงียบปกคลุม…สวีรั่วชีไม่ตอบ

 

 

ในความเงียบที่กระอักกระอ่วนนั้น ซย่าเสี่ยวมั่วจึงเริ่มจากคำถามที่ง่ายก่อน

 

 

“สวีอันหรานเป็นพี่ชายของเธอ”

 

 

“ใช่” สวีรั่วชีพยักหน้า

 

 

“เหยียนเค่อกับสวีอันหรานรู้จักกันนานแล้วใช่ไหม”

 

 

“ใช่” สวีรั่วชีรู้สึกว่าคำถามของเธอไม่มีประโยชน์เอาเสียเลย “เธอถามอะไรไร้สาระเนี่ย ถ้า

 

 

สวีอันหรานไม่รู้จักเหยียนเค่อ เขาจะเรียกมาตอนวันเกิดเธอทำไม”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วโดนใส่ร้ายว่าโง่ สวีรั่วชีไม่ตอบคำถาม ‘ฉลาดๆ’ พวกนั้นของเธอต่อ มองดูการแข่งขันขี่ม้าในโทรทัศน์แล้วเบี่ยงประเด็น “ไว้ว่างๆ ฉันจะพาเธอไปขี่ม้า”

 

 

“ยานพาหนะอย่างอื่นนอกจากรถเมล์แล้วฉันก็ไม่นั่งทั้งนั้น ขอบคุณค่ะ” ตอนนี้แม้แต่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าซย่าเสี่ยวมั่วก็ไม่ใช้แล้ว ยืนหยัดใช้สองเท้าของตัวเองก้าวเดินไปบนพื้นดิน

 

 

“ไม่เป็นไร ให้เธอไปดูพวกเราขี่ก็ได้” สวีรั่วชีพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก “มีคนน่ารำคาญเยอะเลย ดังนั้นเธอต้องไปกับฉัน”

 

 

“ทำไมทำกับฉันแบบนี้ล่ะ” ซย่าเสี่ยวมั่วยันที่วางแขนอย่างข้องใจ “ลากฉันไปแล้วเธอจะขายหน้าเปล่าๆ นะ”

 

 

“ฉันไปนัดบอดกับเธอ เธอไปสนามม้ากับฉัน ตามนี้”

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วที่ตกหลุมพรางเข้าเต็มๆ ทำได้เพียงยอมรับความจริงที่กำหนดไว้แน่นอนนี้แล้ว ก่อนจะวางแผนหาเวลาส่วนตัวไปฝึกซ้อมเสียหน่อย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด