ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ 124

Now you are reading ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ Chapter 124 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อสวี่โยวเห็นว่าเขาเย็นชาแบบนี้ เธอก็รู้สึกหนาวเหน็บจับใจ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะนึกถึงเรื่องนี้ สวี่โยวสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะพูดในสิ่งที่เธอต้องการจะพูดว่า “ฉันท้องค่ะ” 

 

 

คำแค่ไม่กี่คำ แต่กลับโจมตีเซียวโม่ได้อย่างหนักหน่วง “คุณว่าอะไรนะ” นี่เขาได้ยินไม่ผิดใช่ไหม สวี่โยวบอกว่าเธอท้อง? มันจะเป็นไปได้อย่างไร! 

 

 

หลังจากประโยคแรกถูกเปล่งออกไปแล้ว ประโยคต่อมาเธอก็พูดได้สะดวกขึ้น “ฉันบอกว่าฉันท้องค่ะ ฉันกำลังอุ้มท้องลูกของคุณอยู่ เซียวโม่” เมื่อสวี่โยวเห็นเซียวโม่มีท่าทางไม่อยากจะเชื่อ เธอก็หวนนึกถึงตอนที่เธอเพิ่งได้ยินว่าตัวเองท้อง เธอก็ทำหน้าแบบเดียวกับเซียวโม่นี่เลย 

 

 

แต่ความแตกต่างระหว่างเธอกับเซียวโม่อยู่ตรงที่…ในความประหลาดใจของเธอ มันเต็มไปด้วยความพึงพอใจ แต่ในส่วนของเซียวโม่นั้น มันกลายเป็นความหวาดกลัวไปแทน ทันใดนั้นสวี่โยวก็รู้สึกขมขื่น ข่าวการตั้งครรภ์ของเธอมันเป็นเรื่องยากที่จะทำให้เขาเชื่อได้ใช่ไหม? 

 

 

เซียวโม่ใช้เวลานานมากในการรับสารนี้ ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมวันนี้คุณแม่เซียวถึงอารมณ์ดีนัก ที่แท้ก็เป็นเพราะว่าสวี่โยวท้องนี่เอง แต่เซียวโม่ไม่ได้รู้สึกดีเหมือนพวกเธอ 

 

 

เมื่อสวี่โยวเห็นสีหน้าเรียบเฉยของเซียวโม่ เธอก็ถามเขาเบาๆ ว่า “เซียวโม่ คุณไม่ดีใจหรือคะ คุณกำลังจะมีลูกแล้วนะ…” 

 

 

“คุณว่าผมควรจะดีใจไหม” เซียวโม่คิดอยู่ว่าถ้าเขามีลูกกับถังโจวโจว ตอนนี้เขาคงจะกระโดดโลดเต้นไปแล้ว จากนั้นเขาก็จะคิดวางแผนว่าจะเลี้ยงลูกอย่างไร จะซื้อของเล่น ซื้อของใช้ให้เยอะๆ และเขากับถังโจวโจวก็จะเรียนรู้เรื่องการเป็นพ่อแม่ที่ดีด้วยกัน 

 

 

แต่ตอนนี้สวี่โยวเป็นคนท้อง เซียวโม่รู้สึกเกลียดสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ที่จู่ๆ ก็มาเกิดในท้องของสวี่โยวตอนนี้เหลือเกิน เขาจะมาทำไม ทำไมต้องมารังควานชีวิตของเขาในตอนนี้ 

 

 

สวี่โยวไม่ใช่คนตาบอด ทำไมเธอถึงจะมองสายตาที่ขับไล่ไสส่งของเซียวโม่ไม่ออก จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่านี่เธอดีใจไปทำไมกัน เซียวโม่ยังไม่ดีใจเลยที่เธอตั้งท้อง อีกทั้งเธอยังคาดหวังอย่างไร้สาระอีกว่า เซียวโม่อาจจะทำดีกับเธอมากขึ้น เพราะว่าเห็นแก่ลูก 

 

 

คุณแม่เซียวอยู่ในห้องครัวเป็นเวลานานก่อนที่เธอจะออกมา เธอเห็นสวี่โยวและเซียวโม่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมในห้องนั่งเล่น บรรยากาศระหว่างพวกเขาสองคนนั้นดูเปราะบางมากเหลือเกิน 

 

 

คุณแม่เซียวตะโกนเสียงดัง “โยวโยว หนูขึ้นไปเรียกคุณพ่อลงมาทานข้าวทีสิลูก เซียวโม่ ลูกมากับแม่หน่อย แม่มีเรื่องจะคุยด้วย” 

 

 

สวี่โยวเช็ดน้ำตาบนใบหน้า เธอกลัวว่าคุณแม่ลั่วจะสังเกตเห็นดวงตาที่แดงก่ำของเธอ เธอจึงก้มหน้าต่ำและไม่ได้เอ่ยอะไร แล้วเธอก็เดินขึ้นบันไดไป 

 

 

มีหรือที่คุณแม่เซียวจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาสองคน เธอรู้สึกโกรธลูกชายมาก สวี่โยวไม่ดีตรงไหน ทำไมเขาเอาแต่คิดถึงยายสุนัขจิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์อย่างถังโจวโจว 

 

 

คุณแม่เซียวดึงเซียวโม่ไปที่มุมหนึ่ง เมื่อคุณแม่เซียวเห็นสีหน้าบอกบุญไม่รับของเซียวโม่ เธอก็ยิ่งโมโหเขามากขึ้น “ลูกทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย ถ้าคุณพ่อเห็นว่าลูกทำแบบนี้ เดี๋ยวเขาก็ตีตายหรอก” 

 

 

คุณแม่เซียวยังคงเป็นห่วงเป็นใยลูกชายคนเดียวของเธอ นอกจากเรื่องของถังโจวโจวแล้ว ตั้งแต่เล็กจนโต เธอก็ไม่เคยขัดขวางความชอบส่วนตัวของเซียวโม่เลยสักครั้ง เซียวโม่เองก็ไม่เคยทำให้เธอไม่สบายใจ เขาหัวดีมาตั้งแต่เด็ก ทำให้คุณแม่เซียวสามารถยืดอกได้อย่างภาคภูมิใจเมื่ออยู่ต่อหน้าญาติๆ และเพื่อนๆ ของเธอ 

 

 

เซียวโม่ไม่พูดอะไรสักคำ ราวกับว่าเขาไม่ได้ยินคำขู่ของคุณแม่เซียว เมื่อคุณแม่เซียวเห็นว่าเซียวโม่ไม่ได้ตอบสนองกลับมาเลย เธอก็ไม่อยากพูดให้มากความ “เซียวโม่ แม่จะพูดชัดๆ นะ ตอนนี้โยวโยวกำลังท้องอยู่ พวกลูกจะต้องย้ายกลับมาอยู่ที่บ้าน แม่จะได้ดูแลเธอ” 

 

 

“ไม่ครับ ผมไม่ย้ายกลับมา” ในที่สุดเซียวโม่ก็เปิดปากพูด แต่คำที่พูดออกมากลับทำให้คุณแม่เซียวโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ 

 

 

“ลูกไม่ตกลง แต่โยวโยวตกลงแล้ว ลูกจะไม่ตกลงก็ได้ แต่ลูกต้องไปคุยกับคุณพ่อเอง และถ้าคุณพ่อเห็นด้วย แม่ก็ว่าตามนั้น” คุณแม่เซียวไม่สนใจว่าตอนนี้เซียวโม่จะฟังคำพูดของเธอหรือไม่ ตอนนี้เธอขอแค่หลานชายของเธอก็พอ เซียวโม่ถูกลดความสำคัญลงไปแล้ว 

 

 

เซียวโม่สะดุดกึก เมื่อคุณแม่เซียวเห็นว่าเซียวโม่ไม่ตอบโต้ เธอก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก เธอรู้ว่าเขากลัวพ่อของเขา แล้วก็กลัวว่าจะรักษาความสัมพันธ์ของเขากับพ่อเอาไว้ไม่ได้ 

 

 

แม้ว่าเซียวโม่จะเชื่อฟังพ่อแม่มาตั้งแต่เด็กๆ แต่เขาก็เคยมีช่วงเวลาที่เขาเกเร แต่เขาก็ไม่ได้เกเรมากเกินไป เพียงแค่เขาได้เจอกับคุณพ่อเซียวที่กำลังอารมณ์เสียเกี่ยวกับเรื่องงาน เซียวโม่ก็จะถูกคุณพ่อเซียวตำหนิเข้าอย่างรุนแรง 

 

 

บางครั้งสองพ่อลูกคู่นี้ก็ถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน ในขณะที่เซียวโม่ยังวัยรุ่น คุณพ่อเซียวก็ยังสามารถปราบปรามเขาได้ง่าย และในตอนนั้นเอง เขาก็ได้สร้างความทรงจำไว้ให้กับเซียวโม่ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งของคุณพ่อเซียวอีกเลย 

 

 

สวี่โยวเดินขึ้นมาถึงชั้นบน เธอหยุดจัดการกับรูปลักษณ์ภายนอกของตัวเองก่อนเล็กน้อย แล้วเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่องดู เมื่อไม่เห็นร่องรอยความเสียใจของตัวเองแล้ว เธอจึงเดินเข้าไปในห้องหนังสือ เพื่อเรียกให้คุณพ่อเซียวลงไปทานข้าว 

 

 

พวกเขาทั้งสี่คนนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร เซียวโม่ทำตัวราวกับว่าเป็นมนุษย์ล่องหน เขาไม่พูดอะไรเลยสักคำ ซ้ำยังไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับบรรยากาศที่แสนอบอุ่นของทั้งสามคนอีกด้วย เหมือนว่าเขาจะกำลังจมดิ่งอยู่ในโลกของตัวเอง 

 

 

จนกระทั่งสวี่โยวสะกิดเขาเบาๆ เขาก็หันหน้าไปมองเธอ เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น จนเขาเห็นสวี่โยวมองไปที่คุณพ่อเซียว เซียวโม่ก็เข้าใจได้ในทันทีว่าคุณพ่อเซียวเรียกเขา แต่เขาไม่ได้ยิน 

 

 

คุณพ่อเซียวไม่พอใจเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นว่าเซียวโม่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขาขมวดคิ้วแน่น “นี่มันเวลากินข้าว แกมัวแต่คิดอะไร ฉันเรียกแกอยู่ตั้งนาน ไม่ได้ยินหรือไง” 

 

 

“เปล่าครับ ไม่ได้คิดอะไร” เซียวโม่ก้มหน้าและกินข้าวต่ออย่างเงียบๆ 

 

 

เมื่อคุณแม่เซียวเห็นว่าคุณพ่อเซียวโมโหจนแทบจะพ่นไฟออกมาแล้ว เธอก็รีบไกล่เกลี่ย “ตงหนาน ลูกโตแล้วนะคะ อีกอย่างฉันเองก็พูดกับลูกแล้วด้วย ลูกตกลงว่าจะย้ายกลับมาอยู่ที่นี่กับโยวโยว ใช่ไหมจ๊ะ โยวโยว” 

 

 

เมื่อสวี่โยวเห็นคุณแม่เซียวขยิบตาให้เธอ เธอก็รีบพยักหน้าและพูดว่า “คุณพ่อคะ วันนี้หนูกับเซียวโม่จะค้างที่นี่ พรุ่งนี้ค่อยกลับไปย้ายของ ขอบคุณคุณพ่อกับคุณแม่ที่เมตตาเรานะคะ” 

 

 

สีหน้าของคุณพ่อเซียวดูอ่อนโยนเมื่อเขาหันไปมองสวี่โยว “หนูพูดอะไรของหนูน่ะ ครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น แม่เขาก็มีความสุขที่ได้ดูแลพวกหนู” 

 

 

“ใช่จ้ะ ใช่ วันหลังไม่ต้องพูดแบบนี้อีกแล้วนะโยวโยว” คุณแม่เซียวรีบเอ่ยเสริมในทันที 

 

 

คุณพ่อเซียวไม่ได้สนใจคำพูดของคุณแม่เซียว และเขายังไม่ลืมเซียวโม่ 

 

 

“เซียวโม่ ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ใช้ชีวิตอยู่กับโยวโยวให้ดี แกไม่ต้องเพ้อฝันอะไรทั้งสิ้น นอกจากโยวโยวแล้ว ฉันจะไม่มีวันยอมให้ผู้หญิงคนอื่นเข้ามาเป็นสะใภ้เด็ดขาด แกตัดใจซะเถอะ” 

 

 

เมื่อคุณแม่เซียวได้ยินคุณพ่อเซียวพูดถึงผู้หญิงที่ชื่อถังโจวโจว เธอก็กลัวว่าสวี่โยวจะไม่มีความสุข “ตงหนาน วันดีๆ แบบนี้ คุณจะพูดออกมาทำไมคะ โยวโยว รีบทานซุปลูก วันนี้แม่ให้แม่บ้านหลี่ทำให้หนูโดยเฉพาะเลยนะ ทานเยอะๆ นะลูก” 

 

 

“หนูจะทานเยอะๆ ค่ะคุณแม่ คุณพ่อคุณแม่เองก็รีบทานข้าวเถอะค่ะ” เมื่อสวี่โยวเห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างเซียวโม่กับคุณพ่อเซียวค่อนข้างตึงเครียด เธอก็กลัวว่าเซียวโม่จะพูดอะไรไม่เข้าหูคุณพ่อเซียวอีก ถึงตอนนั้นคุณพ่อเซียวคงจะไม่เหลือความเมตตาแล้ว 

 

 

คุณพ่อเซียวยังคงให้เกียรติสวี่โยวมาก คุณแม่เซียวก็รีบพูดอย่างรวดเร็วว่า “เอาละ วันนี้เป็นวันที่ดี โยวโยวกำลังจะผลิดอกออกผลให้กับตระกูลเซียวของเรา วันข้างหน้าลูกต้องดูแลเอาใจใส่กันให้มากๆ นะ รีบทานข้าวกันได้แล้วจ้ะ!” 

 

 

ต่อจากนั้น คุณแม่เซียวก็คอยบอกให้สวี่โยวกินข้าวเยอะๆ ส่วนสวี่โยวเองก็เอาแต่กินอย่างเดียว เซียวโม่อยากจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น แต่เมื่อเขาจะลุกออกจากที่นั่ง คุณพ่อเซียวก็โกรธขึ้นมาอีก ดังนั้น เซียวโม่จึงเลิกล้มความคิดนี้ไป 

 

 

หลังจากกินข้าวเสร็จ คุณแม่เซียวก็รีบไล่ให้พวกเขาสองคนขึ้นไปที่ชั้นบน เซียวโม่มีท่าทีลังเลใจเล็กน้อย จนคุณแม่เซียวต้องผลักเขาเบาๆ เขาจึงยอมเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ส่วนสวี่โยวก็เดินตามเขาไปราวกับว่าเป็นภรรยาตัวน้อยที่น่ารัก 

 

 

คุณแม่เซียวยืนยิ้มอยู่ด้านหลัง แม้ว่าจะดูแข็งทื่อไปสักหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวเมื่อมีลูก เซียวโม่ก็จะเปลี่ยนไปเอง 

 

 

สวี่โยวเห็นว่าเมื่อเซียวโม่เข้ามาในห้อง เขาก็ไม่สนใจเธอ เขานั่งอยู่บนเก้าอี้และยอมมองดูโทรศัพท์มากกว่าที่จะมองดูเธอ “เซียวโม่ การที่ฉันท้องมันทำให้คุณเป็นทุกข์มากใช่ไหม” 

 

 

เซียวโม่ไม่พูดอะไร สวี่โยวกุมมือและคุกเข่าลงไปตรงหน้าเขา “เซียวโม่ เราคุยกันดีๆ ได้ไหมคะ ฉันไม่อยากให้คุณทำสงครามเย็นกับฉันแบบนี้เลย” ทำแบบนี้มันทำร้ายจิตใจกันเกินไป เธอทำให้เซียวโม่สนใจไม่ได้เลยหรือ 

 

 

เมื่อเซียวโม่ได้ยินอย่างนั้น เขาก็เงยหน้าขึ้นมองเธอ “ผมไม่ได้ทำสงครามเย็นกับคุณ” ตอนนี้เขาสับสนมากจนไม่อยากพูดอะไรทั้งสิ้น 

 

 

เมื่อสวี่โยวเห็นว่าเซียวโม่พูดกับเธอแล้ว เธอก็ยิ้มออกในทันที “ค่ะ ฉันรู้ว่าคุณไม่ทำหรอก ฉันแค่อยากให้คุณตอบสนองฉันบ้าง เซียวโม่ เรามาใช้ชีวิตกันดีๆ และเฝ้ารอคอยการมาถึงของเด็กคนนี้ไปด้วยกันนะ ฉันจะไม่สร้างความวุ่นวายให้คุณอีก” 

 

 

ตั้งแต่สวี่โยวรู้ว่าตัวเองท้อง มันก็เหมือนกับว่าเธอคิดอะไรบางอย่างได้ ตัวของเธอเปล่งประกายไปด้วยรังสีของความเป็นแม่ เธอยอมถอดเขี้ยวถอดเล็บ เป็นคนละคนไปเลยเมื่อเทียบกับคนเก่า 

 

 

แน่นอนว่าเซียวโม่เองก็สังเกตเห็นได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของเธอ ความจริงแล้วเมื่อสวี่โยวไร้พิษสง เซียวโม่ก็รู้สึกดีที่มีเธออยู่ข้างกาย แต่เธอมักจะหยิบเรื่องของถังโจวโจวขึ้นมาทะเลาะกับเขาอยู่เสมอ เซียวโม่ที่อยากจะลืม กลับถูกสวี่โยวตอกย้ำจนจำฝังใจยิ่งกว่าเดิม 

 

 

เมื่อสวี่โยวเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเซียวโม่ เธอก็พูดซ้ำไปซ้ำมาว่า “เซียวโม่ ฉันพูดจริงๆ นะคะ ถังโจวโจวเป็นอดีตไปแล้ว ฉันจะไม่พูดถึงเธอต่อหน้าคุณอีก เราทั้งคู่ไม่ต้องไปพูดถึงเธอ แล้วเราก็ใช้ชีวิตของเราไป ดีไหมคะ” 

 

 

แววตาของเซียวโม่ไม่ได้เย็นชาอีกต่อไป เขาจะทำอย่างไรได้อีกนอกจากเห็นด้วยกับวิธีนี้? เขาต่างหากที่ต้องขอโทษสวี่โยว ถ้าเขาไม่มัวแต่ฝันเฟื่องอยู่อย่างนั้น บางทีเขากับสวี่โยวอาจจะไม่ต้องอยู่ในสภาพนี้อย่างทุกวันนี้ก็เป็นได้ 

 

 

เซียวโม่กุมมือสวี่โยว “ได้ ผมสัญญา” เซียวโม่รู้สึกว่าเขาควรจะพยายามลืมถังโจวโจวได้แล้ว ตอนนี้ถังโจวโจวเองก็ตั้งท้องลูกของลั่วเซ่าเชินอยู่ พวกเขาไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนแต่ก่อนได้อีกแล้ว และตอนนี้สวี่โยวเองก็ตั้งท้องลูกของเขาอยู่ด้วย 

 

 

สวี่โยวร้องไห้ออกมาด้วยความตื้นตัน ทันใดนั้นเซียวโม่ก็รู้สึกว่าสวี่โยวเองก็น่ารักอยู่เหมือนกัน “คุณร้องไห้ทำไม” 

 

 

บรรยากาศระหว่างคนทั้งคู่นั้นอ่อนโยนขึ้นจากเดิมมาก สวี่โยวกลัวว่าเซียวโม่จะเข้าใจผิด เธอจึงรีบส่ายหน้า แต่เธอก็เกิดสำลักในลำคอจนพูดอะไรไม่ได้ไปชั่วขณะ กระทั่งสวี่โยวสงบลง เธอถึงพูดออกมาว่า “ฉันแค่ตื่นเต้นมากไปหน่อย เซียวโม่คะ ฉันจะไม่สร้างปัญหาอีก ฉันจะตั้งตารอลูกของเราค่ะ” 

 

 

เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเซียวโม่จะยอมทำตามคำขอของเธออย่างง่ายดาย มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เธอกับเซียวโม่ตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่มันก็เริ่มมาจากฝ่ายของเซียวโม่เท่านั้น 

 

 

เธอนึกไม่ถึงเลยว่าวันนี้เซียวโม่จะดีกับเธอขนาดนี้ สวี่โยวไม่อยากจะเชื่อ เธอแอบหยิกตัวเองเบาๆ แล้วมันก็รู้สึกเจ็บจริงๆ แต่เธอกลับยิ้มอย่างมีความสุข นี่เป็นการพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้ฝันไป ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นจริงๆ 

 

 

เมื่อเซียวโม่เห็นเธอคุกเข่ามานาน เขาก็กลัวว่าเธอจะทรมาน “คุณรีบลุกขึ้นมาเถอะ ขาของคุณไม่ชาหมดแล้วหรือ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด