Strongest Abandoned Son บุรุษผู้ถูกทอดทิ้ง 433

Now you are reading Strongest Abandoned Son บุรุษผู้ถูกทอดทิ้ง Chapter 433 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 433 : มันจบแล้ว

 

เนื่องจากลี่ตงไม่ได้แจ้งผู้คนในค่ายทหาร เฮลิคอปเตอร์ของเย่โม่จึงไม่สามารถลงจอดได้โดยตรง พวกเขาต้องลงจอดค่อนข้างไกล จากนั้นจึงต้องเรียกรถแท็กซี่ไปยังเขตทหาร แต่เมื่อพวกเขามาถึงพวกเขาก็ต้องหยุด

 

เย่โม่รู้ว่ามันเป็นเพราะพวกเขาไม่มีรหัสและแท็กซี่ไม่สามารถเข้าไปในเขตทหารได้ แต่เย่โม่เห็นว่าลี่ตงไม่ได้บอกพวกเขาว่าเขากำลังมา แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนที่ยอดเยี่ยม แต่เย่โม่เชื่อว่าแม้กระทั่งนายทหารระดับสูงสุดในเขตทหารก็ไม่กล้าที่จะดูถูกเขา สุดท้ายเขาก็ต้องมาหยุดที่ประตู ซึ่งหมายความว่าลี่ตงไม่ได้นำคำพูดของเขามาประกาศ ความตั้งใจของเขาชัดเจน

 

เย่โม่แสยะยิ้ม ลี่ตงเองก็ดูไม่เหมือนพวกชอบความถูกต้อง ใช้แผนการของเขากับเย่โม่ เขาก็ทำผิดกับคนๆ นั้น

 

เหตุผลที่เย่โม่บอกลี่ตงให้บอกพวกเขาว่าเขามา เพราะเขาไม่ต้องการให้เรื่องนี้ใหญ่ขึ้น ความมืดมีอยู่ทุกหนทุกแห่งและเขาไม่ใช่ผู้ช่วยชีวิตหรือฮีโร่ และเขาก็ไม่ต้องการกำจัดอะไรพวกนั้น เขารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เขาแค่อยากจะช่วยลวี่หลินและยกเลิกคำสั่งจับกุมของฟางเหว่ยและกัวฉี

 

มันเป็นเรื่องปกติเมื่อเย่โม่ลงจากรถ แต่เมื่อกัวฉีและฟางเหว่ยทำ พวกเขาก็ถูกจดจำจากยามที่ประตูทันที ก่อนที่พวกเขาจะยกปืนขึ้น เย่โม่ก็แสดงบัตรประจำตัวของเขา เขามาเพื่อช่วยชีวิตผู้คน ไม่ใช่การสังหารหมู่ ปฏิกิริยาของทหารนั้นปกติมาก พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะทำ พวกเขาก็จะยังคงปฏิบัติตามคำสั่งของพวกเขา

 

คำที่พิมพ์อย่างดี ‘Flying Snow Instructor’ ปรากฏตรงหน้าและเกือบจะทำให้พวกเขาตาบอด เขาเป็นผู้สอนกองกำลังพิเศษระดับสูง ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่านายพล แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นผู้นำทัพ แต่ก็ยังมีสถานะ

 

“โปรดเข้ามาเลยครับ ผอ.” ทหารสองคนโค้งคำนับ พวกเขาไม่กล้าสงสัยในตัวตนของเย่โม่ ใครมันจะกล้าปลอมตัวในเขตทหารละ?

 

 

“อาจารย์…” ฟางเหว่ยรู้สึกประหม่าเกี่ยวกับเย่โม่ที่กำลังเข้ามา แต่ฉากนี้ทำให้เขาสับสน ที่จริงแล้วเย่โม่เป็นผอ.

 

เย่โม่ยิ้ม “ให้ฉันพานายเข้าไปข้างในนะ แล้วฉันจะคุยกับหัวหน้าของนายเอง”

 

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เย่โม่ก็ยังคงขอบคุณฮานจั่ยชินที่ให้ชื่อตำแแหน่งนี่แก่เขา ไม่งั้นเขาคงต้องต่อสู้ในแบบของเขาได้เท่านั้น เย่โม่ไม่ต้องการต่อสู้กับทหารเหล่านี้ แต่ความอดทนของเขากำลังจะหมดลงและถ้าเป็นเช่นนั้น เขาจะฆ่าอย่างไร้ความปราณี

 

“นั่นมัน กัวฉี และ ฟางเหว่ย!” ทันทีที่พวกเขาเดินเข้าไปในพื้นที่กองกำลังพิเศษ ผู้คนก็จำทั้งสองคนได้ทันทีและรายงาน บางคนถือปืนของพวกเขาและล้อมรอบพวกเขา

 

“นั่นคุณนี่ อาจารย์เย่” ผู้พันเดินผ่านและเห็นเย่โม่ ดังนั้นเขาจึงรีบวิ่งไปหาเขาอย่างรวดเร็ว

 

“คุณคือเชินฮงเจ่อ” เย่โม่พูดอย่างชัดเจน เขารู้ว่าบุคคลนี้เขาช่วยเขาไว้ในทะเลทราย หลี่หวงเป็นเพื่อนร่วมทีมของเขา ยังไงก็ตาม เขาก็มาถึงเขตทหารและได้ตำแหน่งใหญ่

 

ราวกับว่าเขารู้ว่าเย่โม่ไม่ชอบเขามากเท่าไหร่นัก เชินฮงเจ่อหัวเราะอย่างเชื่องช้าและพูดว่า “พอดีเขตทหารนี้มีคนน้อยนะ ฉันเลยย้ายมาที่นี่ ขอบคุณที่ช่วยชีวิตฉันไว้ครั้งก่อนนะ”

 

เย่โม่โบกมือ “ไม่เป็นไร ฉันมาที่นี่เพื่อมาหาผู้นำของคุณนะ ทำไมฉันถึงไม่เห็นเขาเลยละ?”

 

เมื่อเห็นกัวฉีและฟางเหว่ยอยู่ข้างหลังเขา เชินฮงเจ่อก็ตระหนักทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

 

เขารู้ดีเกี่ยวกับเรื่องของกัวฉี แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่ากัวฉีจะรู้จักเย่โม่ นับประสาอะไรที่จะสามารถพาเขามาที่ค่ายทหารได้เป็นการส่วนตัว ถ้าคำนี้ถึงปักกิ่ง มันจะมีความหมาย

 

ลี่ตงและเขาเหมือนกัน พวกเขาทั้งคู่ต่างก็รู้เรื่องเย่โม่ มันเป็นเรื่องยากยิ่งที่ผู้อาวุโสฮานจะขอร้องให้เย่โม่ทำอะไรสักอย่าง เทียนโย๋วเองก็ไปแล้วนั่นเป็นเพียงความคิดของเชินฮงเจ่อ

 

“พวกนายต้องการอะไร? กบฏรึไง? ไปซะ” เชินฮงเจ่อหันหลังกลับและตะโกนใส่ทหารพร้อมปืน

 

หากทหารเห็นว่าเย่โม่กำลังพูดคุยกับ เชินฮงเจ่อบางทีพวกเขาอาจถูกไล่ออกไปแล้ว ตอนนี้เชินฮงเจ่อตะโกนใส่พวกเขา พวกเขาดูเหมือนจะตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่เชินฮงเจ่อเป็นอาจารย์ของพวกเขา พวกเขาไม่กล้าโต้เถียงอะไร ดังนั้นพวกเขาจึงเดินออกไป

 

“อาจารย์ ฉันจะพาคุณไปผู้บัญชาการกรมทหารราบเทียน เขาอยู่ในสนามฝึกเพราะอาจารย์ซวี่เข้ามา เขาต้องดูแลสถานะการฝึกของทหารนะ” เชินฮงเจ่อตอบอย่างระมัดระวัง

 

เย่โม่พยักหน้า “โอเค พาฉันไปพบเทียนที่คุณเพิ่งพูดถึงที มันยากที่จะเชื่อว่ามีคนอย่างเขาได้เป็นถึงผู้บัญชาการกรมทหาร”

 

เย่โม่ไม่ใช่คนโง่ เขารู้ว่าเหตุผลที่ชิวจื่อเฟยกล้าโจมตีลวี่หลินต้องเป็นเพราะมีคนคอยหนุนหลังเขา หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น และผู้บัญชาการกรมทหารยังไม่ทราบด้วยซ้ำ ก็ไปกินขี้เถอะ หากผู้บัญชาการนี้รู้เกี่ยวกับมันและเหตุการณ์นี้ยังคงเกิดขึ้น เหตุผลเดียวก็คือผู้บัญชาการคนนี่คอยสนับสนุน

 

ราวกับว่าเขาจะได้เห็นการดูถูกของเย่โม่ เชินฮงเจ่อกล่าวว่า “ผู้บัญชาการเทียน ชื่อว่า เทียนโย๋วเหนิง ภรรยาของเขาชื่อ ชิวผิง เธอน่าจะมาจากตระกูลชิว”

 

เย่โม่เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เขาแน่ใจว่า ชิวผิง และ ชิวจื่อเฟย เกี่ยวข้องกัน แต่เชินฮงเจ่อไม่ใช่กรณีที่ง่ายเช่นกัน แม้ว่าเขาจะเห็นแก่ตัวมาก แต่ดูเหมือนว่าเขาเจ้าเล่ห์มากกว่าหลี่หวง ไม่แปลกใจเลยว่าเขาจะเลื่อนตำแหน่งเร็วกว่าหลี่หวง เขารู้ว่ามันง่ายมากสำหรับเขาที่จะช่วยกัวฉี แต่ก็ยังเตือนให้เขานึกถึงพลังของเทียนโย๋วเหนิงอย่างละเอียด

 

ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งจะพูดโดยไม่ได้ตั้งใจ ให้เห็นด้านดีๆของเขา ในขณะที่เขาก็ไม่พอใจเทียนโย๋วเหนิงจริงๆ

 

กัวฉีและฟางเหว่ยรู้สึกงงงวย ไม่ว่าพวกเขาจะโง่ขนาดไหน พวกเขาก็เห็นสถานะของเย่โม่ เชินฮงเจ่อเป็นรองผู้ฝึกกองพันที่เจ็ด และแม้แต่คนอย่างเขาก็ยังเคารพเย่โม่

 

 

พื้นที่ฝึกซ้อมสำหรับกองกำลังพิเศษที่เจ็ดนั้นใหญ่มาก แม้ว่าหลายคนจะตกใจเมื่อเห็นกัวฉีและฟางเหว่ย แต่พวกเขาไม่กล้าเคลื่อนไหวเมื่อเห็นเชินฮงเจ่อ ซึ่งเป็นผู้นำทางพิถีพิถัน

 

กัวฉีและฟางเหว่ย มีชื่อเสียงขึ้นมา เนื่องจากเหตุการณ์นั้น

 

มีการตบมือ เนื่องจากการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้น

 

“อาจารย์เชิน คุณมาที่นี่ด้วย…” เจ้าหน้าที่เดินไป แต่หยุดพูดทันที เขาเห็นกัวฉีและฟางเหว่ยอยู่ข้างหลังเขา

 

“กัวฉี ฟางเหว่ย…แกยังกล้าเดินเข้าไปในเขตทหารแบบนี้อีกเรอะ ยวีหยาง จับทะ -” ชายอ้วนในวัย 40 ที่หันหลังให้อยู่ ได้เห็นกัวฉีและฟางเหว่ย แต่เขาก็หยุดพูดกลางคัน

 

ไม่ใช่เพราะเขาเห็นเย่โม่ เขาไม่รู้จักเย่โม่ แต่เขาเห็นผู้บัญชาการลี่ ที่กำลังวิ่งมาเหมือนหาอะไรซักอย่าง เป้าหมายที่เขาวิ่งไปคือชายหนุ่มที่อยู่กับกัวฉี

 

ชายอ้วนคนนี้คือผบ.เทียนโย๋วเหนิง แม้ว่าเขาจะมีความสามารถ แต่เหตุผลที่ทำให้ตำแหน่งยิ่งใหญ่ขนาดนี่ ส่วนใหญ่มาจากตระกูลของภรรยาของเขา สำหรับคนอย่างเขา เขาจะบอกได้อย่างไรว่าเย่โม่ไม่ใช่คนง่ายๆ?

 

ผู้บัญชาการลี่วิ่งไปหาเย่โม่ และแม้แต่เชินฮงเจ่อก็พยักหน้าและโค้งคำนับให้เย่โม่ เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเพราะเชินฮงเจ่อไม่เคยทำแบบนั้นกับเขา

 

สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ ผู้บัญชาการลี่วิ่งไปหาชายหนุ่มคนนี้เพื่อทักทาย

 

เทียนโย๋วเหนิงขยี้ตา หัวหน้าผู้บัญชาการโดยเฉพาะผู้บัญชาการลี่แสดงความเคารพต่อชายคนนั้นหรอ? เขาไม่จำเป็นต้องมองด้วยความเคารพและระมัดระวังเลยนะ

 

เทียนโย๋วเหนิงรู้สึกได้ถึงสัญชาตญาณแห่งความหวาดกลัว เขาอนุญาตให้ชิวจื่อเฟยโจมตีลวี่หลิน เพราะเขาได้สืบมาก่อนแล้วว่าคนพวกนี้ไม่มีใครมีแบล๊คที่น่ากลัว ทำไมสิ่งนี้ถึงเกิดขึ้นและกัวฉีเรียกคนที่ยิ่งใหญ่นี้ออกมาเรอะ? เขาแน่ใจว่าชายหนุ่มนั้นค่อนข้างใกล้ชิดกับกัวฉี ใครๆ ก็บอกได้ว่าพวกเขาเดินมาได้ยังไง

 

ความคิดสุดท้ายในใจของเทียนโย๋วเหนิงคือ ‘มันจบแล้ว’

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด