STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา 36.4 ครั้งแรกกับการล่าปีศาจ (4)

Now you are reading STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา Chapter 36.4 ครั้งแรกกับการล่าปีศาจ (4) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 36 ครั้งแรกกับการล่าปีศาจ (4)

ในเวลาเดียวกัน

ณ ทางเหนือของเมือง

เฉินเจียนอยู่ข้างหน้า หลิวเยี่ยนอยู่ข้างหลัง หลี่ฮ่าวอยู่ตรงกลาง

ทั้งสามคนเคลื่อนไหวพร้อมกัน ขับรถคันเล็กๆ มุ่งหน้าสู่นอกตัวเมืองอย่างรวดเร็ว

ในมือของหลิวเยี่ยนถือมีดเล่มเล็กด้วยใบหน้าเย็นชาและตื่นตัวเต็มที่

เฉินเจียนขับรถอยู่ด้านหน้าแต่กลับไม่ค่อยสนใจถนนเบื้องหน้าสักเท่าไร เขาขับพุ่งตรงไปยังเส้นทางนอกเมืองโดยตรงเลย

เสียงระเบิดที่ดังกระหึ่มในเมืองนั่น ความจริงหลี่ฮ่าวเองก็ได้ยินเช่นกัน

ถึงขั้นเห็นเพลิงไฟที่พุ่งขึ้นท้องฟ้าด้วย!

หัวหน้าแอบจัดอาวุธปืนไฟขนาดใหญ่โจมตีอีกฝ่ายกลางเมืองด้วย เขาหาจุดซ่อนตัวของอีกฝ่ายได้เร็วขนาดนี้ ความจริงก็สร้างความตกใจให้แก่หลี่ฮ่าวอย่างมาก

แต่แล้ว…หลี่ฮ่าวก็รู้ว่าอาวุธปืนไฟไม่ใช่ทุกอย่าง!

นอกจากว่าจะต้องใช้ระเบิดปรมาณูกวาดล้างเมืองจริงๆ…ถ้าอย่างนั้นเมืองหยินก็จะหายไปด้วย ต้องมีชาวบ้านคนธรรมดาบาดเจ็บล้มตายอีกตั้งไม่รู้เท่าไร ข้อนี้ไม่สามารถทำได้แน่นอน

นอกเสียจากผู้มีพลังเหนือธรรมชาติจะถูกโจมตีตามจุดเปลี่ยวร้างนอกเมือง หากอยู่ในเมือง อาวุธปืนไฟจะส่งผลเสียมากกว่า!

ทีมล่าปีศาจเองก็ไม่ใจเหี้ยมพอถึงขั้นใช้ระเบิดกวาดล้างเมืองจนทำให้คนล้มตายนับไม่ถ้วน

ขณะที่กำลังขับรถมุ่งหน้าไปอย่างรวดเร็ว พลันก็เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นตรงหน้า!

จากนั้นสะพานตรงหน้าก็ถูกระเบิดขาดออกจากกัน!

ภายใต้ความมืดและสายฝนก็มีร่างปรากฏขึ้นนับไม่ถ้วน หลี่ฮ่าวเห็นยังชะงักน้อยๆ…ปรมาจารย์นักรบ!

ใช่แล้ว ไม่ใช่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ

คนที่กำลังยืนขวางพวกเขาอยู่ตรงหน้ากลับเป็นปรมาจารย์นักรบ!

เหตุผลที่ดูออกว่าเป็นปรมาจารย์นักรบเพราะพวกเขามีลักษณะเดียวกับพวกหลิวหลง ซึ่งมีพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติแผ่ออกจากตัวจางๆ แต่ไม่ได้อยู่ในส่วนลึกของร่างกาย นี่บ่งบอกว่าพวกเขาเคยซึมซับพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติมาแล้ว แต่กลับไม่ได้เลื่อนขั้นเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ

“หน้ากากผีเหรอ”

รถเทียบจอด หลิวเยี่ยนกับเฉินเจียนลงจากรถอย่างไวเพื่อเตรียมตัวปะทะกับคนพวกนั้น หลิวเยี่ยนมองกลุ่มคนตรงหน้าอย่างเย็นชา “องค์กรหน้ากากผีเหรอ ดักโจมตีผู้บังคับการตรวจตราของกองตรวจการณ์แบบนี้ คิดว่าผู้พิทักษ์รัตติกาลมีไว้แค่กินข้าวอย่างเดียวเหรอ”

องค์กรที่โจวเฮ่ออยู่ก็คือองค์กรหน้ากากผี ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลขององค์กรผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ

ครั้งนี้หน้ากากผีก็ส่งตัวปรมาจารย์นักรบมาด้วยเช่นกัน

“ทิ้งหลี่ฮ่าวไว้!”

หนึ่งในบรรดาคนเหล่านั้นมีคนเอ่ยบอกเสียงสูง อาจจะป้องกันไม่ให้จำได้ คนเหล่านี้สวมหน้ากากผีสีดำกันทั้งหมด และเสียงก็ใช่ว่าจะเป็นเสียงของเจ้าตัวจึงฟังดูไม่ค่อยสมจริงนัก

“ได้!”

หลิวเยี่ยนตอบกลับทันควัน ถึงขั้นทำให้คนตรงหน้าชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นหลิวเยี่ยนก็ชักปืนที่เหน็บข้างเอวขึ้นมายิงกราดตรงหน้า

“ไป!”

หลิวเยี่ยนชักปืนยิงขณะเดียวกันก็ฉุดแขนหลี่ฮ่าวหมายจะวิ่งหนีไปด้วย

ตอนนี้ไม่ควรเสียเวลากับพวกเขามากนัก ยิ่งไปกว่านั้น…เธอยังสู้อีกฝ่ายไม่ไหวด้วย

หัวหน้าของฝ่ายตรงข้ามเหมือนจะเป็นปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยคนหนึ่ง!

เกรงว่าปืนจะใช้ไม่ได้ผลกับเขาเท่าไร

เป็นไปตามคาด เมื่อปรมาจารย์นักรบที่สวมหน้ากากผีคนหนึ่งหายตัวไปเพื่อหนีลูกกระสุน จากนั้นก็กางแขนออกราวกับอินทรีตัวผู้ตามไล่ล่าพวกหลี่ฮ่าวไปอย่างว่องไว!

คนอื่นๆ ก็แสดงความสามารถให้เห็นกันรัวๆ ก่อนจะพากันวิ่งไล่ตามไปเช่นกัน!

พวกเขามีภารกิจเดียวคือ…ห้ามหลี่ฮ่าวออกจากเมือง!

แน่นอนว่ามีอีกข้อหนึ่ง ห้ามฆ่าหลี่ฮ่าว ส่วนคนอื่นๆ…ฆ่าทิ้งทั้งหมด!

ความจริงผู้นำหน้ากากผีไม่เข้าใจคำสั่งนี้อย่างมาก แต่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติมีแผนเป็นของตัวเองและไม่มีทางบอกเขาทั้งหมดแน่นอน ดังนั้นเขาจึงไม่ซักไซ้อะไร รู้เพียงว่าหากทำภารกิจในครั้งนี้สำเร็จ เขาก็จะมีโอกาสดึงพลังสู่ร่างกายถึงสามครั้ง

คนเบื้องบนจะสนองพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติแก่เขาอย่างเพียงพอ หากสามครั้งแล้วยังก้าวสู่ขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติไม่ได้…ก็ต้องยอมรับว่าตัวเองอับโชค แต่อย่างน้อยก็มีโอกาสมากกว่า ทุกครั้งที่ปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยดึงพลังเข้าสู่ร่างกาย พลังลี้ลับเหนือธรรมชาตินั่นต้องใช้หลักสิบถึงหลักร้อยลูกบาศก์เลยทีเดียว

หลิวหลงฆ่าปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยที่มีพลังเหนือธรรมชาติไปหลายคนยังยากจะเข้าสู่ขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติได้ คนประเภทเขาก็ยิ่งยาก จึงทำได้เพียงฝากความหวังไว้กับคนเบื้องบนเท่านั้น

……

หลี่ฮ่าวหอบหายใจอย่างหนักหน่วงพยายามควบคุมเพื่อปรับจังหวะการหายใจ พอคงที่ดีแล้วถึงหนีไปพร้อมกับพวกหลิวเยี่ยน

ถนนที่เต็มไปด้วยดินโคลนเส้นเล็กทำให้พวกเขาได้รับผลกระทบในเรื่องความเร็ว

ความจริงภายใต้ความมืดมิดเช่นนี้ก็มีข้อดีต่อพวกหลี่ฮ่าวเหมือนกัน อย่างน้อยด้านหลังก็ยากจะตามได้ทัน

“ปังๆ!”

เสียงปืนยิงกราดดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้หลี่ฮ่าวอดใจอยากด่าคนไม่ได้ ให้ตายเถอะ!

เจ้าพวกนี้เป็นปรมาจารย์นักรบไม่ใช่หรือ

พวกแกใช้ปืนกลแบบนี้…ไม่รู้สึกอับอายบ้างหรือ

“แกร๊กๆ!”

ด้านหลังโล่เล็กๆ ของเฉินเจียนช่วยกันกระสุนไปไม่รู้เท่าไร เฉินเจียนปกป้องจุดสำคัญบนร่างกายของตัวเองเอาไว้ แล้วใช้ร่างใหญ่บังหลี่ฮ่าว เช่นนี้ก็ช่วยป้องกันไม่ให้หลี่ฮ่าวถูกยิงใส่ได้แล้ว

ต่อให้เป็นแบบนี้ แต่หากไล่ล่ากันต่อไปเกรงว่าพวกเขาจะหาทางออกจากเมืองไม่ได้

หลิวหลงยังไม่ปรากฏตัวจนถึงตอนนี้ ไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้างแล้ว

อู๋เชากับอวิ๋นเหยาตามไปช่วย ตอนนี้หลิวเยี่ยนแข็งแกร่งที่สุด แต่หล่อนก็ยังไม่ใช่ปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อย ทว่าด้านหลังกลับมีปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยวิ่งตามมา

“พี่…”

“หุบปาก!”

หลิวเยี่ยนตวาดเสียงต่ำใส่ว่าห้ามพูด

เวลาหนีเอาตัวรอด การพูดจะทำลายสมาธิได้ง่ายจนเสียจังหวะการหนี หากถูกไล่ตามทันก็แย่ละ

“วางผมลง…ตอนนี้พวกเขาไม่ฆ่าผมหรอก!”

หลี่ฮ่าวหอบหนัก แต่ก็ฝืนพูดไปประโยคหนึ่ง

เขากลัวตาย แต่เขารู้ว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปคงถูกไล่ตามทันในไม่ช้าก็เร็ว

อีกฝ่ายเป็นแค่ปรมาจารย์นักรบ ไม่เห็นเงาโลหิต ดังนั้นน่าจะยังไม่ฆ่าเขาตอนนี้

ฉะนั้นยังมีโอกาส!

อาจารย์ก็ยังไม่ปรากฏตัว ใช่ว่าจะไม่มีไพ่ใบสุดสักหน่อย

หลิวเยี่ยนกลับไม่สนใจ สายตามีแต่ความบ้าบิ่นกับความเย็นยะเยือก

“เจ้าอ้วน!”

หล่อนตะโกนเรียก เฉินเจียนกับเธอร่วมมือกันหลายครั้ง ดังนั้นไม่ต้องพูดอะไรก็เข้าใจความหมายของหลิวเยี่ยนทันที

จากนั้นหลี่ฮ่าวก็ดูตกตะลึงประมาณหนึ่ง

หลิวเยี่ยนสะบัดเขาออกไป ส่วนเฉินเจียนก็ยกโล่ขึ้นหันกลับไปเอาตัวปะทะกับปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยที่วิ่งตามมา!

หลิวเยี่ยนรีบวิ่งตามไปติดๆ ก่อนจะเกิดเสียงดังสนั่นขึ้น ปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยต่อยหมัดใส่โล่ทีเดียวจนเฉินเจียนต้องเซถอยหลังไปหลายก้าว ทว่าเฉินเจียนไม่ได้เจ็บตัวตรงไหน ทันใดนั้นหลิวเยี่ยนก็วาบตัวหายไปราวกับผีแล้วใช้มีดแทงหมัดของอีกฝ่าย!

เสียงดังพรวด!

มีดสั้นกรีดผ่านจุดที่ไม่ได้สำคัญ เพียงแต่ทิ้งรอยเลือดไว้ตรงกำปั้นของอีกฝ่าย

ปรมาจารย์นักรบทะลวงคนนั้นคิดจะปล่อยหมัดอีกทีเพื่อต่อยหลิวเยี่ยนให้ตายในหมัดเดียว…แต่อยู่ดีๆ ก็รู้สึกชาไปทั้งแขน!

พริบตาเดียวแขนก็ขึ้นสีดำลามเป็นวงใหญ่ สิ่งนี้ทำให้ใบหน้าภายใต้หน้ากากเปลี่ยนไปพลางถอยกรูดไปด้านหลัง ใช้มือซ้ายตบมือขวา จากนั้นเลือดก็ทะลักออกมาในปริมาณมากปะปนด้วยเลือดสีดำพุ่งออกมาจากปากแผล

“เธอใช้ยาพิษเหรอ”

ปรมาจารย์นักรบเดือดดาล การใช้ยาพิษมันน่ารังเกียจยิ่งกว่าใช้ปืน

ส่วนหลิวเยี่ยนไม่แม้แต่จะสนใจแล้วเข้ามาขวางทางของอีกฝ่ายไว้ จากนั้นหล่อนก็กระโดดขึ้นคว้าตัวหลี่ฮ่าวมาแล้ววิ่งหนีอีกครั้ง

หลี่ฮ่าวในตอนนี้ก็ตกตะลึงเช่นกัน

หลิวเยี่ยนกับเฉินเจียนใจกล้าไม่น้อย

เวลานี้แล้วยังกล้าตอบโต้อีก

แถมยังสำเร็จด้วย!

สมแล้วที่เป็นปรมาจารย์นักรบที่สามารถฆ่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติได้ จากประสบการณ์การต่อสู้ไม่ใช่สิ่งที่หลี่ฮ่าวจะทัดเทียบได้เลย

การไล่ล่าดำเนินต่อไป!

หลี่ฮ่าวในตอนนี้ไม่ได้ขัดขืนอีก ถูกหลิวเยี่ยนลากให้วิ่งหนีแต่หันกลับมามองด้านหลังเป็นระยะๆ เขากำลังคิดว่า…ควรฆ่าเจ้าพวกนี้อย่างไร!

เขาอ่อนแอมากเขารู้ตัวดี แต่เขายิ่งรู้แก่ใจดี…คนพวกนี้รู้ว่าเขาอ่อนแอมากแต่ไม่กล้าฆ่าเขา!

นี่ก็คือความได้เปรียบ!

“พี่ เดี๋ยวใช้ผมเป็นโล่นะ!”

หลี่ฮ่าวโพล่งไปประโยคหนึ่ง หลิวเยี่ยนไม่ปริเสียง กระทั่งไม่รู้ว่าได้ยินในสิ่งที่เขาพูดหรือเปล่า

พอเฉินเจียนได้ยินเช่นนั้นก็ผุดขึ้นมาแค่ความคิดเดียว หลี่ฮ่าวบ้าไปแล้วเหมือนกัน

นายเป็นโล่หรือ

พวกเขาพอจะเข้าใจความหมายของหลี่ฮ่าว แต่ว่า…ถ้าตัดสินใจผิด แล้วอีกฝ่ายกล้าฆ่านายล่ะจะทำอย่างไร

นายเป็นแค่ไก่อ่อนจะเอาชีวิตรอดจากเงื้อมมือของทะลวงร้อยได้หรือ

วินาทีนี้พวกเขาสามคนวิ่งต่อไปอย่างไม่คิดชีวิต มือสิบสังหารสามคนกำลังคิดว่าจะตอบโต้กลับได้หรือไม่ หากฆ่าปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยคนนั้นไปก็ยังมีสิบสังหารอีกหลายคนตามมาอยู่ดี

อีกอย่างฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ แล้วด้วย!

…………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา 36.4 ครั้งแรกกับการล่าปีศาจ (4)

Now you are reading STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา Chapter 36.4 ครั้งแรกกับการล่าปีศาจ (4) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 36 ครั้งแรกกับการล่าปีศาจ (4)

ในเวลาเดียวกัน

ณ ทางเหนือของเมือง

เฉินเจียนอยู่ข้างหน้า หลิวเยี่ยนอยู่ข้างหลัง หลี่ฮ่าวอยู่ตรงกลาง

ทั้งสามคนเคลื่อนไหวพร้อมกัน ขับรถคันเล็กๆ มุ่งหน้าสู่นอกตัวเมืองอย่างรวดเร็ว

ในมือของหลิวเยี่ยนถือมีดเล่มเล็กด้วยใบหน้าเย็นชาและตื่นตัวเต็มที่

เฉินเจียนขับรถอยู่ด้านหน้าแต่กลับไม่ค่อยสนใจถนนเบื้องหน้าสักเท่าไร เขาขับพุ่งตรงไปยังเส้นทางนอกเมืองโดยตรงเลย

เสียงระเบิดที่ดังกระหึ่มในเมืองนั่น ความจริงหลี่ฮ่าวเองก็ได้ยินเช่นกัน

ถึงขั้นเห็นเพลิงไฟที่พุ่งขึ้นท้องฟ้าด้วย!

หัวหน้าแอบจัดอาวุธปืนไฟขนาดใหญ่โจมตีอีกฝ่ายกลางเมืองด้วย เขาหาจุดซ่อนตัวของอีกฝ่ายได้เร็วขนาดนี้ ความจริงก็สร้างความตกใจให้แก่หลี่ฮ่าวอย่างมาก

แต่แล้ว…หลี่ฮ่าวก็รู้ว่าอาวุธปืนไฟไม่ใช่ทุกอย่าง!

นอกจากว่าจะต้องใช้ระเบิดปรมาณูกวาดล้างเมืองจริงๆ…ถ้าอย่างนั้นเมืองหยินก็จะหายไปด้วย ต้องมีชาวบ้านคนธรรมดาบาดเจ็บล้มตายอีกตั้งไม่รู้เท่าไร ข้อนี้ไม่สามารถทำได้แน่นอน

นอกเสียจากผู้มีพลังเหนือธรรมชาติจะถูกโจมตีตามจุดเปลี่ยวร้างนอกเมือง หากอยู่ในเมือง อาวุธปืนไฟจะส่งผลเสียมากกว่า!

ทีมล่าปีศาจเองก็ไม่ใจเหี้ยมพอถึงขั้นใช้ระเบิดกวาดล้างเมืองจนทำให้คนล้มตายนับไม่ถ้วน

ขณะที่กำลังขับรถมุ่งหน้าไปอย่างรวดเร็ว พลันก็เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นตรงหน้า!

จากนั้นสะพานตรงหน้าก็ถูกระเบิดขาดออกจากกัน!

ภายใต้ความมืดและสายฝนก็มีร่างปรากฏขึ้นนับไม่ถ้วน หลี่ฮ่าวเห็นยังชะงักน้อยๆ…ปรมาจารย์นักรบ!

ใช่แล้ว ไม่ใช่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ

คนที่กำลังยืนขวางพวกเขาอยู่ตรงหน้ากลับเป็นปรมาจารย์นักรบ!

เหตุผลที่ดูออกว่าเป็นปรมาจารย์นักรบเพราะพวกเขามีลักษณะเดียวกับพวกหลิวหลง ซึ่งมีพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติแผ่ออกจากตัวจางๆ แต่ไม่ได้อยู่ในส่วนลึกของร่างกาย นี่บ่งบอกว่าพวกเขาเคยซึมซับพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติมาแล้ว แต่กลับไม่ได้เลื่อนขั้นเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ

“หน้ากากผีเหรอ”

รถเทียบจอด หลิวเยี่ยนกับเฉินเจียนลงจากรถอย่างไวเพื่อเตรียมตัวปะทะกับคนพวกนั้น หลิวเยี่ยนมองกลุ่มคนตรงหน้าอย่างเย็นชา “องค์กรหน้ากากผีเหรอ ดักโจมตีผู้บังคับการตรวจตราของกองตรวจการณ์แบบนี้ คิดว่าผู้พิทักษ์รัตติกาลมีไว้แค่กินข้าวอย่างเดียวเหรอ”

องค์กรที่โจวเฮ่ออยู่ก็คือองค์กรหน้ากากผี ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลขององค์กรผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ

ครั้งนี้หน้ากากผีก็ส่งตัวปรมาจารย์นักรบมาด้วยเช่นกัน

“ทิ้งหลี่ฮ่าวไว้!”

หนึ่งในบรรดาคนเหล่านั้นมีคนเอ่ยบอกเสียงสูง อาจจะป้องกันไม่ให้จำได้ คนเหล่านี้สวมหน้ากากผีสีดำกันทั้งหมด และเสียงก็ใช่ว่าจะเป็นเสียงของเจ้าตัวจึงฟังดูไม่ค่อยสมจริงนัก

“ได้!”

หลิวเยี่ยนตอบกลับทันควัน ถึงขั้นทำให้คนตรงหน้าชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นหลิวเยี่ยนก็ชักปืนที่เหน็บข้างเอวขึ้นมายิงกราดตรงหน้า

“ไป!”

หลิวเยี่ยนชักปืนยิงขณะเดียวกันก็ฉุดแขนหลี่ฮ่าวหมายจะวิ่งหนีไปด้วย

ตอนนี้ไม่ควรเสียเวลากับพวกเขามากนัก ยิ่งไปกว่านั้น…เธอยังสู้อีกฝ่ายไม่ไหวด้วย

หัวหน้าของฝ่ายตรงข้ามเหมือนจะเป็นปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยคนหนึ่ง!

เกรงว่าปืนจะใช้ไม่ได้ผลกับเขาเท่าไร

เป็นไปตามคาด เมื่อปรมาจารย์นักรบที่สวมหน้ากากผีคนหนึ่งหายตัวไปเพื่อหนีลูกกระสุน จากนั้นก็กางแขนออกราวกับอินทรีตัวผู้ตามไล่ล่าพวกหลี่ฮ่าวไปอย่างว่องไว!

คนอื่นๆ ก็แสดงความสามารถให้เห็นกันรัวๆ ก่อนจะพากันวิ่งไล่ตามไปเช่นกัน!

พวกเขามีภารกิจเดียวคือ…ห้ามหลี่ฮ่าวออกจากเมือง!

แน่นอนว่ามีอีกข้อหนึ่ง ห้ามฆ่าหลี่ฮ่าว ส่วนคนอื่นๆ…ฆ่าทิ้งทั้งหมด!

ความจริงผู้นำหน้ากากผีไม่เข้าใจคำสั่งนี้อย่างมาก แต่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติมีแผนเป็นของตัวเองและไม่มีทางบอกเขาทั้งหมดแน่นอน ดังนั้นเขาจึงไม่ซักไซ้อะไร รู้เพียงว่าหากทำภารกิจในครั้งนี้สำเร็จ เขาก็จะมีโอกาสดึงพลังสู่ร่างกายถึงสามครั้ง

คนเบื้องบนจะสนองพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติแก่เขาอย่างเพียงพอ หากสามครั้งแล้วยังก้าวสู่ขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติไม่ได้…ก็ต้องยอมรับว่าตัวเองอับโชค แต่อย่างน้อยก็มีโอกาสมากกว่า ทุกครั้งที่ปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยดึงพลังเข้าสู่ร่างกาย พลังลี้ลับเหนือธรรมชาตินั่นต้องใช้หลักสิบถึงหลักร้อยลูกบาศก์เลยทีเดียว

หลิวหลงฆ่าปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยที่มีพลังเหนือธรรมชาติไปหลายคนยังยากจะเข้าสู่ขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติได้ คนประเภทเขาก็ยิ่งยาก จึงทำได้เพียงฝากความหวังไว้กับคนเบื้องบนเท่านั้น

……

หลี่ฮ่าวหอบหายใจอย่างหนักหน่วงพยายามควบคุมเพื่อปรับจังหวะการหายใจ พอคงที่ดีแล้วถึงหนีไปพร้อมกับพวกหลิวเยี่ยน

ถนนที่เต็มไปด้วยดินโคลนเส้นเล็กทำให้พวกเขาได้รับผลกระทบในเรื่องความเร็ว

ความจริงภายใต้ความมืดมิดเช่นนี้ก็มีข้อดีต่อพวกหลี่ฮ่าวเหมือนกัน อย่างน้อยด้านหลังก็ยากจะตามได้ทัน

“ปังๆ!”

เสียงปืนยิงกราดดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้หลี่ฮ่าวอดใจอยากด่าคนไม่ได้ ให้ตายเถอะ!

เจ้าพวกนี้เป็นปรมาจารย์นักรบไม่ใช่หรือ

พวกแกใช้ปืนกลแบบนี้…ไม่รู้สึกอับอายบ้างหรือ

“แกร๊กๆ!”

ด้านหลังโล่เล็กๆ ของเฉินเจียนช่วยกันกระสุนไปไม่รู้เท่าไร เฉินเจียนปกป้องจุดสำคัญบนร่างกายของตัวเองเอาไว้ แล้วใช้ร่างใหญ่บังหลี่ฮ่าว เช่นนี้ก็ช่วยป้องกันไม่ให้หลี่ฮ่าวถูกยิงใส่ได้แล้ว

ต่อให้เป็นแบบนี้ แต่หากไล่ล่ากันต่อไปเกรงว่าพวกเขาจะหาทางออกจากเมืองไม่ได้

หลิวหลงยังไม่ปรากฏตัวจนถึงตอนนี้ ไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้างแล้ว

อู๋เชากับอวิ๋นเหยาตามไปช่วย ตอนนี้หลิวเยี่ยนแข็งแกร่งที่สุด แต่หล่อนก็ยังไม่ใช่ปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อย ทว่าด้านหลังกลับมีปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยวิ่งตามมา

“พี่…”

“หุบปาก!”

หลิวเยี่ยนตวาดเสียงต่ำใส่ว่าห้ามพูด

เวลาหนีเอาตัวรอด การพูดจะทำลายสมาธิได้ง่ายจนเสียจังหวะการหนี หากถูกไล่ตามทันก็แย่ละ

“วางผมลง…ตอนนี้พวกเขาไม่ฆ่าผมหรอก!”

หลี่ฮ่าวหอบหนัก แต่ก็ฝืนพูดไปประโยคหนึ่ง

เขากลัวตาย แต่เขารู้ว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปคงถูกไล่ตามทันในไม่ช้าก็เร็ว

อีกฝ่ายเป็นแค่ปรมาจารย์นักรบ ไม่เห็นเงาโลหิต ดังนั้นน่าจะยังไม่ฆ่าเขาตอนนี้

ฉะนั้นยังมีโอกาส!

อาจารย์ก็ยังไม่ปรากฏตัว ใช่ว่าจะไม่มีไพ่ใบสุดสักหน่อย

หลิวเยี่ยนกลับไม่สนใจ สายตามีแต่ความบ้าบิ่นกับความเย็นยะเยือก

“เจ้าอ้วน!”

หล่อนตะโกนเรียก เฉินเจียนกับเธอร่วมมือกันหลายครั้ง ดังนั้นไม่ต้องพูดอะไรก็เข้าใจความหมายของหลิวเยี่ยนทันที

จากนั้นหลี่ฮ่าวก็ดูตกตะลึงประมาณหนึ่ง

หลิวเยี่ยนสะบัดเขาออกไป ส่วนเฉินเจียนก็ยกโล่ขึ้นหันกลับไปเอาตัวปะทะกับปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยที่วิ่งตามมา!

หลิวเยี่ยนรีบวิ่งตามไปติดๆ ก่อนจะเกิดเสียงดังสนั่นขึ้น ปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยต่อยหมัดใส่โล่ทีเดียวจนเฉินเจียนต้องเซถอยหลังไปหลายก้าว ทว่าเฉินเจียนไม่ได้เจ็บตัวตรงไหน ทันใดนั้นหลิวเยี่ยนก็วาบตัวหายไปราวกับผีแล้วใช้มีดแทงหมัดของอีกฝ่าย!

เสียงดังพรวด!

มีดสั้นกรีดผ่านจุดที่ไม่ได้สำคัญ เพียงแต่ทิ้งรอยเลือดไว้ตรงกำปั้นของอีกฝ่าย

ปรมาจารย์นักรบทะลวงคนนั้นคิดจะปล่อยหมัดอีกทีเพื่อต่อยหลิวเยี่ยนให้ตายในหมัดเดียว…แต่อยู่ดีๆ ก็รู้สึกชาไปทั้งแขน!

พริบตาเดียวแขนก็ขึ้นสีดำลามเป็นวงใหญ่ สิ่งนี้ทำให้ใบหน้าภายใต้หน้ากากเปลี่ยนไปพลางถอยกรูดไปด้านหลัง ใช้มือซ้ายตบมือขวา จากนั้นเลือดก็ทะลักออกมาในปริมาณมากปะปนด้วยเลือดสีดำพุ่งออกมาจากปากแผล

“เธอใช้ยาพิษเหรอ”

ปรมาจารย์นักรบเดือดดาล การใช้ยาพิษมันน่ารังเกียจยิ่งกว่าใช้ปืน

ส่วนหลิวเยี่ยนไม่แม้แต่จะสนใจแล้วเข้ามาขวางทางของอีกฝ่ายไว้ จากนั้นหล่อนก็กระโดดขึ้นคว้าตัวหลี่ฮ่าวมาแล้ววิ่งหนีอีกครั้ง

หลี่ฮ่าวในตอนนี้ก็ตกตะลึงเช่นกัน

หลิวเยี่ยนกับเฉินเจียนใจกล้าไม่น้อย

เวลานี้แล้วยังกล้าตอบโต้อีก

แถมยังสำเร็จด้วย!

สมแล้วที่เป็นปรมาจารย์นักรบที่สามารถฆ่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติได้ จากประสบการณ์การต่อสู้ไม่ใช่สิ่งที่หลี่ฮ่าวจะทัดเทียบได้เลย

การไล่ล่าดำเนินต่อไป!

หลี่ฮ่าวในตอนนี้ไม่ได้ขัดขืนอีก ถูกหลิวเยี่ยนลากให้วิ่งหนีแต่หันกลับมามองด้านหลังเป็นระยะๆ เขากำลังคิดว่า…ควรฆ่าเจ้าพวกนี้อย่างไร!

เขาอ่อนแอมากเขารู้ตัวดี แต่เขายิ่งรู้แก่ใจดี…คนพวกนี้รู้ว่าเขาอ่อนแอมากแต่ไม่กล้าฆ่าเขา!

นี่ก็คือความได้เปรียบ!

“พี่ เดี๋ยวใช้ผมเป็นโล่นะ!”

หลี่ฮ่าวโพล่งไปประโยคหนึ่ง หลิวเยี่ยนไม่ปริเสียง กระทั่งไม่รู้ว่าได้ยินในสิ่งที่เขาพูดหรือเปล่า

พอเฉินเจียนได้ยินเช่นนั้นก็ผุดขึ้นมาแค่ความคิดเดียว หลี่ฮ่าวบ้าไปแล้วเหมือนกัน

นายเป็นโล่หรือ

พวกเขาพอจะเข้าใจความหมายของหลี่ฮ่าว แต่ว่า…ถ้าตัดสินใจผิด แล้วอีกฝ่ายกล้าฆ่านายล่ะจะทำอย่างไร

นายเป็นแค่ไก่อ่อนจะเอาชีวิตรอดจากเงื้อมมือของทะลวงร้อยได้หรือ

วินาทีนี้พวกเขาสามคนวิ่งต่อไปอย่างไม่คิดชีวิต มือสิบสังหารสามคนกำลังคิดว่าจะตอบโต้กลับได้หรือไม่ หากฆ่าปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยคนนั้นไปก็ยังมีสิบสังหารอีกหลายคนตามมาอยู่ดี

อีกอย่างฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ แล้วด้วย!

…………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด