เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก 395 เรื่องที่ไม่รู้ / 396 ความงามทำให้คนลุ่มหลงมัวเมา

Now you are reading เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก Chapter 395 เรื่องที่ไม่รู้ / 396 ความงามทำให้คนลุ่มหลงมัวเมา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 395 เรื่องที่ไม่รู้

 

 

เหยียนเฟิงก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรถึงยอมปล่อยเธอไป บางทีเบลล์อาจจะไม่ได้สำคัญอย่างที่เขาคิดก็ได้ เขาผ่อนปรนตัวเองมานานพอแล้ว ถึงเวลาที่จะกลับบริษัทไปรายงานตัวแล้ว

 

 

ในแผนกที่สวีอิ๋งอิ๋งทำงานอยู่ตอนนี้ ไม่มีทางที่จะได้เจอหน้าเหยียนเฟิงทุกวัน แม้กระทั่งขึ้นไปที่ชั้นของเหยียนเฟิงก็ยังทำไม่ได้ ต้องไปทำงานทุกวันแต่กลับไม่มอบหมายงานสำคัญให้เธอทำ จะไม่ไปทำงานก็ได้ ชีวิตแต่ละวันผ่านไปอย่างน่าเบื่อหน่าย

 

 

“ฉันบอกแล้ว ยายนั่นอยู่บริษัทได้ไม่นานหรอก ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนอยู่ข้างกายประธาน

 

 

เหยียนได้นานสักคน สุดท้ายก็โดนไล่ออกไป คิดจะจับผู้ชายรวยงั้นเหรอ เจียมตัวไว้บ้างจะดีกว่า”

 

 

“นั่นสิ ประธานเหยียนของเราจะมาโดนคนอื่นผูกมัดได้ยังไง” ผู้หญิงอีกคนพูดแทรกขึ้นมา น้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความอิจฉา

 

 

เป็นครั้งแรกที่สวีอิ๋งอิ๋งเห็นคนที่นินทาคนอื่นในห้องชงกาแฟ เธอเองก็ไม่ได้ปิดบังตัว ยืนถือแก้วคอยฟังอยู่หลังกำแพง พวกเขาจะพูดกันเธอก็ห้ามไม่ได้

 

 

“ตอนแรกดาราคนนั้นท้องแล้วก็มาโวยวายที่บริษัท ประธานของเราให้บอดี้การ์ดพาไปเอาเด็กออกที่โรงพยาบาลเลย โหดร้ายจริงๆ” ในคำพูดนี้เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกสงสารผู้รับเคราะห์

 

 

สวีอิ๋งอิ๋งไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีเรื่องแบบนี้ด้วย แต่เกิดเรื่องแบบนี้ในหมู่ผู้ชายก็เป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป ขนาดเหยียนเค่อยังกล้าควงผู้หญิงสองคนพร้อมกันเลย

 

 

“ยายนั่นก็คงเคยท้องเหมือนกันแหละนะ ฉันจำได้ว่าก่อนหน้านี้เคยเห็นเขาที่โรงพยาบาล เหมือนว่าท่านประธานจะไม่รู้นะ” เสียงผู้หญิงอีกคนเอ่ยขึ้นอย่างไม่ยี่หระ เพียงแต่ไม่รู้ว่า ในใจของเธอนั้นคิดว่านี่เป็นเรื่องไกลตัวมากน้อยแค่ไหน

 

 

เหยียนเฟิงได้ยินแล้วก็ใจกระตุก ก่อนจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นแล้วเอ่ยทักทายสวีอิ๋งอิ๋ง

 

 

“มายืนทำอะไรตรงนี้” เหยียนเฟิงพูดเสียงดังขึ้นเล็กน้อย

 

 

คนด้านในห้องได้ยินเสียงเขาก็รีบหุบปากฉับ มองหน้ากันอยู่พักหนึ่งจึงจะรู้สึกว่าสถานการณ์ชักจะไม่เข้าท่าเสียแล้ว

 

 

“อ๋อ” สวีอิ๋งอิ๋งฟังเพลินไปหน่อย จนไม่เห็นว่าเหยียนเฟิงเดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆ เธอแล้ว ก่อนจะก้มหน้าดื่มน้ำ “จะมาเติมน้ำน่ะค่ะ เห็นว่าข้างในคนเยอะก็เคยรอสักพักก่อนแล้วค่อยเข้าไป”

 

 

“อ๋อ” ตอนนี้เหยียนเฟิงก็ไม่มีอารมณ์มาเสแสร้งเล่นละครตบตาเธอ จึงตบบ่าเธอเบาๆ เป็นการให้กำลังใจ “พ่อฉันไว้ใจเธอนะ ทำให้ดีล่ะ ช่วยกันทำประโยชน์เพื่อบ้านตระกูลเหยียน”

 

 

“ค่ะ แน่นอนค่ะ” ตอนนี้สวีอิ๋งอิ๋งก็ไม่มีอารมณ์มาตามตื๊อเหยียนเฟิงเช่นกัน เธอยิ้มให้เขา “ฉันเข้าไปเติมน้ำร้อนก่อนนะคะ พี่ก็รีบกลับไปทำงานเถอะ”

 

 

“อื้ม” เมื่อเหยียนเฟิงหันหลังเดินกลับไปสีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นทันที เขาว่าแล้วว่าการปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นไปจะมีแต่ความฉิบหาย

 

 

เมื่อเหยียนเฟิงกลับเข้ามาในห้องทำงานก็โทรศัพท์หาเบลล์ แต่กลับโทรไม่ติด โทรเข้าโทรศัพท์ตั้งโต๊ะก็ไม่มีคนรับ

 

 

คนด้านนอกได้ยินเสียงสิ่งของกระทบพื้นดังออกมาจากข้างในห้องอีกครั้งก็เริ่มมองหน้ากันเลิ่กลั่ก

 

 

“เขาเพิ่งกลับมาจากลาพักร้อนไม่ใช่เหรอ”

 

 

“พี่เบลล์ไปแล้วก็เลยไม่พอใจล่ะมั้ง”

 

 

เหยียนเฟิงติดต่อเขาไม่ได้จึงโยนโทรศัพท์ลงพื้น ผู้หญิงคนนี้คิดว่าเดินไปพ้นสายตาของเขาแล้วคิดอยากจะทำอะไรก็ทำงั้นเหรอ!

 

 

ดี อย่าให้เขาจับตัวได้อีกก็แล้วกัน  เหยียนเฟิงไม่ได้ข่าวคราวของเบลล์ ในใจก็เกิดความรู้สึกหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

 

 

เรื่องที่เขาไม่รู้มีมากมายเท่าไรกันแน่ พวกเขานอนเตียงเดียวกันแต่มีความฝันที่แตกต่าง หลังจากที่ตนเข้านอนแล้วผู้หญิงคนนั้นนอนตาสว่างครุ่นคิดเรื่องอะไรอยู่ ตอนที่ต้องเผชิญหน้ากับคนอื่นเธอก็ระแวดระวังตัวมาตลอด แม้แต่อ้อมกอดที่ไร้ความหมายของเขาก็ทำให้เธอหวาดกลัวอยู่นาน สุดท้ายเขาคิดว่าพวกเขาทั้งคู่คงไม่มีทางอยู่ด้วยกันได้อีกต่อไป เขาก็เบื่อหน่ายกับชีวิตที่ไร้ความหมายแบบนี้เช่นกัน แต่พอปล่อยมือกลับพบว่าตนคงหาผู้หญิงคนนั้นไม่เจออีกต่อไปแล้ว

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 396 ความงามทำให้คนลุ่มหลงมัวเมา

 

 

“ไม่คิดว่าประธานเหยียนจะทำงานรวดเร็วแบบนี้” เบอร์โทรศัพท์ของเบลล์มีข้อความอื่นอีก แต่ก็ถูกลบทิ้งทั้งหมดภายในคืนเดียว แม้กระทั่งที่พักเหยียนเค่อก็หาให้เบลล์เรียบร้อยแล้ว

 

 

อันหร่านก็คอยวิ่งวุ่นช่วยเธอย้ายบ้านอยู่ตลอด สุดท้ายตอนที่เธอเอากุญแจและที่อยู่ให้เบลล์นั้น หลากหลายความรู้สึกก็ประดังประเดเข้ามา

 

 

“มีอะไรเหรอคะ” อันหร่านเห็นเธอมีสีหน้าที่หลากหลาย จึงถามขึ้นอย่างงุนงง

 

 

เบลล์ดูที่อยู่ด้านบนอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ รู้สึกรับไม่ได้เป็นอย่างมาก “ฉันจะไปพบท่านประธาน”

 

 

“นี่เป็นเขตที่พักชั้นเลิศเลยนะคะ คุณคิดว่ามันไกลไปเหรอคะ”

 

 

เบลล์ทิ้งมือลงอย่างไรเรี่ยวแรง บ้านหลังนี้อยู่ตรงข้ามกับของเหยียนเฟิงพอดิบพอดี หรือจะบอกว่า พวกเขาสองคนจะเป็นเพื่อนบ้านกัน แถมเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่บ้านตรงข้ามกันอีกด้วย

 

 

เหยียนเค่อคิดอยู่นานก็ยังไม่รู้ว่าควรจะให้เบลล์ไปอยู่ที่ไหน สุดท้ายสวีอันหรานกลับพูดหยอกล้อกับเหยียนเค่อว่า ให้เขาย้ายไปอยู่บ้านตรงข้ามกับซย่าเสี่ยวมั่ว ทันใดนั้นเขาก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมา จึงให้เบลล์ไปอยู่บ้านตรงข้ามกับเหยียนเฟิง

 

 

เขาคิดไว้แล้วว่าต้องได้รับสายจากเบลล์ ถ้าให้เขาไปอยู่บ้านตรงข้ามสวีอิ๋งอิ๋งบ้าง ไม่ไปกระโดดตึกตายก็แปลกแล้ว

 

 

“ประธานเหยียนคะ ที่อยู่ตรงนี้ไม่เหมาะมั้งคะ” เบลล์ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็เข้าเรื่องทันที

 

 

เหยียนเค่อคิดบทพูดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว “ไม่ต้องกังวล คุณน่าจะรู้ช่วงเวลาพักผ่อนกับเวลาทำงานของเขาดีไม่ใช่เหรอครับ คุณสองคนเลี่ยงกันไม่ได้เหรอครับ”

 

 

“เลี่ยงได้ค่ะ” อย่างไรเสียเบลล์ก็คุ้นเคยกับช่วงเวลาการใช้ชีวิตของเขาดี แต่การต้องอยู่บ้านตรงข้ามกันก็ทำให้เธอรู้สึกกดดันในใจเหมือนกัน ถ้าพวกเธอสองคนออกจากบ้านพร้อมกันพอดีจะทำอย่างไร

 

 

“คุณก็ระวังหน่อยแล้วกัน ก่อนออกจากบ้านก็ลองดูข้างนอกสักหน่อย” เหยียนเค่อก็กลัวจะเกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์นั้นเช่นกัน แต่หลายครั้งการพบเจอโดยบังเอิญที่จินตนาการไว้ส่วนใหญ่มักจะไม่เกิดขึ้น

 

 

เบลล์ฝืนตอบรับแกนๆ เพราะนอกจากที่นั่น เธอก็คิดสถานที่อื่นไม่ออกแล้ว เชื่อฟังคำตัดสินจาก

 

 

เหยียนเค่อไปก่อนแล้วกัน

 

 

นี่มันเกินไปกว่าทฤษฎีที่ว่า ‘ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด’ แล้ว ถ้าเบลล์ต้องเจอกับ

 

 

เหยียนเฟิงจริงๆ จุดจบของเรื่องนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่เหยียนเค่อจะรับมือได้ สุดท้ายเธอกับเหยียนเฟิงก็จำต้องมาอยู่บ้านตรงข้ามกัน

 

 

“ท่านประธานคะ ถ้าวันไหนฉันต้องแลกมันด้วยชีวิต ท่านต้องช่วยดูแลแม่ฉันให้ดีด้วยนะคะ” เบลล์เอ่ยหยอกล้อ แต่ก็มีความจริงจังในน้ำเสียงเช่นกัน

 

 

“อืม” เหยียนเค่อตอบรับ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องที่นอกเหนือจากความคาดหมายหรือไม่ แต่ทุกเรื่องที่เขารับปากเบลล์ในตอนนั้น เขาก็จะทำให้สำเร็จ

 

 

ความจริงทั้งคู่ก็ไม่ใช่ญาติสนิทมิตรสหายที่ไหน เรื่องที่เหยียนเค่อทำเกินกว่าหน้าที่ที่เจ้านายคนหนึ่งควรทำแล้ว บางทีอาจจะมีความรู้สึกส่วนตัวอยู่ภายใน รวมไปถึงการชื่นชมในตัวเบลล์ด้วย

 

 

กฎเกณฑ์บนโลกก็เป็นเช่นนี้ สิ่งที่เรียกว่าคำทำนายก็เป็นเพียงแค่คำพูดล้อเล่นที่พูดขึ้นโดยไม่รู้ตัวเท่านั้น

 

 

สำหรับการที่เหยียนเค่อหาบ้านให้เธอนั้น ไม่ใช่แค่สวีอันหรานที่ไม่เข้าใจเท่านั้น แม้แต่คนที่แนะนำเบลล์ให้เขาอย่างฉินซื่อหลานก็ไม่เข้าใจเช่นกัน “นายคงไม่ได้ชอบเขาหรอกใช่ไหม”

 

 

เหยียนเค่อฉีกยิ้ม นานๆ ทีจะไม่โมโห “ฉันกับเขาเพิ่งรู้จักกันแค่สองวันเอง”

 

 

“ก็ใช่น่ะสิ รู้จักกันแค่สองวันนายก็ทำดีกับเขาขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะว่าชอบเขาแล้วจะมีเหตุผลอะไรอีก” ฉินซื่อหลานไม่เชื่อหรอก ความงามทำให้คนลุ่มหลงมัวเมา ใครจะไปรู้ว่าเหยียนเค่อคิดอะไรอยู่

 

 

“ฉันก็แค่เห็นเขาเป็นเหมือนพี่สะใภ้ครึ่งหนึ่งน่ะ” ไม่ว่าสุดท้ายแล้วผู้หญิงคนนี้จะได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านเขาหรือเปล่า แต่จากข้อมูลเหล่านั้นที่เขาไปสืบค้นมา สิ่งที่เบลล์ทุ่มเทเพื่อเหยียนกรุ๊ป ทุ่มเทเพื่อเหยียนเฟิงมาตลอดหลายปีนี้ สิ่งที่เขามอบให้เธอตอนนี้ก็เป็นสิ่งที่เธอสมควรจะได้รับแล้ว

 

 

“ยังไงก็เป็นเรื่องในบ้านนายนี่เนอะ” ฉินซื่อหลานก็พูดอะไรมากไม่ได้ ถ้าในอนาคตเบลล์กลายเป็นพี่สะใภ้ของเหยียนเค่อจริงๆ ละก็ ให้เท่านี้ก็ไม่ถือว่าเยอะไปหรอก

 

 

เหยียนเค่อเงียบไปพักหนึ่ง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

 

 

ฉินซื่อหลานกำลังจะพูดเรื่องอื่นกับเขา เหยียนเค่อก็ชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน “ซย่าเสี่ยวมั่วออกจากโรงพยาบาลแล้วเหรอ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด