P.Plan เส้นทางลิขิต ปฏิวัติโลก 257

Now you are reading P.Plan เส้นทางลิขิต ปฏิวัติโลก Chapter 257 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Time< Two Hundred Fifty Seventh>

กู้พลังงานคืน 

วันที่ 4 ธันวาคม  ค.ศ. 2049 เวลา 07: 59 น. (+1H) 

แอฟริกา

ผู้บัญชาการคีบบุหรี่จากปากและเอาบุหรี่แหย่ลูกตาของมนุษย์โคลนที่สิ้นฤทธิ์ “รายงานความเสียหาย” เขาดีดปลายบุหรี่ที่เลอะคราบสกปรกออกมาสูบต่อ

เลขาที่ตัวเปื้อนเลือดเปิดระบบโฮโลแกรม “เราได้รับความเสียหายอย่างหนัก ยืนยันการสูญเสียทหารกับบุคลากรอยู่ที่ 67.8% คาดว่าต้องใช้เวลาอีกสองชั่วโมงถึงจะสามารถยืนยันตัวเลขที่แน่ชัด”

“ข้าศึก?” 

“เราสามารถทำลายกองกำลังหลักข้าศึกได้เป็นผลสำเร็จตามแผนที่วางเอาไว้ และกำลังเสริมที่มาถึงกำลังทำลายกองทัพศัตรูที่หลงเหลืออยู่ภายในรัศมี 200 กิโลเมตร จากการคาดการณ์ทั้งหมดจะแล้วสิ้นภายใน 4 ชั่วโมง”

“ไม่เลว… บอกทุกคนให้เฝ้าระวังในระดับกลาง และมีการพักเวรตามมาตรการในเวลานี้ และ…” เขาชี้ไปยังเทือกเขาห่างไกลที่มีควันพวยพุ่ง “บอกเขาให้กลับมา”

“คะ”

ผู้บัญชาการเห็นเลขาฯออกจากห้องที่พังพินาศถอดหน้ากากรับลมเย็นๆยามเช้า

ใบหน้าของเขาเหมือนกับหนังหน้าฉีกขาดจนเห็นเส้นกล้ามเนื้อราวกับบาดเจ็บหนัก แต่ความจริงนี้คือใบหน้าจริงของเขา หนังหน้าเป็นแค่ผิวหนังปลอมที่เขาติดเอาไว้เพื่อไว้หลอกตากลมกลืนไปกับสังคมปกติ

นี้คือข้าใช้จ่ายราคาถูกคุ้มราคาที่แลกกับพลังกับปัญหาเหนือมนุษย์

“ข้าราชองครักษ์” เขาคำราม 

ทันใดนั้นกลุ่มทหารในชุดขาวจำนวนมากโผล่จากความว่างเปล่า ทุกคนนั่งชันเข่าพร้อมรับคำสั่ง

ผู้บัญชาการหยิบหน้ากากรอยัลการ์ดแบบเดียวกันมาสวม “เวลามาถึง….เตรียมออกศึก เราจักแสดงให้ยูเรียลเห็นว่า ใครกันแน่ที่เป็นเจ้าแห่งโลกตัวจริง”

หลังจากนั้นไม่นานเขานำพากองทัพรอยัลการ์ดที่ทรงพลังและไฮเทคที่สุดของเอเชียใต้ประจัญชายแดนยุโรปสำหรับสงครามครั้งใหญ่ในการประกาศศักดา!!!

…….

“อัตราการใช้พลังงานคงที่ ….เกณฑ์อยู่ที่ 58.14% ม่านปฏิสสารทำงานตามปกติ”

“การเสื่อมสภาพของตัวอย่างการทดลองหยุดนิ่ง อัตราการล้มเหลวบวกลบ 2.487% ”

ฟารโรมองสตีฟที่แช่อิ่มในของเหลวสีน้ำตาลอ่อนที่ห่อหุ้มด้วยบอลไฟฟ้าลอยอยู่กลางห้อง แขนกลกดเข้าไปบอลไฟฟ้าและยิงเลเซอร์พลังงานสูงตัดเซลล์ตัวอย่างบรรจุในบอลไฟฟ้าอีกลูกที่ขนาดเล็กกว่า

สถานการณ์ของสตีฟอยู่ในฐานะกึ่งหลับกึ่งตื่นง่ายต่อการตรวจสอบและทำการทดสอบหลายๆอย่าง

“ต้องใช้ตัวอย่างอีกเท่าไร” ฟารโรสังเกตสภาพของสตีฟที่เหมือนกับถูกตัดเป็นชิ้นๆตั้งแต่หัวจรดเท้ารู้สึกถอดใจ

“การวิจัยใกล้เสร็จสิ้น” นักวิทยาศาสตร์รายงาน ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นของตัวเองต่อ “แต่ผมคิดว่าเราควรเก็บเขาไว้แทนที่จะทำลายทิ้ง”

“ฟังนะ” ฟารโรหันกลับมาเตือน “ฉันอนุญาตให้พวกคุณทำการทดลองเพราะมันจำเป็น แต่ไม่ได้หมายความว่าผมเห็นด้วยกับทุกการกระทำของพวกคุณ ผมจะพูดอีกรอบ หลังจากได้ผลการทดลองที่ต้องการ กำจัดเขาทิ้งซะ!”

ฟารโรยืนยันคำสั่งเดิม ก่อนที่จะเดินไปยังห้องใกล้เคียงที่มีผลการวิจัยสำหรับผู้ป่วย 

“ทั้งที่เป็นตัวอย่างที่ดีแท้ๆ” นักวิทยาศาสตร์บ่นอุบอิบ แต่โลภไปไม่ได้อะไรขึ้นมา เขาจึงคิดว่าจะใช้ทุกอย่างเท่าที่มีในการทดลอง

“รับทราบ”

“เยี่ยม” ฟารโรพอใจกับคำตอบ การที่ให้พวกนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องย่อมมีความเสี่ยง และเขาต้องทำหน้าที่คอยควบคุมไม่ให้พวกหัวไข่ทำอะไรเลยเถิดผิดจริยธรรม

ขอเวลาอีกนิดเดียว สุดยอดอาวุธต่อต้านยูเรียลจะเสร็จสมบูรณ์ ถึงแม้การโจมตีโดยฉับพลันของยูเรียลจะสร้างความเสียหายให้พวกเขาอย่างหนัก แต่นั้นทำให้เขาเจอความสัมพันธ์ระหว่างโลกเดิมกับโลกใหม่ (นิล)

ไม่ว่าโลกใดโลกหนึ่งจะถูกอีกโลกเขียนทับ นี้คือความจริงทำให้ยูเรียลเสียเวลาในการหยุดปรากฏการณ์ที่ว่า และนั้นช่วยซื้อเวลาให้พวกเขา

“ท่านครับ เราตรวจสอบคลื่นสะท้อนจากพื้นน้ำแข็ง” ทหารรายงานข้อมูลกับฟารโรที่กำลังอ่านขั้นตอนการวิจัย

“ไหน” ฟารโรอ่านข้อมูลคลื่นที่ว่า “โคบอลต์ทำการตอบโต้? พวกนี้คิดที่จะยึดทางใต้ดินคืน? ไม่รู้หรอว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะได้คืน”

เขาสงสัยว่าอลันคิดทำอะไรกันแน่ แนวป้องกันแรกถูกยูเรียลเจาะทำลาย แนวชั้นน้ำแข็งกับหินข้างใต้ไม่สามารถใช้เป็นแนวป้องกันได้อีกแล้ว ต่อให้ตอบโต้จนยึดคืนได้ก็ไม่มีทางป้องกันรอบสองได้สำเร็จ ยิ่งแนวป้องกันที่สองกับที่สามถูกเจาะเป็นหลังผึ้ง กองกำลังโคบอลต์เหมือนกับเดินลงโลงศพด้วยตัวเอง

“ส่งหน่วยล่าสังหารไปสอดแนมอย่างใกล้ชิด รายงานทุกอย่างที่พบให้ฉันทราบ”

“ตามคำบัญชา”

……………

“แค่ก แค่ก” บุ๊คแมนถอดเกราะเสริมกำลังส่วนขาที่กลายเป็นเศษเหล็กออก เขาลากร่างที่บาดเจ็บไปยังแผงควบคุมชั้นใต้ดิน

เขาใช้แขนเสริมกำลังปีนขึ้นไปที่นั่งหน้าแท่นออกคำสั่ง ขาของเขาถูกอัดจนพังไปพร้อมกับเกราะส่วนขาเป็นที่เรียบร้อย แต่เหมือนเขาโชคดีตรงที่ถูกอัดตรงสะโพกจนกระเด็นเข้ามาในห้องพอดิบพอดี และทำให้บุ๊คแมนทำการเชื่อมระบบออกคำสั่งฉุกเฉิน จนทำการชัตดาวน์ฐานผลิตพลังงานใต้ดินไม่ให้เกิดโอเวอร์โหลดจนเกิดการระเบิดรุนแรง

“ดูเหมือนว่าผมจะอยู่ได้อีกไม่นาน….” บุ๊คแมนตรวจร่างกายตัวเองชั่วคราว เขาห้ามเลือดร่างกายช่วงล่างได้ทันท่วงทีจากระบบช่วยชีวิตที่ทำงานทันทีที่เกราะถูกทำลาย แต่ว่า………เขาขาดอากาศ

จากการคำนวณสภาพแวดล้อมพบว่ามีการปนเปื้อนของแก๊สพิษร้ายแรง สาเหตุที่เขายังมีอากาศหายใจทั้งที่ไม่มีถังอากาศสำรองเพราะใช้ระบบกรองแก๊ส

แต่เขากำลังตายเพราะร่างกายปกเปื้อนสารพิษ โคบอลต์มีร่างกายที่อ่อนแอมาก สภาพแวดล้อมแบบนี้จะฆ่าเขาอย่างช้าๆ

ขณะที่เขากำลังปิดแหล่งพลังงานสำคัญจากหอสั่งการ บุ๊คแมนพบสัญญาณชีวิตนอกเหนือจากสัตว์ประหลาดยูเรียลถึงสามจุดที่กำลังมุ่งหน้ามาที่ป้อมปราการใต้ดิน

“ทิศจากทางใจกลางทวีปใต้ดิน…” จากที่ว่ามาน่าจะเป็นโคบอลต์ที่ถูกส่งมาเก็บกู้ทุกอย่างเท่าที่เก็บกู้ได้ รหัสที่ส่งมาเป็นรหัสสำหรับกู้ชีพกับกู้คืน

“ส่วนนี้มาทางชายทะเล… ฟารโร-อัลคาร์ด” จากทิศนี้ทำให้หน่วยล่าสังหารอัลคาร์ดสามารถเคลื่อนไหวได้สะดวกและลอบเร้นไปในตัว สาเหตุที่เขาแน่ใจเพราะการตรวจจับที่ไม่ชัดเจนทำให้ระบุเป้าหมายว่าเป็นใครได้ง่าย (แต่ไม่ได้ความว่าจะป้องกันได้)

“อันนี้มาเป็นทัพเรือ แถมมีเรือธงด้วย” อันนี้ไม่ต้องทาย เพราะติดธงเอเชียใต้แล่นมาทุกกองเรือ ราวกับจะบอกว่าตูข้าคือใคร และมาเป็นกองใหญ่จึงล่อสายตายูเรียลจำนวนมากในทีเดียว

แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากกองกำลังสามฝ่ายร้ายแรงเกินไป เขาไม่รู้เป้าหมายที่แน่ชุดของเอเชียใต้กับฟารโร (ฝ่ายหลังน่าจะรู้ข่าวสักอย่างจากพวกเขา) บุ๊คแมนจึงติดต่อกับผู้ที่ยังรอดชีวิตอยู่ (หนีไม่ทัน) และชี้ทางไปยังสถานที่ๆปลอดภัยและง่ายต่อการอพยพ

“แค่กๆ” บุ๊คแมนเริ่มหมดสติ แต่การที่มีมาช่วยเขาจึงลองเสี่ยงดูโดยการเปิดระบบจำศีลของชุดเพื่อลดการทำงานของร่างกายให้ต่ำที่สุด และเข้าสู่สภาวะจำศีล

ตูม!

รถขุดดินคันแรกยิงเลเซอร์ทะลวงปูนซีเมนต์

“เคลียร์” โคบอลต์อ่านคลื่นบอกก่อนที่ทหารจะเข้ายึดพื้นที่

พวกทำตามแผนหลังจากที่ได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือ พื้นที่ตรงจุดนี้ง่ายต่อการป้องกัน และสามารถส่งคนไปป่วนเส้นทางของพวกสัตว์ประหลาด

“บุ๊คแมนน่าจะอยู่ตรงนี้” นิลชี้ไปยังหอสั่งการใต้ดินตรงทิศเหนือ “มีแค่จุดนี้ที่สามารถสั่งปิดแหล่งพลังงานได้”

“แต่มันยากที่เราจะบุกเข้าไปช่วย ข้าศึกเหมือนร่างแผนรับมือไว้อย่างดี เราต้องระมัดระวังทุกการกระทำ” ทหารมนุษย์แก่อ่านสถานการณ์จากข้อมูลเล็กน้อย “ผมว่าเราควรยึดหอสั่งการตรงทิศใต้เพื่อสั่งใช้งานระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อความได้เปรียบ”

“ผมเห็นด้วย” ทหารอีกคนเห็นด้วย “แต่จากข้อมูล เมื่อทำการเปิดระบบพลัง ระบบประตูฉุกเฉินจะถูกรีเซต ผมว่าเราควรช่วยผู้รอดชีวิตกับกู้ทุกอย่างให้ได้มากที่สุดก่อนที่เราจะฟื้นฟูแหล่งพลังงาน”

นิลฟังข้อเสนอของแต่ละคน ถึงกระนั้นเขาทำได้แค่มองเพราะตัวเองไม่ได้เป็นผู้บัญชาการภาคสนาม แม้แต่โรน่าที่อยู่ศูนย์บัญชาการก็แสดงความคิดเห็นกับทหารผ่านศึกมากฝีมือเหล่านี้

ผู้บัญชาการอัลคาร์ดลูบหนวดก่อนที่เขาจะชี้ไปยังพื้นที่ทิศตะวันตก “มันเสี่ยงเกินไป จากข่าวกรอง พวกทรยศเคลื่อนพลเช่นกัน ถ้าเราเลือกต้องช่วยผู้รอดชีวิตก่อนถึงจะสามารถเปิดแหล่งพลังงาน…..เราต้องเข้าปะทะกับพวกเขา”

ความหมายของเขาชัดเจนคือการช่วยชีวิตอย่าเพิ่งเสียเวลาไปยุ่งกับแหล่งพลังงาน เพื่อที่พวกเขาจะยึดแหล่งพลังงาน จำเป็นต้องแบ่งกองกำลังเป็นหน่วยย่อยไปป้องกันและเคลื่อนไหวตามสถานการณ์ ถ้าเกิดหน่วยล่าสังหารอัลคาร์ดฉวยจังหวะนี้

พวกเขาจะล้มเป็นโดมิโน่ และภารกิจจะล้มเหลว

“งั้นผมเป็นตัวล่อเอง” นิลชี้ไปยังจุดที่อยู่ระหว่างแหล่งพลังงานกับตำแหน่งของพวกเขาในปัจจุบัน ก่อนที่จะลากนิลไปยังห้องคอนโซนที่ติดกับโรงอาหาร “เราจะแบ่งคนส่วนหนึ่งไปแสตนบายด์เพื่อเฝ้าดูสถานการณ์ที่หอสั่งการทิศใต้”

“แผนดี แต่คุณไหวไหม?” ผู้บัญชาการถาม พวกเขาส่งคนไปยึดหอสั่งการทิศใต้ได้ แต่ห้องคอนโซลที่ติดกับโรงอาหารเรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางเส้นทางถึงแม้จะปิดประตูไว้แล้ว แต่จุดนี้เป็นทางผ่านที่รับศึกหนักที่สุด

“ผมค่อนข้างพิเศษ” นิลเอยยกย่อตัวเองก่อนที่จะชี้ไปที่ชายในชุดเกราะสีดำไฮเทค “และผมได้รับคำสั่งจากเบื้องบนให้ตามหาเป้าหมายและช่วยเขากลับมา”

เขาพูดถึงภารกิจก่อนที่จะมีหุ่นแอนดรอยด์สำหรับสงคราม 6 ตัวเดินตามเขากับฟลิบ

“อืม…เข้าใจแล้ว แต่อย่าผลีผลาม จำนวนเองคือสิ่งสำคัญสำหรับพวกเรา” ผู้บัญชาการอัลคาร์ดอนุญาต และมอบยุทโธปกรณ์บางอย่างให้กับนิล “ปลอดภัย”

“เช่นกัน” นิลจับมือผู้บัญชาการภาคสนาม ก่อนที่จะนำขบวนหุ่นแอนดรอย์กับฟลิบไปที่ลิฟต์ส่งของเพื่อไปยังเส้นทางที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาด

……..

ตูม!

เคร้ง!

แคปซูลส่งเอเชียใต้เจาะเข้าไปในชั้นน้ำแข็ง และยิงลำแสงเลเซอร์ทะลวงชั้นโลหะกับคอนกรีตใต้ดินจนไปถึงด้านใน

เอเชียใต้ยิงแคปซูลจากเรือขนส่งไปยังป้อมปราการใต้ดินอย่างแม่นยำเพื่อส่งทหารเข้าไปส่วนด้านล่างที่ภายในได้รับความเสียหายน้อย

ทหารเอเชียใต้ได้รับคำสั่งให้ยึดแนวป้องกันที่หนึ่งเพื่อใช้เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในพื้นที่แอนตาร์กติก้า กองกำลังแนวหน้าที่ประจำการจากภาคโอเชียเนียเกือบทั้งหมดยกทัพมาเพื่อศึกนี้

นาระถีบประตูแคปซูลไปพร้อมกับสัตว์ประหลาดที่เข้ามาจัดการผู้รุกราน เขาโดดตัวตีลังกาเตะหัวสัตว์ประหลาดใกล้เคียงก่อนที่จะชักปืนกลมือกราดใส่ตัวข้างเคียงเพื่อทำลายจังหวะก่อนที่จะตะบัดหน้าทุกตัวที่เข้าใกล้

“เพราะแบบนี้ถึงไม่ชอบใช่เจ้านี้” นาระไม่ถนัดการเปลี่ยนซองกระสุนปืนกลมือของเอเชียใต้ที่ยุ่งยากเพื่อถอนรากถอนโค่นทหารไร้คุณภาพ

“ถ้าเป็นของญี่ปุ่นคงจะดีกว่านี้” เขาดันใช้ของญี่ปุ่นจนชินมือ

หลังจากจัดการลดจำนวนสัตว์ประหลาด นาระทุบช่องลมที่เชื่อมกับชั้นน้ำแข็งก่อนที่จะกระโดลงไปโดยไม่สนใจคู่มือ

ทหารเอเชียใต้ห้ามนาระไม่ทัน และก่อนที่จะลงนาระระเบิดช่องลมทิ้งโดยไม่ให้ใครตามมา แต่ยังคงเปิดช่องทางการสื่อสารและทางเบื้องบนอนุญาตการกระทำโดยพลการ

ตุบ!

เคร้ง!

นิลชักปืนขึ้นลำกล้องใหม่ก่อนที่จะเล็งไปที่ทิศเสียง แต่พบว่าตรงหน้าเขาคือชายในชุดเกราะไฮเทคที่มีชายเสื้อแบบพิเศษสีดำหล่นจากช่องซ่อมบำรุงที่ทะลวงม่านเหล็กลงมา

ชายคนนั้นปัดฝุ่นก่อนที่จะกดปุ่มเปิดหน้ากากของเขาออก “นี้ฉันเอง”

“นาระ?” นิลที่เล็งปืนอยู่แปลกใจ “มาได้ยังไง” แต่เขายังไม่ไหวใจเพราะอาจเป็นตัวปลอมๆตัวมาแบบร่างโคลนยูเรียลสำหรับสอดแนม

“..ฉันตัวจริง”

ปัง!

‘นาระ’ นอนจมกองเลือดหลังเสียงปืน นิลหันไปก็พบว่ามีชายในชุดเกราะติดตราเอเชียใต้เก็บปืนที่ใช้ลั่นไกสังหาร

“นี้สิตัวจริง” นิลเก็บปืน “โดนทรมานมาหรือไง”

“เหอะ ยังอยู่ละกัน” นาระบิดคอ เขาจ้องตัวปลอมที่ส่วนใบหน้ากลับสภาพเดิม “ให้ช่วยอะไรไหม”

แต่ไม่ทันไรหุ่นแอนดรอยด์เข้ามาขว้างระหว่างนิลกับนาระ “ศัตรู”

“ไม่ใช่” นาระส่ายมือก่อนที่จะยิงลำแสงเลเซอร์ใส่หุ่นแอนดรอยด์ “ฉันมาส่งข่าว และมาช่วย”

สักพักหุ่นแอนดรอยด์ที่ถูกลำแสงตาเปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสีขาว “ได้รับข้อเสนอ” เสียงของอลันดังออกมาจากหุ่นแอนดรอยด์ “หลังจากลอบสังหารล้มเหลว เลยมาผูกมิตรว่างั้น”

“อะไรนะ?” ฟลิบร้อง เขาเองลำบากตอนที่เอเชียใต้ทำการลอบสังหารผู้คนกลางวันแสกๆ

“ที่จริง พวกนี้มันบ้า ฉันจะเล่าให้ฟังระหว่างทางละกัน” นาระชี้ไปที่ประตูที่พาไปยังห้องคอนโซลที่เป็นเป้าหมาย ก่อนหน้านั้นเขาก็เล่าว่าเขามาที่นี้ได้ยังไง จากการใช้ระบบขับดันในชุดในที่แคบทำให้เขาสามารถเคลื่อนไหวในช่องแคบอย่างรวดเร็ว

นาระจึงเล่าแผนการที่เอเชียใต้วางเอาไว้โดยการ‘ฆ่านิล’เพื่อใช้ต่างระเบิดนิวเคลียร์ทำลายยูเรียลจากการที่ทำให้โลกใหม่ที่เกิดไม่เสถียรทำลายโลกเก่าเพื่อสร้างอารยธรรมมนุษย์ขึ้นใหม่

อลันที่อยู่อีกฝากถึงกับบอกว่า ‘พวกบ้านี้ยังสติดีอยู่หรือเปล่า ดีแล้วที่หยุดได้ทัน’ แผนการกำจัดยูเรียลเพื่อสร้างโลกที่ควบคุมเจตจำนงของมนุษย์นี้มันบ้าชัดๆ

แต่จากข้อความการเจรจาที่ว่ามา ทางเอเชียใต้ยินดีให้ความช่วยเหลือพวกเขาเต็มที่หลังจากที่แผนของพวกเขาล้มเหลว เอเชียใต้จึงเริ่มใช้แผนสำรองซึ่งก็คือการปะทะซึ่งหน้ากับยูเรียลและใช้ทุกอย่างที่มีบุกโจมตีปราสาทซุนสเซตทางแอฟริกาเหนือ

กองทหารที่เด่นที่สุดร่วมตัวเข้าใกล้ทวีปยุโรป กองกำลังรอยัลการ์ดทั้งหมดอยู่ใต้บัญชาของผู้บัญชาการจะทะลวงทุกอย่างที่มี

“ฟังดูดี” อลันตอบนาระ “แต่ผมไม่เชื่อใจพวกเขา”

“ผมก็เช่นกัน” นาระที่ตลอดทางฉีกสัตว์ประหลาดเป็นชิ้นและใช้ศพของพวกมันต่างโล่ “หน้าที่ของฉันมีแค่การกำจัดยูเรียล ดังนั้นฉันจึงพอรับได้” แต่เขาอยากเสริมว่าผู้บัญชาการคนนี้เป็นรอยัลการ์ดที่เสียสติแต่ดันมีอำนาจทางการเมืองกับการทหารในระดับที่น่ากลัว

เลวร้ายกว่าผงเครื่องดื่มสำเร็จรูปที่ทำผู้หญิงอ้วน

“แล้วพวกนายมาทำอะไรที่นี้ ตรงจุดนี้ไม่น่าอยู่ในแผนการช่วยผู้รอดชีวิต” นาระเปิดแผนที่สามมิติ

ทางนิลกับฟลิบจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับบุ๊คแมน และหลังจากที่เขาสามารถกู้ระบบนำร่องใต้ดินคือเขาพบว่าสัญญาณชีวิตของบุ๊คแมนอ่อนเต็มที่จึงเลือกที่จะมายังห้องคอนโซลก่อนเวลาตามแผนที่วางเอาไว้

“มันเป็นไปไม่ได้ที่จะก่อนเวลา” นาระตอบ เขาสัมผัสชั้นน้ำแข็งกับชั้นหินตลอดทางที่ลอยในช่องว่างต่างๆ และพบว่ามันแข็งมากที่จะเจาะไปยังเป้าหมาย และตลอดทางต้องเจอยูเรียลขัดขวาง ซึ่งทำให้ใช้รถขุดดินยักษ์ขุดเจาะไปไม่ถึง

นาระฟังจากปากของโคบอลต์เผ่าหนึ่งที่ให้ความช่วยเหลือเอเชียใต้เกี่ยวกับการใช้รถสว่านกับเครื่องบินทิ้งระเบิด แต่คนออกแบบ (บุ๊คแมน)ทำดีเกินไปจึงต้องใช้วิธีทีละขั้นแทน

“เราพอกู้ระบบและชำระล้างอากาศในห้องได้ไหม ถ้าเราทำได้จะมีเวลาช่วยมากโข” นาระแสดงความคิดเห็น

“ผมทำไม่ได้” อลันบอก “บุ๊คแมนทำการควบคุมการสั่งการเกือบทั้งหมดสั่งปิดแหล่งพลังงาน จนกว่าแหล่งพลังจะถูกตั้งระบบใหม่ ผมไม่สามารถเข้าสั่งการได้”

“แนวป้องกันบ้าอะไรกัน!!” นาระตะโกน

เขาคิดว่าแนวป้องกันคงเป็นพื้นที่สำหรับป้องกันไม่ให้ข้าศึกผ่านในจุดสำคัญ แต่แนวป้องกันที่หนึ่งของบุ๊คแมนเหมือนกับป้อมปราการขนาดใหญ่ ต่างกับแนวป้องกันที่สองที่ดูธรรมดาไปเลย

ตอนบุ๊คแมนวางรากฐาน เขาไม่ได้คิดอะไรมากในตอนนั้นนอกจากการสร้างป้อมปราการใกล้ทะเลที่สามรถใช้เป็นทางผ่านและพอเป็นจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ทำให้บุ๊คแมนคิดว่าควรออกแบบให้แข็งแรงเพื่อใช้ป้องกันกองทัพยูเรียลและติดตั้งเทคโนโลยีของโคบอลต์เพื่อใช้เป็นบ้านอีกหลังไปในตัว

“แบบนี้ควรยึดคืน” นาระสัมผัสหน้าจอที่ได้รับความเสียหายบนกำแพง โคบอลต์ลงทุนกับพื้นที่ตรงนี้ไปมาก พวกสัตว์ประหลาดไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ 

“ถ้าเอเชียใต้ยินดีให้ความช่วยเหลือ เราสามารถยึดคืนได้ในทันที” อลันตอบ เขาติดต่อกับทางผู้บัญชาการในภารกิจครั้งนี้เป็นผลสำเร็จ “แต่ไม่อยากเชื่อใจพวกเขา”

“จริง กลุ่มคนที่เสียสติไปแล้วมันเชื่อใจยาก” นาระเข้าใจ พวกเขาเจอคนหักหลังหลายรอบทั้งที่เป้าหมายคือการช่วยโลก แต่ผลประโยชน์สามารถทำลายสายสัมพันธ์ในทันที และความเชื่อมั่นที่แตกเป็นเสี่ยงๆไม่มีทางที่จะประกอบกลับ

“ผมว่าเราอย่าเพิ่งสนใจตรงจุดนี้ และทำหน้าที่ให้เสร็จสิ้น” ฟลิบแสดงข้อเสนอแนะ หน้าที่คือหน้าที่ตราบเท่าที่ไม่มีเรื่องขัดใจ เรื่องอื่นเป็นแค่จุดเล็กๆน้อยๆ ส่วนการเขียนกฎหมายในข้อเจรจาเป็นหน้าที่ของคนอื่น

“กำลังเสริมมาถึง” หุ่นแอนดรอยด์รายงานสถานการณ์ กำลังเสริมกำลังมาช่วยพวกนิล จากการที่เอเชียใต้มาถึงและยินดีให้ความช่วยเหลือพวกเขาจึงสามารถแบ่งกองกำลังผสมมาช่วยพวกเขาได้

“แล้วฟารโร?” นิลถาม

“พวกเราเจอพิกัดแล้ว ทางศูนย์บัญชาการตัดสินใจปล่อยไปก่อน” อลันตอบ พวกเขาสามารถคำนวณจำนวนทหารได้อย่างแม่นยำ ทางฟารโรส่งคนของตัวเองไปขุดคุ้ยที่ฐานข้อมูลซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่อลันพบว่าข้อมูลที่ว่ามาเป็นข้อมูลการวิจัยโคบอลต์ที่หลุดไปบ้าง แต่ไม่สำคัญเท่าชีวิตคนจึงเลือกที่จะเฝ้าระวังการกระทำของหน่วยล่าสังหารแทนที่จะโจมตี

ตึกตัก!

“อ๊อก!” นิลเจ็บหัวใจ เขาเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ในทันที “มีบางอย่างรบกวนทำให้พลังงานของฉันไม่พอ”

“ถ้าเป็นอย่างที่เอเชียใต้ว่ามา เรื่องนี้คงเกี่ยวกับยูเรียลต้องการทำลายโลกใหม่” ฟลิบสรุปอาการของนิลจากที่นาระเล่ามา “เวลาเราไม่พอ!”

“งั้น….รีบช่วยบุ๊คแมน!” นิลที่รู้สึกเหนื่อยพยักหน้า โลกเก่าทำให้เขาอ่อนแรง

“เข้าใจแล้ว” นาระตอบ ในเมื่อกำลังเสริมมาพวกเขาจึงเข้าไปช่วยตรงๆเลย

แฮ่!

เหมือนเป็นการต้อนรับ กองทัพยูเรียลทั้งหมดบุกมาตรงจุดนี้ เรดาห์แจ้งเตือนปฏิกิริยาสิ่งมีชีวิตอันตรายจำนวนมากแห่มาเต็มที่

“เห้! แน่ใจไหมว่าไหว?” นาระถามนิล เพราะจากสภาพเหมือนกับต้องส่งหมอนี้กลับบ้าน

“ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน ขอแค่มีแบตกับใช้แกเป็นโล่พอ” 

“ฟัค….” นาระสถบและเปลี่ยนอาวุธให้ถนัดมือ “ฟลิบช่วยสนับสนุนฉันที”

“รับทราบ” ฟลิบสั่งการแอนดรอยด์ให้ติดตั้งป้อมปืนกับม่านพลังชะลอความเร็วตามจุดสำคัญ หุ่นแอนดรอยด์สองตัวเปลี่ยนร่างกายเป็นป้อมปืนกลหนักและเปิดโล่พลังงานเพื่อรักศึก

นิลส่ายหน้า เขาตรวจอาวุธของตัวเองเพื่อทำสมาธิ “ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วย”

ตูม! 

เพดานกับพื้นถล่มตามที่คาดคะเนไว้ กองทัพสัตว์ประหลาดบุกตามแผน 

“ทุกคน!” นาระตะโกน “อย่าตายต่อหน้าฉันละ”

“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ” ฟลิบตอบ

“ถ้าแกไม่ตาย ฉันก็ไม่ตายละฟะ” นิลหัวเราะก่อนที่จะถูที่หน้าอกซึ่งมีจี้หอยคอที่ไอน์มอบให้เขา

“ยิง!” นาระตะโกนก่อนที่ปืนทุกกระบอกในห้องจะกราดยังไปยังกองทัพยูเรียล

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

P.Plan เส้นทางลิขิต ปฏิวัติโลก 257

Now you are reading P.Plan เส้นทางลิขิต ปฏิวัติโลก Chapter 257 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Time< Two Hundred Fifty Seventh>

กู้พลังงานคืน 

วันที่ 4 ธันวาคม  ค.ศ. 2049 เวลา 07: 59 น. (+1H) 

แอฟริกา

ผู้บัญชาการคีบบุหรี่จากปากและเอาบุหรี่แหย่ลูกตาของมนุษย์โคลนที่สิ้นฤทธิ์ “รายงานความเสียหาย” เขาดีดปลายบุหรี่ที่เลอะคราบสกปรกออกมาสูบต่อ

เลขาที่ตัวเปื้อนเลือดเปิดระบบโฮโลแกรม “เราได้รับความเสียหายอย่างหนัก ยืนยันการสูญเสียทหารกับบุคลากรอยู่ที่ 67.8% คาดว่าต้องใช้เวลาอีกสองชั่วโมงถึงจะสามารถยืนยันตัวเลขที่แน่ชัด”

“ข้าศึก?” 

“เราสามารถทำลายกองกำลังหลักข้าศึกได้เป็นผลสำเร็จตามแผนที่วางเอาไว้ และกำลังเสริมที่มาถึงกำลังทำลายกองทัพศัตรูที่หลงเหลืออยู่ภายในรัศมี 200 กิโลเมตร จากการคาดการณ์ทั้งหมดจะแล้วสิ้นภายใน 4 ชั่วโมง”

“ไม่เลว… บอกทุกคนให้เฝ้าระวังในระดับกลาง และมีการพักเวรตามมาตรการในเวลานี้ และ…” เขาชี้ไปยังเทือกเขาห่างไกลที่มีควันพวยพุ่ง “บอกเขาให้กลับมา”

“คะ”

ผู้บัญชาการเห็นเลขาฯออกจากห้องที่พังพินาศถอดหน้ากากรับลมเย็นๆยามเช้า

ใบหน้าของเขาเหมือนกับหนังหน้าฉีกขาดจนเห็นเส้นกล้ามเนื้อราวกับบาดเจ็บหนัก แต่ความจริงนี้คือใบหน้าจริงของเขา หนังหน้าเป็นแค่ผิวหนังปลอมที่เขาติดเอาไว้เพื่อไว้หลอกตากลมกลืนไปกับสังคมปกติ

นี้คือข้าใช้จ่ายราคาถูกคุ้มราคาที่แลกกับพลังกับปัญหาเหนือมนุษย์

“ข้าราชองครักษ์” เขาคำราม 

ทันใดนั้นกลุ่มทหารในชุดขาวจำนวนมากโผล่จากความว่างเปล่า ทุกคนนั่งชันเข่าพร้อมรับคำสั่ง

ผู้บัญชาการหยิบหน้ากากรอยัลการ์ดแบบเดียวกันมาสวม “เวลามาถึง….เตรียมออกศึก เราจักแสดงให้ยูเรียลเห็นว่า ใครกันแน่ที่เป็นเจ้าแห่งโลกตัวจริง”

หลังจากนั้นไม่นานเขานำพากองทัพรอยัลการ์ดที่ทรงพลังและไฮเทคที่สุดของเอเชียใต้ประจัญชายแดนยุโรปสำหรับสงครามครั้งใหญ่ในการประกาศศักดา!!!

…….

“อัตราการใช้พลังงานคงที่ ….เกณฑ์อยู่ที่ 58.14% ม่านปฏิสสารทำงานตามปกติ”

“การเสื่อมสภาพของตัวอย่างการทดลองหยุดนิ่ง อัตราการล้มเหลวบวกลบ 2.487% ”

ฟารโรมองสตีฟที่แช่อิ่มในของเหลวสีน้ำตาลอ่อนที่ห่อหุ้มด้วยบอลไฟฟ้าลอยอยู่กลางห้อง แขนกลกดเข้าไปบอลไฟฟ้าและยิงเลเซอร์พลังงานสูงตัดเซลล์ตัวอย่างบรรจุในบอลไฟฟ้าอีกลูกที่ขนาดเล็กกว่า

สถานการณ์ของสตีฟอยู่ในฐานะกึ่งหลับกึ่งตื่นง่ายต่อการตรวจสอบและทำการทดสอบหลายๆอย่าง

“ต้องใช้ตัวอย่างอีกเท่าไร” ฟารโรสังเกตสภาพของสตีฟที่เหมือนกับถูกตัดเป็นชิ้นๆตั้งแต่หัวจรดเท้ารู้สึกถอดใจ

“การวิจัยใกล้เสร็จสิ้น” นักวิทยาศาสตร์รายงาน ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นของตัวเองต่อ “แต่ผมคิดว่าเราควรเก็บเขาไว้แทนที่จะทำลายทิ้ง”

“ฟังนะ” ฟารโรหันกลับมาเตือน “ฉันอนุญาตให้พวกคุณทำการทดลองเพราะมันจำเป็น แต่ไม่ได้หมายความว่าผมเห็นด้วยกับทุกการกระทำของพวกคุณ ผมจะพูดอีกรอบ หลังจากได้ผลการทดลองที่ต้องการ กำจัดเขาทิ้งซะ!”

ฟารโรยืนยันคำสั่งเดิม ก่อนที่จะเดินไปยังห้องใกล้เคียงที่มีผลการวิจัยสำหรับผู้ป่วย 

“ทั้งที่เป็นตัวอย่างที่ดีแท้ๆ” นักวิทยาศาสตร์บ่นอุบอิบ แต่โลภไปไม่ได้อะไรขึ้นมา เขาจึงคิดว่าจะใช้ทุกอย่างเท่าที่มีในการทดลอง

“รับทราบ”

“เยี่ยม” ฟารโรพอใจกับคำตอบ การที่ให้พวกนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องย่อมมีความเสี่ยง และเขาต้องทำหน้าที่คอยควบคุมไม่ให้พวกหัวไข่ทำอะไรเลยเถิดผิดจริยธรรม

ขอเวลาอีกนิดเดียว สุดยอดอาวุธต่อต้านยูเรียลจะเสร็จสมบูรณ์ ถึงแม้การโจมตีโดยฉับพลันของยูเรียลจะสร้างความเสียหายให้พวกเขาอย่างหนัก แต่นั้นทำให้เขาเจอความสัมพันธ์ระหว่างโลกเดิมกับโลกใหม่ (นิล)

ไม่ว่าโลกใดโลกหนึ่งจะถูกอีกโลกเขียนทับ นี้คือความจริงทำให้ยูเรียลเสียเวลาในการหยุดปรากฏการณ์ที่ว่า และนั้นช่วยซื้อเวลาให้พวกเขา

“ท่านครับ เราตรวจสอบคลื่นสะท้อนจากพื้นน้ำแข็ง” ทหารรายงานข้อมูลกับฟารโรที่กำลังอ่านขั้นตอนการวิจัย

“ไหน” ฟารโรอ่านข้อมูลคลื่นที่ว่า “โคบอลต์ทำการตอบโต้? พวกนี้คิดที่จะยึดทางใต้ดินคืน? ไม่รู้หรอว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะได้คืน”

เขาสงสัยว่าอลันคิดทำอะไรกันแน่ แนวป้องกันแรกถูกยูเรียลเจาะทำลาย แนวชั้นน้ำแข็งกับหินข้างใต้ไม่สามารถใช้เป็นแนวป้องกันได้อีกแล้ว ต่อให้ตอบโต้จนยึดคืนได้ก็ไม่มีทางป้องกันรอบสองได้สำเร็จ ยิ่งแนวป้องกันที่สองกับที่สามถูกเจาะเป็นหลังผึ้ง กองกำลังโคบอลต์เหมือนกับเดินลงโลงศพด้วยตัวเอง

“ส่งหน่วยล่าสังหารไปสอดแนมอย่างใกล้ชิด รายงานทุกอย่างที่พบให้ฉันทราบ”

“ตามคำบัญชา”

……………

“แค่ก แค่ก” บุ๊คแมนถอดเกราะเสริมกำลังส่วนขาที่กลายเป็นเศษเหล็กออก เขาลากร่างที่บาดเจ็บไปยังแผงควบคุมชั้นใต้ดิน

เขาใช้แขนเสริมกำลังปีนขึ้นไปที่นั่งหน้าแท่นออกคำสั่ง ขาของเขาถูกอัดจนพังไปพร้อมกับเกราะส่วนขาเป็นที่เรียบร้อย แต่เหมือนเขาโชคดีตรงที่ถูกอัดตรงสะโพกจนกระเด็นเข้ามาในห้องพอดิบพอดี และทำให้บุ๊คแมนทำการเชื่อมระบบออกคำสั่งฉุกเฉิน จนทำการชัตดาวน์ฐานผลิตพลังงานใต้ดินไม่ให้เกิดโอเวอร์โหลดจนเกิดการระเบิดรุนแรง

“ดูเหมือนว่าผมจะอยู่ได้อีกไม่นาน….” บุ๊คแมนตรวจร่างกายตัวเองชั่วคราว เขาห้ามเลือดร่างกายช่วงล่างได้ทันท่วงทีจากระบบช่วยชีวิตที่ทำงานทันทีที่เกราะถูกทำลาย แต่ว่า………เขาขาดอากาศ

จากการคำนวณสภาพแวดล้อมพบว่ามีการปนเปื้อนของแก๊สพิษร้ายแรง สาเหตุที่เขายังมีอากาศหายใจทั้งที่ไม่มีถังอากาศสำรองเพราะใช้ระบบกรองแก๊ส

แต่เขากำลังตายเพราะร่างกายปกเปื้อนสารพิษ โคบอลต์มีร่างกายที่อ่อนแอมาก สภาพแวดล้อมแบบนี้จะฆ่าเขาอย่างช้าๆ

ขณะที่เขากำลังปิดแหล่งพลังงานสำคัญจากหอสั่งการ บุ๊คแมนพบสัญญาณชีวิตนอกเหนือจากสัตว์ประหลาดยูเรียลถึงสามจุดที่กำลังมุ่งหน้ามาที่ป้อมปราการใต้ดิน

“ทิศจากทางใจกลางทวีปใต้ดิน…” จากที่ว่ามาน่าจะเป็นโคบอลต์ที่ถูกส่งมาเก็บกู้ทุกอย่างเท่าที่เก็บกู้ได้ รหัสที่ส่งมาเป็นรหัสสำหรับกู้ชีพกับกู้คืน

“ส่วนนี้มาทางชายทะเล… ฟารโร-อัลคาร์ด” จากทิศนี้ทำให้หน่วยล่าสังหารอัลคาร์ดสามารถเคลื่อนไหวได้สะดวกและลอบเร้นไปในตัว สาเหตุที่เขาแน่ใจเพราะการตรวจจับที่ไม่ชัดเจนทำให้ระบุเป้าหมายว่าเป็นใครได้ง่าย (แต่ไม่ได้ความว่าจะป้องกันได้)

“อันนี้มาเป็นทัพเรือ แถมมีเรือธงด้วย” อันนี้ไม่ต้องทาย เพราะติดธงเอเชียใต้แล่นมาทุกกองเรือ ราวกับจะบอกว่าตูข้าคือใคร และมาเป็นกองใหญ่จึงล่อสายตายูเรียลจำนวนมากในทีเดียว

แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากกองกำลังสามฝ่ายร้ายแรงเกินไป เขาไม่รู้เป้าหมายที่แน่ชุดของเอเชียใต้กับฟารโร (ฝ่ายหลังน่าจะรู้ข่าวสักอย่างจากพวกเขา) บุ๊คแมนจึงติดต่อกับผู้ที่ยังรอดชีวิตอยู่ (หนีไม่ทัน) และชี้ทางไปยังสถานที่ๆปลอดภัยและง่ายต่อการอพยพ

“แค่กๆ” บุ๊คแมนเริ่มหมดสติ แต่การที่มีมาช่วยเขาจึงลองเสี่ยงดูโดยการเปิดระบบจำศีลของชุดเพื่อลดการทำงานของร่างกายให้ต่ำที่สุด และเข้าสู่สภาวะจำศีล

ตูม!

รถขุดดินคันแรกยิงเลเซอร์ทะลวงปูนซีเมนต์

“เคลียร์” โคบอลต์อ่านคลื่นบอกก่อนที่ทหารจะเข้ายึดพื้นที่

พวกทำตามแผนหลังจากที่ได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือ พื้นที่ตรงจุดนี้ง่ายต่อการป้องกัน และสามารถส่งคนไปป่วนเส้นทางของพวกสัตว์ประหลาด

“บุ๊คแมนน่าจะอยู่ตรงนี้” นิลชี้ไปยังหอสั่งการใต้ดินตรงทิศเหนือ “มีแค่จุดนี้ที่สามารถสั่งปิดแหล่งพลังงานได้”

“แต่มันยากที่เราจะบุกเข้าไปช่วย ข้าศึกเหมือนร่างแผนรับมือไว้อย่างดี เราต้องระมัดระวังทุกการกระทำ” ทหารมนุษย์แก่อ่านสถานการณ์จากข้อมูลเล็กน้อย “ผมว่าเราควรยึดหอสั่งการตรงทิศใต้เพื่อสั่งใช้งานระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อความได้เปรียบ”

“ผมเห็นด้วย” ทหารอีกคนเห็นด้วย “แต่จากข้อมูล เมื่อทำการเปิดระบบพลัง ระบบประตูฉุกเฉินจะถูกรีเซต ผมว่าเราควรช่วยผู้รอดชีวิตกับกู้ทุกอย่างให้ได้มากที่สุดก่อนที่เราจะฟื้นฟูแหล่งพลังงาน”

นิลฟังข้อเสนอของแต่ละคน ถึงกระนั้นเขาทำได้แค่มองเพราะตัวเองไม่ได้เป็นผู้บัญชาการภาคสนาม แม้แต่โรน่าที่อยู่ศูนย์บัญชาการก็แสดงความคิดเห็นกับทหารผ่านศึกมากฝีมือเหล่านี้

ผู้บัญชาการอัลคาร์ดลูบหนวดก่อนที่เขาจะชี้ไปยังพื้นที่ทิศตะวันตก “มันเสี่ยงเกินไป จากข่าวกรอง พวกทรยศเคลื่อนพลเช่นกัน ถ้าเราเลือกต้องช่วยผู้รอดชีวิตก่อนถึงจะสามารถเปิดแหล่งพลังงาน…..เราต้องเข้าปะทะกับพวกเขา”

ความหมายของเขาชัดเจนคือการช่วยชีวิตอย่าเพิ่งเสียเวลาไปยุ่งกับแหล่งพลังงาน เพื่อที่พวกเขาจะยึดแหล่งพลังงาน จำเป็นต้องแบ่งกองกำลังเป็นหน่วยย่อยไปป้องกันและเคลื่อนไหวตามสถานการณ์ ถ้าเกิดหน่วยล่าสังหารอัลคาร์ดฉวยจังหวะนี้

พวกเขาจะล้มเป็นโดมิโน่ และภารกิจจะล้มเหลว

“งั้นผมเป็นตัวล่อเอง” นิลชี้ไปยังจุดที่อยู่ระหว่างแหล่งพลังงานกับตำแหน่งของพวกเขาในปัจจุบัน ก่อนที่จะลากนิลไปยังห้องคอนโซนที่ติดกับโรงอาหาร “เราจะแบ่งคนส่วนหนึ่งไปแสตนบายด์เพื่อเฝ้าดูสถานการณ์ที่หอสั่งการทิศใต้”

“แผนดี แต่คุณไหวไหม?” ผู้บัญชาการถาม พวกเขาส่งคนไปยึดหอสั่งการทิศใต้ได้ แต่ห้องคอนโซลที่ติดกับโรงอาหารเรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางเส้นทางถึงแม้จะปิดประตูไว้แล้ว แต่จุดนี้เป็นทางผ่านที่รับศึกหนักที่สุด

“ผมค่อนข้างพิเศษ” นิลเอยยกย่อตัวเองก่อนที่จะชี้ไปที่ชายในชุดเกราะสีดำไฮเทค “และผมได้รับคำสั่งจากเบื้องบนให้ตามหาเป้าหมายและช่วยเขากลับมา”

เขาพูดถึงภารกิจก่อนที่จะมีหุ่นแอนดรอยด์สำหรับสงคราม 6 ตัวเดินตามเขากับฟลิบ

“อืม…เข้าใจแล้ว แต่อย่าผลีผลาม จำนวนเองคือสิ่งสำคัญสำหรับพวกเรา” ผู้บัญชาการอัลคาร์ดอนุญาต และมอบยุทโธปกรณ์บางอย่างให้กับนิล “ปลอดภัย”

“เช่นกัน” นิลจับมือผู้บัญชาการภาคสนาม ก่อนที่จะนำขบวนหุ่นแอนดรอย์กับฟลิบไปที่ลิฟต์ส่งของเพื่อไปยังเส้นทางที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาด

……..

ตูม!

เคร้ง!

แคปซูลส่งเอเชียใต้เจาะเข้าไปในชั้นน้ำแข็ง และยิงลำแสงเลเซอร์ทะลวงชั้นโลหะกับคอนกรีตใต้ดินจนไปถึงด้านใน

เอเชียใต้ยิงแคปซูลจากเรือขนส่งไปยังป้อมปราการใต้ดินอย่างแม่นยำเพื่อส่งทหารเข้าไปส่วนด้านล่างที่ภายในได้รับความเสียหายน้อย

ทหารเอเชียใต้ได้รับคำสั่งให้ยึดแนวป้องกันที่หนึ่งเพื่อใช้เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในพื้นที่แอนตาร์กติก้า กองกำลังแนวหน้าที่ประจำการจากภาคโอเชียเนียเกือบทั้งหมดยกทัพมาเพื่อศึกนี้

นาระถีบประตูแคปซูลไปพร้อมกับสัตว์ประหลาดที่เข้ามาจัดการผู้รุกราน เขาโดดตัวตีลังกาเตะหัวสัตว์ประหลาดใกล้เคียงก่อนที่จะชักปืนกลมือกราดใส่ตัวข้างเคียงเพื่อทำลายจังหวะก่อนที่จะตะบัดหน้าทุกตัวที่เข้าใกล้

“เพราะแบบนี้ถึงไม่ชอบใช่เจ้านี้” นาระไม่ถนัดการเปลี่ยนซองกระสุนปืนกลมือของเอเชียใต้ที่ยุ่งยากเพื่อถอนรากถอนโค่นทหารไร้คุณภาพ

“ถ้าเป็นของญี่ปุ่นคงจะดีกว่านี้” เขาดันใช้ของญี่ปุ่นจนชินมือ

หลังจากจัดการลดจำนวนสัตว์ประหลาด นาระทุบช่องลมที่เชื่อมกับชั้นน้ำแข็งก่อนที่จะกระโดลงไปโดยไม่สนใจคู่มือ

ทหารเอเชียใต้ห้ามนาระไม่ทัน และก่อนที่จะลงนาระระเบิดช่องลมทิ้งโดยไม่ให้ใครตามมา แต่ยังคงเปิดช่องทางการสื่อสารและทางเบื้องบนอนุญาตการกระทำโดยพลการ

ตุบ!

เคร้ง!

นิลชักปืนขึ้นลำกล้องใหม่ก่อนที่จะเล็งไปที่ทิศเสียง แต่พบว่าตรงหน้าเขาคือชายในชุดเกราะไฮเทคที่มีชายเสื้อแบบพิเศษสีดำหล่นจากช่องซ่อมบำรุงที่ทะลวงม่านเหล็กลงมา

ชายคนนั้นปัดฝุ่นก่อนที่จะกดปุ่มเปิดหน้ากากของเขาออก “นี้ฉันเอง”

“นาระ?” นิลที่เล็งปืนอยู่แปลกใจ “มาได้ยังไง” แต่เขายังไม่ไหวใจเพราะอาจเป็นตัวปลอมๆตัวมาแบบร่างโคลนยูเรียลสำหรับสอดแนม

“..ฉันตัวจริง”

ปัง!

‘นาระ’ นอนจมกองเลือดหลังเสียงปืน นิลหันไปก็พบว่ามีชายในชุดเกราะติดตราเอเชียใต้เก็บปืนที่ใช้ลั่นไกสังหาร

“นี้สิตัวจริง” นิลเก็บปืน “โดนทรมานมาหรือไง”

“เหอะ ยังอยู่ละกัน” นาระบิดคอ เขาจ้องตัวปลอมที่ส่วนใบหน้ากลับสภาพเดิม “ให้ช่วยอะไรไหม”

แต่ไม่ทันไรหุ่นแอนดรอยด์เข้ามาขว้างระหว่างนิลกับนาระ “ศัตรู”

“ไม่ใช่” นาระส่ายมือก่อนที่จะยิงลำแสงเลเซอร์ใส่หุ่นแอนดรอยด์ “ฉันมาส่งข่าว และมาช่วย”

สักพักหุ่นแอนดรอยด์ที่ถูกลำแสงตาเปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสีขาว “ได้รับข้อเสนอ” เสียงของอลันดังออกมาจากหุ่นแอนดรอยด์ “หลังจากลอบสังหารล้มเหลว เลยมาผูกมิตรว่างั้น”

“อะไรนะ?” ฟลิบร้อง เขาเองลำบากตอนที่เอเชียใต้ทำการลอบสังหารผู้คนกลางวันแสกๆ

“ที่จริง พวกนี้มันบ้า ฉันจะเล่าให้ฟังระหว่างทางละกัน” นาระชี้ไปที่ประตูที่พาไปยังห้องคอนโซลที่เป็นเป้าหมาย ก่อนหน้านั้นเขาก็เล่าว่าเขามาที่นี้ได้ยังไง จากการใช้ระบบขับดันในชุดในที่แคบทำให้เขาสามารถเคลื่อนไหวในช่องแคบอย่างรวดเร็ว

นาระจึงเล่าแผนการที่เอเชียใต้วางเอาไว้โดยการ‘ฆ่านิล’เพื่อใช้ต่างระเบิดนิวเคลียร์ทำลายยูเรียลจากการที่ทำให้โลกใหม่ที่เกิดไม่เสถียรทำลายโลกเก่าเพื่อสร้างอารยธรรมมนุษย์ขึ้นใหม่

อลันที่อยู่อีกฝากถึงกับบอกว่า ‘พวกบ้านี้ยังสติดีอยู่หรือเปล่า ดีแล้วที่หยุดได้ทัน’ แผนการกำจัดยูเรียลเพื่อสร้างโลกที่ควบคุมเจตจำนงของมนุษย์นี้มันบ้าชัดๆ

แต่จากข้อความการเจรจาที่ว่ามา ทางเอเชียใต้ยินดีให้ความช่วยเหลือพวกเขาเต็มที่หลังจากที่แผนของพวกเขาล้มเหลว เอเชียใต้จึงเริ่มใช้แผนสำรองซึ่งก็คือการปะทะซึ่งหน้ากับยูเรียลและใช้ทุกอย่างที่มีบุกโจมตีปราสาทซุนสเซตทางแอฟริกาเหนือ

กองทหารที่เด่นที่สุดร่วมตัวเข้าใกล้ทวีปยุโรป กองกำลังรอยัลการ์ดทั้งหมดอยู่ใต้บัญชาของผู้บัญชาการจะทะลวงทุกอย่างที่มี

“ฟังดูดี” อลันตอบนาระ “แต่ผมไม่เชื่อใจพวกเขา”

“ผมก็เช่นกัน” นาระที่ตลอดทางฉีกสัตว์ประหลาดเป็นชิ้นและใช้ศพของพวกมันต่างโล่ “หน้าที่ของฉันมีแค่การกำจัดยูเรียล ดังนั้นฉันจึงพอรับได้” แต่เขาอยากเสริมว่าผู้บัญชาการคนนี้เป็นรอยัลการ์ดที่เสียสติแต่ดันมีอำนาจทางการเมืองกับการทหารในระดับที่น่ากลัว

เลวร้ายกว่าผงเครื่องดื่มสำเร็จรูปที่ทำผู้หญิงอ้วน

“แล้วพวกนายมาทำอะไรที่นี้ ตรงจุดนี้ไม่น่าอยู่ในแผนการช่วยผู้รอดชีวิต” นาระเปิดแผนที่สามมิติ

ทางนิลกับฟลิบจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับบุ๊คแมน และหลังจากที่เขาสามารถกู้ระบบนำร่องใต้ดินคือเขาพบว่าสัญญาณชีวิตของบุ๊คแมนอ่อนเต็มที่จึงเลือกที่จะมายังห้องคอนโซลก่อนเวลาตามแผนที่วางเอาไว้

“มันเป็นไปไม่ได้ที่จะก่อนเวลา” นาระตอบ เขาสัมผัสชั้นน้ำแข็งกับชั้นหินตลอดทางที่ลอยในช่องว่างต่างๆ และพบว่ามันแข็งมากที่จะเจาะไปยังเป้าหมาย และตลอดทางต้องเจอยูเรียลขัดขวาง ซึ่งทำให้ใช้รถขุดดินยักษ์ขุดเจาะไปไม่ถึง

นาระฟังจากปากของโคบอลต์เผ่าหนึ่งที่ให้ความช่วยเหลือเอเชียใต้เกี่ยวกับการใช้รถสว่านกับเครื่องบินทิ้งระเบิด แต่คนออกแบบ (บุ๊คแมน)ทำดีเกินไปจึงต้องใช้วิธีทีละขั้นแทน

“เราพอกู้ระบบและชำระล้างอากาศในห้องได้ไหม ถ้าเราทำได้จะมีเวลาช่วยมากโข” นาระแสดงความคิดเห็น

“ผมทำไม่ได้” อลันบอก “บุ๊คแมนทำการควบคุมการสั่งการเกือบทั้งหมดสั่งปิดแหล่งพลังงาน จนกว่าแหล่งพลังจะถูกตั้งระบบใหม่ ผมไม่สามารถเข้าสั่งการได้”

“แนวป้องกันบ้าอะไรกัน!!” นาระตะโกน

เขาคิดว่าแนวป้องกันคงเป็นพื้นที่สำหรับป้องกันไม่ให้ข้าศึกผ่านในจุดสำคัญ แต่แนวป้องกันที่หนึ่งของบุ๊คแมนเหมือนกับป้อมปราการขนาดใหญ่ ต่างกับแนวป้องกันที่สองที่ดูธรรมดาไปเลย

ตอนบุ๊คแมนวางรากฐาน เขาไม่ได้คิดอะไรมากในตอนนั้นนอกจากการสร้างป้อมปราการใกล้ทะเลที่สามรถใช้เป็นทางผ่านและพอเป็นจุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ทำให้บุ๊คแมนคิดว่าควรออกแบบให้แข็งแรงเพื่อใช้ป้องกันกองทัพยูเรียลและติดตั้งเทคโนโลยีของโคบอลต์เพื่อใช้เป็นบ้านอีกหลังไปในตัว

“แบบนี้ควรยึดคืน” นาระสัมผัสหน้าจอที่ได้รับความเสียหายบนกำแพง โคบอลต์ลงทุนกับพื้นที่ตรงนี้ไปมาก พวกสัตว์ประหลาดไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ 

“ถ้าเอเชียใต้ยินดีให้ความช่วยเหลือ เราสามารถยึดคืนได้ในทันที” อลันตอบ เขาติดต่อกับทางผู้บัญชาการในภารกิจครั้งนี้เป็นผลสำเร็จ “แต่ไม่อยากเชื่อใจพวกเขา”

“จริง กลุ่มคนที่เสียสติไปแล้วมันเชื่อใจยาก” นาระเข้าใจ พวกเขาเจอคนหักหลังหลายรอบทั้งที่เป้าหมายคือการช่วยโลก แต่ผลประโยชน์สามารถทำลายสายสัมพันธ์ในทันที และความเชื่อมั่นที่แตกเป็นเสี่ยงๆไม่มีทางที่จะประกอบกลับ

“ผมว่าเราอย่าเพิ่งสนใจตรงจุดนี้ และทำหน้าที่ให้เสร็จสิ้น” ฟลิบแสดงข้อเสนอแนะ หน้าที่คือหน้าที่ตราบเท่าที่ไม่มีเรื่องขัดใจ เรื่องอื่นเป็นแค่จุดเล็กๆน้อยๆ ส่วนการเขียนกฎหมายในข้อเจรจาเป็นหน้าที่ของคนอื่น

“กำลังเสริมมาถึง” หุ่นแอนดรอยด์รายงานสถานการณ์ กำลังเสริมกำลังมาช่วยพวกนิล จากการที่เอเชียใต้มาถึงและยินดีให้ความช่วยเหลือพวกเขาจึงสามารถแบ่งกองกำลังผสมมาช่วยพวกเขาได้

“แล้วฟารโร?” นิลถาม

“พวกเราเจอพิกัดแล้ว ทางศูนย์บัญชาการตัดสินใจปล่อยไปก่อน” อลันตอบ พวกเขาสามารถคำนวณจำนวนทหารได้อย่างแม่นยำ ทางฟารโรส่งคนของตัวเองไปขุดคุ้ยที่ฐานข้อมูลซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่อลันพบว่าข้อมูลที่ว่ามาเป็นข้อมูลการวิจัยโคบอลต์ที่หลุดไปบ้าง แต่ไม่สำคัญเท่าชีวิตคนจึงเลือกที่จะเฝ้าระวังการกระทำของหน่วยล่าสังหารแทนที่จะโจมตี

ตึกตัก!

“อ๊อก!” นิลเจ็บหัวใจ เขาเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ในทันที “มีบางอย่างรบกวนทำให้พลังงานของฉันไม่พอ”

“ถ้าเป็นอย่างที่เอเชียใต้ว่ามา เรื่องนี้คงเกี่ยวกับยูเรียลต้องการทำลายโลกใหม่” ฟลิบสรุปอาการของนิลจากที่นาระเล่ามา “เวลาเราไม่พอ!”

“งั้น….รีบช่วยบุ๊คแมน!” นิลที่รู้สึกเหนื่อยพยักหน้า โลกเก่าทำให้เขาอ่อนแรง

“เข้าใจแล้ว” นาระตอบ ในเมื่อกำลังเสริมมาพวกเขาจึงเข้าไปช่วยตรงๆเลย

แฮ่!

เหมือนเป็นการต้อนรับ กองทัพยูเรียลทั้งหมดบุกมาตรงจุดนี้ เรดาห์แจ้งเตือนปฏิกิริยาสิ่งมีชีวิตอันตรายจำนวนมากแห่มาเต็มที่

“เห้! แน่ใจไหมว่าไหว?” นาระถามนิล เพราะจากสภาพเหมือนกับต้องส่งหมอนี้กลับบ้าน

“ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน ขอแค่มีแบตกับใช้แกเป็นโล่พอ” 

“ฟัค….” นาระสถบและเปลี่ยนอาวุธให้ถนัดมือ “ฟลิบช่วยสนับสนุนฉันที”

“รับทราบ” ฟลิบสั่งการแอนดรอยด์ให้ติดตั้งป้อมปืนกับม่านพลังชะลอความเร็วตามจุดสำคัญ หุ่นแอนดรอยด์สองตัวเปลี่ยนร่างกายเป็นป้อมปืนกลหนักและเปิดโล่พลังงานเพื่อรักศึก

นิลส่ายหน้า เขาตรวจอาวุธของตัวเองเพื่อทำสมาธิ “ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วย”

ตูม! 

เพดานกับพื้นถล่มตามที่คาดคะเนไว้ กองทัพสัตว์ประหลาดบุกตามแผน 

“ทุกคน!” นาระตะโกน “อย่าตายต่อหน้าฉันละ”

“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ” ฟลิบตอบ

“ถ้าแกไม่ตาย ฉันก็ไม่ตายละฟะ” นิลหัวเราะก่อนที่จะถูที่หน้าอกซึ่งมีจี้หอยคอที่ไอน์มอบให้เขา

“ยิง!” นาระตะโกนก่อนที่ปืนทุกกระบอกในห้องจะกราดยังไปยังกองทัพยูเรียล

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+