เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส 203

Now you are reading เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส Chapter 203 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

จ๋ายหวินเชิ่ง หยูซี และเจี่ยนอีหลิงมาถึงร้านอาหารระดับสูงที่อยู่ภายใต้ชื่อของตระกูลหยู

 

หยูซ่ีนั้นขอให้ผู้จัดการร้านอาหารให้สำรองห้องแบบสุดหรูให้กับพวกเขาเป็นการล่วงหน้าแล้ว

 

แม้ว่าจะมีเพียงพวกเขาสามคน แต่พวกเขาก็ได้จัดเสิร์ฟโต๊ะจีนแบบเต็มรูปครบทุกจาน

 

บังเอิญ ฉินชี่เชวนกับผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาก็มาที่ร้านอาหารนี้เพื่อทานอาหารเช่นเดียวกัน หลังจากที่รู้ว่าจ๋ายหวินเชิ่งก็อยู่ที่นี่ ฉินชี่เชวนก็ตรงเข้าไปทักทายจ๋ายหวินเชิ่งที่ห้องของเขา

 

ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลฉินกับตระกูลจ๋ายนั้นไม่นับว่าดีหรือแย่ พวกเขาทั้งคู่ล้วนจัดเป็นตระกูลที่ดีที่สุดในเป่ยจิงที่มีพื้นฐานตระกูลที่แข็งแกร่ง

 

ตอนนี้เมื่อพวกเขามาพบกัน เขาจะทำเหมือนว่าไม่เห็นกันไม่ได้

 

ฉินชี่เชวนนั้นเป็นเพียงคนในตระกูลสาขาของตระกูลฉิน และตัวตนของเขานั้นด้อยกว่าเจ้าชายแห่งตระกูลจ๋ายมากนัก

 

ดังนั้นเป็นเรื่องที่สมเหตุผลที่เขาจะไปพบกับจ๋ายหวินเชิ่ง

 

เมื่อฉินชี่เชวนเข้าไปในห้อง ก็เห็นมีคนเพียงสองคนอยู่ภายในนั้น จ๋ายหวินเชิ่งกับหยูซี

 

เจี่ยนอีหลิงนั้นกำลังย่างเห็ดให้กับจ๋ายหวินเชิ่งในครัว เพราะว่ามันเป็นร้านอาหารของตระกูลหยู เชฟของตระกูลหยูจึงยอมให้ความร่วมมือกับเจี่ยนอีหลิงด้วยคำพูดเพียงหนึ่งคำ

 

“นายท่านเชิ่ง ผมไม่คาดว่าจะพบกับคุณในที่แห่งนี้” ฉินชี่เชวนนั้นแก่กว่าจ๋ายหวินเชิ่ง แต่ต่อหน้าจ๋ายหวินเชิ่งแล้ว เขาต้องทำตัวสุภาพและนอบน้อม

 

ฉินชี่เชวนเข้าใจดีถึงศักดิ์ฐานะทางสังคมระหว่างพวกเขา

 

“อะไรที่ทำให้หัวหน้าน้อยฉินต้องมาทำงานที่เหิงเหย่วนนี่ จัดการแข่งขันเคมีเพื่อรับสมัครคนมีพรสวรรค์อีกละสิ กลุ่มอายุไม่ค่อนข้างเด็กเกินไปหน่อยเหรอ” จ๋ายหวินเชิ่งมีท่าทีสบายๆและน้ำเสียงผ่อนคลาย แต่ดวงตาที่มองไปยังฉินชี่เชวนนั้นกลับคมกริบเป็นพิเศษ

 

จ๋ายหวินเชิ่งดูแล้วเหมึอนกับเป็นคนไม่เอาถ่านที่ไม่ได้ทำธุรกิจเป็นประจำ

 

แต่ตามความเป็นจริงแล้ว ไม่มีอะไรหลุดรอดสายตาของเขาไปได้

 

เขารู้ทุกอย่างที่เขาต้องการจะรู้

 

“ผมเป็นคนรับผิดชอบสถาบันวิจัยเคมีภัณฑ์เยวลี่ และก็เป็นงานของผมที่จะต้องค้นหาคนที่มีพรสวรรค์ทางด้านเคมี” ฉินชี่เชวนนั้นใจเย็นและมีลับลมคมใน

 

“หัวหน้าน้อยฉินได้ขุดคนมีพรสวรรค์ไปบ้างหรือยัง”

 

“เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจจริงๆ เธอเป็นเด็กหญิงที่ดูอ่อนแอและขี้อาย แต่เธอกลับมีความรู้ทางด้านเคมีเหนือกว่าคนในรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอไปมาก ไม่ว่าจะเป็นการสอบหรือว่าการสนทนากันตัวต่อตัวกับเธอหลังจากนั้น ผมน่ะถึงกับต้องตกใจอย่างมาก”

 

ขณะที่ฉินชี่เชวนกำลังพูดอยู่นั้น เจี่ยนอีหลิงก็เข้ามาในห้องพร้อมกับจานอาหาร มาปรากฏตัวอยู่ด้านหลังฉินชี่เชวน

 

ฉินชี่เชวนหันหน้าไปเห็นคนที่ตัวเองกำลังพูดถึงอยู่

 

นี่เป็นสถานการณ์อะไรกันเนี่ย

 

ฉินชี่เชวนดูประหลาดใจมาก

 

เขาไม่คิดว่าอัจฉริยะทางเคมีตัวน้อยที่เขากำลังกล่าวขวัญถึงในแง่ดีจะมาปรากฏตัวในห้องเดียวกันกับจ๋ายหวินเชิ่ง

 

อารมณ์ของจ๋ายหวินเชิ่งนั้นยากมากที่จะรับมือ และสามารถพูดได้ว่ามีคนเพียงไม่กี่คนที่สามารถทำให้จ๋ายหวินเชิ่งเห็นเป็นที่ถูกชะตา

 

ยิ่งไปกว่านั้นเป็นที่กล่าวกันว่าจ๋ายหวินเชิ่งนั้นไม่ชอบผู้หญิงเป็นพิเศษ แม้จะยอมให้ตระกูลจ๋ายทำอะไรก็ได้ตามที่พวกเขาต้องการก็ตาม แต่เขาก็จะปฏิเสธที่จะพูดเรื่องแฟน ไม่พูดถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนหญิงธรรมดาก็ตาม

 

มันเป็นเรื่องแปลกจริงๆที่นักเรียนเจี่ยนอีหลิงคนนี้กลับใกล้ชิดกับเขามากขนาดนี้ในตอนนี้ ตะวันคงจะขึ้นทางตะวันตกแน่ๆ

 

“นักเรียนเจี่ยนอีหลิง ผมไม่คิดว่าจะเห็นเธอที่นี่” หลังจากที่ฉินชี่เชวนระงับความตกใจไว้ได้ เขาก็ยิ้มและทักทายเจี่ยนอีหลิง

 

เขาไม่ได้แสดงความไม่สุภาพอะไรต่อเจี่ยนอีหลิงเพราะว่าเธออายุยังน้อย

 

เจี่ยนอีหลิงพยักหน้าให้กับฉินชี่เชวนอย่างสุภาพ จากนั้นก็เดินตรงไปยังจ๋ายหวินเชิ่ง แล้ววางจานที่มีอาหารร้อนกรุ่นตรงหน้าเขา

 

มีอาหารหลากหลายชนิดอยู่บนจานนั้น แม้ว่าอาหารแต่ละชนิดนั้นจะมีไม่มาก แต่ก็มีหลากหลายประเภท

 

แม้จะกล่าวได้ว่ามันเป็นเห็ด แต่ก็ไม่ใช่เป็นเห็ดทั้งหมด ยังมีอาหารประเภทอื่นอีกมากมายหลายชนิด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส 203

Now you are reading เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส Chapter 203 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

จ๋ายหวินเชิ่ง หยูซี และเจี่ยนอีหลิงมาถึงร้านอาหารระดับสูงที่อยู่ภายใต้ชื่อของตระกูลหยู

 

หยูซ่ีนั้นขอให้ผู้จัดการร้านอาหารให้สำรองห้องแบบสุดหรูให้กับพวกเขาเป็นการล่วงหน้าแล้ว

 

แม้ว่าจะมีเพียงพวกเขาสามคน แต่พวกเขาก็ได้จัดเสิร์ฟโต๊ะจีนแบบเต็มรูปครบทุกจาน

 

บังเอิญ ฉินชี่เชวนกับผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาก็มาที่ร้านอาหารนี้เพื่อทานอาหารเช่นเดียวกัน หลังจากที่รู้ว่าจ๋ายหวินเชิ่งก็อยู่ที่นี่ ฉินชี่เชวนก็ตรงเข้าไปทักทายจ๋ายหวินเชิ่งที่ห้องของเขา

 

ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลฉินกับตระกูลจ๋ายนั้นไม่นับว่าดีหรือแย่ พวกเขาทั้งคู่ล้วนจัดเป็นตระกูลที่ดีที่สุดในเป่ยจิงที่มีพื้นฐานตระกูลที่แข็งแกร่ง

 

ตอนนี้เมื่อพวกเขามาพบกัน เขาจะทำเหมือนว่าไม่เห็นกันไม่ได้

 

ฉินชี่เชวนนั้นเป็นเพียงคนในตระกูลสาขาของตระกูลฉิน และตัวตนของเขานั้นด้อยกว่าเจ้าชายแห่งตระกูลจ๋ายมากนัก

 

ดังนั้นเป็นเรื่องที่สมเหตุผลที่เขาจะไปพบกับจ๋ายหวินเชิ่ง

 

เมื่อฉินชี่เชวนเข้าไปในห้อง ก็เห็นมีคนเพียงสองคนอยู่ภายในนั้น จ๋ายหวินเชิ่งกับหยูซี

 

เจี่ยนอีหลิงนั้นกำลังย่างเห็ดให้กับจ๋ายหวินเชิ่งในครัว เพราะว่ามันเป็นร้านอาหารของตระกูลหยู เชฟของตระกูลหยูจึงยอมให้ความร่วมมือกับเจี่ยนอีหลิงด้วยคำพูดเพียงหนึ่งคำ

 

“นายท่านเชิ่ง ผมไม่คาดว่าจะพบกับคุณในที่แห่งนี้” ฉินชี่เชวนนั้นแก่กว่าจ๋ายหวินเชิ่ง แต่ต่อหน้าจ๋ายหวินเชิ่งแล้ว เขาต้องทำตัวสุภาพและนอบน้อม

 

ฉินชี่เชวนเข้าใจดีถึงศักดิ์ฐานะทางสังคมระหว่างพวกเขา

 

“อะไรที่ทำให้หัวหน้าน้อยฉินต้องมาทำงานที่เหิงเหย่วนนี่ จัดการแข่งขันเคมีเพื่อรับสมัครคนมีพรสวรรค์อีกละสิ กลุ่มอายุไม่ค่อนข้างเด็กเกินไปหน่อยเหรอ” จ๋ายหวินเชิ่งมีท่าทีสบายๆและน้ำเสียงผ่อนคลาย แต่ดวงตาที่มองไปยังฉินชี่เชวนนั้นกลับคมกริบเป็นพิเศษ

 

จ๋ายหวินเชิ่งดูแล้วเหมึอนกับเป็นคนไม่เอาถ่านที่ไม่ได้ทำธุรกิจเป็นประจำ

 

แต่ตามความเป็นจริงแล้ว ไม่มีอะไรหลุดรอดสายตาของเขาไปได้

 

เขารู้ทุกอย่างที่เขาต้องการจะรู้

 

“ผมเป็นคนรับผิดชอบสถาบันวิจัยเคมีภัณฑ์เยวลี่ และก็เป็นงานของผมที่จะต้องค้นหาคนที่มีพรสวรรค์ทางด้านเคมี” ฉินชี่เชวนนั้นใจเย็นและมีลับลมคมใน

 

“หัวหน้าน้อยฉินได้ขุดคนมีพรสวรรค์ไปบ้างหรือยัง”

 

“เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจจริงๆ เธอเป็นเด็กหญิงที่ดูอ่อนแอและขี้อาย แต่เธอกลับมีความรู้ทางด้านเคมีเหนือกว่าคนในรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอไปมาก ไม่ว่าจะเป็นการสอบหรือว่าการสนทนากันตัวต่อตัวกับเธอหลังจากนั้น ผมน่ะถึงกับต้องตกใจอย่างมาก”

 

ขณะที่ฉินชี่เชวนกำลังพูดอยู่นั้น เจี่ยนอีหลิงก็เข้ามาในห้องพร้อมกับจานอาหาร มาปรากฏตัวอยู่ด้านหลังฉินชี่เชวน

 

ฉินชี่เชวนหันหน้าไปเห็นคนที่ตัวเองกำลังพูดถึงอยู่

 

นี่เป็นสถานการณ์อะไรกันเนี่ย

 

ฉินชี่เชวนดูประหลาดใจมาก

 

เขาไม่คิดว่าอัจฉริยะทางเคมีตัวน้อยที่เขากำลังกล่าวขวัญถึงในแง่ดีจะมาปรากฏตัวในห้องเดียวกันกับจ๋ายหวินเชิ่ง

 

อารมณ์ของจ๋ายหวินเชิ่งนั้นยากมากที่จะรับมือ และสามารถพูดได้ว่ามีคนเพียงไม่กี่คนที่สามารถทำให้จ๋ายหวินเชิ่งเห็นเป็นที่ถูกชะตา

 

ยิ่งไปกว่านั้นเป็นที่กล่าวกันว่าจ๋ายหวินเชิ่งนั้นไม่ชอบผู้หญิงเป็นพิเศษ แม้จะยอมให้ตระกูลจ๋ายทำอะไรก็ได้ตามที่พวกเขาต้องการก็ตาม แต่เขาก็จะปฏิเสธที่จะพูดเรื่องแฟน ไม่พูดถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนหญิงธรรมดาก็ตาม

 

มันเป็นเรื่องแปลกจริงๆที่นักเรียนเจี่ยนอีหลิงคนนี้กลับใกล้ชิดกับเขามากขนาดนี้ในตอนนี้ ตะวันคงจะขึ้นทางตะวันตกแน่ๆ

 

“นักเรียนเจี่ยนอีหลิง ผมไม่คิดว่าจะเห็นเธอที่นี่” หลังจากที่ฉินชี่เชวนระงับความตกใจไว้ได้ เขาก็ยิ้มและทักทายเจี่ยนอีหลิง

 

เขาไม่ได้แสดงความไม่สุภาพอะไรต่อเจี่ยนอีหลิงเพราะว่าเธออายุยังน้อย

 

เจี่ยนอีหลิงพยักหน้าให้กับฉินชี่เชวนอย่างสุภาพ จากนั้นก็เดินตรงไปยังจ๋ายหวินเชิ่ง แล้ววางจานที่มีอาหารร้อนกรุ่นตรงหน้าเขา

 

มีอาหารหลากหลายชนิดอยู่บนจานนั้น แม้ว่าอาหารแต่ละชนิดนั้นจะมีไม่มาก แต่ก็มีหลากหลายประเภท

 

แม้จะกล่าวได้ว่ามันเป็นเห็ด แต่ก็ไม่ใช่เป็นเห็ดทั้งหมด ยังมีอาหารประเภทอื่นอีกมากมายหลายชนิด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+