ตอนที่ 92: เบอร์เซิร์กเกอร์แห่งเลือด: ลําดับที่ 1 ไป่เซหมิน & ทักษะใหม่! (ตอนที่ 2)

เมื่อซ่างกวน ปิงเสว่ เข้าไปในป่ากลายพันธุ์เพื่อเติมเต็มส่วนที่สําคัญที่สุดของเธอในแผนทั้งหมดที่ได้รับการปรับปรุงในช่วงเย็นและเกือบตลอดทั้งคืน บรรยากาศภายนอกป่าก็เงียบมาก

ผู้รอดชีวิตอยู่ในห้องสมุด ซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายทาง รอคอยการกลับมาอย่างมีชัยของผู้นําหลักทั้งสี่ของกลุ่มอย่างใจจดใจจ่อ

ในขณะที่ ฟู่เชี่ยเฟิง, ไคจิงยี่, ซ่งเต๋อ และ คังลาน อยู่กับผู้รอดชีวิตเพื่อปกป้องพวกเขา เนื่องจากความแข็งแกร่งในปัจจุบันของพวกเขาพวกเขาไม่มีโอกาสต่อสู้กับสัตว์ร้ายอันดับ 1 พวกเขาทั้งหมดรู้ว่าถ้า ไป่เซหมิน, ซ่างกวน ปิงเสว่, เฉินเหอ และเหลียงเผิงพ่ายแพ้ เป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งที่คนอื่นๆ จะสามารถอยู่รอดได้

ท้ายที่สุดแล้ว หากแม้แต่ทั้ง 4 คนไม่สามารถเอาชนะสัตว์ร้ายในป่าได้ มันก็เป็นเพียงเรื่องของเวลา ก่อนที่พวกเขาทั้งหมดจะถูกกิน เพราะพวกเขาไม่มีทางออกจากมหาวิทยาลัยได้อย่างปลอดภัย

ในทางกลับกัน เฉินเหอ และ เหลียงเผิง ถืออาวุธของพวกเขาแน่น ในขณะที่ตาของพวกเขายังคงจับจ้องไปที่ต้นไม้และพุ่มไม้ห่างออกไปหลายเมตร หากสัตว์กลายพันธุ์หรือแมลงปรากฏขึ้น ทั้งคู่ก็พร้อมที่จะโจมตีทัน

ต่างจากทั้ง 2 คน ไป่เซหมินดูผ่อนคลายมากขึ้น ยืนอยู่บนอาคารที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในพื้นที่ เขาจ้องมองไปข้างหน้าอย่างเงียบ ๆ หลายวินาทีก่อนที่จะถามด้วยเสียงต่ํา:

“งั้น… เธอแน่ใจหรือว่าไม่ใช่สัตว์ร้ายอันดับ 2 ใช่ไหม”

ลิลิธหัวเราะคิกคักและพูดเบา ๆ “ฉันบอกนายแล้วว่าไม่ใช่… สิ่งมีชีวิตในป่านั้นมีความสามารถแปลก ๆ แต่ มันอยู่ที่ชั้นบนสุดของพวกลําดับที่ 1 เท่านั้น มันยังไม่สามารถก้าวหน้าได้… แต่ถ้าปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนั้น มันอาจจะเป็นปัญหาในอนาคตก็ได้”

ไป่เซหมินแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ตราบใดที่ศัตรูของเขาไม่ได้อยู่ในกลุ่มลําดับที่ 2 แม้ว่าจะเป็นสัตว์ที่อยู่ในจํานวน 49 หรือ 50 ตนก็ตาม เขาก็มั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะไม่ว่าศัตรูของเขาจะมีทักษะแบบใด

“ช่างน่าเสียดาย… ถ้าเพียงความตายของลิงแพลตตินั่มเมื่อวานนี้เท่านั้นที่นับ ณ จุดนี้ ฉันอาจจะพัฒนาไปสู่ลําดับที่ 1 ได้สําเร็จในตอนนี้” เขาอดไม่ได้ที่จะเกาหัวด้วยมือเปล่าและถอนหายใจด้วยความเสียใจเล็กน้อย

“นายคิดว่าบันทึกวิญญาณนั้นง่ายอย่างนั้นหรือ” ลิลิธอดไม่ได้ที่จะกลอกตาอย่างมีเสน่ห์และชี้ว่า “สิ่งมีชีวิต นับไม่ถ้วนพยายามหลบเลี่ยงบันทึกวิญญาณและพยายามสํารวจหรือหาช่องโหว่บางอย่าง เมื่อบรรลุตามข้อกํา หนดวิวัฒนาการ แต่พวกเขาทั้งหมดล้มเหลวอย่างน่าสังเวช”

“กรุณาบอกฉันเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้” หูของไป่เซหมิน เงยขึ้นทันทีและเขารู้สึกสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้

“เมื่อใดก็ตามที่บันทึกของวิญญาณแสดงข้อกําหนดการวิวัฒนาการ ข้อกําหนดนั้นจะต้องสมบูรณ์อย่างถูกต้องและโดยบุคคลที่ประสงค์จะวิวัฒนาการเท่านั้น” ลิลิธตอบสั้นๆ แต่กระชับ “ไม่อนุญาตให้ช่วยเหลือจากภาย นอกแต่อย่างใด นอกจากนี้ หากนายใช้อาวุธที่มีอํานาจทําลายล้างสูงหรืออาวุธระยะไกลที่นายไม่ได้สร้างขึ้นด้วยมือของนายเอง นายก็อาจจะล้มเหลวเช่นกัน”

ไป่เซหมินขมวดคิ้วและพูดอย่างลังเล “นี่… สมมุติว่าฉันยิงสัตว์ประหลาดอันดับ 1 เข้าที่หัว…”

“ฮ่าฮ่าฮ่า…” ลิลิธอดหัวเราะไม่ได้ นางมองดูเขาด้วยความขบขันและถามว่า “นายคิดว่ามานา พลังงานที่สามารถบังคับให้ทุกสรรพสิ่งมีวิวัฒนาการหรือตายได้ ง่ายๆ อย่างนั้นหรือ ไป่เซหมิน ยกเว้นซอมบี้หรือสัตว์อื่น ๆ ที่ ไม่พัฒนาอย่างเหมาะสม ปืนธรรมดาไม่มีพลัง เพื่อเจาะมานาธรรมชาติที่อยู่รายล้อมสัตว์ร้ายลําดับที่ 1 ในการ ฆ่าพวกมัน 1 ตัว นายอาจต้องใช้ขีปนาวุธหรือรถถังต่อสู้… บางทีปืนกลหนักก็อาจทําเคล็ดลับได้เช่นกัน”

“ในความเป็นจริง หากนายเคยใช้อาวุธปืนเพื่อฆ่าศัตรูตัวแรกของนาย มีความเป็นไปได้ที่บันทึกวิญญาณจะปฏิเสธพลังวิญญาณของผู้แพ้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์” ลิลธยักไหล่ และเสียงของเธอก็ขมเล็กน้อยก่อนจะสรุปว่า “วิธีการทํางานนี้ อย่าถามฉันเลย บันทึกวิญญาณเป็นตัวตนที่ยังคงต้องศึกษามาจนถึงทุกวันนี้”

ไป่เซหมินอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ดวงตาของเขาสั่นเทาด้วยความกลัว

มนุษย์อ่อนแอโดยธรรมชาติและส่วนใหญ่ไม่มีความกล้าแม้แต่จะต่อสู้ หากอาวุธปืนสูญเสียผลกระทบแล้ว มนุษยชาติจะรอดจากวันสิ้นโลกได้อย่างไร?

ราวกับว่าเธอรู้ความคิดของเขา เธอให้ความมั่นใจกับเขาด้วยน้ําเสียงที่นุ่มนวลของเธอ: “แต่อย่ากังวลมาก … สิ่งมีชีวิตในอันดับที่ 1 นั้นคงธรรมดา เพราะเพิ่งจะ 11 วันตั้งแต่บันทึกวิญญาณมาถึงกาแลคซีนี้ สําหรับวินาทีนี้ คําสั่งนั่น… หวังว่าคงจะยังไม่มีหรือมนุษยชาติในพื้นที่นั้นจะถูกทําลายล้าง เว้นแต่พวกเขาจะมีพลังทางทหารที่โดดเด่นอย่างแท้จริง”

ไป่เซหมินยิ้มอย่างขมขึ้นและส่ายหัว เขารู้จักโลกในมหาวิทยาลัยนี้เท่านั้น เขารู้สถานการณ์ภายนอกได้อย่างไร? สิ่งเดียวที่เขาหวังก็คือคนที่เขารักหรืออย่างอื่น… เขาไม่อยากคิดเรื่องนั้นด้วยซ้ํา

อย่างน้อยตอนนี้เขาก็รู้ว่าบันทึกวิญญาณไม่ใช่สิ่งที่จะเล่นด้วยกันเอง แม้ว่ามันจะค่อนข้างชัดเจนถ้าเขาคิดให้รอบคอบกว่านี้ อย่างที่ลิลิธพูดก่อนหน้านี้ ตัวตนที่สามารถทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายในพริบตาจะเป็นเรื่องง่ายได้อย่างไร?

อาจเป็นเพราะเหตุผลที่ลิลิธกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าผู้ที่ขับรถโดยสารไม่ได้รับประสบการณ์ใดๆ แม้ว่าพวกเขาจะฆ่าซอมบี้หลายตัวด้วยการบดขยี้พวกมันอย่างไร้ความปราณี

ขณะที่ไป่เซหมินกําลังครุ่นคิด เสียงคํารามอันน่าสะพรึงกลัวมาจากภายในป่ากลายพันธุ์ทําให้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปและการแสดงออกของเขาก็กลายเป็นจริงจัง

“ในที่สุดก็เริ่มได้” เขาพึมพําในขณะที่ยกตรีศูลเลือดที่ส่องแสงเหมือนทับทิมบนไหล่ของเขา เอนแขนไปด้านหลังให้ไกลที่สุด และใช้การควบคุมเลือดกับตัวเอง โดยเพ่งความสนใจไปที่พลังและความสามารถทั้งหมดของเขาในการโจมตีเพียงครั้งเดียว!

ด้วยเท้าขวาข้างหลังและเท้าซ้ายไปข้างหน้า ไป่เซหมินเอนกายไปข้างหลังเล็กน้อย ดวงตาที่สดใสของเขา ดูเหมือนจะปกคลุมไปด้วยชั้นของน้ําค้างแข็งขณะที่เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อค้นหาสัญญาณที่ตรงกัน

ปัง

การระเบิดดังก้องจากภายในป่ากลายพันธุ์ และหลังจากนั้นไม่นานคลื่นน้ําที่สูงกว่า 20 เมตรก็ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า อย่างไรก็ตาม ภายใต้การจ้องมองของชายทั้งสามที่ปรากฏอยู่ คลื่นน้ําเคลื่อนตัวไปในทิศทางแปลก ๆ ก่อนที่จะกลายเป็นน้ําแข็ง

มุมปากของไป่เซหมิน โค้งขึ้นเล็กน้อยและเขาก็อดไม่ได้ที่จะสรรเสริญว่า “ช่างเป็นประติมากรรมที่สวยงามจริงๆ”

เท้าขวาที่อยู่ข้างหลังเขาก้าวไปข้างหน้าอย่างกะทันหัน แซงเท้าซ้ายด้วยระยะขอบกว้าง และกล้ามเนื้อของแขนขวาของเขาขยายออกจนสุด โดยไม่ชักช้า แขนขวาของเขากลายเป็นเหมือนแส้ที่พุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วเต็มที่ และหลังจากยืดออกจนสุด เขาก็ปล่อยมือของเขาบนตรีศูลเลือด

เสี้ยววินาทีก่อนที่ตรีศูลเลือดจะออกจากมือของเขา แหวนบนนิ้วของเขาเรืองแสงและทันทีที่มีแสงสีแดงเข้มล้อมรอบตรีศูลที่ปกคลุมไปด้วยชั้นของมานา ทําให้อุณหภูมิของบริเวณโดยรอบสูงขึ้นอย่างน่าประทับใจ อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่ทั้งหมด

ปัง

สร้อยคอพายุเฮอริเคนที่วางอยู่บนหน้าอกของไป่เซหมินส่องด้วยแสงสีเขียวและพายุทอร์นาโดตั้งฉากกับพื้นพุ่งไปข้างหน้า ไปถึงตรีศูลเลือดที่ล้อมรอบด้วยเปลวไฟสีแดงในเวลาไม่ถึงวินาที

ปัง!

ด้วยแรงกระตุ้นลมแรงที่เพิ่มเข้ามาในพลังอันยิ่งใหญ่ที่ไป่เซหมินได้ปล่อยมัน ตรีศูลเลือดที่มีคะแนนมานามากกว่า 240 แต้มได้ทําลายบาเรียเสียงหายไปจากสายตาของทุกคนและทิ้งกรวยจักรกลหลายอันไว้ข้างหลัง

[คุณได้เรียนรู้ทักษะใช้งานระดับที่ 3 การพิพากษาเลือดสีแดงระดับ 5]