ลิขิตฟ้าชะตารัก 687 อยากตายก็ตายไปด้วยกัน / 688 เนรคุณ

Now you are reading ลิขิตฟ้าชะตารัก Chapter 687 อยากตายก็ตายไปด้วยกัน / 688 เนรคุณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 687 อยากตายก็ตายไปด้วยกัน

 

 

“เจ้าบอกเองไม่ใช่หรือว่าคุณหนูรองหลิงยังไม่ตาย?” อวี้อาเหราตื่นตะลึงอีกครั้ง

 

 

หนิงจื่อเย่รู้ว่าตัวเองพูดผิดไปเสียแล้ว สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนไป แต่เพียงไม่นานก็กลับมาสงบเหมือนเดิม เขาหัวเราะเสียงเบา “ตกหน้าผา อีกทั้งยังตกลงไปในน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งจะไม่ตายได้อย่างไร? เจ้านี่ช่างโง่เหลือเกิน”

 

 

อวี้อาเหราเข้าใจขึ้นมาในทันที นางโกรธเสียจนตะคอกออกมา “เพราะอย่างนั้นที่เจ้าบอกข้าก่อนหน้านี้ก็เป็นเรื่องโกหกทั้งหมดสินะ ตั้งแต่ต้นเจ้าก็จงใจหลอกข้า! เจ้ารู้ถึงสถานะที่แท้จริงของข้าตั้งนานแล้วใช่หรือไม่? หรืออีกอย่างที่เจ้าพูดมาทั้งหมดนี้ก็เพียงเพื่อจะหลอกใช้ข้าใช่หรือไม่!”

 

 

“ในที่สุดเจ้าก็เข้าใจเสียที ก็ยังถือว่าไม่สายเกินไป” หนิงจื่อเย่หัวเราะ สีหน้าก็เปลี่ยนไป “แต่ว่าสิ่งที่ข้าพูดนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องจริง มีแต่เรื่องที่คุณหนูรองยังไม่ตายนั้นเป็นเรื่องโกหก ในยามที่นางกำลังเผชิญกับความตาย ข้าใช้พลัง เพื่อนำความทรงจำในสมองของนางออกมาจึงได้รู้ มิเช่นนั้น ข้าจะโกหกเจ้าได้อย่างไร?”

 

 

อวี้อาเหราโรกธจนแทบจะกระอักเลือดออกมา นางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเขายังมีพลังที่แปลกประหลาดมหัศจรรย์ถึงเพียงนั้น ทั้งยังสามารถขุดเอาความทรงจำออกมาได้ ได้ลงมือแต่ละขั้นตอน จนทำให้นางเผยธาตุแท้ออกมา จากนั้นก็ดึงนางให้เข้ามาในแผนการ หนิงจื่อเย่ก็ดียิ่งนัก! หัวสมองดีนัก! ที่กล้าแกล้งนางจนหัวหมุนเช่นนี้!

 

 

หากคุณหนูรองหลิงตัวจริงยังไม่ตาย นางก็ไม่กลัวแม้แต่น้อย หลักฐานจากใครก็ไม่รู้ ใครจะเชื่อคำพูดของหนิงจื่อเย่ อวี้อาเหราคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก นี่เป็นเรื่องที่หนิงจื่อเย่ตั้งใจที่จะหลอกนาง เพื่อให้ไปถึงจุดมุ่งหมายของตัวเองเท่านั้น

 

 

คนผู้นี้ ช่างชั่วร้ายเสียเหลือเกิน!

 

 

หรือเป็นเพราะนางนั้นซื่อเกินไป ที่ยังไม่ตระหนักถึงภัยอันตรายของโลกนี้?

 

 

หนิงจื่อเย่มองไปในดวงตาของนางที่มีแววเยาะเย้ยและโกรธเกรี้ยว จากนั้นก็หัวเราะขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง “ตอนนี้เหมือนเจ้าขึ้นหลังเสือแล้วยากที่จะหาทางลง เมื่อถูกไทเฮาบังคับให้แต่งงาน เจ้าก็ต้องพึ่งพาข้า มีเพียงข้าเท่านั้นถึงจะช่วยเหลือได้ มิเช่นนั้นเจ้าจะทำอย่างไร หากเจ้าเป็นคนฉลาด ก็อยู่นิ่งๆ แล้วเชื่อฟังข้าให้ดี ไม่เช่นนั้น…”

 

 

“ไม่เช่นนั้นจะทำไม จะฆ่าข้าหรือ? ข้าจะบอกให้นะหนิงจื่อเย่ หากเจ้าทำให้ข้าโกรธ ข้าก็จะเอาเรื่องของเจ้าไปบอกฉู่ป๋ายเสียให้หมด ดูสิว่าเขาจะว่าอย่างไร หากไม่มีเจ้า อย่างมากก็ตายเสียด้วยกันก็เท่านั้น” อวี้อาเหราฟังเสียงหัวเราะของเขา ก็โกรธเสียจนแทบจะไฟลุก

 

 

นางไม่ใช้หญิงสาวอ่อนแอที่เอาแต่นอนอยู่บนฟูกนิ่ม แม้แต่สุนัข หากมันถูกบีบบังคับขึ้นมาแล้วก็ยังหันมาเห่าได้ แล้วนางเล่า!

 

 

อวี้อาเหราคิดเช่นนี้ ทำให้จิตใจของนางเริ่มจะสงบลงได้

 

 

หนิงจื่อเย่กล้าที่จะบังคับนางหรือ? ก็ดี เช่นนั้นก็ไปตายเสียด้วยกันเถิด!

 

 

ในยามนั้น นางก็จะไม่ยอมโดนรังแกอีกต่อไปแล้ว

 

 

วันทั้งวันนางต้องทนอยู่กับความตื่นตกใจและการสู้รบปรบมือ ช่างทุกข์ทรมานยิ่งนัก เมื่อเทียบกับความขัดแย้งอื่นๆ แล้ว นางยังไม่ทุ่มเทกำลังของตัวเองทั้งหมดเช่นนี้! ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ตายไปด้วยกันเสียเถิด!

 

 

ทว่าคำพูดต่อไปของหนิงจื่อเย่นั้น ราวกับได้สุมไฟที่อยู่ในกายของนางให้ลุกโชนมากยิ่งขึ้น

 

 

เขากล่าวว่า “เจ้าคิดว่าหากเอาเรื่องทั้งหมดไปบอกฉู่ป๋าย แล้วเขาจะปล่อยเจ้าหรือ? เจ้าลองทายดูสิว่าเขาอยากที่จะฆ่าใครให้ตาย ระหว่างคนใกล้ชิดที่ต้องการฆ่าเขา หรือคนแปลกหน้าที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง? เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าว่าคนที่ตายจะเป็นใคร?”

 

 

เขาพูดได้ไม่เลว อวี้อาเหราเริ่มกระวนกระวายขึ้นมาอีกครั้ง

 

 

ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร คนที่ตายก็คงจะเป็นนาง

 

 

นางเบิกตากว้างมองหนิงจื่อเย่ที่กำลังยิ้มอย่างเย็นชา แล้วก็เข้าใจขึ้นมาในทันที “เป้าหมายของเจ้าไม่ใช่จวินฉางอวิ๋น แต่เป็นฉู่ป๋ายใช่หรือไม่? ความคิดของเจ้าเมื่อครู่นี้ แน่นอนว่าคนที่จะต้องได้รับผลกระทบก็ต้องเป็นฉู่ป๋ายแน่ เจ้าว่าใช่หรือไม่เล่า”

 

 

“ฉลาดนี่ ข้ามองเจ้าไม่ผิดจริงๆ” หนิงจื่อเย่พยักหน้า “วิธีของข้านั้นง่ายนัก เพียงให้พวกเขาก่อความวุ่นวายกันเอง วิธีนี้ไม่ว่าจะเป็นข้า หรือเป็นเจ้า ก็ล้วนแล้วแต่ส่งผลดีทั้งนั้น”

 

 

 

 

ตอนที่ 688 เนรคุณ

 

 

“ไม่ได้” อวี้อาเหราปฏิเสธชึ้นมาดื้อๆ “เช่นนั้นเขาจะถูกเจ้าทำร้ายจนตายน่ะสิ”

 

 

อย่างไรเสียฉู่ป๋ายก็เป็นผู้มีพระคุณกับนาง นางจะทำลายชีวิตของผู้บริสุทธิ์เพียงเพราะไม่ต้องการแต่งงานเท่านั้นหรือ?

 

 

หนิงจื่อเย่ส่ายหน้า “เจ้าผิดแล้ว วางใจเถิด ฮ่องเต้และไทเฮาคงไม่ทำร้ายเขาจนถึงตายหรอก”

 

 

ทำไมกัน?

 

 

หากใครบางคนต้องโทษหนักถึงเพียงนี้ จะปล่อยไปง่ายๆ ได้หรือ

 

 

เมื่อเห็นท่าทีลังเลของนาง หนิงจื่อเย่ก็อธิบายขึ้นมาว่า “เจ้าอย่าได้ลืมว่าเขาเป็นถึงเซิ่นซื่อจื่อ และจวนเซิ่นอ๋องก็มีเพียงเขาเป็นบุตรเอกคนเดียวเท่านั้น อีกอย่างเซิ่นอ๋องก็ตายในสงครามของต้าเยี่ยน ขุนนางใหญ่ในราชสำนักล้วนแล้วแต่ยืนข้างเดียวกับเขา ต่อหน้าราษฎรฮ่องเต้ก็ต้องพิจารณาให้มาก อย่างไรก็ไม่อาจเอาชีวิตเขาได้ อย่ามากก็คงจะริบอำนาจบางอย่างของจวนเซิ่นอ๋องเท่านั้น เมื่อถึงตอนนั้นอาจจะมีแพะรับบาปให้ด้วยก็อาจจะเป็นไปได้ เจ้าว่า…เขาจะตายหรือ?”

 

 

จำต้องยอมรับว่าคำพูดของหนิงจื่อเย่นั้นก็มีเหตุผลอยู่มาก ทุกคำพูดล้วนทำให้นางลังเลใจ

 

 

ทว่าอวี้อาเหราก็ยังคงคิดคำนวณ จะต้องทำร้ายคนอื่นเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองจริงๆ หรือ?

 

 

หนิงจื่อเย่ยังเห็นนางลังเล น้ำเสียงก็เปลี่ยนไปเป็นเข้มงวดขึ้นมา “เจ้าอย่าลืมนะ! ว่าข้าจะต้องฆ่าเขาแน่ แม้ว่าเจ้าจะไม่ทำก็ตาม ต่อไปอย่างไรก็ต้องเกิดขึ้น ไม่ว่าจะแพ้หรือจะชนะ ก็ต้องแล้วแต่โชค ไม่เพียงแต่สามารถใส่ร้ายเรื่องของเขาทั้งสอง อีกอย่าง หลิงอ๋องรักเจ้ามากที่สุด คงไม่อาจเห็นเจ้าแต่งงานกับคนอื่นได้ ในเมื่อเจ้าพึงใจชายคนไหน เขาจะกล้าลงมือกับชายที่เจ้ารักได้อย่างไร?”

 

 

“ข้า…” อวี้อาเหราหมดซึ่งข้อโต้แย้ง

 

 

หนิงจื่อเย่ไม่ยอมให้โอกาสนางได้หายใจ แล้วจึงเอ่ยขึ้นมาว่า “อวี้อาเหรา เจ้าคิดอย่างไรกับฉู่ป๋ายกันแน่ เจ้าตัดใจไม่ได้ใช่หรือไม่”

 

 

“ไม่ใช่” อวี้อาเหราตอบกลับอย่างเหนื่อยอ่อน “เขามีบุญคุณต่อข้า ไม่ได้…”

 

 

“เจ้าไม่อาจเป็นคนเลวที่เนรคุณใช่หรือไม่? แต่เจ้าก็จำได้เอาไว้ให้ดี โลกนี้ไม่ใช่สถานที่ที่ซื่อตรงใสสะอาด โลกนี้มีทั้งส่วนที่ดำมืดและส่วนที่สว่างไสว เช่นเดียวกัน สีที่ที่สว่างก็ย่อมต้องมีที่มืดมน หากเจ้าไม่ทำร้ายเขาจนตาย ก็เพียงปล่อยให้เขาห่างจากการปะทะกับราชสำนักเถิด รู้ใช่หรือไม่?”

 

 

“ช่วยเหลือเขาหรือ?” อวี้อาเหราเซ่อไปในทันที

 

 

หนิงจื่อเย่พยักหน้าหนักแน่น “ไม่ผิด เพราะฉะนั้นเจ้าจะยอมทำตามที่ข้าบอกหรือไม่?”

 

 

“ข้า…” อวี้อาเหรายังไม่อาจตัดสินใจได้

 

 

หนิงจื่อเย่หัวเราะกลับ “เจ้าวางใจเถิด อย่างไรเสียจวนเซิ่นอ๋องก็ไม่ปล่อยให้เขาตายแน่ เจ้าลองคิดดูเอาแล้วกัน เจ้าจะเลือกให้พ่อของเจ้าตาย หรือเลือกที่จะใส่ร้ายฉู่ป๋ายและจวินฉางอวิ๋น พวกเขาไม่มีทางตายหรอก เพียงแค่ได้รับโทษเท่านั้น มากบ้างน้อยบ้าง ใจเจ้าเองก็รู้ดี”

 

 

“ข้าทราบดี” อวี้อาเหราไม่เหลือตัวเลือกอะไรให้เลย

 

 

หลิงอ๋องคงจะยอมขัดราชโองการเพื่อนาง แล้วเขาจะไม่ตายได้หรือ? นางไม่อาจละเลยหลิงอ๋องได้หรอก ไม่อาจทำเช่นนี้ต่อคุณหนูรองหลิงที่ตายไปแล้วได้ แต่นางก็ไม่อาจจะเต่งงานกับจวินฉางอวิ๋นได้ ถ้าเช่นนั้นก็จำต้องเปิดมีดประหารจวินฉางอวิ๋นและฉู่ป๋าย นางเชื่อว่าด้วยอำนาจของฉู่ป๋าย ไม่นานก็คงจะกลับมายิ่งใหญ่ได้

 

 

สำหรับจวินฉางอวิ๋นนั้น เขานั้นฆ่าคุณหนูรองหลิงตัวจริง อย่างไรเลือดก็ต้องล้างด้วยเลือด!

 

 

เมื่อเทียบกับจะต้องฆ่าเขาแล้ว การปลดเขาออกจากตำแหน่งองค์รัชทายาทคงจะดีเสียกว่า เพราะเท่ากับทำให้เขาเป็นทุกข์ไปทั้งชีวิต

 

 

ต้องตกจากสวรรค์ไปคลุกฝุ่น ความทรมานเช่นนั้น ก็เท่ากับตายทั้งเป็น

 

 

เมื่อคิดดังนี้ ในใจก็เกิดความรู้สึกที่อยากจะแก้แค้นขึ้นมาทันใด สำหรับฉู่ป๋ายที่ไม่มีความผิดใดๆ นั้น นางก็คงทำได้เพียงแค่ทยอยชดใช้ให้เขา

 

 

นี่คือสิ่งที่นางอยากจะขอโทษเขา ทั้งเรื่องที่ผ่านมาในอดีต และเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ลิขิตฟ้าชะตารัก 687 อยากตายก็ตายไปด้วยกัน / 688 เนรคุณ

Now you are reading ลิขิตฟ้าชะตารัก Chapter 687 อยากตายก็ตายไปด้วยกัน / 688 เนรคุณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 687 อยากตายก็ตายไปด้วยกัน

 

 

“เจ้าบอกเองไม่ใช่หรือว่าคุณหนูรองหลิงยังไม่ตาย?” อวี้อาเหราตื่นตะลึงอีกครั้ง

 

 

หนิงจื่อเย่รู้ว่าตัวเองพูดผิดไปเสียแล้ว สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนไป แต่เพียงไม่นานก็กลับมาสงบเหมือนเดิม เขาหัวเราะเสียงเบา “ตกหน้าผา อีกทั้งยังตกลงไปในน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งจะไม่ตายได้อย่างไร? เจ้านี่ช่างโง่เหลือเกิน”

 

 

อวี้อาเหราเข้าใจขึ้นมาในทันที นางโกรธเสียจนตะคอกออกมา “เพราะอย่างนั้นที่เจ้าบอกข้าก่อนหน้านี้ก็เป็นเรื่องโกหกทั้งหมดสินะ ตั้งแต่ต้นเจ้าก็จงใจหลอกข้า! เจ้ารู้ถึงสถานะที่แท้จริงของข้าตั้งนานแล้วใช่หรือไม่? หรืออีกอย่างที่เจ้าพูดมาทั้งหมดนี้ก็เพียงเพื่อจะหลอกใช้ข้าใช่หรือไม่!”

 

 

“ในที่สุดเจ้าก็เข้าใจเสียที ก็ยังถือว่าไม่สายเกินไป” หนิงจื่อเย่หัวเราะ สีหน้าก็เปลี่ยนไป “แต่ว่าสิ่งที่ข้าพูดนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องจริง มีแต่เรื่องที่คุณหนูรองยังไม่ตายนั้นเป็นเรื่องโกหก ในยามที่นางกำลังเผชิญกับความตาย ข้าใช้พลัง เพื่อนำความทรงจำในสมองของนางออกมาจึงได้รู้ มิเช่นนั้น ข้าจะโกหกเจ้าได้อย่างไร?”

 

 

อวี้อาเหราโรกธจนแทบจะกระอักเลือดออกมา นางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเขายังมีพลังที่แปลกประหลาดมหัศจรรย์ถึงเพียงนั้น ทั้งยังสามารถขุดเอาความทรงจำออกมาได้ ได้ลงมือแต่ละขั้นตอน จนทำให้นางเผยธาตุแท้ออกมา จากนั้นก็ดึงนางให้เข้ามาในแผนการ หนิงจื่อเย่ก็ดียิ่งนัก! หัวสมองดีนัก! ที่กล้าแกล้งนางจนหัวหมุนเช่นนี้!

 

 

หากคุณหนูรองหลิงตัวจริงยังไม่ตาย นางก็ไม่กลัวแม้แต่น้อย หลักฐานจากใครก็ไม่รู้ ใครจะเชื่อคำพูดของหนิงจื่อเย่ อวี้อาเหราคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก นี่เป็นเรื่องที่หนิงจื่อเย่ตั้งใจที่จะหลอกนาง เพื่อให้ไปถึงจุดมุ่งหมายของตัวเองเท่านั้น

 

 

คนผู้นี้ ช่างชั่วร้ายเสียเหลือเกิน!

 

 

หรือเป็นเพราะนางนั้นซื่อเกินไป ที่ยังไม่ตระหนักถึงภัยอันตรายของโลกนี้?

 

 

หนิงจื่อเย่มองไปในดวงตาของนางที่มีแววเยาะเย้ยและโกรธเกรี้ยว จากนั้นก็หัวเราะขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง “ตอนนี้เหมือนเจ้าขึ้นหลังเสือแล้วยากที่จะหาทางลง เมื่อถูกไทเฮาบังคับให้แต่งงาน เจ้าก็ต้องพึ่งพาข้า มีเพียงข้าเท่านั้นถึงจะช่วยเหลือได้ มิเช่นนั้นเจ้าจะทำอย่างไร หากเจ้าเป็นคนฉลาด ก็อยู่นิ่งๆ แล้วเชื่อฟังข้าให้ดี ไม่เช่นนั้น…”

 

 

“ไม่เช่นนั้นจะทำไม จะฆ่าข้าหรือ? ข้าจะบอกให้นะหนิงจื่อเย่ หากเจ้าทำให้ข้าโกรธ ข้าก็จะเอาเรื่องของเจ้าไปบอกฉู่ป๋ายเสียให้หมด ดูสิว่าเขาจะว่าอย่างไร หากไม่มีเจ้า อย่างมากก็ตายเสียด้วยกันก็เท่านั้น” อวี้อาเหราฟังเสียงหัวเราะของเขา ก็โกรธเสียจนแทบจะไฟลุก

 

 

นางไม่ใช้หญิงสาวอ่อนแอที่เอาแต่นอนอยู่บนฟูกนิ่ม แม้แต่สุนัข หากมันถูกบีบบังคับขึ้นมาแล้วก็ยังหันมาเห่าได้ แล้วนางเล่า!

 

 

อวี้อาเหราคิดเช่นนี้ ทำให้จิตใจของนางเริ่มจะสงบลงได้

 

 

หนิงจื่อเย่กล้าที่จะบังคับนางหรือ? ก็ดี เช่นนั้นก็ไปตายเสียด้วยกันเถิด!

 

 

ในยามนั้น นางก็จะไม่ยอมโดนรังแกอีกต่อไปแล้ว

 

 

วันทั้งวันนางต้องทนอยู่กับความตื่นตกใจและการสู้รบปรบมือ ช่างทุกข์ทรมานยิ่งนัก เมื่อเทียบกับความขัดแย้งอื่นๆ แล้ว นางยังไม่ทุ่มเทกำลังของตัวเองทั้งหมดเช่นนี้! ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ตายไปด้วยกันเสียเถิด!

 

 

ทว่าคำพูดต่อไปของหนิงจื่อเย่นั้น ราวกับได้สุมไฟที่อยู่ในกายของนางให้ลุกโชนมากยิ่งขึ้น

 

 

เขากล่าวว่า “เจ้าคิดว่าหากเอาเรื่องทั้งหมดไปบอกฉู่ป๋าย แล้วเขาจะปล่อยเจ้าหรือ? เจ้าลองทายดูสิว่าเขาอยากที่จะฆ่าใครให้ตาย ระหว่างคนใกล้ชิดที่ต้องการฆ่าเขา หรือคนแปลกหน้าที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง? เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าว่าคนที่ตายจะเป็นใคร?”

 

 

เขาพูดได้ไม่เลว อวี้อาเหราเริ่มกระวนกระวายขึ้นมาอีกครั้ง

 

 

ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร คนที่ตายก็คงจะเป็นนาง

 

 

นางเบิกตากว้างมองหนิงจื่อเย่ที่กำลังยิ้มอย่างเย็นชา แล้วก็เข้าใจขึ้นมาในทันที “เป้าหมายของเจ้าไม่ใช่จวินฉางอวิ๋น แต่เป็นฉู่ป๋ายใช่หรือไม่? ความคิดของเจ้าเมื่อครู่นี้ แน่นอนว่าคนที่จะต้องได้รับผลกระทบก็ต้องเป็นฉู่ป๋ายแน่ เจ้าว่าใช่หรือไม่เล่า”

 

 

“ฉลาดนี่ ข้ามองเจ้าไม่ผิดจริงๆ” หนิงจื่อเย่พยักหน้า “วิธีของข้านั้นง่ายนัก เพียงให้พวกเขาก่อความวุ่นวายกันเอง วิธีนี้ไม่ว่าจะเป็นข้า หรือเป็นเจ้า ก็ล้วนแล้วแต่ส่งผลดีทั้งนั้น”

 

 

 

 

ตอนที่ 688 เนรคุณ

 

 

“ไม่ได้” อวี้อาเหราปฏิเสธชึ้นมาดื้อๆ “เช่นนั้นเขาจะถูกเจ้าทำร้ายจนตายน่ะสิ”

 

 

อย่างไรเสียฉู่ป๋ายก็เป็นผู้มีพระคุณกับนาง นางจะทำลายชีวิตของผู้บริสุทธิ์เพียงเพราะไม่ต้องการแต่งงานเท่านั้นหรือ?

 

 

หนิงจื่อเย่ส่ายหน้า “เจ้าผิดแล้ว วางใจเถิด ฮ่องเต้และไทเฮาคงไม่ทำร้ายเขาจนถึงตายหรอก”

 

 

ทำไมกัน?

 

 

หากใครบางคนต้องโทษหนักถึงเพียงนี้ จะปล่อยไปง่ายๆ ได้หรือ

 

 

เมื่อเห็นท่าทีลังเลของนาง หนิงจื่อเย่ก็อธิบายขึ้นมาว่า “เจ้าอย่าได้ลืมว่าเขาเป็นถึงเซิ่นซื่อจื่อ และจวนเซิ่นอ๋องก็มีเพียงเขาเป็นบุตรเอกคนเดียวเท่านั้น อีกอย่างเซิ่นอ๋องก็ตายในสงครามของต้าเยี่ยน ขุนนางใหญ่ในราชสำนักล้วนแล้วแต่ยืนข้างเดียวกับเขา ต่อหน้าราษฎรฮ่องเต้ก็ต้องพิจารณาให้มาก อย่างไรก็ไม่อาจเอาชีวิตเขาได้ อย่ามากก็คงจะริบอำนาจบางอย่างของจวนเซิ่นอ๋องเท่านั้น เมื่อถึงตอนนั้นอาจจะมีแพะรับบาปให้ด้วยก็อาจจะเป็นไปได้ เจ้าว่า…เขาจะตายหรือ?”

 

 

จำต้องยอมรับว่าคำพูดของหนิงจื่อเย่นั้นก็มีเหตุผลอยู่มาก ทุกคำพูดล้วนทำให้นางลังเลใจ

 

 

ทว่าอวี้อาเหราก็ยังคงคิดคำนวณ จะต้องทำร้ายคนอื่นเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองจริงๆ หรือ?

 

 

หนิงจื่อเย่ยังเห็นนางลังเล น้ำเสียงก็เปลี่ยนไปเป็นเข้มงวดขึ้นมา “เจ้าอย่าลืมนะ! ว่าข้าจะต้องฆ่าเขาแน่ แม้ว่าเจ้าจะไม่ทำก็ตาม ต่อไปอย่างไรก็ต้องเกิดขึ้น ไม่ว่าจะแพ้หรือจะชนะ ก็ต้องแล้วแต่โชค ไม่เพียงแต่สามารถใส่ร้ายเรื่องของเขาทั้งสอง อีกอย่าง หลิงอ๋องรักเจ้ามากที่สุด คงไม่อาจเห็นเจ้าแต่งงานกับคนอื่นได้ ในเมื่อเจ้าพึงใจชายคนไหน เขาจะกล้าลงมือกับชายที่เจ้ารักได้อย่างไร?”

 

 

“ข้า…” อวี้อาเหราหมดซึ่งข้อโต้แย้ง

 

 

หนิงจื่อเย่ไม่ยอมให้โอกาสนางได้หายใจ แล้วจึงเอ่ยขึ้นมาว่า “อวี้อาเหรา เจ้าคิดอย่างไรกับฉู่ป๋ายกันแน่ เจ้าตัดใจไม่ได้ใช่หรือไม่”

 

 

“ไม่ใช่” อวี้อาเหราตอบกลับอย่างเหนื่อยอ่อน “เขามีบุญคุณต่อข้า ไม่ได้…”

 

 

“เจ้าไม่อาจเป็นคนเลวที่เนรคุณใช่หรือไม่? แต่เจ้าก็จำได้เอาไว้ให้ดี โลกนี้ไม่ใช่สถานที่ที่ซื่อตรงใสสะอาด โลกนี้มีทั้งส่วนที่ดำมืดและส่วนที่สว่างไสว เช่นเดียวกัน สีที่ที่สว่างก็ย่อมต้องมีที่มืดมน หากเจ้าไม่ทำร้ายเขาจนตาย ก็เพียงปล่อยให้เขาห่างจากการปะทะกับราชสำนักเถิด รู้ใช่หรือไม่?”

 

 

“ช่วยเหลือเขาหรือ?” อวี้อาเหราเซ่อไปในทันที

 

 

หนิงจื่อเย่พยักหน้าหนักแน่น “ไม่ผิด เพราะฉะนั้นเจ้าจะยอมทำตามที่ข้าบอกหรือไม่?”

 

 

“ข้า…” อวี้อาเหรายังไม่อาจตัดสินใจได้

 

 

หนิงจื่อเย่หัวเราะกลับ “เจ้าวางใจเถิด อย่างไรเสียจวนเซิ่นอ๋องก็ไม่ปล่อยให้เขาตายแน่ เจ้าลองคิดดูเอาแล้วกัน เจ้าจะเลือกให้พ่อของเจ้าตาย หรือเลือกที่จะใส่ร้ายฉู่ป๋ายและจวินฉางอวิ๋น พวกเขาไม่มีทางตายหรอก เพียงแค่ได้รับโทษเท่านั้น มากบ้างน้อยบ้าง ใจเจ้าเองก็รู้ดี”

 

 

“ข้าทราบดี” อวี้อาเหราไม่เหลือตัวเลือกอะไรให้เลย

 

 

หลิงอ๋องคงจะยอมขัดราชโองการเพื่อนาง แล้วเขาจะไม่ตายได้หรือ? นางไม่อาจละเลยหลิงอ๋องได้หรอก ไม่อาจทำเช่นนี้ต่อคุณหนูรองหลิงที่ตายไปแล้วได้ แต่นางก็ไม่อาจจะเต่งงานกับจวินฉางอวิ๋นได้ ถ้าเช่นนั้นก็จำต้องเปิดมีดประหารจวินฉางอวิ๋นและฉู่ป๋าย นางเชื่อว่าด้วยอำนาจของฉู่ป๋าย ไม่นานก็คงจะกลับมายิ่งใหญ่ได้

 

 

สำหรับจวินฉางอวิ๋นนั้น เขานั้นฆ่าคุณหนูรองหลิงตัวจริง อย่างไรเลือดก็ต้องล้างด้วยเลือด!

 

 

เมื่อเทียบกับจะต้องฆ่าเขาแล้ว การปลดเขาออกจากตำแหน่งองค์รัชทายาทคงจะดีเสียกว่า เพราะเท่ากับทำให้เขาเป็นทุกข์ไปทั้งชีวิต

 

 

ต้องตกจากสวรรค์ไปคลุกฝุ่น ความทรมานเช่นนั้น ก็เท่ากับตายทั้งเป็น

 

 

เมื่อคิดดังนี้ ในใจก็เกิดความรู้สึกที่อยากจะแก้แค้นขึ้นมาทันใด สำหรับฉู่ป๋ายที่ไม่มีความผิดใดๆ นั้น นางก็คงทำได้เพียงแค่ทยอยชดใช้ให้เขา

 

 

นี่คือสิ่งที่นางอยากจะขอโทษเขา ทั้งเรื่องที่ผ่านมาในอดีต และเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+