เลทิเซียกับชีวิต(ไม่)ธรรมดาในโรงเรียนเวทมนตร์ 8: การตายของสองผู้กล้า

Now you are reading เลทิเซียกับชีวิต(ไม่)ธรรมดาในโรงเรียนเวทมนตร์ Chapter 8: การตายของสองผู้กล้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ปี 1

บทที่ 8 – การตายของสองผู้กล้า

 

และก็อย่างที่ว่าไปข้างต้น เลทิเซียถูกย้ายไปอยู่ห้อง A.. เด็กจากห้องพิเศษที่ถูกย้ายมาห้อง A มีแค่สามคนซึ่งมี เลทิเซีย อเล็กเซียและผู้ชายอีกคนหนึ่ง

ด้วยความที่งานประลองคัดเลือกนักเรียนแห่งความภาคภูมิใจกระชั้นชิดเข้ามาแล้ว ทำให้เช้าวันรุ่งขึ้นทุกคนออกเดินทางไปพร้อมกับอาจารย์ประจำชั้นทันที

ห้อง A มีอาจารย์ประจำชั้นเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เธออายุไม่มากอายุประมาณยี่สิบต้นๆ เพียงเท่านั้นผมสีเทาๆ อ่อนๆ สวมแว่นกลมๆ

เธอมีนิสัยค่อนข้างซุ่มซ่ามในระดับหนึ่งมีชื่อว่า อลิซ.. แต่ว่ากันว่าเธอคือนักเล่นแร่แปรธาตุที่เก่งที่สุดในโรงเรียนนี้เลยล่ะ

ถึงจะซุ่มซ่ามไปหน่อย.. ถามว่าซุ่มซ่ามขนาดไหนก็วันที่ต้องพานักเรียนออกไปหากำจัดสัตว์อสูรเพื่อเป็นตัวแทนโรงเรียนนั้น..

เจ้าตัวดันมาไม่สบายพอดีเนี่ยสิ.. ซึ่งสาเหตุที่ไม่สบายเพราะเมื่อวานนี้เจ้าตัวเล่นโดดลงไปในทะเลสาบที่ล้อมรอบโรงเรียนอยู่เพื่อไปหาเศษซากกระดูกสัตว์ทะเล

เพื่อนำมาแปรธาตุเป็นเสื้อผ้าให้นักเรียนใส่ เพราะเธอกลัวว่านักเรียนจะบาดเจ็บจากการเดินทาง แต่กลายเป็นว่าเจ้าตัวดันไม่สบายเอง

โรงเรียนลิเบอร์นั้นตั้งอยู่กลางทะเลสาบขนาดใหญ่ ทางเข้าเดียวที่เข้ามาโรงเรียนลิเบอร์ได้คือสะพานหน้าโรงเรียนที่ลากยาวไปถึงเมืองท่าไร้อาณา

เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ห่างจากโรงเรียนลิเบอร์ไม่กี่ร้อยเมตร ซึ่งการจะเข้ามาโรงเรียนลิเบอร์ต้องผ่านเมืองนี้มาก่อนเท่านั้นนั่นเอง

ถือว่าเป็นภูมิประเทศที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เกาะกลางทะเลสาบ.. แต่ก็นั่นแหละเพราะอาจารย์อลิซไม่สบายเลยต้องหาคนมานำห้องเรียนแทน

ซึ่งคนที่ได้มาแทนก็ไม่ใช่ใครที่ไหนอื่นนอกจากอาจารย์เวโรเน่ อาจารย์เวโรเน่เธอเป็นอาจารย์ที่สอนนักเรียนที่เรียนตามไม่ทัน

ง่ายๆ ก็ห้องเรียนซ่อมเสริมนั่นแหละ ซึ่งพออลิซไม่ว่างอาจารย์เวโรเน่เลยได้มาทำหน้าที่แทนนั่นเอง.. อาจารย์เวโรเน่นั้นรู้จักกับเลทิเซียอยู่

เคยมีเรื่องกันนิดหน่อย..

◇◆◇

เช้าตรู่วันที่ต้องเดินทาง ในห้องพักครูมีอาจารย์เวโรเน่นั่งอยู่คนเดียว เพราะยังไม่มีอาจารย์คนไหนเข้ามาตั้งแต่เช้าตรู่ขนาดนี้

ทางด้านอาจารย์เวโรเน่เธอก็กำลังนั่งจดเอกสารของตัวเองอยู่เธอครุ่นคิดเล็กน้อยพร้อมกับพึมพำด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย

“ตอนนี้.. สเตฟานี่ เซเรส โคลเอ้และอันน่า เสียชีวิตไปแล้ว.. คนต่อไปจะเริ่มในอีกห้าปีข้างหน้าสินะ”

“ท่านพี่..อีกไม่นานพวกเราจะได้เจอกันแล้วใช่ไหม… เลทิเซียที่รู้จักฉันจะกลับคืนมาใช่ไหม..? ถ้าปล่อยทุกอย่างมันเป็นแบบนี้”

แต่ในตอนนั้นเองก็มีคนเปิดประตูห้องพักครูเข้ามา.. ซึ่งคนที่เดินเข้ามาก็คืออาจารย์ลิเลียน่า เธอเห็นอาจารย์เวโรเน่เธอก็ทักขึ้น

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณเวโรเน่”

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ อาจารย์ลิเลียน่า”

ทั้งคู่ทักทายกันตามปกติ ลิเลียน่าก็เดินไปที่เก้าอี้ของเธอแล้วก็นั่งลงก่อนที่จะถามบางอย่างขึ้นมา

“จริงสิ คุณเวโรเน่วันนี้ต้องพาห้อง A ไปคัดเลือกตัวแทนโรงเรียนงั้นสินะ คิดว่ายังไงคะ คิดว่าใครในห้อง A จะได้เป็นตัวแทนเหรอคะ?”

“เลทิเซีย”

“หือ ตอบไม่คิดเลยเหรอ.. จะว่าไปคนที่ให้คุณเลทิเซียเป็นตัวแทนโรงเรียนรอบก่อนหน้านี้ก็คือคุณด้วยนี่น่า”

“….”

เวโรเน่ที่เผลอพูดออกไปก็เหงื่อตกทันที.. อ่า แย่แล้วเผลอพูดออกไปโดยไม่คิดอีกแล้ว.. จริงอยู่ที่หากวัดความสามารถเท่าที่อาจารย์เวโรเน่รู้จักมา

คนที่แข็งแกร่งที่สุดคงเป็นเลทิเซียอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนอเล็กเซียนี่เธอไม่ค่อยมั่นใจแต่ไม่น่าจะแข็งแกร่งเท่าเลทิเซียหรอกมั้ง

ซึ่งความแข็งแกร่งเลทิเซียแทบจะไม่ใช่ความแข็งแกร่งนักเรียนแล้ว.. แต่ถ้าหากเวโรเน่เธอออกหน้าออกตาไวเกินไปละก็..

เดี๋ยวโดนหาว่าเข้าข้างเลทิเซียอีก.. ไม่เพียงแค่นั้นด้วย หลายเดือนก่อนได้มีโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นที่อาณาจักรแห่งหนึ่ง

ซึ่งโศกนาฏกรรมในครั้งนั้นได้พรากเอาชีวิตของคนจำนวนมากไป.. เพราะสิ่งที่เรียกว่า ‘แสงเทพมารมรณะ’ คนในอาณาจักรแห่งนั้นตายไปมากกว่าแปดในสิบส่วน

ซึ่งคนที่ปกครองอาณาจักรแห่งนั้นอยู่คือพี่น้องที่เป็นผู้กล้า น้องสาวมีชื่อว่า เลมิสทาเรีย ส่วนพี่ชายมีชื่อว่าไบรอัส

ทั้งสองคนเองก็ตายในโศกนาฏกรรมครั้งนั้น.. ใช่แล้ว ผู้กล้าสองคนตายในเรื่องราวนั้น.. นั่นหมายความว่าไง

ผู้กล้าที่แข็งแกร่งเป็นอันดับต้นๆ ของโลก.. ถูกฆ่าตาย!

ซึ่งก่อนหน้าที่จะเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นนั้นตัวของเลมิสทาเรียได้แอบลอบเข้าในงานแข่งคัดเลือกหานักเรียนแห่งความภาคภูมิใจและได้ต่อสู้กับเลทิเซีย

และจู่ๆ ผู้กล้าเลมิสทาเรียก็ได้ก่อความวุ่นวายในขณะที่ต่อสู้กับเลทิเซียเธอได้ลักพาตัวเลทิเซียและหายตัวไป

ซึ่งในคืนนั้นเองก็ได้เกิด ‘แสงเทพมารมรณะ’ ขึ้นที่อาณาจักรของเลมิสทาเรีย และผู้กล้าสองคนนั้นก็ตาย.. นั่นหมายความว่าเลทิเซียอาจจะมีความเกี่ยวข้อง

แม้อาจจะเป็นสิ่งที่ยากจะเชื่อ.. แต่ก็มีคนไม่น้อยที่สงสัยเลทิเซียว่าเป็นต้นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมและการตายของผู้กล้าสองคน

แต่ถึงแบบนั้นในเหตุการณ์ครั้งนั้น เพื่อนคนหนึ่งของเลทิเซียได้อยู่ในอาณาจักรแห่งนั้นและเธอก็ ‘ตาย’ ไปพร้อมกัน

ซึ่งเธอคนนั้นมีชื่อว่า ‘สเตฟานี่’

ทำให้ข้อกล่าวหาที่จะกล่าวหาเลทิเซียถูกลดลงอย่างมาก เจ้าตัวคงไม่ฆ่าเพื่อนตัวเองอีก.. แต่ความซวยซ้ำซวยซ้อนของเลทิเซียยังไม่หมด

เพื่อนอีกคนของเธอได้ ‘แขวนคอ’ ตายที่ห้องพยาบาลของโรงเรียน ซึ่งเพื่อนคนนั้นก็อยู่ในเหตุการณ์เหมือนกัน

เธอคนนั้นมีชื่อว่า ‘เซเรส’

และต่อมาเพื่อนอีกคนของเธอก็ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมทางป่าที่อยู่ห่างจากเมืองท่าหน้าโรงเรียนลิเบอร์ไปหลายร้อยเมตร

สภาพศพคือถูกกรีดเนื้อเถือหนัง ใบหน้าของศพแสดงถึงความสิ้นหวังและความเจ็บปวดอย่างหาใดเปรียบ

เธอคนนั้นมีชื่อว่า ‘โคลเอ้’

ผู้เป็รเพื่อนสมัยเด็กที่ฝึกวิชาดาบมาด้วยกันของเลทิเซีย.. ใช่แล้วสามคนที่กล่าวไปพึ่งตายไปเมื่อหนึ่งเดือนก่อน

ทุกคนล้วนเกี่ยวข้องกับเลทิเซียทั้งสิ้น.. เซเรสและสเตฟานี่รวมถึงโคลเอ้ ทุกคนล้วนเป็นเพื่อนของเลทิเซีย และความเศร้าที่เลทิเซียแสดงออกมานั้นคือความจริง

แต่หลังจากนั้นได้ไม่ถึงสัปดาห์.. เลทิเซียก็หายเศร้า ไม่สามารถสัมผัสถึงความเศร้าจากตัวเธอได้เลย..

จึงมีคนคาดเดาไปต่างๆ นานาว่าความเศร้าในตอนแรกมันแค่การเสแสร้งของเลทิเซีย เธอน่ะเป็นคนฆ่าเพื่อนตัวเองปิดปากซะมากกว่า

เพราะกลัวว่าเรื่องที่ตัวเองฆ่าคนทั้งอาณาจักรไปจะถูกเผยออกมา เลยฆ่าคนที่เกี่ยวข้องอย่างเซเรสและสเตฟานี่

โคลเอ้ที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กมาเห็นพอดี แต่เลทิเซียก็ไหวตัวทันเลยไล่ฆ่าโคลเอ้จนออกนอกโรงเรียนได้สำเร็จ

ถึงพวกเขาที่ตั้งข้อสงสัยเหล่านี้จะไม่รู้ว่าทำไมเลทิเซียถึงสามารถฆ่าผู้กล้าสองคนได้แถมยังทำลายอาณาจักรหนึ่งได้ก็ตามแต่…

ทว่า..คนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นแบบที่เห็นชัดก็มีแค่เลทิเซียนี่แหละ ซึ่งแน่นอนว่ามันจำเป็นต้องมีใครสักคนมาถูกโทษ

มีใครสักคนมาให้ผู้คนเกลียดชัง.. ซึ่งเลทิเซียเป็นคนที่เกี่ยวข้องเพียงคนเดียวที่อยู่รอดเธอเลยถูกกล่าวโทษไปโดยปริยาย

แม้ว่าจะไม่มีมูลอะไรเลยก็ตาม.. แถมคนที่ถูกลักพาตัวคือเลทิเซียนะ ทำไมคนที่ถูกลักพาตัวถึงได้กลายเป็นคนร้ายซะเองได้ล่ะ..

แน่นอนว่าทุกอย่างที่กล่าวมาเป็นแค่ข่าวลือ ยังไงซะตัวของเลทิเซียก็เป็นคนที่มีฐานแฟนคลับในโรงเรียนเยอะ

เพราะเธอเป็นเด็กน่ารัก…

แต่ถึงแบบนั้นถ้าตัวของเวโรเน่ยืนยันว่าเลทิเซียแข็งแกร่งออกมาแบบสิบส่วนขนาดนั้น ก็อาจจะทำให้เรื่องของเลทิเซียแดงขึ้นมาอีกรอบ

เพราะงั้น เธอในตอนนี้ถึงได้เหงื่อไหลออกมา…

“เอ่อ.. คือว่าพอดีข้าเคยเห็นเลทิเซียใช้เวทมนตร์น่ะ เพราะก่อนหน้านี้เธอมาเรียนซ่อมกับฉันเลยคิดว่าเด็กคนนี้มีแววน่ะ”

อาจารย์ลิเลียน่ามองเวโรเน่ด้วยสายตาหรี่ลงเล็กน้อย

“หืม.. เป็นแบบนั้นงั้นเหรอ..? ไม่ใช่ว่าคุณเวโรเน่รู้จักคุณเลทิเซียก่อนหน้านั้นงั้นเหรอ.. เพราะท่าทางของคุณมันบอกแบบนั้นน่ะ”

เวโรเน่ยิ่งรู้สึกเสียวสันหลังมากกว่าเดิม.. แต่เธอก็ยังคงตีหน้าเซ่อต่อไปในใจคิดแผนมากมายขึ้นมา

หากปฏิเสธออกไปคงไม่ใช่เรื่องดี. เพราะเธอจะยิ่งซักไซร้หนัก.. เวโรเน่ไม่ต้องการหัวข้อแบบนั้นเธอจึงกล่าว

“แน่นอนว่ารู้จักมาก่อน เพราะข้ารู้จักกับพ่อของเด็กคนนั้นน่ะ..”

“แบบนี้เองสินะคะ..”

อาจารย์ลิเลียน่าหรี่ตาลงแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร.. พอเห็นท่าทางของอาจารย์ลิเลียน่าเวโรเน่ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

หรือว่าลิเลียน่าคือหนึ่งในคนที่ตั้งข้อสงสัยกับตัวของเลทิเซีย.. ในตอนนี้จะมีคนอยู่ประมาณสามฝ่าย ฝ่ายที่เชื่อว่าเลทิเซียไม่เกี่ยวข้อง

ฝ่ายที่ไม่ได้สนใจอะไรแบบนี้อยู่แล้ว.. กับฝ่ายที่พยายามยุยงและตั้งข้อสงสัยกับเลทิเซียและแอบปล่อยข่าวลือแย่ๆ ของเลทิเซีย

“ช่างมันเถอะค่ะ.. ยังไงซะฉันก็ไม่ได้สนใจมันอยู่แล้วล่ะ”

“นั่นสินะ ฮะๆ ”

เวโรเน่ขมวดคิ้วแต่ก็หัวเราะออกมา.. ทว่าเธอได้จดจำลิเลียน่าเอาไว้แล้ว

สำหรับคนที่ต้องการจะใส่ร้ายป้ายสีเลทิเซียน่ะ.. ถึงแม้เวโรเน่รู้ว่ามันจะไม่เป็นอะไร.. แต่สำหรับเธอแล้วเธอไม่อยากให้เลทิเซียรู้สึกแย่กับอะไรแบบนี้

เพราะเลทิเซียร้องแบกรับความเจ็บปวดในการสูญเสียเพื่อนที่ผ่านมาแล้วและในอนาคตที่กำลังจะเกิดด้วยนั่นก็มากพอแล้ว ขืนมากกว่านั้นเลทิเซียจะพังซะก่อน…

เพราะงั้นหากมีใครสักคนจะกล่าวหาเลทิเซีย และอาจจะทำให้เลทิเซียรู้สึกแย่ขึ้นมาจริงๆ ละก็..

เวโรเน่ก็คงต้อง….. ลงมือฆ่าพวกมันทิ้งซะ!

◇◆◇

ณ ปราสาทของจอมมารในดินแดนปีศาจ

“ท่านจอมมารไพซิสหายหัวไปไหนของท่านอีกแล้วเนี่ย!!!”

ในห้องพักของจอมมารที่ควรจะมีท่านจอมมารนั่งทำงานอยู่ กลับไม่เห็นมีใครนั่งอยู่เลยนอกจากกองเอกสาร..

และเลขาของจอมมารอย่างขุนนางปีศาจยืนอยู่.. เขามีชื่อเบมัส.. เขาเป็นคนสนิทของจอมมารไพซิส

หนึ่งในสิบสองจอมมารผู้นำของเหล่ามวลมารทั้งหมด.. เบมัสเดินไปเจอกระดาษแผ่นหนึ่งที่จอมมารทิ้งไว้

….เบมัส ข้าจะออกไปตามหาคนที่จัดการเจ้าผู้กล้าหน้าโง่สองคนนั่นสักหน่อยนะ ส่วนเจ้าฝากทำงานให้ข้าด้วย.. แล้วก็ข้าอาจจะเดินทางนานหน่อยเพราะข้าจะไม่เป็นแล้วจอมมาร จะไปเป็นนักสืบแทนแล้ว แค่คิดก็น่าสนุกแล้ว.. ตื่นเต้นชะมัดเลยว่าไหม ฮ่าๆ … ไม่ต้องถามนะข้าตามหาทำไม แน่นอนว่าต้องสู้กันอยู่แล้ว!แล้วก็เมื่อหลายเดือนก่อนข้าสัมผัสได้ว่ามีจอมมารคนหนึ่งใช้ ‘ร่างมาร’ ที่ควรจะถูกผนึกเอาไว้แท้ๆ .. แต่นั่นแหละข้าจะตามหาเจ้านั่นด้วย

ด้วยรักจากท่านจอมมารของเบมัส

ไพซิส เค เบเรสต้า…..

เมื่อเบมัสอ่านจบ.. ดวงตายองเขาก็แดงก่ำด้วยความโกรธ..

“ยัยจอมมารบ้าการต่อสู้นั่น!!!… อ้ากกก ข้าจะลาออก ขี้เกียจตามเช็ดก้นให้เจ้าแล้วเว้ย!”

“……”

“…”

“ถ้าลาออกได้.. ข้าคงลาออกไปนานแล้วล่ะ เฮ้อ”

จู่ๆ น้ำตาของเบมัสปีศาจชนชั้นขุนนางก็ไหลออกมา.. ใช่ น้ำตาของเขาไหลออกมา หันไปมองกองเอกสารที่เรียกร้องค่าเสียหายที่ท่านจอมมารของเขาไปอาละวาดที่อาณาจักรอื่นมา

จอมมารไพซิส.. ผู้บ้าคลั่งนั้นเคยไปบุกอาณาจักรอื่นทำลายบ้านเมืองเขาเพราะอยากจะต่อยกับคนอื่น..

แดนปีศาจก็มีกฎเกณฑ์ของแดนปีศาจ ซึ่งผลลัพธ์ของความบ้านั้นก็คือ ใบเรียกร้องค่าเสียหายที่กองพะเนินเป็นผู้เขา

ฉายาที่จอมมารคนอื่นเรียกเธอคือ.. หมาบ้าไพซิส

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เลทิเซียกับชีวิต(ไม่)ธรรมดาในโรงเรียนเวทมนตร์ 8: การตายของสองผู้กล้า

Now you are reading เลทิเซียกับชีวิต(ไม่)ธรรมดาในโรงเรียนเวทมนตร์ Chapter 8: การตายของสองผู้กล้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ปี 1

บทที่ 8 – การตายของสองผู้กล้า

 

และก็อย่างที่ว่าไปข้างต้น เลทิเซียถูกย้ายไปอยู่ห้อง A.. เด็กจากห้องพิเศษที่ถูกย้ายมาห้อง A มีแค่สามคนซึ่งมี เลทิเซีย อเล็กเซียและผู้ชายอีกคนหนึ่ง

ด้วยความที่งานประลองคัดเลือกนักเรียนแห่งความภาคภูมิใจกระชั้นชิดเข้ามาแล้ว ทำให้เช้าวันรุ่งขึ้นทุกคนออกเดินทางไปพร้อมกับอาจารย์ประจำชั้นทันที

ห้อง A มีอาจารย์ประจำชั้นเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เธออายุไม่มากอายุประมาณยี่สิบต้นๆ เพียงเท่านั้นผมสีเทาๆ อ่อนๆ สวมแว่นกลมๆ

เธอมีนิสัยค่อนข้างซุ่มซ่ามในระดับหนึ่งมีชื่อว่า อลิซ.. แต่ว่ากันว่าเธอคือนักเล่นแร่แปรธาตุที่เก่งที่สุดในโรงเรียนนี้เลยล่ะ

ถึงจะซุ่มซ่ามไปหน่อย.. ถามว่าซุ่มซ่ามขนาดไหนก็วันที่ต้องพานักเรียนออกไปหากำจัดสัตว์อสูรเพื่อเป็นตัวแทนโรงเรียนนั้น..

เจ้าตัวดันมาไม่สบายพอดีเนี่ยสิ.. ซึ่งสาเหตุที่ไม่สบายเพราะเมื่อวานนี้เจ้าตัวเล่นโดดลงไปในทะเลสาบที่ล้อมรอบโรงเรียนอยู่เพื่อไปหาเศษซากกระดูกสัตว์ทะเล

เพื่อนำมาแปรธาตุเป็นเสื้อผ้าให้นักเรียนใส่ เพราะเธอกลัวว่านักเรียนจะบาดเจ็บจากการเดินทาง แต่กลายเป็นว่าเจ้าตัวดันไม่สบายเอง

โรงเรียนลิเบอร์นั้นตั้งอยู่กลางทะเลสาบขนาดใหญ่ ทางเข้าเดียวที่เข้ามาโรงเรียนลิเบอร์ได้คือสะพานหน้าโรงเรียนที่ลากยาวไปถึงเมืองท่าไร้อาณา

เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ห่างจากโรงเรียนลิเบอร์ไม่กี่ร้อยเมตร ซึ่งการจะเข้ามาโรงเรียนลิเบอร์ต้องผ่านเมืองนี้มาก่อนเท่านั้นนั่นเอง

ถือว่าเป็นภูมิประเทศที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เกาะกลางทะเลสาบ.. แต่ก็นั่นแหละเพราะอาจารย์อลิซไม่สบายเลยต้องหาคนมานำห้องเรียนแทน

ซึ่งคนที่ได้มาแทนก็ไม่ใช่ใครที่ไหนอื่นนอกจากอาจารย์เวโรเน่ อาจารย์เวโรเน่เธอเป็นอาจารย์ที่สอนนักเรียนที่เรียนตามไม่ทัน

ง่ายๆ ก็ห้องเรียนซ่อมเสริมนั่นแหละ ซึ่งพออลิซไม่ว่างอาจารย์เวโรเน่เลยได้มาทำหน้าที่แทนนั่นเอง.. อาจารย์เวโรเน่นั้นรู้จักกับเลทิเซียอยู่

เคยมีเรื่องกันนิดหน่อย..

◇◆◇

เช้าตรู่วันที่ต้องเดินทาง ในห้องพักครูมีอาจารย์เวโรเน่นั่งอยู่คนเดียว เพราะยังไม่มีอาจารย์คนไหนเข้ามาตั้งแต่เช้าตรู่ขนาดนี้

ทางด้านอาจารย์เวโรเน่เธอก็กำลังนั่งจดเอกสารของตัวเองอยู่เธอครุ่นคิดเล็กน้อยพร้อมกับพึมพำด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย

“ตอนนี้.. สเตฟานี่ เซเรส โคลเอ้และอันน่า เสียชีวิตไปแล้ว.. คนต่อไปจะเริ่มในอีกห้าปีข้างหน้าสินะ”

“ท่านพี่..อีกไม่นานพวกเราจะได้เจอกันแล้วใช่ไหม… เลทิเซียที่รู้จักฉันจะกลับคืนมาใช่ไหม..? ถ้าปล่อยทุกอย่างมันเป็นแบบนี้”

แต่ในตอนนั้นเองก็มีคนเปิดประตูห้องพักครูเข้ามา.. ซึ่งคนที่เดินเข้ามาก็คืออาจารย์ลิเลียน่า เธอเห็นอาจารย์เวโรเน่เธอก็ทักขึ้น

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณเวโรเน่”

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ อาจารย์ลิเลียน่า”

ทั้งคู่ทักทายกันตามปกติ ลิเลียน่าก็เดินไปที่เก้าอี้ของเธอแล้วก็นั่งลงก่อนที่จะถามบางอย่างขึ้นมา

“จริงสิ คุณเวโรเน่วันนี้ต้องพาห้อง A ไปคัดเลือกตัวแทนโรงเรียนงั้นสินะ คิดว่ายังไงคะ คิดว่าใครในห้อง A จะได้เป็นตัวแทนเหรอคะ?”

“เลทิเซีย”

“หือ ตอบไม่คิดเลยเหรอ.. จะว่าไปคนที่ให้คุณเลทิเซียเป็นตัวแทนโรงเรียนรอบก่อนหน้านี้ก็คือคุณด้วยนี่น่า”

“….”

เวโรเน่ที่เผลอพูดออกไปก็เหงื่อตกทันที.. อ่า แย่แล้วเผลอพูดออกไปโดยไม่คิดอีกแล้ว.. จริงอยู่ที่หากวัดความสามารถเท่าที่อาจารย์เวโรเน่รู้จักมา

คนที่แข็งแกร่งที่สุดคงเป็นเลทิเซียอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนอเล็กเซียนี่เธอไม่ค่อยมั่นใจแต่ไม่น่าจะแข็งแกร่งเท่าเลทิเซียหรอกมั้ง

ซึ่งความแข็งแกร่งเลทิเซียแทบจะไม่ใช่ความแข็งแกร่งนักเรียนแล้ว.. แต่ถ้าหากเวโรเน่เธอออกหน้าออกตาไวเกินไปละก็..

เดี๋ยวโดนหาว่าเข้าข้างเลทิเซียอีก.. ไม่เพียงแค่นั้นด้วย หลายเดือนก่อนได้มีโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นที่อาณาจักรแห่งหนึ่ง

ซึ่งโศกนาฏกรรมในครั้งนั้นได้พรากเอาชีวิตของคนจำนวนมากไป.. เพราะสิ่งที่เรียกว่า ‘แสงเทพมารมรณะ’ คนในอาณาจักรแห่งนั้นตายไปมากกว่าแปดในสิบส่วน

ซึ่งคนที่ปกครองอาณาจักรแห่งนั้นอยู่คือพี่น้องที่เป็นผู้กล้า น้องสาวมีชื่อว่า เลมิสทาเรีย ส่วนพี่ชายมีชื่อว่าไบรอัส

ทั้งสองคนเองก็ตายในโศกนาฏกรรมครั้งนั้น.. ใช่แล้ว ผู้กล้าสองคนตายในเรื่องราวนั้น.. นั่นหมายความว่าไง

ผู้กล้าที่แข็งแกร่งเป็นอันดับต้นๆ ของโลก.. ถูกฆ่าตาย!

ซึ่งก่อนหน้าที่จะเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นนั้นตัวของเลมิสทาเรียได้แอบลอบเข้าในงานแข่งคัดเลือกหานักเรียนแห่งความภาคภูมิใจและได้ต่อสู้กับเลทิเซีย

และจู่ๆ ผู้กล้าเลมิสทาเรียก็ได้ก่อความวุ่นวายในขณะที่ต่อสู้กับเลทิเซียเธอได้ลักพาตัวเลทิเซียและหายตัวไป

ซึ่งในคืนนั้นเองก็ได้เกิด ‘แสงเทพมารมรณะ’ ขึ้นที่อาณาจักรของเลมิสทาเรีย และผู้กล้าสองคนนั้นก็ตาย.. นั่นหมายความว่าเลทิเซียอาจจะมีความเกี่ยวข้อง

แม้อาจจะเป็นสิ่งที่ยากจะเชื่อ.. แต่ก็มีคนไม่น้อยที่สงสัยเลทิเซียว่าเป็นต้นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมและการตายของผู้กล้าสองคน

แต่ถึงแบบนั้นในเหตุการณ์ครั้งนั้น เพื่อนคนหนึ่งของเลทิเซียได้อยู่ในอาณาจักรแห่งนั้นและเธอก็ ‘ตาย’ ไปพร้อมกัน

ซึ่งเธอคนนั้นมีชื่อว่า ‘สเตฟานี่’

ทำให้ข้อกล่าวหาที่จะกล่าวหาเลทิเซียถูกลดลงอย่างมาก เจ้าตัวคงไม่ฆ่าเพื่อนตัวเองอีก.. แต่ความซวยซ้ำซวยซ้อนของเลทิเซียยังไม่หมด

เพื่อนอีกคนของเธอได้ ‘แขวนคอ’ ตายที่ห้องพยาบาลของโรงเรียน ซึ่งเพื่อนคนนั้นก็อยู่ในเหตุการณ์เหมือนกัน

เธอคนนั้นมีชื่อว่า ‘เซเรส’

และต่อมาเพื่อนอีกคนของเธอก็ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมทางป่าที่อยู่ห่างจากเมืองท่าหน้าโรงเรียนลิเบอร์ไปหลายร้อยเมตร

สภาพศพคือถูกกรีดเนื้อเถือหนัง ใบหน้าของศพแสดงถึงความสิ้นหวังและความเจ็บปวดอย่างหาใดเปรียบ

เธอคนนั้นมีชื่อว่า ‘โคลเอ้’

ผู้เป็รเพื่อนสมัยเด็กที่ฝึกวิชาดาบมาด้วยกันของเลทิเซีย.. ใช่แล้วสามคนที่กล่าวไปพึ่งตายไปเมื่อหนึ่งเดือนก่อน

ทุกคนล้วนเกี่ยวข้องกับเลทิเซียทั้งสิ้น.. เซเรสและสเตฟานี่รวมถึงโคลเอ้ ทุกคนล้วนเป็นเพื่อนของเลทิเซีย และความเศร้าที่เลทิเซียแสดงออกมานั้นคือความจริง

แต่หลังจากนั้นได้ไม่ถึงสัปดาห์.. เลทิเซียก็หายเศร้า ไม่สามารถสัมผัสถึงความเศร้าจากตัวเธอได้เลย..

จึงมีคนคาดเดาไปต่างๆ นานาว่าความเศร้าในตอนแรกมันแค่การเสแสร้งของเลทิเซีย เธอน่ะเป็นคนฆ่าเพื่อนตัวเองปิดปากซะมากกว่า

เพราะกลัวว่าเรื่องที่ตัวเองฆ่าคนทั้งอาณาจักรไปจะถูกเผยออกมา เลยฆ่าคนที่เกี่ยวข้องอย่างเซเรสและสเตฟานี่

โคลเอ้ที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กมาเห็นพอดี แต่เลทิเซียก็ไหวตัวทันเลยไล่ฆ่าโคลเอ้จนออกนอกโรงเรียนได้สำเร็จ

ถึงพวกเขาที่ตั้งข้อสงสัยเหล่านี้จะไม่รู้ว่าทำไมเลทิเซียถึงสามารถฆ่าผู้กล้าสองคนได้แถมยังทำลายอาณาจักรหนึ่งได้ก็ตามแต่…

ทว่า..คนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นแบบที่เห็นชัดก็มีแค่เลทิเซียนี่แหละ ซึ่งแน่นอนว่ามันจำเป็นต้องมีใครสักคนมาถูกโทษ

มีใครสักคนมาให้ผู้คนเกลียดชัง.. ซึ่งเลทิเซียเป็นคนที่เกี่ยวข้องเพียงคนเดียวที่อยู่รอดเธอเลยถูกกล่าวโทษไปโดยปริยาย

แม้ว่าจะไม่มีมูลอะไรเลยก็ตาม.. แถมคนที่ถูกลักพาตัวคือเลทิเซียนะ ทำไมคนที่ถูกลักพาตัวถึงได้กลายเป็นคนร้ายซะเองได้ล่ะ..

แน่นอนว่าทุกอย่างที่กล่าวมาเป็นแค่ข่าวลือ ยังไงซะตัวของเลทิเซียก็เป็นคนที่มีฐานแฟนคลับในโรงเรียนเยอะ

เพราะเธอเป็นเด็กน่ารัก…

แต่ถึงแบบนั้นถ้าตัวของเวโรเน่ยืนยันว่าเลทิเซียแข็งแกร่งออกมาแบบสิบส่วนขนาดนั้น ก็อาจจะทำให้เรื่องของเลทิเซียแดงขึ้นมาอีกรอบ

เพราะงั้น เธอในตอนนี้ถึงได้เหงื่อไหลออกมา…

“เอ่อ.. คือว่าพอดีข้าเคยเห็นเลทิเซียใช้เวทมนตร์น่ะ เพราะก่อนหน้านี้เธอมาเรียนซ่อมกับฉันเลยคิดว่าเด็กคนนี้มีแววน่ะ”

อาจารย์ลิเลียน่ามองเวโรเน่ด้วยสายตาหรี่ลงเล็กน้อย

“หืม.. เป็นแบบนั้นงั้นเหรอ..? ไม่ใช่ว่าคุณเวโรเน่รู้จักคุณเลทิเซียก่อนหน้านั้นงั้นเหรอ.. เพราะท่าทางของคุณมันบอกแบบนั้นน่ะ”

เวโรเน่ยิ่งรู้สึกเสียวสันหลังมากกว่าเดิม.. แต่เธอก็ยังคงตีหน้าเซ่อต่อไปในใจคิดแผนมากมายขึ้นมา

หากปฏิเสธออกไปคงไม่ใช่เรื่องดี. เพราะเธอจะยิ่งซักไซร้หนัก.. เวโรเน่ไม่ต้องการหัวข้อแบบนั้นเธอจึงกล่าว

“แน่นอนว่ารู้จักมาก่อน เพราะข้ารู้จักกับพ่อของเด็กคนนั้นน่ะ..”

“แบบนี้เองสินะคะ..”

อาจารย์ลิเลียน่าหรี่ตาลงแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร.. พอเห็นท่าทางของอาจารย์ลิเลียน่าเวโรเน่ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

หรือว่าลิเลียน่าคือหนึ่งในคนที่ตั้งข้อสงสัยกับตัวของเลทิเซีย.. ในตอนนี้จะมีคนอยู่ประมาณสามฝ่าย ฝ่ายที่เชื่อว่าเลทิเซียไม่เกี่ยวข้อง

ฝ่ายที่ไม่ได้สนใจอะไรแบบนี้อยู่แล้ว.. กับฝ่ายที่พยายามยุยงและตั้งข้อสงสัยกับเลทิเซียและแอบปล่อยข่าวลือแย่ๆ ของเลทิเซีย

“ช่างมันเถอะค่ะ.. ยังไงซะฉันก็ไม่ได้สนใจมันอยู่แล้วล่ะ”

“นั่นสินะ ฮะๆ ”

เวโรเน่ขมวดคิ้วแต่ก็หัวเราะออกมา.. ทว่าเธอได้จดจำลิเลียน่าเอาไว้แล้ว

สำหรับคนที่ต้องการจะใส่ร้ายป้ายสีเลทิเซียน่ะ.. ถึงแม้เวโรเน่รู้ว่ามันจะไม่เป็นอะไร.. แต่สำหรับเธอแล้วเธอไม่อยากให้เลทิเซียรู้สึกแย่กับอะไรแบบนี้

เพราะเลทิเซียร้องแบกรับความเจ็บปวดในการสูญเสียเพื่อนที่ผ่านมาแล้วและในอนาคตที่กำลังจะเกิดด้วยนั่นก็มากพอแล้ว ขืนมากกว่านั้นเลทิเซียจะพังซะก่อน…

เพราะงั้นหากมีใครสักคนจะกล่าวหาเลทิเซีย และอาจจะทำให้เลทิเซียรู้สึกแย่ขึ้นมาจริงๆ ละก็..

เวโรเน่ก็คงต้อง….. ลงมือฆ่าพวกมันทิ้งซะ!

◇◆◇

ณ ปราสาทของจอมมารในดินแดนปีศาจ

“ท่านจอมมารไพซิสหายหัวไปไหนของท่านอีกแล้วเนี่ย!!!”

ในห้องพักของจอมมารที่ควรจะมีท่านจอมมารนั่งทำงานอยู่ กลับไม่เห็นมีใครนั่งอยู่เลยนอกจากกองเอกสาร..

และเลขาของจอมมารอย่างขุนนางปีศาจยืนอยู่.. เขามีชื่อเบมัส.. เขาเป็นคนสนิทของจอมมารไพซิส

หนึ่งในสิบสองจอมมารผู้นำของเหล่ามวลมารทั้งหมด.. เบมัสเดินไปเจอกระดาษแผ่นหนึ่งที่จอมมารทิ้งไว้

….เบมัส ข้าจะออกไปตามหาคนที่จัดการเจ้าผู้กล้าหน้าโง่สองคนนั่นสักหน่อยนะ ส่วนเจ้าฝากทำงานให้ข้าด้วย.. แล้วก็ข้าอาจจะเดินทางนานหน่อยเพราะข้าจะไม่เป็นแล้วจอมมาร จะไปเป็นนักสืบแทนแล้ว แค่คิดก็น่าสนุกแล้ว.. ตื่นเต้นชะมัดเลยว่าไหม ฮ่าๆ … ไม่ต้องถามนะข้าตามหาทำไม แน่นอนว่าต้องสู้กันอยู่แล้ว!แล้วก็เมื่อหลายเดือนก่อนข้าสัมผัสได้ว่ามีจอมมารคนหนึ่งใช้ ‘ร่างมาร’ ที่ควรจะถูกผนึกเอาไว้แท้ๆ .. แต่นั่นแหละข้าจะตามหาเจ้านั่นด้วย

ด้วยรักจากท่านจอมมารของเบมัส

ไพซิส เค เบเรสต้า…..

เมื่อเบมัสอ่านจบ.. ดวงตายองเขาก็แดงก่ำด้วยความโกรธ..

“ยัยจอมมารบ้าการต่อสู้นั่น!!!… อ้ากกก ข้าจะลาออก ขี้เกียจตามเช็ดก้นให้เจ้าแล้วเว้ย!”

“……”

“…”

“ถ้าลาออกได้.. ข้าคงลาออกไปนานแล้วล่ะ เฮ้อ”

จู่ๆ น้ำตาของเบมัสปีศาจชนชั้นขุนนางก็ไหลออกมา.. ใช่ น้ำตาของเขาไหลออกมา หันไปมองกองเอกสารที่เรียกร้องค่าเสียหายที่ท่านจอมมารของเขาไปอาละวาดที่อาณาจักรอื่นมา

จอมมารไพซิส.. ผู้บ้าคลั่งนั้นเคยไปบุกอาณาจักรอื่นทำลายบ้านเมืองเขาเพราะอยากจะต่อยกับคนอื่น..

แดนปีศาจก็มีกฎเกณฑ์ของแดนปีศาจ ซึ่งผลลัพธ์ของความบ้านั้นก็คือ ใบเรียกร้องค่าเสียหายที่กองพะเนินเป็นผู้เขา

ฉายาที่จอมมารคนอื่นเรียกเธอคือ.. หมาบ้าไพซิส

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+