P.Plan เส้นทางลิขิต ปฏิวัติโลก 12

Now you are reading P.Plan เส้นทางลิขิต ปฏิวัติโลก Chapter 12 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เห้! นายทำอะไรกันแน่ แล้วไอลอยนี้มันอะไรกัน ไอบ้าเอ๊ย!”

นิลมองไปยังร่างกายของตัวเองอย่างตกตะลึง ร่างของเขาค่อยๆถูกปกคลุมไปด้วยลวดลายสีแดงประหลาดที่เคลื่อนไหวดุจมีชีวิตไปตามตัว ก่อนที่ลวดลายนี้จะค่อยๆขยายตัวอย่างรวดเร็ว

 

ก่อนที่ลวดลายจะกลืนกินนิลไปทั้งตัว ลวดลายบนตัวของเขาได้กระจายไปทั่วพื้นที่อาณาบริเวณ จากเท้าลามไปยังซากปรังหักพังโดยรอบอย่างรวดเร็วรัศมีของมันขยายตัวเป็นวงกว้างถึงทุ่งดอกไม้

ทันทีที่ลวดลายได้สัมผัส เขาทุ่งดอกไม้หลากสีที่งดงามได้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงคล้ำในทันที จากดอกไม้หลากสีที่เคยงดงามบัดนี้ได้กลายเป็นทุ่งดอกไม้สีแดงฉานดุจสีโลหิตไปแล้ว

นิลขยับตัวอย่างร้อนรน แต่ก็ไร้ผล เมื่อลวดลายเหล่านี้ได้ตรึงร่างของเขาไว้กับพื้นดินที่เปลี่ยนเป็นสีแดง และท้องฟ้าเองก็ค่อยๆกลายเป็นสีแดงด้วยเช่นกัน

“ความรู้สึกนี้มันคืออะไร มันคืออะไร!?”

นิลตะโกนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ด้วยความรู้สึกที่แปลกประหลาดเพราะตัวเขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน และในตอนนี้ดูเหมือนว่าบนใบหน้าของตัวเองมีอะไรบ้างอย่าง บางอย่างที่ทำให้เลือดในตัวของเขาบีบรัด หัวใจเต้นแรงจนคลุ้มคลั่ง

 “นายในอดีตไม่เคยรู้สึกกับสิ่งนี้สิน่ะ แต่ถ้าเป็นนายในตอนนี้คงรู้สึกได้สิน่ะ สิ่งที่เรียกว่า ‘ความกลัว’ ”

“กลัวงั้นเหรอ ฉันไม่กลัวอะไรทั้งนั้น!”

นิลคำรามออกมา หลังจากที่เขาได้ยินเสียงโดยที่ดังออกมาทั่วอาณาบริเวณ ก่อนที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไป

“ผมเป็นใครกันแน่ครับ”

แล้วทุกอย่างก็กลายเป็นสีดำสนิท

 

 

วันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 2042 เวลา 11:20 น.

“เฮ้อ”

“มีอะไรหรือเปล่าโฮชิ ท่าทางอิดโรยแบบนี้ไม่สมเป็นเธอเลยน่ะ”

ริสตี้กล่าวทักเพื่อนรัก เพราะตั้งแต่ที่เธอปล่อยให้โฮชิล่วงหน้าไปก่อน ถ้าทางของเธอดูเหนื่อยผิดปกติ แถมทำหน้าเหมือนมีอะไรเกิดขึ้นอีก ‘เอ๋! เดี้ยวก่อนมีอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอ หรือว่า’

“โฮชิหรือว่า! ไอปัญญาอ่อนนั้นแต๊ะอั๋งเธอ รอเดี้ยวน่ะ ฉันจะรีบไปสั่งสอนมัน เอาแบบให้ตกนรกทั้งเป็น ยังดีซ่ะกว่า”

ริสตี้ทำสีหน้าขึงขัง นิ้วชี้ไปยังห้องพยาบาลข้างๆในทันที แถมยังมีเสียงนิ้วดัง ‘กร๊อป แกร๊ป’ เป็นระยะๆด้วย

“ไม่มีอะไรหรอกริสจัง แค่ช่วงนี้อากาศไม่ค่อยดีน่ะ เลยรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวเท่าไรน่ะ และดูท่าจะเป็นหวัดหน่อยๆล่ะ”

โฮชิพูดพลางส่ายมือไปมา เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นสภาพของนิลคงไม่น่าดูแน่

“แต่ก็แปลกน่ะโฮชิ เธอที่สามารถควบคุมลมได้จะเป็นหวัดน่ะ”

ริสตี้พูดแขวะเพื่อนรักของตัวเองเล็กน้อย พร้อมสีหน้าที่เซ็งสุดขีด

“แหม่ ริสจังล่ะก็ ฉันเพิ่งจะควบคุมความกดอากาศได้น่ะ ยังควบคุมอุณหภูมิไม่ได้ด้วยซ้ำ แล้วจะไปปรับสภาพอากาศให้ดีตลอดเวลาก็คงไม่ไหว”

โฮชิทำแก้มป่อง พลางกอดอกของตัวเอง ก่อนที่จะเชิดหน้าใส่อีกฝ่าย

เมื่อริสตี้เห็นดังนั้น จึงหัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะหยิบกระป๋องน้ำที่วางบนเคาเตอร์ข้างยืนให้อีกฝ่าย

“เอาน่า โฮชิแค่แซวเล่นๆไม่เห็นต้องโกรธกันเลย เอานี้ดื่มน้ำผลไม้กลั่นกันหน่อยมั้ย”

เมื่อโฮชิเห็นดังนั้นจึงทำหน้ามุ่ยหยิบกระป๋องขึ้นมา ก่อนที่จะกดปุ่มที่อยู่ด้านบนสุดของตัวกระป๋อง หลังจากที่กดช่องที่อยู่ด้านข้างก็เปิดออกในมันที

เมื่อเห็นดังนั้น ริสตี้จึงหยิบกระป๋องข้างๆขึ้นมาดื่มเช่นกัน

“ฉันไม่ค่อยชอบเลยน่ะ กับกระป๋องดีไซน์ยังงี้น่ะ”

ริสตี้พูดบ่นพลางดื่มน้ำส้มกลั่นของตัวเอง

“แล้วริสจังชอบแบบไหนเรอะ ดีไซน์อย่างนี้ก็ดีน่ะดื่มง่าย แถมกดปิดเพื่อเก็บได้ด้วยน่ะ”

โฮชิ ถามอีกฝ่ายด้วยสีหน้าสงสัย พลางยิ้มอย่างมีเลศนัย

เมื่อริสตี้เห็นสีหน้าของเพื่อนรักดังนั้น จึงยกซดน้ำส้มให้หมด เพื่อที่จะพูดกับอีกฝ่าย

“ก็แบบใหม่มันไม่มีหู เวลาเปิดแต่ละที มันไม่เร้าใจเลย”

ริสตี้โอชิพูดจบ พร้อมบีบกระป๋องเหล็กจนแหลกคามือ ก่อนที่จะปาลงถังขยะที่อยู่ด้านข้างในทันที

“ยังชอบความรุนแรงไม่เปลี่ยนเลยน่ะ เพราะยังงี้แหล่ะถึงยังหาแฟนไม่ได้สักที เนอะรีสจาง”

โฮชิพูดโดยเน้นคำพูดท้ายประโยค พลางเอามือขึ้นมาปิดปากตัวเอง

“เงียบน่าโฮชิ! ผู้ชายที่ฉันยอมรับน่ะ ต้องเก่งกว่าฉันเท่านั้นน่ะ ถ้ากระจอกกว่าก็เลิกหวังได้เลย”

ริสตี้พูดพลางทำท่าเท้าเอว พร้อมทำสีหน้าภาคภูมิใจ

โอชิส่ายหน้าให้กับนิสัยชอบความรุนแรงของอีกฝ่าย เพราะตั้งแต่ที่เธอกับริสตี้จับคู่ด้วยกัน ไม่เคยมีงานไหนที่ไม่ใช้ความรุนแรงทั้งนั้น ต่อให้เป็นงานเจรจาริสตี้ก็ชอบทำลายข้าวของเพื่อข่มขู่คู่เจรจาทุกครั้ง

“แล้วเธอล่ะโฮชิ ไม่เห็นมีแฟนกับเขาเลยสักคน ไม่ใช้ว่าเธอชอบกินเพศเดียวกันน่ะ”

ริสตี้พูดพลางเบนสายตา เพราะถ้าเทียบแล้ว พวกเธอทั้งสองคนก็ถือว่าสวยมาก ถึงเธอจะชอบใช้ความรุนแรง แต่หุ่นของเธอน่ะสวยไม่แพ้ไอดอลที่กำลังดังในช่วงนี้ด้วยซ้ำ ส่วนโฮชิเองก็สวยไม่แพ้กัน ทั้งสัดส่วนต่างๆรวมไปถึงหน้าอกหน้าใจที่ใหญ่ผิดปกตินั้นด้วย ถ้าไม่นับนิสัยเสียขี้เล่นมากเกินไปก็คงสมบูรณ์แบบทุกอย่างแล้ว

“โถ่! ริสจังที่ฉันพูดออกไปน่ะ เพราะเป็นห่วงริสจังที่เอาแต่ใช้ความรุนแรง แถมผู้ชายที่จะวิวาทแบบหนึ่งต่อหนึ่งชนะริสจังน่ะแทบไม่มีเลยน่ะ”

โฮชิพูดพลางยิ้มอ่อนให้อีกฝ่าย

ริสตี้เลยสวนกลับไป

“แล้วเธอล่ะขี้เล่นขนาดนั้น แล้ว! มีคนมาขอเป็นแฟนตั้งหลายคน โฮชิเธอเลือกใครหล่ะ”

โฮชิได้ยินดังนั้นจึงยิ้มขึ้นมา ก่อนที่จะเอานิ้วชี้ซ้ายแตะที่ริมฝีปากของตัวเอง

“ตัวฉันนั้นมีคนที่สนใจอยู่แล้วล่ะ แต่เป็นใครกันน่ะ”

โฮชิพูดพลางถามหน้าสงสัย

เมื่อเห็นสีหน้าอีกฝ่าย ริสตี้จึงได้แต่ถอนหายใจ

“เอาเถอะ ฉันไม่ถามแล้วก็ได้”

‘ถ้าเป็นอีหรอบนี้ ถามไปก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก’

ริสตี้คิดในใจ

 

“แล้วเจจังล่ะ ให้อยู่กับนิลคุงอย่างนั้นไม่เป็นไรหรอ”

“ไม่เป็นไรหรอก ฉันพอจะเชื่อคำพูดของอลันอยู่บ้าง”

ริสตี้พูดพลางทำสีหน้าเศร้า

เมื่อเห็นดังนั้นโฮชิจึงพูดเพื่อที่จะเปลี่ยนบรรยากาศสักหน่อย เพราะดูถ้าความเศร้าโศกจะกลืนกินบรรยากาศเมื่อครู่ไปแล้ว

“แล้วพวกวิลสันล่ะ จะเอายังไง”

เมื่อโฮชิได้ยินดังนั้น เธอจึงมองไปยังหน้าต่างด้านนอก ก่อนที่จะเสริมเล็กน้อย

“ฉันให้พวกมันไปยกของที่สั่งไว้แล้ว แถมรู้สึกว่าเมื่อตะกี้จะเกิดอะไรขึ้นสักอย่างที่ตลาด ถ้าเกิดอะไรกับพวกเราล่ะก็ ฉันจัดหนักทั้งคืนแน่”

“โธ่ๆ ริสจังนี้ล่ะก็”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

P.Plan เส้นทางลิขิต ปฏิวัติโลก 12

Now you are reading P.Plan เส้นทางลิขิต ปฏิวัติโลก Chapter 12 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เห้! นายทำอะไรกันแน่ แล้วไอลอยนี้มันอะไรกัน ไอบ้าเอ๊ย!”

นิลมองไปยังร่างกายของตัวเองอย่างตกตะลึง ร่างของเขาค่อยๆถูกปกคลุมไปด้วยลวดลายสีแดงประหลาดที่เคลื่อนไหวดุจมีชีวิตไปตามตัว ก่อนที่ลวดลายนี้จะค่อยๆขยายตัวอย่างรวดเร็ว

 

ก่อนที่ลวดลายจะกลืนกินนิลไปทั้งตัว ลวดลายบนตัวของเขาได้กระจายไปทั่วพื้นที่อาณาบริเวณ จากเท้าลามไปยังซากปรังหักพังโดยรอบอย่างรวดเร็วรัศมีของมันขยายตัวเป็นวงกว้างถึงทุ่งดอกไม้

ทันทีที่ลวดลายได้สัมผัส เขาทุ่งดอกไม้หลากสีที่งดงามได้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงคล้ำในทันที จากดอกไม้หลากสีที่เคยงดงามบัดนี้ได้กลายเป็นทุ่งดอกไม้สีแดงฉานดุจสีโลหิตไปแล้ว

นิลขยับตัวอย่างร้อนรน แต่ก็ไร้ผล เมื่อลวดลายเหล่านี้ได้ตรึงร่างของเขาไว้กับพื้นดินที่เปลี่ยนเป็นสีแดง และท้องฟ้าเองก็ค่อยๆกลายเป็นสีแดงด้วยเช่นกัน

“ความรู้สึกนี้มันคืออะไร มันคืออะไร!?”

นิลตะโกนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ด้วยความรู้สึกที่แปลกประหลาดเพราะตัวเขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน และในตอนนี้ดูเหมือนว่าบนใบหน้าของตัวเองมีอะไรบ้างอย่าง บางอย่างที่ทำให้เลือดในตัวของเขาบีบรัด หัวใจเต้นแรงจนคลุ้มคลั่ง

 “นายในอดีตไม่เคยรู้สึกกับสิ่งนี้สิน่ะ แต่ถ้าเป็นนายในตอนนี้คงรู้สึกได้สิน่ะ สิ่งที่เรียกว่า ‘ความกลัว’ ”

“กลัวงั้นเหรอ ฉันไม่กลัวอะไรทั้งนั้น!”

นิลคำรามออกมา หลังจากที่เขาได้ยินเสียงโดยที่ดังออกมาทั่วอาณาบริเวณ ก่อนที่สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไป

“ผมเป็นใครกันแน่ครับ”

แล้วทุกอย่างก็กลายเป็นสีดำสนิท

 

 

วันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 2042 เวลา 11:20 น.

“เฮ้อ”

“มีอะไรหรือเปล่าโฮชิ ท่าทางอิดโรยแบบนี้ไม่สมเป็นเธอเลยน่ะ”

ริสตี้กล่าวทักเพื่อนรัก เพราะตั้งแต่ที่เธอปล่อยให้โฮชิล่วงหน้าไปก่อน ถ้าทางของเธอดูเหนื่อยผิดปกติ แถมทำหน้าเหมือนมีอะไรเกิดขึ้นอีก ‘เอ๋! เดี้ยวก่อนมีอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอ หรือว่า’

“โฮชิหรือว่า! ไอปัญญาอ่อนนั้นแต๊ะอั๋งเธอ รอเดี้ยวน่ะ ฉันจะรีบไปสั่งสอนมัน เอาแบบให้ตกนรกทั้งเป็น ยังดีซ่ะกว่า”

ริสตี้ทำสีหน้าขึงขัง นิ้วชี้ไปยังห้องพยาบาลข้างๆในทันที แถมยังมีเสียงนิ้วดัง ‘กร๊อป แกร๊ป’ เป็นระยะๆด้วย

“ไม่มีอะไรหรอกริสจัง แค่ช่วงนี้อากาศไม่ค่อยดีน่ะ เลยรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวเท่าไรน่ะ และดูท่าจะเป็นหวัดหน่อยๆล่ะ”

โฮชิพูดพลางส่ายมือไปมา เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นสภาพของนิลคงไม่น่าดูแน่

“แต่ก็แปลกน่ะโฮชิ เธอที่สามารถควบคุมลมได้จะเป็นหวัดน่ะ”

ริสตี้พูดแขวะเพื่อนรักของตัวเองเล็กน้อย พร้อมสีหน้าที่เซ็งสุดขีด

“แหม่ ริสจังล่ะก็ ฉันเพิ่งจะควบคุมความกดอากาศได้น่ะ ยังควบคุมอุณหภูมิไม่ได้ด้วยซ้ำ แล้วจะไปปรับสภาพอากาศให้ดีตลอดเวลาก็คงไม่ไหว”

โฮชิทำแก้มป่อง พลางกอดอกของตัวเอง ก่อนที่จะเชิดหน้าใส่อีกฝ่าย

เมื่อริสตี้เห็นดังนั้น จึงหัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะหยิบกระป๋องน้ำที่วางบนเคาเตอร์ข้างยืนให้อีกฝ่าย

“เอาน่า โฮชิแค่แซวเล่นๆไม่เห็นต้องโกรธกันเลย เอานี้ดื่มน้ำผลไม้กลั่นกันหน่อยมั้ย”

เมื่อโฮชิเห็นดังนั้นจึงทำหน้ามุ่ยหยิบกระป๋องขึ้นมา ก่อนที่จะกดปุ่มที่อยู่ด้านบนสุดของตัวกระป๋อง หลังจากที่กดช่องที่อยู่ด้านข้างก็เปิดออกในมันที

เมื่อเห็นดังนั้น ริสตี้จึงหยิบกระป๋องข้างๆขึ้นมาดื่มเช่นกัน

“ฉันไม่ค่อยชอบเลยน่ะ กับกระป๋องดีไซน์ยังงี้น่ะ”

ริสตี้พูดบ่นพลางดื่มน้ำส้มกลั่นของตัวเอง

“แล้วริสจังชอบแบบไหนเรอะ ดีไซน์อย่างนี้ก็ดีน่ะดื่มง่าย แถมกดปิดเพื่อเก็บได้ด้วยน่ะ”

โฮชิ ถามอีกฝ่ายด้วยสีหน้าสงสัย พลางยิ้มอย่างมีเลศนัย

เมื่อริสตี้เห็นสีหน้าของเพื่อนรักดังนั้น จึงยกซดน้ำส้มให้หมด เพื่อที่จะพูดกับอีกฝ่าย

“ก็แบบใหม่มันไม่มีหู เวลาเปิดแต่ละที มันไม่เร้าใจเลย”

ริสตี้โอชิพูดจบ พร้อมบีบกระป๋องเหล็กจนแหลกคามือ ก่อนที่จะปาลงถังขยะที่อยู่ด้านข้างในทันที

“ยังชอบความรุนแรงไม่เปลี่ยนเลยน่ะ เพราะยังงี้แหล่ะถึงยังหาแฟนไม่ได้สักที เนอะรีสจาง”

โฮชิพูดโดยเน้นคำพูดท้ายประโยค พลางเอามือขึ้นมาปิดปากตัวเอง

“เงียบน่าโฮชิ! ผู้ชายที่ฉันยอมรับน่ะ ต้องเก่งกว่าฉันเท่านั้นน่ะ ถ้ากระจอกกว่าก็เลิกหวังได้เลย”

ริสตี้พูดพลางทำท่าเท้าเอว พร้อมทำสีหน้าภาคภูมิใจ

โอชิส่ายหน้าให้กับนิสัยชอบความรุนแรงของอีกฝ่าย เพราะตั้งแต่ที่เธอกับริสตี้จับคู่ด้วยกัน ไม่เคยมีงานไหนที่ไม่ใช้ความรุนแรงทั้งนั้น ต่อให้เป็นงานเจรจาริสตี้ก็ชอบทำลายข้าวของเพื่อข่มขู่คู่เจรจาทุกครั้ง

“แล้วเธอล่ะโฮชิ ไม่เห็นมีแฟนกับเขาเลยสักคน ไม่ใช้ว่าเธอชอบกินเพศเดียวกันน่ะ”

ริสตี้พูดพลางเบนสายตา เพราะถ้าเทียบแล้ว พวกเธอทั้งสองคนก็ถือว่าสวยมาก ถึงเธอจะชอบใช้ความรุนแรง แต่หุ่นของเธอน่ะสวยไม่แพ้ไอดอลที่กำลังดังในช่วงนี้ด้วยซ้ำ ส่วนโฮชิเองก็สวยไม่แพ้กัน ทั้งสัดส่วนต่างๆรวมไปถึงหน้าอกหน้าใจที่ใหญ่ผิดปกตินั้นด้วย ถ้าไม่นับนิสัยเสียขี้เล่นมากเกินไปก็คงสมบูรณ์แบบทุกอย่างแล้ว

“โถ่! ริสจังที่ฉันพูดออกไปน่ะ เพราะเป็นห่วงริสจังที่เอาแต่ใช้ความรุนแรง แถมผู้ชายที่จะวิวาทแบบหนึ่งต่อหนึ่งชนะริสจังน่ะแทบไม่มีเลยน่ะ”

โฮชิพูดพลางยิ้มอ่อนให้อีกฝ่าย

ริสตี้เลยสวนกลับไป

“แล้วเธอล่ะขี้เล่นขนาดนั้น แล้ว! มีคนมาขอเป็นแฟนตั้งหลายคน โฮชิเธอเลือกใครหล่ะ”

โฮชิได้ยินดังนั้นจึงยิ้มขึ้นมา ก่อนที่จะเอานิ้วชี้ซ้ายแตะที่ริมฝีปากของตัวเอง

“ตัวฉันนั้นมีคนที่สนใจอยู่แล้วล่ะ แต่เป็นใครกันน่ะ”

โฮชิพูดพลางถามหน้าสงสัย

เมื่อเห็นสีหน้าอีกฝ่าย ริสตี้จึงได้แต่ถอนหายใจ

“เอาเถอะ ฉันไม่ถามแล้วก็ได้”

‘ถ้าเป็นอีหรอบนี้ ถามไปก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก’

ริสตี้คิดในใจ

 

“แล้วเจจังล่ะ ให้อยู่กับนิลคุงอย่างนั้นไม่เป็นไรหรอ”

“ไม่เป็นไรหรอก ฉันพอจะเชื่อคำพูดของอลันอยู่บ้าง”

ริสตี้พูดพลางทำสีหน้าเศร้า

เมื่อเห็นดังนั้นโฮชิจึงพูดเพื่อที่จะเปลี่ยนบรรยากาศสักหน่อย เพราะดูถ้าความเศร้าโศกจะกลืนกินบรรยากาศเมื่อครู่ไปแล้ว

“แล้วพวกวิลสันล่ะ จะเอายังไง”

เมื่อโฮชิได้ยินดังนั้น เธอจึงมองไปยังหน้าต่างด้านนอก ก่อนที่จะเสริมเล็กน้อย

“ฉันให้พวกมันไปยกของที่สั่งไว้แล้ว แถมรู้สึกว่าเมื่อตะกี้จะเกิดอะไรขึ้นสักอย่างที่ตลาด ถ้าเกิดอะไรกับพวกเราล่ะก็ ฉันจัดหนักทั้งคืนแน่”

“โธ่ๆ ริสจังนี้ล่ะก็”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+