P.Plan เส้นทางลิขิต ปฏิวัติโลก 320

Now you are reading P.Plan เส้นทางลิขิต ปฏิวัติโลก Chapter 320 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Time< Three Hundred Twentieth> ปราสาทหินดำกับเจ้าหญิงนิทราที่รอคอยเจ้าชาย

…………

……

….

.

“มืดมน…..” 

ปราสาทสีดำ แม้แต่ตัวเขาก็ยังมีสีดำสนิทอย่างกับว่าทุกอย่างทำจากหินออบซิเดียนที่มีของเหลวเหนียวสีดำเหนียวเหนอะหนะ

โลกสีดำที่เห็นแค่เส้นขอบที่สะท้อนแสงจึงจะสามารถแยกแยะด้วยตาเปล่า

“เท่าที่จำได้……ฉันถูกซา…..เซร่ากลืนเข้าไปในตัว”  นิลทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นให้ดีโดยไม่ให้ตัวเองเกิดภาพหลอนหรือไร เขามองสภาพแวดล้อมรอบตัวที่คิดว่าเป็นปราสาท แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่

หลังจากที่เขาถูกกลืนเข้าไปตัวซานะ สถานที่เขาอยู่ไม่ใช่ปราสาทสีดำ แต่เป็นโลกสีขาวที่ไม่มีอะไรเลย และนิลเห็นจักรกลสีขาวลอยอย่างโดดเดี่ยวใกล้ๆเขานี้เอง

ไม่รู้เป็นเพราะว่ามีความรู้สึกใกล้ชินกับอันส์จิสหรือเปล่า นิลจึงยื่นมือออกไปและเรียกชื่อ…

“เซร่า….”

อันส์จิสเซร่าตอบรับการเรียกขาน

เครื่องจักรสีขาวสยายปีกสีขาวที่ปล่อยละอองสีเหลืองออกและพุ่งเข้าหานิล

จากนั้นเขาจึงรู้ตัวว่าตัวเองกำลังเดินทางในปราสาทสีดำที่ทุกอย่างเป็นสีดำ ซึ่งอาจเป็นประสาทการมองเห็นของนิลเองที่เห็นทุกอย่างเป็นสีดำออบซิเดียน ไม่ใช่เป็นจริง

“คงต้องหาวิธีออกไป ก่อนหน้านั้นก็….” เขาพยายามทดสอบความสามารถของตัวเอง และอย่างแรกที่แน่ใจคือเขาไม่ได้หลับหรือฝัน

หรือว่าจะเป็นผังด้านในของปราสาท นิลนึกถึงด้านนอกปราสาทที่ดำสนิท แต่เขาที่ไม่ได้เห็นใกล้ๆจึงไม่แน่ใจว่านอกจากสีดำแล้วยังมีลักษณะเด่นอย่างอื่นเป็นเอกลักษณ์หรือเปล่า

“มิติปิด และก็มีมวลกับแรงดึงดูดสูง” เขาสรุปอีกสองจุด เขาสัมผัสมิติอื่นภายนอกปราสาทสีดำไม่ได้เลย ราวกับถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง ซึ่งอาจเป็นผลกระทบของอันส์จิสที่กลืนเขามาจนตัวเองเพ้อไปเอง ส่วนน้ำหนัก….

เขารู้สึกว่าตัวเองหนักขึ้นและเคลื่อนที่ได้เฉื่อยๆ แบบนี้ส่งผลต่อการระบบการทำงานในร่างกาย นิลคงออกแรงได้น้อยกว่าปกติจนกว่าเขาจะชิน

“คิดไรไร้สาระสิ้นดี” เขาเกาหัว เว้นแต่เขาจะสามารถเพิ่มความหนาแน่นของปริมาตรเม็ดเลือดได้ ซึ่งเขาทำมันไม่ได้ “ถ้ามีชุดปรับความดันก็ดี”

เขาไม่แน่ใจว่าชุดปรับความดันที่ช่วยทำให้สามารถเคลื่อนไหวในน้ำลึกที่ความดันสูงหรือบนเทือกเขาที่อากาศเบาบางจะใช้ได้ผลกับที่นี้

นิลไม่รู้โครงสร้างภายใน แถมเคลื่อนไหวลำบาก และตัวเองที่ปล่อยเมือกสีดำเหนียวยังทำให้เขาอารมณ์ไม่ดีอีก……..คงเป็นเพราะตัวเองปล่อยเนื้อปล่อยตัวสบายเกินไป จนชินชาสันหลังยาว หลังอยู่ภายใต้การดูแลของซานะนานเกินไปหน่อย

พอแบบนี้เขาก็คิดถึงครอบครัว ไอน์จะเป็นยังไงบ้างน่ะ คนอื่นจะไหวไหม….

‘มีนาระอยู่คงน่าจะรับมือโคโมเอะไหว หมอนั้นคนเดียวเก่งพอๆกับคนทั้งกองทัพที่มีจักรกลหนัก และยังมีอลันอีกคนที่อยู่ด้านนอกกับกองทัพแอนดรอยด์’

คิดตามปกติเขาก็คงคิดว่าพวกเราไม่มีทางแพ้ แต่พอลองนึกถึงว่าอีกฝ่ายคือโคโมเอะที่ไม่มีใครรู้ตื่นลึก เพราะหล่อนไม่สามารถเอาจริงได้ พลังที่แสดงคงไม่เต็มที่ ถ้าเกิดเซร่าปรับสภาพโลกกับร่างกายที่โคโมเอะสร้างสำเร็จ

โคโมเอะที่ใช้พลังเต็มร้อยสร้างปัญหาให้กับพี่คีรีสที่อยู่ในสภาพพร้อมรบแบบฟูลพาวเวอร์ หล่อนเป็นตัวตนที่อันตรายที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

“อลันอยู่ด้วยก็คงดีแหะ”

มีอลันช่วยวิเคราะห์สภาพแวดล้อมจะถือว่าช่วยได้มากและแก้ไขสถานการณ์ที่แย่ให้กลายเป็นดี เขาเชื่ออย่างนั้น แต่ตอนนี้เจ้าตัวคงลำบากกับการกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับโคโมเอะ และคงไม่มีโอกาสมา

ตัวนิลในตอนนี้ยังไม่รู้ อลันได้ส่งหุ่นแอนดรอยด์ส่วนหนึ่งบินเข้าไปในปราสาทก่อนที่เซร่าจะปิดกั้นปราสาทจากภายนอก

ปัญหาต่อไปที่เขากำลังต้องทำคือมุ่งหน้าในปราสาทสีดำ ตามหาและช่วยซานะจากเงื้อมมือของอันส์จิส

ภาพลักษณ์ของหล่อนถือว่าดีในสายของเขา ถึงช่วงนี้หล่อนทำตัวน่าขนลุกให้บรรยากาศแบบเดียวกับที่เขาพบกับทามะมิครั้งแรก

กระนั่นมันก็ไม่สามารถปฏิเสธถึงสิ่งดีๆที่เธอทำให้กับเขาและไอน์

ใจหนึ่งกังวลกับกลอุบายของคิซึเนะกับบรรยากาศอันวังเวงจนไม่อยากจะช่วย……………แต่ฉันมีภาระและมีบุญคุณที่ต้องทนแทน

“แต่…..เป็นเพราะซานะสนิทกับไอน์” นี้คือจุดที่สำคัญที่สุด

หลังจากที่นาตาเลียจากไป ไอน์ก็มักเอาแต่ร้องไห้เป็นประจำ และแม้ว่าเธอจะยิ้ม แต่รอยยิ้มของเด็กน้อยมีความเศร้าปนติดมาด้วย

เด็กหญิงคงรู้ลึกๆว่าจะไม่มีทางได้เจอกับแม่อีกต่อไป จนกลายเป็นรูในหัวใจที่ทำให้ไอน์ไม่สามารถยิ้มและหัวเราะได้อย่างเต็มอกเหมือนแต่ก่อน

ซานะเป็นคนอุดรอยรั่วในหัวใจไอน์ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้นิลรู้สึกยินดีถึงที่สุด ไอน์หัวเราะอยากมีความสุข การแสดงออกเริ่มเป็นไปในแง่บวก

ความเสียใจอาจมีบ้าง ปกติสำหรับที่คนเราจะยังเก็บความรู้สึกโหยหาไว้ในใจ

และแววตาตอนที่ไอน์มองซานะที่เริ่มเปลี่ยนไปนั่นแสดงความสับสน แต่พยายามเข้าใกล้ตลอดเวลา จนที่อันส์จิสเซร่าเผยตัวเอง ไอน์ยังอยากพยายามช่วยซานะ

เธอไม่อยากเสียซานะไปอีกคนเหมือนกับที่เสียนาตาเลีย

นิลจึงสาบานกับตัวเองว่าต้องพาซานะกลับไปหาไอน์ให้จงได้

วู๊บ!

เมือกสีดำเกิดสั่นไหว สิ่งมีชีวิตประหลาดก่อตัวจากเมือกบนพื้นกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณ์คล้ายกับรูปทรงเลขาคณิตประกอบกันเข้าโจมตีนิล

นิลตั้งท่า เขามองระบบป้องกันตัวของปราสาทที่เข้าโจมตีพลางถอนหายใจ

เขารับการพุ่งชนของมันเข้าตรงๆโดยไม่มีการป้องกัน สัตว์ทรงเลขาคณิตเปลี่ยนส่วนหัวให้กลายเป็นปีรามิดฐานสามเหลี่ยมหลายชั้นและหมุนเป็นสว่าน

“โอ๊ะ” นิลก้าวถอยหลังเขาหลบสว่านได้ทันหวุดหวิด แต่สัตว์ประหลาดไหวตัวทัน มันใช้แขนทรงเหลี่ยมจับตัวไว้และพยายามบดเขาเข้ากับหัวสว่านของมัน

การเสียดสีที่สามารถปั่นเหล็กกล้าให้กลายเป็นผุยผง………….

กร๊อบ!

นิลไม่เสียเวลาเล่นกับมันเขาเล็งแขนที่มันใช้จับและบิดออกจนเกิดเป็นช่องว่าง จากนั้นจึงสบโอกาสใช้แขล็อกช่วงอกมันไว้ข้างตัวและเข่าเข้าส่วนคอของมันเต็มๆจนคอหักและหัวขาด

เขาจับมันโยนกระแทกพื้นและกระหน่ำหมัดกับเท้าซัดมันทิ้งอย่างดิ้นอยู่จนแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ เมื่อมันสิ้นฤทธิ์จึงสลายตัวกลายเป็นเมือกสีดำเหมือนเดิม

จากนั้นเขาจึงเตะเศษหัวทรงปีรามิดที่ยังคงหมุดอยู่สัตว์เรขาคณิตที่กำลังสร้างตัวขึ้นมาจนหน้าหงาย

“รีบๆออกมาจะได้จบๆเรื่อง” เป็นเขาที่วิ่งเข้าใส่ อย่างที่ว่าเปิดก่อนย่อมได้เปรียบ

นิลกระโดดถีบตีนคู่เข้าอกของสัตว์ประหลาดที่กำลังออกจากพื้นจนตัวมันที่ยังคงยึดติดอยู่ถูกแรงถีบเข้าที่อกที่นิลทิ้งน้ำหนักสุดตัวจนตัวถูกฉีกจากกัน

ส่วนตัวที่อยู่ใกล้เคียงถูกนิลใช้มือสองข้างจับคอมันและเอาขาสองข้างเกี่ยวเหนือหัวไหล่มันไว้และออกแรงงัดจนดึงหัวมันขาดกระเด็น

‘หลังอุ่นเครื่องแล้ว พวกนี้ก็ไม่เท่าไร’ นิลพูดก่อนที่เขาจะรั่วหมัดเข้าลำตัวของสัตว์เรขาคณิตจนตัวมันยับยู่ยี่จนไม่เหลือเค้าเดิม และปิดท้ายด้วยการก้มตัวหลบการข่วนโจมตีจากตัวข้างหลังและอัพเปอร์คัต ร่างกายท่อนบนของมันถึงกับแตกกระจาย

ส่วนตัวที่อยู่ข้างหลัง นิลที่อาศัยแรงกระโดดชกหมุนตัวและเตะเข้าแขนที่มันยกขึ้นป้องกันลูกเตะตัดเฉียงลง

เมื่อลูกเตะเข้าถูกหยุดกลางอากาศ นิลไม่ปลอยให้มันจับขา เขาเป็นฝ่ายใช้มือจับแขนข้างที่มันใช้ป้องกันก่อนเป็นอันดับแรก และชกเข้าที่หัวไหล่ของมันจนแหว่งเข้าไปด้านใน

และทุบหัวกับแขนของมันไม่หยุด จนแขนของสัตว์เรขาคณิตอีกข้างที่ยังว่างสั่นสะเทือนทำอะไรไม่ได้ จนมันถูกนิลจับทุ่มจนตัวแตกเหมือนกับของเล่นเลโก้

“ตัวสุดท้าย” นิลกลิ้งตัวจับขาสัตว์เรขาคณิตที่มีสี่ขาก่อนที่จะฉีกมันเป็นชิ้นๆ

เขามองผลงานที่ค่อยๆกลายเป็นเมือกสีดำตามเดิม ก่อนที่จะเดินทางต่อไปในปราสาทวงกตแห่งนี้

อีกด้าน!!!

“ไม่ตรวจพบการเคลื่อนไหวของข้าศึก ทำการเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน” แอนดรอยด์รายงานก่อนที่จะดึงดาบความถี่สูงที่ปักทะลุจากหัวถึงบั้นท้ายของสัตว์ประหลาดที่มีรูปทรงเป็นรูปหลายเหลี่ยม

“ตรวจสอบการทำงานไม่สมบูรณ์……..ความต้องการ ตัวอย่าง…….ทำการสแกนหาอย่างต่อเนื่อง” แอนดรอยด์ส่งสัญญาณสื่อสารกันอย่างตะกุกตะกัก

พวกนางขาดการเชื่อมต่อจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิงทำให้ปฏิบัติตามโปรแกรมที่อลันร่างเอาไว้กรณีเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เพื่อตัวปัญญาประดิษฐ์สามารถคิดวิเคราะห์และตัดสินใจได้ในระดับหนึ่ง

กระนั่นยังคงมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องแก้ไข ตัวอลันจึงตั้งค่าให้เหล่าแอนดรอยด์สามารถเก็บข้อมูลที่ใช้ประมวลผล และเหลือพื้นที่ให้สะสมข้อมูลดิบไว้ด้วย

และเนื่องจากแอนดรอยด์เหล่านี้ใช้หวังลี้เป็นต้นแบบ (ด้วยการสแกนคลื่นสมองกับปฏิกิริยาอีเลเมนต์ตกค้าง) อลันจึงสามารถตั้งมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้พวกนางตกอยู่ในน้ำมือศัตรูได้ไม่ยากเย็น

[ทำให้ตายยังไงเขาก็ไม่มีเวลาในการแก้ไขช่องว่างในช่วงที่หวังลี้กับซานะถูกอันส์จิสสิง……..]

แต่ไม่ว่ายังไงก็ยังคงมีบัคจากสภาพแวดล้อมที่แตกต่างและสัญญาณรบกวนตลอดเวลา จนแอนดรอยด์หลายตนต้องประมวลผลการสื่อสารเผื่อกรณีมีสัญญาณแฝงของข้าศึกเข้ารบกวนระบบสื่อสารกับระบบประมวลผล

“มี…หวังลี้หลายคน” ซานะกล่าวอย่างเหม่อลอย เธอสัมผัสสิ่งที่คล้ายกับหวังลี้ได้หลายคน แต่เธอในสภาพที่เหมือนกับคนกำลังเพ้อฝัน ขาดความสามารถในแยกแยะว่าสิ่งที่เธอสัมผัสเจอเป็นหวังลี้ตัวจริงหรือกองทัพแอนดรอยด์เลียนแบบ

หวังลี้ตัวจริงถูกอลันนำไปวิจัยเพื่อหาข้อมูลอันมีค่า เมื่อรวมกับสมองของฟาร์โรกับนักวิจัยคนอื่นๆ พวกเขาอาจได้ผลลัพธ์ที่คลาดไม่ถึง

กระนั่นซานะจำลายละเอียดที่สำคัญได้ไม่หมด แม้ช่วงที่เธอถูกเซร่าสิงร่างจะเหมือนกับคนที่หลับลึก ความจริงหล่อนอยู่ในสภาพคล้ายกับคนที่กำลังหลับตาและอุดหูที่ใช้ฟังโดยไม่สนใจสภาพแวดล้อม

แน่นอนว่าอาจมีเสียงหรือภาพหลุดเข้าไปบ้าง แต่เซร่ากำลังกล่อมซานะด้วยสิ่งที่เธอชอบ เหมือนกับซานะกำลังดูทีวีซีรี่ย์กับฟังเพลงเสียงดัง จึงยากที่เธอจะสนใจคนที่พูดบ้างอย่างหรือเดินตัดหน้าก็ยากที่จะเรียกความสนใจในทันที

ดังนั้นซานะอาจจะคุ้นๆกับแอนดรอยด์รุ่นใหม่บ้าง แต่ไม่ถึงกับเอะใจในทันที เพราะอลันได้ดีไซน์แอนดรอยด์สำรวจต่อต้านอีเลเมนต์ให้คล้ายกับหวังลี้มากที่สุดเพื่อเอาไว้ขัดขวางการตัดสินใจของซานะที่เขามั่นใจแน่ชัดว่าเป็นศัตรูทางการเมือง

“ก่อนหน้าต้องพาไปยังจุดนี้” ซานะพยายามต้อนหวังลี้ทุกคนไปยังตำแหน่งที่เธอระบุไว้ให้หวังลี้ประจำการโดยเฉพาะ

ปราสาทแห่งนี้เป็นสุดยอดผลงานที่เธอใช้ความรู้ทั้งหมดที่เธอมีในการดีไซน์จนกลายเป็นปราสาทที่มีระบบฟิสิกส์เชิงมิติเป็นเอกเทศและเมื่อเริ่มทำการแล้วจะตัดขาดกับโลกภายนอกทั้งหมด

ภายนอกยังคงเป็นปราสาทสีดำลอยอยู่ลางๆ แต่ในความเป็นจริงเป็นเหมือนกับเงาสะท้อนหรือปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำ คนที่มองจากมุมที่ต่างกันจะเห็นสายรุ้งหรือภาพสะท้อนคนละตำแหน่งกัน

ความเป็นจริงเซร่าเป็นคนหลอกล่อการตัดสินใจของซานะ จากปณิธานของทามะมิที่อยากให้ลูกสาวกับวงศ์วานอยู่รอดและยิ่งใหญ่ ความต้องการที่ซานะสืบทอดมาในตำแหน่งผู้นำในโลกของนิลถูกบิดเบี้ยวด้วยความต้องการของเซร่าเอง

ปราสาทสีดำที่เป็นโลกที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับทุกสิ่งและสามารถแพร่กระจายตัวต้นของโลกใส่โลกอื่นที่สัมผัสเพื่อความยิ่งใหญ่ในภายภาคหน้า

ถ้าเซร่าสามารถต่อยอดและใช้มันได้อย่างสมบูรณ์เมื่อใด กองทัพอันส์จิสที่หลับใหลจะสามารถฟื้นคืนชีพในปราสาทสีดำแห่งนี้ และจบสงครามอันแสนยืดเยื้อเสียที

เซร่าเชื่อว่าเธอจะฟื้นพลังที่เสียไปกลับคืนมาและวิวัฒนาการขึ้นไปอีกครั้งจนเอาชนะศัตรูคู่อาฆาตและกำจัดเสี้ยนหนามอย่างเหยินหวางได้ในที่สุด (แม้ว่าเหยินหวางไม่มีความคิดที่จะสู้และไม่สนใจกับแนวคิดอันคับแคบของเธอก็ตาม)

“ทำไม…ทำไม…ฉันไม่เข้าใจ” ซานะส่ายหน้า เธอพยายามสั่งการหวังลี้ให้ไปประจำตำแหน่งที่เซ็ต แต่ว่าเหล่าหวังลี้ไม่ทำตามที่เธอบอก ซ้ำบางคนยังปฏิเสธคำสั่งของเธอจนแม้แต่ตัวซานะก็เริ่มไปไม่เป็น

“ทำไมหวังลี้ถึงไม่ฟังฉัน….” ซานะเชื่อมันในตัวหวังลี้มาก เธอในปัจจุบันที่ถูกเซร่าปั่นหัวเชื่อใจเพียงแค่หวังลี้เพียงคนเดียวโดยไม่นึกถึงคิสึเนะคนอื่น แม้แต่โทโกะกับโทโทะที่อยู่กับทามะมิก็ไม่อยู่ในสายตาของหล่อน

‘เราขอปฏิเสธ’

‘คุณคือศัตรู’

“ทำไมกัน” ซานะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ทำไมกันทามะมิ หรือว่าเธอเองก็ทอดทิ้งฉัน”

เธอเริ่มโกรธ หัวใจเธอที่ว่างเปล่าบอบช้ำอย่างหนัก ความว้าเหว่ในหัวใจของซานะกัดกร่อนหัวใจที่เปราะบาง…………

“อภัยให้ไม่ได้!!!!!”

ครืน!!!

“อะไรหว่า….” นิลที่จ้ำยกเท้าสูงได้ยินเสียงที่น่าจะเป็นเสียงผู้หญิงสั่นเครือก้องกังวาน เขาถึงกับเผลอทิ้งขาจนเหยียบจมกองเมือกสีดำเต็มข้อเท้า หลังจากที่เขาพบว่ามีเมือกสีดำปูดออกจากพื้นกับเพดานรวมถึงกำแพงด้วย

น่าแปลกที่เมือกพวกนี้มันไหลมากองรวมกันแต่กลับแค่ปูดออกมาเฉยๆ ส่วนที่ปูดออกมายึดติดกับพื้นผิวอย่างเหนียวแน่นทำให้นิลต้องเดินอย่างยากลำบากมาก

ครืน!

ขานิลจมลึกลงไปอีก และเมือกนั้นอยู่สูงถึงน่องของเขาแล้ว

“เวรล่ะสิ” นอกจากเมือกที่เหมือนกับว่าเขาจมลงไปในพื้น บนร่างกายนิลมีเมือกจำนวนมากผุดปกคลุมร่างกายจนรู้สึกไม่สบายตามเนื้อตัว และที่เจ็บแสบที่สุดคือดวงตาเองก็มีเมือกปกคลุมเช่นกัน

ถึงว่าเขาจะมองเห็นโลกออบซิเดียนเช่นเดิม แต่เขารู้สึกระคายเคืองมาก เพราะดวงตาเป็นอวัยวะที่เปราะบางถึงที่สุด การที่รู้สึกเหมือนมีของเหลวแปลกๆกดตาตลอดเวลามันรู้สึกแย่มาก

“…ห…..พ…….ด..”

นิลได้ยินเสียงผู้หญิงอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่เสียงที่เขารู้สึกว่าคิดไปเอง เสียงนี้เขาคุ้นเคย ถ้าคนอื่นยังเห็นสีหน้าเขาคงต้องบอกว่าเขาในตอนนี้ซีเรียสมาก

“ให้……..ไม่…….”

“โดโรธี?” นิลหรี่ตา เขาจำเสียงนี้ได้และไม่เคยลืมเสียงนี้เลย

เสียงของโดโรธีที่เขาช่วยเอาไว้ไม่ได้ หญิงสาวที่หายไปกับม่านหมอกสีขาวในโรงงานกลางพายุหิมะ ตัวเองพยายามเงี่ยหูและโฟกัสแค่การฟังเสียงเพื่อเอาให้แน่ใจ

‘โดโรธี……..โคโมเอะ….และก็……ฉันนึกไม่ออก’

นิลจำอีกคนไม่ออกว่าเป็นใครที่อยู่ในโรงงานอีกคน เขาไม่รู้อีกคนคือทามะมิ และเขาไม่รู้ว่าทามะมิใช้ร่างกายของโดโรธีเป็นร่างภาชนะให้ซานะ และแม้แต่ตอนนี้ส่วนหนึ่งของตัวตนของซานะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับโดโรธี

และเสียงของโดโรธีดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เสียงเธอเต็มไปด้วยความโกรธแค้น และเมือกสีดำสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงตอบสนองกับอารมณ์ที่โกรธจัด

“ให้อภัยไม่ได้”

“โดโรธี!!!!” นิลตะโกนก่อนที่เขาจะถูกแรงสั่นสะเทือนของเมือกดำกดจนจมลงไป เขาพยายามตะเกียดตะกายภายใต้เมือกดำที่สั่นสะเทือนจนเขาชาไปทั้งตัว

‘แย่ละสิ แบบนี้ไม่รู้ทิศทางแน่!!!’ เขายังสามารถหายใจในเมือกดำได้แบบเดียวกับที่เขาสามารถหายใจในปราสาทพิศวง แต่ความเป็นจริงเขาค้ำทางไม่ถูก

ถ้าให้พูดว่าเขารู้สึกยังไง คงต้องบอกว่าตัวนิลเหมือนกับถูกลดขนาดร่างกายจนเหลือเท่ายางลบและถูกหย่อนลงชักโครกพร้อมกดน้ำ

“ฉัน…ต้องหาอะไรก็ได้!!!!” เขาต้องหาจับไม่งั้นเขาจะหาทิศทางไม่ถูก จนกระทั้งมือเขาไปจับโดนสิ่งหนึ่งเขา “อะไร?”

“ตรวจพบสัญญาณชีวิต ทำการประมวลผล……เจอ……นิล ค้นพบหนึ่งในเป้าหมายภารกิจ… ทำการกู้ชีพ!!!!” แอนดรอยด์ที่ถูกนิลคว้าไว้งอกแขนกับขาเพิ่มอีกหลายคู่ก่อนที่จะล็อกตามจุดต่างๆก่อนที่จะปล่อยสัญญาณให้กับแอนดรอยด์ทุกตนในรัศมีใกล้เคียง

นิลที่ยังเห็นทุกอย่างแจ่มชัดแม้ว่าจะมีเมือกเกาะตา “หุ่นยนต์……แอนดรอยด์หวังลี้? นึกว่าหลุดมาคนเดียวซ่ะอีก” ตัวเองรู้สึกโล่งใจ

แต่สักพักเขากับหน้าซีด เนื่องจากหุ่นแอนดรอยด์เริ่มจะรวมร่างกับเขาด้วยการถอนชิ้นส่วนและไปประกบแขนกับขาทำให้นิลเหมือนกับคนที่ถูกตรึงไม้กางเขนยังไงอย่างนั้น

และเหมือนว่าเขาจะไม่ต้องทุกข์ทรมานนานกว่านี้ แอนดรอยด์ใกล้เคียงอีกหกเครื่องว่ายเกาะกลุ่มมายังตำแหน่งเขาอย่างช้าๆสร้างความประหลาดใจให้กับนิลที่กำลังจมเมือก

“ทำไมพวกเธอถึงไม่รับผลกระทบจากเมือก”

ทางหุ่นแอนดรอยด์จึงวิเคราะห์ลำดับความสำคัญของข้อมูลภารกิจกับฐานข้อมูลของนิลเพื่อเช็คว่าสมควรจะอธิบายให้เขาฟังหรือไม่

“จากการวิเคราะห์รหัสการเข้าถึง C-2 ทำการยืนยันรหัสการเข้าถึงอีกครั้ง” นางยืนยันก่อนที่จะหมุนตัว 180 องศามาตอบคำถามให้หายข้องใจ

“พวกเราติดตั้งระบบต่อต้านเชิงมิติขนาดเล็กสำหรับต่อต้านปรากฏการณ์เชิงมิติที่ผิดปกติ”

“อะไรน่ะ! นี้พวกเธอจะบอกว่าพวกเธอสร้างโลกขนาดจิ๋วเหรอ!!!? อ๊อก! แค่กๆ” นิลตะโกนก่อนที่เขาจะบ้วนเมือกดำที่ลงคอไปเป็นจำนวนมากออกไป

“คำถามนี้อยู่นอกเหนือการเข้าถึง เราจึงทำการปฏิเสธคำขอนี้ จนกว่าจะมีการให้อนุญาตเข้าถึงในระดับ B-1 เราจักไม่ตอบคำถามของคุณ” แอนดรอยด์ตอบ

“แล้วไป” นิลบ้วนเมือกดำก่อนที่จะสังเกตว่าสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปอีกแล้ว “เอ๊ะ! สงบแล้วนี้ และสีเองก็…”

เมือกดำที่สั่นสะเทือนสลายไปราวกับว่าถูกพื้นดูดซึมและโลกสีดำออบซิเดียนเริ่มมีเฉดสีเด่นชัน จนเขาเริ่มสามารถแยกแยะสีได้อย่างชัดเจน

นิลกลับมาเห็นสีต่างๆตามปกติอีกครั้ง และเขาเห็นแอนดรอยด์พูดรายงานสภาพแวดล้อมเหมือนกับนักสำรวจถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมอย่างฉับพลันจนเขาไปได้ยินคำพูดของแอนดรอยด์พูดถึงการปฏิเสธคำสั่งของซานะที่พยายามออกคำสั่งให้กับพวกเธอก่อนที่สภาพแวดล้อมจะเปลี่ยนไปในทางลบ

‘หรือว่าพวกหุ่นกระป๋องจะทำให้ซานะโกรธ’ นิลคิดว่าความคิดนี้น่าจะเป็นไปได้สูง หากซานะที่ยังถูกเซร่าบงการอยู่ขาดการคิดวิเคราะห์และทำตามที่ถูกเซร่าบอกจึงไม่แปลกที่หล่อนจะเกิดโกรธและเสกสภาพแวดล้อมอันวิปริต

“อย่างน้อยต้องรีบหาตำแหน่งของซานะให้เจอ” เขามองเพดานกับพื้นที่เหยียบ และมองไปยังแอนดรอยด์อีกกลุ่มที่เดินบนเพดานซึ่งน่าจะเป็นไปได้เพราะแรงดึงดูดตามสภาพพื้นผิวแบบที่เขารู้แล้ว

แต่ละคนจึงเหมือนกับเดินในเขาวงกตตามแนวต่างๆ

“ซานะเธออยู่ที่ไหน…….โดโรธีเธอยังไม่ตายใช่ไหม?” นิลพูดด้วยน้ำเสียงคิดถึง ก่อนที่จะตบหน้าตัวเอง “ไอเวรเอย! แกเป็นคนมีครอบครัวแล้วน่ะโว้ย”

เขาเช็ดเลือดที่มุมปาก “เลือดสีแดง อย่างน้อยก็กลับมาเห็นสีละโว้ย” ถึงเขาจะสมเพชตัวเองที่ไปนึกถึงผู้หญิงทั้งที่ตัวเองเป็นคนมีครอบครัว แต่โลกที่ได้สีกลับมามันช่วยแบ่งเบาภาระทางใจได้บ้าง

แต่คำพูดที่ไม่ใส่ใจสังคมและว่ากล่าวตักเตือนตัวเองของนิลได้เข้าหูของซานะอย่างจัง และเธอกำลังตกใจมากกับสิ่งที่เธอได้ยิน

‘เขาคือใคร?’ ซานะที่จำนิลไม่ได้ทำได้เพียงสงสัยที่หวังลี้ไปช่วยชายคนหนึ่งที่มาจากไหนไม่รู้ และเธอทำได้แค่สงสัยว่าทำไมเขาถึงอยู่ในปราสาทของเธอทั้งที่เธอไม่มีความทรงจำว่าเชิญเขาเข้ามา

การสงสัยทำให้สภาพแวดล้อมที่เธอสั่งให้โจมตีหวังลี้สงบลงและเธอหันไปสนใจความมั่นคงของมิติของปราสาทแทน

“ไม่มีอะไรผิดปกติ” ซานะยิ่งสงสัยเข้าไปอีก เธอจึงให้ความสนใจนิลทุกระเบียบนิ้ว เนื่องจากเธอสร้างปราสาทที่เปรียบเสมือนโลกนี้ขึ้นมา เธอจึงสามารถตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดได้ในทันที และได้ยินเสียงที่นิลกับหวังลี้พูดแบบเรียลไทม์

“โดโรธี”

“ซานะเธออยู่ที่ไหน…….โดโรธีเธอยังไม่ตายใช่ไหม?”

เธอที่ไล่อ่านข้อมูลที่ผ่านมาของปราสาทได้ยินเสียงของชายที่ชื่อว่านิลเรียกชื่อโดโรธีและได้ยินที่เขาพูดถึงซานะกับโดโรธีอีกตั้งหาก

“นะ….นิล!?” ซานะเริ่มจำชายที่เธอกำลังเฝ้ามอง และเธอหันไปมองหวังลี้คนอื่นที่เริ่มมาร่วมตัวกัน “นี้มันแอนดรอยด์โมเดลของอลัน ไม่ใช่หวังลี้… ใช่แล้วไม่ใช่หวังลี้!!!”

เธอกะพริบตาและรีบขยี้ตา “ใช่….นี้เป็นหนึ่งสนซีรี่ย์ที่อลันใช้หวังลี้เป็นต้นแบบในการผลิต” ถึงดีไซน์กับฟังก์ชันจะแตกต่างกับเธอรู้จัก แต่มีแค่อลันเท่านั้นที่สามารถสร้างแอนดรอยด์หวังลี้แบบผลิตจำนวนมากสำหรับไว้ใช้งานจริง

ซานะลองเช็คภายในปราสาทโดยละเอียด คราวนี้เธอได้ตัวเลขที่แน่นอน

“แอนดรอยด์หวังลี้ถูกทำลายไป 9 เครื่อง เดียวก่อนๆ” ซานะอ่านข้อมูลโดยละเอียดอีกที “อือ….ถูกทำลาย 14 เครื่อง แต่ได้รับการซ่อมบำรุงกับเก็บกู้อะไหล่จนที่หมดสภาพคือ 9 เครื่อง”

เธอดูเหตุการณ์ที่ผ่านมาเหมือนกับวิดีโอที่กรอกลับ เธอเห็นแอนดรอย์ที่ได้รับความเสียหายหลังเข้ามาในปราสาทของเธอ มีหลายเครื่องที่ได้รับความเสียหายกับถูกทำลาย

ปัญหาเรื่องขาดวัสดุในการผลิตทำให้อลันกับฟารโรป่วยหัว จนในที่สุดพวกเขาได้ใช้วิธีพื้นบ้านแทน ด้วยการดีไซน์ให้พวกนางสามารถเก็บกู้อะไหล่และซ่อมแซมกันเองเพื่อลดงบประมาณและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานในระยะยาว

ผลคือแอนดรอยด์หลายเครื่องมีรูปทรงประหลาด อย่างมีหัวมากกว่าหนึ่งหัว, แขนมากกว่าสองแขนที่ดูไม่สมมาตรกัน หรือแอนดรอยด์ที่ลักษณะเหมือนกับเอาร่างกายหลายท่อนมาประกอบกันยังกับมนุษย์ตะขาบตัวเป็นข้อยืนสองขา

“นี้น่าจะเป็นหน่วยเก็บกู้” ซานะพยักหน้า ถ้าเธอดีไซน์หุ่น เธอคงตั้งค่าให้หนึ่งในนั้นทำหน้าที่เป็นช่างเครื่องมีหน้าที่เก็บอะไหล่สำรองหรือชิ้นส่วนพวกพ้องที่เสียหายไว้ใช้งานภาคสนาม

‘ความทรงจำฉันไม่ชัดเจน…….ตกลง…ฉันคือซานะหรือเปล่า’ ซานะคิดในใจ ความทรงจำของเธอมันขาดตอน มีบางจุดที่หายไปและไม่เข้ากับเหตุการณ์กับการรับรู้ที่เกิดขึ้น

การได้เห็นกองทัพแอนดรอยด์กับได้ยินเสียงนิลช่วยปลุกจิตใต้สำนึกของซานะให้กลับมา แต่แค่ชั่วคราว ซานะยังไม่แน่ใจว่าตกลงแล้วเธอคือใครหรือมีเป้าหมายใดๆที่ชัดเจน

‘เธอได้สติกลับคืนมาส่วนหนึ่ง…….แต่ไม่เป็นไร ฉันเจอตัวเธอแล้วนิล’

เซร่าลืมตาขึ้น……. ร่างกายโลหะสีขาวของเธอสยายปีกก่อนที่ร่อนลงจากท้องฟ้าในสภาพกลับหัว

นิลเป็นคนแรกที่สัมผัสตัวตนของเซร่า เขาถึงกับมองตำแหน่งที่เซร่าเจาะมิติเป็นคนแรกก่อนไม่กี่วินาทีด้วยซ้ำ

“ที่นี้….ยังกับลานประหาร” นิลเช็ดปากก่อนที่จะบอกกับแอนดรอยด์ตนอื่น “พวกเธอหนีไปซ่ะ!!!”

“ขอปฏิเสธ” แอนดรอยด์ที่อยู่ใกล้ที่สุดปฏิเสธนิลทันที

“มันจะปฏิเสธฉันทุกงานเลยหรือไงกัน….”

“เพราะว่าคุณโง่”

“ขอโทษ” นิลได้ยินทีถึงกับหมดไฟ ‘แต่ที่จริง การมีตัวช่วยมาสู้แบบนี้เราคงมีโอกาสรอดไปถึงซานะ…..ไม่ เราต้องใช้โอกาสนี้แหล่ะปลุกซานะให้ตื่น’

เมื่อตัดสินใจดังนั้นเขาจึงนึกอะไรดีๆออก

ทางเซร่าเองเหมือนจะเข้าใจว่านิลคิดอะไรแผลงๆจนแม้แต่เธอยังรู้สึกขวัญผวา จนความรู้สึกกลัวลึกที่ก่อตัวในจิตใจแปรเปลี่ยนเป็นความอยากฆ่า

‘ถ้าทางฉันจะอยู่ใกล้กับมนุษย์นานเกินไป ต้องรีบฆ่านิลก่อนที่ความรู้สึกของมนุษย์จะรบกวนตัวตนของฉัน’

นี้คือสิ่งที่เซร่ากังวล หากเธอเข้าใจมนุษย์จนสืบทอดอารมณ์ของมนุษย์มา มันจะทำให้เธอได้รับจุดอ่อนของมนุษย์เข้ามาด้วย

ความอ่อนแอ ความบกพร่อง และความไม่สมบูรณ์ของมนุษย์จะทำลายตัวเอง เฉกเช่นทุกครั้งที่ข้อมูลสรุปผล

แม้ว่าการต่อสู้หลังจากนี้จะเปลี่ยนแนวทางการคิดของเธอไปโดยสิ้นเชิงก็ตาม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

P.Plan เส้นทางลิขิต ปฏิวัติโลก 320

Now you are reading P.Plan เส้นทางลิขิต ปฏิวัติโลก Chapter 320 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Time< Three Hundred Twentieth> ปราสาทหินดำกับเจ้าหญิงนิทราที่รอคอยเจ้าชาย

…………

……

….

.

“มืดมน…..” 

ปราสาทสีดำ แม้แต่ตัวเขาก็ยังมีสีดำสนิทอย่างกับว่าทุกอย่างทำจากหินออบซิเดียนที่มีของเหลวเหนียวสีดำเหนียวเหนอะหนะ

โลกสีดำที่เห็นแค่เส้นขอบที่สะท้อนแสงจึงจะสามารถแยกแยะด้วยตาเปล่า

“เท่าที่จำได้……ฉันถูกซา…..เซร่ากลืนเข้าไปในตัว”  นิลทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นให้ดีโดยไม่ให้ตัวเองเกิดภาพหลอนหรือไร เขามองสภาพแวดล้อมรอบตัวที่คิดว่าเป็นปราสาท แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่

หลังจากที่เขาถูกกลืนเข้าไปตัวซานะ สถานที่เขาอยู่ไม่ใช่ปราสาทสีดำ แต่เป็นโลกสีขาวที่ไม่มีอะไรเลย และนิลเห็นจักรกลสีขาวลอยอย่างโดดเดี่ยวใกล้ๆเขานี้เอง

ไม่รู้เป็นเพราะว่ามีความรู้สึกใกล้ชินกับอันส์จิสหรือเปล่า นิลจึงยื่นมือออกไปและเรียกชื่อ…

“เซร่า….”

อันส์จิสเซร่าตอบรับการเรียกขาน

เครื่องจักรสีขาวสยายปีกสีขาวที่ปล่อยละอองสีเหลืองออกและพุ่งเข้าหานิล

จากนั้นเขาจึงรู้ตัวว่าตัวเองกำลังเดินทางในปราสาทสีดำที่ทุกอย่างเป็นสีดำ ซึ่งอาจเป็นประสาทการมองเห็นของนิลเองที่เห็นทุกอย่างเป็นสีดำออบซิเดียน ไม่ใช่เป็นจริง

“คงต้องหาวิธีออกไป ก่อนหน้านั้นก็….” เขาพยายามทดสอบความสามารถของตัวเอง และอย่างแรกที่แน่ใจคือเขาไม่ได้หลับหรือฝัน

หรือว่าจะเป็นผังด้านในของปราสาท นิลนึกถึงด้านนอกปราสาทที่ดำสนิท แต่เขาที่ไม่ได้เห็นใกล้ๆจึงไม่แน่ใจว่านอกจากสีดำแล้วยังมีลักษณะเด่นอย่างอื่นเป็นเอกลักษณ์หรือเปล่า

“มิติปิด และก็มีมวลกับแรงดึงดูดสูง” เขาสรุปอีกสองจุด เขาสัมผัสมิติอื่นภายนอกปราสาทสีดำไม่ได้เลย ราวกับถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง ซึ่งอาจเป็นผลกระทบของอันส์จิสที่กลืนเขามาจนตัวเองเพ้อไปเอง ส่วนน้ำหนัก….

เขารู้สึกว่าตัวเองหนักขึ้นและเคลื่อนที่ได้เฉื่อยๆ แบบนี้ส่งผลต่อการระบบการทำงานในร่างกาย นิลคงออกแรงได้น้อยกว่าปกติจนกว่าเขาจะชิน

“คิดไรไร้สาระสิ้นดี” เขาเกาหัว เว้นแต่เขาจะสามารถเพิ่มความหนาแน่นของปริมาตรเม็ดเลือดได้ ซึ่งเขาทำมันไม่ได้ “ถ้ามีชุดปรับความดันก็ดี”

เขาไม่แน่ใจว่าชุดปรับความดันที่ช่วยทำให้สามารถเคลื่อนไหวในน้ำลึกที่ความดันสูงหรือบนเทือกเขาที่อากาศเบาบางจะใช้ได้ผลกับที่นี้

นิลไม่รู้โครงสร้างภายใน แถมเคลื่อนไหวลำบาก และตัวเองที่ปล่อยเมือกสีดำเหนียวยังทำให้เขาอารมณ์ไม่ดีอีก……..คงเป็นเพราะตัวเองปล่อยเนื้อปล่อยตัวสบายเกินไป จนชินชาสันหลังยาว หลังอยู่ภายใต้การดูแลของซานะนานเกินไปหน่อย

พอแบบนี้เขาก็คิดถึงครอบครัว ไอน์จะเป็นยังไงบ้างน่ะ คนอื่นจะไหวไหม….

‘มีนาระอยู่คงน่าจะรับมือโคโมเอะไหว หมอนั้นคนเดียวเก่งพอๆกับคนทั้งกองทัพที่มีจักรกลหนัก และยังมีอลันอีกคนที่อยู่ด้านนอกกับกองทัพแอนดรอยด์’

คิดตามปกติเขาก็คงคิดว่าพวกเราไม่มีทางแพ้ แต่พอลองนึกถึงว่าอีกฝ่ายคือโคโมเอะที่ไม่มีใครรู้ตื่นลึก เพราะหล่อนไม่สามารถเอาจริงได้ พลังที่แสดงคงไม่เต็มที่ ถ้าเกิดเซร่าปรับสภาพโลกกับร่างกายที่โคโมเอะสร้างสำเร็จ

โคโมเอะที่ใช้พลังเต็มร้อยสร้างปัญหาให้กับพี่คีรีสที่อยู่ในสภาพพร้อมรบแบบฟูลพาวเวอร์ หล่อนเป็นตัวตนที่อันตรายที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

“อลันอยู่ด้วยก็คงดีแหะ”

มีอลันช่วยวิเคราะห์สภาพแวดล้อมจะถือว่าช่วยได้มากและแก้ไขสถานการณ์ที่แย่ให้กลายเป็นดี เขาเชื่ออย่างนั้น แต่ตอนนี้เจ้าตัวคงลำบากกับการกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับโคโมเอะ และคงไม่มีโอกาสมา

ตัวนิลในตอนนี้ยังไม่รู้ อลันได้ส่งหุ่นแอนดรอยด์ส่วนหนึ่งบินเข้าไปในปราสาทก่อนที่เซร่าจะปิดกั้นปราสาทจากภายนอก

ปัญหาต่อไปที่เขากำลังต้องทำคือมุ่งหน้าในปราสาทสีดำ ตามหาและช่วยซานะจากเงื้อมมือของอันส์จิส

ภาพลักษณ์ของหล่อนถือว่าดีในสายของเขา ถึงช่วงนี้หล่อนทำตัวน่าขนลุกให้บรรยากาศแบบเดียวกับที่เขาพบกับทามะมิครั้งแรก

กระนั่นมันก็ไม่สามารถปฏิเสธถึงสิ่งดีๆที่เธอทำให้กับเขาและไอน์

ใจหนึ่งกังวลกับกลอุบายของคิซึเนะกับบรรยากาศอันวังเวงจนไม่อยากจะช่วย……………แต่ฉันมีภาระและมีบุญคุณที่ต้องทนแทน

“แต่…..เป็นเพราะซานะสนิทกับไอน์” นี้คือจุดที่สำคัญที่สุด

หลังจากที่นาตาเลียจากไป ไอน์ก็มักเอาแต่ร้องไห้เป็นประจำ และแม้ว่าเธอจะยิ้ม แต่รอยยิ้มของเด็กน้อยมีความเศร้าปนติดมาด้วย

เด็กหญิงคงรู้ลึกๆว่าจะไม่มีทางได้เจอกับแม่อีกต่อไป จนกลายเป็นรูในหัวใจที่ทำให้ไอน์ไม่สามารถยิ้มและหัวเราะได้อย่างเต็มอกเหมือนแต่ก่อน

ซานะเป็นคนอุดรอยรั่วในหัวใจไอน์ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้นิลรู้สึกยินดีถึงที่สุด ไอน์หัวเราะอยากมีความสุข การแสดงออกเริ่มเป็นไปในแง่บวก

ความเสียใจอาจมีบ้าง ปกติสำหรับที่คนเราจะยังเก็บความรู้สึกโหยหาไว้ในใจ

และแววตาตอนที่ไอน์มองซานะที่เริ่มเปลี่ยนไปนั่นแสดงความสับสน แต่พยายามเข้าใกล้ตลอดเวลา จนที่อันส์จิสเซร่าเผยตัวเอง ไอน์ยังอยากพยายามช่วยซานะ

เธอไม่อยากเสียซานะไปอีกคนเหมือนกับที่เสียนาตาเลีย

นิลจึงสาบานกับตัวเองว่าต้องพาซานะกลับไปหาไอน์ให้จงได้

วู๊บ!

เมือกสีดำเกิดสั่นไหว สิ่งมีชีวิตประหลาดก่อตัวจากเมือกบนพื้นกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณ์คล้ายกับรูปทรงเลขาคณิตประกอบกันเข้าโจมตีนิล

นิลตั้งท่า เขามองระบบป้องกันตัวของปราสาทที่เข้าโจมตีพลางถอนหายใจ

เขารับการพุ่งชนของมันเข้าตรงๆโดยไม่มีการป้องกัน สัตว์ทรงเลขาคณิตเปลี่ยนส่วนหัวให้กลายเป็นปีรามิดฐานสามเหลี่ยมหลายชั้นและหมุนเป็นสว่าน

“โอ๊ะ” นิลก้าวถอยหลังเขาหลบสว่านได้ทันหวุดหวิด แต่สัตว์ประหลาดไหวตัวทัน มันใช้แขนทรงเหลี่ยมจับตัวไว้และพยายามบดเขาเข้ากับหัวสว่านของมัน

การเสียดสีที่สามารถปั่นเหล็กกล้าให้กลายเป็นผุยผง………….

กร๊อบ!

นิลไม่เสียเวลาเล่นกับมันเขาเล็งแขนที่มันใช้จับและบิดออกจนเกิดเป็นช่องว่าง จากนั้นจึงสบโอกาสใช้แขล็อกช่วงอกมันไว้ข้างตัวและเข่าเข้าส่วนคอของมันเต็มๆจนคอหักและหัวขาด

เขาจับมันโยนกระแทกพื้นและกระหน่ำหมัดกับเท้าซัดมันทิ้งอย่างดิ้นอยู่จนแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ เมื่อมันสิ้นฤทธิ์จึงสลายตัวกลายเป็นเมือกสีดำเหมือนเดิม

จากนั้นเขาจึงเตะเศษหัวทรงปีรามิดที่ยังคงหมุดอยู่สัตว์เรขาคณิตที่กำลังสร้างตัวขึ้นมาจนหน้าหงาย

“รีบๆออกมาจะได้จบๆเรื่อง” เป็นเขาที่วิ่งเข้าใส่ อย่างที่ว่าเปิดก่อนย่อมได้เปรียบ

นิลกระโดดถีบตีนคู่เข้าอกของสัตว์ประหลาดที่กำลังออกจากพื้นจนตัวมันที่ยังคงยึดติดอยู่ถูกแรงถีบเข้าที่อกที่นิลทิ้งน้ำหนักสุดตัวจนตัวถูกฉีกจากกัน

ส่วนตัวที่อยู่ใกล้เคียงถูกนิลใช้มือสองข้างจับคอมันและเอาขาสองข้างเกี่ยวเหนือหัวไหล่มันไว้และออกแรงงัดจนดึงหัวมันขาดกระเด็น

‘หลังอุ่นเครื่องแล้ว พวกนี้ก็ไม่เท่าไร’ นิลพูดก่อนที่เขาจะรั่วหมัดเข้าลำตัวของสัตว์เรขาคณิตจนตัวมันยับยู่ยี่จนไม่เหลือเค้าเดิม และปิดท้ายด้วยการก้มตัวหลบการข่วนโจมตีจากตัวข้างหลังและอัพเปอร์คัต ร่างกายท่อนบนของมันถึงกับแตกกระจาย

ส่วนตัวที่อยู่ข้างหลัง นิลที่อาศัยแรงกระโดดชกหมุนตัวและเตะเข้าแขนที่มันยกขึ้นป้องกันลูกเตะตัดเฉียงลง

เมื่อลูกเตะเข้าถูกหยุดกลางอากาศ นิลไม่ปลอยให้มันจับขา เขาเป็นฝ่ายใช้มือจับแขนข้างที่มันใช้ป้องกันก่อนเป็นอันดับแรก และชกเข้าที่หัวไหล่ของมันจนแหว่งเข้าไปด้านใน

และทุบหัวกับแขนของมันไม่หยุด จนแขนของสัตว์เรขาคณิตอีกข้างที่ยังว่างสั่นสะเทือนทำอะไรไม่ได้ จนมันถูกนิลจับทุ่มจนตัวแตกเหมือนกับของเล่นเลโก้

“ตัวสุดท้าย” นิลกลิ้งตัวจับขาสัตว์เรขาคณิตที่มีสี่ขาก่อนที่จะฉีกมันเป็นชิ้นๆ

เขามองผลงานที่ค่อยๆกลายเป็นเมือกสีดำตามเดิม ก่อนที่จะเดินทางต่อไปในปราสาทวงกตแห่งนี้

อีกด้าน!!!

“ไม่ตรวจพบการเคลื่อนไหวของข้าศึก ทำการเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน” แอนดรอยด์รายงานก่อนที่จะดึงดาบความถี่สูงที่ปักทะลุจากหัวถึงบั้นท้ายของสัตว์ประหลาดที่มีรูปทรงเป็นรูปหลายเหลี่ยม

“ตรวจสอบการทำงานไม่สมบูรณ์……..ความต้องการ ตัวอย่าง…….ทำการสแกนหาอย่างต่อเนื่อง” แอนดรอยด์ส่งสัญญาณสื่อสารกันอย่างตะกุกตะกัก

พวกนางขาดการเชื่อมต่อจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิงทำให้ปฏิบัติตามโปรแกรมที่อลันร่างเอาไว้กรณีเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เพื่อตัวปัญญาประดิษฐ์สามารถคิดวิเคราะห์และตัดสินใจได้ในระดับหนึ่ง

กระนั่นยังคงมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องแก้ไข ตัวอลันจึงตั้งค่าให้เหล่าแอนดรอยด์สามารถเก็บข้อมูลที่ใช้ประมวลผล และเหลือพื้นที่ให้สะสมข้อมูลดิบไว้ด้วย

และเนื่องจากแอนดรอยด์เหล่านี้ใช้หวังลี้เป็นต้นแบบ (ด้วยการสแกนคลื่นสมองกับปฏิกิริยาอีเลเมนต์ตกค้าง) อลันจึงสามารถตั้งมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้พวกนางตกอยู่ในน้ำมือศัตรูได้ไม่ยากเย็น

[ทำให้ตายยังไงเขาก็ไม่มีเวลาในการแก้ไขช่องว่างในช่วงที่หวังลี้กับซานะถูกอันส์จิสสิง……..]

แต่ไม่ว่ายังไงก็ยังคงมีบัคจากสภาพแวดล้อมที่แตกต่างและสัญญาณรบกวนตลอดเวลา จนแอนดรอยด์หลายตนต้องประมวลผลการสื่อสารเผื่อกรณีมีสัญญาณแฝงของข้าศึกเข้ารบกวนระบบสื่อสารกับระบบประมวลผล

“มี…หวังลี้หลายคน” ซานะกล่าวอย่างเหม่อลอย เธอสัมผัสสิ่งที่คล้ายกับหวังลี้ได้หลายคน แต่เธอในสภาพที่เหมือนกับคนกำลังเพ้อฝัน ขาดความสามารถในแยกแยะว่าสิ่งที่เธอสัมผัสเจอเป็นหวังลี้ตัวจริงหรือกองทัพแอนดรอยด์เลียนแบบ

หวังลี้ตัวจริงถูกอลันนำไปวิจัยเพื่อหาข้อมูลอันมีค่า เมื่อรวมกับสมองของฟาร์โรกับนักวิจัยคนอื่นๆ พวกเขาอาจได้ผลลัพธ์ที่คลาดไม่ถึง

กระนั่นซานะจำลายละเอียดที่สำคัญได้ไม่หมด แม้ช่วงที่เธอถูกเซร่าสิงร่างจะเหมือนกับคนที่หลับลึก ความจริงหล่อนอยู่ในสภาพคล้ายกับคนที่กำลังหลับตาและอุดหูที่ใช้ฟังโดยไม่สนใจสภาพแวดล้อม

แน่นอนว่าอาจมีเสียงหรือภาพหลุดเข้าไปบ้าง แต่เซร่ากำลังกล่อมซานะด้วยสิ่งที่เธอชอบ เหมือนกับซานะกำลังดูทีวีซีรี่ย์กับฟังเพลงเสียงดัง จึงยากที่เธอจะสนใจคนที่พูดบ้างอย่างหรือเดินตัดหน้าก็ยากที่จะเรียกความสนใจในทันที

ดังนั้นซานะอาจจะคุ้นๆกับแอนดรอยด์รุ่นใหม่บ้าง แต่ไม่ถึงกับเอะใจในทันที เพราะอลันได้ดีไซน์แอนดรอยด์สำรวจต่อต้านอีเลเมนต์ให้คล้ายกับหวังลี้มากที่สุดเพื่อเอาไว้ขัดขวางการตัดสินใจของซานะที่เขามั่นใจแน่ชัดว่าเป็นศัตรูทางการเมือง

“ก่อนหน้าต้องพาไปยังจุดนี้” ซานะพยายามต้อนหวังลี้ทุกคนไปยังตำแหน่งที่เธอระบุไว้ให้หวังลี้ประจำการโดยเฉพาะ

ปราสาทแห่งนี้เป็นสุดยอดผลงานที่เธอใช้ความรู้ทั้งหมดที่เธอมีในการดีไซน์จนกลายเป็นปราสาทที่มีระบบฟิสิกส์เชิงมิติเป็นเอกเทศและเมื่อเริ่มทำการแล้วจะตัดขาดกับโลกภายนอกทั้งหมด

ภายนอกยังคงเป็นปราสาทสีดำลอยอยู่ลางๆ แต่ในความเป็นจริงเป็นเหมือนกับเงาสะท้อนหรือปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำ คนที่มองจากมุมที่ต่างกันจะเห็นสายรุ้งหรือภาพสะท้อนคนละตำแหน่งกัน

ความเป็นจริงเซร่าเป็นคนหลอกล่อการตัดสินใจของซานะ จากปณิธานของทามะมิที่อยากให้ลูกสาวกับวงศ์วานอยู่รอดและยิ่งใหญ่ ความต้องการที่ซานะสืบทอดมาในตำแหน่งผู้นำในโลกของนิลถูกบิดเบี้ยวด้วยความต้องการของเซร่าเอง

ปราสาทสีดำที่เป็นโลกที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับทุกสิ่งและสามารถแพร่กระจายตัวต้นของโลกใส่โลกอื่นที่สัมผัสเพื่อความยิ่งใหญ่ในภายภาคหน้า

ถ้าเซร่าสามารถต่อยอดและใช้มันได้อย่างสมบูรณ์เมื่อใด กองทัพอันส์จิสที่หลับใหลจะสามารถฟื้นคืนชีพในปราสาทสีดำแห่งนี้ และจบสงครามอันแสนยืดเยื้อเสียที

เซร่าเชื่อว่าเธอจะฟื้นพลังที่เสียไปกลับคืนมาและวิวัฒนาการขึ้นไปอีกครั้งจนเอาชนะศัตรูคู่อาฆาตและกำจัดเสี้ยนหนามอย่างเหยินหวางได้ในที่สุด (แม้ว่าเหยินหวางไม่มีความคิดที่จะสู้และไม่สนใจกับแนวคิดอันคับแคบของเธอก็ตาม)

“ทำไม…ทำไม…ฉันไม่เข้าใจ” ซานะส่ายหน้า เธอพยายามสั่งการหวังลี้ให้ไปประจำตำแหน่งที่เซ็ต แต่ว่าเหล่าหวังลี้ไม่ทำตามที่เธอบอก ซ้ำบางคนยังปฏิเสธคำสั่งของเธอจนแม้แต่ตัวซานะก็เริ่มไปไม่เป็น

“ทำไมหวังลี้ถึงไม่ฟังฉัน….” ซานะเชื่อมันในตัวหวังลี้มาก เธอในปัจจุบันที่ถูกเซร่าปั่นหัวเชื่อใจเพียงแค่หวังลี้เพียงคนเดียวโดยไม่นึกถึงคิสึเนะคนอื่น แม้แต่โทโกะกับโทโทะที่อยู่กับทามะมิก็ไม่อยู่ในสายตาของหล่อน

‘เราขอปฏิเสธ’

‘คุณคือศัตรู’

“ทำไมกัน” ซานะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ทำไมกันทามะมิ หรือว่าเธอเองก็ทอดทิ้งฉัน”

เธอเริ่มโกรธ หัวใจเธอที่ว่างเปล่าบอบช้ำอย่างหนัก ความว้าเหว่ในหัวใจของซานะกัดกร่อนหัวใจที่เปราะบาง…………

“อภัยให้ไม่ได้!!!!!”

ครืน!!!

“อะไรหว่า….” นิลที่จ้ำยกเท้าสูงได้ยินเสียงที่น่าจะเป็นเสียงผู้หญิงสั่นเครือก้องกังวาน เขาถึงกับเผลอทิ้งขาจนเหยียบจมกองเมือกสีดำเต็มข้อเท้า หลังจากที่เขาพบว่ามีเมือกสีดำปูดออกจากพื้นกับเพดานรวมถึงกำแพงด้วย

น่าแปลกที่เมือกพวกนี้มันไหลมากองรวมกันแต่กลับแค่ปูดออกมาเฉยๆ ส่วนที่ปูดออกมายึดติดกับพื้นผิวอย่างเหนียวแน่นทำให้นิลต้องเดินอย่างยากลำบากมาก

ครืน!

ขานิลจมลึกลงไปอีก และเมือกนั้นอยู่สูงถึงน่องของเขาแล้ว

“เวรล่ะสิ” นอกจากเมือกที่เหมือนกับว่าเขาจมลงไปในพื้น บนร่างกายนิลมีเมือกจำนวนมากผุดปกคลุมร่างกายจนรู้สึกไม่สบายตามเนื้อตัว และที่เจ็บแสบที่สุดคือดวงตาเองก็มีเมือกปกคลุมเช่นกัน

ถึงว่าเขาจะมองเห็นโลกออบซิเดียนเช่นเดิม แต่เขารู้สึกระคายเคืองมาก เพราะดวงตาเป็นอวัยวะที่เปราะบางถึงที่สุด การที่รู้สึกเหมือนมีของเหลวแปลกๆกดตาตลอดเวลามันรู้สึกแย่มาก

“…ห…..พ…….ด..”

นิลได้ยินเสียงผู้หญิงอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่เสียงที่เขารู้สึกว่าคิดไปเอง เสียงนี้เขาคุ้นเคย ถ้าคนอื่นยังเห็นสีหน้าเขาคงต้องบอกว่าเขาในตอนนี้ซีเรียสมาก

“ให้……..ไม่…….”

“โดโรธี?” นิลหรี่ตา เขาจำเสียงนี้ได้และไม่เคยลืมเสียงนี้เลย

เสียงของโดโรธีที่เขาช่วยเอาไว้ไม่ได้ หญิงสาวที่หายไปกับม่านหมอกสีขาวในโรงงานกลางพายุหิมะ ตัวเองพยายามเงี่ยหูและโฟกัสแค่การฟังเสียงเพื่อเอาให้แน่ใจ

‘โดโรธี……..โคโมเอะ….และก็……ฉันนึกไม่ออก’

นิลจำอีกคนไม่ออกว่าเป็นใครที่อยู่ในโรงงานอีกคน เขาไม่รู้อีกคนคือทามะมิ และเขาไม่รู้ว่าทามะมิใช้ร่างกายของโดโรธีเป็นร่างภาชนะให้ซานะ และแม้แต่ตอนนี้ส่วนหนึ่งของตัวตนของซานะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับโดโรธี

และเสียงของโดโรธีดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เสียงเธอเต็มไปด้วยความโกรธแค้น และเมือกสีดำสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงตอบสนองกับอารมณ์ที่โกรธจัด

“ให้อภัยไม่ได้”

“โดโรธี!!!!” นิลตะโกนก่อนที่เขาจะถูกแรงสั่นสะเทือนของเมือกดำกดจนจมลงไป เขาพยายามตะเกียดตะกายภายใต้เมือกดำที่สั่นสะเทือนจนเขาชาไปทั้งตัว

‘แย่ละสิ แบบนี้ไม่รู้ทิศทางแน่!!!’ เขายังสามารถหายใจในเมือกดำได้แบบเดียวกับที่เขาสามารถหายใจในปราสาทพิศวง แต่ความเป็นจริงเขาค้ำทางไม่ถูก

ถ้าให้พูดว่าเขารู้สึกยังไง คงต้องบอกว่าตัวนิลเหมือนกับถูกลดขนาดร่างกายจนเหลือเท่ายางลบและถูกหย่อนลงชักโครกพร้อมกดน้ำ

“ฉัน…ต้องหาอะไรก็ได้!!!!” เขาต้องหาจับไม่งั้นเขาจะหาทิศทางไม่ถูก จนกระทั้งมือเขาไปจับโดนสิ่งหนึ่งเขา “อะไร?”

“ตรวจพบสัญญาณชีวิต ทำการประมวลผล……เจอ……นิล ค้นพบหนึ่งในเป้าหมายภารกิจ… ทำการกู้ชีพ!!!!” แอนดรอยด์ที่ถูกนิลคว้าไว้งอกแขนกับขาเพิ่มอีกหลายคู่ก่อนที่จะล็อกตามจุดต่างๆก่อนที่จะปล่อยสัญญาณให้กับแอนดรอยด์ทุกตนในรัศมีใกล้เคียง

นิลที่ยังเห็นทุกอย่างแจ่มชัดแม้ว่าจะมีเมือกเกาะตา “หุ่นยนต์……แอนดรอยด์หวังลี้? นึกว่าหลุดมาคนเดียวซ่ะอีก” ตัวเองรู้สึกโล่งใจ

แต่สักพักเขากับหน้าซีด เนื่องจากหุ่นแอนดรอยด์เริ่มจะรวมร่างกับเขาด้วยการถอนชิ้นส่วนและไปประกบแขนกับขาทำให้นิลเหมือนกับคนที่ถูกตรึงไม้กางเขนยังไงอย่างนั้น

และเหมือนว่าเขาจะไม่ต้องทุกข์ทรมานนานกว่านี้ แอนดรอยด์ใกล้เคียงอีกหกเครื่องว่ายเกาะกลุ่มมายังตำแหน่งเขาอย่างช้าๆสร้างความประหลาดใจให้กับนิลที่กำลังจมเมือก

“ทำไมพวกเธอถึงไม่รับผลกระทบจากเมือก”

ทางหุ่นแอนดรอยด์จึงวิเคราะห์ลำดับความสำคัญของข้อมูลภารกิจกับฐานข้อมูลของนิลเพื่อเช็คว่าสมควรจะอธิบายให้เขาฟังหรือไม่

“จากการวิเคราะห์รหัสการเข้าถึง C-2 ทำการยืนยันรหัสการเข้าถึงอีกครั้ง” นางยืนยันก่อนที่จะหมุนตัว 180 องศามาตอบคำถามให้หายข้องใจ

“พวกเราติดตั้งระบบต่อต้านเชิงมิติขนาดเล็กสำหรับต่อต้านปรากฏการณ์เชิงมิติที่ผิดปกติ”

“อะไรน่ะ! นี้พวกเธอจะบอกว่าพวกเธอสร้างโลกขนาดจิ๋วเหรอ!!!? อ๊อก! แค่กๆ” นิลตะโกนก่อนที่เขาจะบ้วนเมือกดำที่ลงคอไปเป็นจำนวนมากออกไป

“คำถามนี้อยู่นอกเหนือการเข้าถึง เราจึงทำการปฏิเสธคำขอนี้ จนกว่าจะมีการให้อนุญาตเข้าถึงในระดับ B-1 เราจักไม่ตอบคำถามของคุณ” แอนดรอยด์ตอบ

“แล้วไป” นิลบ้วนเมือกดำก่อนที่จะสังเกตว่าสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปอีกแล้ว “เอ๊ะ! สงบแล้วนี้ และสีเองก็…”

เมือกดำที่สั่นสะเทือนสลายไปราวกับว่าถูกพื้นดูดซึมและโลกสีดำออบซิเดียนเริ่มมีเฉดสีเด่นชัน จนเขาเริ่มสามารถแยกแยะสีได้อย่างชัดเจน

นิลกลับมาเห็นสีต่างๆตามปกติอีกครั้ง และเขาเห็นแอนดรอยด์พูดรายงานสภาพแวดล้อมเหมือนกับนักสำรวจถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมอย่างฉับพลันจนเขาไปได้ยินคำพูดของแอนดรอยด์พูดถึงการปฏิเสธคำสั่งของซานะที่พยายามออกคำสั่งให้กับพวกเธอก่อนที่สภาพแวดล้อมจะเปลี่ยนไปในทางลบ

‘หรือว่าพวกหุ่นกระป๋องจะทำให้ซานะโกรธ’ นิลคิดว่าความคิดนี้น่าจะเป็นไปได้สูง หากซานะที่ยังถูกเซร่าบงการอยู่ขาดการคิดวิเคราะห์และทำตามที่ถูกเซร่าบอกจึงไม่แปลกที่หล่อนจะเกิดโกรธและเสกสภาพแวดล้อมอันวิปริต

“อย่างน้อยต้องรีบหาตำแหน่งของซานะให้เจอ” เขามองเพดานกับพื้นที่เหยียบ และมองไปยังแอนดรอยด์อีกกลุ่มที่เดินบนเพดานซึ่งน่าจะเป็นไปได้เพราะแรงดึงดูดตามสภาพพื้นผิวแบบที่เขารู้แล้ว

แต่ละคนจึงเหมือนกับเดินในเขาวงกตตามแนวต่างๆ

“ซานะเธออยู่ที่ไหน…….โดโรธีเธอยังไม่ตายใช่ไหม?” นิลพูดด้วยน้ำเสียงคิดถึง ก่อนที่จะตบหน้าตัวเอง “ไอเวรเอย! แกเป็นคนมีครอบครัวแล้วน่ะโว้ย”

เขาเช็ดเลือดที่มุมปาก “เลือดสีแดง อย่างน้อยก็กลับมาเห็นสีละโว้ย” ถึงเขาจะสมเพชตัวเองที่ไปนึกถึงผู้หญิงทั้งที่ตัวเองเป็นคนมีครอบครัว แต่โลกที่ได้สีกลับมามันช่วยแบ่งเบาภาระทางใจได้บ้าง

แต่คำพูดที่ไม่ใส่ใจสังคมและว่ากล่าวตักเตือนตัวเองของนิลได้เข้าหูของซานะอย่างจัง และเธอกำลังตกใจมากกับสิ่งที่เธอได้ยิน

‘เขาคือใคร?’ ซานะที่จำนิลไม่ได้ทำได้เพียงสงสัยที่หวังลี้ไปช่วยชายคนหนึ่งที่มาจากไหนไม่รู้ และเธอทำได้แค่สงสัยว่าทำไมเขาถึงอยู่ในปราสาทของเธอทั้งที่เธอไม่มีความทรงจำว่าเชิญเขาเข้ามา

การสงสัยทำให้สภาพแวดล้อมที่เธอสั่งให้โจมตีหวังลี้สงบลงและเธอหันไปสนใจความมั่นคงของมิติของปราสาทแทน

“ไม่มีอะไรผิดปกติ” ซานะยิ่งสงสัยเข้าไปอีก เธอจึงให้ความสนใจนิลทุกระเบียบนิ้ว เนื่องจากเธอสร้างปราสาทที่เปรียบเสมือนโลกนี้ขึ้นมา เธอจึงสามารถตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดได้ในทันที และได้ยินเสียงที่นิลกับหวังลี้พูดแบบเรียลไทม์

“โดโรธี”

“ซานะเธออยู่ที่ไหน…….โดโรธีเธอยังไม่ตายใช่ไหม?”

เธอที่ไล่อ่านข้อมูลที่ผ่านมาของปราสาทได้ยินเสียงของชายที่ชื่อว่านิลเรียกชื่อโดโรธีและได้ยินที่เขาพูดถึงซานะกับโดโรธีอีกตั้งหาก

“นะ….นิล!?” ซานะเริ่มจำชายที่เธอกำลังเฝ้ามอง และเธอหันไปมองหวังลี้คนอื่นที่เริ่มมาร่วมตัวกัน “นี้มันแอนดรอยด์โมเดลของอลัน ไม่ใช่หวังลี้… ใช่แล้วไม่ใช่หวังลี้!!!”

เธอกะพริบตาและรีบขยี้ตา “ใช่….นี้เป็นหนึ่งสนซีรี่ย์ที่อลันใช้หวังลี้เป็นต้นแบบในการผลิต” ถึงดีไซน์กับฟังก์ชันจะแตกต่างกับเธอรู้จัก แต่มีแค่อลันเท่านั้นที่สามารถสร้างแอนดรอยด์หวังลี้แบบผลิตจำนวนมากสำหรับไว้ใช้งานจริง

ซานะลองเช็คภายในปราสาทโดยละเอียด คราวนี้เธอได้ตัวเลขที่แน่นอน

“แอนดรอยด์หวังลี้ถูกทำลายไป 9 เครื่อง เดียวก่อนๆ” ซานะอ่านข้อมูลโดยละเอียดอีกที “อือ….ถูกทำลาย 14 เครื่อง แต่ได้รับการซ่อมบำรุงกับเก็บกู้อะไหล่จนที่หมดสภาพคือ 9 เครื่อง”

เธอดูเหตุการณ์ที่ผ่านมาเหมือนกับวิดีโอที่กรอกลับ เธอเห็นแอนดรอย์ที่ได้รับความเสียหายหลังเข้ามาในปราสาทของเธอ มีหลายเครื่องที่ได้รับความเสียหายกับถูกทำลาย

ปัญหาเรื่องขาดวัสดุในการผลิตทำให้อลันกับฟารโรป่วยหัว จนในที่สุดพวกเขาได้ใช้วิธีพื้นบ้านแทน ด้วยการดีไซน์ให้พวกนางสามารถเก็บกู้อะไหล่และซ่อมแซมกันเองเพื่อลดงบประมาณและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานในระยะยาว

ผลคือแอนดรอยด์หลายเครื่องมีรูปทรงประหลาด อย่างมีหัวมากกว่าหนึ่งหัว, แขนมากกว่าสองแขนที่ดูไม่สมมาตรกัน หรือแอนดรอยด์ที่ลักษณะเหมือนกับเอาร่างกายหลายท่อนมาประกอบกันยังกับมนุษย์ตะขาบตัวเป็นข้อยืนสองขา

“นี้น่าจะเป็นหน่วยเก็บกู้” ซานะพยักหน้า ถ้าเธอดีไซน์หุ่น เธอคงตั้งค่าให้หนึ่งในนั้นทำหน้าที่เป็นช่างเครื่องมีหน้าที่เก็บอะไหล่สำรองหรือชิ้นส่วนพวกพ้องที่เสียหายไว้ใช้งานภาคสนาม

‘ความทรงจำฉันไม่ชัดเจน…….ตกลง…ฉันคือซานะหรือเปล่า’ ซานะคิดในใจ ความทรงจำของเธอมันขาดตอน มีบางจุดที่หายไปและไม่เข้ากับเหตุการณ์กับการรับรู้ที่เกิดขึ้น

การได้เห็นกองทัพแอนดรอยด์กับได้ยินเสียงนิลช่วยปลุกจิตใต้สำนึกของซานะให้กลับมา แต่แค่ชั่วคราว ซานะยังไม่แน่ใจว่าตกลงแล้วเธอคือใครหรือมีเป้าหมายใดๆที่ชัดเจน

‘เธอได้สติกลับคืนมาส่วนหนึ่ง…….แต่ไม่เป็นไร ฉันเจอตัวเธอแล้วนิล’

เซร่าลืมตาขึ้น……. ร่างกายโลหะสีขาวของเธอสยายปีกก่อนที่ร่อนลงจากท้องฟ้าในสภาพกลับหัว

นิลเป็นคนแรกที่สัมผัสตัวตนของเซร่า เขาถึงกับมองตำแหน่งที่เซร่าเจาะมิติเป็นคนแรกก่อนไม่กี่วินาทีด้วยซ้ำ

“ที่นี้….ยังกับลานประหาร” นิลเช็ดปากก่อนที่จะบอกกับแอนดรอยด์ตนอื่น “พวกเธอหนีไปซ่ะ!!!”

“ขอปฏิเสธ” แอนดรอยด์ที่อยู่ใกล้ที่สุดปฏิเสธนิลทันที

“มันจะปฏิเสธฉันทุกงานเลยหรือไงกัน….”

“เพราะว่าคุณโง่”

“ขอโทษ” นิลได้ยินทีถึงกับหมดไฟ ‘แต่ที่จริง การมีตัวช่วยมาสู้แบบนี้เราคงมีโอกาสรอดไปถึงซานะ…..ไม่ เราต้องใช้โอกาสนี้แหล่ะปลุกซานะให้ตื่น’

เมื่อตัดสินใจดังนั้นเขาจึงนึกอะไรดีๆออก

ทางเซร่าเองเหมือนจะเข้าใจว่านิลคิดอะไรแผลงๆจนแม้แต่เธอยังรู้สึกขวัญผวา จนความรู้สึกกลัวลึกที่ก่อตัวในจิตใจแปรเปลี่ยนเป็นความอยากฆ่า

‘ถ้าทางฉันจะอยู่ใกล้กับมนุษย์นานเกินไป ต้องรีบฆ่านิลก่อนที่ความรู้สึกของมนุษย์จะรบกวนตัวตนของฉัน’

นี้คือสิ่งที่เซร่ากังวล หากเธอเข้าใจมนุษย์จนสืบทอดอารมณ์ของมนุษย์มา มันจะทำให้เธอได้รับจุดอ่อนของมนุษย์เข้ามาด้วย

ความอ่อนแอ ความบกพร่อง และความไม่สมบูรณ์ของมนุษย์จะทำลายตัวเอง เฉกเช่นทุกครั้งที่ข้อมูลสรุปผล

แม้ว่าการต่อสู้หลังจากนี้จะเปลี่ยนแนวทางการคิดของเธอไปโดยสิ้นเชิงก็ตาม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+