STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา 45-3 ปูทาง (3)

Now you are reading STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา Chapter 45-3 ปูทาง (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 45 ปูทาง (3)

นี่เป็นเพียงวิชาการหายใจ ไม่ใช่วิชาคายรับห้าปาณภูต!

ว่าแล้วก็พูดต่ออีกว่า “อย่าดูถูกมันเชียว ถึงแม้ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติจะไม่ฝึกวิชายุทธ์ แต่คาดหวังจะดูดซับพลังลี้ลับโดยอาศัยการหายใจทั่วไปใช่ว่าจะเป็นเรื่องดี! อย่างไรเสียพลังเหนือธรรมชาติก็เป็นพลังจากนอกกาย การฝึกควบคู่ทั้งภายในและภายนอกไปพร้อมกันต่างหากถึงจะดีที่สุด!”

ทุกคนทำหน้าตื่นเต้นกันประมาณหนึ่ง ‘ตำราใหม่ห้าปาณภูต’ พวกเขารู้จัก!

เมื่อก่อนอาจจะไม่เห็นความสำคัญมัน

แต่ครั้งนี้หยวนซั่วข้ามขั้นฆ่าไตรสุริยาได้ ใครจะกล้าดูถูกตำราใหม่ห้าปาณภูตของเขาอีกล่ะ

ครั้งนี้ทุกคนกลับดูเชื่อมั่นจากใจจริงแล้วพากันพยักหน้ารัวๆ กล่าวว่า “กราบอาจารย์!”

หยวนซั่วฉีกยิ้ม

เผยรอยยิ้มเสมือนคุณยายในร่างหมาป่าเรื่องหนูน้อยหมวกแดงก็ไม่ปาน สามคนนี้เป็นจันทราทมิฬและยังอ่อนเยาว์นัก โดยเฉพาะหวังหมิงคนนั้นที่ใกล้จะเป็นจันทราเต็มดวง ซึ่งจะว่าไปก็ห่างไกลจากสุริยะพรายไม่มากแล้ว

อ่อนเยาว์ขนาดนี้ทั้งยังเป็นสายตรงของผู้พิทักษ์รัตติกาลอีก ถ้าโชคดีละก็ไม่นานอาจจะได้เข้าสู่ขอบเขตสุริยะพราย กลายเป็นพลังหลักของผู้พิทักษ์รัตติกาลที่อยู่ในมณฑลหยินเยวี่ย

ถือว่าเป็นการปูทางให้หลี่ฮ่าวแล้วกัน!

“ใช่แล้ว หลี่ฮ่าวของเมืองหยิน หลังจากนี้ไปก็คือศิษย์พี่ของพวกเธอด้วย!”

หยวนซั่วพูดอีก “เขาเป็นปรมาจารย์นักรบ ไม่ได้เข้าสู่ขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติ! บางทีความสามารถไม่ได้แกร่งกล้าเท่าพวกเธอ แต่เขาก็สืบทอดความรู้จากฉันไปโดยตรง พวกเธอต้องปกป้องเขาให้มาก ต่อจากนี้ศิษย์พี่ของพวกเธอ ฉันคิดว่าอาจจะช่วยอะไรพวกเธอได้บ้าง! พวกเธอก็รู้ว่าผู้พิทักษ์รัตติกาลขาดความรู้ บางทีความรู้จะช่วยเปลี่ยนชะตาชีวิตได้ พวกเธอคงมีวันที่ได้พึ่งพาเขาแน่นอน”

แต่ละคนมองหน้าพลางสบตากัน หวังหมิงเอ่ยปากตอบคนแรก “เราจำที่อาจารย์พูดไว้หมดแล้วครับ!”

“อืม!”

หยวนซั่วพยักหน้า พูดอีกว่า “งั้นก็หาคนต่อไป ครั้งนี้ให้พวกเธอฝึกเยอะๆ หน่อยจะได้เข้าสู่ขอบเขตสุริยะพรายในเร็ววัน บรรลุขั้นสุริยะพรายถึงจะมีสิทธิ์พูด พวกเธอดูพวกเธอในตอนนี้สิ สั่งให้พวกเธอทำอะไรก็ทำอย่างนั้น ไม่มีอิสระเลยสักนิด…น่าขายหน้าจริงๆ!”

พวกหวังหมิงหัวเราะซื่อๆ ไม่ปริเสียงท้วงใดๆ

ในเมื่อหัวหน้าพวกเขาอยู่ด้านบนแหนะ

……

เหนือฟ้าเบื้องบน

เฮ่อเหลียนชวนฟังอยู่ครู่หนึ่งก็พอจะเข้าใจความหมายของหยวนซั่วจึงรู้สึกเหนือคาดหน่อยๆ

หยวนซั่วคนนี้ค่อนข้างใส่ใจศิษย์สายตรงคนนั้นพอสมควรเลย

ทำแบบนี้ก็เพื่อหาที่พึ่งให้หลี่ฮ่าวอย่างนั้นหรือ

ท่ามกลางผู้พิทักษ์รัตติกาล หลี่ฮ่าวไม่มีรากฐานใดๆ แต่ตอนนี้ถือว่ามีศิษย์น้องเพิ่มมาสามคนเสียได้

ต่อให้หยวนซั่วแค่พูดลอยๆ บังคับให้คนเขาฝากตัวเป็นศิษย์ แต่ได้ตำราใหม่ห้าปาณภูตของหยวนซั่วไป ความสัมพันธ์นี้จะอยากรับหรือไม่อยากรับก็ต้องรับแล้วล่ะ…นอกเสียจากหยวนซั่วตาย ไม่อย่างนั้นในโลกของปรมาจารย์นักรบ หากคุณกล้าทำให้อาจารย์อับอายขายหน้าก็เท่ากับเนรคุณ!

ผู้พิทักษ์รัตติกาลเป็นหน่วยงานทางการจึงไม่มีวันทำเรื่องอย่างนั้นแน่ ถ้าทำจริงๆ ผู้พิทักษ์รัตติกาลก็ต้องกำจัดทิ้งเอง!

‘หยวนซั่ว…หลี่ฮ่าว!’

เฮ่อเหลียนชวนเรียกชื่อในใจ หยวนซั่วปูทางให้หลี่ฮ่าวล่วงหน้าแต่ไม่ได้พาหลี่ฮ่าวติดตัวเพื่อสืบทอดวิชาโดยตรง นี่หวังว่าหลี่ฮ่าวจะเข้าร่วมองค์กรผู้พิทักษ์รัตติกาลอย่างนั้นหรือ

ก็ดี!

เช่นนี้กลับจะทำให้ผูกพันกับหยวนซั่วได้ลึกซึ้งมากขึ้น

ไม่อย่างนั้นหลังจากหยวนซั่วเลื่อนขั้น ผู้พิทักษ์รัตติกาลเองก็ยากจะออกคำสั่งให้เขาทำอะไรได้อีกแล้ว

……

ณ ตอนนี้หลี่ฮ่าวยังไม่รู้ว่าตนมีศิษย์น้องเพิ่มมาอีกหลายคนเลย

เขาดูดซับและย่อยสลายพลังติดต่อกันมาหนึ่งวัน พลังเงาโลหิตในกายถูกย่อยไปแปดส่วนแล้ว ส่วนที่เหลืออีกสองวันก็คงย่อยไปตามธรรมชาติเอง

พอลุกขึ้น หลี่ฮ่าวก็ต่อยหมัดไปลวกๆ พลันก็เกิดเสียงกระดูกลั่นเปรี้ยะๆ

หลี่ฮ่าวดวงตาลุกวาวอย่างดีใจ

พัฒนาเร็วมาก!

เขาไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าตอนนี้ตนอยู่ในลำดับใด แต่เขารู้สึกว่า…ลำพังแค่แรงที่ต่อยหมัดไปเมื่อครู่ดูไม่ต่างจากหลิวเยี่ยนเท่าไร ส่วนหลิวเยี่ยนอยู่ในขั้นสุดยอดของสิบสังหาร

เข้าใกล้ขอบเขตทะลวงร้อยแล้ว!

“สบายจังแฮะ!”

ในเวลาสั้นๆ ไม่กี่วันจากลำดับขั้นที่ไม่ถึงสิบสังหารก้าวกระโดดมาจนเกือบถึงทะลวงร้อยในคราวเดียว ช่างสร้างความยินดีแก่หลี่ฮ่าวไม่น้อย

ประเด็นคือเขายังมีพลังอีกมากมายที่ยังไม่ได้ย่อย

ครั้นเดินออกมาจากห้องพักผ่อนด้านใน ตอนนี้นอกจากอู๋เชา เฉินเจียนก็สามารถลงจากเตียงเดินไปไหนมาไหนได้เองแล้ว

หลิวหลงเห็นเขาออกมายังคงเย็นชาเสมอต้นเสมอปลาย เอ่ยเสียงเย็นยะเยือกว่า “ออกมาแล้วก็ดี ผู้พิทักษ์รัตติกาลส่งของมาแล้ว! ทางเราบวกกับจันทราทมิฬที่คุณฆ่าได้พลังลี้ลับมาทั้งหมดหนึ่งร้อยหกสิบลูกบาศก์!”

ส่วนปรมาจารย์นักรบคนนั้นกลับไม่ได้เสนอเจ้าสิ่งนี้ให้

“รวมถึงทางอาจารย์ของคุณก็ได้พลังลี้ลับไปราวๆ หนึ่งพันสี่ร้อยลูกบาศก์ แต่เนื่องจากปริมาณที่มากเกินไปเลยถูกย่นขนาดลงแล้วเก็บไว้ในคลังกองตรวจการณ์ ต้องให้อาจารย์คุณไปเอาเอง!”

“ครั้งนี้มีพลังหลากหลายชนิดทั้งสายฟ้า พลังดิน น้ำ โลหะ ลม”

เขามองไปยังคนอื่นๆ “ครั้งนี้ทีมล่าปีศาจฆ่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ ฉันฆ่าได้เยอะสุดแบ่งสามส่วน! หลี่ฮ่าวแบ่งสองส่วน ที่เหลือหลิวเยี่ยนกับพวกนายสี่คนแบ่งเท่าๆ กัน มีความเห็นอะไรไหม”

หลิวหลงกับหลี่ฮ่าวแบ่งไปครึ่งหนึ่ง ส่วนสี่คนที่เหลือก็แบ่งอีกครึ่งหนึ่งไปซึ่งน้อยกว่าหลี่ฮ่าวทั้งสิ้น

หลิวเยี่ยนยิ้ม “ไม่มีความเห็นอะไรอยู่แล้ว! แบ่งได้ก็ดีแล้ว มากกว่าที่ฉันคาดไว้ซะอีก”

ต่อให้แบ่งกันสี่คนเธอก็แบ่งได้ถึงยี่สิบลูกบาศก์เชียว

ที่ผ่านมาฆ่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติครั้งหนึ่งแบ่งพลังลี้ลับได้สามถึงห้าลูกบาศก์ก็นับว่าดีไม่หยอกแล้ว อีกอย่างเจ็บตัวหนักกว่าครั้งนี้ด้วยซ้ำ

ครั้งนี้เพราะมีหลี่ฮ่าวอยู่ เธอจึงไม่ได้บาดเจ็บเท่าไร

แบ่งได้ยี่สิบลูกบาศก์ หลิวเยี่ยนย่อมพึงพอใจ

ขนาดเธอยังพึงพอใจ ส่วนคนอื่นๆ ที่อ่อนแอกว่าเธอก็ย่อมไม่พูดอะไร

ส่วนหลี่ฮ่าวแบ่งได้สามสิบสองลูกบาศก์ กลับไม่ต่างจากการฆ่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติหนึ่งคนเท่าไร หลิวหลงก็จัดสรรตามเกณฑ์นี้โดยเหมาว่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติคนนั้นถูกหลี่ฮ่าวฆ่า

หลิวหลงเห็นว่าไม่มีใครแย้งก็พยักหน้า “งั้นก็ดี! ครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่เราได้ผลเก็บเกี่ยวมากที่สุดในรอบหลายปี หวังว่าครั้งนี้…จะมีคนเลื่อนขั้นสำเร็จ!”

เขาฝากความหวังและความต้องการไว้

ส่วนตัวเขากลับมีความต้องการน้อยลง เขานึกถึงหยวนซั่ว นึกถึงภาพสุดตราตรึงที่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติสี่คนหัวหลุดออกจากบ่าภายใต้คมดาบ

ปรมาจารย์นักรบ…ก็แข็งแกร่งไม่มีใครทัดเทียมได้เหมือนกัน!

เขาอยู่ในระดับสุดยอดของทะลวงร้อยแล้ว แม้ว่าจะมองไม่เห็นสุดปลายทางที่จะได้เลื่อนขั้นเป็นพันยุทธ์ แต่…ถ้าก้าวสู่พันยุทธ์จริงๆ เรายังจำเป็นต้องก้าวสู่ขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติอีกหรือ

ก้าวสู่ขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติก็เท่ากับเป็นสุริยะพราย

ส่วนหยวนซั่วที่เป็นพันยุทธ์กลับฆ่าไตรสุริยาได้

ถ้าเขามีความสามารถที่จะฆ่าไตรสุริยาได้เช่นกัน เมืองหยินจะถูกยกเลิกเป็นเมืองเหมือนเดิมไหมนะ

เป็นไปไม่ได้!

ครั้งนี้หลิวหลงที่ใฝ่ฝันอยากครอบครองพลังเหนือธรรมชาติมาตลอดกลับเกิดความลังเลขึ้นมา ไม่ได้ดูมุ่งมั่นเท่าแต่ก่อนอีกแล้ว

เพราะก่อนหน้านี้พันยุทธ์หายไปจากมณฑลหยินเยวี่ย

มองไม่เห็นทางอนาคต!

บัดนี้…หลิวหลงกำลังคิดว่าถ้าตนจะยอมลดทิฐิไปหาหยวนซั่วขอคำชี้แนะจากเขา คุณคนนี้จะยอมตกลงหรือเปล่านะ

หากได้รับคำชี้แนะจากปรมาจารย์นักรบพันยุทธ์คนหนึ่ง บางทีตนอาจจะหยุดเสียเวลากับการเดินทางอ้อม

เขามองหลี่ฮ่าวอย่างรู้สึกเกรงใจ…หรือจะหลอกใช้หมอนี่ให้ช่วยออกหน้าพูดแทนเราหน่อยดี

ส่วนหลี่ฮ่าวกำลังยิ้มใสซื่อ

ตอนนี้เหมือนพอใจกับส่วนแบ่งที่ตัวเองได้รับอย่างมาก

สามสิบสองลูกบาศก์ ไม่น้อยแล้ว

ส่วนหนึ่งพันสี่ร้อยลูกบาศก์ของอาจารย์…นั่นเป็นของอาจารย์ ให้ตายก็ขออาจารย์ได้แค่สามถึงห้าร้อยลูกบาศก์ จะขอมากกว่านั้นได้อีกหรือ

โอกาสเข้าสู่ทะลวงร้อยอยู่ตรงหน้าแล้ว

“คืนนี้ทุกคนพักผ่อนให้เต็มที่ ถือโอกาสตอนที่เหล่าผู้แข็งแกร่งยังอยู่ พรุ่งนี้เราพยายามกันต่อไป!”

หลิวหลงกล่าว สุดท้ายก็มองไปที่หลี่ฮ่าว “หลี่ฮ่าว คุณพักผ่อนหลายวันได้ อยู่เป็นเพื่อนอาจารย์คุณให้มาก หากต้องการอะไร ในฐานะหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการและลูกพี่ของคุณ คุณสามารถมาขอความช่วยเหลือจากผมได้ทุกเมื่อ!”

ประโยคนี้เกือบจะพูดตรงๆ ไปแล้วว่า ถ้าคุณไปหาอาจารย์ยังบ่นเหนื่อย ให้ผมแบกคุณไปก็ยังได้!

หลี่ฮ่าวเป็นคนฉลาด ฟังจบก็เข้าใจความหมายทันที

พลางรู้สึกขบขันในใจ ครั้งนี้เห็นทีหลิวหลงจะยอมรับแล้วจริงๆ

ก่อนหน้านี้ยามเอ่ยถึงหยวนซั่วยังทำท่าไม่ค่อยให้การยอมรับเท่าไร ดูเหมือนเหตุการณ์ครั้งนี้จะสร้างความสะเทือนใจแก่เขาไม่น้อย

“ครับ ถ้ามีความจำเป็น ผมจะไปหาลูกพี่แน่นอน!”

หลิวหลงพยักหน้าอย่างพึงพอใจแล้วถึงหมุนตัวเดินจากไป

ส่วนหลี่ฮ่าวกลับอดใจแทบไม่ไหวแล้วรีบไปดูส่วนแบ่งของพลังลี้ลับที่ได้รับมาก่อนค่อยว่ากันอีกที ครั้งนี้เขาเตรียมจะขอพลังให้ครบทั้งห้าสาย บางทีอาจจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของอวัยวะภายในให้ตัวเองแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม!

…………………………………………………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด