เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] 164 ฉันเกือบต้องเรียกนายว่าอาจารย์อาแล้ว

Now you are reading เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] Chapter 164 ฉันเกือบต้องเรียกนายว่าอาจารย์อาแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 164 ฉันเกือบต้องเรียกนายว่าอาจารย์อาแล้ว

วินาทีสุดท้ายก่อนที่เทพ X จะลับสายตาไป หวังเหาพยายามสแกนข้อมูลของอีกฝ่าย แต่กลับมีเพียงเครื่องหมายคำถามปรากฏขึ้นมาเท่านั้น

ชัดเจนแล้วว่าเทพ X ไม่ใช่ผู้เล่นที่ลงทะเบียนอย่างเป็นทางการในเกมนี้

“นี่เราโดนหลอกเหรอวะเนี่ย!”

หวังเหาคำรามออกมาด้วยความเดือดดาล

เขาโดนหลอก!

เขาไม่ควรเชื่อใจไอ้ตัวแสบที่พาคนนับพันไปให้สัตว์ประหลาดฆ่าตายเลยจริง ๆ!

ขนาดคนหลายพันคนเทพ X ยังหลอกได้หน้าตาเฉย แล้วหวังเหาคนเดียวจะไปเหลืออะไร!

“คิดจะมาใช้เล่ห์เหลี่ยมกับฉันงั้นเหรอ? ยังอ่อนหัดไปนะ สหาย”

ซูเย่หัวเราะเยาะด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ขณะนี้ เขามีแต้มศีลธรรม 77 แต้ม

อีก 23 แต้มก็จะครบ 100 แต้มแล้ว

ซูเย่บ่นออกมาเล็กน้อย

“รัฐบาลมีเงินเยอะเหมือนกันนี่นา สงสัยต่อจากนี้ เราคงต้องหาทางร่วมมือกับหวังเหาสักหน่อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการขายข้อมูลจุดอ่อนของพวกตัวบอสประจำด่านต่าง ๆ หรือทำภารกิจลับที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน แต่น่าเสียดายที่คราวหน้า เราคงหลอกเขาไม่ได้ง่าย ๆ แบบนี้อีกแล้วสิ เฮ้อ!”

“แต่ว่า…รัฐบาลจะเอาข้อมูลพวกนี้ไปทำอะไรกันนะ?”

ซูเย่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย

เพราะ Fantasy Dream มีสถานะเป็นเกมออนไลน์

เกมออนไลน์ที่รัฐบาลเป็นผู้พัฒนาขึ้นมา

มันต้องมีเหตุผลบ้างสิ

สัตว์ประหลาดทุกตัวที่อยู่ในเกมนี้ แม้ว่าจะเป็นพวกระดับบอสประจำด่าน รัฐบาลก็ควรจะรู้ข้อมูลของพวกมันตั้งแต่แรก

แล้วเพราะอะไรรัฐบาลถึงต้องยอมจ่ายเงินซื้อข้อมูลเรื่องจุดอ่อนของพวกมันจากผู้เล่นในเกมด้วยนะ?

“ดูเหมือนในเกมนี้จะยังมีความลับอยู่อีกมากมายเลยแฮะ!”

ซูเย่ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มต้นวางแผนเก็บไอเท็มเพื่ออัปเลเวลอีกครั้ง

ประสบการณ์ที่ผ่านมาบอกเขาว่ายิ่งสามารถอัปเลเวลได้สูงเท่าไหร่ โอกาสที่จะไขปริศนาได้ก็ยิ่งมีเยอะเท่านั้น

ชายหนุ่มขี่เจ้ากวางยักษ์คู่ใจเข้าสู่เขตแผนที่ระดับ 38

สัตว์ประหลาดที่ประจำการอยู่ในเขตแผนที่ระดับ 38 คือจระเข้กลายพันธุ์ที่มีผิวหนังเป็นเกราะเหล็ก

ซูเย่วิ่งเข้าไปใช้ดาบตวัดฟาดฟัน ไม่มีคำว่าเมตตาปรานี

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

“วูบ!”

เส้นวงกลมสีขาวก็ลอยขึ้นมาจากใต้เท้าของซูเย่

“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ‘X’ ที่ได้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของเกม Fantasy Dream ผู้สามารถเลื่อนระดับขึ้นสู่เลเวล 38 ได้สำเร็จ และทำคะแนนเป็นอันดับ 1 ของเซิร์ฟเวอร์ในขณะนี้!”

ข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

ในเขตแผนที่ระดับ 33 บรรดาผู้เล่นที่ถูกเทพ X หลอกให้ไปโดนสัตว์ประหลาดน้ำแข็งฆ่าตาย ยิ่งส่งเสียงตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาลมากกว่าเดิมเมื่อเห็นข้อความนั้น

“เชี่ยแม่งหน้าไม่อาย หลอกพวกเราไปตายแล้วยังอัปเลเวลหน้าตาเฉย!”

“หลอกให้พวกเราเป็นหน่วยพลีชีพ เพื่อให้ตัวเองอัปเลเวล คนแบบนี้ใช้ไม่ได้ ฉันจะขอเป็นศัตรูกับนายไปชั่วชีวิต!”

“เทพ X นายมันเป็นพวกทำนาบนหลังคน แบบนี้ไม่มีวันเจริญหรอก!”

กลุ่มคนที่เกลียดชังเทพ X พร้อมใจกันตะโกนออกมาด้วยความเคียดแค้น

ถ้าไม่โดนเทพ X หลอก

อันดับของพวกเขาก็คงไม่หล่นลงมาแบบนี้แน่!

แต่ในเวลาเดียวกันนั้น กลุ่มผู้เล่นส่วนใหญ่ก็ยังคงพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น

“ให้ตายสิ ท่านเทพ X ขึ้นไปถึงเลเวล 38 แล้วเหรอเนี่ย? ทำไมเขาไม่มาชวนฉันไปอัปเลเวลบ้างนะ? ฉันนี่แหละจะเต็มใจให้เขาหลอกใช้อย่างเต็มที่ ฉันอยากจะเข้าร่วมกับเขา อยากช่วยเขาฆ่าสัตว์ประหลาดและเก็บผลึกวิญญาณบ้างจังเลยนะ!”

“ฉันก็รอโอกาสนั้นอยู่เหมือนกัน เทพ X ครับ ช่วยพาพวกเราไปอัปเลเวลหน่อยสิ!”

ข้าง ๆ กันนั้น

กลุ่มผู้เล่นที่เกลียดชังเทพ X เมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ ก็ยิ่งโกรธแค้นมากกว่าเดิม

เทพ X กลับกลายเป็นผู้ได้รับคำสรรเสริญไปได้อย่างไร?

ที่เทพ X สามารถอัปเลเวลได้ในครั้งนี้ ก็เพราะหลอกพวกเขาให้ไปตายแทนทั้งนั้น

หน้าไม่อายสิ้นดี!

ทันใดนั้น บนท้องฟ้าก็ปรากฏข้อความแจ้งเตือนอีกครั้ง

“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ‘X’ ที่ได้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของเกม Fantasy Dream ผู้สามารถเลื่อนระดับขึ้นสู่เลเวล 39 ได้สำเร็จ และทำคะแนนเป็นอันดับ 1 ของเซิร์ฟเวอร์ในขณะนี้!”

เพียงพริบตาเดียวก็ขึ้นไปถึงเลเวล 39 แล้ว

เมื่อเห็นข้อความชุดใหม่ กลุ่มคนที่ชื่นชมเทพ X ก็ยิ่งชื่นชมมากกว่าเดิม

ส่วนกลุ่มคนที่เกลียดชัง ก็ได้แต่ลอบต่อว่าด่าทออยู่ในใจ

แต่มีอีกหนึ่งความรู้สึกที่ปรากฏขึ้นในหัวใจของพวกเขา

การที่…ได้อัปเลเวลขึ้นมาสามเลเวล แม้สุดท้ายต้องตกลงมาหนึ่งเลเวล มันก็ไม่เห็นเสียหายอะไรนี่นา

ถ้าคราวหน้าเทพ X ต้องการลูกมือในการฆ่าสัตว์ประหลาดอีก

พวกเขาก็คงต้องขอเข้าร่วมด้วยอีกครั้งแน่นอน

“พวกนายว่าคืนนี้เทพ X จะอัปขึ้นไปถึงเลเวล 40 ได้ไหม?”

ใครคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นมา

“เรื่องนั้นมันต้องแน่นอนอยู่แล้ว!”

“ฉันอยากให้เขาพาเราไปอัปเลเวลด้วยจัง”

ทุกคนพูดประสานเสียง

ส่วนฝ่ายที่เกลียดชังเทพ X ก็ได้แต่ลอบสบถก่นด่าอยู่ในใจ

ทันใดนั้นเอง

ข้อความแจ้งเตือนอีกหนึ่งประโยคก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ‘X’ ที่ได้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของเกม Fantasy Dream ผู้สามารถเลื่อนระดับขึ้นสู่เลเวล 40 ได้สำเร็จ และทำคะแนนเป็นอันดับ 1 ของเซิร์ฟเวอร์ในขณะนี้!”

นั่นไง ขึ้นไปถึงเลเวล 40 แล้วจริง ๆ ด้วย!

ผู้เล่นทุกคนถึงกับหยุดชะงัก

ก่อนที่จะรวมตัวไปตั้งกระทู้ในบอร์ดข้อความเพื่อติดตามสถานการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ในโหมดสังเวียนผู้กล้า

ผู้เล่นบางคนที่พักจากการฝึกซ้อมก็เปิดบอร์ดข้อความประจำเกมเพื่อติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของผู้เล่นคนอื่น ๆ ทันใดนั้น พวกเขาก็ต้องปากอ้าตาค้างด้วยความตกตะลึง

ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนรู้สึกเจ็บใจยิ่งนัก

พวกเขายังไม่มีใครได้ออกไปจากโหมดสังเวียนผู้กล้าสักคน

แต่เจ้าเทพ X กลับสามารถอัปขึ้นไปถึงเลเวล 40 แล้ว!

นั่นมันเลเวล 40 เชียวนะ!

หมายความว่าไอ้หมอนั่นใช้เวลาเพียงไม่เท่าไหร่ก็อัปได้ถึง 10 เลเวลรวด!

เทพ X ทำได้ยังไงกันนะ?

แต่สิ่งที่น่ารำคาญใจมากไปกว่านั้นก็คือกลุ่มคนที่ติดตามเทพ X ก็สามารถเลื่อนระดับขึ้นไปได้เช่นกัน แม้จะเป็นผู้ติดตามชั้นปลายแถว แต่ทุกคนก็อัปขึ้นมาอยู่ในเลเวล 32 และ 33 กันเกือบหมดแล้ว

ถ้าผู้เล่นที่อยู่ในโหมดสังเวียนผู้กล้าได้ออกไปจากที่นี่เมื่อไหร่ พวกเขาก็จะพบว่าตนเองกลายเป็นผู้เล่นอันดับรั้งท้ายทันที

การมีอันดับรั้งท้ายไม่ใช่สิ่งน่ากลัว เพราะอาศัยความแข็งแกร่งของพวกเขาย่อมไต่อันดับขึ้นไปได้ไม่ยาก แต่สิ่งที่น่ากลัวมากกว่านั้นก็คือผู้เล่นธรรมดาสามารถแลกเปลี่ยนผลึกวิญญาณเป็นอาวุธวิเศษใหม่ ๆ รวมถึงสามารถเพิ่มค่าประสบการณ์และค่าวรยุทธ์จากการฆ่าสัตว์ประหลาด นั่นจึงหมายความว่านับจากนี้ไป กลุ่มผู้เล่นที่เป็นคนธรรมดาก็คงมีความเร็วในการทำคะแนนไล่หลังผู้เล่นที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ชนิดหายใจรดต้นคอเลยทีเดียว

เทพ X นายเป็นพวกเดียวกับเราไม่ใช่หรือไง ทำไมถึงทำกับพวกเราแบบนี้ล่ะ!

“เอาล่ะ พวกเรามาตั้งใจฝึกซ้อมกันต่อดีกว่า!”

เมื่ออ่านกระทู้จบแล้ว ทุกคนก็ลุกขึ้นยืนและฝึกซ้อมต่อไปด้วยความมุ่งมั่น

พวกเขาพยายามบอกตัวเองไม่ให้ท้อถอย

ณ เขตแผนที่ระดับ 40

บนภูเขาลูกหนึ่ง

ที่นี่มีสภาพแวดล้อมเป็นที่ราบสูงขนาดใหญ่ยาวไกลสุดลูกหูลูกตา

ซูเย่ยืนอยู่ตรงหน้าซากศพของสัตว์ประหลาดเหยี่ยวยักษ์ ซึ่งเป็นตัวบอสประจำแผนที่เขตนี้ สีหน้าของชายหนุ่มยังคงไร้อารมณ์ดังเดิม

เขาเพิ่งจะสังหารมันได้สด ๆ ร้อน ๆ

นับตั้งแต่ยุคโบราณ นกไม่ว่าสายพันธุ์ใดก็มักจะถูกยกย่องให้เป็นสัตว์วิเศษมาโดยตลอด แต่นอกจากผลึกวิญญาณที่ตกลงมาให้ดูดซับพลังเพียงก้อนเดียวแล้ว ก็ไม่มีอาวุธวิเศษใด ๆ ร่วงหล่นลงมาอีกเลย

ซูเย่จึงอดรู้สึกผิดหวังขึ้นมาไม่ได้ ก่อนจะตัดสินใจเดินหน้าต่อไป

แต่เขาเดินออกมาได้ประมาณ 50 เมตรเท่านั้น ชายหนุ่มกลับพบว่าตนเองไม่สามารถเดินต่อได้อีกแล้ว

“เขตแผนที่ระดับ 41 ยังไม่เปิดให้เข้าเล่นในขณะนี้”

เมื่อเห็นข้อความแจ้งเตือน ซูเย่ก็ชะงักไปเล็กน้อย

เขานึกว่าเมื่อได้เข้าสู่โลกของเกม Fantasy Dream ที่แท้จริง การเปิดแผนที่ใหม่ครั้งละ 10 ระดับจะไม่มีอีกแล้ว แต่ที่ไหนได้ ทุกอย่างยังคงดำเนินไปในรูปแบบเดิม

ทันใดนั้น ข้อความแจ้งเตือนว่าหมดเวลาเล่นเกมประจำวันก็เด้งขึ้นมา

ซูเย่ออกจากระบบโดยไม่ลังเล และนำหมวก VR ที่ขโมยมา ขึ้นไปเก็บไว้ในห้องเก็บของบนดาดฟ้าหอพัก ก่อนที่ซูชือกับจินฟานจะตื่น

ตอนที่เขากำลังปิดประตูห้องเก็บของ เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น

ผู้โทรมาคือหลี่เคอหมิง

“สวัสดีครับอาจารย์หลี่”

ซูเย่กดรับสายขณะที่ยังยืนอยู่บนดาดฟ้า

“เมื่ออาทิตย์ที่แล้วฉันงานยุ่ง ๆ ก็เลยไม่ได้พาเธอไปเรียนพิเศษ อาทิตย์นี้ฉันก็ยังหาเวลาปลีกตัวไปไม่ได้เหมือนเดิม แต่พอดีฉันนึกขึ้นมาได้ว่ามีศาสตร์การรักษาแบบโบราณบางอย่างที่มันอาจจะมีประโยชน์ต่อการแข่งขันก็ได้ เมื่อลองคิดทบทวนดูแล้ว ฉันว่าเธอลองศึกษาดูหน่อยก็คงไม่เสียหายอะไร”

เสียงของหลี่เคอหมิงพูดออกมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ “ฉันกำลังพูดถึงวิธีการรักษาด้วยการแช่น้ำสมุนไพร โดยนำสมุนไพรชนิดต่าง ๆ มาละลายน้ำให้ผู้ป่วยลงไปนอนแช่ตามระยะเวลาที่กำหนด”

“สำหรับคนที่มีความเข้าใจเรื่องสมุนไพรจีนขั้นพื้นฐานดีอยู่แล้ว การเรียนรู้เรื่องการแช่น้ำสมุนไพรก็ไม่ใช่เรื่องยาก…”

หลี่เคอหมิงกำลังจะเริ่มอธิบาย

“ผมรู้ครับว่าการแช่น้ำสมุนไพรคืออะไร”

ซูเย่ตอบกลับมาทันที “ก่อนหน้านี้ผมเองก็เคยแช่น้ำสมุนไพรมาหลายครั้ง ผมรู้ด้วยครับว่าจะต้องใช้สมุนไพรชนิดไหนบ้าง”

“หา?”

หลี่เคอหมิงได้ยินดังนั้นก็อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ “เธอเคยแช่น้ำสมุนไพรด้วยเหรอ? ตอนนั้นเธอเป็นอะไร ทำไมต้องลงไปแช่?”

“ตอนผมยังเด็ก โดนที่บ้านจับแช่เพื่อขัดผิวน่ะครับ” ซูเย่ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

แน่นอนว่ามันคือคำโกหก

เพราะในความเป็นจริง เขาต้องนอนแช่น้ำสมุนไพรเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของพลังลมปราณต่างหาก

หลี่เคอหมิงคุ้นเคยดีกับคำตอบที่ไม่น่าเชื่อของชายหนุ่ม ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่ซักไซ้ไล่เลียงอะไรอีก นอกจากกล่าวว่า “ฉันมีสถานที่เหมาะ ๆ ให้เธอเรียนรู้อยู่ที่หนึ่ง ที่นั่นมีสมุนไพรเกือบทุกชนิดให้เลือกสรร คนความจำดีอย่างเธอต้องจำชื่อสมุนไพรพวกนั้นได้แน่ ถือว่าเป็นการเตรียมตัวสอบไปเลยก็แล้วกันนะ ฉันติดต่อเจ้าของสถานที่ทางนั้นให้แล้ว วันนี้ถ้าเธอว่างก็แวะไปได้เลย”

“เดี๋ยวฉันส่งโลเคชั่นไปให้”

“รับทราบครับอาจารย์”

หลังจากนั้นไม่กี่นาที

ซูเย่ก็ได้รับตำแหน่งซึ่งเป็นสถานที่ปลายทางสำหรับการเรียนพิเศษในวันนี้จากหลี่เคอหมิง

ปรากฏว่ามันเป็นสถานที่ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากตลาดสมุนไพรประจำเมืองสักเท่าไหร่

“วันนี้ฉันไปด้วยไม่ได้ เธอไปคนเดียวก่อนแล้วกัน”

หลี่เคอหมิงส่งข้อความปิดท้าย

“ไม่เป็นไรครับอาจารย์ ขอบคุณมากนะครับ”

ซูเย่พิมพ์ข้อความตอบกลับไป หลังจากนั้นก็เดินลงมากลับเข้าห้องพัก จัดการล้างหน้าล้างตา กดค้นหาบริการรถเช่า และขับรถออกจากมหาวิทยาลัยเข้าไปในตัวเมือง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] 164 ฉันเกือบต้องเรียกนายว่าอาจารย์อาแล้ว

Now you are reading เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] Chapter 164 ฉันเกือบต้องเรียกนายว่าอาจารย์อาแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 164 ฉันเกือบต้องเรียกนายว่าอาจารย์อาแล้ว

วินาทีสุดท้ายก่อนที่เทพ X จะลับสายตาไป หวังเหาพยายามสแกนข้อมูลของอีกฝ่าย แต่กลับมีเพียงเครื่องหมายคำถามปรากฏขึ้นมาเท่านั้น

ชัดเจนแล้วว่าเทพ X ไม่ใช่ผู้เล่นที่ลงทะเบียนอย่างเป็นทางการในเกมนี้

“นี่เราโดนหลอกเหรอวะเนี่ย!”

หวังเหาคำรามออกมาด้วยความเดือดดาล

เขาโดนหลอก!

เขาไม่ควรเชื่อใจไอ้ตัวแสบที่พาคนนับพันไปให้สัตว์ประหลาดฆ่าตายเลยจริง ๆ!

ขนาดคนหลายพันคนเทพ X ยังหลอกได้หน้าตาเฉย แล้วหวังเหาคนเดียวจะไปเหลืออะไร!

“คิดจะมาใช้เล่ห์เหลี่ยมกับฉันงั้นเหรอ? ยังอ่อนหัดไปนะ สหาย”

ซูเย่หัวเราะเยาะด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ขณะนี้ เขามีแต้มศีลธรรม 77 แต้ม

อีก 23 แต้มก็จะครบ 100 แต้มแล้ว

ซูเย่บ่นออกมาเล็กน้อย

“รัฐบาลมีเงินเยอะเหมือนกันนี่นา สงสัยต่อจากนี้ เราคงต้องหาทางร่วมมือกับหวังเหาสักหน่อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการขายข้อมูลจุดอ่อนของพวกตัวบอสประจำด่านต่าง ๆ หรือทำภารกิจลับที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน แต่น่าเสียดายที่คราวหน้า เราคงหลอกเขาไม่ได้ง่าย ๆ แบบนี้อีกแล้วสิ เฮ้อ!”

“แต่ว่า…รัฐบาลจะเอาข้อมูลพวกนี้ไปทำอะไรกันนะ?”

ซูเย่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย

เพราะ Fantasy Dream มีสถานะเป็นเกมออนไลน์

เกมออนไลน์ที่รัฐบาลเป็นผู้พัฒนาขึ้นมา

มันต้องมีเหตุผลบ้างสิ

สัตว์ประหลาดทุกตัวที่อยู่ในเกมนี้ แม้ว่าจะเป็นพวกระดับบอสประจำด่าน รัฐบาลก็ควรจะรู้ข้อมูลของพวกมันตั้งแต่แรก

แล้วเพราะอะไรรัฐบาลถึงต้องยอมจ่ายเงินซื้อข้อมูลเรื่องจุดอ่อนของพวกมันจากผู้เล่นในเกมด้วยนะ?

“ดูเหมือนในเกมนี้จะยังมีความลับอยู่อีกมากมายเลยแฮะ!”

ซูเย่ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มต้นวางแผนเก็บไอเท็มเพื่ออัปเลเวลอีกครั้ง

ประสบการณ์ที่ผ่านมาบอกเขาว่ายิ่งสามารถอัปเลเวลได้สูงเท่าไหร่ โอกาสที่จะไขปริศนาได้ก็ยิ่งมีเยอะเท่านั้น

ชายหนุ่มขี่เจ้ากวางยักษ์คู่ใจเข้าสู่เขตแผนที่ระดับ 38

สัตว์ประหลาดที่ประจำการอยู่ในเขตแผนที่ระดับ 38 คือจระเข้กลายพันธุ์ที่มีผิวหนังเป็นเกราะเหล็ก

ซูเย่วิ่งเข้าไปใช้ดาบตวัดฟาดฟัน ไม่มีคำว่าเมตตาปรานี

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

“วูบ!”

เส้นวงกลมสีขาวก็ลอยขึ้นมาจากใต้เท้าของซูเย่

“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ‘X’ ที่ได้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของเกม Fantasy Dream ผู้สามารถเลื่อนระดับขึ้นสู่เลเวล 38 ได้สำเร็จ และทำคะแนนเป็นอันดับ 1 ของเซิร์ฟเวอร์ในขณะนี้!”

ข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

ในเขตแผนที่ระดับ 33 บรรดาผู้เล่นที่ถูกเทพ X หลอกให้ไปโดนสัตว์ประหลาดน้ำแข็งฆ่าตาย ยิ่งส่งเสียงตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาลมากกว่าเดิมเมื่อเห็นข้อความนั้น

“เชี่ยแม่งหน้าไม่อาย หลอกพวกเราไปตายแล้วยังอัปเลเวลหน้าตาเฉย!”

“หลอกให้พวกเราเป็นหน่วยพลีชีพ เพื่อให้ตัวเองอัปเลเวล คนแบบนี้ใช้ไม่ได้ ฉันจะขอเป็นศัตรูกับนายไปชั่วชีวิต!”

“เทพ X นายมันเป็นพวกทำนาบนหลังคน แบบนี้ไม่มีวันเจริญหรอก!”

กลุ่มคนที่เกลียดชังเทพ X พร้อมใจกันตะโกนออกมาด้วยความเคียดแค้น

ถ้าไม่โดนเทพ X หลอก

อันดับของพวกเขาก็คงไม่หล่นลงมาแบบนี้แน่!

แต่ในเวลาเดียวกันนั้น กลุ่มผู้เล่นส่วนใหญ่ก็ยังคงพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น

“ให้ตายสิ ท่านเทพ X ขึ้นไปถึงเลเวล 38 แล้วเหรอเนี่ย? ทำไมเขาไม่มาชวนฉันไปอัปเลเวลบ้างนะ? ฉันนี่แหละจะเต็มใจให้เขาหลอกใช้อย่างเต็มที่ ฉันอยากจะเข้าร่วมกับเขา อยากช่วยเขาฆ่าสัตว์ประหลาดและเก็บผลึกวิญญาณบ้างจังเลยนะ!”

“ฉันก็รอโอกาสนั้นอยู่เหมือนกัน เทพ X ครับ ช่วยพาพวกเราไปอัปเลเวลหน่อยสิ!”

ข้าง ๆ กันนั้น

กลุ่มผู้เล่นที่เกลียดชังเทพ X เมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ ก็ยิ่งโกรธแค้นมากกว่าเดิม

เทพ X กลับกลายเป็นผู้ได้รับคำสรรเสริญไปได้อย่างไร?

ที่เทพ X สามารถอัปเลเวลได้ในครั้งนี้ ก็เพราะหลอกพวกเขาให้ไปตายแทนทั้งนั้น

หน้าไม่อายสิ้นดี!

ทันใดนั้น บนท้องฟ้าก็ปรากฏข้อความแจ้งเตือนอีกครั้ง

“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ‘X’ ที่ได้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของเกม Fantasy Dream ผู้สามารถเลื่อนระดับขึ้นสู่เลเวล 39 ได้สำเร็จ และทำคะแนนเป็นอันดับ 1 ของเซิร์ฟเวอร์ในขณะนี้!”

เพียงพริบตาเดียวก็ขึ้นไปถึงเลเวล 39 แล้ว

เมื่อเห็นข้อความชุดใหม่ กลุ่มคนที่ชื่นชมเทพ X ก็ยิ่งชื่นชมมากกว่าเดิม

ส่วนกลุ่มคนที่เกลียดชัง ก็ได้แต่ลอบต่อว่าด่าทออยู่ในใจ

แต่มีอีกหนึ่งความรู้สึกที่ปรากฏขึ้นในหัวใจของพวกเขา

การที่…ได้อัปเลเวลขึ้นมาสามเลเวล แม้สุดท้ายต้องตกลงมาหนึ่งเลเวล มันก็ไม่เห็นเสียหายอะไรนี่นา

ถ้าคราวหน้าเทพ X ต้องการลูกมือในการฆ่าสัตว์ประหลาดอีก

พวกเขาก็คงต้องขอเข้าร่วมด้วยอีกครั้งแน่นอน

“พวกนายว่าคืนนี้เทพ X จะอัปขึ้นไปถึงเลเวล 40 ได้ไหม?”

ใครคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นมา

“เรื่องนั้นมันต้องแน่นอนอยู่แล้ว!”

“ฉันอยากให้เขาพาเราไปอัปเลเวลด้วยจัง”

ทุกคนพูดประสานเสียง

ส่วนฝ่ายที่เกลียดชังเทพ X ก็ได้แต่ลอบสบถก่นด่าอยู่ในใจ

ทันใดนั้นเอง

ข้อความแจ้งเตือนอีกหนึ่งประโยคก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ‘X’ ที่ได้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของเกม Fantasy Dream ผู้สามารถเลื่อนระดับขึ้นสู่เลเวล 40 ได้สำเร็จ และทำคะแนนเป็นอันดับ 1 ของเซิร์ฟเวอร์ในขณะนี้!”

นั่นไง ขึ้นไปถึงเลเวล 40 แล้วจริง ๆ ด้วย!

ผู้เล่นทุกคนถึงกับหยุดชะงัก

ก่อนที่จะรวมตัวไปตั้งกระทู้ในบอร์ดข้อความเพื่อติดตามสถานการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ในโหมดสังเวียนผู้กล้า

ผู้เล่นบางคนที่พักจากการฝึกซ้อมก็เปิดบอร์ดข้อความประจำเกมเพื่อติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของผู้เล่นคนอื่น ๆ ทันใดนั้น พวกเขาก็ต้องปากอ้าตาค้างด้วยความตกตะลึง

ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนรู้สึกเจ็บใจยิ่งนัก

พวกเขายังไม่มีใครได้ออกไปจากโหมดสังเวียนผู้กล้าสักคน

แต่เจ้าเทพ X กลับสามารถอัปขึ้นไปถึงเลเวล 40 แล้ว!

นั่นมันเลเวล 40 เชียวนะ!

หมายความว่าไอ้หมอนั่นใช้เวลาเพียงไม่เท่าไหร่ก็อัปได้ถึง 10 เลเวลรวด!

เทพ X ทำได้ยังไงกันนะ?

แต่สิ่งที่น่ารำคาญใจมากไปกว่านั้นก็คือกลุ่มคนที่ติดตามเทพ X ก็สามารถเลื่อนระดับขึ้นไปได้เช่นกัน แม้จะเป็นผู้ติดตามชั้นปลายแถว แต่ทุกคนก็อัปขึ้นมาอยู่ในเลเวล 32 และ 33 กันเกือบหมดแล้ว

ถ้าผู้เล่นที่อยู่ในโหมดสังเวียนผู้กล้าได้ออกไปจากที่นี่เมื่อไหร่ พวกเขาก็จะพบว่าตนเองกลายเป็นผู้เล่นอันดับรั้งท้ายทันที

การมีอันดับรั้งท้ายไม่ใช่สิ่งน่ากลัว เพราะอาศัยความแข็งแกร่งของพวกเขาย่อมไต่อันดับขึ้นไปได้ไม่ยาก แต่สิ่งที่น่ากลัวมากกว่านั้นก็คือผู้เล่นธรรมดาสามารถแลกเปลี่ยนผลึกวิญญาณเป็นอาวุธวิเศษใหม่ ๆ รวมถึงสามารถเพิ่มค่าประสบการณ์และค่าวรยุทธ์จากการฆ่าสัตว์ประหลาด นั่นจึงหมายความว่านับจากนี้ไป กลุ่มผู้เล่นที่เป็นคนธรรมดาก็คงมีความเร็วในการทำคะแนนไล่หลังผู้เล่นที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ชนิดหายใจรดต้นคอเลยทีเดียว

เทพ X นายเป็นพวกเดียวกับเราไม่ใช่หรือไง ทำไมถึงทำกับพวกเราแบบนี้ล่ะ!

“เอาล่ะ พวกเรามาตั้งใจฝึกซ้อมกันต่อดีกว่า!”

เมื่ออ่านกระทู้จบแล้ว ทุกคนก็ลุกขึ้นยืนและฝึกซ้อมต่อไปด้วยความมุ่งมั่น

พวกเขาพยายามบอกตัวเองไม่ให้ท้อถอย

ณ เขตแผนที่ระดับ 40

บนภูเขาลูกหนึ่ง

ที่นี่มีสภาพแวดล้อมเป็นที่ราบสูงขนาดใหญ่ยาวไกลสุดลูกหูลูกตา

ซูเย่ยืนอยู่ตรงหน้าซากศพของสัตว์ประหลาดเหยี่ยวยักษ์ ซึ่งเป็นตัวบอสประจำแผนที่เขตนี้ สีหน้าของชายหนุ่มยังคงไร้อารมณ์ดังเดิม

เขาเพิ่งจะสังหารมันได้สด ๆ ร้อน ๆ

นับตั้งแต่ยุคโบราณ นกไม่ว่าสายพันธุ์ใดก็มักจะถูกยกย่องให้เป็นสัตว์วิเศษมาโดยตลอด แต่นอกจากผลึกวิญญาณที่ตกลงมาให้ดูดซับพลังเพียงก้อนเดียวแล้ว ก็ไม่มีอาวุธวิเศษใด ๆ ร่วงหล่นลงมาอีกเลย

ซูเย่จึงอดรู้สึกผิดหวังขึ้นมาไม่ได้ ก่อนจะตัดสินใจเดินหน้าต่อไป

แต่เขาเดินออกมาได้ประมาณ 50 เมตรเท่านั้น ชายหนุ่มกลับพบว่าตนเองไม่สามารถเดินต่อได้อีกแล้ว

“เขตแผนที่ระดับ 41 ยังไม่เปิดให้เข้าเล่นในขณะนี้”

เมื่อเห็นข้อความแจ้งเตือน ซูเย่ก็ชะงักไปเล็กน้อย

เขานึกว่าเมื่อได้เข้าสู่โลกของเกม Fantasy Dream ที่แท้จริง การเปิดแผนที่ใหม่ครั้งละ 10 ระดับจะไม่มีอีกแล้ว แต่ที่ไหนได้ ทุกอย่างยังคงดำเนินไปในรูปแบบเดิม

ทันใดนั้น ข้อความแจ้งเตือนว่าหมดเวลาเล่นเกมประจำวันก็เด้งขึ้นมา

ซูเย่ออกจากระบบโดยไม่ลังเล และนำหมวก VR ที่ขโมยมา ขึ้นไปเก็บไว้ในห้องเก็บของบนดาดฟ้าหอพัก ก่อนที่ซูชือกับจินฟานจะตื่น

ตอนที่เขากำลังปิดประตูห้องเก็บของ เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น

ผู้โทรมาคือหลี่เคอหมิง

“สวัสดีครับอาจารย์หลี่”

ซูเย่กดรับสายขณะที่ยังยืนอยู่บนดาดฟ้า

“เมื่ออาทิตย์ที่แล้วฉันงานยุ่ง ๆ ก็เลยไม่ได้พาเธอไปเรียนพิเศษ อาทิตย์นี้ฉันก็ยังหาเวลาปลีกตัวไปไม่ได้เหมือนเดิม แต่พอดีฉันนึกขึ้นมาได้ว่ามีศาสตร์การรักษาแบบโบราณบางอย่างที่มันอาจจะมีประโยชน์ต่อการแข่งขันก็ได้ เมื่อลองคิดทบทวนดูแล้ว ฉันว่าเธอลองศึกษาดูหน่อยก็คงไม่เสียหายอะไร”

เสียงของหลี่เคอหมิงพูดออกมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ “ฉันกำลังพูดถึงวิธีการรักษาด้วยการแช่น้ำสมุนไพร โดยนำสมุนไพรชนิดต่าง ๆ มาละลายน้ำให้ผู้ป่วยลงไปนอนแช่ตามระยะเวลาที่กำหนด”

“สำหรับคนที่มีความเข้าใจเรื่องสมุนไพรจีนขั้นพื้นฐานดีอยู่แล้ว การเรียนรู้เรื่องการแช่น้ำสมุนไพรก็ไม่ใช่เรื่องยาก…”

หลี่เคอหมิงกำลังจะเริ่มอธิบาย

“ผมรู้ครับว่าการแช่น้ำสมุนไพรคืออะไร”

ซูเย่ตอบกลับมาทันที “ก่อนหน้านี้ผมเองก็เคยแช่น้ำสมุนไพรมาหลายครั้ง ผมรู้ด้วยครับว่าจะต้องใช้สมุนไพรชนิดไหนบ้าง”

“หา?”

หลี่เคอหมิงได้ยินดังนั้นก็อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ “เธอเคยแช่น้ำสมุนไพรด้วยเหรอ? ตอนนั้นเธอเป็นอะไร ทำไมต้องลงไปแช่?”

“ตอนผมยังเด็ก โดนที่บ้านจับแช่เพื่อขัดผิวน่ะครับ” ซูเย่ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

แน่นอนว่ามันคือคำโกหก

เพราะในความเป็นจริง เขาต้องนอนแช่น้ำสมุนไพรเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของพลังลมปราณต่างหาก

หลี่เคอหมิงคุ้นเคยดีกับคำตอบที่ไม่น่าเชื่อของชายหนุ่ม ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่ซักไซ้ไล่เลียงอะไรอีก นอกจากกล่าวว่า “ฉันมีสถานที่เหมาะ ๆ ให้เธอเรียนรู้อยู่ที่หนึ่ง ที่นั่นมีสมุนไพรเกือบทุกชนิดให้เลือกสรร คนความจำดีอย่างเธอต้องจำชื่อสมุนไพรพวกนั้นได้แน่ ถือว่าเป็นการเตรียมตัวสอบไปเลยก็แล้วกันนะ ฉันติดต่อเจ้าของสถานที่ทางนั้นให้แล้ว วันนี้ถ้าเธอว่างก็แวะไปได้เลย”

“เดี๋ยวฉันส่งโลเคชั่นไปให้”

“รับทราบครับอาจารย์”

หลังจากนั้นไม่กี่นาที

ซูเย่ก็ได้รับตำแหน่งซึ่งเป็นสถานที่ปลายทางสำหรับการเรียนพิเศษในวันนี้จากหลี่เคอหมิง

ปรากฏว่ามันเป็นสถานที่ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากตลาดสมุนไพรประจำเมืองสักเท่าไหร่

“วันนี้ฉันไปด้วยไม่ได้ เธอไปคนเดียวก่อนแล้วกัน”

หลี่เคอหมิงส่งข้อความปิดท้าย

“ไม่เป็นไรครับอาจารย์ ขอบคุณมากนะครับ”

ซูเย่พิมพ์ข้อความตอบกลับไป หลังจากนั้นก็เดินลงมากลับเข้าห้องพัก จัดการล้างหน้าล้างตา กดค้นหาบริการรถเช่า และขับรถออกจากมหาวิทยาลัยเข้าไปในตัวเมือง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+