ท่านเทพมาแล้ว 55

Now you are reading ท่านเทพมาแล้ว Chapter 55 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ยังมีเจ้าอีก! อะไรคือไม่รู้จักข้า? เจ้าไม่รู้จักข้า แต่กัวมู่จิ่วรู้จัก! เจ้าเซียนกระจอกนั่นก็รู้จัก! เจ้าเรียกพวกเขาออกมา!” ซ่างกวนสุ่นหมุนมาอีกด้าน ทันใดนั้นก็พุ่งมาทางมู่เสี่ยวซิง

มู่เสี่ยวซิงที่ถอยหลังจนติดกำแพงยังไม่ทันตอบ หยางอวิ้นก็พูดขึ้น “เทพเซียนกระจอกอะไร? คำพูดนี้ของเจ้าหมายถึงอะไรกัน?”

มู่เสี่ยวซิงรีบพูด “ไม่มีอะไร! อย่าฟังเขา…”

“ช่วงนี้กัวมู่จิ่วอยู่ด้วยกันกับเทพเซียนกระจอกแซ่ลู่ เจ้าไม่รู้หรือไง? โง่จริง!” จะงอยปากของซ่างกวนสุ่นเดี๋ยวหุบเดี๋ยวอ้า แต่ละประโยคราวกับทำให้คนโกรธจนตายได้

เสียงของเขาดังกว่ามู่เสี่ยวซิงมากนัก แต่ละตัวอักษรต่างก็เข้าหูหยางอวิ้นไปจนหมด

หยางอวิ้นอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก เหมือนกับลืมหายใจไปเสียด้วยซ้ำ!

“เจ้า เจ้าบอกว่ากัวมู่จิ่วซ่อนผู้ชายไว้ในเรือน?!“

เพราะตื่นตกใจมากไป แม้แต่มู่เสี่ยวซิงที่พยายามอ้าปากอธิบายนางก็มองไม่เห็น

ช่วงนี้นางเอาแต่จับตามองคนในลานบ้าน คิดแต่จะหาว่าใครเป็นคนลงมือวางยานาง ดังนั้นไม่ว่าความเคลื่อนไหวอะไรนางไม่ปล่อยผ่านไปแน่ นางเข้าใจไปว่าตนควบคุมทุกอย่างไว้อย่างเงียบๆ แล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินจากปากนกตัวนี้ว่าในลานบ้านนี้ยังมีคนนอกอยู่อีก! เป็นเขาที่พูดมั่วซั่วหรือนางที่เข้าใจผิด?

“ไม่ผิด! คนแซ่ลู่เจ้าสำอางอยู่ที่นี่! ข้าหาเจอจากกลิ่นอายในลานบ้าน ข้ากล้ารับประกันเลยว่าระยะเวลาสั้นๆ นี้เขาต้องอยู่ด้วยกันกับกัวมู่จิ่วแน่ๆ!”

ซ่างกวนสุ่นกระพือปีกพูดเสียงดัง

หยางอวิ้นสูดลมหายใจเข้าไป ดวงตาจะหลุดออกมาจากเบ้าอยู่รอมร่อ

มู่เสี่ยวซิงโกรธจนคว้าเอาไม้กวาดจากใต้ระเบียงทางเดินขึ้นมาฟาดนก “ใครให้เจ้าพูดมั่วซั่ว!”

ซ่างกวนสุ่นถูกไล่ตีจนร้องเสียงดัง ในลานบ้านพลันอึกทึกครึกโครมขึ้น

ลู่ยาเพิ่งหาเจอว่ามู่จิ่วลงไปยังโลกมนุษย์ ยังไม่ทันหาตำแหน่งแน่ชัด พลันได้ยินเสียงดังอึกทึกมาจากในลานบ้าน ซ่างกวนสุ่น…คิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยังตามมาถึงที่นี่?

พลังฤทธิ์ของเด็กสาวคนนั้นได้ผลอย่างมากจริงๆ นางไปแค่ค่รึ่งวันโชคร้ายก็มาเยือนเขาแล้ว!

แต่เขาก็ไม่กลัว เพราะใช้คาถาซ่อนกายและกางเขตพลังไว้แล้ว พวกนั้นหาเขาไม่พบหรอก ต่อให้แหกปากร้องดังกว่านี้ แต่ถ้าไม่มีหลักฐานก็เสียแรงเปล่า

เขากลับไปในห้องอย่างใจเย็น เตรียมเข้าไปในเขตพลัง บนศีรษะพลันมีเสียง ‘เปรี้ยง’ ดังขึ้น คล้อยหลังเสียงอสุนีบาตเพดานก็ถล่มลงมา เศษกระเบื้องร่วงลงมาทับร่าง ตามมาด้วยอสุนีบาตไม่หนักไม่เบาฟาดลงมายังเขาอีก เทพเซียนที่ซ่อนร่างไว้อย่างเขากลับโดนสายฟ้าสองสายฟาดจนปรากฏกายขึ้น!

คนทั้งสามในลานบ้านอึ้งงันไปเพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้

หยางอวิ้นชี้ไปยังลู่ยาที่ผมขาวหน้าดำอยู่ภายใต้ซากกระเบื้อง พลางปิดปากร้องขึ้นมา! มู่เสี่ยวซิงยกมือขึ้นกุมศีรษะ ต้องกัดฟันแน่นจึงยังคงสติไว้ได้ไม่สลบไป! ส่วนซ่างกวนสุ่นก็กระพือปีกตรงไปหาเขา ร้องเสียงดังว่า “ใช่! เป็นเขา! เป็นเจ้าคนสำอางนี่แหละ! ให้ข้าจับเจ้าเสียดีๆ คราวนี้ข้าเอาอาวุธมาด้วย ดูสิว่าเจ้าจะหนีไปอยู่ไหนได้อีก!”

พูดจบร่างนกก็ลอยขึ้นกลางอากาศ ง้างกรงเล็บที่ยาวออกเป็นสามเท่าพุ่งเข้าไปหาลู่ยา “วันนี้ข้าไม่ล้างแค้นคืนก็ไม่ใช่คนแซ่ซ่างกวนแล้ว!” พูดจบใต้ปีกก็พลันเหวี่ยงลูกตุ้มดาวตกออกมาทุ่มไปทางศีรษะลู่ยา

ลู่ยาคิดไม่ถึงเลยว่าโชคร้ายที่รอเขาอยู่คือซ่างกวนเจ้านกสมควรตายกับอสุนีบาตสองสายนั่น!

เขาตอนนี้เป็นเพียงซ่านเซียน หลังจากโดนอสุนีบาตจะซ่อนร่างต่อได้อย่างไร?

ขณะที่กำลังจะสร้างปราการเซียนขึ้นอีก ซ่างกวนสุ่นกลับไล่กวดเข้ามา!

และเจ้านกสมควรตายนี่แต่เดิมก็มีชื่อเสียงด้านพลังต่อสู้ วันนี้ไม่รู้ว่าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร ยิ่งไม่รู้ว่าเอาลูกตุ้มดาวตกนั่นมาจากไหน ตอนนี้หากคิดจะซ่อนตัวก็ไม่มีหนทางแล้ว

“ข้าจะไปฟ้องทัพสวรรค์! พวกเจ้ากล้าเก็บซ่อนคนนอกไว้ที่นี่!”

หยางอวิ้นชี้ลู่ยาซึ่งมองเห็นหน้าตาได้ไม่ชัดเจนพลางร้องโวยวาย นางอยากจะบ้าตาย! คิดไม่ถึงว่ากัวมู่จิ่วจะเก็บผู้ชายไว้ในเรือน ซ้ำยังเป็นซ่านเซียนที่พลังไม่เลว ด้านหน้าแบบหนึ่งเบื้องหลังอีกแบบหนึ่ง เจ้าคนหน้าไหว้หลังหลอก! นางต้องเปิดโปงมู่จิ่ว จะทำให้ฝ่ายนั้นอยู่ในทัพสวรรค์ไม่ได้!

นางถอยเท้าเดินออกไปข้างนอก

มู่เสี่ยวซิงได้สติกลับมาจากเสียงโวยวายของหยางอวิ้น แต่นางไหนเลยจะตามไปทัน?

ศาลเจ้าลั่วเสินที่หลินเจี้ยนหรูบอกอยู่ริมแม่น้ำลั่วสุ่ย เดินไปสามลี้ก็ถึงแล้ว

เป็นเพราะหลิวจวิ้นสั่งไว้ว่าห้ามคนอื่นรู้ ดังนั้นก่อนเข้าประตูมู่จิ่วจึงอ้างว่ามีเรื่องต้องอธิษฐาน จากนั้นจึงเข้าไปเติมน้ำมันเผากระดาษ

ในศาลเจ้ามีรูปปั้นของลั่วเสินตั้งอยู่ คิ้วสวยมวยสูง รูปร่างแบบบาง สะโอดสะองอย่างมาก

ลั่วเสินมี่เฟยเป็นบุตรสาวของฝูซี เป็นที่นับถือแถวแม่น้ำลั่วสุ่ย ไม่รู้ว่าหลิวจวิ้นมีเรื่องอะไรมาร้องขอให้นางช่วย? เป็นไปได้ไหมว่าเดิมทีเขาเป็นคนของที่นี่ เคยได้รับความเมตตาจากนาง? มู่จิ่วจินตนาการไม่หยุดอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพียงแต่ถึงแม้ในใจจะคิดแบบนี้ นางก็ไม่มีกระทั่งความคิดที่จะเปิดกระดาษออกดู

เป็นคนต้องรักษาคำพูด ถึงแม้หลิวจวิ้นเป็นคนไม่ซื่อตรงนัก นางก็ไม่สามารถอ้างเหตุผลนี้มาทำผิดต่อเขา

จุดธูปเสร็จ หลินเจี้ยนหรูมือหนึ่งถือขนมแป้งทอดรออยู่ที่ประตู เขาส่งให้นางชิ้นหนึ่ง ทั้งสองคนกินขนมไปพลางเดินทางกลับบ้าน

พวกเขาบำเพ็ญเพียรยังไม่ถึงขั้นที่คิดจะหายตัวไปก็หายตัวได้ สถานที่มีคนเยอะไม่สะดวกสร้างเขตพลัง เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่สงบอันไม่จำเป็น จึงทำได้เพียงออกนอกประตูเมืองเข้าไปในป่ารกทึบของเนินเขาเล็กๆ

แสงอาทิตย์ตกดินส่องทะลุผ่านต้นไม้เห็นเป็นเงาพร้อยบนพื้นหญ้า อากาศพัดพาเอากลิ่นสดชื่นของฤดูใบไม้ผลิมา

มู่จิ่วหันกลับไปมองประตูเมืองที่อยู่ห่างออกไปไกลก่อนพูดขึ้น “ที่นี่เถอะ”

หลินเจี้ยนหรูพยักหน้า เคลื่อนพลังลมปราณท่องคาถาเรียกค่ายกลพร้อมกันกับนาง

มู่จิ่วท่องคาถาไป จู่ๆ กลับเบิกตากว้าง

“เป็นอะไร?” หลินเจี้ยนหรูรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ จึงหยุดท่องคาถา

“ในลมทำไมถึงมีกลิ่นสาบ?” นางดมกลิ่นอย่างสงสัย “เหมือนกับจะมีปีศาจออกมา”

หลินเจี้ยนหรูรีบชักกระบี่ออกมาพลางมองไปรอบๆ

แต่นอกจากเสียงลมพัดผ่านใบไม้ต้นไม้แล้ว รอบด้านก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอย่างอื่นอีก

“ไม่เห็นมีอะไรเลย”

เขาหันกลับมาเผชิญหน้ากับมู่จิ่ว แต่เพิ่งพูดจบ ดวงตาทั้งสองของนางพลันเบิกกว้าง และในเวลาเดียวกันนั้น ก็มีหางจิ้งจอกสีแดงเพลิงโหนต้นไม้ลงมารัดคอเขาไว้แน่น ถึงแม้เขาจะมีกระบี่ในมือก็นำมาใช้ไม่ทัน!

“โชคดีนัก นั่งอยู่เฉยๆ ก็จับได้หนึ่งคน!”

หลินเจี้ยนหรูถูกหางจิ้งจอกจับขึ้นไปกลางอากาศ ยอดต้นไม้มีเสียงเย้ายวนลอยมาอย่างเกียจคร้าน

มู่จิ่วกระโดดขึ้นไปตามเสียงอย่างไม่ลังเล กระบี่ยาวตัดยอดต้นไม้ไปครึ่งหนึ่งตามแรงทะยาน สาวชุดแดงที่งอเข่าซ้ายอยู่บนกิ่งไม้เหมือนกับโดนสายฟ้าฟาดทำให้มึนงง อ้าปากกว้างอึ้งอยู่ตรงนั้น มือของนางมีหลินเจี้ยนหรูที่ถูกหางจิ้งจอกรัดคอไว้ ใบหน้าแดงเถือก

“นังปีศาจ! เจ้าอายุยืนมากนักใช่ไหม?”

มู่จิ่วฟาดฟันกระบี่ไปตัดหางจิ้งจอก ไม่คิดว่าการตอบสนองของอีกฝ่ายจะรวดเร็ว แค่ม้วนตัวไปกับพื้นก็กลิ้งไปถึงต้นไม้อีกต้นแล้ว

“ข้าไม่ได้ทำอะไรเจ้า เจ้ามาทำร้ายข้าทำไม?” นางยืนอยู่บนกิ่งไม้ กอดลำต้นจ้องมู่จิ่ว

เมื่อจิ้งจอกคลายมือ หลินเจี้ยนหรูก็ร่วงลงมา เท้าของเขาเพิ่งจะแตะถึงพื้นก็ชักกระบี่ขึ้นฟันไปยังจิ้งจอกที่อยู่บนต้นไม้!

………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด