[LN] ใครกันที่เป็นคนตัดสินว่าผมมีเลิฟคอมเมดี้ในชีวิตจริงไม่ได้ 24

Now you are reading [LN] ใครกันที่เป็นคนตัดสินว่าผมมีเลิฟคอมเมดี้ในชีวิตจริงไม่ได้ Chapter 24 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อรุณสวัสดิ์ โทคิวะ”

 

“โอ้ อรุณสวัสดิ์~ จะว่าไปแล้ว แปลกจังเลยนะที่นายมาสายกว่าฉัน”

 

“ฉันนอนดึกไปหน่อยน่ะ…”

 

หลังจากแลกเปลี่ยนคำทักทายกับโทคิวะที่กินข้าวกล่องตอนเช่าเสร็จแล้ว ผมก็นั่งลง

 

ผ่านไป 3 วันแล้วนับตั้งแต่สิ้นสุดโกลเด้นวีค

 

เมื่อวานผมได้วิเคราะห์ข้อมูลตามโซเชียลและผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว ด้วยเหตุนี้ผมจึงลงเอยด้วยการไปขึ้นรถไฟแทบไม่ทัน เนื่องจากเป็นเส้นทางชนบทที่มีรถไฟขบวนเดียวทุกๆ 30 นาทีแม้ในช่วงเวลาเร่งด่วน ดังนั้นการพลาดรถไฟขบวนเดียวมันจึงเป็นอะไรที่เสียเวลามาก

 

ผมมองไปที่โต๊ะด้านข้างแต่ก็ไม่เห็นคุณคิโยซาโตะ ทว่าบนโต๊ะกลับมีกระเป๋าอยู่ ดังนั้นผมจึงคาดเดาว่าเธอลุกออกจากที่นั่งไปชั่วคราว

 

หลังจากช่วงวันหยุดยาว ก็ไม่มีข้อมูลสำคัญใดๆ ปรากฏขึ้นมาบนโซเชียลเลย

 

ตราบใดที่ผมยังคงให้อุเอโนะฮาระทำกิจวัตรประจำวันของตัวเองให้อยู่แบบนี้ ผมก็ไม่สามารถที่จะประนีประนอมได้ ดังนั้นผมจึงพยายามหาข้อมูลอย่างเต็มที่ แต่ทว่ามันก็ไม่มีผลลัพธ์ใดๆ ออกมาเลย

 

เป็นการยากที่จะตัดสินว่าเขาหยุดมีปฏิสัมพันธ์กับก๊วนอื่นไปแล้ว หรือแค่ไม่ได้ทำอะไรเลยเพราะเป็นวันธรรมดาเฉยๆ

 

ผมเริ่มคิดขึ้นมาว่าการยึดติดกับการหาข้อมูลจากหน้าโต๊ะมันเป็นเรื่องไม่ดี บางทีมันอาจจะถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนไปใช้การเก็บข้อมูลตัวต่อตัวในอนาคตแทน

 

ถึงอย่างนั้นการจะไปสอบถามคนรอบตัวเรื่องคุณคิโยซาโตะมันก็ดูจะโดดเด่นไปหน่อย  และหากเกิดข่าวลือแปลกๆ ขึ้นมามันคงจะลำบาก

 

หากเป็นแบบนี้ ผมคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเข้าไปตรวจสอบกับคนคนนั้นโดยตรงเท่า—

 

“เฮ้ย หัวหน้าห้อง”

 

—หือ

 

จู่ๆ ก็มีเสียงเรียกผมขึ้นมาจากข้างบนหัว

 

“…เอ๊ะ”

 

เจ้าของเสียงนั้นเป็นคนที่ผมไม่คาดคิด ทันใดนั้นความคิดของผมก็หยุดชะงัก

 

ผมเงยหน้าขึ้นไป และคนที่อยู่ตรงนั้นก็คือ—

 

“ชิ อย่ามาเมินฉันนะ”

 

คัตสึนุมะกับเหล่าลูกสมุนของเธอนั่นเอง

 

เอ๊ะ จริงดิ? นี่เธอคุยกับเราอยู่จริงๆ อะ

 

“คือเอ่อ… มีอะไรเหรอ”

 

ผมลืมการตั้งค่าตัวละครของตัวเอง และตอบกลับไปแบบงงๆ  

 

นี่เป็นครั้งแรกเลยที่คัตสึนุมะพูดกับผมโดยตรง

 

ปกติเมื่อเธอเข้ามาขวางทางผม ผมก็จะเป็นคนเข้าไปคุยกับเธอคนแรกเสมอ และคำตอบส่วนใหญ่ที่ได้รับมาก็มักจะหยาบคาย

 

คัตสึนุมะส่งจิ๊ปาก จากนั้นก็มองมาที่ผมด้วยท่าทางที่กรีดตา

 

“เฮ้ยนายน่ะ รู้หรือเปล่าว่าเพื่อนตัวเองกำลังทำอะไรอยู่”

 

“…?”

 

เอ๊ะ…? เพื่อน? หมายถึงใครกันน่ะ?

 

“ไม่สิๆ โทษนะ ฉันไม่รู้เลยว่าเธอหมายถึงใคร…”

 

“ก็หมายถึงเพื่อน อุเอโนะอะไรสักอย่างที่อยู่ห้อง 5 ของนายยังไงล่ะ”

 

“…ฮะ!?”

 

หัวใจของผมเต้นไม่เป็นจังหวะ

 

เอ๊ะ อุเอโนะฮาระ…? อุเอโนะฮาระไปทำอะไรไว้?  

 

“อย่ามาแกล้งโง่นะ ฉันรู้ตั้งแต่ตอนซ้อมเชียร์แล้วว่ายัยนั้นแสร้งทำตัวเป็นมิตร ต่อให้นายจะทำเป็น—”

 

“ฮะ ดะ เดี๋ยวสิ ฉันไม่รู้เรื่องด้วยจริงๆ นะ…”

 

ทะ ทำไมชื่อของอุเอโนะฮาระถึงปรากฏออกมาจากคัตสึนุมะได้ล่ะ

 

ทั้งสองคนควรจะยังไม่เคยติดต่อกันมาก่อนนี่นา แถมเราก็ไม่เคยได้ยินจากที่ประชุมว่าทั้งสองคนรู้จักกันมาก่อนด้วย

 

ตรงไหน จุดเชื่อมโยงของความสัมพันธ์คู่นี้มันอยู่ตรงไหน… 

 

“เฮ้ยๆๆ อายูมิ รอเดี๋ยวๆ”

 

ในขณะที่ผมกำลังแพนิคและตื่นตระหนกอย่างสมบูรณ์ โทคิวะซึ่งฟังอยู่ใกล้ๆ ก็ได้เข้ามาขัดจังหวะการซักถามของเรา

 

“ไม่ใช่ว่าเมื่อวานฉันอธิบายให้เธอฟังไปแล้วเหรอ ว่าเราแค่พบกันโดยบังเอิญเฉยๆ!”

 

“หา เออิจิก็อยู่ข้างเจ้าหมอนี่เหรอ?”

 

“ไม่ๆ จะเป็นมิตรหรือศัตรูมันก็ไม่เกี่ยวกันไม่ใช่รึไง ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกัน—”

 

“…ชิ”

 

คัตสึนุมะเดาะลิ้นของเธออย่างหงุดหงิดใจ และกลับมายังตรงที่นั่งด้วยใบหน้าบึ้งตึง

 

“ฟู่ว์… ค่อยยังชั่ว ในที่สุดก็สงบแล้ว”

 

ในขณะที่โทคิวะกำลังลูบหน้าอกของตัวเอง ผมก็ได้มองลงไปที่โต๊ะด้วยใบหน้างุนงง

 

นี่เธอ…ทำอะไรลงไปกันแน่ อุเอโนะฮาระ

 

 

“นี่หัวหน้าห้อง ทำไมเราไม่ออกไปกินข้าวข้างนอกกันสักพักล่ะ”

 

เมื่อได้ยินเสียงของโทคิวะผมก็ได้กลับมารู้สึกตัว

 

ตอนนี้เป็นช่วงพักกลางวัน ในระหว่างที่ผมกำลังคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ด้วยความทุกข์ทรมาน ชั้นเรียนตอนเช้าก็จบลง

 

โทคิวะยิ้มแหะๆ และเข้ามากระซิบที่ข้างหูผม

 

“ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย…”

 

…คุยเหรอ

 

หรือว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตอนเช้ากันนะ…

 

ผมหันขวับๆ ไปรอบตัวท่ามกลางห้องเรียนที่มีเสียงอึกทึก สายตาของก๊วนคัตสึนุมะที่มองมาที่เรานั้นค่อนข้างจะแหลมคม ดูเหมือนจะไม่ใช่บรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการพูดคุยกันอย่างร่มเย็นเลย

 

ข้อความที่ผมส่งถึงอุเอโนะฮาระยังไม่ถูกทำเครื่องหมายว่าอ่านแล้ว ดูท่าการได้ยินสถานการณ์จากเธอมันคงเป็นไปไม่ได้

 

…เอาเป็นว่ามาลองฟังเขาดูก่อนดีกว่า

 

ผมพยักหน้าและเดินตามโทคิวะออกไปจากห้องเรียน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[LN] ใครกันที่เป็นคนตัดสินว่าผมมีเลิฟคอมเมดี้ในชีวิตจริงไม่ได้ 24

Now you are reading [LN] ใครกันที่เป็นคนตัดสินว่าผมมีเลิฟคอมเมดี้ในชีวิตจริงไม่ได้ Chapter 24 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อรุณสวัสดิ์ โทคิวะ”

 

“โอ้ อรุณสวัสดิ์~ จะว่าไปแล้ว แปลกจังเลยนะที่นายมาสายกว่าฉัน”

 

“ฉันนอนดึกไปหน่อยน่ะ…”

 

หลังจากแลกเปลี่ยนคำทักทายกับโทคิวะที่กินข้าวกล่องตอนเช่าเสร็จแล้ว ผมก็นั่งลง

 

ผ่านไป 3 วันแล้วนับตั้งแต่สิ้นสุดโกลเด้นวีค

 

เมื่อวานผมได้วิเคราะห์ข้อมูลตามโซเชียลและผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว ด้วยเหตุนี้ผมจึงลงเอยด้วยการไปขึ้นรถไฟแทบไม่ทัน เนื่องจากเป็นเส้นทางชนบทที่มีรถไฟขบวนเดียวทุกๆ 30 นาทีแม้ในช่วงเวลาเร่งด่วน ดังนั้นการพลาดรถไฟขบวนเดียวมันจึงเป็นอะไรที่เสียเวลามาก

 

ผมมองไปที่โต๊ะด้านข้างแต่ก็ไม่เห็นคุณคิโยซาโตะ ทว่าบนโต๊ะกลับมีกระเป๋าอยู่ ดังนั้นผมจึงคาดเดาว่าเธอลุกออกจากที่นั่งไปชั่วคราว

 

หลังจากช่วงวันหยุดยาว ก็ไม่มีข้อมูลสำคัญใดๆ ปรากฏขึ้นมาบนโซเชียลเลย

 

ตราบใดที่ผมยังคงให้อุเอโนะฮาระทำกิจวัตรประจำวันของตัวเองให้อยู่แบบนี้ ผมก็ไม่สามารถที่จะประนีประนอมได้ ดังนั้นผมจึงพยายามหาข้อมูลอย่างเต็มที่ แต่ทว่ามันก็ไม่มีผลลัพธ์ใดๆ ออกมาเลย

 

เป็นการยากที่จะตัดสินว่าเขาหยุดมีปฏิสัมพันธ์กับก๊วนอื่นไปแล้ว หรือแค่ไม่ได้ทำอะไรเลยเพราะเป็นวันธรรมดาเฉยๆ

 

ผมเริ่มคิดขึ้นมาว่าการยึดติดกับการหาข้อมูลจากหน้าโต๊ะมันเป็นเรื่องไม่ดี บางทีมันอาจจะถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนไปใช้การเก็บข้อมูลตัวต่อตัวในอนาคตแทน

 

ถึงอย่างนั้นการจะไปสอบถามคนรอบตัวเรื่องคุณคิโยซาโตะมันก็ดูจะโดดเด่นไปหน่อย  และหากเกิดข่าวลือแปลกๆ ขึ้นมามันคงจะลำบาก

 

หากเป็นแบบนี้ ผมคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเข้าไปตรวจสอบกับคนคนนั้นโดยตรงเท่า—

 

“เฮ้ย หัวหน้าห้อง”

 

—หือ

 

จู่ๆ ก็มีเสียงเรียกผมขึ้นมาจากข้างบนหัว

 

“…เอ๊ะ”

 

เจ้าของเสียงนั้นเป็นคนที่ผมไม่คาดคิด ทันใดนั้นความคิดของผมก็หยุดชะงัก

 

ผมเงยหน้าขึ้นไป และคนที่อยู่ตรงนั้นก็คือ—

 

“ชิ อย่ามาเมินฉันนะ”

 

คัตสึนุมะกับเหล่าลูกสมุนของเธอนั่นเอง

 

เอ๊ะ จริงดิ? นี่เธอคุยกับเราอยู่จริงๆ อะ

 

“คือเอ่อ… มีอะไรเหรอ”

 

ผมลืมการตั้งค่าตัวละครของตัวเอง และตอบกลับไปแบบงงๆ  

 

นี่เป็นครั้งแรกเลยที่คัตสึนุมะพูดกับผมโดยตรง

 

ปกติเมื่อเธอเข้ามาขวางทางผม ผมก็จะเป็นคนเข้าไปคุยกับเธอคนแรกเสมอ และคำตอบส่วนใหญ่ที่ได้รับมาก็มักจะหยาบคาย

 

คัตสึนุมะส่งจิ๊ปาก จากนั้นก็มองมาที่ผมด้วยท่าทางที่กรีดตา

 

“เฮ้ยนายน่ะ รู้หรือเปล่าว่าเพื่อนตัวเองกำลังทำอะไรอยู่”

 

“…?”

 

เอ๊ะ…? เพื่อน? หมายถึงใครกันน่ะ?

 

“ไม่สิๆ โทษนะ ฉันไม่รู้เลยว่าเธอหมายถึงใคร…”

 

“ก็หมายถึงเพื่อน อุเอโนะอะไรสักอย่างที่อยู่ห้อง 5 ของนายยังไงล่ะ”

 

“…ฮะ!?”

 

หัวใจของผมเต้นไม่เป็นจังหวะ

 

เอ๊ะ อุเอโนะฮาระ…? อุเอโนะฮาระไปทำอะไรไว้?  

 

“อย่ามาแกล้งโง่นะ ฉันรู้ตั้งแต่ตอนซ้อมเชียร์แล้วว่ายัยนั้นแสร้งทำตัวเป็นมิตร ต่อให้นายจะทำเป็น—”

 

“ฮะ ดะ เดี๋ยวสิ ฉันไม่รู้เรื่องด้วยจริงๆ นะ…”

 

ทะ ทำไมชื่อของอุเอโนะฮาระถึงปรากฏออกมาจากคัตสึนุมะได้ล่ะ

 

ทั้งสองคนควรจะยังไม่เคยติดต่อกันมาก่อนนี่นา แถมเราก็ไม่เคยได้ยินจากที่ประชุมว่าทั้งสองคนรู้จักกันมาก่อนด้วย

 

ตรงไหน จุดเชื่อมโยงของความสัมพันธ์คู่นี้มันอยู่ตรงไหน… 

 

“เฮ้ยๆๆ อายูมิ รอเดี๋ยวๆ”

 

ในขณะที่ผมกำลังแพนิคและตื่นตระหนกอย่างสมบูรณ์ โทคิวะซึ่งฟังอยู่ใกล้ๆ ก็ได้เข้ามาขัดจังหวะการซักถามของเรา

 

“ไม่ใช่ว่าเมื่อวานฉันอธิบายให้เธอฟังไปแล้วเหรอ ว่าเราแค่พบกันโดยบังเอิญเฉยๆ!”

 

“หา เออิจิก็อยู่ข้างเจ้าหมอนี่เหรอ?”

 

“ไม่ๆ จะเป็นมิตรหรือศัตรูมันก็ไม่เกี่ยวกันไม่ใช่รึไง ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกัน—”

 

“…ชิ”

 

คัตสึนุมะเดาะลิ้นของเธออย่างหงุดหงิดใจ และกลับมายังตรงที่นั่งด้วยใบหน้าบึ้งตึง

 

“ฟู่ว์… ค่อยยังชั่ว ในที่สุดก็สงบแล้ว”

 

ในขณะที่โทคิวะกำลังลูบหน้าอกของตัวเอง ผมก็ได้มองลงไปที่โต๊ะด้วยใบหน้างุนงง

 

นี่เธอ…ทำอะไรลงไปกันแน่ อุเอโนะฮาระ

 

 

“นี่หัวหน้าห้อง ทำไมเราไม่ออกไปกินข้าวข้างนอกกันสักพักล่ะ”

 

เมื่อได้ยินเสียงของโทคิวะผมก็ได้กลับมารู้สึกตัว

 

ตอนนี้เป็นช่วงพักกลางวัน ในระหว่างที่ผมกำลังคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ด้วยความทุกข์ทรมาน ชั้นเรียนตอนเช้าก็จบลง

 

โทคิวะยิ้มแหะๆ และเข้ามากระซิบที่ข้างหูผม

 

“ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย…”

 

…คุยเหรอ

 

หรือว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตอนเช้ากันนะ…

 

ผมหันขวับๆ ไปรอบตัวท่ามกลางห้องเรียนที่มีเสียงอึกทึก สายตาของก๊วนคัตสึนุมะที่มองมาที่เรานั้นค่อนข้างจะแหลมคม ดูเหมือนจะไม่ใช่บรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการพูดคุยกันอย่างร่มเย็นเลย

 

ข้อความที่ผมส่งถึงอุเอโนะฮาระยังไม่ถูกทำเครื่องหมายว่าอ่านแล้ว ดูท่าการได้ยินสถานการณ์จากเธอมันคงเป็นไปไม่ได้

 

…เอาเป็นว่ามาลองฟังเขาดูก่อนดีกว่า

 

ผมพยักหน้าและเดินตามโทคิวะออกไปจากห้องเรียน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[LN] ใครกันที่เป็นคนตัดสินว่าผมมีเลิฟคอมเมดี้ในชีวิตจริงไม่ได้ 24

Now you are reading [LN] ใครกันที่เป็นคนตัดสินว่าผมมีเลิฟคอมเมดี้ในชีวิตจริงไม่ได้ Chapter 24 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อรุณสวัสดิ์ โทคิวะ”

 

“โอ้ อรุณสวัสดิ์~ จะว่าไปแล้ว แปลกจังเลยนะที่นายมาสายกว่าฉัน”

 

“ฉันนอนดึกไปหน่อยน่ะ…”

 

หลังจากแลกเปลี่ยนคำทักทายกับโทคิวะที่กินข้าวกล่องตอนเช่าเสร็จแล้ว ผมก็นั่งลง

 

ผ่านไป 3 วันแล้วนับตั้งแต่สิ้นสุดโกลเด้นวีค

 

เมื่อวานผมได้วิเคราะห์ข้อมูลตามโซเชียลและผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว ด้วยเหตุนี้ผมจึงลงเอยด้วยการไปขึ้นรถไฟแทบไม่ทัน เนื่องจากเป็นเส้นทางชนบทที่มีรถไฟขบวนเดียวทุกๆ 30 นาทีแม้ในช่วงเวลาเร่งด่วน ดังนั้นการพลาดรถไฟขบวนเดียวมันจึงเป็นอะไรที่เสียเวลามาก

 

ผมมองไปที่โต๊ะด้านข้างแต่ก็ไม่เห็นคุณคิโยซาโตะ ทว่าบนโต๊ะกลับมีกระเป๋าอยู่ ดังนั้นผมจึงคาดเดาว่าเธอลุกออกจากที่นั่งไปชั่วคราว

 

หลังจากช่วงวันหยุดยาว ก็ไม่มีข้อมูลสำคัญใดๆ ปรากฏขึ้นมาบนโซเชียลเลย

 

ตราบใดที่ผมยังคงให้อุเอโนะฮาระทำกิจวัตรประจำวันของตัวเองให้อยู่แบบนี้ ผมก็ไม่สามารถที่จะประนีประนอมได้ ดังนั้นผมจึงพยายามหาข้อมูลอย่างเต็มที่ แต่ทว่ามันก็ไม่มีผลลัพธ์ใดๆ ออกมาเลย

 

เป็นการยากที่จะตัดสินว่าเขาหยุดมีปฏิสัมพันธ์กับก๊วนอื่นไปแล้ว หรือแค่ไม่ได้ทำอะไรเลยเพราะเป็นวันธรรมดาเฉยๆ

 

ผมเริ่มคิดขึ้นมาว่าการยึดติดกับการหาข้อมูลจากหน้าโต๊ะมันเป็นเรื่องไม่ดี บางทีมันอาจจะถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนไปใช้การเก็บข้อมูลตัวต่อตัวในอนาคตแทน

 

ถึงอย่างนั้นการจะไปสอบถามคนรอบตัวเรื่องคุณคิโยซาโตะมันก็ดูจะโดดเด่นไปหน่อย  และหากเกิดข่าวลือแปลกๆ ขึ้นมามันคงจะลำบาก

 

หากเป็นแบบนี้ ผมคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเข้าไปตรวจสอบกับคนคนนั้นโดยตรงเท่า—

 

“เฮ้ย หัวหน้าห้อง”

 

—หือ

 

จู่ๆ ก็มีเสียงเรียกผมขึ้นมาจากข้างบนหัว

 

“…เอ๊ะ”

 

เจ้าของเสียงนั้นเป็นคนที่ผมไม่คาดคิด ทันใดนั้นความคิดของผมก็หยุดชะงัก

 

ผมเงยหน้าขึ้นไป และคนที่อยู่ตรงนั้นก็คือ—

 

“ชิ อย่ามาเมินฉันนะ”

 

คัตสึนุมะกับเหล่าลูกสมุนของเธอนั่นเอง

 

เอ๊ะ จริงดิ? นี่เธอคุยกับเราอยู่จริงๆ อะ

 

“คือเอ่อ… มีอะไรเหรอ”

 

ผมลืมการตั้งค่าตัวละครของตัวเอง และตอบกลับไปแบบงงๆ  

 

นี่เป็นครั้งแรกเลยที่คัตสึนุมะพูดกับผมโดยตรง

 

ปกติเมื่อเธอเข้ามาขวางทางผม ผมก็จะเป็นคนเข้าไปคุยกับเธอคนแรกเสมอ และคำตอบส่วนใหญ่ที่ได้รับมาก็มักจะหยาบคาย

 

คัตสึนุมะส่งจิ๊ปาก จากนั้นก็มองมาที่ผมด้วยท่าทางที่กรีดตา

 

“เฮ้ยนายน่ะ รู้หรือเปล่าว่าเพื่อนตัวเองกำลังทำอะไรอยู่”

 

“…?”

 

เอ๊ะ…? เพื่อน? หมายถึงใครกันน่ะ?

 

“ไม่สิๆ โทษนะ ฉันไม่รู้เลยว่าเธอหมายถึงใคร…”

 

“ก็หมายถึงเพื่อน อุเอโนะอะไรสักอย่างที่อยู่ห้อง 5 ของนายยังไงล่ะ”

 

“…ฮะ!?”

 

หัวใจของผมเต้นไม่เป็นจังหวะ

 

เอ๊ะ อุเอโนะฮาระ…? อุเอโนะฮาระไปทำอะไรไว้?  

 

“อย่ามาแกล้งโง่นะ ฉันรู้ตั้งแต่ตอนซ้อมเชียร์แล้วว่ายัยนั้นแสร้งทำตัวเป็นมิตร ต่อให้นายจะทำเป็น—”

 

“ฮะ ดะ เดี๋ยวสิ ฉันไม่รู้เรื่องด้วยจริงๆ นะ…”

 

ทะ ทำไมชื่อของอุเอโนะฮาระถึงปรากฏออกมาจากคัตสึนุมะได้ล่ะ

 

ทั้งสองคนควรจะยังไม่เคยติดต่อกันมาก่อนนี่นา แถมเราก็ไม่เคยได้ยินจากที่ประชุมว่าทั้งสองคนรู้จักกันมาก่อนด้วย

 

ตรงไหน จุดเชื่อมโยงของความสัมพันธ์คู่นี้มันอยู่ตรงไหน… 

 

“เฮ้ยๆๆ อายูมิ รอเดี๋ยวๆ”

 

ในขณะที่ผมกำลังแพนิคและตื่นตระหนกอย่างสมบูรณ์ โทคิวะซึ่งฟังอยู่ใกล้ๆ ก็ได้เข้ามาขัดจังหวะการซักถามของเรา

 

“ไม่ใช่ว่าเมื่อวานฉันอธิบายให้เธอฟังไปแล้วเหรอ ว่าเราแค่พบกันโดยบังเอิญเฉยๆ!”

 

“หา เออิจิก็อยู่ข้างเจ้าหมอนี่เหรอ?”

 

“ไม่ๆ จะเป็นมิตรหรือศัตรูมันก็ไม่เกี่ยวกันไม่ใช่รึไง ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกัน—”

 

“…ชิ”

 

คัตสึนุมะเดาะลิ้นของเธออย่างหงุดหงิดใจ และกลับมายังตรงที่นั่งด้วยใบหน้าบึ้งตึง

 

“ฟู่ว์… ค่อยยังชั่ว ในที่สุดก็สงบแล้ว”

 

ในขณะที่โทคิวะกำลังลูบหน้าอกของตัวเอง ผมก็ได้มองลงไปที่โต๊ะด้วยใบหน้างุนงง

 

นี่เธอ…ทำอะไรลงไปกันแน่ อุเอโนะฮาระ

 

 

“นี่หัวหน้าห้อง ทำไมเราไม่ออกไปกินข้าวข้างนอกกันสักพักล่ะ”

 

เมื่อได้ยินเสียงของโทคิวะผมก็ได้กลับมารู้สึกตัว

 

ตอนนี้เป็นช่วงพักกลางวัน ในระหว่างที่ผมกำลังคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ด้วยความทุกข์ทรมาน ชั้นเรียนตอนเช้าก็จบลง

 

โทคิวะยิ้มแหะๆ และเข้ามากระซิบที่ข้างหูผม

 

“ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย…”

 

…คุยเหรอ

 

หรือว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตอนเช้ากันนะ…

 

ผมหันขวับๆ ไปรอบตัวท่ามกลางห้องเรียนที่มีเสียงอึกทึก สายตาของก๊วนคัตสึนุมะที่มองมาที่เรานั้นค่อนข้างจะแหลมคม ดูเหมือนจะไม่ใช่บรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการพูดคุยกันอย่างร่มเย็นเลย

 

ข้อความที่ผมส่งถึงอุเอโนะฮาระยังไม่ถูกทำเครื่องหมายว่าอ่านแล้ว ดูท่าการได้ยินสถานการณ์จากเธอมันคงเป็นไปไม่ได้

 

…เอาเป็นว่ามาลองฟังเขาดูก่อนดีกว่า

 

ผมพยักหน้าและเดินตามโทคิวะออกไปจากห้องเรียน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[LN] ใครกันที่เป็นคนตัดสินว่าผมมีเลิฟคอมเมดี้ในชีวิตจริงไม่ได้ 24

Now you are reading [LN] ใครกันที่เป็นคนตัดสินว่าผมมีเลิฟคอมเมดี้ในชีวิตจริงไม่ได้ Chapter 24 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“อรุณสวัสดิ์ โทคิวะ”

 

“โอ้ อรุณสวัสดิ์~ จะว่าไปแล้ว แปลกจังเลยนะที่นายมาสายกว่าฉัน”

 

“ฉันนอนดึกไปหน่อยน่ะ…”

 

หลังจากแลกเปลี่ยนคำทักทายกับโทคิวะที่กินข้าวกล่องตอนเช่าเสร็จแล้ว ผมก็นั่งลง

 

ผ่านไป 3 วันแล้วนับตั้งแต่สิ้นสุดโกลเด้นวีค

 

เมื่อวานผมได้วิเคราะห์ข้อมูลตามโซเชียลและผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว ด้วยเหตุนี้ผมจึงลงเอยด้วยการไปขึ้นรถไฟแทบไม่ทัน เนื่องจากเป็นเส้นทางชนบทที่มีรถไฟขบวนเดียวทุกๆ 30 นาทีแม้ในช่วงเวลาเร่งด่วน ดังนั้นการพลาดรถไฟขบวนเดียวมันจึงเป็นอะไรที่เสียเวลามาก

 

ผมมองไปที่โต๊ะด้านข้างแต่ก็ไม่เห็นคุณคิโยซาโตะ ทว่าบนโต๊ะกลับมีกระเป๋าอยู่ ดังนั้นผมจึงคาดเดาว่าเธอลุกออกจากที่นั่งไปชั่วคราว

 

หลังจากช่วงวันหยุดยาว ก็ไม่มีข้อมูลสำคัญใดๆ ปรากฏขึ้นมาบนโซเชียลเลย

 

ตราบใดที่ผมยังคงให้อุเอโนะฮาระทำกิจวัตรประจำวันของตัวเองให้อยู่แบบนี้ ผมก็ไม่สามารถที่จะประนีประนอมได้ ดังนั้นผมจึงพยายามหาข้อมูลอย่างเต็มที่ แต่ทว่ามันก็ไม่มีผลลัพธ์ใดๆ ออกมาเลย

 

เป็นการยากที่จะตัดสินว่าเขาหยุดมีปฏิสัมพันธ์กับก๊วนอื่นไปแล้ว หรือแค่ไม่ได้ทำอะไรเลยเพราะเป็นวันธรรมดาเฉยๆ

 

ผมเริ่มคิดขึ้นมาว่าการยึดติดกับการหาข้อมูลจากหน้าโต๊ะมันเป็นเรื่องไม่ดี บางทีมันอาจจะถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนไปใช้การเก็บข้อมูลตัวต่อตัวในอนาคตแทน

 

ถึงอย่างนั้นการจะไปสอบถามคนรอบตัวเรื่องคุณคิโยซาโตะมันก็ดูจะโดดเด่นไปหน่อย  และหากเกิดข่าวลือแปลกๆ ขึ้นมามันคงจะลำบาก

 

หากเป็นแบบนี้ ผมคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเข้าไปตรวจสอบกับคนคนนั้นโดยตรงเท่า—

 

“เฮ้ย หัวหน้าห้อง”

 

—หือ

 

จู่ๆ ก็มีเสียงเรียกผมขึ้นมาจากข้างบนหัว

 

“…เอ๊ะ”

 

เจ้าของเสียงนั้นเป็นคนที่ผมไม่คาดคิด ทันใดนั้นความคิดของผมก็หยุดชะงัก

 

ผมเงยหน้าขึ้นไป และคนที่อยู่ตรงนั้นก็คือ—

 

“ชิ อย่ามาเมินฉันนะ”

 

คัตสึนุมะกับเหล่าลูกสมุนของเธอนั่นเอง

 

เอ๊ะ จริงดิ? นี่เธอคุยกับเราอยู่จริงๆ อะ

 

“คือเอ่อ… มีอะไรเหรอ”

 

ผมลืมการตั้งค่าตัวละครของตัวเอง และตอบกลับไปแบบงงๆ  

 

นี่เป็นครั้งแรกเลยที่คัตสึนุมะพูดกับผมโดยตรง

 

ปกติเมื่อเธอเข้ามาขวางทางผม ผมก็จะเป็นคนเข้าไปคุยกับเธอคนแรกเสมอ และคำตอบส่วนใหญ่ที่ได้รับมาก็มักจะหยาบคาย

 

คัตสึนุมะส่งจิ๊ปาก จากนั้นก็มองมาที่ผมด้วยท่าทางที่กรีดตา

 

“เฮ้ยนายน่ะ รู้หรือเปล่าว่าเพื่อนตัวเองกำลังทำอะไรอยู่”

 

“…?”

 

เอ๊ะ…? เพื่อน? หมายถึงใครกันน่ะ?

 

“ไม่สิๆ โทษนะ ฉันไม่รู้เลยว่าเธอหมายถึงใคร…”

 

“ก็หมายถึงเพื่อน อุเอโนะอะไรสักอย่างที่อยู่ห้อง 5 ของนายยังไงล่ะ”

 

“…ฮะ!?”

 

หัวใจของผมเต้นไม่เป็นจังหวะ

 

เอ๊ะ อุเอโนะฮาระ…? อุเอโนะฮาระไปทำอะไรไว้?  

 

“อย่ามาแกล้งโง่นะ ฉันรู้ตั้งแต่ตอนซ้อมเชียร์แล้วว่ายัยนั้นแสร้งทำตัวเป็นมิตร ต่อให้นายจะทำเป็น—”

 

“ฮะ ดะ เดี๋ยวสิ ฉันไม่รู้เรื่องด้วยจริงๆ นะ…”

 

ทะ ทำไมชื่อของอุเอโนะฮาระถึงปรากฏออกมาจากคัตสึนุมะได้ล่ะ

 

ทั้งสองคนควรจะยังไม่เคยติดต่อกันมาก่อนนี่นา แถมเราก็ไม่เคยได้ยินจากที่ประชุมว่าทั้งสองคนรู้จักกันมาก่อนด้วย

 

ตรงไหน จุดเชื่อมโยงของความสัมพันธ์คู่นี้มันอยู่ตรงไหน… 

 

“เฮ้ยๆๆ อายูมิ รอเดี๋ยวๆ”

 

ในขณะที่ผมกำลังแพนิคและตื่นตระหนกอย่างสมบูรณ์ โทคิวะซึ่งฟังอยู่ใกล้ๆ ก็ได้เข้ามาขัดจังหวะการซักถามของเรา

 

“ไม่ใช่ว่าเมื่อวานฉันอธิบายให้เธอฟังไปแล้วเหรอ ว่าเราแค่พบกันโดยบังเอิญเฉยๆ!”

 

“หา เออิจิก็อยู่ข้างเจ้าหมอนี่เหรอ?”

 

“ไม่ๆ จะเป็นมิตรหรือศัตรูมันก็ไม่เกี่ยวกันไม่ใช่รึไง ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกัน—”

 

“…ชิ”

 

คัตสึนุมะเดาะลิ้นของเธออย่างหงุดหงิดใจ และกลับมายังตรงที่นั่งด้วยใบหน้าบึ้งตึง

 

“ฟู่ว์… ค่อยยังชั่ว ในที่สุดก็สงบแล้ว”

 

ในขณะที่โทคิวะกำลังลูบหน้าอกของตัวเอง ผมก็ได้มองลงไปที่โต๊ะด้วยใบหน้างุนงง

 

นี่เธอ…ทำอะไรลงไปกันแน่ อุเอโนะฮาระ

 

 

“นี่หัวหน้าห้อง ทำไมเราไม่ออกไปกินข้าวข้างนอกกันสักพักล่ะ”

 

เมื่อได้ยินเสียงของโทคิวะผมก็ได้กลับมารู้สึกตัว

 

ตอนนี้เป็นช่วงพักกลางวัน ในระหว่างที่ผมกำลังคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ด้วยความทุกข์ทรมาน ชั้นเรียนตอนเช้าก็จบลง

 

โทคิวะยิ้มแหะๆ และเข้ามากระซิบที่ข้างหูผม

 

“ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย…”

 

…คุยเหรอ

 

หรือว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตอนเช้ากันนะ…

 

ผมหันขวับๆ ไปรอบตัวท่ามกลางห้องเรียนที่มีเสียงอึกทึก สายตาของก๊วนคัตสึนุมะที่มองมาที่เรานั้นค่อนข้างจะแหลมคม ดูเหมือนจะไม่ใช่บรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการพูดคุยกันอย่างร่มเย็นเลย

 

ข้อความที่ผมส่งถึงอุเอโนะฮาระยังไม่ถูกทำเครื่องหมายว่าอ่านแล้ว ดูท่าการได้ยินสถานการณ์จากเธอมันคงเป็นไปไม่ได้

 

…เอาเป็นว่ามาลองฟังเขาดูก่อนดีกว่า

 

ผมพยักหน้าและเดินตามโทคิวะออกไปจากห้องเรียน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+