แพทย์เทวะ หัตถ์ปีศาจ 709 วิกฤตของซูชื่อ

Now you are reading แพทย์เทวะ หัตถ์ปีศาจ Chapter 709 วิกฤตของซูชื่อ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 709 วิกฤตของซูชื่อ

 

เช่นเดียวกับที่กซูถูกตบหน้าด้วยคําว่า “สิ่งที่เห็นนั้นมีไม่มากนัก” มีแต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าพระราชวังในราชวงศ์ต้าชุนต้องต่อสู้กับน้ําหอมที่มีเอกลักษณ์ของพวกเขามากแค่ไหน!นางไม่เข้าใจว่าองค์หญิงจีอันได้รับน้ําหอมที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้มาจากที่ไหน ? นอกจากนี้ยังมีเป็นขวด มันทําให้นางไม่แน่ใจ

 

ในเวลานี้เฟิงหยูเฮงกล่าวว่า “องค์หญิงแห่งกูซูก็เห็นคุณภาพของสิ่งต่าง ๆ ที่ราชวงศ์ต้าชุนของเรามีเราจะอยากได้น้ําหอมพันกลิ่นของเจ้ามาทําอะไร”

 

องค์หญิงแห่งภูซูไม่พูดอะไร

 

เฟิงหยูเฮงยิ้มแล้วหันไปพูดกับฮ่องเต้ “เสด็จพ่อ มันไม่ง่ายเลยที่อาเฮงจะผลิตน้ําหอมแบบนี้ข้าไม่สามารถผลิตได้มากในแต่ละปี แต่จากวันนี้เป็นต้นไป ข้ายังต้องการที่จะนําเสนอของขวัญปีใหม่ที่จะมอบให้กับพระสนมของฮ่องเต้ในตําหนักใน ไม่เป็นไร ถ้าเราไม่ได้รับน้ําหอมของกูซูเพคะ”

 

เมื่อพระสนมของฮ่องเต้ได้ยินเรื่องนี้ พวกเขาทั้งหมดต่างยิ้มกว้างและไม่สามารถหุบปากได้ฮองเฮาพยักหน้า ก่อนฮ่องเต้จะพูด ฮองเฮากล่าวว่า “นั่นเป็นเรื่องธรรมชาติ ด้วยการผลิตน้ําหอมของอาเฮงเราจะเอาน้ําหอมจากกูซูมาทําอะไร” หลังจากพูดอย่างนี้ นางพูดกับองค์หญิงแห่งกูซู “องค์หญิงเจ็ดอย่าตําหนิข้าที่พูดมากเกินไป หากคนของกูซูของเจ้าชอบน้ําหอมประเภทนี้เพียงแค่นํามันกลับมาและทําการวิจัยเพื่อใช้สําหรับตัวเจ้าเอง แต่สิ่งที่มีกลิ่นเช่นนั้นไม่ควรนํามาใช้ในราชวงศ์ต้าชุน ข้าเชื่อว่าบรรดาฮูหยินและคุณหนูยังไม่อยากเสี่ยงต่อการไม่มีบุตรด้วยกลิ่นนี้ใช่หรือไม่ ? ”

 

เมื่อผู้คนได้ยินเช่นนี้ พวกเขาทั้งหมดพยักหน้าและเห็นด้วย “พวกเราย่อมไม่กล้าเป็นธรรมดาเพคะ”

 

ฮองเฮาพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ถ้าเจ้าเข้าใจเหตุผลนี้ก็เป็นเรื่องดี” จากนั้นนางมองไปที่องค์หญิงแห่งกูซู และกล่าวเพิ่มเติมว่า “องค์หญิงเจ็ดกลับไปภาคใต้ในวันพรุ่งนี้ ข้าจะส่งคนไปส่งเจ้ากลับ สําหรับการเดินทางมาราชวงศ์ต้าชุนครั้งนี้ กูซูไม่ได้ส่งคําขอมาอย่างเป็นทางการ ดังนั้นถือว่าเป็นการเดินทางมาส่วนตัว มันจะไม่เหมาะสมที่จะเจ้าจะรั้งอยู่นาน เจ้าต้องระมัดระวังในการเดินทางของเจ้าโดยเฉพาะกับน้ําหอมพันกลิ่น เจ้าต้องปกป้องมันอย่างระมัดระวัง ไม่ให้ตกแม้ แต่ครั้งเดียวหากยังคงอยู่ในดินแดนของราชวงศ์ต้าชุน”

 

ในตอนท้ายสีหน้าของฮองเฮาได้กลายเป็นเย็นชา องค์หญิงเจ็ดแห่งกูซูไม่ใช่คนโง่ นางรู้ว่าอีกฝ่ายสั่งให้แขกออกไป ดังนั้นนางจึงพยักหน้า หลังจากคํานับนางก็กลับไปนั่ง

 

เฟิงหยูเองไม่ได้อยู่ในสถานที่ต่อไป ในเวลานี้ผู้คนที่หนีจากกลิ่นก็กลับเข้ามาที่ห้องโถงเสียงดนตรีและการร่ายรําเริ่มบรรเลงอีกครั้ง

 

ในขณะที่นางกลับไปที่ที่นั่งของนาง นางจงใจเดินผ่านองค์หญิงแห่งกูซู และทําให้องค์หญิงแห่งกูซูกัดฟันด้วยความโกรธ ด้วยสายตาที่โกรธแค้น นางจ้องมองเชิงหยูเฮง ความเกลียดชังถูกเขียนไว้บนใบหน้าของนาง อย่างไรก็ตามเฟิงหยูเฮงไม่ได้สนใจ นางทําตัวราวกับว่านางไม่ได้เห็นมัน อย่างไรก็ตามเสียงเย็นชาของนางเข้ามาในหูของเจ้าหญิงกูซู “มันคืออะไร ? เจ้าเกลียดข้าหรือ ? “

 

องค์หญิงแห่งกูซูไม่ได้หลีกเลี่ยงเลย และกล่าวว่า “ข้าเกลียดที่ข้าไม่สามารถบีบคอเจ้าให้ตายได้”

 

เพิ่งหยูเฮงหัวเราะ “เจ้าไม่ใช่คนเดียวที่ต้องการบีบคอให้ข้าให้ตาย แต่เท่าที่เห็นมันยังไม่ถึงตาเจ้า รอสักครู่ !”

 

ขวดน้ําหอมดิออร์ทําให้เฟิงหยูเฮงกู้หน้าของราชวงศ์ต้าชุน ผู้คนลืมไปแล้วว่ากี่ครั้งแล้วที่องค์หญิงผู้นี้พยายามอย่างยิ่งที่จะให้ภาพลักษณ์ของราชวงศ์ต้าชุนดี พวกเขาเพิ่งรู้ว่าองค์หญิงจีอันผู้นี้ไม่ว่าสถานการณ์ของราชวงศ์ต้าชุนจะย่ําแย่เพียงใด มันจะไม่ใช่สถานการณ์ที่สิ้นหวัง

 

เห็นได้ชัดว่าฮ่องเต้ก็คิดเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงยกจอกสุราขึ้นและยกมันขึ้นไปยังตําแหน่งที่เปิงหยูเฮงอยู่ เฟิงหยูเฮงลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและดื่มด้วยความเคารพต่อฮ่องเต้

 

ฉากนี้ไม่ได้มีอะไรมากมายสําหรับขุนนางจากเมืองหลวงรวมถึงบรรดาฮูหยินและคุณหนูส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามจะมีแขกกลุ่มเล็ก ๆ จากนอกมณฑลที่เริ่มมีความรู้สึกไม่ดีในใจโดยเฉ พาะผู้หญิงที่เก่งเรื่องการกระตุ้น ในทันทีมีคนที่เริ่มกระตุ้นเฟิงเฟินไดว่า “คุณหนูสีองค์หญิงเคย ให้น้ําหอมแบบนั้นกับเจ้าหรือไม่ ?”

 

เฟิงเฟินไดตะโกนอย่างเย็นชา “เป็นไปได้อย่างไร นั่นเป็นสิ่งที่พระสนมของฮ่องเต้เท่านั้นที่สามารถใช้ได้”

 

“ใช่ ! นั่นคือสิ่งที่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าคนอื่นจะไม่ได้รับส่วนแบ่ง เจ้าก็เป็นน้องสาวของนาง เจ้าไม่ได้รับส่วนแบ่งได้อย่างไร”

 

เป็นไดรู้สึกอิจฉาอย่างยิ่งและนางโลภมาก เมื่อได้ยินถึงการยั่วยุ นางก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ยุติธรรม มีบางคนที่ชอบดูกิจกรรมที่มีชีวิตชีวาโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่หลุดมือไป พวกนางยังคงผลักดันนางต่อไปโดยกล่าวว่า “พี่น้องควรช่วยเหลือซึ่งกันและกันปัจจุบันนางมีตําแหน่งที่

 

ทรงพลัง แต่ในไม่กี่วันนับตั้งแต่เรามาถึงเมืองหลวง เราได้ยินมาว่าตระกูลเพิ่งมีชีวิตที่ย่ําแย่มากดู เหมือนว่านางจะไม่ใส่ใจเจ้า ข้ารู้สึกเสียใจแทนคุณหนูสี่จริง ๆ ”

 

เชิงเฟินไดเริ่มโกรธขึ้นมาเมื่อได้ยินพวกนางพูดสิ่งเหล่านี้ แต่ถ้าความโกรธนั้นลุกยืด ? นางมีประสบการณ์มากในการติดต่อกับเฟิงหยูเฮง และพวกนางล้วนแต่ประสบความพ่ายแพ้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากประเภทนี้ แม้ว่านางจะโกรธ นางก็ยังจําได้ว่านางไม่สามารถใช้ความคิดริเริ่มที่จะล่วงเกินพี่สาวคนที่สองของนาง มิฉะนั้นนางจะต้องแบกรับภาระนั้นด้วยตัวเอง ในจิตใจของเฟิงหยูเฮงไม่มีคนตระกูลเฟิงหรือน้องสาวอยู่ มีเพียงคนเดียวที่มีความสําคัญต่อนางคือเพิ่งเซียงหรู

 

เฟิงเฟินไดคิดเช่นนี้ นางจําได้ว่าเฟิงเซียงหรูอาจได้รับน้ําหอมประเภทนั้น และนางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหมือนเป็นคนนอกมากขึ้น

 

บนที่นั่งในห้องโถง ฮ่องเต้นั่งอย่างสบาย ๆ ฉากก่อนหน้านั้นเป็นไปตามที่เขาต้อง การเมื่อคิดย้อนกลับไป เขารู้สึกว่ามันสนุกมาก

 

จางหยวนยืนอยู่ข้าง ๆ และเห็นใบหน้าที่ยินดีของฮ่องเต้ เขาอดใจไม่ไหวแล้วเทน้ําเย็นลงบนอารมณ์ของเขา “ฝ่าบาททรงพอพระทัยเรื่องอะไรพะยะค่ะ ? หากไม่ใช่เพราะองค์หญิงจี้อันนํา ขวดน้ําหอมเข้ามาในพระราชวัง ใครจะรู้ว่าสถานการณ์นี้จะได้รับการแก้ไขอย่างไรพะยะค่ะ !”

 

ฮ่องเต้โบกมือแล้วกล่าวอย่างมั่นใจ “ไม่ต้องห่วง ตราบใดที่ผู้หญิงคนนั้นอยู่ใกล้ นางจะไม่ยอมให้เราอยู่ในสถานการณ์ที่ลําบาก”

 

“ฝ่าบาทจะทรงมั่นใจได้อย่างไร ? ” จางหยวนพูดไร้ประโยชน์ แต่หลังจากคิดไปเล็กน้อยในฉากก่อนหน้านี้ หากพวกเขาไม่ได้ตําหนิองค์หญิงแห่งกูซูสักหน่อย คงไม่ใช่แค่ฮ่องเต้ที่จะตกอยู่ในสถานการณ์ลําบาก มันจะเป็นทั้งหมดของราชวงศ์ต้าชุน ! จากนั้นเขาก็ถอนหายใจด้วยอารมณ์อันที่จริงตราบใดที่องค์หญิงจี้อันอยู่ด้วย ปัญหาทั้งหมดก็จะได้รับการแก้ไข

 

ดนตรีและการร่ายรํายังคงดําเนินต่อไปตลอดงานเลี้ยง อันที่จริงดนตรีและการร่ายรําเป็นเพียงการสร้างบรรยากาศ เบื้องหลังการร่ายรํา ผู้คนต่างพูดคุยและร่วมมือกัน ฮ่องเต้แสร้งทําเป็นฟังเพลงและดูการร่ายรํา แม้กระนั้นเขาไม่เคยพลาดการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างขุนนางเขาเห็นทุกอย่างและเขายังสามารถเห็นปฏิกริยาของผู้คนในบทสนทนาเหล่านี้ งานเลี้ยงไม่มีอะไรมากไปกว่าการทดสอบเขารู้ว่าขุนนางเหล่านี้มีอะไรอยู่ในใจ

 

“อาเฮง” ซวนเทียนเก้อเดินเล่นผ่านงานเลี้ยง เมื่อนางกลับไปที่ด้านข้างของเฟิงหยูเฮง นางกระซิบบอกเฟิงหยูเฮงนางว่า “ข้าเห็นท่านฮูหยินเหยาคนโตติดตามหลู่เหยาออกจากห้องโถง”

 

“หืม ?” เชิงหยูเฮงไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ นางพูดคุยกับเด็ก ๆ นางยุ่งอยู่กับการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ

 

ชวนเทียนเก้อกล่าวต่อ “ดูเหมือนว่านางสงบมาก มันเป็นแค่แม่สามีและลูกสะใภ้ออกไปเดินเล่นงานเลี้ยงได้ดําเนินต่อไปเป็นเวลานาน ไม่มีใครที่สามารถนั่งเฉยต่อได้ ฮองเฮาได้กล่าวไว้แล้วว่าหากฮูหยินและคุณหนูไม่สามารถนั่งนาน ๆ ได้ พวกนางสามารถไปเดินเล่นรอบ ๆ พระราชวังได้มีอุทยานสองสามแห่งพวกนางสามารถเยี่ยมชมได้”

 

เฟิงหยูเฮงพยักหน้าและอยากจะบอกว่ามันดี อย่างไรก็ตามนางรู้สึกไม่สบายใจ หลังจากคิดไปครู่หนึ่ง นางก็หันหน้ามองไปรอบ ๆ งานเลี้ยง นางเห็นว่าหลู่วิ่ง คุณหนูใหญ่ตระกูลหลู่ยืนขึ้นในเวลานี้และพยักหน้าตามทิศทางของนาง จากนั้นนางก็นําบ่าวรับใช้ออกไป

 

ทันใดนั้นเฟิงหยูเฮงยืนขึ้น ทําให้ชวนเทียนเก้อตกใจ นางกล่าวว่า “ข้ารู้สึกเบื่อ ๆ เทียนเก้อเราจะออกไปเดินเล่นกัน”

 

ชวนเทียนเก้อเห็นด้วย “ไปสิ ข้าก็รู้สึกเบื่อมาพักหนึ่งแล้ว” ทั้งคู่ก็เริ่มเดินออกไปพร้อมกับพูดหวงซวนและบ่าวรับใช้ของซวนเทียนเก้อรีบตามมาด้านหลัง เมื่อพวกเขาเดินผ่านจาวเหลียนพวกนางเห็นว่าเขาโอบไหล่ของสาวน้อยผู้หนึ่งและกล่าวเสียงดัง “คนงาม ! เท่าที่ข้าเห็นมันไม่มีผู้ชายแม้แต่คนเดียวในห้องโถงแห่งนี้ที่คู่ควรกับเจ้า !” นี่ทําให้คุณหนูยิ้มสดใสมาก

 

เช่นเดียวกับที่คนไม่กี่คนออกจากห้องโถงสวรรค์ และก่อนที่พวกนางจะพูดถึงว่าพวกนางต้องการไปที่ไหน บ่าวรับใช้ในพระราชวังก็รีบวิ่งไปตามทิศทางของห้องโถง เมื่อมาถึงที่ทางเข้า นางบังเอิญเห็นเชิงหยูเฮง นางก็ไปที่นั่นทันทีและกล่าวว่า “องค์หญิงหรูหยาง, องค์หญิงจีอันรีบไปที่สระบัวเพคะ ! ท่านฮูหยินคนโตของตระกูลเหยาและลูกสะใภ้ของนางตกลงไปในน้ําเจ้าค่ะ !”

 

“อะไรนะ ? ” เฟิงหยูเฮงตกใจมาก นางรู้สึกว่าการที่หลู่เหยาและซูชื่อออกมาด้วยกันจะจบลงด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามนางไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ “นําข้าไป”นางตัดสินใจอย่างรวดเร็วและให้บ่าวรับใช้พาไป ซวนเทียนเก้อก็ไปด้วย พวกเขายกชายกระโปรงของพวกเขาวิ่งไปที่สระบัว

 

สระบัวอยู่ไม่ไกลจากห้องโถงสวรรค์ กลุ่มมาถึงเร็วมาก และเห็นว่ามีคนไม่กี่คนที่สร้างฝูงชน พวกนางทั้งหมดเป็นบรรดาฮูหยินและคุณหนูที่ออกมาเดินเล่น ในเวลานี้มีคุณหนูตะโกนว่า“ไปเรียกขันที่มาเร็ว เราเป็นผู้หญิงและไม่มีใครว่ายน้ําเป็น เราไม่สามารถช่วยพวกนางได้ !”

 

บางคนกล่าวว่า “นางกํานัลไปแล้ว ผ่านมานานแล้วพวกนางก็ยังไม่มาเลย”

 

เฟิงหยูเฮงขมวดคิ้ว มีนางกํานัลและขันทีในอยู่พระราชวัง แต่ทําไมไม่มีขันที่แม้แต่คนเดียวที่อยู่ใกล้สระบัว ? หรือว่าถูกเรียกตัวไป ? เป็นไปได้ไหมที่มีคนส่งพวกเขาทั้งหมดไป ?

 

แต่มีคนกล่าวว่า “ถึงแม้น้ําจะไม่ลึก แต่ก็พืชน้ําอยู่มากมาย ดูเหมือนเท้าของท่านฮูหยินจะถูกพืชน้ําพันอยู่ แม้ว่านางอยากจะยืน นางก็ไม่สามารถยืนตัวตรงได้”

 

“อะไรคือยืนตัวตรง ? ” เด็กสาวอีกคนหนึ่งกระทืบเท้าของนาง “น้ําไม่ลึกก็จริง แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีโคลนใต้น้ํา ? ใครจะยืนได้ หากพวกนางปักเท้าลง พวกนางจะไม่จมลงเหมือนเดิมหรือ !”

 

เฟิงหยูเฮงกังวลเล็กน้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นสายตาอ้อนวอนจากซูชื่อ นางเริ่มวิตกกังวลมากขึ้น แต่ในเวลานี้ต้องมีการสาดจากน้ํา ขณะที่หลู่เหยาตะโกนเรียกนาง “อาเฮง อาเฮงช่วยเราด้วย ! ช่วยเราด้วย ! ” เมื่อนางตะโกน นางก็เริ่มอ่อนแอลงไปเรื่อย ๆ น้ําค่อย ๆ ปกคลุมศีรษะของนางแล้วนางก็หยุดหายใจ ซูชื่อพยายามที่จะดึงนางแต่ไม่สามารถออกแรงได้ร่างกายของนางก็ยังจมลงเรื่อย ๆ

 

เฟิงหยูเฮงต้องการช่วยพวกนาง แม้ว่านางจะมีความสามารถทุกอย่าง แต่ก็มีข้อเสียเปรียบครั้งใหญ่ นางว่ายน้ําไม่เป็น ! หวงซวนว่ายน้ําได้ แต่นางว่ายน้ําไม่แข็ง แม้ว่าในท้ายที่สุดนางจะฝึกฝนอย่างหนัก แต่นางก็ยังว่ายน้ําไม่เก่ง

 

แต่สถานการณ์ตรงหน้าพวกนางเกิดขึ้นโดยฉับพลัน และหวงซวนไม่มีเวลาคิดมาก ขณะที่หลู่เหยากรีดร้อง นางก็พุ่งออกไปข้างนอกเตรียดที่จะกระโดดลงสระบัว

 

แต่ก่อนที่นางจะกระโดดลงไป อีกร่างก็ปรากฏตัวขึ้นจากภายในฝูงชน ด้วยเสียง “บูม” ผู้หญิงคนหนึ่งจึงกระโดดลงไปในน้ํา

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

แพทย์เทวะ หัตถ์ปีศาจ 709 วิกฤตของซูชื่อ

Now you are reading แพทย์เทวะ หัตถ์ปีศาจ Chapter 709 วิกฤตของซูชื่อ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 709 วิกฤตของซูชื่อ

 

เช่นเดียวกับที่กซูถูกตบหน้าด้วยคําว่า “สิ่งที่เห็นนั้นมีไม่มากนัก” มีแต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าพระราชวังในราชวงศ์ต้าชุนต้องต่อสู้กับน้ําหอมที่มีเอกลักษณ์ของพวกเขามากแค่ไหน!นางไม่เข้าใจว่าองค์หญิงจีอันได้รับน้ําหอมที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้มาจากที่ไหน ? นอกจากนี้ยังมีเป็นขวด มันทําให้นางไม่แน่ใจ

 

ในเวลานี้เฟิงหยูเฮงกล่าวว่า “องค์หญิงแห่งกูซูก็เห็นคุณภาพของสิ่งต่าง ๆ ที่ราชวงศ์ต้าชุนของเรามีเราจะอยากได้น้ําหอมพันกลิ่นของเจ้ามาทําอะไร”

 

องค์หญิงแห่งภูซูไม่พูดอะไร

 

เฟิงหยูเฮงยิ้มแล้วหันไปพูดกับฮ่องเต้ “เสด็จพ่อ มันไม่ง่ายเลยที่อาเฮงจะผลิตน้ําหอมแบบนี้ข้าไม่สามารถผลิตได้มากในแต่ละปี แต่จากวันนี้เป็นต้นไป ข้ายังต้องการที่จะนําเสนอของขวัญปีใหม่ที่จะมอบให้กับพระสนมของฮ่องเต้ในตําหนักใน ไม่เป็นไร ถ้าเราไม่ได้รับน้ําหอมของกูซูเพคะ”

 

เมื่อพระสนมของฮ่องเต้ได้ยินเรื่องนี้ พวกเขาทั้งหมดต่างยิ้มกว้างและไม่สามารถหุบปากได้ฮองเฮาพยักหน้า ก่อนฮ่องเต้จะพูด ฮองเฮากล่าวว่า “นั่นเป็นเรื่องธรรมชาติ ด้วยการผลิตน้ําหอมของอาเฮงเราจะเอาน้ําหอมจากกูซูมาทําอะไร” หลังจากพูดอย่างนี้ นางพูดกับองค์หญิงแห่งกูซู “องค์หญิงเจ็ดอย่าตําหนิข้าที่พูดมากเกินไป หากคนของกูซูของเจ้าชอบน้ําหอมประเภทนี้เพียงแค่นํามันกลับมาและทําการวิจัยเพื่อใช้สําหรับตัวเจ้าเอง แต่สิ่งที่มีกลิ่นเช่นนั้นไม่ควรนํามาใช้ในราชวงศ์ต้าชุน ข้าเชื่อว่าบรรดาฮูหยินและคุณหนูยังไม่อยากเสี่ยงต่อการไม่มีบุตรด้วยกลิ่นนี้ใช่หรือไม่ ? ”

 

เมื่อผู้คนได้ยินเช่นนี้ พวกเขาทั้งหมดพยักหน้าและเห็นด้วย “พวกเราย่อมไม่กล้าเป็นธรรมดาเพคะ”

 

ฮองเฮาพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ถ้าเจ้าเข้าใจเหตุผลนี้ก็เป็นเรื่องดี” จากนั้นนางมองไปที่องค์หญิงแห่งกูซู และกล่าวเพิ่มเติมว่า “องค์หญิงเจ็ดกลับไปภาคใต้ในวันพรุ่งนี้ ข้าจะส่งคนไปส่งเจ้ากลับ สําหรับการเดินทางมาราชวงศ์ต้าชุนครั้งนี้ กูซูไม่ได้ส่งคําขอมาอย่างเป็นทางการ ดังนั้นถือว่าเป็นการเดินทางมาส่วนตัว มันจะไม่เหมาะสมที่จะเจ้าจะรั้งอยู่นาน เจ้าต้องระมัดระวังในการเดินทางของเจ้าโดยเฉพาะกับน้ําหอมพันกลิ่น เจ้าต้องปกป้องมันอย่างระมัดระวัง ไม่ให้ตกแม้ แต่ครั้งเดียวหากยังคงอยู่ในดินแดนของราชวงศ์ต้าชุน”

 

ในตอนท้ายสีหน้าของฮองเฮาได้กลายเป็นเย็นชา องค์หญิงเจ็ดแห่งกูซูไม่ใช่คนโง่ นางรู้ว่าอีกฝ่ายสั่งให้แขกออกไป ดังนั้นนางจึงพยักหน้า หลังจากคํานับนางก็กลับไปนั่ง

 

เฟิงหยูเองไม่ได้อยู่ในสถานที่ต่อไป ในเวลานี้ผู้คนที่หนีจากกลิ่นก็กลับเข้ามาที่ห้องโถงเสียงดนตรีและการร่ายรําเริ่มบรรเลงอีกครั้ง

 

ในขณะที่นางกลับไปที่ที่นั่งของนาง นางจงใจเดินผ่านองค์หญิงแห่งกูซู และทําให้องค์หญิงแห่งกูซูกัดฟันด้วยความโกรธ ด้วยสายตาที่โกรธแค้น นางจ้องมองเชิงหยูเฮง ความเกลียดชังถูกเขียนไว้บนใบหน้าของนาง อย่างไรก็ตามเฟิงหยูเฮงไม่ได้สนใจ นางทําตัวราวกับว่านางไม่ได้เห็นมัน อย่างไรก็ตามเสียงเย็นชาของนางเข้ามาในหูของเจ้าหญิงกูซู “มันคืออะไร ? เจ้าเกลียดข้าหรือ ? “

 

องค์หญิงแห่งกูซูไม่ได้หลีกเลี่ยงเลย และกล่าวว่า “ข้าเกลียดที่ข้าไม่สามารถบีบคอเจ้าให้ตายได้”

 

เพิ่งหยูเฮงหัวเราะ “เจ้าไม่ใช่คนเดียวที่ต้องการบีบคอให้ข้าให้ตาย แต่เท่าที่เห็นมันยังไม่ถึงตาเจ้า รอสักครู่ !”

 

ขวดน้ําหอมดิออร์ทําให้เฟิงหยูเฮงกู้หน้าของราชวงศ์ต้าชุน ผู้คนลืมไปแล้วว่ากี่ครั้งแล้วที่องค์หญิงผู้นี้พยายามอย่างยิ่งที่จะให้ภาพลักษณ์ของราชวงศ์ต้าชุนดี พวกเขาเพิ่งรู้ว่าองค์หญิงจีอันผู้นี้ไม่ว่าสถานการณ์ของราชวงศ์ต้าชุนจะย่ําแย่เพียงใด มันจะไม่ใช่สถานการณ์ที่สิ้นหวัง

 

เห็นได้ชัดว่าฮ่องเต้ก็คิดเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงยกจอกสุราขึ้นและยกมันขึ้นไปยังตําแหน่งที่เปิงหยูเฮงอยู่ เฟิงหยูเฮงลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและดื่มด้วยความเคารพต่อฮ่องเต้

 

ฉากนี้ไม่ได้มีอะไรมากมายสําหรับขุนนางจากเมืองหลวงรวมถึงบรรดาฮูหยินและคุณหนูส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามจะมีแขกกลุ่มเล็ก ๆ จากนอกมณฑลที่เริ่มมีความรู้สึกไม่ดีในใจโดยเฉ พาะผู้หญิงที่เก่งเรื่องการกระตุ้น ในทันทีมีคนที่เริ่มกระตุ้นเฟิงเฟินไดว่า “คุณหนูสีองค์หญิงเคย ให้น้ําหอมแบบนั้นกับเจ้าหรือไม่ ?”

 

เฟิงเฟินไดตะโกนอย่างเย็นชา “เป็นไปได้อย่างไร นั่นเป็นสิ่งที่พระสนมของฮ่องเต้เท่านั้นที่สามารถใช้ได้”

 

“ใช่ ! นั่นคือสิ่งที่ถูกต้อง ถึงแม้ว่าคนอื่นจะไม่ได้รับส่วนแบ่ง เจ้าก็เป็นน้องสาวของนาง เจ้าไม่ได้รับส่วนแบ่งได้อย่างไร”

 

เป็นไดรู้สึกอิจฉาอย่างยิ่งและนางโลภมาก เมื่อได้ยินถึงการยั่วยุ นางก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ยุติธรรม มีบางคนที่ชอบดูกิจกรรมที่มีชีวิตชีวาโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่หลุดมือไป พวกนางยังคงผลักดันนางต่อไปโดยกล่าวว่า “พี่น้องควรช่วยเหลือซึ่งกันและกันปัจจุบันนางมีตําแหน่งที่

 

ทรงพลัง แต่ในไม่กี่วันนับตั้งแต่เรามาถึงเมืองหลวง เราได้ยินมาว่าตระกูลเพิ่งมีชีวิตที่ย่ําแย่มากดู เหมือนว่านางจะไม่ใส่ใจเจ้า ข้ารู้สึกเสียใจแทนคุณหนูสี่จริง ๆ ”

 

เชิงเฟินไดเริ่มโกรธขึ้นมาเมื่อได้ยินพวกนางพูดสิ่งเหล่านี้ แต่ถ้าความโกรธนั้นลุกยืด ? นางมีประสบการณ์มากในการติดต่อกับเฟิงหยูเฮง และพวกนางล้วนแต่ประสบความพ่ายแพ้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากประเภทนี้ แม้ว่านางจะโกรธ นางก็ยังจําได้ว่านางไม่สามารถใช้ความคิดริเริ่มที่จะล่วงเกินพี่สาวคนที่สองของนาง มิฉะนั้นนางจะต้องแบกรับภาระนั้นด้วยตัวเอง ในจิตใจของเฟิงหยูเฮงไม่มีคนตระกูลเฟิงหรือน้องสาวอยู่ มีเพียงคนเดียวที่มีความสําคัญต่อนางคือเพิ่งเซียงหรู

 

เฟิงเฟินไดคิดเช่นนี้ นางจําได้ว่าเฟิงเซียงหรูอาจได้รับน้ําหอมประเภทนั้น และนางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหมือนเป็นคนนอกมากขึ้น

 

บนที่นั่งในห้องโถง ฮ่องเต้นั่งอย่างสบาย ๆ ฉากก่อนหน้านั้นเป็นไปตามที่เขาต้อง การเมื่อคิดย้อนกลับไป เขารู้สึกว่ามันสนุกมาก

 

จางหยวนยืนอยู่ข้าง ๆ และเห็นใบหน้าที่ยินดีของฮ่องเต้ เขาอดใจไม่ไหวแล้วเทน้ําเย็นลงบนอารมณ์ของเขา “ฝ่าบาททรงพอพระทัยเรื่องอะไรพะยะค่ะ ? หากไม่ใช่เพราะองค์หญิงจี้อันนํา ขวดน้ําหอมเข้ามาในพระราชวัง ใครจะรู้ว่าสถานการณ์นี้จะได้รับการแก้ไขอย่างไรพะยะค่ะ !”

 

ฮ่องเต้โบกมือแล้วกล่าวอย่างมั่นใจ “ไม่ต้องห่วง ตราบใดที่ผู้หญิงคนนั้นอยู่ใกล้ นางจะไม่ยอมให้เราอยู่ในสถานการณ์ที่ลําบาก”

 

“ฝ่าบาทจะทรงมั่นใจได้อย่างไร ? ” จางหยวนพูดไร้ประโยชน์ แต่หลังจากคิดไปเล็กน้อยในฉากก่อนหน้านี้ หากพวกเขาไม่ได้ตําหนิองค์หญิงแห่งกูซูสักหน่อย คงไม่ใช่แค่ฮ่องเต้ที่จะตกอยู่ในสถานการณ์ลําบาก มันจะเป็นทั้งหมดของราชวงศ์ต้าชุน ! จากนั้นเขาก็ถอนหายใจด้วยอารมณ์อันที่จริงตราบใดที่องค์หญิงจี้อันอยู่ด้วย ปัญหาทั้งหมดก็จะได้รับการแก้ไข

 

ดนตรีและการร่ายรํายังคงดําเนินต่อไปตลอดงานเลี้ยง อันที่จริงดนตรีและการร่ายรําเป็นเพียงการสร้างบรรยากาศ เบื้องหลังการร่ายรํา ผู้คนต่างพูดคุยและร่วมมือกัน ฮ่องเต้แสร้งทําเป็นฟังเพลงและดูการร่ายรํา แม้กระนั้นเขาไม่เคยพลาดการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างขุนนางเขาเห็นทุกอย่างและเขายังสามารถเห็นปฏิกริยาของผู้คนในบทสนทนาเหล่านี้ งานเลี้ยงไม่มีอะไรมากไปกว่าการทดสอบเขารู้ว่าขุนนางเหล่านี้มีอะไรอยู่ในใจ

 

“อาเฮง” ซวนเทียนเก้อเดินเล่นผ่านงานเลี้ยง เมื่อนางกลับไปที่ด้านข้างของเฟิงหยูเฮง นางกระซิบบอกเฟิงหยูเฮงนางว่า “ข้าเห็นท่านฮูหยินเหยาคนโตติดตามหลู่เหยาออกจากห้องโถง”

 

“หืม ?” เชิงหยูเฮงไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ นางพูดคุยกับเด็ก ๆ นางยุ่งอยู่กับการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ

 

ชวนเทียนเก้อกล่าวต่อ “ดูเหมือนว่านางสงบมาก มันเป็นแค่แม่สามีและลูกสะใภ้ออกไปเดินเล่นงานเลี้ยงได้ดําเนินต่อไปเป็นเวลานาน ไม่มีใครที่สามารถนั่งเฉยต่อได้ ฮองเฮาได้กล่าวไว้แล้วว่าหากฮูหยินและคุณหนูไม่สามารถนั่งนาน ๆ ได้ พวกนางสามารถไปเดินเล่นรอบ ๆ พระราชวังได้มีอุทยานสองสามแห่งพวกนางสามารถเยี่ยมชมได้”

 

เฟิงหยูเฮงพยักหน้าและอยากจะบอกว่ามันดี อย่างไรก็ตามนางรู้สึกไม่สบายใจ หลังจากคิดไปครู่หนึ่ง นางก็หันหน้ามองไปรอบ ๆ งานเลี้ยง นางเห็นว่าหลู่วิ่ง คุณหนูใหญ่ตระกูลหลู่ยืนขึ้นในเวลานี้และพยักหน้าตามทิศทางของนาง จากนั้นนางก็นําบ่าวรับใช้ออกไป

 

ทันใดนั้นเฟิงหยูเฮงยืนขึ้น ทําให้ชวนเทียนเก้อตกใจ นางกล่าวว่า “ข้ารู้สึกเบื่อ ๆ เทียนเก้อเราจะออกไปเดินเล่นกัน”

 

ชวนเทียนเก้อเห็นด้วย “ไปสิ ข้าก็รู้สึกเบื่อมาพักหนึ่งแล้ว” ทั้งคู่ก็เริ่มเดินออกไปพร้อมกับพูดหวงซวนและบ่าวรับใช้ของซวนเทียนเก้อรีบตามมาด้านหลัง เมื่อพวกเขาเดินผ่านจาวเหลียนพวกนางเห็นว่าเขาโอบไหล่ของสาวน้อยผู้หนึ่งและกล่าวเสียงดัง “คนงาม ! เท่าที่ข้าเห็นมันไม่มีผู้ชายแม้แต่คนเดียวในห้องโถงแห่งนี้ที่คู่ควรกับเจ้า !” นี่ทําให้คุณหนูยิ้มสดใสมาก

 

เช่นเดียวกับที่คนไม่กี่คนออกจากห้องโถงสวรรค์ และก่อนที่พวกนางจะพูดถึงว่าพวกนางต้องการไปที่ไหน บ่าวรับใช้ในพระราชวังก็รีบวิ่งไปตามทิศทางของห้องโถง เมื่อมาถึงที่ทางเข้า นางบังเอิญเห็นเชิงหยูเฮง นางก็ไปที่นั่นทันทีและกล่าวว่า “องค์หญิงหรูหยาง, องค์หญิงจีอันรีบไปที่สระบัวเพคะ ! ท่านฮูหยินคนโตของตระกูลเหยาและลูกสะใภ้ของนางตกลงไปในน้ําเจ้าค่ะ !”

 

“อะไรนะ ? ” เฟิงหยูเฮงตกใจมาก นางรู้สึกว่าการที่หลู่เหยาและซูชื่อออกมาด้วยกันจะจบลงด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามนางไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ “นําข้าไป”นางตัดสินใจอย่างรวดเร็วและให้บ่าวรับใช้พาไป ซวนเทียนเก้อก็ไปด้วย พวกเขายกชายกระโปรงของพวกเขาวิ่งไปที่สระบัว

 

สระบัวอยู่ไม่ไกลจากห้องโถงสวรรค์ กลุ่มมาถึงเร็วมาก และเห็นว่ามีคนไม่กี่คนที่สร้างฝูงชน พวกนางทั้งหมดเป็นบรรดาฮูหยินและคุณหนูที่ออกมาเดินเล่น ในเวลานี้มีคุณหนูตะโกนว่า“ไปเรียกขันที่มาเร็ว เราเป็นผู้หญิงและไม่มีใครว่ายน้ําเป็น เราไม่สามารถช่วยพวกนางได้ !”

 

บางคนกล่าวว่า “นางกํานัลไปแล้ว ผ่านมานานแล้วพวกนางก็ยังไม่มาเลย”

 

เฟิงหยูเฮงขมวดคิ้ว มีนางกํานัลและขันทีในอยู่พระราชวัง แต่ทําไมไม่มีขันที่แม้แต่คนเดียวที่อยู่ใกล้สระบัว ? หรือว่าถูกเรียกตัวไป ? เป็นไปได้ไหมที่มีคนส่งพวกเขาทั้งหมดไป ?

 

แต่มีคนกล่าวว่า “ถึงแม้น้ําจะไม่ลึก แต่ก็พืชน้ําอยู่มากมาย ดูเหมือนเท้าของท่านฮูหยินจะถูกพืชน้ําพันอยู่ แม้ว่านางอยากจะยืน นางก็ไม่สามารถยืนตัวตรงได้”

 

“อะไรคือยืนตัวตรง ? ” เด็กสาวอีกคนหนึ่งกระทืบเท้าของนาง “น้ําไม่ลึกก็จริง แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีโคลนใต้น้ํา ? ใครจะยืนได้ หากพวกนางปักเท้าลง พวกนางจะไม่จมลงเหมือนเดิมหรือ !”

 

เฟิงหยูเฮงกังวลเล็กน้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นสายตาอ้อนวอนจากซูชื่อ นางเริ่มวิตกกังวลมากขึ้น แต่ในเวลานี้ต้องมีการสาดจากน้ํา ขณะที่หลู่เหยาตะโกนเรียกนาง “อาเฮง อาเฮงช่วยเราด้วย ! ช่วยเราด้วย ! ” เมื่อนางตะโกน นางก็เริ่มอ่อนแอลงไปเรื่อย ๆ น้ําค่อย ๆ ปกคลุมศีรษะของนางแล้วนางก็หยุดหายใจ ซูชื่อพยายามที่จะดึงนางแต่ไม่สามารถออกแรงได้ร่างกายของนางก็ยังจมลงเรื่อย ๆ

 

เฟิงหยูเฮงต้องการช่วยพวกนาง แม้ว่านางจะมีความสามารถทุกอย่าง แต่ก็มีข้อเสียเปรียบครั้งใหญ่ นางว่ายน้ําไม่เป็น ! หวงซวนว่ายน้ําได้ แต่นางว่ายน้ําไม่แข็ง แม้ว่าในท้ายที่สุดนางจะฝึกฝนอย่างหนัก แต่นางก็ยังว่ายน้ําไม่เก่ง

 

แต่สถานการณ์ตรงหน้าพวกนางเกิดขึ้นโดยฉับพลัน และหวงซวนไม่มีเวลาคิดมาก ขณะที่หลู่เหยากรีดร้อง นางก็พุ่งออกไปข้างนอกเตรียดที่จะกระโดดลงสระบัว

 

แต่ก่อนที่นางจะกระโดดลงไป อีกร่างก็ปรากฏตัวขึ้นจากภายในฝูงชน ด้วยเสียง “บูม” ผู้หญิงคนหนึ่งจึงกระโดดลงไปในน้ํา

 

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+