STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา 38.3 กองตรวจการณ์เมืองหยิน (3)

Now you are reading STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา Chapter 38.3 กองตรวจการณ์เมืองหยิน (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 38 กองตรวจการณ์เมืองหยิน (3)

วินาทีนี้เอง ในขณะที่หลิวหลงอับจนหนทาง กองตรวจการณ์ก็เริ่มลงมือ

“เมืองหยินเป็นเมืองสำคัญ ห้ามผู้มีพลังเหนือธรรมชาติลุกล้ำ! ใครฝ่าฝืนตายสถานเดียว!”

“ก่อความวุ่นวายในเมือง กองตรวจการณ์ของเรามีหน้าที่รับผิดชอบ พ่อแม่พี่น้อง วันนี้เมืองหยินจะเกิดเรื่องโกลาหลขึ้น ขอให้พ่อแม่พี่น้องทุกท่านปิดประตูหน้าต่างให้สนิท เมื่อความวุ่นวายสิ้นสุดลง ทุกความเสียหายที่เกิดขึ้นกองตรวจการณ์ของเราจะรับผิดชอบเอง!”

ผู้อำนวยการกองตรวจการณ์ที่ยืนบนตึกผู้นั้นตะโกนเสียงสูงก้องกังวาน!

วินาทีถัดมาเสียงปืนก็ดังขึ้นระรัว!

ผู้ตรวจการณ์ในกองตรวจการณ์ทุกกองกำลังที่อยู่ด้านล่างต่างก็หันปลายกระบอกปืนไปหากลุ่มคนที่แข็งแกร่งพวกนั้นอย่างคาดไม่ถึง!

บางคนโบยบิน บางคนมุดดิน บางคนไฟลุกท่วมตัว ส่วนบางคนก็มีประกายสายฟ้า…

แต่ว่าพวกเราคือกองตรวจการณ์!

ปัง ปัง ปัง!

เสียงปืนดังขึ้นทีละนัดติดต่อกั จนทำลายเสียงความเงียบสงัดในยามราตรี

คืนนี้เมืองหยินมิอาจหลับใหลได้อีก!

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่ใส่หน้ากากผีตะโกนเสียงกร้าวเหนือกลางอากาศ “กองตรวจการณ์เมืองหยิน! พวกแกมันก็แค่คนธรรมดายังกล้ามาโจมตีพวกพลังเหนือธรรมชาติอย่างเรา เมืองหยินอยากจะล่มสลายในวันนี้หรือไง?”

ในวินาทีนี้เองเขาก็บินมุ่งไปทางตึก

เพื่อกุมตัวเจ้าอ้วนนั่น!

บ้าไปแล้ว!

เมืองหยินเป็นเมืองเล็กๆ คิดไม่ถึงว่ากองตรวจการณ์ประจำเมืองแห่งนี้จะลงมือปฏิบัติการด้วยอาวุธครบครัน อีกทั้งภายใต้ลูกกระสุนจำนวนมากมายพวกนี้จะลั่นไปโดนผู้มีพลังเหนือธรรมชาติตายไปคนหนึ่งด้วย พวกเขาเองก็คาดไม่ถึงว่าวินาทีนี้กองตรวจการณ์เมืองหยินจะกล้าลงมือ

เพราะนี่คือสงครามของพวกผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ!

ถึงแม้ว่ากองตรวจการณ์จะมีอาวุธจำพวกปืน แต่ทันทีที่พวกเขาตั้งตัวได้ หากเงาโลหิตสังหารพวกเขา ไม่รู้ว่าคืนนี้จะมีผู้ตรวจการณ์คนธรรมดาตายกี่คน!

กองตรวจการณ์เสียสติไปแล้วหรือไง?

“คิดจะฆ่าพวกเรางั้นเหรอ?”

ชายรูปร่างอ้วนที่ยืนอยู่บนตึกสูงผู้นั้นระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“ขี้โม้เหมือนกันนี่นา!”

และในวินาทีต่อไปชายอ้วนคนนั้นก็กระทืบเท้าเบาๆ ก่อนตัวจะลอยขึ้นกลางอากาศ ทันใดนั้นเองเขาก็คว้าดาบยาวออกมาจากด้านหลัง อาศัยแรงจากที่เขากระทืบพื้นนั้นดีดตัวเองให้พุ่งตรงไปหาผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่บินเข้ามาประทะเขาแล้วฟันดาบใส่อีกฝ่าย!

“จำฉันเอาไว้ให้ดี คนที่ฆ่าแกก็คือมู่เซินแห่งกองตรวจการณ์เมืองหยิน!”

ชายอ้วนคนนี้คือหัวหน้าใหญ่ของกองตรวจการณ์ คนจำนวนไม่น้อยต่างก็รู้ว่าผู้อำนวยการกองตรวจการณ์คนเก่าเป็นยอดฝีมือ มีสมญานามว่าหนังเหนียวฟันแทงไม่เข้า

แต่คนจำนวนไม่น้อยต่างก็รู้ว่าผู้อำนวยการกองตรวจการณ์คนนี้ก็เป็นผู้กล้าฝีมือแข็งแกร่ง

ในวินาทีนี้มู่เซินพุ่งทะลวงไปในอากาศแล้วแกว่งดาบฟาดฟัน!

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่ลอยอยู่ในอากาศหน้าเปลี่ยนสีน้อยๆ เขาเหวี่ยงฝ่ามือแล้วพลังลี้ลับก็พุ่งวนเป็นวงกลม พลังฝ่ามือนี้เปี่ยมไปด้วยพลังของขั้นจันทราทมิฬระดับสุดยอด !

ใช่แล้ว ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่บินอยู่กลางอากาศก็แข็งแกร่งอย่างมาก!

ความสามารถไม่ด้อยไปกว่าหลิวหลงเลย อีกทั้งยังสามารถบินได้ รอยแผลเลือดซึมด้านหลังของหลิวหลงก็เป็นฝีมือของคนผู้นี้แหละ

หากไม่ใช่เพราะหลิวหลงคุ้นเคยกับภูมิศาสตร์ที่นี่จนหลบหนีไปได้ ไม่อย่างนั้นคงโดนคนผู้นี้ฆ่าตายไปนานแล้ว

แต่มู่เซินไม่พะว้าพะวงและไม่ลังเลใจสักนิด เขาเหวี่ยงดาบลงพลันเกิดเสียงดังกึกก้อง พลังภายในระเบิดออกมา กระดูกกล้ามเนื้อลั่นเสียงดังกรอบแกรบ ดาบนั้นตวัดผ่านเม็ดฝนผ่าพลังลี้ลับจนสลายหายไป!

และในวินาทีนั้นเอง มู่เซินก็คำรามขึ้นว่า “ฆ่า!”

โครม!

วินาทีต่อมาระเบิดอีกลูกก็ลอยขึ้นกลางอากาศแล้วระเบิดแถวๆ ชายร่างอ้วน!

โครม ตู้ม!

ระเบิดลูกนั้นระเบิดออกทำลายความมืดมิดของเมืองหยินไปโดยสิ้นเชิง ลูกปืนแหวกผ่านอากาศทำให้รอบบริเวณนั้นสว่างวาบ พลานุภาพของระเบิดลูกนี้กวาดเอาผู้มีพลังเหนือธรรมชาติทั้งหลายแตกฮือ พวกเขาไม่อาจประคองตัวเองให้ยืนนิ่งกลางอากาศได้พลางร่วงลงพื้นไป

“สารเลว!”

คนผู้นั้นคำรามขณะมองมู่เซินที่ร่วงลงจากฟ้า คนผู้นี้ออกหน้าโจมตีเพียงเพื่อขวางตนไว้ วินาทีที่ระเบิดนั้น เขาเองก็ไม่สามารถประคองตัวเอาไว้ได้จึงพาตัวเองลงไปเพื่อสู้กันต่อบนพื้น!

เขาฝืนประคองร่างตนไว้แล้วระเบิดพลังลี้ลับออกมาอีกครั้ง

เขาอยากจะบอกว่านายคิดมากเกินไป

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติก็คือผู้มีพลังเหนือธรรมชาติอยู่ดี!

โบยบินบนฟ้า มุดอยู่ใต้ดิน ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ไม่ใช่คนที่ปรมาจารย์นักรบจะเทียมได้ นายบินไม่ได้ แต่ฉันทำได้!

และในวินาทีนี้เอง

โครม!

เสียงกุกกักดังขึ้นข้างหูไม่หยุด!

และทันใดนั้นเองด้านล่างกลุ่มคนร่วมร้อยก็ทะลักออกมากจากทุกจุดพร้อมลั่นไกปืน

ยิงปืนกันมั่ววุ่นวายไปหมด!

ลูกกระสุนที่ถูกยิงออกมานั้น ถ้าจำนวนน้อยยังพอไหว แต่ถ้าคนจำนวนร่วมร้อยพร้อมใจกันชักปืนออกมายิง เกรงว่าต่อให้ผู้มีพลังธรรมชาติเองก็ไม่อาจหลบได้ง่ายๆ แล้วจะนับประสาอะไรกับมู่เซินที่กำลังจะร่วงลงพื้น คิดไม่ถึงว่าเขาจะเอาตัวไปรับลูกกระสุนแล้วอาศัยแรงลูกกระสุนเพื่อใช้โจมตีต่อ แทนที่เขาจะร่วงลงพื้นแต่กลับทู่ซี้ลอยขึ้นกลางอากาศอีกครั้งแล้วฟาดดาบลงมา!

“ลงมาเถอะ!”

มู่เซินหัวเราะเสียงเย็น “บินสูงยังไงก็เสร็จฉันอยู่ดี!”

โครม!

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติและปรมาจารย์นักรบปะทะกันอีกครั้ง!

คราวนี้ทั้งสองคนต่างก็ประคองตัวไว้ไม่ไหวต่างคนต่างร่วงลงพื้น

ในวินาทีนี้พวกหน้ากากผีก็เริ่มหวาดกลัวกันขึ้นมา

ทันทีที่ร่วงลงพื้น คนนับร้อยด้านล่างต่างมีปืนในมือ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะโดนยิงจนพรุนก็ได้ จันทราทมิฬก็แค่อยู่ในขั้นทะลวงร้อยเท่านั้น แต่ทะลวงร้อยนี้ไม่ได้รวมไปถึงจำนวนอาวุธ คนจำนวนร่วมร้อยสาดลูกกระสุนใส่ ต่อให้เป็นเขาก็ไม่น่ารอด!

“มู่เซิน!”

คนผู้นั้นคำรามเสียงกร้าว ทว่าจู่ๆ กลับมีน้ำเสียงเย็นชาของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติดังลอยมาจากที่ไกลๆ “มู่เซิน ถ้านายกล้าฆ่าเขา เมืองหยินต้องตายไปกับเขาแน่!”

โครม!

คนผู้นั้นที่อยู่ระยะไกลระเบิดสายฟ้าออกมาฟาดลงไปบริเวณหนึ่งของตัวตึก ตัวอาคารค่อยๆ ปริร้าว แล้วเสียงกรีดร้องของชาวเมืองก็ดังขึ้น

เมื่อคนผู้นั้นเห็นว่าหน้ากากผีอาจจะโดนอีกฝ่ายฆ่าได้ ในวินาทีนี้จำเป็นต้องใช้ชีวิตของชาวเมืองหยินมาข่มขู่เขา

“ให้พวกกองตรวจการณ์ถอยไป มิฉะนั้น…พวกเราต่างก็เป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ แถมซ่อนตัวอยู่ตามที่ต่างๆ คอยลอบฆ่าคนนั้นคนนี้ นายกับเมืองหยินจะรับมือกับพวกเราอย่างไร?”

เสียงของคนผู้นั้นดังขึ้นอีกครั้ง

มู่เซินมองผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่ค่อยๆ ดิ่งตัวลงพื้นแล้วมองไปอีกด้าน ร่องรอยขมขื่นพาดผ่านในแววตาเขา

นี่คือความอดสูของกองตรวจการณ์!

ความจริงพวกเขามีศักยภาพสู้กับอีกฝ่ายได้ด้วยซ้ำ แต่…ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติเก่งกว่าคนทั่วไปมากๆ หากมุดดินหรือพรางกาย อาวุธก็จะไม่มีประโยชน์ใดๆ หากพวกเขาจงใจฆ่าประชากรเมืองหยินขึ้นมาคงจะน่ากลัวกว่าที่จินตนาการไว้มาก!

เรื่องทำนองนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

มิฉะนั้นกองตรวจการณ์ก็คงไม่กังวลใจมากขนาดนี้ กระทั่งกลัวว่าจะบีบให้พวกผู้มีพลังเหนือธรรมชาติสู้ตายจนสูญเสียกันทั้งสองฝ่าย!

ฝ่ายตรงข้ามไม่มีอะไรให้ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง!

แต่พวกเรา…กลับทำเช่นนั้นไม่ได้!

มู่เซินลอบถอนหายใจ เขาเองก็ทำอะไรไม่ได้ เหมือนที่เขาเคยพูดกับหลิวหลงว่าจะปกป้องคนเพียงคนเดียว หรือปกป้องทั้งเมือง…คนอื่นสามารถใช้อารมณ์ตัดสินใจได้ แต่ผู้นำทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ

หลิวหลงฉันทำได้เพียงเท่านี้แล้ว!

“ถอยออกจากเมืองหยินไป มิฉะนั้นก็ตายไปด้วยกัน!”

มู่เซินคำรามเสียงกร้าว “ถ้าวันนี้พวกแกไม่ยอมถอยไป คนทั้งกองตรวจการณ์มีปืน 1200 กระบอก มีปืนใหญ่อีก 30 กระบอกเพื่อรอสู้กับพวกแกอยู่! ไสหัวไป! ออกไปสู้กันข้างนอก! ถ้าในเมืองมีคนตายแค่คนเดียวก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการมีคนตายสิบคนหรือร้อยคน อย่าบีบให้พวกเราต้องสู้ตายไปกันทั้งสองฝ่ายเลย”

“ผู้อำนวยการมู่ พวกเราย่อมถอยอยู่แล้ว!”

คนที่อยู่ห่างออกไปผู้นั้นกล่าวเสียงต่ำ “เดิมทีพวกเราไม่ได้ตั้งใจจะข้องแวะอะไรกับพวกนาย แต่หลิวหลงไม่รู้จักประมาณตน ทะเล่อทะล่ามาปลิดชีพผู้มีพลังเหนือธรรมชาติไปตั้งสามคน…หากไม่ฆ่าเขาก็คงไม่สามารถระบายโทสะของพวกเราได้ ฉันว่าผู้อำนวยการก็คงจะไม่อยากเห็นภาพแบบนี้เช่นกัน!”

ตอนนี้หลิวหลงหลบหนีไปตั้งนานแล้ว

ตอนที่คนจากกองตรวจการณ์ปรากฏตัวขึ้นแล้วยิงปืนกันอุตลุตจนกลายเป็นกรงขังผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่กำลังมุดดินไล่ตามเขาอยู่ เขาใช้จังหวะนี้หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

เขารู้ดีว่ามู่เซินไม่สามารถใช้อารมณ์ในการตัดสินใจได้

เมื่อระเบิดดังขึ้นตูมหนึ่ง เขามองชายอ้วนคนนั้นเล็กน้อย นี่เต็มขีดจำกัดที่หมอนั่นจะทำได้แล้ว หลิวหลงที่หนีไปได้ไกลระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “มู่เซิน ฉันออกจากเมืองก่อนนะ นายก็คอยดูแลเมืองให้ดีๆ แล้วกัน! คืนนี้ฉันหลิวหลงขอชื่นชมนาย มีโอกาสวันหน้าค่อยพบกันใหม่!”

เมื่อกล่าวจบเขาก็กระโดดออกไปนอกเมืองอย่างรวดเร็ว

เหล่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติเจ็ดคนถูกฆ่าตายไปหนึ่งคน ส่วนคนที่มีพลังเหนือธรรมชาติที่เหลืออยู่ตอนนี้ก็ถูกผู้ตรวจการณ์สองคนล้อมเอาไว้ ส่วนคนอื่นที่เหลือ บางส่วนเลือกไล่ตามหลิวหลง และบางส่วนยืนประจันหน้ากับมู่เซิน

จงปล่อยผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่บินได้คนนั้น!

มิฉะนั้นพวกเขาก็ไม่ถอย!

ส่วนคนที่ถูกฆ่าตาย… บัญชีแค้นนี้ปล่อยให้องค์กรเป็นคนชำระสะสางเอง วันนี้พวกเขาไม่ได้รับคำสั่งให้ฆ่าล้างเมือง พวกเขากังวลไม่กล้าผลีผลามทำอะไร หากไปกระตุ้นต่อมพวกผู้พิทักษ์รัตติกาลขึ้นมา ผลที่ตามมานั้นรังแต่จะทำให้เกิดความเสียหายกันอย่างหนักกันทั้งสองฝ่าย

มู่เซินร่วงกระแทกลงพื้น พื้นดินบริเวณที่เขาร่วงตกลงมามีเศษดิน เศษดอกไม้กระจุยกระจายเต็มไปหมด

เขาลูบก้นตัวเองป้อยๆ ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นหันไปมองเหล่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่กองอยู่บนพื้นจากมุมที่ไกลออกไป แววตากระหายเลือดเป็นประกาย เขาเองก็อยากจะฆ่าอีกฝ่ายเหมือนกัน

ถ้าเจ้าหมอนี่ไม่โดนปืนสอยจนร่วงตกลงมาโดยไม่ทันตั้งตัวคงฆ่ายากเอาการเหมือนกัน!

ตอนนี้น่าเป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้วล่ะ

………………………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา 38.3 กองตรวจการณ์เมืองหยิน (3)

Now you are reading STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา Chapter 38.3 กองตรวจการณ์เมืองหยิน (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 38 กองตรวจการณ์เมืองหยิน (3)

วินาทีนี้เอง ในขณะที่หลิวหลงอับจนหนทาง กองตรวจการณ์ก็เริ่มลงมือ

“เมืองหยินเป็นเมืองสำคัญ ห้ามผู้มีพลังเหนือธรรมชาติลุกล้ำ! ใครฝ่าฝืนตายสถานเดียว!”

“ก่อความวุ่นวายในเมือง กองตรวจการณ์ของเรามีหน้าที่รับผิดชอบ พ่อแม่พี่น้อง วันนี้เมืองหยินจะเกิดเรื่องโกลาหลขึ้น ขอให้พ่อแม่พี่น้องทุกท่านปิดประตูหน้าต่างให้สนิท เมื่อความวุ่นวายสิ้นสุดลง ทุกความเสียหายที่เกิดขึ้นกองตรวจการณ์ของเราจะรับผิดชอบเอง!”

ผู้อำนวยการกองตรวจการณ์ที่ยืนบนตึกผู้นั้นตะโกนเสียงสูงก้องกังวาน!

วินาทีถัดมาเสียงปืนก็ดังขึ้นระรัว!

ผู้ตรวจการณ์ในกองตรวจการณ์ทุกกองกำลังที่อยู่ด้านล่างต่างก็หันปลายกระบอกปืนไปหากลุ่มคนที่แข็งแกร่งพวกนั้นอย่างคาดไม่ถึง!

บางคนโบยบิน บางคนมุดดิน บางคนไฟลุกท่วมตัว ส่วนบางคนก็มีประกายสายฟ้า…

แต่ว่าพวกเราคือกองตรวจการณ์!

ปัง ปัง ปัง!

เสียงปืนดังขึ้นทีละนัดติดต่อกั จนทำลายเสียงความเงียบสงัดในยามราตรี

คืนนี้เมืองหยินมิอาจหลับใหลได้อีก!

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่ใส่หน้ากากผีตะโกนเสียงกร้าวเหนือกลางอากาศ “กองตรวจการณ์เมืองหยิน! พวกแกมันก็แค่คนธรรมดายังกล้ามาโจมตีพวกพลังเหนือธรรมชาติอย่างเรา เมืองหยินอยากจะล่มสลายในวันนี้หรือไง?”

ในวินาทีนี้เองเขาก็บินมุ่งไปทางตึก

เพื่อกุมตัวเจ้าอ้วนนั่น!

บ้าไปแล้ว!

เมืองหยินเป็นเมืองเล็กๆ คิดไม่ถึงว่ากองตรวจการณ์ประจำเมืองแห่งนี้จะลงมือปฏิบัติการด้วยอาวุธครบครัน อีกทั้งภายใต้ลูกกระสุนจำนวนมากมายพวกนี้จะลั่นไปโดนผู้มีพลังเหนือธรรมชาติตายไปคนหนึ่งด้วย พวกเขาเองก็คาดไม่ถึงว่าวินาทีนี้กองตรวจการณ์เมืองหยินจะกล้าลงมือ

เพราะนี่คือสงครามของพวกผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ!

ถึงแม้ว่ากองตรวจการณ์จะมีอาวุธจำพวกปืน แต่ทันทีที่พวกเขาตั้งตัวได้ หากเงาโลหิตสังหารพวกเขา ไม่รู้ว่าคืนนี้จะมีผู้ตรวจการณ์คนธรรมดาตายกี่คน!

กองตรวจการณ์เสียสติไปแล้วหรือไง?

“คิดจะฆ่าพวกเรางั้นเหรอ?”

ชายรูปร่างอ้วนที่ยืนอยู่บนตึกสูงผู้นั้นระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“ขี้โม้เหมือนกันนี่นา!”

และในวินาทีต่อไปชายอ้วนคนนั้นก็กระทืบเท้าเบาๆ ก่อนตัวจะลอยขึ้นกลางอากาศ ทันใดนั้นเองเขาก็คว้าดาบยาวออกมาจากด้านหลัง อาศัยแรงจากที่เขากระทืบพื้นนั้นดีดตัวเองให้พุ่งตรงไปหาผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่บินเข้ามาประทะเขาแล้วฟันดาบใส่อีกฝ่าย!

“จำฉันเอาไว้ให้ดี คนที่ฆ่าแกก็คือมู่เซินแห่งกองตรวจการณ์เมืองหยิน!”

ชายอ้วนคนนี้คือหัวหน้าใหญ่ของกองตรวจการณ์ คนจำนวนไม่น้อยต่างก็รู้ว่าผู้อำนวยการกองตรวจการณ์คนเก่าเป็นยอดฝีมือ มีสมญานามว่าหนังเหนียวฟันแทงไม่เข้า

แต่คนจำนวนไม่น้อยต่างก็รู้ว่าผู้อำนวยการกองตรวจการณ์คนนี้ก็เป็นผู้กล้าฝีมือแข็งแกร่ง

ในวินาทีนี้มู่เซินพุ่งทะลวงไปในอากาศแล้วแกว่งดาบฟาดฟัน!

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่ลอยอยู่ในอากาศหน้าเปลี่ยนสีน้อยๆ เขาเหวี่ยงฝ่ามือแล้วพลังลี้ลับก็พุ่งวนเป็นวงกลม พลังฝ่ามือนี้เปี่ยมไปด้วยพลังของขั้นจันทราทมิฬระดับสุดยอด !

ใช่แล้ว ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่บินอยู่กลางอากาศก็แข็งแกร่งอย่างมาก!

ความสามารถไม่ด้อยไปกว่าหลิวหลงเลย อีกทั้งยังสามารถบินได้ รอยแผลเลือดซึมด้านหลังของหลิวหลงก็เป็นฝีมือของคนผู้นี้แหละ

หากไม่ใช่เพราะหลิวหลงคุ้นเคยกับภูมิศาสตร์ที่นี่จนหลบหนีไปได้ ไม่อย่างนั้นคงโดนคนผู้นี้ฆ่าตายไปนานแล้ว

แต่มู่เซินไม่พะว้าพะวงและไม่ลังเลใจสักนิด เขาเหวี่ยงดาบลงพลันเกิดเสียงดังกึกก้อง พลังภายในระเบิดออกมา กระดูกกล้ามเนื้อลั่นเสียงดังกรอบแกรบ ดาบนั้นตวัดผ่านเม็ดฝนผ่าพลังลี้ลับจนสลายหายไป!

และในวินาทีนั้นเอง มู่เซินก็คำรามขึ้นว่า “ฆ่า!”

โครม!

วินาทีต่อมาระเบิดอีกลูกก็ลอยขึ้นกลางอากาศแล้วระเบิดแถวๆ ชายร่างอ้วน!

โครม ตู้ม!

ระเบิดลูกนั้นระเบิดออกทำลายความมืดมิดของเมืองหยินไปโดยสิ้นเชิง ลูกปืนแหวกผ่านอากาศทำให้รอบบริเวณนั้นสว่างวาบ พลานุภาพของระเบิดลูกนี้กวาดเอาผู้มีพลังเหนือธรรมชาติทั้งหลายแตกฮือ พวกเขาไม่อาจประคองตัวเองให้ยืนนิ่งกลางอากาศได้พลางร่วงลงพื้นไป

“สารเลว!”

คนผู้นั้นคำรามขณะมองมู่เซินที่ร่วงลงจากฟ้า คนผู้นี้ออกหน้าโจมตีเพียงเพื่อขวางตนไว้ วินาทีที่ระเบิดนั้น เขาเองก็ไม่สามารถประคองตัวเอาไว้ได้จึงพาตัวเองลงไปเพื่อสู้กันต่อบนพื้น!

เขาฝืนประคองร่างตนไว้แล้วระเบิดพลังลี้ลับออกมาอีกครั้ง

เขาอยากจะบอกว่านายคิดมากเกินไป

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติก็คือผู้มีพลังเหนือธรรมชาติอยู่ดี!

โบยบินบนฟ้า มุดอยู่ใต้ดิน ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ไม่ใช่คนที่ปรมาจารย์นักรบจะเทียมได้ นายบินไม่ได้ แต่ฉันทำได้!

และในวินาทีนี้เอง

โครม!

เสียงกุกกักดังขึ้นข้างหูไม่หยุด!

และทันใดนั้นเองด้านล่างกลุ่มคนร่วมร้อยก็ทะลักออกมากจากทุกจุดพร้อมลั่นไกปืน

ยิงปืนกันมั่ววุ่นวายไปหมด!

ลูกกระสุนที่ถูกยิงออกมานั้น ถ้าจำนวนน้อยยังพอไหว แต่ถ้าคนจำนวนร่วมร้อยพร้อมใจกันชักปืนออกมายิง เกรงว่าต่อให้ผู้มีพลังธรรมชาติเองก็ไม่อาจหลบได้ง่ายๆ แล้วจะนับประสาอะไรกับมู่เซินที่กำลังจะร่วงลงพื้น คิดไม่ถึงว่าเขาจะเอาตัวไปรับลูกกระสุนแล้วอาศัยแรงลูกกระสุนเพื่อใช้โจมตีต่อ แทนที่เขาจะร่วงลงพื้นแต่กลับทู่ซี้ลอยขึ้นกลางอากาศอีกครั้งแล้วฟาดดาบลงมา!

“ลงมาเถอะ!”

มู่เซินหัวเราะเสียงเย็น “บินสูงยังไงก็เสร็จฉันอยู่ดี!”

โครม!

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติและปรมาจารย์นักรบปะทะกันอีกครั้ง!

คราวนี้ทั้งสองคนต่างก็ประคองตัวไว้ไม่ไหวต่างคนต่างร่วงลงพื้น

ในวินาทีนี้พวกหน้ากากผีก็เริ่มหวาดกลัวกันขึ้นมา

ทันทีที่ร่วงลงพื้น คนนับร้อยด้านล่างต่างมีปืนในมือ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะโดนยิงจนพรุนก็ได้ จันทราทมิฬก็แค่อยู่ในขั้นทะลวงร้อยเท่านั้น แต่ทะลวงร้อยนี้ไม่ได้รวมไปถึงจำนวนอาวุธ คนจำนวนร่วมร้อยสาดลูกกระสุนใส่ ต่อให้เป็นเขาก็ไม่น่ารอด!

“มู่เซิน!”

คนผู้นั้นคำรามเสียงกร้าว ทว่าจู่ๆ กลับมีน้ำเสียงเย็นชาของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติดังลอยมาจากที่ไกลๆ “มู่เซิน ถ้านายกล้าฆ่าเขา เมืองหยินต้องตายไปกับเขาแน่!”

โครม!

คนผู้นั้นที่อยู่ระยะไกลระเบิดสายฟ้าออกมาฟาดลงไปบริเวณหนึ่งของตัวตึก ตัวอาคารค่อยๆ ปริร้าว แล้วเสียงกรีดร้องของชาวเมืองก็ดังขึ้น

เมื่อคนผู้นั้นเห็นว่าหน้ากากผีอาจจะโดนอีกฝ่ายฆ่าได้ ในวินาทีนี้จำเป็นต้องใช้ชีวิตของชาวเมืองหยินมาข่มขู่เขา

“ให้พวกกองตรวจการณ์ถอยไป มิฉะนั้น…พวกเราต่างก็เป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ แถมซ่อนตัวอยู่ตามที่ต่างๆ คอยลอบฆ่าคนนั้นคนนี้ นายกับเมืองหยินจะรับมือกับพวกเราอย่างไร?”

เสียงของคนผู้นั้นดังขึ้นอีกครั้ง

มู่เซินมองผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่ค่อยๆ ดิ่งตัวลงพื้นแล้วมองไปอีกด้าน ร่องรอยขมขื่นพาดผ่านในแววตาเขา

นี่คือความอดสูของกองตรวจการณ์!

ความจริงพวกเขามีศักยภาพสู้กับอีกฝ่ายได้ด้วยซ้ำ แต่…ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติเก่งกว่าคนทั่วไปมากๆ หากมุดดินหรือพรางกาย อาวุธก็จะไม่มีประโยชน์ใดๆ หากพวกเขาจงใจฆ่าประชากรเมืองหยินขึ้นมาคงจะน่ากลัวกว่าที่จินตนาการไว้มาก!

เรื่องทำนองนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

มิฉะนั้นกองตรวจการณ์ก็คงไม่กังวลใจมากขนาดนี้ กระทั่งกลัวว่าจะบีบให้พวกผู้มีพลังเหนือธรรมชาติสู้ตายจนสูญเสียกันทั้งสองฝ่าย!

ฝ่ายตรงข้ามไม่มีอะไรให้ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง!

แต่พวกเรา…กลับทำเช่นนั้นไม่ได้!

มู่เซินลอบถอนหายใจ เขาเองก็ทำอะไรไม่ได้ เหมือนที่เขาเคยพูดกับหลิวหลงว่าจะปกป้องคนเพียงคนเดียว หรือปกป้องทั้งเมือง…คนอื่นสามารถใช้อารมณ์ตัดสินใจได้ แต่ผู้นำทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ

หลิวหลงฉันทำได้เพียงเท่านี้แล้ว!

“ถอยออกจากเมืองหยินไป มิฉะนั้นก็ตายไปด้วยกัน!”

มู่เซินคำรามเสียงกร้าว “ถ้าวันนี้พวกแกไม่ยอมถอยไป คนทั้งกองตรวจการณ์มีปืน 1200 กระบอก มีปืนใหญ่อีก 30 กระบอกเพื่อรอสู้กับพวกแกอยู่! ไสหัวไป! ออกไปสู้กันข้างนอก! ถ้าในเมืองมีคนตายแค่คนเดียวก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการมีคนตายสิบคนหรือร้อยคน อย่าบีบให้พวกเราต้องสู้ตายไปกันทั้งสองฝ่ายเลย”

“ผู้อำนวยการมู่ พวกเราย่อมถอยอยู่แล้ว!”

คนที่อยู่ห่างออกไปผู้นั้นกล่าวเสียงต่ำ “เดิมทีพวกเราไม่ได้ตั้งใจจะข้องแวะอะไรกับพวกนาย แต่หลิวหลงไม่รู้จักประมาณตน ทะเล่อทะล่ามาปลิดชีพผู้มีพลังเหนือธรรมชาติไปตั้งสามคน…หากไม่ฆ่าเขาก็คงไม่สามารถระบายโทสะของพวกเราได้ ฉันว่าผู้อำนวยการก็คงจะไม่อยากเห็นภาพแบบนี้เช่นกัน!”

ตอนนี้หลิวหลงหลบหนีไปตั้งนานแล้ว

ตอนที่คนจากกองตรวจการณ์ปรากฏตัวขึ้นแล้วยิงปืนกันอุตลุตจนกลายเป็นกรงขังผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่กำลังมุดดินไล่ตามเขาอยู่ เขาใช้จังหวะนี้หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

เขารู้ดีว่ามู่เซินไม่สามารถใช้อารมณ์ในการตัดสินใจได้

เมื่อระเบิดดังขึ้นตูมหนึ่ง เขามองชายอ้วนคนนั้นเล็กน้อย นี่เต็มขีดจำกัดที่หมอนั่นจะทำได้แล้ว หลิวหลงที่หนีไปได้ไกลระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “มู่เซิน ฉันออกจากเมืองก่อนนะ นายก็คอยดูแลเมืองให้ดีๆ แล้วกัน! คืนนี้ฉันหลิวหลงขอชื่นชมนาย มีโอกาสวันหน้าค่อยพบกันใหม่!”

เมื่อกล่าวจบเขาก็กระโดดออกไปนอกเมืองอย่างรวดเร็ว

เหล่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติเจ็ดคนถูกฆ่าตายไปหนึ่งคน ส่วนคนที่มีพลังเหนือธรรมชาติที่เหลืออยู่ตอนนี้ก็ถูกผู้ตรวจการณ์สองคนล้อมเอาไว้ ส่วนคนอื่นที่เหลือ บางส่วนเลือกไล่ตามหลิวหลง และบางส่วนยืนประจันหน้ากับมู่เซิน

จงปล่อยผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่บินได้คนนั้น!

มิฉะนั้นพวกเขาก็ไม่ถอย!

ส่วนคนที่ถูกฆ่าตาย… บัญชีแค้นนี้ปล่อยให้องค์กรเป็นคนชำระสะสางเอง วันนี้พวกเขาไม่ได้รับคำสั่งให้ฆ่าล้างเมือง พวกเขากังวลไม่กล้าผลีผลามทำอะไร หากไปกระตุ้นต่อมพวกผู้พิทักษ์รัตติกาลขึ้นมา ผลที่ตามมานั้นรังแต่จะทำให้เกิดความเสียหายกันอย่างหนักกันทั้งสองฝ่าย

มู่เซินร่วงกระแทกลงพื้น พื้นดินบริเวณที่เขาร่วงตกลงมามีเศษดิน เศษดอกไม้กระจุยกระจายเต็มไปหมด

เขาลูบก้นตัวเองป้อยๆ ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นหันไปมองเหล่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่กองอยู่บนพื้นจากมุมที่ไกลออกไป แววตากระหายเลือดเป็นประกาย เขาเองก็อยากจะฆ่าอีกฝ่ายเหมือนกัน

ถ้าเจ้าหมอนี่ไม่โดนปืนสอยจนร่วงตกลงมาโดยไม่ทันตั้งตัวคงฆ่ายากเอาการเหมือนกัน!

ตอนนี้น่าเป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้วล่ะ

………………………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด