Legend of the mythological genes 433 เข่นฆ่าเผ่าวิญญาณ

Now you are reading Legend of the mythological genes Chapter 433 เข่นฆ่าเผ่าวิญญาณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 433 เข่นฆ่าเผ่าวิญญาณ

 

นอกโลกนั้นกว้างใหญ่และเต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์นับไม่ถ้วน

 

และการระเบิดของซูเปอร์โนวาก็ถือเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่หายาก

 

พลังทางพันธุกรรมของนายพลสงครามนั้นคล้ายกับฉากของซูเปอร์โนวา

 

เมื่อเขายกมือขึ้นอนุภาคจํานวนนับไม่ถ้วนก็ชนกัน ทําให้เกิดแสงที่ส่องประกายระยิบระยับ แสงขยายอย่างต่อเนื่อง เกิดความโกลาหลในช่วงแรกๆ คล้ายกับการระเบิดของซูเปอร์โนวาจริงๆ

 

ผลกระทบอันทรงพลังพุ่งออกมา ทุกสิ่งที่เกี่ยวพันอยู่ภายในไม่ว่าจะเป็นอนุภาคพลังงาน หรือสสารถูกสลายไปในรูปแบบดั้งเดิม

 

อสูรนับไม่ถ้วนจากเผ่าพันธุ์วิญญาณกรีดร้องอย่างน่าสังเวชขณะที่พวกมันถูกแสงกลืนกิน หลังจากนั้นพวกมันก็เริ่มสลายตัวทันที

 

ในพื้นที่อื่นๆนั้นถูกแช่แข็งจนกลายเป็นผลึกสีน้ําเงิน แนวของน้ําค้างแข็งยังคงขยายออกไปด้านนอก ทําให้ทุกสิ่งที่สัมผัสถูกแช่แข็ง เกิดรูปปั้นน้ําแข็งทอดยาว

 

นี่คือสภาวะที่รุนแรงที่สุดของจักรวาล ที่ซึ่งอุณหภูมิกําลังใกล้เข้าศูนย์สัมบูรณ์ แม้แต่อนุภาคขนาดเล็กที่เล็กที่สุดก็เข้าสู่สภาวะนิ่งสนิท นี่เป็นสถานะที่หนาวเย็นสุดในจักรวาลที่ซึ่งโครงสร้างทางวัตถุทั้งหมดพังทลาย

 

ก๊ก ศึก!

 

อสูรวิญญาณจํานวนนับไม่ถ้วนถูกแช่แข็ง เผยให้เห็นรูปร่างดั้งเดิมของพวกมัน กลายเป็นรูปปั้นน้ําแข็งที่แปลกประหลาดมหัศจรรย์เกินคําบรรยาย แต่ถึงอย่างนั้นความมุ่งร้ายของพวกมันก็ยังคงแสดงออกมา

 

คลื่นวิญญาณสีดําได้เสียหายหนัก

 

ยานแม่สามเคลื่อนย้ายไปอยู่ในรูป ” ยานแม่ตรงกลางด้านหน้าหนึ่งลํา และมีอีกสองลําอยู่ในตําแหน่งปีก ที่ตําแหน่งปีก พลังที่ปลดปล่อยออกมาได้กวาดสนามรบ ทําลายอสูรเผ่าวิญญาณ อสูรวิญญาณที่ยังมีชีวิตอยู่ต่างพากันกรูเข้าหายานแม่ที่อยู่ตรงกลาง

 

นายพลสงครามอยู่ที่นั่น แต่เขาก็ไม่มีท่าทีตื่นตระหนกเลย!

 

เนื่องจากเขาเป็นนายพลสงครามและกล้าที่จะเคลื่อนกองทัพออกไปต่อสู้กับเผ่าพันธุ์ต่างดาว ความแข็งแกร่งของเขาจึงแข็งแกร่งที่สุดในหมู่นายพล ความเป็นจริง ในกองทัพสุดยอดกําแพงและมหาวิทยาลัย ความแข็งแกร่งของเขาเป็นรองเพียงแค่อาจารย์ใหญ่เท่านั้น

 

เมื่อเห็นคลื่นกองทัพที่เหลืออยู่ไม่ถอยกลับ แต่วิ่งเข้ามาหาเขาแทน มันก็ทําให้เขารู้สึกอับอายอย่างมาก ความโกรธแสดงออกมาทั่วใบหน้าของเขา

 

บวก – ลบ หมัดเผด็จการ!

 

บูม!

 

หมัดซ้ายของเขาเปล่งพลังมหาศาล เป็นพลังงานขั้วบวกของสายฟ้า หมัดขวาของเขาซ่อนในความมืด เหมือนฝั่งมืดมิดของจักรวาลกลืนกินแสงทั้งหมด

 

นายพลสงครามคํารามเมื่อหมัดของเขาชนกัน สิ่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของการปะทะกันระหว่างพลังงานขั้วบวกและลบในจักรวาล ทําให้หยินและหยางผสมกัน

 

ทันทีที่หมัดของเขาปะทะกัน งูไฟฟ้าสีม่วงจํานวนมากก็พุ่งออกมา พวกมันบางราวกับใยบัว แต่ก็แหลมคมราวกับหนามระเบิดพุ่งไปข้างหน้า

 

ทุกที่ที่พวกมันทะลุผ่านไม่ว่าอะไรก็ล้วนถูกเจาะผ่าน อนุภาคพื้นฐานของพวกมันมันสลายไปอย่างสมบูรณ์ พวกมันถูกทําลายตั้งแต่ระดับจุลภาค!

 

บนพื้นผิวไม่มีสิ่งน่ากลัวปรากฏให้เห็น แต่การสะกดข่มดังกล่าวเกินจินตนาการไปไกล

 

ผู้คนในยานแม่ต่างก็ตกตะลึงเป็นเวลานาน

 

เมื่อเฟิงหลินเห็นฉากนี้ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายแสงจ้า

 

พลังวิญญาณของเขาทรงพลังมากและเขาสามารถเข้าใจสิ่งต่างๆในระดับที่ลึกขึ้น เขาค้นพบว่าพลังที่นายพลทั้งสามปลดปล่อยออกมานั้นสั่นคลอนแก่นแท้พื้นฐานของจักรวาลไปแล้ว พวกเขามีพลังพอที่จะแยกสวรรค์ออกจากกันและเปิดแผ่นดินโลกใหม่เพียงแค่ยกมือ

 

มนุษย์สามารถควบคุมพลังดังกล่าวได้จริงๆหรอ?

 

ทุกคนรวมถึงเพิงหลินรู้สึกว่าขอบเขตของพวกเขากว้างขึ้น มันเป็นเหมือนหน้าต่างของโลกใหม่ที่เปิดขึ้นในความคิดของพวกเขา

 

นี่เป็นส่วนที่น่าอัศจรรย์ของยีนในตํานาน พวกมันมีความเป็นไปได้ไร้ขีดจํากัด แม้แต่ร่างกายมนุษย์ก็สามารถขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของอวกาศที่เต็มไปด้วยดวงดาวได้

 

นายพลทั้งสามแสดงพลังทําลายศัตรูจํานวนมากด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว ทุกที่ที่พลังของพวกเขากระจายไปพื้นที่นั้นจะถูกทําให้ว่างเปล่า ยานแม่เคลื่อนไปพร้อมกับโมเมนตัมที่เพิ่มขึ้นและก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ

 

เผ่าพันธุ์วิญญาณเข้าใจเป้าหมายของมนุษย์ พวกมันรุมเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง พวกมันไม่ยอมให้มนุษย์เข้าใกล้รังของพวกมัน

 

หลุมสีขาวคือรังของพวกมัน หากถูกทําลาย เผ่าพันธุ์วิญญาณทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับหลุมขาวจะถูกกําจัดอย่างสมบูรณ์

 

“ ทุกคนเข้าสู่ยานบินต่อสู้และเตรียมเปิดใช้งานโหมดการต่อสู้เต็มรูปแบบ!” นายพลสงครามออกคําสั่ง

 

เฟิงหลินและคนอื่นๆไม่รอช้า พวกเขาเริ่มเคลื่อนไหวตามลําดับ สวมชุดเกราะเมชาเทพแห่งแสง และเข้าไปในยานบินต่อสู้

 

นี่เป็นพื้นที่กึ่งเปิดโล่งที่หันหน้าไปทางอวกาศโดยตรง เทคโนโลยีนี้ถูกนํามาใช้เพื่อทําให้ร่างกายของพวกเขาคงที่ จิตวิญญาณที่หนาและรุนแรงถูกสูบเข้าไปในชุดเกราะเมชา

 

เฟิงหลินและคนอื่นๆ รู้สึกได้ถึงกระแสความอบอุ่นที่ไหลเข้าสู่ร่างกายของพวกเขา ยืนทั้งหมดถูกกระตุ้นอย่างสมบูรณ์ รู้สึกเหมือนมีลาวาไหลเวียนอยู่ข้างใน

 

อาณาเขตสุญญากาศ

 

อนุภาคพายุ!

 

หมัดดวงอาทิตย์!

 

พลังพันธุกรรมที่ประสานกับท่าทางของวิชาการต่อสู้ ความสามารถพิเศษทุกประเภทถูกแสดงออกมา ทําให้พื้นที่รอบนอกตกอยู่ในความวุ่นวาย ทุกสิ่งที่ถูกทําลายจะสลายไปอย่างสิ้นเชิง!

 

ผู้บ่มเพาะที่ทรงพลังเหล่านี้จากมหาวิทยาลัยสุดยอดกําแพงร่วมมือกัน ภายใต้การนําของทั้งสามนายพล พวกเขาปะทะกันกับกระแสวิญญาณสีดํา เอาชนะคู่ต่อสู้และสังหารอสูรวิญญาณได้อย่างง่ายดาย

 

ไทชิ เต่างู!

 

เสียงตะโกนดังขึ้นข้างๆเฟิงหลิน ปราณและเลือดพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อตัวเป็นเต่าสีดําที่โยนหัวของมันไปข้างหลังและร้องโหยหวนขึ้นบนท้องฟ้า มันอ้าปากเกิดเป็นกระแสวังวน ด้วยการหายใจเพียงครั้งเดียว มันได้กลืนกินอสูรวิญญาณไปหลายร้อยตัว

 

ปึก ปึก ปึก!

 

หางงูยักษ์ของมันยังคงฟาดไปรอบๆ มีหัวงูเหลือมหน้าตาน่ากลัวอยู่ที่ปลายหาง คอยแยกเขี้ยวและกัดอย่างไม่หยุดยั้ง

 

หัวงูเหลือมที่สร้างขึ้นจากปราณและเลือดก็เป็นพลังงานเช่นกัน มันเต็มไปด้วยพลังงานบวก และเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับเผ่าพันธุ์วิญญาณ

 

อสูรวิญญาณถูกกัดฉีกออกจากกันทันที สลายตัวจากพลังปราณและเลือดที่ร้อนแรง

 

บนเต่าสีดําขนาดมหึมา จ้าวเยวี่ยเอ๋อร์ยืนตรงบนหลังของมัน จ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เธอเป็นเหมือนเทพธิดาที่ลงมาสู่โลกมนุษย์ โดยมีกลิ่นอายที่สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คน

 

จู่ๆเธอก็ขยับมือของเธอวาดเป็นวงกลมในอากาศ แสดงท่าทางไทชิ!

 

ขณะที่เธอขยับมือประกอบเป็นลวดลายบนหลังมัน เต่าดําก็เริ่มเคลื่อนไหว กลายเป็นรูปแบบคู่หยินหยางที่มีลักษณะคล้ายหินโม่สีดําและสีขาว

 

ไม่ว่าอสูรวิญญาณจะพุ่งเข้าใส่เธอกี่ตัว พวกมันทั้งหมดจะแหลกเป็นชิ้นๆ

 

ในช่วงเวลาหนึ่ง เธอเผชิญหน้ากับอสูรวิญญาณนับหมื่นตรงๆ และเธอก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกมันแต่อย่างใด เธอสมกับเป็นอันดับหนึ่งของรุ่นอย่างแท้จริง

เฟิงหลินยืนอยู่ที่ด้านข้างย่อมไม่อยากเป็นภาระ

 

พลังวิญญาณของเขาเป็นเหมือนดาบ

 

พลังวิญญาณของเขาก่อตัวเป็นวัตถุ เปลี่ยนเป็นดาบที่ไม่มีรูปทรงจํานวนนับไม่ถ้วน พุ่งไปทําลายความคิดและเจตจํานงของเผ่าพันธุ์วิญญาณ

 

หวด หวด หวด

 

ทรงกลมสีทองจํานวนมากพุ่งออกมาเหมือนกระสุน บินไปยังเป้าหมายได้อย่างอิสระ

 

ทุกที่ที่ตะกั่วทองกลั่นเข้มเคลื่อนผ่านไป อสูรวิญญาณจะถูกเจาะอย่างไร้ความปรานี เมื่อพลังงานภายในพวกมันถูกจุด ร่างกายของพวกเขาจะระเบิดอย่างสมบูรณ์

 

แม้ว่าการบ่มเพาะของเขาจะด้อยกว่า และก็ไม่สามารถเทียบกับจ้าวเยวี่ยเอ๋อร์ได้ แต่ด้วยความช่วยเหลือของตะกั่วทองกลั่นเข้มประสิทธิภาพของเขาจึงไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่นๆในสนามรบ

 

มีเพียงไม่กี่คนที่ทําได้ดีกว่าเขา

 

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ครั้งสุดท้าย!

 

เฟิงหลินไม่รีบร้อน

 

ยานแม่ทั้งสามร่วมมือกันอย่างดี พวกมันเหมือนลูกศรที่แหลมคม ทะลวงฝ่ากองทัพวิญญาณ บินไปยังส่วนลึกของอวกาศที่เต็มไปด้วยดวงดาว

 

พื้นที่มีดข้างหน้าเต็มไปด้วยแสงสีเงินขาวที่ทอดยาว ซึ่งทําให้กลุ่มดาวที่อยู่รอบๆ ไร้ซึ่งสีส่องไปยังเงาที่ร้ายกาจจํานวนมากนั่น

 

ภาพเงาเหล่านี้แต่ละตัวเหมือนอสูรตัวฉกาจ

 

ก่อนหน้านี้เฟิงหลินและคนอื่นๆ เห็นหลุมวิญญาณสีขาวปรากฏต่อหน้า โดยมีหลุมดําวิญญาณทั้งสี่หมุนอยู่รอบๆ

 

เมื่อพวกเขาเข้าใกล้ มันจึงเห็นเป็นอสูรขนาดมหึมาซึ่งเป็นเหมือนองครักษ์ที่ชื่อสัตย์คอยปกป้องรังของพวกมันจากอันตราย

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Legend of the mythological genes 433 เข่นฆ่าเผ่าวิญญาณ

Now you are reading Legend of the mythological genes Chapter 433 เข่นฆ่าเผ่าวิญญาณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 433 เข่นฆ่าเผ่าวิญญาณ

 

นอกโลกนั้นกว้างใหญ่และเต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์นับไม่ถ้วน

 

และการระเบิดของซูเปอร์โนวาก็ถือเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่หายาก

 

พลังทางพันธุกรรมของนายพลสงครามนั้นคล้ายกับฉากของซูเปอร์โนวา

 

เมื่อเขายกมือขึ้นอนุภาคจํานวนนับไม่ถ้วนก็ชนกัน ทําให้เกิดแสงที่ส่องประกายระยิบระยับ แสงขยายอย่างต่อเนื่อง เกิดความโกลาหลในช่วงแรกๆ คล้ายกับการระเบิดของซูเปอร์โนวาจริงๆ

 

ผลกระทบอันทรงพลังพุ่งออกมา ทุกสิ่งที่เกี่ยวพันอยู่ภายในไม่ว่าจะเป็นอนุภาคพลังงาน หรือสสารถูกสลายไปในรูปแบบดั้งเดิม

 

อสูรนับไม่ถ้วนจากเผ่าพันธุ์วิญญาณกรีดร้องอย่างน่าสังเวชขณะที่พวกมันถูกแสงกลืนกิน หลังจากนั้นพวกมันก็เริ่มสลายตัวทันที

 

ในพื้นที่อื่นๆนั้นถูกแช่แข็งจนกลายเป็นผลึกสีน้ําเงิน แนวของน้ําค้างแข็งยังคงขยายออกไปด้านนอก ทําให้ทุกสิ่งที่สัมผัสถูกแช่แข็ง เกิดรูปปั้นน้ําแข็งทอดยาว

 

นี่คือสภาวะที่รุนแรงที่สุดของจักรวาล ที่ซึ่งอุณหภูมิกําลังใกล้เข้าศูนย์สัมบูรณ์ แม้แต่อนุภาคขนาดเล็กที่เล็กที่สุดก็เข้าสู่สภาวะนิ่งสนิท นี่เป็นสถานะที่หนาวเย็นสุดในจักรวาลที่ซึ่งโครงสร้างทางวัตถุทั้งหมดพังทลาย

 

ก๊ก ศึก!

 

อสูรวิญญาณจํานวนนับไม่ถ้วนถูกแช่แข็ง เผยให้เห็นรูปร่างดั้งเดิมของพวกมัน กลายเป็นรูปปั้นน้ําแข็งที่แปลกประหลาดมหัศจรรย์เกินคําบรรยาย แต่ถึงอย่างนั้นความมุ่งร้ายของพวกมันก็ยังคงแสดงออกมา

 

คลื่นวิญญาณสีดําได้เสียหายหนัก

 

ยานแม่สามเคลื่อนย้ายไปอยู่ในรูป ” ยานแม่ตรงกลางด้านหน้าหนึ่งลํา และมีอีกสองลําอยู่ในตําแหน่งปีก ที่ตําแหน่งปีก พลังที่ปลดปล่อยออกมาได้กวาดสนามรบ ทําลายอสูรเผ่าวิญญาณ อสูรวิญญาณที่ยังมีชีวิตอยู่ต่างพากันกรูเข้าหายานแม่ที่อยู่ตรงกลาง

 

นายพลสงครามอยู่ที่นั่น แต่เขาก็ไม่มีท่าทีตื่นตระหนกเลย!

 

เนื่องจากเขาเป็นนายพลสงครามและกล้าที่จะเคลื่อนกองทัพออกไปต่อสู้กับเผ่าพันธุ์ต่างดาว ความแข็งแกร่งของเขาจึงแข็งแกร่งที่สุดในหมู่นายพล ความเป็นจริง ในกองทัพสุดยอดกําแพงและมหาวิทยาลัย ความแข็งแกร่งของเขาเป็นรองเพียงแค่อาจารย์ใหญ่เท่านั้น

 

เมื่อเห็นคลื่นกองทัพที่เหลืออยู่ไม่ถอยกลับ แต่วิ่งเข้ามาหาเขาแทน มันก็ทําให้เขารู้สึกอับอายอย่างมาก ความโกรธแสดงออกมาทั่วใบหน้าของเขา

 

บวก – ลบ หมัดเผด็จการ!

 

บูม!

 

หมัดซ้ายของเขาเปล่งพลังมหาศาล เป็นพลังงานขั้วบวกของสายฟ้า หมัดขวาของเขาซ่อนในความมืด เหมือนฝั่งมืดมิดของจักรวาลกลืนกินแสงทั้งหมด

 

นายพลสงครามคํารามเมื่อหมัดของเขาชนกัน สิ่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของการปะทะกันระหว่างพลังงานขั้วบวกและลบในจักรวาล ทําให้หยินและหยางผสมกัน

 

ทันทีที่หมัดของเขาปะทะกัน งูไฟฟ้าสีม่วงจํานวนมากก็พุ่งออกมา พวกมันบางราวกับใยบัว แต่ก็แหลมคมราวกับหนามระเบิดพุ่งไปข้างหน้า

 

ทุกที่ที่พวกมันทะลุผ่านไม่ว่าอะไรก็ล้วนถูกเจาะผ่าน อนุภาคพื้นฐานของพวกมันมันสลายไปอย่างสมบูรณ์ พวกมันถูกทําลายตั้งแต่ระดับจุลภาค!

 

บนพื้นผิวไม่มีสิ่งน่ากลัวปรากฏให้เห็น แต่การสะกดข่มดังกล่าวเกินจินตนาการไปไกล

 

ผู้คนในยานแม่ต่างก็ตกตะลึงเป็นเวลานาน

 

เมื่อเฟิงหลินเห็นฉากนี้ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายแสงจ้า

 

พลังวิญญาณของเขาทรงพลังมากและเขาสามารถเข้าใจสิ่งต่างๆในระดับที่ลึกขึ้น เขาค้นพบว่าพลังที่นายพลทั้งสามปลดปล่อยออกมานั้นสั่นคลอนแก่นแท้พื้นฐานของจักรวาลไปแล้ว พวกเขามีพลังพอที่จะแยกสวรรค์ออกจากกันและเปิดแผ่นดินโลกใหม่เพียงแค่ยกมือ

 

มนุษย์สามารถควบคุมพลังดังกล่าวได้จริงๆหรอ?

 

ทุกคนรวมถึงเพิงหลินรู้สึกว่าขอบเขตของพวกเขากว้างขึ้น มันเป็นเหมือนหน้าต่างของโลกใหม่ที่เปิดขึ้นในความคิดของพวกเขา

 

นี่เป็นส่วนที่น่าอัศจรรย์ของยีนในตํานาน พวกมันมีความเป็นไปได้ไร้ขีดจํากัด แม้แต่ร่างกายมนุษย์ก็สามารถขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของอวกาศที่เต็มไปด้วยดวงดาวได้

 

นายพลทั้งสามแสดงพลังทําลายศัตรูจํานวนมากด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว ทุกที่ที่พลังของพวกเขากระจายไปพื้นที่นั้นจะถูกทําให้ว่างเปล่า ยานแม่เคลื่อนไปพร้อมกับโมเมนตัมที่เพิ่มขึ้นและก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ

 

เผ่าพันธุ์วิญญาณเข้าใจเป้าหมายของมนุษย์ พวกมันรุมเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง พวกมันไม่ยอมให้มนุษย์เข้าใกล้รังของพวกมัน

 

หลุมสีขาวคือรังของพวกมัน หากถูกทําลาย เผ่าพันธุ์วิญญาณทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับหลุมขาวจะถูกกําจัดอย่างสมบูรณ์

 

“ ทุกคนเข้าสู่ยานบินต่อสู้และเตรียมเปิดใช้งานโหมดการต่อสู้เต็มรูปแบบ!” นายพลสงครามออกคําสั่ง

 

เฟิงหลินและคนอื่นๆไม่รอช้า พวกเขาเริ่มเคลื่อนไหวตามลําดับ สวมชุดเกราะเมชาเทพแห่งแสง และเข้าไปในยานบินต่อสู้

 

นี่เป็นพื้นที่กึ่งเปิดโล่งที่หันหน้าไปทางอวกาศโดยตรง เทคโนโลยีนี้ถูกนํามาใช้เพื่อทําให้ร่างกายของพวกเขาคงที่ จิตวิญญาณที่หนาและรุนแรงถูกสูบเข้าไปในชุดเกราะเมชา

 

เฟิงหลินและคนอื่นๆ รู้สึกได้ถึงกระแสความอบอุ่นที่ไหลเข้าสู่ร่างกายของพวกเขา ยืนทั้งหมดถูกกระตุ้นอย่างสมบูรณ์ รู้สึกเหมือนมีลาวาไหลเวียนอยู่ข้างใน

 

อาณาเขตสุญญากาศ

 

อนุภาคพายุ!

 

หมัดดวงอาทิตย์!

 

พลังพันธุกรรมที่ประสานกับท่าทางของวิชาการต่อสู้ ความสามารถพิเศษทุกประเภทถูกแสดงออกมา ทําให้พื้นที่รอบนอกตกอยู่ในความวุ่นวาย ทุกสิ่งที่ถูกทําลายจะสลายไปอย่างสิ้นเชิง!

 

ผู้บ่มเพาะที่ทรงพลังเหล่านี้จากมหาวิทยาลัยสุดยอดกําแพงร่วมมือกัน ภายใต้การนําของทั้งสามนายพล พวกเขาปะทะกันกับกระแสวิญญาณสีดํา เอาชนะคู่ต่อสู้และสังหารอสูรวิญญาณได้อย่างง่ายดาย

 

ไทชิ เต่างู!

 

เสียงตะโกนดังขึ้นข้างๆเฟิงหลิน ปราณและเลือดพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อตัวเป็นเต่าสีดําที่โยนหัวของมันไปข้างหลังและร้องโหยหวนขึ้นบนท้องฟ้า มันอ้าปากเกิดเป็นกระแสวังวน ด้วยการหายใจเพียงครั้งเดียว มันได้กลืนกินอสูรวิญญาณไปหลายร้อยตัว

 

ปึก ปึก ปึก!

 

หางงูยักษ์ของมันยังคงฟาดไปรอบๆ มีหัวงูเหลือมหน้าตาน่ากลัวอยู่ที่ปลายหาง คอยแยกเขี้ยวและกัดอย่างไม่หยุดยั้ง

 

หัวงูเหลือมที่สร้างขึ้นจากปราณและเลือดก็เป็นพลังงานเช่นกัน มันเต็มไปด้วยพลังงานบวก และเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับเผ่าพันธุ์วิญญาณ

 

อสูรวิญญาณถูกกัดฉีกออกจากกันทันที สลายตัวจากพลังปราณและเลือดที่ร้อนแรง

 

บนเต่าสีดําขนาดมหึมา จ้าวเยวี่ยเอ๋อร์ยืนตรงบนหลังของมัน จ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เธอเป็นเหมือนเทพธิดาที่ลงมาสู่โลกมนุษย์ โดยมีกลิ่นอายที่สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คน

 

จู่ๆเธอก็ขยับมือของเธอวาดเป็นวงกลมในอากาศ แสดงท่าทางไทชิ!

 

ขณะที่เธอขยับมือประกอบเป็นลวดลายบนหลังมัน เต่าดําก็เริ่มเคลื่อนไหว กลายเป็นรูปแบบคู่หยินหยางที่มีลักษณะคล้ายหินโม่สีดําและสีขาว

 

ไม่ว่าอสูรวิญญาณจะพุ่งเข้าใส่เธอกี่ตัว พวกมันทั้งหมดจะแหลกเป็นชิ้นๆ

 

ในช่วงเวลาหนึ่ง เธอเผชิญหน้ากับอสูรวิญญาณนับหมื่นตรงๆ และเธอก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกมันแต่อย่างใด เธอสมกับเป็นอันดับหนึ่งของรุ่นอย่างแท้จริง

เฟิงหลินยืนอยู่ที่ด้านข้างย่อมไม่อยากเป็นภาระ

 

พลังวิญญาณของเขาเป็นเหมือนดาบ

 

พลังวิญญาณของเขาก่อตัวเป็นวัตถุ เปลี่ยนเป็นดาบที่ไม่มีรูปทรงจํานวนนับไม่ถ้วน พุ่งไปทําลายความคิดและเจตจํานงของเผ่าพันธุ์วิญญาณ

 

หวด หวด หวด

 

ทรงกลมสีทองจํานวนมากพุ่งออกมาเหมือนกระสุน บินไปยังเป้าหมายได้อย่างอิสระ

 

ทุกที่ที่ตะกั่วทองกลั่นเข้มเคลื่อนผ่านไป อสูรวิญญาณจะถูกเจาะอย่างไร้ความปรานี เมื่อพลังงานภายในพวกมันถูกจุด ร่างกายของพวกเขาจะระเบิดอย่างสมบูรณ์

 

แม้ว่าการบ่มเพาะของเขาจะด้อยกว่า และก็ไม่สามารถเทียบกับจ้าวเยวี่ยเอ๋อร์ได้ แต่ด้วยความช่วยเหลือของตะกั่วทองกลั่นเข้มประสิทธิภาพของเขาจึงไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่นๆในสนามรบ

 

มีเพียงไม่กี่คนที่ทําได้ดีกว่าเขา

 

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ครั้งสุดท้าย!

 

เฟิงหลินไม่รีบร้อน

 

ยานแม่ทั้งสามร่วมมือกันอย่างดี พวกมันเหมือนลูกศรที่แหลมคม ทะลวงฝ่ากองทัพวิญญาณ บินไปยังส่วนลึกของอวกาศที่เต็มไปด้วยดวงดาว

 

พื้นที่มีดข้างหน้าเต็มไปด้วยแสงสีเงินขาวที่ทอดยาว ซึ่งทําให้กลุ่มดาวที่อยู่รอบๆ ไร้ซึ่งสีส่องไปยังเงาที่ร้ายกาจจํานวนมากนั่น

 

ภาพเงาเหล่านี้แต่ละตัวเหมือนอสูรตัวฉกาจ

 

ก่อนหน้านี้เฟิงหลินและคนอื่นๆ เห็นหลุมวิญญาณสีขาวปรากฏต่อหน้า โดยมีหลุมดําวิญญาณทั้งสี่หมุนอยู่รอบๆ

 

เมื่อพวกเขาเข้าใกล้ มันจึงเห็นเป็นอสูรขนาดมหึมาซึ่งเป็นเหมือนองครักษ์ที่ชื่อสัตย์คอยปกป้องรังของพวกมันจากอันตราย

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+