Pursuit of the Truth สู่วิถีอสุรา 1466

Now you are reading Pursuit of the Truth สู่วิถีอสุรา Chapter 1466 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
พี่ใหญ่ แล้วพบกันใหม่

ในสภาวะห้วงจิต ซูหมิงไม่ได้ตรึกตรองถึงปัญหาซับซ้อนใดๆ แม้แต่ความคิดเกี่ยวกับโลกแคว้นกู่จั้งยังไม่มี แต่ใช้สภาวะนี้ปล่อยให้เวลาผ่านไปเงียบๆ ในความสงบนิ่งภายในความคิด

หากบอกว่ามีการตรึกตรอง เช่นนั้นอาจมีเพียงอย่างเดียว นั่นคือตรึกตรองถึงสิ่งที่ตนแสวงหาว่าเป็นเส้นทางแบบใด

ภายใต้การตรึกตรองแบบนี้ เขาตกอยู่ในห้วงจิต ตกอยู่ในห้วงการเติบใหญ่ของต้นพิสูจน์เต๋า ตกอยู่ภายในการเปลี่ยนแปลงของโลก ความรู้สึกแบบนี้ ตั้งแต่โบราณจนถึงตอนนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับผู้ฝึกฌานคนใดมาก่อน

ไม่ว่าจะเป็นแคว้นกู่จั้งหรือโลกนี้ในอดีต ไม่เคยมีผู้ฝึกฌานคนใดเหมือนกับซูหมิงที่สัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงของทั้งโลก หลอมรวมอยู่ในจิตสำนึกของต้นสัจธรรมเต๋า สัมผัสทุกอย่างด้วยตาตัวเอง

ต้นพิสูจน์เต๋า ชะตาของมันคือพิสูจน์เต๋า แต่ตอนนี้ซูหมิง…ก็เหมือนพิสูจน์เต๋าเช่นกัน!

เวลาผ่านไป ผ่านฤดูกาลทีละปี จนเมื่อน้ำทะเลของโลกนี้กลับมาดั่งในอดีต เมื่อต้นพิสูจน์เต๋าเปลี่ยนจากความสูงหมื่นจั้งมาเป็นแสนจั้ง ลำต้นกินพื้นที่ส่วนเล็กกลางทะเลแล้ว ตั้งตระหง่านอยู่ตรงใจกลาง…

ทว่าบนยอดไม้กลับค่อยๆ ปกคลุมทั้งมหาสมุทร ทำให้ตัวมันสูงระฟ้า

โอบล้อมไปด้วยทะเล เก้าแผ่นดินใหญ่ตอนนี้ก็เริ่มเกิดพลังชีวิตสีเขียวเล็กน้อย พลังชีวิตอบอวลไปทั่วส่งผลให้เก้าแผ่นดินใหญ่กลับมาสมบูรณ์มีเทือกเขาทีละน้อย เริ่มมีแม่น้ำลำธาร เริ่มเกิดความเปี่ยมล้นที่มากกว่าเดิม

ซูหมิงได้สัมผัสทั้งหมดด้วยตัวเอง เป็นอย่างที่เฮ่าเฮ่าว่าไว้…ท่านช่วยเฮ่าเฮ่า เฮ่าเฮ่าก็จะช่วยท่าน หลายปีมานี้ เฮ่าเฮ่าใช้การกระทำอธิบายประโยคนี้แล้ว

โชควาสนาสำหรับซูหมิงครั้งนี้เหนือกว่าขีดจำกัดที่ผู้ฝึกฌานคนหนึ่งจะได้รับ ความล้ำค่าและหายากของความรู้สึกนี้ไม่เคยมีใครมีมาก่อน และมั่นใจได้ว่าจากนี้ไปก็ยากจะมีคนได้รับโชควาสนานี้อีก

ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของโลก เห็นช่วงที่ต้นพิสูจน์เต๋าเติบโตจากเมล็ดจนสูงเสียดฟ้า เติบโตจนปกคลุมโลก ได้เห็นกับตา ได้รับสัมผัสด้วยตัวเอง นี่คือโชควาสนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตซูหมิง

ขณะสัมผัสซูหมิงเริ่มตระหนัก ช่วงที่ความเข้าใจเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ก็ผ่านไปอีกร้อยปี ซูหมิงอยู่ในโลกนี้ปีที่พันเจ็ดร้อยแล้ว…ภายในสภาวะห้วงจิต เต๋าสูงศักดิ์ที่แปดในดวงตาที่สามจากเลือนรางค่อยๆ ชัดเจนขึ้น เกิดการรวมกันขึ้นจนกระทั่งเป็นรูปร่าง…

หลังเป็นรูปร่างก็ค่อยๆ หลอมรวมกับพลังที่เฮ่าเฮ่ามอบให้ซูหมิงในตอนแรกภายในร่างกายช้าๆ ความจริงแล้วที่ขั้นพลังซูหมิงยกระดับถึงตอนนี้ ทุกอย่างมาจากผลเต๋า แต่ที่มากกว่าคือสิ่งที่เฮ่าเฮ่าจ่ายไปในตอนแรก

นั่นคือพลังชีวิตทั้งหมดในร่างต้นพิสูจน์เต๋าในอดีต ความแกร่งของพลังนี้มากพอจะเปลี่ยนขั้นพลังซูหมิง อีกทั้งยังได้เป็นประจักษ์พยานการเติบโตจากเมล็ดต้นไม้ขึ้นไปเรื่อยๆ อีก ความเข้าใจนี้ส่งผลให้พลังซูหมิงเกิดการผลัดเปลี่ยนอย่างถึงที่สุด

ผ่านการหลอมรวมมาพันกว่าปี ตอนนี้หลังจากเต๋าสูงศักดิ์ที่แปดสมบูรณ์แล้ว ซูหมิงไม่ได้ลืมตาขึ้น แต่เต๋าสูงศักดิ์ที่แปดในดวงตาที่สามกลับบรรลุถึงจุดสูงสุด ขอเพียงหลอมรวมจะทำให้พลังซูหมิงทะลวงผ่านเต๋าสูงศักดิ์ นับจากนี้ไปจะก้าวไปอยู่ในแถวของมหาเต๋าสูงศักดิ์

เพียงแต่ว่าการหลอมรวมไม่ได้ง่าย หากเกิดข้อผิดพลาดใดๆ ทุกอย่างจะล้มเหลว ทุกอย่างจะสูญเปล่า ทว่าซูหมิงไม่สนใจและก็ไม่ใส่ใจ เอาแต่นั่งฌานเงียบๆ อยู่ตลอด

ฟ้าดินข้างนอกจะเปลี่ยนแปลงไปในทุกปี เมื่อแม่น้ำภูเขาฟื้นกลับมา เมื่อเก้าแผ่นดินอัดแน่นไปด้วยสีเขียว ภายในร้อยปีหลังกาลเวลาผ่านมาพันปีที่สองในโลกนี้ เก้าแผ่นดินใหญ่ได้ฟื้นกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งแล้ว

มองไปแผ่นดินใหญ่มีพลังวิญญาณ น้ำทะเลเต็มไปด้วยความปราดเปรียว ทั้งโลกนอกจากไม่มีสิ่งมีชีวิตแล้ว มีความต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิง

ต้นพิสูจน์เต๋านั้น รากมันอัดแน่นไปครึ่งมหาสมุทร พื้นที่บนยอดไม้เหนือกว่ามหาสมุทรไปแล้ว แยกกันปกคลุมไปเกือบครึ่งในเก้าแผ่นดิน

อีกทั้งความสูงยังเกือบถึงล้านจั้ง ยามที่มองไปไม่เห็นฟ้า จะเห็นเพียงต้นไม้โบราณพิสูจน์เต๋าไม่มีที่สิ้นสุด

ตรงจุดที่ซูหมิงนั่งขัดสมาธิอยู่คือส่วนลึกของรากต้นพิสูจน์เต๋า ทว่าตรงหน้าเขายังคงมีเส้นทางหนึ่งตลอด ยืดยาวไปยังโลกข้างนอกไกลๆ เส้นทางนี้มองไกลๆ เป็นรอยแยก เป็นเส้นทางที่ต้นพิสูจน์เต๋าเว้นไว้ให้ซูหมิง

เมื่อพันปีที่สามผ่านไปสามร้อยปี ฟ้าดินข้างนอกมองไม่เห็นท้องฟ้าแล้ว แต่จะเห็นฟ้าที่ถูกยอดไม้ต้นพิสูจน์เต๋ามาแทนที่!

ฟ้านั้นไม่ใช่สีคราม แต่เป็นสีเขียว ฟ้าเขียวนี้ต่างหากที่เป็นสีของโลกนี้! พื้นที่บนยอดไม้ก็ไม่ได้ปกคลุมเพียงส่วนเล็กในเก้าแผ่นดินอีก แต่ขยายจากใจกลางมหาสมุทรคลุมทุกพื้นที่ในเก้าแผ่นดินภายในเวลาพันกว่าปี แผ่ขยายไปจนสุดขอบโลก

ทำให้เก้าแผ่นดินและโลกนี้เหมือนถูกปกป้องอยู่ใต้ยอดไม้ต้นพิสูจน์เต๋า…

ระหว่างที่ซูหมิงสัมผัสถึงเหตุการณ์นี้ก็มีความเข้าใจมากกว่าเดิม ขณะนั่งฌานในตัวเขาเกิดกลิ่นอายพลังมากมายมหาศาล กลิ่นอายพลังนี้แผ่ขยายออกทำให้เขาลืมตาขึ้นช้าๆ เพียงแต่ในดวงตาก็ยังอยู่ในห้วงจิต เหมือนว่าเขาที่ลืมตาไม่ได้เห็นรอบๆ แต่เห็นฟ้าดินข้างนอก จนกระทั่งหลับตาลงอีกครั้ง ความเข้าใจอยู่ภายในใจ

ตอนที่มหาจักรพรรดิกู่จั้งในอดีตบรรลุเต๋าไร้ที่สิ้นสุดแล้วฉีกมวลอากาศเข้ามาที่นี่เป็นครั้งแรก นี่ต่างหากคือโลกที่ทำให้เขาใจสั่นสะท้านเพียงมองแวบแรก

และเพราะแบบนี้เองเขาจึงสนใจต้นพิสูจน์เต๋า นี่คือต้นไม้ที่ปกป้องโลกนี้!

นับจากปีที่สามร้อยในพันปีที่สาม เมื่อต้นพิสูจน์เต๋ามาแทนที่ฟ้าทั้งหมด ปกคลุมเก้าแผ่นดินแล้ว ก็เริ่มเกิดชีวิตขึ้น

ชีวิตนี้ค่อยๆ สืบสายพันธุ์ไป ปรากฏต้นไม้ จนกระทั่งเกิดสิ่งมีชีวิต…ทุกอย่างเหมือนกับวัฏจักรของโลก ซูหมิงมองจากเริ่มจนสิ้นสุด จนกระทั่งพันปีที่สามผ่านไปเจ็ดร้อยปี

ตั้งแต่เริ่มที่เขาเข้ามาในโลกนี้จนถึงตอนนี้ผ่านไปแล้วสองพันเจ็ดร้อยปี สำหรับคนธรรมดาแล้ว กาลเวลาเหล่านี้อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงของหลายแคว้น อาจเป็นร้อยปีของหลายสิบวัฏจักร ต่อให้เป็นผู้ฝึกฌานก็ยังรู้สึกได้ถึงความเนิ่นนานจากอดีตภายใต้กาลเวลาแบบนี้

ตอนนี้ซูหมิงลืมตาขึ้นเงียบๆ อยู่นานมาก ก่อนยืนขึ้นเนิบช้า นี่คือครั้งแรกที่ออกฌานในรอบเกือบสองพันปี หลังยืนขึ้นแล้วก็เดินหน้าไปทีละก้าว ไปตามเส้นทางที่ต้นพิสูจน์เต๋าเว้นไว้ให้ ยามที่เดินไป ต้นไม้ข้างหลังเขาค่อยๆ หุบเข้ามา เส้นทางจึงหายไป

จนกระทั่งซูหมิงเดินออกจากรากต้นพิสูจน์เต๋าขึ้นมาเหนือทะเล เดินหน้าไปบนฟ้า ยืนอยู่กลางอากาศ มองไปฟ้าสีเขียวคือยอดไม้ สีครามข้างล่างคือมหาสมุทร เก้าแผ่นดินโอบล้อม อัดแน่นไปด้วยชีวิตเปี่ยมล้น โลกนี้…ถูกเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว

ความรุ่งเรืองในอดีตหวนคืนสู่รากฐาน จะเบ่งบานเป็นดอกไม้เรืองรองหรือไม่นั้นต้องดูที่สิ่งมีชีวิตที่กำเนิดในกาลเวลานับจากนี้ไปเป็นคนสร้างด้วยมือตัวเอง

ซูหมิงยิ้ม ช่วงที่กวาดสายตามองแผ่นดิน ดวงตาที่สามตรงระหว่างคิ้วเปิดออก…เผยเต๋าสูงศักดิ์ที่แปด!

นั่นคือแสงสีขาวเต็มในดวงตาที่สาม ทำให้คนอื่นมองไม่เห็นเต๋าสูงศักดิ์ที่แฝงอยู่ภายในดวงตา แต่จะเห็นเพียงสีขาวไม่มีสิ้นสุด

ขณะกวาดสายตามองแผ่นดิน ซูหมิงเห็นเมืองของตี้เทียน เห็นภายในเมือง รอบๆ ตี้เทียนมีร่างเงาหลายคน ตี้เทียนในตอนนี้ยิ้ม ซึ่งซูหมิงไม่เคยเห็นเขายิ้มมาก่อน

ซูหมิงเพ่งมองอยู่นานจนช่วงที่ละสายตากลับ เขาเห็นเหลยเฉิน เห็นภูเขาทมิฬ ภายในชนเผ่าใต้ภูเขาทมิฬนั้นมีแต่เสียงหัวเราะมีความสุข

ตี้เทียนก็ดี เหลยเฉินก็ดี พวกเขาเลือกที่นี่ เลือกหลงทาง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ในเมื่อพวกเขาหลงทางอยู่ที่นี่ก็ย่อมได้รับผลจากการเปลี่ยนแปลงของโลกนี้ด้วย

เพียงแต่พวกเขามองผลกระทบนี้ เหมือนกับตอนนี้บนแผ่นดินที่หก หลินตงตงดวงตาแดงก่ำ เส้นผมยุ่งเหยิงราวกับเสียสติ เขายังคงหาร่างจริงซูหมิงในโลกตัวเอง เขายังคงเชื่อว่าขอเพียงสังหารร่างจริงซูหมิงได้เขาจะยึดดวงชะตาได้ จากนั้นได้กลับแคว้นกู่จั้ง

ผ่านไปพักใหญ่ซูหมิงถึงหลับตาลง เมื่อลืมตาอีกครั้งเขามองต้นพิสูจน์เต๋า ต้นพิสูจน์เต๋าให้พลังมหาศาลแก่เขา ให้โชควาสนาได้เห็นโลกเปลี่ยนแปลงแก่เขา

เพราะโชควาสนานี้เอง ซูหมิงจึงประสานมือคารวะต้นพิสูจน์เต๋านั้นลึกๆ

เมื่อคารวะ ต้นพิสูจน์เต๋าพลันเกิดเสียงดังสนั่น ร่างมันสั่นไหว ฟ้ายอดไม้สีเขียวเกิดช่องโหว่หนึ่ง หลังจากช่องโหว่ขยายออกไปบนยอดไม้รอบๆ แล้ว แสงตะวันข้างนอกถึงส่องลงมาอาบไล้รอบตัวซูหมิง

ซูหมิงเงยหน้าขึ้นมองช่องโหว่นั้นบนฟ้าเขียว เขารู้ว่าเฮ่าเฮ่าเปิดเส้นทางกลับแคว้นกู่จั้งให้เขา

ขณะเงียบ ซูหมิงมองไปรอบๆ อีกครั้ง จดจำทุกอย่างที่นี่ไว้ในใจ ก่อนเป็นสายรุ้งยาวพุ่งไปยังช่องโหว่บนฟ้า พริบตาเดียวก็ข้ามผ่านไป เขาเห็นว่าบนฟ้าเหนือยอดไม้มีน้ำวนยักษ์แห่งหนึ่ง ใจกลางน้ำวนเป็นหลุมดำ ตอนนี้มีแรงดูดรุนแรงปกคลุมร่างไว้ ส่งผลให้เขาเข้าไปใกล้เรื่อยๆ เขายังคงสีหน้าเรียบนิ่ง พอเข้าไปใกล้ช่องโหว่แล้วถึงก้มหน้าลงมองเด็กชายอายุราวห้าหกขวบบนยอดไม้ข้างล่างที่กำลังยิ้มมองตนอย่างไร้เดียงสา ทั้งยังโบกมือให้ตน

“พี่ใหญ่ แล้วพบกันใหม่…อย่าลืมเฮ่าเฮ่าล่ะ…”

ซูหมิงมองเด็กชายคนนั้นด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน เพ่งมองพลางโบกมือ จนกระทั่งร่างเงาเขาหายไปในหลุมดำ…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด