ลิขิตฟ้าชะตารัก 713 ถูกหลอกอีกแล้ว / 714 น้ำผึ้งล่อแมลง

Now you are reading ลิขิตฟ้าชะตารัก Chapter 713 ถูกหลอกอีกแล้ว / 714 น้ำผึ้งล่อแมลง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 713 ถูกหลอกอีกแล้ว

 

 

โชคดีที่นางเลียนแบบวิธีการโกหกไม่ให้คนจับได้มาจากฉู่ป๋าย ใบหน้าจึงไม่แดงและใจจะไม่เต้น มิเช่นนั้นเรื่องนี้คงไปต่อไม่ถูกแน่ อย่างไรเสียนางก็เป็นถึงท่านหญิงที่ฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งด้วยตัวเอง แต่กลับถูกสอนให้เสียคนเช่นนี้

 

 

อวี้อาเหราผินหน้ากลับมา แล้วลอบสบถเสียงหนักๆ คำโกหกที่ฉู่เกอสร้างมาเพียงชั่วครู่ไหนเลยจะทำให้นางเชื่อลงไปได้

 

 

เจ้าฉู่ป๋ายคนนี้ หลอกนางเข้าอีกแล้ว

 

 

เมื่อคิดเช่นนี้ นางก็กัดฟันอย่างโกรธเคือง

 

 

และยามที่มองไปทางฉู่ป๋าย เขาก็ทำราวกับไม่รู้เรื่องรู้ราว แล้วถามขึ้นว่า “เจ้าก็สอนข้าสิ”

 

 

“ได้” ฉู่ป๋ายพยักหน้า ตั้งใจที่จะสอนนางจริงๆ

 

 

เขาตั้งใจจะสอนนางอย่างละเอียด หากจะบอกว่าเขาทำไม่เป็นก็คงจะพูดได้ไม่เต็มปาก

 

 

อวี้อาเหราตั้งใจฟังอย่างเต็มที่ หลังจากที่ฟังจบแล้วจึงหยิบปิ่นหยกขึ้นมา ปิ่นหยกนั่นแต่เดิมเป็นปิ่นตรึงเส้นผมของสตรี แต่บุรุษก็ใช้ได้ ทั้งสีและลายสลักนั้นดูเหมือนของสตรีอยู่บ้าง นางตั้งใจที่จะหยิบปิ่นหยกขึ้นมา แล้วเสียบลงบนเส้นผมของเขา

 

 

ฉู่ป๋ายรั้งมือของนางเอาไว้ทัน “เจ้าจะทำอะไรน่ะ”

 

 

“ทำอะไร? ก็เกล้าผมให้เจ้าน่ะสิ” อวี้อาเหราหัวเราะเสียงเบา น้ำเสียงเรียบรื่น

 

 

ฉู่ป๋ายชะงัก “แต่ว่าปิ่นหยกนี้…”

 

 

“จะแต่ว่าอะไรกัน ไม่ต้องพูดมากให้เสียเวลา ข้าจะเสียบให้เจ้าเอง” อวี้อาเหราพยายามที่จะแย้มยิ้มเพื่อขอไมตรี ในใจก็รื่นเริงราวดอกไม้บาน มองไปที่ศีรษะของฉู่ป๋ายที่มีของสตรีปักอยู่ เพื่อเป็นการระบายความโกรธของนาง

 

 

ใครใช้ให้เขาแกล้งนางเล่า สมน้ำหน้า!

 

 

ฉู่เกอที่อยู่ด้านหลังกำลังลอบหัวเราะ แต่ก็ไม่กล้าหัวเราะออกมา

 

 

เมื่อมีของสตรีประดับอยู่ที่ศีรษะเช่นนี้ ทำให้บรรยากาศน่าเหินห่างเช่นนี้ของฉู่ป๋ายหายไปมากทีเดียว

 

 

ในยามนี้อวี้จื้อและหานสือก็เดินเข้ามาในห้อง

 

 

หานสือเห็นปิ่นหยกบนศีรษะของซื่อจื่อแล้ว มุมปากก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างเสียไม่ได้

 

 

ซื่อจื่อเป็นอะไรไป? หากโดนแกล้งเช่นนี้ จะไม่โกรธหรือ

 

 

อวี้จื้อมองเข้าไปในดวงตา สายตาก็ชะงัก แล้วจึงส่งสายตาไปทางฉู่เกอ

 

 

“นี่มันเรื่องอะไรกัน”

 

 

“ไม่มีอะไร พี่เหราเอ๋อร์เกล้าผมให้พี่ชายข้าเท่านั้นเอง”

 

 

คำพูดของฉู่เกอแฝงไปด้วยเสียงหัวเราะ

 

 

“เกล้าผม?” อวี้จื้อชะงัก เพียงก็เข้าใจขึ้นมาในทันที แล้วก้าวไปข้างหน้าอย่างลังเล เลิกคิ้วขึ้นแล้วมองไปทางอวี้อาเหรา “พี่รอง ท่านไม่รู้หรือ เรื่องมัดผมเช่นนี้มีแต่สามีภรรยันเท่านั้นจึงจะทำได้ ท่านและเซิ่นซื่อจื่อนั้น…”

 

 

“โอ๊ย เจ้าคิดไปถึงไหน ก็เขาบอกเองว่าทำไม่เป็น ดังนั้นจึงถือโอกาส…”

 

 

เมื่ออวี้จื้อกล่าวเล่นนี้ อวี้อาเหราก็เข้าใจขึ้นมา ว่าถูกเขาแกล้งขึ้นมาอีกแล้ว…

 

 

ต้องโทษที่นางไม่รู้ธรรมเนียมของต้าเยี่ยน แต่ก็ไม่เป็นไร นางเป็นคนในยุคปัจจุบันที่ย้อนเวลามา ไหนเลยจะสนใจเรื่องเช่นนี้ได้เล่า

 

 

อวี้จื้อไม่ว่าอะไร ทว่าก็ยังคงจ้องมองนางอยู่เช่นนั้น

 

 

หลังจากที่อวี้อาเหราเกล้าผมให้ฉู่ป๋ายเรียบร้อยแล้วจึงมองมาอย่างเหนื่อยหน่าย “พวกเจ้าเล่นกันอยู่ด้านนอกมิใช่หรือ เหตุใดถึงพากันเข้ามาจนหมดเล่า?”

 

 

“ก็เห็นว่าพี่เหราเอ๋อร์ยังไม่ออกมาเสียที ก็เลยเข้ามาดูน่ะสิ” ฉู่เกอบุ้ยปากอย่างไม่เห็นด้วย

 

 

อวี้อาเหราถอนลมหายใจ “ถ้าอย่างนั้นก็ไปเล่นกันเถิดไป”

 

 

“นั่นสิ” ฉู่เกอพยักหน้าคล้อยตาม

 

 

เมื่อออกมาข้างนอก ก็มองเห็นพื้นกลายเป็นหิมะสีขาวเงินโล่ง สายตาเปลี่ยนไปเป็นสงบเย็นชายิ่งขึ้น และรู้สึกสบายใจขึ้นไม่น้อย ในส่วนกลางของสวน กำลังปั้นหิมะ ความหนาวเย็นของหิมะทำให้มือแดงเถือกไปจนหมด ทว่าบรรดาสาวใช้เหล่านั้นกลับดูไม่หนาวเลย ยังคงกลิ้งลูกหิมะไปมาอยู่อย่างนั้น

 

 

 

 

ตอนที่ 714 น้ำผึ้งล่อแมลง

 

 

เป็นนานที่ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายเช่นนี้ หลายวันมานี้นางต้องผ่านมาหลายเรื่องเลยทีเดียว

 

 

ตอนนี้สามารถที่จะผ่อนคลายลงได้บ้างแล้ว

 

 

อวี้อาเหราคว้ามือของฉู่เกอได้ก็คว้าเข้ามา เมื่อสาวใช้ผู้นั้นเห็นว่านางเดินมาจึงเปลี่ยนไปเป็นสงบนิ่งมากยิ่งขึ้น รีบลุกขึ้นแล้วทำความเคารพอย่างถูกต้องตามธรรมเนียม อวี้อาเหราโบกมือ ให้พวกนางเล่นกันต่อได้ ดังนั้นจึงมีท่าทียินดีขึ้นมา

 

 

มองไปทางพวกนางที่กำลังโยนหิมะเล่นกันอย่างสนุกสนาน

 

 

เมื่อกำลังจะเข้าไปเล่นกลิ้งหิมะ ทว่าเจาเอ๋อร์กลับเข้ามาห้ามเอาไว้ “คุณหนู ตอนนี้อากาศหนาวเย็น อย่ามาเล่นหิมะเลยนะเจ้าคะ”

 

 

“ข้ารู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวหรอกน่า” อวี้อาเหราไม่สนใจคำพูดของนาง แล้วก้มลงไปคว้าเอาก้อนหิมะ

 

 

ยามที่ต้องหิมะเหล่านั้น มือทั้งสองข้างก็เปลี่ยนไปเป็นสีแดงจัด เหมือนกับขาหมูที่ย่างมาเสียดิบดีแล้ว

 

 

“คุณหนู…” เจาเอ๋อร์กำลังจะเอ่ยเกลี้ยกล่อม อวี้อาเหราก็โยนหิมะใส่จนโดนใบหน้าของนาง หลังจากชะงักไปสักครู่จมูกก็แดงก่ำ “คุณหนูเหตุใดต้องลอบโจมดีด้วยเล่า?”

 

 

อวี้อาเหราไม่ปล่อยให้นางบ่นกระปอดกระแปด แล้วจึงโยนหิมะใส่หน้านางอีก

 

 

เจาเอ๋อร์ถูกยั่วให้โกรธ นางกอบมิมะใส่มือ ก่อนจะปาไปทางร่างของอวี้อาเหรา

 

 

“พวกเราก็ไปเล่นกันเถิด?”

 

 

ฉู่เกอมองจากด้านหลังแล้วเห็นว่าพวกนางเล่นกันอย่างร่นเริง ในใจก็สั่นไหว แล้วคว้ามืออวี้จื้อขึ้นมาอย่างลืมตัว แล้วเดินไปทางนั้น

 

 

อวี้จื้อยังไม่ทันพูดอะไร เขาก็ถูกลากพาไปแล้ว

 

 

หานสือเห็นฉู่เกอและอวี้จื้อสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ ท่าทีก็นิ่งลง แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมองฉู่ป๋ายด้วยความระมัดระวัง “ซื่อจื่อ ท่านหญิง…”

 

 

“ช่างเถิด สองสามวันมานี้ก็ปล่อยไปเถิด” ริมฝีปากของฉู่ป๋ายโค้งขึ้นในทันที แล้วเอ่ยกับเขาว่า “เจ้าก็ไปด้วยสิ”

 

 

“โอ้ อย่างนั้นบ่าวขอตัว” หานสือเดินจากไป แล้วเดินไปทางฉู่เกอ

 

 

ยามที่เจาเอ๋อร์กำลังเล่นอยู่กับอวี้อาเหรานั้น สายตาก็หันไปมองหานสืออย่างไม่ได้ตั้งใจ

 

 

ทว่าเพียงชั่วอึดใจ นางก็โดนก้อนหิมะของอวี้อาเหราปาใส่หน้า

 

 

นางไม่ปล่อยให้โอกาสแน่ รีบโจมตีกลับในทันที

 

 

ทุกคนดูกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน เหลือเพียงฉู่ป๋ายและเมี่ยวอวี้เท่านั้นทียืนมองอยู่ข้างๆ

 

 

ระหว่างที่มองนั้น เมี่ยวอวี้ก็ถอนสายตากลับมา แล้วหันไปมองฉู่ป๋าย “เซื่อซื่อจื่อเหตุใดไม่ไปเล่นกันเล่าเพคะ?”

 

 

“เจ้าชื่อเมี่ยวอวี้หรือ?” ฉู่ป๋ายไม่ตอบเขา แต่ดันถามกลับ

 

 

“เพคะ หม่อมฉันชื่อเมี่ยวอวี้” เมี่ยวอวี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงตอบกลับ

 

 

มุมปากของฉู่ป๋ายโค้งขึ้น “เจ้าเป็นสาวใช้ที่หลิงอ๋องส่งมาให้เหราเอ๋อร์หรือ?”

 

 

“เพคะ เซิ่นซื่อจื่อ” เมี่ยวอวี้ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงถามเช่นนี้ มองเห็นท่าทีเช่นนั้นก็กลับเหมือนท่าทีเช่นเดิม เพียงมุมปากโค้งขึ้นเท่านั้น ราวกับจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม คนที่มองเห็นจำต้องก้มหน้าลง ไม่กล้าที่จะมองมาที่เขาแม้แต่น้อย

 

 

ยามที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันนั้น อวี้อาเหราก็สังเกตเห็น ในใจก็สบถ เพียงไม่นานก็คิดจะสมคบกับสาวใช้ของนางเสียแล้ว ไปอยู่ที่ไหนก็เหมือนน้ำผึ้งล่อแมลง นางคว้าหิมะเอาไว้ในมือ แล้วเดินไปหาฉู่ป๋าย

 

 

เมื่อเห็นนางเดินเข้ามา ฉู่ป๋ายก็ถอนสายตากลับมา ยิ้มในหน้าแล้วเอ่ยถาม “เจ้ามาทำไมล่า”

 

 

อวี้อาเหราไม่ว่าอะไร ทันใดนั้นก็ยื่นมือออกมา แล้วปาหิมะในมือออกไปในทันที

 

 

แต่ใครจะรู้เล่าว่าฉู่ป๋ายได้เตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว จึงรีบหลบทันที

 

 

อวี้อาเหรากัดฟัน “เจ้ารู้อยู่แล้วหรือ?”

 

 

“ก็สีหน้าของเจ้าดูแปลกพิกล ทำไมจะดูไม่ออกเล่า?”

 

 

อวี้อาเหราฝืนตัวเองพลางก้าวไปข้างหน้า คว้ามือของฉู่ป๋ายเอาไว้ อย่างไรก็ไม่ยอมปล่อย

 

 

ฉู่ป๋ายไม่ได้อยากที่จะเข้ามาร่วมเล่นอะไรกับพวกนางเลย จำต้องขืนร่างเอาไว้ พยายามที่จะแกะมือของนางออก ไม่คิดเลยว่าเพียงชั่วพริบตาก็ชะงัก อวี้อาเหราก็คว้าหิมะปาใส่อกของเขาในทันที

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ลิขิตฟ้าชะตารัก 713 ถูกหลอกอีกแล้ว / 714 น้ำผึ้งล่อแมลง

Now you are reading ลิขิตฟ้าชะตารัก Chapter 713 ถูกหลอกอีกแล้ว / 714 น้ำผึ้งล่อแมลง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 713 ถูกหลอกอีกแล้ว

 

 

โชคดีที่นางเลียนแบบวิธีการโกหกไม่ให้คนจับได้มาจากฉู่ป๋าย ใบหน้าจึงไม่แดงและใจจะไม่เต้น มิเช่นนั้นเรื่องนี้คงไปต่อไม่ถูกแน่ อย่างไรเสียนางก็เป็นถึงท่านหญิงที่ฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งด้วยตัวเอง แต่กลับถูกสอนให้เสียคนเช่นนี้

 

 

อวี้อาเหราผินหน้ากลับมา แล้วลอบสบถเสียงหนักๆ คำโกหกที่ฉู่เกอสร้างมาเพียงชั่วครู่ไหนเลยจะทำให้นางเชื่อลงไปได้

 

 

เจ้าฉู่ป๋ายคนนี้ หลอกนางเข้าอีกแล้ว

 

 

เมื่อคิดเช่นนี้ นางก็กัดฟันอย่างโกรธเคือง

 

 

และยามที่มองไปทางฉู่ป๋าย เขาก็ทำราวกับไม่รู้เรื่องรู้ราว แล้วถามขึ้นว่า “เจ้าก็สอนข้าสิ”

 

 

“ได้” ฉู่ป๋ายพยักหน้า ตั้งใจที่จะสอนนางจริงๆ

 

 

เขาตั้งใจจะสอนนางอย่างละเอียด หากจะบอกว่าเขาทำไม่เป็นก็คงจะพูดได้ไม่เต็มปาก

 

 

อวี้อาเหราตั้งใจฟังอย่างเต็มที่ หลังจากที่ฟังจบแล้วจึงหยิบปิ่นหยกขึ้นมา ปิ่นหยกนั่นแต่เดิมเป็นปิ่นตรึงเส้นผมของสตรี แต่บุรุษก็ใช้ได้ ทั้งสีและลายสลักนั้นดูเหมือนของสตรีอยู่บ้าง นางตั้งใจที่จะหยิบปิ่นหยกขึ้นมา แล้วเสียบลงบนเส้นผมของเขา

 

 

ฉู่ป๋ายรั้งมือของนางเอาไว้ทัน “เจ้าจะทำอะไรน่ะ”

 

 

“ทำอะไร? ก็เกล้าผมให้เจ้าน่ะสิ” อวี้อาเหราหัวเราะเสียงเบา น้ำเสียงเรียบรื่น

 

 

ฉู่ป๋ายชะงัก “แต่ว่าปิ่นหยกนี้…”

 

 

“จะแต่ว่าอะไรกัน ไม่ต้องพูดมากให้เสียเวลา ข้าจะเสียบให้เจ้าเอง” อวี้อาเหราพยายามที่จะแย้มยิ้มเพื่อขอไมตรี ในใจก็รื่นเริงราวดอกไม้บาน มองไปที่ศีรษะของฉู่ป๋ายที่มีของสตรีปักอยู่ เพื่อเป็นการระบายความโกรธของนาง

 

 

ใครใช้ให้เขาแกล้งนางเล่า สมน้ำหน้า!

 

 

ฉู่เกอที่อยู่ด้านหลังกำลังลอบหัวเราะ แต่ก็ไม่กล้าหัวเราะออกมา

 

 

เมื่อมีของสตรีประดับอยู่ที่ศีรษะเช่นนี้ ทำให้บรรยากาศน่าเหินห่างเช่นนี้ของฉู่ป๋ายหายไปมากทีเดียว

 

 

ในยามนี้อวี้จื้อและหานสือก็เดินเข้ามาในห้อง

 

 

หานสือเห็นปิ่นหยกบนศีรษะของซื่อจื่อแล้ว มุมปากก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างเสียไม่ได้

 

 

ซื่อจื่อเป็นอะไรไป? หากโดนแกล้งเช่นนี้ จะไม่โกรธหรือ

 

 

อวี้จื้อมองเข้าไปในดวงตา สายตาก็ชะงัก แล้วจึงส่งสายตาไปทางฉู่เกอ

 

 

“นี่มันเรื่องอะไรกัน”

 

 

“ไม่มีอะไร พี่เหราเอ๋อร์เกล้าผมให้พี่ชายข้าเท่านั้นเอง”

 

 

คำพูดของฉู่เกอแฝงไปด้วยเสียงหัวเราะ

 

 

“เกล้าผม?” อวี้จื้อชะงัก เพียงก็เข้าใจขึ้นมาในทันที แล้วก้าวไปข้างหน้าอย่างลังเล เลิกคิ้วขึ้นแล้วมองไปทางอวี้อาเหรา “พี่รอง ท่านไม่รู้หรือ เรื่องมัดผมเช่นนี้มีแต่สามีภรรยันเท่านั้นจึงจะทำได้ ท่านและเซิ่นซื่อจื่อนั้น…”

 

 

“โอ๊ย เจ้าคิดไปถึงไหน ก็เขาบอกเองว่าทำไม่เป็น ดังนั้นจึงถือโอกาส…”

 

 

เมื่ออวี้จื้อกล่าวเล่นนี้ อวี้อาเหราก็เข้าใจขึ้นมา ว่าถูกเขาแกล้งขึ้นมาอีกแล้ว…

 

 

ต้องโทษที่นางไม่รู้ธรรมเนียมของต้าเยี่ยน แต่ก็ไม่เป็นไร นางเป็นคนในยุคปัจจุบันที่ย้อนเวลามา ไหนเลยจะสนใจเรื่องเช่นนี้ได้เล่า

 

 

อวี้จื้อไม่ว่าอะไร ทว่าก็ยังคงจ้องมองนางอยู่เช่นนั้น

 

 

หลังจากที่อวี้อาเหราเกล้าผมให้ฉู่ป๋ายเรียบร้อยแล้วจึงมองมาอย่างเหนื่อยหน่าย “พวกเจ้าเล่นกันอยู่ด้านนอกมิใช่หรือ เหตุใดถึงพากันเข้ามาจนหมดเล่า?”

 

 

“ก็เห็นว่าพี่เหราเอ๋อร์ยังไม่ออกมาเสียที ก็เลยเข้ามาดูน่ะสิ” ฉู่เกอบุ้ยปากอย่างไม่เห็นด้วย

 

 

อวี้อาเหราถอนลมหายใจ “ถ้าอย่างนั้นก็ไปเล่นกันเถิดไป”

 

 

“นั่นสิ” ฉู่เกอพยักหน้าคล้อยตาม

 

 

เมื่อออกมาข้างนอก ก็มองเห็นพื้นกลายเป็นหิมะสีขาวเงินโล่ง สายตาเปลี่ยนไปเป็นสงบเย็นชายิ่งขึ้น และรู้สึกสบายใจขึ้นไม่น้อย ในส่วนกลางของสวน กำลังปั้นหิมะ ความหนาวเย็นของหิมะทำให้มือแดงเถือกไปจนหมด ทว่าบรรดาสาวใช้เหล่านั้นกลับดูไม่หนาวเลย ยังคงกลิ้งลูกหิมะไปมาอยู่อย่างนั้น

 

 

 

 

ตอนที่ 714 น้ำผึ้งล่อแมลง

 

 

เป็นนานที่ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายเช่นนี้ หลายวันมานี้นางต้องผ่านมาหลายเรื่องเลยทีเดียว

 

 

ตอนนี้สามารถที่จะผ่อนคลายลงได้บ้างแล้ว

 

 

อวี้อาเหราคว้ามือของฉู่เกอได้ก็คว้าเข้ามา เมื่อสาวใช้ผู้นั้นเห็นว่านางเดินมาจึงเปลี่ยนไปเป็นสงบนิ่งมากยิ่งขึ้น รีบลุกขึ้นแล้วทำความเคารพอย่างถูกต้องตามธรรมเนียม อวี้อาเหราโบกมือ ให้พวกนางเล่นกันต่อได้ ดังนั้นจึงมีท่าทียินดีขึ้นมา

 

 

มองไปทางพวกนางที่กำลังโยนหิมะเล่นกันอย่างสนุกสนาน

 

 

เมื่อกำลังจะเข้าไปเล่นกลิ้งหิมะ ทว่าเจาเอ๋อร์กลับเข้ามาห้ามเอาไว้ “คุณหนู ตอนนี้อากาศหนาวเย็น อย่ามาเล่นหิมะเลยนะเจ้าคะ”

 

 

“ข้ารู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวหรอกน่า” อวี้อาเหราไม่สนใจคำพูดของนาง แล้วก้มลงไปคว้าเอาก้อนหิมะ

 

 

ยามที่ต้องหิมะเหล่านั้น มือทั้งสองข้างก็เปลี่ยนไปเป็นสีแดงจัด เหมือนกับขาหมูที่ย่างมาเสียดิบดีแล้ว

 

 

“คุณหนู…” เจาเอ๋อร์กำลังจะเอ่ยเกลี้ยกล่อม อวี้อาเหราก็โยนหิมะใส่จนโดนใบหน้าของนาง หลังจากชะงักไปสักครู่จมูกก็แดงก่ำ “คุณหนูเหตุใดต้องลอบโจมดีด้วยเล่า?”

 

 

อวี้อาเหราไม่ปล่อยให้นางบ่นกระปอดกระแปด แล้วจึงโยนหิมะใส่หน้านางอีก

 

 

เจาเอ๋อร์ถูกยั่วให้โกรธ นางกอบมิมะใส่มือ ก่อนจะปาไปทางร่างของอวี้อาเหรา

 

 

“พวกเราก็ไปเล่นกันเถิด?”

 

 

ฉู่เกอมองจากด้านหลังแล้วเห็นว่าพวกนางเล่นกันอย่างร่นเริง ในใจก็สั่นไหว แล้วคว้ามืออวี้จื้อขึ้นมาอย่างลืมตัว แล้วเดินไปทางนั้น

 

 

อวี้จื้อยังไม่ทันพูดอะไร เขาก็ถูกลากพาไปแล้ว

 

 

หานสือเห็นฉู่เกอและอวี้จื้อสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ ท่าทีก็นิ่งลง แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมองฉู่ป๋ายด้วยความระมัดระวัง “ซื่อจื่อ ท่านหญิง…”

 

 

“ช่างเถิด สองสามวันมานี้ก็ปล่อยไปเถิด” ริมฝีปากของฉู่ป๋ายโค้งขึ้นในทันที แล้วเอ่ยกับเขาว่า “เจ้าก็ไปด้วยสิ”

 

 

“โอ้ อย่างนั้นบ่าวขอตัว” หานสือเดินจากไป แล้วเดินไปทางฉู่เกอ

 

 

ยามที่เจาเอ๋อร์กำลังเล่นอยู่กับอวี้อาเหรานั้น สายตาก็หันไปมองหานสืออย่างไม่ได้ตั้งใจ

 

 

ทว่าเพียงชั่วอึดใจ นางก็โดนก้อนหิมะของอวี้อาเหราปาใส่หน้า

 

 

นางไม่ปล่อยให้โอกาสแน่ รีบโจมตีกลับในทันที

 

 

ทุกคนดูกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน เหลือเพียงฉู่ป๋ายและเมี่ยวอวี้เท่านั้นทียืนมองอยู่ข้างๆ

 

 

ระหว่างที่มองนั้น เมี่ยวอวี้ก็ถอนสายตากลับมา แล้วหันไปมองฉู่ป๋าย “เซื่อซื่อจื่อเหตุใดไม่ไปเล่นกันเล่าเพคะ?”

 

 

“เจ้าชื่อเมี่ยวอวี้หรือ?” ฉู่ป๋ายไม่ตอบเขา แต่ดันถามกลับ

 

 

“เพคะ หม่อมฉันชื่อเมี่ยวอวี้” เมี่ยวอวี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงตอบกลับ

 

 

มุมปากของฉู่ป๋ายโค้งขึ้น “เจ้าเป็นสาวใช้ที่หลิงอ๋องส่งมาให้เหราเอ๋อร์หรือ?”

 

 

“เพคะ เซิ่นซื่อจื่อ” เมี่ยวอวี้ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงถามเช่นนี้ มองเห็นท่าทีเช่นนั้นก็กลับเหมือนท่าทีเช่นเดิม เพียงมุมปากโค้งขึ้นเท่านั้น ราวกับจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม คนที่มองเห็นจำต้องก้มหน้าลง ไม่กล้าที่จะมองมาที่เขาแม้แต่น้อย

 

 

ยามที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันนั้น อวี้อาเหราก็สังเกตเห็น ในใจก็สบถ เพียงไม่นานก็คิดจะสมคบกับสาวใช้ของนางเสียแล้ว ไปอยู่ที่ไหนก็เหมือนน้ำผึ้งล่อแมลง นางคว้าหิมะเอาไว้ในมือ แล้วเดินไปหาฉู่ป๋าย

 

 

เมื่อเห็นนางเดินเข้ามา ฉู่ป๋ายก็ถอนสายตากลับมา ยิ้มในหน้าแล้วเอ่ยถาม “เจ้ามาทำไมล่า”

 

 

อวี้อาเหราไม่ว่าอะไร ทันใดนั้นก็ยื่นมือออกมา แล้วปาหิมะในมือออกไปในทันที

 

 

แต่ใครจะรู้เล่าว่าฉู่ป๋ายได้เตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว จึงรีบหลบทันที

 

 

อวี้อาเหรากัดฟัน “เจ้ารู้อยู่แล้วหรือ?”

 

 

“ก็สีหน้าของเจ้าดูแปลกพิกล ทำไมจะดูไม่ออกเล่า?”

 

 

อวี้อาเหราฝืนตัวเองพลางก้าวไปข้างหน้า คว้ามือของฉู่ป๋ายเอาไว้ อย่างไรก็ไม่ยอมปล่อย

 

 

ฉู่ป๋ายไม่ได้อยากที่จะเข้ามาร่วมเล่นอะไรกับพวกนางเลย จำต้องขืนร่างเอาไว้ พยายามที่จะแกะมือของนางออก ไม่คิดเลยว่าเพียงชั่วพริบตาก็ชะงัก อวี้อาเหราก็คว้าหิมะปาใส่อกของเขาในทันที

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+