Strongest Abandoned Son บุรุษผู้ถูกทอดทิ้ง 437

Now you are reading Strongest Abandoned Son บุรุษผู้ถูกทอดทิ้ง Chapter 437 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 437 : ซุ่มโจมตี

 

ลวี่หลินและพวกเขายังคงไม่เชื่อว่าพวกเขาจะออกไปได้อย่างง่ายดาย และเข้าร่วมที่เมืองอสรพิษโดยไม่ลังเล

 

ยวีเมี่ยวตั๋นไม่อยากจะเชื่อว่าเย่โม่แค่ออกไปเดินเล่นและพาคนกลับมา ราวกับว่าการสังหารนายทหารนั้นไม่สำคัญอะไรเลย ยวีเมี่ยวตั๋นรู้สึกว่าเธอไม่สามารถเข้าใจเจ้านายของเธอได้อีกต่อไป

 

มีเพียงหนิงชิงเซวียเท่านั้นที่รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องปกติ เธอเชื่อในตัวเย่โม่ เย่โม่สามารถฝึกจิตวิญญาณลมปราณได้ เพราะงั้นมันจะมีอะไรอีกที่หยุดเขาได้ละ?

 

เย่โม่ตระหนักว่าใบหน้าของยวีเมี่ยวตั๋นนั้นดูไม่ดีนัก และถามทันทีว่า “เกิดอะไรขึ้น?”

 

หนิงชิงเซวียเดินเข้ามาและพูดว่า “ยาความงามของเราได้รับการรายงานว่ามีผลกระทบในทางลบและมีรายงานผู้ป่วย 4 รายในประเทศ และมันยังเพิ่มขึ้นด้วยนะสิ”

 

“ผลข้างเคียง?” เย่โม่ขมวดคิ้ว เขาไม่เชื่อว่ายาของเขาจะมีผลเสีย แต่ยังไงซะ มันเป็นไปไม่ได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ยาจริง แต่ก็ยังคงเป็นผลมาจากการปรับปรุงหลายพันปีในทวีปลั่วเยวีย แต่จะมีผลเสียได้ยังไง?

 

มีคนกำลังซุ่มโจมตีบริษัทลั่วเยวีย นี่เป็นเพียงความคิดของเย่โม่ เขามั่นใจในมัน เย่โม่แสยะยิ้ม ‘แกไม่สามารถเอาชนะพวกเราได้อย่างเปิดเผย ดังนั้นแกจึงใช้วิธีนี่สินะ ได้ ฉันจะทำให้แผนการเหล่านั้นล้มเหลวเช่นกัน’

 

“พี่ยวี ใครเป็นคนซุ่มโจมตีบริษัทของเรา?” เย่โม่ถาม

 

“ประธานเย่คะ คุณรู้ได้ยังไงว่ามีคนกำลังโจมตีเรา?” ยวีเมี่ยวตั๋นยิ่งตกใจมากขึ้น ไม่ว่าเขาจะมีความมั่นใจเกี่ยวกับยาของเขายังไง อย่างน้อยเขาก็ควรมีข้อสงสัยสักหน่อย

 

เย่โม่ยิ้มและไม่ตอบกลับ

 

หนิงชิงเซวียถามว่า “น่าจะเป็นบริษัทเยวียนเป่ยนะคะ พวกเขาไม่เคยปิดบังแผนการของพวกเรา พวกเขาไม่กลัวที่จะถูกรู้”

 

“อ่อ?” เย่โม่ขมวดคิ้ว ไอ้บริษัทอวดดีนั้นนะหรอ? เขายังไม่มีเวลาที่จะแก้แค้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ของชิงเซวีย และพวกเขาก็หาเรื่องมาอีกครั้งแล้ว

 

ยวีเมี่ยวตั๋นพยักหน้า “ใช่ ชิงเซวียพูดถูก ทันทีที่มีปัญหารายงานมา บริษัทเยวียนเป่ยก็ประกาศว่าพวกเขาจะไม่ร่วมมือกับผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่เป็นอันตรายและทุกคนที่เป็นเป้าหมายในการโจมตี สมุนไพรปลอมและเพิ่มส่วนผสมทางเคมีที่จะเป็นอันตรายและโกหกต่อสาธารณชน เหตุผลที่ข่าวมันแพร่กระจายอย่างรวดเร็วนี้เป็นเพราะพวกเขา”

 

เย่โม่คิดถูก พวกนั้นซุ่มโจมตีพวกเขาอย่างเปิดเผย แบบนี้บริษัทลั่วเยวียจะรู้ทันทีว่าเป็นบริษัทเยวียนเป่ยที่โจมตีพวกเขา

 

“ด้วยเหตุนี้ นักข่าวจำนวนมากจึงถูกจับกลุ่มเข้าสู่เมืองอสรพิษ และกำลังเตรียมที่จะขุดรากเหง้าของเราคะ วันนี้การขายยาความงามและยาสุขภาพของเราลดลงอย่างน่าสังเกต แม้ว่าเราจะยังคงขายหมดในขณะที่เรานำหุ้นเข้ามา นี่ก็เป็นเพียงวันแรก สิ่งต่างๆ อาจจะแย่ลงในอนาคตก็ได้” ยวีเมี่ยวตั๋นกล่าวอย่างกังวลใจ

 

“ผลกระทบด้านลบคืออะไร?” เย่โม่ถาม

 

“การมีผื่นทั่วร่างกายและเป็นพิเศษบนใบหน้า นี่ยังเป็นช่วงเริ่มต้น หลายคนคิดว่าระยะหลังอาจเป็นการทำลายใบหน้าด้วยคะ” ยวีเมี่ยวตั๋นไม่ได้มองในแง่ดี แม้ว่าเธอจะรู้ว่าพวกเขาถูกล้อมกรอบ แต่เธอก็ไม่มีทางที่จะพ้นสถานการณ์นี้ได้

 

เย่โม่เข้าใจ เขากล่าวทันทีว่า “วางแผนต่อไปสำหรับการขยายตัวของบริษัท ฉันจะจัดการกับเรื่องนี้เแ

ยังไงก็เถอะ พี่ยวีคุณตั้งร้านที่เมืองซีตงได้ไหม?”

 

ยวีเมี่ยวตั๋นกล่าวทันที “ยังเตรียมการอยู่คะ เรายังไม่ได้ขายอะไรเลย”

 

“เอาล่ะ งั้นใช้เวลาของคุณให้เป็นประโยชน์ กัวฉี ฟางเหว่ยและลวี่หลินจะเป็นคนของเรา ต่อไปนี่ให้พวกเขารับผิดชอบการสร้างเมืองอสรพิษและความปลอดภัย ให้หยางจิวและฝางหนานช่วยพวกเขาด้วยในตอนนี้” เย่โม่พูดแล้วหันไปหาลวี่หลิน “เมื่อซวี่เยวียฮวามาที่เมืองอสรพิษแล้ว เธอจะเป็นผู้รับผิดชอบของคุณนะครับ”

 

จากนั้น เย่โม่ก็พูดว่า “ช่วยฉันหากล้องความละเอียดสูงหน่อย ฉันจะไปย่านเหอเฟิง ฉันต้องการดูว่าบริษัทเยวียนเป่ยมันมีความสามารถมากแค่ไหน”

 

จากนั้นเย่โม่ดูเหมือนจะคิดถึงบางสิ่งบางอย่างขึ้นได้และถามว่า “เรามีใครไปประเทศลั่วเซอและเวียดนามเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับที่ดินบ้างไหม?”

 

ยวีเมี่ยวตั๋นพยักหน้าทันที “ทันทีที่การประชุมของเราจบลง ฉันก็ส่งคนไปแล้วคะ” ยวีเมี่ยวตั๋นเองก็เป็นห่วงเช่นกัน

 

ด้วยคำตอบของเธอ เย่โม่จึงรู้สึกมั่นใจ

 

หลังจากตัดสินใจสิ่งเหล่านี้แล้ว เย่โม่ก็ออกไปที่เมืองอสรพิษ ด้วยการติดตามของฝางหนานและหยางจิว สถานการณ์ก็เริ่มดีขึ้น แม้ว่าจะมีคนทุกประเภทอยู่ที่นั่น แต่ก็ไม่มีการบังคับในธุรกิจอีกต่อไป

 

‘ดาบหักหรอ?’ เย่โม่หยุดเดิน มันเป็นแผงลอย ผู้ชายที่เป็นเจ้าของแผงขายของนั้นเป็นผู้ชายอายุ 30 ปี เขาไม่มีอำนาจ แต่เขารู้สึกถึงดินเบาๆ บนเขา เขาอาจเป็นผู้ตรวจสุสาน มีของเก่าและเครื่องประดับอยู่บนพื้นดิน แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเย่โม่คือดาบหักนั่น

 

เย่โม่รู้ว่าดาบนี้หักเพราะเขาเป็นคนทำ เมื่อเขาทำกระบี่บินของเขาที่ภูเขาหวู๋เหลียง เป็นครั้งแรกเขาได้พบกับจรังจรือฮุย และทำลายดาบของเขา

 

ดาบที่หักเป็นของจรังจรือฮุย เขาไม่ได้ฆ่าจรังจรือฮุยในเวลานั้นและเพียงบอกให้เขาไปที่หอทลายกำปั้น แทนที่จะทำลายล้างมัน จรังจรือฮุยนำดาบที่หักไปกับเขาในเวลานั้น

 

แต่หลังจากที่เขาจากไป เขาไม่เคยเห็นเขาอีกเลย เขายังไปที่ตระกูลจรังเจียงซวน แต่ก็ยังไม่เห็นเขาที่นั่น

 

จากนั้นเขาก็ยุ่งและไม่มีเวลาไปที่หอทลายกำปั้นเพื่อตรวจสอบ แต่ตอนนี้เขาเห็นดาบของเขาบนแผงลอยนั้น

 

เย่โม่มั่นใจว่าจรังจรือฮุยสนใจเรื่องดาบของเขามาก เพราะเมื่อเขาทำมันหัก จรังจรือฮุยก็ยังเอามันไปด้วย

 

เมื่อเห็นเย่โม่หยิบดาบนี้ขึ้นมา ชายคนนั้นก็พูดทันทีว่า “ดาบนี้โบราณมาก แม้ว่ามันจะหัก แต่ก็มีค่ามากฉันไม่เข้าใจเลย นั่นคือเหตุผลที่ฉันขายมัน ถ้าคุณสนใจ ฉันให้คุณได้ในราคาถูกได้นะ”

 

เย่โม่พยักหน้า “ที่จริงฉันสนใจ แต่คุณต้องบอกที่มาของมันก่อนแล้วฉันจะซื้อ”

 

เมื่อได้ยินอย่างนี้ ชายคนนั้นก็เริ่มพูดอย่างไม่หยุดหย่อน “ดาบเล่มนี้ไม่มีต้นกำเนิดที่ธรรมดานะ ฉันอยู่กับเพื่อนไม่กี่คนในซากปรักหักพังโบราณของเมืองโล่วหลัน -” ชายคนนั้นยังต้องการสร้างเรื่องราว แต่มันก็หยุดลงโดยเยาะเย้ย

 

“หากยังไม่หยุดพล่าม ฉันจะทำให้คุณต้องออกไปจากเมืองอสรพิษทันที หรือคุณสามารถใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในคุกได้ที่นี่ละ” เย่โม่ข่มขู่

 

จากนั้น เย่โม่ก็ตระหนักว่าไม่มีเรือนจำในเรือนเมืองอสรพิษ แต่จะดีกว่าถ้ามีคนสร้างมันแหะ

 

ชายคนนั้นสั่น แม้ว่าจะมีทองคำอยู่ทุกหนทุกแห่งในเมืองอสรพิษ แต่ระบบกฎหมายก็ยังไม่สมบูรณ์ ถ้าเขาไปที่คุก เขาจะไม่สามารถออกไปได้ และถ้าชายคนนั้นพูดคำนั้นได้ นั่นหมายความว่าเขาเป็นงูท้องถิ่นในเมืองนี้

 

“ฉันจะบอก ฉันพบสิ่งนี้ที่เขาชิงซาวในมณฑลเสฉวน ฉันอยู่กับเพื่อนที่ทำธุรกิจที่นั่นและพบสิ่งนี้ในเขา”

 

“มีอะไรอยู่รอบๆอีกไหม?” เย่โม่ถาม

 

ชายคนนั้นไม่กล้าซ่อนอะไรเลยและพูดว่า “มีเลือดรอบๆและเสื้อผ้าที่ฉีกขาด มันอาจเป็นเพราะคนที่ขึ้นไปบนเขาคนเดียวและพบกับสัตว์ร้ายนะ”

 

เย่โม่ได้ยินเรื่องนี้และรู้ว่าจรังจรือฮุยไม่น่าจะมีชีวิตอยู่ ฐานใหญ่ของหอทลายกำปั้นอยู่บนเขาชิงซาว

 

แต่เย่โม่รู้พลังจรังจรือฮุยอยู่ที่ขั้นปฐพีระดับกลาง เย่โม่ฆ่าผู้นำนิกายและแม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำ ด้วยพลังของจรังจรือฮุย เขาจะไม่ตายที่นั่น

 

ดูเหมือนจรังจรือฮุยจะได้พบใครบางคนที่ยากลำบากเข้าให้

 

เนื่องจาก รังจรือฮุยได้ทำงานเพื่อเขาและมีบางอย่างเกิดขึ้น เขาควรไปสืบเพื่อเห็นแก่เขา

 

“ดาบนี้เท่าไหร่? ฉันจะเอา” เย่โม่ถาม

 

“1,000 อะเดี๋ยว 500 ก้พอ” เขากลัวว่าเย่โม่เป็นพวกอันธพาล

 

เย่โม่หยิบ 1,000 ออกมาและมอบให้กับชายคนนั้น “1,000 ดีแล้ว วาดรูปของสถานที่ที่คุณค้นพบให้ฉันหน่อย”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด