ลิขิตฟ้าชะตารัก 223-224

Now you are reading ลิขิตฟ้าชะตารัก Chapter 223-224 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 223 ผ้าเช็ดหน้าตก 

 

 

 

 

 

“ผ้าเช็ดหน้าตกพื้น? เช่นนั้นข้าจะไปหากับท่านเอง” อวี้อาเหราขมวดคิ้ว 

 

 

“ไม่…ไม่ต้องหรอกเจ้าค่ะ” อนุรองรีบส่ายหน้าเป็นพัลวัน “ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าใช้คุณหนูรอง ข้าน้อยไปเองดีกว่าเจ้าค่ะ” 

 

 

“เช่นนั้นก็ไปเถิด” อวี้อาเหราไม่พูดมาก ยอมให้อีกฝ่ายไปแต่โดยดี 

 

 

เจาเอ๋อร์ชะงัก “คุณหนู นี่อนุรองคิดจะทำอะไรอีกหรือเปล่าเจ้าคะ” 

 

 

“หึ พวกนางคิดจะทำอะไรเจ้าก็ยังดูไม่ออกอีกหรือ” อวี้อาเหราแค่นเสียงเย็นพร้อมยกยิ้ม “บอกว่าผ้าเช็ดหน้าตกอะไรกัน ไร้สาระ ดูท่าคงเป็นเพราะว่านางไม่อยากให้ข้าไปด้วยเป็นแน่ คงจะเป็นเพราะชุดที่ข้าใส่วันนี้จะทำให้อวี้จือเยียนดูด้อยลงไป จึงกลัวว่าจะมีใครมาเปรียบเทียบ เช่นนั้นก็เลยอยากจะเข้างานไปตามลำพังเสียมากกว่า” 

 

 

“พรืด” เจาเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “อย่างไรเสียไม่ช้าก็เร็วผู้คนก็ต้องเห็นอยู่ดี เมื่อถึงตอนนั้นจะไม่ยิ่งรู้สึกอับอายหรอกหรือเจ้าคะ” 

 

 

“ใครจะไปรู้ว่าใจของพวกนางคิดอะไรอยู่” อวี้อาเหราคร้านที่จะอธิบาย “พวกเราไปดูที่ห้องเสวยกันสักหน่อยเถิด” 

 

 

“คุณหนูจะไปที่ห้องเสวยทำไมหรือเจ้าคะ” เจาเอ๋อร์ชะงัก ตามความคิดที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของอวี้อาเหราไม่ทัน 

 

 

“เมื่อเช้ามัวแต่ยุ่งอยู่กับการแต่งหน้าแต่งตัว ข้าก็หิวจนท้องร้องระงมไปหมดแล้ว ตอนนี้จึงอยากทานอะไรเสียหน่อย” อวี้อาเหราตอบ 

 

 

“เจ้าค่ะ” เจาเอ๋อร์รู้สึกจนใจอยู่บ้าง คุณหนูของนางนั้นไม่มีใจอยากจะเข้าร่วมงานเลี้ยงเลยแม้แต่น้อย อย่างไรเสียนางก็ตั้งใจที่จะมาหาของกิน แล้วรอชมเรื่องสนุกๆ ก็เท่านั้น จู่ๆ นางก็รู้สึกอับจนขึ้นมา ก่อนจะเดินตามไปยังห้องเสวย 

 

 

เมื่อเดินมาได้ครึ่งทาง อวี้อาเหราก็เพิ่งจะนึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมาได้ เอ่ยถามขึ้นว่า “วันนี้ฉู่ป๋ายจะมาด้วยหรือไม่” 

 

 

“บ่าวก็ไม่แน่ใจเจ้าค่ะ” เจาเอ๋อร์ส่ายหน้า เมื่อเห็นนางมีท่าทีกระวนกระวายขึ้นมาอีกครั้ง เช่นนั้นจึงปิดปากหัวเราะ “คุณหนูจะให้บ่าวไปถามให้หรือไม่เจ้าคะ” 

 

 

“ไม่ต้อง ข้าเพียงแต่คิดว่าก่อนหน้านี้ไม่ว่าข้าจะไปที่ไหนก็พบแต่เขา ทว่ายามนี้กลับพบเห็นเขาน้อยครั้ง จู่ๆ จึงรู้สึกแปลกใจอยู่บ้างก็เท่านั้น” อวี้ออาเหราส่ายหน้า 

 

 

“อ้อ” เจาเออร์ตอบรับพร้อมรอยยิ้มที่ไม่เชิงยิ้ม 

 

 

ในยามที่ทั้งสองคนเดินมาจะถึงห้องเสวยแล้ว เจาเอ๋อร์ก็พูดขึ้นมาว่า “ให้บ่าวเข้าไปเองเถิดเจ้าค่ะ หากเสื้อผ้าคุณหนูสกปรกแล้วจะยุ่งยากเอาได้ แล้วพวกข้างในเห็นเข้าก็ต้องคุกเข่าทำความเคารพอีก คงจะวุ่นวายมาก” 

 

 

“ได้ เจ้าไปเถิด” อวี้อาเหรานั่งอยู่ที่ศาลาใกล้ๆ เพื่อรอให้เจาเอ๋อร์นำของว่างมาให้รองท้อง ในใจคิดว่างานเลี้ยงในวังนั้นช่างลำบากลำบนอะไรเช่นนี้ ต้องตื่นแต่เช้ามาแต่งหน้าทำผม จนถึงตอนนี้ท้องของนางก็หิวเสียแย่แล้ว แต่ทำได้เพียงกินของว่างเพื่อรองท้องเท่านั้น ที่นางต้องทำเช่นนี้ก็เพราะว่าอย่างไรเสียสตรีทั่วทั้งเมืองเฟิ่งเฉิงก็ไม่มีใครยอมใคร นางก็กลัวว่าตัวเองจะด้อยกว่าผู้อื่นก็เท่านั้น 

 

 

ชีวิตช่างไม่เหมือนกับในยุคปัจจุบันที่นางต้องทุกข์ทรมานและหนีตาย แม้ว่าจะเสี่ยงภัย แต่ก็มีความอิสระ แต่เมื่อคิดถึงว่าตนเองที่อยู่ภายใต้การปกครองของโอรสสวรรค์ หากไม่ใช้หัวสมองในการดำเนินชีวิตเสียบ้าง เช่นนั้นก็คงไม่มีสมองไว้ให้รักษาอีกแล้ว 

 

 

ในระหว่างที่กำลังวุ่นวายใจอยู่นั้น นางก็ใช้มือรองศีรษะแล้วฟุบไปกับโต๊ะหิน วันนี้อากาศหนาวเย็นนัก เจาเอ๋อร์เตรียมเสื้อคลุมกันลมขนจิ้งจอกให้นางตัวหนึ่ง เมื่อสวมแล้วจึงไม่ค่อยรู้สึกหนาวเย็นสักเท่าไร แต่วันนี้เป็นงานเลี้ยงในวังหลวง หญิงสาวที่เข้าร่วมงานล้วนแล้วแต่สวมชุดบางเบา แม้แต่อนุรองที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ทำเพียงสวมเสื้อคลุมด้านนอกเท่านั้น 

 

 

เมื่อมองออกไปยังที่ไกลๆ นางก็มองเห็นเงาร่างของคนบางคนกำลังเดินเข้ามา 

 

 

เมื่อเพ่งมองดูแล้วก็เห็นว่าเป็นอนุรองและอวี้จื่อเยียนนั่นเอง พวกนางเดินมากับเหล่าฮูหยินและคุณหนูตระกูลขุนนางกลุ่มหนึ่ง มุมปากของอวี้อาเหราก็ยกโค้งขึ้น ราวกับพวกนางจะมองเห็นตัวเองแล้ว จึงค่อยๆ เดินเข้ามาหา 

 

 

แม่ลูกคู่นี้ กำลังวางแผนอะไรอยู่อีกเล่า 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 224 ไม่ถึงกับตาบอด 

 

 

 

 

 

“คุณหนูรองมานั่งอยู่ตรงนี้เอง ให้ข้าน้อยหาเสียทั่ว ยังคิดว่าท่านน่าจะหลงทางเสียอีก กำลังจะให้คนไปรายงานท่านอ๋องอยู่เชียว ไม่คิดว่าเมื่อได้พบปะพูดคุยกับเหล่าฮูหยินและคุณหนู แล้วจะมาเจอท่านที่นี่” อนุรองยืนนิ่งอยู่ตรงด้านหน้า ก่อนจะแย้มยิ้มออกมาในทันใด 

 

 

“อนุรองตามหาข้ามีเรื่องอันใดหรือ” อวี้อาเหราที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นั้นสัมผัสได้ถึงสายตาที่สาดประกายมายังร่างของนางได้อย่างชัดเจน จึงอดไม่ได้ที่จะช้อนสายตาเย็นชาขึ้นมองสำรวจไปยังกลุ่มของหญิงสาวเหล่านั้น สายตาของนางทำให้หญิงเหล่านั้นตกใจจนต้องถอนสายตามองประเมินของพวกนางกลับไป 

 

 

“ข้าน้อยก็กลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับท่านน่ะสิเจ้าคะ หากเป็นเช่นนั้นท่านอ๋องคงต้องลงโทษข้าน้อยแน่” อนุรองยิ้มเล็กน้อย 

 

 

ฮูหยินที่ยืนอยู่ข้างกายอนุรองในชุดงดงามหรูหราลอบดึงชายแขนเสื้อของนางไว้ แล้วเอ่ยถามอย่างไม่ใคร่จะเชื่อว่า “นี่คงไม่ใช่คุณหนูรองแห่งจวนหลิงอ๋องหรอกกระมัง ช่างงดงามเป็นที่สุด เป็นสาวงามอย่างจริงแท้!” 

 

 

“ใช่แล้ว” สีหน้าของอนุรองแข็งค้าง 

 

 

ฮูหยินผู้นั้นเชยดวงตาขึ้นมองสำรวจอวี้อาเหราอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยปากอย่างมีมารยาท “วันนี้คุณหนูช่างแต่งกายได้งดงามยิ่งนัก ไม่ทราบว่าชุดนี้ไปซื้อมาจากที่ใดหรือ ดูแล้วไม่เหมือนกับชุดที่ช่างมีฝีมือในเมืองเฟิ่งเฉิงทำขึ้นมาเลย” 

 

 

“นี่ก็ไม่ใช่ชุดที่ช่างมีฝีมือทำขึ้นมาจริงๆ” อวี้อาเหรายิ้มบางๆ 

 

 

ฮูหยินผู้นั้นดูก็รู้ว่าไม่อยากพูดอะไรมาก จึงไม่เซ้าซี้ถามต่อ จากนั้นก็ปรายตามองไปยังอวี้จื่อเยียน แล้วอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบกันขึ้นมา แน่นอนว่าธิดาภรรยารองผู้นี้สู้ธิดาภรรยาเอกไม่ได้เลย เมื่อก่อนตอนที่ยังไม่พบคุณหนูรองนั้นก็คิดว่าคุณหนูใหญ่งดงามเป็นอย่างมาก ทว่าในยามนี้ อย่างไรเสียก็เทียบกันไม่ติดจริงๆ 

 

 

คนที่เหลืออยู่ต่างพากันจ้องมองมายังอนุรองและอวี้จื่อเยียนสองแม่ลูกราวกับชมดูละครสนุกๆ ในสายตาเต็มไปด้วยความรู้สึกเย้ยหยัน และความบริภาษมาดร้าย  

 

 

อวี้จื่อเยียนกำมือแน่น “น้องสาว ไมใช่ว่าข้าจะว่าเจ้าหรอกนะ ยามนี้ท่านแม่ของข้ากำลังตั้งครรภ์จึงทำอะไรไม่ค่อยสะดวกนัก เสด็จพ่อที่นำเข้าไปก่อนได้ฝากให้เจ้าช่วยดูแล แต่ในใจของเจ้าคงไม่อยากจะเดินด้วยกันกับพวกเรา พวกข้าแม่ลูกนั้นมีสถานะต่ำต้อยจึงไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมาได้ แต่เจ้าเคยนึกถึงทายาทของจวนอ๋องของพวกเราบ้างหรือไม่” 

 

 

ทันทีที่กล่าวจบก็เท่ากับผลักความรับผิดชอบมาให้อวี้อาเหรา ในใจของนางลอบหัวเราะหยัน นี่ก็เป็นพวกนางสองแม่ลูกแท้ๆ ที่ต้องการไปเก็บผ้าเช็ดหน้า แต่ตอนนี้กลับพูดขึ้นมาเช่นนี้เสียได้ อีกทั้งยังใส่ร้ายว่านางกำลังรังแกอนุรองที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ เช่นนี้จะไม่ได้เท่ากับชี้ว่านี้เป็นความรับผิดชอบของนางหรอกหรือ 

 

 

และทันใดนั้นเอง สายตาของเหล่าคุณหนูและฮูหยินที่กำลังชมดูเรื่องสนุกก็สาดส่องกลับมาอีกครั้ง 

 

 

“พี่สาว ท่านพูดไปถึงไหนกัน…” อวี้อาเหรากะพริบตาปริบๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ม้าหินด้วยท่าทางที่น่าสงสาร “เป็นเพราะอนุรองกล่าวว่าผ้าเช็ดหน้าตกแล้วจะกลับไปเก็บเองแท้ๆ ข้าไม่วางใจจะตามไปด้วยก็ไม่ยอม อีกทั้งข้าก็คิดขึ้นมาได้ว่าตั้งแต่เช้ายังไม่ได้ทานอาหารเช้า เช่นนั้นจึงให้สาวใช้ไปนำอาหารว่างมาให้ เพราะกลัวว่าเด็กในท้องของอนุรองจะหิวแย่ แต่ว่า…กลับกลายเป็นข้าที่ผิดอย่างนั้นหรือ” 

 

 

“ไปนำอาหารว่าง?” อวี้จื่อเยียนหัวเราะเสียงเย็นชา “แล้วอยู่ที่ใดเล่า? ตอนพวกเราเดินมาถึงนั้นก็เห็นเพียงแต่เจ้าที่นั่งอยู่ที่นี่อย่างสบายใจ คงไม่ใช่ว่ากำลังตบตากันอยู่หรอกใช่หรือไม่ แม้ว่าข้าจะตาเซ่อไปบ้าง แต่ข้าก็ไม่ได้ตาบอด!” 

 

 

จริงด้วย นางก็แค่พูดส่งๆ ไปเท่านั้นสินะ คนทั้งหมดได้ยินดังนั้นก็พากันคล้อยตาม 

 

 

“ก็บอกแล้วว่าได้สั่งสาวใช้ไปนำมาให้ แน่นอนว่าตอนนี้นางก็ต้องไม่อยู่แล้วน่ะสิ” อวี้อาเหรากลอกตา 

 

 

ทุกคนพยักหน้า ที่พูดมาก็มีเหตุผล 

 

 

อวี้จื่อเยียนแค่นเสียงออกมาอย่างไม่พอใจ ยังคงไม่เชื่อว่าจะเป็นจริงเช่นอวี้อาเหราพูด แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่านั่นจะเป็นข้อแก้ตัวไปเรื่อยเปื่อย  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด