Legend of the mythological genes 186

Now you are reading Legend of the mythological genes Chapter 186 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เฟิงหลินเธอออกมาแล้ว!” เมื่อเห็นร่างของเฟิงหลิน อาจารย์ใหญ่ก็มาต้อนรับเขาทันที เมื่อเห็นว่าเฟิงหลินสบายดีเพียงแค่เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง อาจารย์ใหญ่ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

แม้ฌ๘ษจะไม่รู้ว่าเฟิงหลินผ่านการสอบรอบแรกของมหาวิทยาลัยเอกภพ”โหรือเปล่า แต่เมื่อทุกอย่างเป็นไปได้ดี เฟิงหลินไม่ได้รับบาดเจ็บ อย่างมากแม้ว่าเขาจะล้มเหลวเขาก็ยังสามารถสมัครเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยจักรวรรดิดวงดาวได้

เฟิงหลินเป็นสมบัติล้ำค่าของโรงเรียนมัธยมโลก อาจารย์ใหญ่ไม่ต้องการให้เขาบาดเจ็บ เขาต้องการให้ฟฺงหลินช่วยโรงเรียนมัธยมโลกกอบกู้ชื่อเสียงและศักดิ์ศรี!

เมื่อเห็นว่าอาจารย์ใหญ่มีความเป็นห่วงเป็นใยต่อเขา แต่แม้ว่าเฟิงหลินจะรู้ถึงความตั้งใจจริงของอาจารย์ใหญ่ เฟิงหลินก็ไม่สนใจ เฟิงหลินพยักหน้าและตอบอย่างใจเย็น “ใช่ครับ ผมผ่านการทดสอบ”

“เป็นเรื่องดีที่เธอผ่าน” อาจารย์ใหญ่ยิ้มและพยักหน้า แต่ครู่ต่อมาทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ รู้สึกเหมือนสายฟ้าฟาดในใจของเขา จากนั้นเขาก็พูดติดอ่าง”อะไรนะ … เธอพูดว่าอะไร? เธอบอกว่าเธอผ่านการทดสอบ?”

เฟิงหลินทำอะไรไม่ถูก ทำไมถึงสงสัยในความแข็งแกร่งของเขามากมาย?

เห้อ เขาอ่อนแอเกินไปในอดีตและภาพนั้นก็ยากมากที่จะทำลาย เขาทำได้เพียงค่อยๆเปลี่ยนความรู้สึกของผู้อื่นที่มีต่อเขาทีละนิด

เขาพยักหน้าอีกครั้ง “ครับ!”

หลังจากได้ยินคำยืนยันจากเฟิงหลินแล้ว อาจารย์ใหญ่ก็ตัวสั่นสะท้านอย่างประหลาดใจ!

อัจฉริยะส่วนใหญ่ยังอยู่ในระหว่างการทดสอบ แต่เฟิงหลินจบการทดสอบอย่างรวดเร็ว ในตอนแรกเขาคิดว่าเฟิงหลินถูกส่งออกมาเพราะเขาพ่ายแพ้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้คำตอบที่น่าประหลาดใจจากเฟิงหลิน

เขาเข้าไปไม่ถึง 10 นาที เขาสอบผ่านแล้ว!

ผู้บ่มเพาะดวงดาวเหล่านั้นคือนักรบที่ชุ่มไปด้วยเลือดและสงคราม วิธีการของพวกโหดร้ายมากและความแข็งแกร่งของพวกเขาก็สูงกว่าคนในระดับเดียวกัน

นักเรียนส่วนใหญ่จากโรงเรียนมัธยมเปรียบได้กับดอกไม้ที่ปลูกในเรือนกระจก สถานะพลังของพวกเขาอาจสูงและถือว่าดีมากหากพวกเขาสามารถปลดปล่อยพลังการต่อสู้ได้ 70% ถึง 80% แน่นอนว่าพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บหากพวกเขาต้องต่อสู้กับเหล่านักรบที่เข้าร่วมในสงครามระหว่างชีวิตและความตาย

ด้วยนักศึกษามากกว่า 10,000 คนที่สมัครเข้ามหาวิทยาลัยเอกภพ จนถึงตอนนี้มีเพียงสี่คนที่ออกมาและผ่านการทดสอบ

เฟิงหลินเป็นอันดับห้า!

เฟิงหลินแข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่?

ด้วยความประหลาดใจ ในฐานะอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนมัธยมและผู้บ่มเพาะระดับสูง เขากลับวัดความแข็งแกร่งของเฟิงหลินไม่ได้

แม้ว่าตอนนี้เขาจะอยู่ในอาณาจักรที่สูงกว่าเฟิงหลิน แต่สถานะพลังของเพิ่งจะทะลุ 100 มา ตำแหน่งของเขาคือตำแหน่งพลเรือนไม่ใช่ทหาร ดังนั้นเขาจึงไม่เชี่ยวชาญในการต่อสู้ ใครจะไปรู้ เขาอาจสู้นักเรียนเขาไม่ได้!

อาจารย์ใหญ่รู้สึกละอายใจมากขึ้นเมื่อคิดอย่างนั้น เขาถอนหายใจเงียบ ๆ

 

“คลื่นลูกหลังย่อมแรงกว่าคลื่นลูกหน้า…”

เฟิงหลินส่ายหัว เขาเพิกเฉยต่อความตกใจที่อาจารย์ใหญ่รู้สึกและสังเกตทั้งสี่คนอย่างเงียบ ๆ

เขาค้นพบว่าคนสี่คนนี้มาจากภูมิภาคต่างๆ มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีผมสีบลอนด์จากเผ่าพันธุ์ขาวและมีดาบหินอยู่ที่หลัง ในยุคระหว่างดวงดาวนี้ยังมีคนใช้อาวุธเย็นด้วยหรอ? เรื่องนี้ทำให้เฟิงหลินต้องจ้องมองเขาอีกเล็กน้อย

สำหรับอีกสามคน คนหนึ่งเป็นคนอินเดียสูงและผอม อีกคนเป็นชายหนุ่มที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผล ไม่ทราบว่าชายหนุ่มคนนี้มาจากไหน

คนสุดท้ายคือคนญี่ปุ่นสวมเสื้อคลุมสีดำ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหด มองเฟิงหลินเหมือนงูพิษ สายตาของเขาเต็มไปด้วยเจตนาร้าย

เขาเฝ้าสังเกตคนเหล่านี้ และคนเหล่านี้ก็เฝ้าสังเกตเขาเช่นกัน

คนเหล่านี้สำรวจซึ่งกันและกันอย่างเงียบๆและรู้สึกถึงภัยคุกคามที่พวกเขามีต่อกันและกัน

เฟิงหลินพยักหน้าเงียบๆ สถานะพลังของทั้งสี่คนนั้นสูงมากและพวกเขาก็มีวิธีการที่ผิดปกติเช่นกัน ไม่มีใครด้อยกว่าเขาเลย

แม้ว่าโลกจะถูกปฏิเสธ แต่ก็มีประชากรสองพันล้านคน เป็นเรื่องปกติที่จะมีอัจฉริยะที่ท้าทายสวรรค์ปรากฏขึ้น เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เขาคนเดียวที่มีการพัฒนาที่น่าอัศจรรย์

เฟิงหลินยืนอยู่ในตำแหน่ง

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆและมีคนออกมามากขึ้นเรื่อยๆ คนส่วนใหญ่มีบาดแผลทั่วทั้งร่างกายและหดหู่ เห็นได้ชัดว่าล้มเหลว

มีเพียงไม่กี่คนที่เดินออกมาอย่างมาดมั่นแม้จะมีอาการหอบ มีสีหน้าที่ดูภาคภูมิใจ

ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมากเลย คนเหล่านี้ควรจะเป็นนักเรียนที่ผ่านการทดสอบ พวกเขามีกลิ่นอายน่าหวาดกลัวและกล้าหาญ

จากนักศึกษา 10,000 คนที่สมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเอกภพตอนนี้เหลือไม่ถึง 100 คน

อัตราการผ่านน้อยกว่า 1%!

หลังจากคนที่ล้มเหลวออกไปจากห้องโถง ผู้ที่ผ่านการทดสอบก็เริ่มพูดคุยกันอย่างตื่นเต้น

เมื่อผ่านการทดสอบรอบแรกบนโลกเสร็จแล้ว รอบต่อไปจะรวมทั้งระบบสุริยะ

เมื่อมีกลุ่มอัจฉริยะที่ยิ่งใหญ่มารวมตัวกัน การแข่งขันก็จะเข้มข้นยิ่งขึ้น โดยการทำงานร่วมกัน ดูแลซึ่งกันและกันจึงจะมีโอกาสสูงกว่าที่จะผ่านการทดสอบครั้งต่อไป

มีเพียงเฟิงหลินและอีกไม่กี่คนที่โดดเดี่ยว พวกเขาชัดเจนว่าพวกเขาต้องการที่จะอยู่คนเดียวและไม่คบหากับคนอื่น เป็นหมาป่าเดียวดาย

 

“เฟิงหลินเธอวางแผนที่จะต่อสู้คนเดียวหรอ? ทำไมเธอไม่สร้างความสัมพันธ์ที่ดีเพื่อดูแลซึ่งกันและกันละ การทดสอบรอบต่อไปในอนาคตจะได้สบายมากขึ้น” อาจารย์ใหญ่รู้สึกเป็นห่วงเขา

 

“สบายมากขึ้น?” เฟิงหลินยิ้มอย่างสงบไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของอาจารย์ใหญ่

 

นับตั้งแต่เขาลงทะเบียนเพื่อการสอบของมหาวิทยาลัยเอกภพ ทำไมเขายังจะต้องการให้สิ่งต่างๆสบายขึ้น?

อัตราการลงทะเบียนสำหรับมหาวิทยาลัยทั้งสิบแห่งถูกจำกัดเพียง 10,000 คน แม้จะมีประชากรเป็นพันล้านคน ความเป็นไปได้ในการลงทะเบียนนั้นก็น้อยมาก ในความคิดของเฟิงหลินคนที่มีความคิดอยากจะผ่อนคลายในการทดสอบคือคนที่รอเวลาตาย

เขาคิดถึงสิ่งต่างๆอย่างชัดเจน แม้ว่าจะมีคนเกือบ 100 คนที่ผ่านการสอบรอบแรก แต่ท้ายที่สุดแล้วอาจไม่มีใครที่สามารถลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัยเอกภพได้

ระบบสุริยะจักรวาลเป็นภูมิภาคที่ล้าหลังและมาตรฐานการบ่มเพาะไม่สูงนัก ในอวกาศภูมิภาคดาวที่พัฒนาแล้ว อัจฉริยะทุกคนล้วนเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูง หากไม่สามารถผ่านการทดสอบซึ่งขอบเขตถูกจำกัดเพียงระบบสุริยะคนๆนั้นจะไปต่อสู้กับอัจฉริยะที่แท้จริงเหล่านั้นได้ยังไง

ในที่สุดเขาก็ยังต้องพึ่งพาตัวเอง

บางทีเขาอาจผ่านรอบสองถ้ารวมกลุ่มกับคนอื่น แต่หลังจากนั้นล่ะ?เมื่อเหลือเขาเพียงคนเดียว ชีวิตเขาจะขึ้นอยู่กับอะไร?

แม้ว่าเฟิงหลินจะชื่นชมในความหวังดีของอาจารย์ใหญ่ แต่เขาก็มีความคิดของเขาเอง

เฉพาะคนที่อ่อนแอจริงๆที่จำเป็นต้องรวมกลุ่ม การบ่มเพาะถูกกำหนดให้เป็นเส้นทางที่โดดเดี่ยวและความสามารถในการทนความโดดเดี่ยวก็เป็นคุณลักษณะที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนต้องมี ความแข็งแกร่งนั้นจะคงอยู่ตลอดไป

เมื่อเห็นว่าเฟิงหลินตัดสินใจในเส้นทางของเขา อาจารย์ใหญ่ก็ส่ายหัวและไม่พยายามเกลี้ยกล่อมเขาอีกต่อไป

เขารู้ว่าเฟิงหลินพึ่งพาตัวเองจนมีวันนี้ และมุมมองของเขาต่อการบ่มเพาะก็ถูกปิดผนึกไว้แล้ว ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นจะมาเปลี่ยนแปลงได้

หลังจากนั้นไม่นานนักเรียนก็ปรากฏตัวขึ้นทีละคน ไม่ว่าพวกเขาจะผ่านหรือล้มเหลว การสอบรอบแรกก็เสร็จสิ้นลงแล้ว!

นายพลคนนั้นเดินขึ้นมาอีกครั้งและพูดด้วยเสียงดังปรุโปร่ง “ขอแสดงความยินดีกับพวกเธอทุกคน เธอสามารถเอาชนะผู้ใต้บังคับบัญชาที่กล้าหาญของฉันได้ ดูเหมือนว่าพวกเธอจะเป็นอัจฉริยะจริงๆและไม่ใช่พวกไร้ประโยชน์ที่ภายนอกแข็งแกร่งแต่ข้างในอ่อนแอ ขอแสดงความยินดีกับพวกเธอทุกคนที่จะได้เข้าร่วมในรอบต่อไป”

“แต่อย่ารีบมีความสุขกันเกินไป  ระบบสุริยะนั้นกว้างมากและโลกก็มีขนาดเล็กมาก พวกเธอยังไม่มีความสำคัญอะไรในมุมของระบบสุริยะทั้งหมด ฉันจะเปิดเผยข้อมูลบางอย่างให้พวกเธอทราบในรอบต่อไป  รูปแบบจะเป็นเข่นฆ่ากันอย่างอิสระ!”

“มนุษย์มีศัตรูนับไม่ถ้วนซ่อนอยู่ในความมืดของจักรวาล หากอัจฉริยะจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่เชี่ยวชาญในการต่อสู้และสังหาร พวกเธอจะไม่ต่างอะไรกับขยะ การทดสอบรอบที่สองจะเริ่มขึ้นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า เพื่อประโยชน์ในชีวิต เพื่ออนาคตของพวกเธอ อย่าประมาท! เธอต้องรู้ว่ารอบที่สองนั้นแตกต่างจากรอบแรก ทุกคนสามารถตายได้! “

 

เสียงเยือกเย็นของเขาดังออกมา คล้ายกับการทุบหินก้อนใหญ่ลงบนหัวของผู้ที่กำลังฟังอยู่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด