ท่านเทพมาแล้ว 124

Now you are reading ท่านเทพมาแล้ว Chapter 124 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
 วังหลิงเซียวอันศักดิ์สิทธิ์

มู่จิ่วมองดูสองคนที่พลิกกระโดดไปมาท่ามกลางม่านหมอก ไฟถูกจุดติดขึ้นในใจพวกเขาแล้ว!

เจ้าคนพวกนี้กลัวว่าชีวิตจะน่าเบื่อกระมัง ชีวิตของเทพเซียนดีๆ มีไม่ใช้ ต้องก่อเรื่องยุ่งๆ แบบนี้ขึ้นมา คนหนึ่งเอาแน่เอานอนไม่ได้ ทั้งยังโลภมากไม่รู้จักพอ อีกคนก็อยู่ในวังวนละครรักน้ำเน่า เพราะรักจึงแค้นและโง่เขลา ไม่มีหนทางถอนตัวออกไป สวรรค์ไม่มีสถานีโทรทัศน์ จะให้พวกเขาสองคนเก็บเรตติ้งไปเป็นร้อยเป็นพันปีหรือ!

“ซ่างกวนสุ่น เจ้าแยกพวกเขาออกจากกันได้หรือไม่?”

มู่จิ่วค้อมเอวชี้ไปบนฟ้าพลางพูด

ซ่างกวนสุ่นมองดูเล็กน้อย ก่อนบินพุ่งขึ้นไปบนฟ้า ยังไม่ทันยืนได้มั่นคงก็ถูกลมปราณของหลีหังผลักลงมา

คนเขาเป็นลูกศิษย์ของไท่ซ่างเหล่าจวินเลยเชียวนะ!

แม้แต่แขนข้างเดียวของเขาซ่างกวนสุ่นก็เทียบไม่ได้

มู่จิ่วไร้หนทาง “รีบไปแจ้งใต้เท้าหลิว!”

มู่จิ่วหันไปสั่งทหาร จากนั้นก็เหยียบขึ้นไปบนประตูอาคารแม้จะเสี่ยงโดนหินพุ่งเข้าใส่ ตอนนี้เห็นเพียงทั้งที่พำนักเซียนโดนพวกเขาทำลายจนไม่เหลือเค้าเดิมแล้ว พลังกระบี่เหมือนสายรุ้งของอู่เต๋อแข็งแกร่ง ปรากฏแสงที่ทำให้หนาวเหน็บอยู่ครึ่งท้องฟ้า ส่วนหลีหังรับมือด้วยมือเปล่า ถึงแม้กระบวนท่าจะไม่รวนเร แต่กลับไม่เคยหยุดมือ

หากว่ากันตามความสามารถของแต่ละคนแล้ว หลีหังกลับลงมืออย่างไว้ไมตรี แต่เขาทำแบบนี้ทำไม? เพราะเจ็บปวดใจหรือ?

“กัวมู่จิ่ว!”

เพิ่งจะเห็นทางนี้ เสียงของหลิวจวิ้นที่ด้านล่างก็ดังขึ้นมา

ที่แท้หลังจากพวกเขาไปหลิวจวิ้นก็ออกเดินทาง พอดีเห็นการต่อสู้กลางอากาศและดูเหมือนจะอยู่ทางด้านหลีหัง ดังนั้นจึงรีบตามมา

“อู่เต๋อทำไมถึงปะทะกับหลีหังได้?!”

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว มู่จิ่วทำได้เพียงบอกเรื่องผิดใจของทั้งสามคนกับเขา “อู่เต๋อคงรู้สึกได้ว่าเรื่องราวจะต้องถูกคนค้นพบ ดังนั้นจึงมาเอาคืนหลีหังอย่างสุนัขจนตรอก! สองคนนี้ข้าน้อยไม่มีหนทางจับได้ ต้องทำอย่างไรจึงจะดี?”

หลิวจวิ้นก็ไร้คำพูด ต่อว่านาง “ทำไมเจ้าไม่บอกข้าก่อน! ตอนนี้จะทำอะไรได้? ไปแจ้งอวี้ตี้ที่วังหลิงเซียวกับข้า!” พูดจบก็ถลึงตาใส่นางอย่างโกรธเคือง แล้วจึงขี่อาชาสวรรค์มุ่งตรงไปยังวังหลิงเซียว

มู่จิ่วไหนเลยจะกล้าชักช้า หันไปบอกทิศทางที่ไปกับเฉินอิง ก่อนเร่งฝีเท้าตามหลังหลิวจวิ้นไปวังหลิงเซียว

นางยังไม่เคยเข้าเฝ้าอวี้ตี้กับหวังหมู่เลย มู่จิ่วมาถึงวังหลิงเซียวเห็นประตูแต่ละชั้น ในใจจึงรู้สึกเคารพยำเกรง แต่คิดอีกทีแม้แต่ศิษย์น้องของนายอวี้ตี้นางก็พบมาแล้ว และทุกวันนี้ยังอยู่ในเรือนนาง กินข้าวนาง ใจจึงรู้สึกสงบลง

เมื่อพวกนางมาถึงนอกวังก็รัวกลอง หลังจากหลิวจวิ้นเข้าไปข้างในและนำเรื่องราวที่มาที่ไปของคดีบอกแก่เจ้าพนักงานผู้ดูแล คนผู้นั้นจึงไปรายงานอวี้ตี้และหวังหมู่ สองสามีภรรยาตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี รีบส่งทหารสวรรค์ใกล้ชิดเบื้องหน้าไปจับหลีหังและอู่เต๋อก่อน อีกทางก็ส่งคนไปวิมานหลีเฮิ่นเพื่อเชิญเหล่าจวินมา

วังหลิงเซียวตื่นตัวแล้ว การเคลื่อนไหวนี้จึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา เสียงกลองหน้าวังดังขึ้น ขุนนนางเซียนแต่ละหน่วยงานล้วนมารวมตัวอยู่ในวัง

รอจนอู่เต๋อกับหลีหังถูกจับมา ไท่ซ่างเหล่าจวินก็มาถึงแล้ว ทางราชาจิ้งจอกก็นำราชินีจิ้งจอกและมู่หรงหลิวเย่มาถึงเช่นกัน ตามหลังพวกเขามีสามีภรรยาท่าทางสง่างามอบอุ่นเดินเข้ามา ซ่างกวนสุ่นเห็นแล้วจึงรีบม้วนตัวเข้าไปเรียกพ่อแม่อย่างว่านอนสอนง่าย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นบุตรชายและสะใภ้ที่กษัตริย์ต้าเผิงแห่งเนินอารามส่งมา

หลิวจวิ้นก้าวไปพูดเสียงเบากับอวี้ตี้สองประโยค อวี้ตี้และหวังหมู่หันมามองทางมู่จิ่ว มู่จิ่วเดาว่าหลิวจวิ้นอธิบายตำแหน่งฐานะของนาง ดังนั้นจึงรีบคุกเข่าลงทำความเคารพ

หวังหมู่พยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นมีเซียนหญิงรับใช้งดงามผู้หนึ่งเรียกนางอย่างอ่อนโยน

“หลีหัง ไม่รู้ว่าเจ้าไปล่วงเกินอะไรอู่เต๋อเจินจวิน?!” เหล่าจวินมองศิษย์อย่างอารมณ์ไม่ดียิ่งนัก ล้วนเป็นคนมีอายุกันแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะปะทะกันกับสหายร่วมหน่วยงาน ตีกันก็ตีกันเถิด แต่นี่ยังทำให้คนตื่นตระหนกมากมายขนาดนี้ คิดว่าช่วงนี้ลัทธิฉ่านของพวกเขาก่อเรื่องยุ่งยากไม่พออีกหรือ? โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เขาเห็นราชาจิ้งจอกกับคนตระกูลซ่างกวน

“เรื่องพวกนี้ค่อยหารือกัน หลิวจวิ้น ให้คนของเจ้าพูดเรื่องคดีของชิงชิวกับลัทธิฉ่านให้ชัดเจน” อวี้ตี้ได้ยินเรื่องราวส่วนใหญ่จากเจ้าพนักงานแล้ว จึงโบกมือ ชี้มู่จิ่วพลางพูดขึ้น

คนในวังได้ยินว่าคดีเกี่ยวพันระหว่างลัทธิฉ่านกับชิงชิว จึงล้วนอดมองไปที่ราชาจิ้งจอกไม่ได้

ราชาจิ้งจอกกุมมือยืดอก ใบหน้าแสดงถึงความทระนง

เหล่าจวินตั้งใจทุ่มเทฝึกพลัง ก่อนหน้านี้ปิดด่านฝึกตน และเรื่องภายในลัทธิล้วนให้ศิษย์คนโตเป็นผู้นำเหล่าศิษย์ดูแลจัดการ แม้เขาจะได้ยินเรื่องนี้ แต่กลับไม่ได้ใส่ใจอะไร ตอนนี้ได้ยินอวี้ตี้พูดแบบนี้ ในใจก็ตื่นตระหนก จึงแอบนับนิ้วทำนาย สายตาหันไปยังอู่เต๋อ

แม้เขาจะไม่สามารถทำนายเรื่องทั้งหมดได้ แต่คาดเดาได้ว่ามีคนปลอมเป็นคนของลัทธิฉ่านก่อเรื่องราวภายนอก

ตอนนี้อู่เต๋อกับหลีหังยังมาอยู่ที่นี่อีก เขาย่อมต้องมองอะไรออกบ้าง…

ต่อหน้าอวี้ตี้หวังหมู่และยังมีมหาเทพมากมายเต็มวัง มู่จิ่วไม่อาจไม่สำรวมและเอาจริงเอาจัง

นางกับหลิวจวิ้นค้อมตัวก่อนตอบรับคำ จากนั้นมองไปรอบๆ สายตาตกไปบนใบหน้าของอู่เต๋อ พูดว่า “ราวสี่ห้าเดือนก่อน องค์ชายเจ็ดแห่งตระกูลซ่างกวนแห่งเนินอารามมาฟ้องร้องว่ามีของวิเศษหายไปจากเขาเนินอารามราวพันชิ้น จากนั้นปีศาจงูเขียวขึ้นมาฟ้องร้องบนสวรรค์ก็ตายอย่างไม่รู้เรื่องราวที่ถนนหลัวอี”

“ต่อมา ชิงชิวเกิดคดีฆาตกรรมขึ้น แรกสุดเป็นจิ้งจอกเก้าหางในราชวงศ์ซึ่งยังอยู่ในวัยเด็กถูกสังหารไปสอง ของวิเศษที่ปกป้องจิ้งจอกก็ถูกขโมยไป จากนั้นบุตรชายของราชาจิ้งจอกมู่หรงรุ่ยเจี๋ยถูกสังหารที่ริมแม่น้ำนอกชิงชิว ฆาตกรไม่เพียงสังหารเขา แต่ยังนำจิตจิ้งจอกในร่างขององค์ชายสี่ไปด้วย”

“มีคนในชิงชิวเห็นคนลัทธิฉ่านตามองค์ชายสี่ไปด้วยตาตนเอง เรื่องนี้ทำให้เกิดความบาดหมางระหว่างเผ่าจิ้งจอกเก้าหางกับลัทธิฉ่าน พวกเขาเริ่มล่าสังหารคนลัทธิฉ่านไปทั่ว ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างใหญ่หลวง”

“ข้ารับคดีนี้มาสืบสวนจากใต้เท้าหลิวแห่งหน่วยลาดตระเวน ตอนนี้ได้ไขคดีนี้จนกระจ่างแล้ว ฆาตกรหลังม่านแท้จริงมิใช่ศิษย์ลัทธิฉ่าน แต่มีคนวางแผนปลอมตัวเป็นศิษย์ลัทธิฉ่านและตั้งใจทิ้งหลักฐานไว้เพื่อก่อเรื่องให้ และคนหลังม่านผู้นี้ก็คืออู่เต๋อเจินจวิน”

คนมากกว่าครึ่งในวังส่งเสียงอื้ออึงขึ้นมาทันที!

บางคนมีความสัมพันธ์ไม่เลวกับอู่เต๋อ จึงโผล่หน้าออกมาชี้นาง “เจ้าเด็กไม่รู้ความ อย่าพูดจาไร้สาระ! อู่เต๋อเจินจวินศีลธรรมสูงส่ง ไม่มีทางเป็นคนเลวร้ายแบบนั้น!”

มู่จิ่วคาดเดาไว้แล้วว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ ดังนั้นจึงชูหนังสือราชการหนาๆ ม้วนหนึ่งขึ้นมา “ข้าไม่ได้พูดจาไร้สาระ นี่คือหนังสือสารภาพที่หลีเปิงพาหนะของอู่เต๋อเจินจวินยอมรับเองกับปาก! ท่านใดยังไม่เชื่อ เชิญฟังด้วยหูของตนเองว่าหลีเปิงพูดอย่างไร”

พูดจบนางก็หันไปมองหลิวจวิ้น ครั้นหลิวจวิ้นได้รับอนุญาตจากอวี้ตี้ ที่ประตูวังก็มีคนนำคนหกคนเข้ามา หกคนนี้สวมผ้าปิดหน้า เมื่อถึงกลางวังก็ถูกกดให้คุกเข่าลง แล้วจึงค่อยเอาผ้าออก

“หลีเปิง คำสารภาพนี้มีตรงไหนที่เจ้าจะแก้ตัวอีกหรือไม่?” หลิวจวิ้นถือหนังสือไปตรงหน้าหลีเปิง

หลิเปิงมองไปรอบตัวครึ่งรอบ ตอนเห็นอวี้ตี้ถึงรีบหมอบลงไปกับพื้น จนกระทั่งเห็นเจ้านายของตนก็ถูกจับไว้ด้วย กลับรีบยืดตัวขึ้นมา พูดว่า “ข้าน้อยไม่รับ! คำสารภาพทั้งหมดคนของหน่วยลาดตระเวนกดดันให้ข้าน้อยพูด! เจ้านายของข้าแต่ไหนแต่ไรไม่เคยทำเรื่องผิดกฎสวรรค์! ขอร้องท่านโปรดสืบสวนให้กระจ่าง!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด