STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา 40-2 สุริยะพราย (2)

Now you are reading STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา Chapter 40-2 สุริยะพราย (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 40 สุริยะพราย (2)

ตอนนี้ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติธาตุน้ำคนนั้นไม่สนใจเรื่องอื่นอีกต่อไป พลันตะโกนถามอย่างเสียท่าว่า “หลี่ฮ่าว เทพแห่งเงาของฉันหายไปไหน”

“เทพแห่งเงาเหรอ”

หลี่ฮ่าวกำลังวิ่งหุนหันมาทางนี้ในสภาพอนาถาจนร้องเท้าหลุดหายไปหมด เหมือนไม่มีเวลาคิดอะไรมาก วิ่งมาพลางตะโกนตอบกลับมาอย่างลนลานไปด้วย “เทพแห่งเงาอะไร…ไอ้ที่วิ่งไล่ตามผมน่ะเหรอ ไม่รู้สิ เมื่อกี้ผมเห็นควันสีแดงลอยขึ้นข้างๆ ผมเพราะแรงสะเทือน…น่ากลัวเกินไปแล้ว! ยังดีที่ผมไม่เป็นอะไร…”

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติธาตุน้ำแน่นิ่งไป

ควันสีแดงลอยขึ้นอย่างนั้นเหรอ!

สุดยอดผู้แกร่ง…แรงสะเทือนจากการต่อสู้ของพวกเขาทำให้เงาโลหิตต้องตายอย่างนั้นหรือ

เพราะเขาได้ออกคำสั่งให้ทางเงาโลหิตว่าห้ามฆ่าหลี่ฮ่าว กลับเป็นฝ่ายต้องปกป้องชีวิตของหลี่ฮ่าว เช่นนี้หมายความว่าเงาโลหิตปกป้องหลี่ฮ่าวถึงเป็นเหตุแก่ความตายสิ

ยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งเหรอ

เขาไม่รู้ว่ายอดฝีมือผู้แข็งแกร่งที่หลี่ฮ่าวพูดถึงจะแกร่งกล้าขนาดไหน แต่เขารู้ว่าฆ่าเงาโลหิตได้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน!

หลี่ฮ่าวในตอนนี้วิ่งมาถึงแล้ว เขาไม่สนใจอะไรผู้มีพลังเหนือธรรมชาติคนนั้นแล้วรีบพูดอย่างหวาดกลัวว่า “รีบเข้าไป! เข้าไปหลบหน่อย สองคนนั้นใกล้จะมาแล้ว…”

ตอนนี้ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติธาตุน้ำคนนั้นอยู่ใกล้หลี่ฮ่าวเพียงเอื้อม

ถึงขั้นที่เขายื่นแขนไปก็คว้าตัวหลี่ฮ่าวได้ แต่เขาในเวลานี้ก็ไม่มีกะจิตกะใจจะจับหลี่ฮ่าว แต่ตวาดเสียงถามว่า “ยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งที่ใดกัน”

ยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งขององค์กรเหรอ

แล้วใครกำลังปะทะกับผู้ที่แข็งแกร่งของทางองค์กรล่ะ

สุริยะพรายหรือ

หรือเป็นผู้กล้าที่แข็งแกร่งยิ่งกว่านั้นกันนะ

เขาสัมผัสไม่ได้สักนิด แต่การตายของเงาโลหิตคือเรื่องจริง เขาไม่คิดว่าหลี่ฮ่าวจะมีพลังต่อกรกับเงาโลหิตได้ นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย

“รีบเข้าไปก่อนเถอะ!”

หลี่ฮ่าวลากอู๋เชาที่ล้มนอนอยู่บนพื้นขึ้นไปยังโกดังอย่างยากลำบากพลางตะโกนอย่างตื่นตระหนกว่า “สุดยอดไปเลย ผมเห็นเนินภูเขาเตี้ยๆ หายไปในพริบตาโดยไม่มีเสียงอะไรด้วย…สองคนนั้น ให้ความรู้สึกว่าร้อนระอุยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ซะอีก!”

ดวงอาทิตย์!

ขั้นสุริยะพราย!

ในขณะนี้ผู้มีพลังเหนือธรรมชาตินิ่งไปอีกคน ทางองค์กรส่งสุริยะพรายมาด้วยหรือ

แล้วอีกคน…หรือว่าจะเป็นผู้กล้าขั้นสุริยะพรายของผู้พิทักษ์รัตติกาล

เขารีบหันทอดมองไกลออกไป แต่เขาก็มองไม่เห็น

และไม่รู้สึกถึงคลื่นพลังเหนือธรรมชาติใดๆ ด้วย!

มันอยู่เหนือขอบเขตที่ตนจะหยั่งถึงอย่างนั้นหรือ

ในตอนนั้นเองหลี่ฮ่าวพลันก็ฉุกนึกอะไรขึ้นมาได้จึงรีบวางอู๋เชาลงแล้วเดินเข้าไปหาผู้มีพลังเหนือธรรมชาติคนนั้น กล่าวอย่างประหม่าว่า “ผมยอมแพ้! คุณจับผมไปเถอะ คุณรีบพาผมไปก่อน อีกฝ่ายเร็วเกินไปแล้ว ผมกลัวพวกเขาจะสู้กันมาถึงตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนของฝั่งไหน ถึงเวลานั้นพวกเขาที่มัวแต่สู้กันคงไม่สนความเป็นความตายของพวกเราหรอก! พวกคุณดูเหมือนไม่คิดจะฆ่าผมตอนนี้อยู่แล้ว…แต่คนฝั่งนั้นใช่ว่าจะสนใจ ถึงจะสนใจก็ใช่ว่าจะควบคุมได้…”

ยอมแพ้หรือ

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติมองหลี่ฮ่าวด้วยสายตายะเยือก หมอนี่กลับมาขอให้เขาคุ้มกันในเวลาแบบนี้อย่างนั้นหรือ!

เป็นเรื่องน่าขันที่สุดในโลก!

เงาโลหิตตายเพียงเพื่อต้องการปกป้องเจ้าหมอนี่…มันช่างซวยอะไรอย่างนี้!

แต่ก็ดีอย่างน้อยก็มีข้ออ้างหนึ่ง พอกลับไปรายงานตามความจริงอาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตนัก นี่ไม่ใช่ความผิดของตน แต่มียอดฝีมือกำลังประชันกันอยู่เลยส่งผลให้เกิดแรงสะเทือนจนทำให้เงาโลหิตต้องตายเพราะปกป้องหลี่ฮ่าว

เพราะหลี่ฮ่าวในตอนนี้ยังตายไม่ได้!

เขาจับไหล่หลี่ฮ่าวในคราวเดียว หลิวเยี่ยนตาลุกวาวอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ เธอหลงคิดว่าหลี่ฮ่าวจะลอบฆ่าอีกฝ่ายเหมือนก่อนหน้านี้

ปรากฏว่า…เปล่าเลย!

หลี่ฮ่าวยอมให้อีกฝ่ายจับกุมตัวแต่โดยดี

เขาไม่ได้โง่สักหน่อย ความจริงเมื่อกี้ตอนเขามาก็เห็นแล้วว่าหลิวเยี่ยนโจมตีโดยใช้มีดแทงอีกฝ่ายไม่สำเร็จ

อีกฝ่ายมีพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติป้องกันตัวอยู่นี่นา!

หากลอบโจมตีตอนนี้มีความเป็นไปได้สูงที่หมอนี่จะไม่ตาย แต่กลับจะดึงดูดความสนใจของเขาแทน ถึงตอนนั้นละจบเห่อย่างแท้จริง

ไหล่ของหลี่ฮ่าวที่ถูกเขาจับราวกับกระดูกแทบแหลกรอมร่อจนเผลอร้องอุทานออกมาเสียงดัง “เบาหน่อย เราถอยก่อน หรือเข้าไปหลบภัยก่อนไหม…สองคนนั้นเก่งเกินไป ข้างในมีกระจกครอบผลึกเหมันต์ป้องกันอยู่ ไม่แน่อาจจะช่วยเราไม่ให้ถูกคลื่นพลังเหนือธรรมชาติฆ่าเอาได้!”

“กระจกครอบผลึกเหมันต์เหรอ”

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติธาตุน้ำผู้นั้นเข้าใจอย่างถ่องแท้ มิน่าหมอนี่ถึงดั้นด้นจะวิ่งมาทางนี้!

ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง!

แต่ในเมื่อตนรู้เรื่องแล้วก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ละ ยิ่งไปกว่านั้นคนพวกนี้ก็จวนเจียนจะไม่ไหวแล้วด้วย

เขาไม่พูดอะไรก่อนจะรวมพลังสร้างธนูวารีขึ้นมาอีกครั้ง

ต่อให้คนเหล่านี้จะไม่เป็นภัยคุกคามมากพอ แต่ฆ่าอีกฝ่ายไปตอนนี้ยังดีกว่าปล่อยให้โอกาสอีกฝ่ายสร้างปัญหาให้ตน ดังนั้นชิงฆ่าอีกฝ่ายก่อนค่อยพาหลี่ฮ่าวเข้าไปหลบภัย ต่อให้เป็นการต่อสู้กันระหว่างระดับขั้นสุริยะพราย ลำพังแค่คลื่นพลังเท่านั้นเอง หากมีกระจกครอบผลึกเหมันต์อยู่ด้วย บวกกับตนที่อย่างน้อยก็อยู่ลำดับขั้นจันทราทมิฬคงจะมีพลังป้องกันตัวได้

หลิวเยี่ยนในตอนนี้หันไปเขม่นตาใส่หลี่ฮ่าวแวบหนึ่งอย่างนึกแค้นใจแล้วลากอู๋เชาหมายจะวิ่งออกไป ตะโกนเสียงดัง “ถอย!”

เธอจะถอยแล้ว!

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติคิดจะตามไป แต่หลี่ฮ่าวรีบตะโกนแทรกมาว่า “พวกเขาตายแน่ เราเข้าไปหลบภัยก่อน พวกเขาหนีไปสิดีเสียอีก ไม่แน่คุณอาจจะต้องคอยระวังตัวเผื่อพวกเขาคิดจะลงมือกับคุณตอนเข้าไปข้างในอีกก็ได้…”

ก็ถูก!

หนำซ้ำตอนนี้เป็นช่วงเวลาคับขัน แม้ไม่รู้ว่าสองคนนั้นอยู่ไหน แต่คงไม่ไกลจากจุดที่เงาโลหิตตาย

หากปะทะกับหลิวเยี่ยนจนเสียเวลาแล้วพลอยโดนคลื่นพลังไปด้วยก็แย่ล่ะ

ส่วนเรื่องที่น่าสงสัย…

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติมีข้อสงสัยอยู่เล็กน้อย แต่…แต่เงาโลหิตตายไปแล้วนะ!

อีกอย่างพวกหลิวเยี่ยนหนีไปแล้ว หากตนพาหลี่ฮ่าวเข้าไปอยู่ในกระจกครอบผลึกเหมันต์ พลังเหนือธรรมชาติของเขาก็จะถูกจำกัดการใช้งาน แต่ก็ไม่ใช่ระดับที่มือสิบสังหารทั่วไปเทียบเคียงได้

หลี่ฮ่าว…ไม่ใช่ภัยคุกคามแม้แต่น้อย!

เพราะจากข้อมูลของเขา ทางองค์กรรู้เรื่องนี้ดีที่สุดแล้ว!

ถึงจะเคยเรียนวิชายุทธกับหยวนซั่ว แต่สองปีที่เรียนมาก็เป็นเพียงเคล็ดวิชาห้าปาณภูตขั้นพื้นฐานจึงไม่มีพลังทำลายล้างใดๆ เลย

และเพิ่งสัมผัสพลังเหนือธรรมชาติแค่สองวันมานี้เอง

ทุกความเคลื่อนไหวทุกอิริยาบถของหลี่ฮ่าวล้วนอยู่ในสายตาขององค์กรเสมอ

เคล็ดวิชาห้าปาณภูตของหลี่ฮ่าวพัฒนาขึ้นจากเดิมเล็กน้อย จากการรายงานของข้อมูลอาจจะถึงระดับสองสังหารหรือสามสังหาร…ก็เท่านั้น!

ขั้นสองสังหารสามสังหารเหรอ…ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติคร้านจะไปคิดถึงมัน

ต่อให้หลี่ฮ่าวฆ่าเขาโต้งๆ โดยไม่ต่อกรด้วย เขาก็ยังฆ่าไม่ได้ด้วยซ้ำ

เขาไม่คิดอะไรมากไปกว่านี้และไม่สนใจพวกหลิวเยี่ยนอีก จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในโกดังโดยตรง ปิดประตูแล้วรีบพาหลี่ฮ่าววิ่งเข้าไป

กระจกครอบผลึกเหมันต์ หลี่ฮ่าวไม่พูดก็ช่าง แต่พอพูดแล้วความจริงเขาก็พอจะสัมผัสได้ การสำรวจพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติ หากที่ใดมีอุปสรรคขัดขวางไม่ให้ตนสำรวจที่นั่น ตรงนั้นย่อมเป็นเขตที่มีกระจกครอบผลึกเหมันต์

ไม่นานทั้งคู่ก็วิ่งมาถึงด้านหลังของโกดัง ที่นั่นมีตู้สินค้าเล็กๆ แยกออกมา น่าจะเป็นตรงนั้นละ!

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติมองสำรวจรอบหนึ่งแต่ไม่รู้สึกถึงอะไร

ส่วนระเบิดที่ถูกฝังอยู่ด้านใต้…เขาในตอนนี้ก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ การจะจุดระเบิดให้ปะทุได้ต่อหน้าต่อตาของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ คนพวกนั้นยังมีความสามารถไม่ถึงขั้นนั้นหรอก ต่อให้จุดระเบิดจริง คนพวกนั้นตายหลี่ฮ่าวก็ต้องตายเช่นกัน

หลบภัยก่อนค่อยว่ากัน!

…………………………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา 40-2 สุริยะพราย (2)

Now you are reading STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา Chapter 40-2 สุริยะพราย (2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 40 สุริยะพราย (2)

ตอนนี้ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติธาตุน้ำคนนั้นไม่สนใจเรื่องอื่นอีกต่อไป พลันตะโกนถามอย่างเสียท่าว่า “หลี่ฮ่าว เทพแห่งเงาของฉันหายไปไหน”

“เทพแห่งเงาเหรอ”

หลี่ฮ่าวกำลังวิ่งหุนหันมาทางนี้ในสภาพอนาถาจนร้องเท้าหลุดหายไปหมด เหมือนไม่มีเวลาคิดอะไรมาก วิ่งมาพลางตะโกนตอบกลับมาอย่างลนลานไปด้วย “เทพแห่งเงาอะไร…ไอ้ที่วิ่งไล่ตามผมน่ะเหรอ ไม่รู้สิ เมื่อกี้ผมเห็นควันสีแดงลอยขึ้นข้างๆ ผมเพราะแรงสะเทือน…น่ากลัวเกินไปแล้ว! ยังดีที่ผมไม่เป็นอะไร…”

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติธาตุน้ำแน่นิ่งไป

ควันสีแดงลอยขึ้นอย่างนั้นเหรอ!

สุดยอดผู้แกร่ง…แรงสะเทือนจากการต่อสู้ของพวกเขาทำให้เงาโลหิตต้องตายอย่างนั้นหรือ

เพราะเขาได้ออกคำสั่งให้ทางเงาโลหิตว่าห้ามฆ่าหลี่ฮ่าว กลับเป็นฝ่ายต้องปกป้องชีวิตของหลี่ฮ่าว เช่นนี้หมายความว่าเงาโลหิตปกป้องหลี่ฮ่าวถึงเป็นเหตุแก่ความตายสิ

ยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งเหรอ

เขาไม่รู้ว่ายอดฝีมือผู้แข็งแกร่งที่หลี่ฮ่าวพูดถึงจะแกร่งกล้าขนาดไหน แต่เขารู้ว่าฆ่าเงาโลหิตได้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน!

หลี่ฮ่าวในตอนนี้วิ่งมาถึงแล้ว เขาไม่สนใจอะไรผู้มีพลังเหนือธรรมชาติคนนั้นแล้วรีบพูดอย่างหวาดกลัวว่า “รีบเข้าไป! เข้าไปหลบหน่อย สองคนนั้นใกล้จะมาแล้ว…”

ตอนนี้ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติธาตุน้ำคนนั้นอยู่ใกล้หลี่ฮ่าวเพียงเอื้อม

ถึงขั้นที่เขายื่นแขนไปก็คว้าตัวหลี่ฮ่าวได้ แต่เขาในเวลานี้ก็ไม่มีกะจิตกะใจจะจับหลี่ฮ่าว แต่ตวาดเสียงถามว่า “ยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งที่ใดกัน”

ยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งขององค์กรเหรอ

แล้วใครกำลังปะทะกับผู้ที่แข็งแกร่งของทางองค์กรล่ะ

สุริยะพรายหรือ

หรือเป็นผู้กล้าที่แข็งแกร่งยิ่งกว่านั้นกันนะ

เขาสัมผัสไม่ได้สักนิด แต่การตายของเงาโลหิตคือเรื่องจริง เขาไม่คิดว่าหลี่ฮ่าวจะมีพลังต่อกรกับเงาโลหิตได้ นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย

“รีบเข้าไปก่อนเถอะ!”

หลี่ฮ่าวลากอู๋เชาที่ล้มนอนอยู่บนพื้นขึ้นไปยังโกดังอย่างยากลำบากพลางตะโกนอย่างตื่นตระหนกว่า “สุดยอดไปเลย ผมเห็นเนินภูเขาเตี้ยๆ หายไปในพริบตาโดยไม่มีเสียงอะไรด้วย…สองคนนั้น ให้ความรู้สึกว่าร้อนระอุยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ซะอีก!”

ดวงอาทิตย์!

ขั้นสุริยะพราย!

ในขณะนี้ผู้มีพลังเหนือธรรมชาตินิ่งไปอีกคน ทางองค์กรส่งสุริยะพรายมาด้วยหรือ

แล้วอีกคน…หรือว่าจะเป็นผู้กล้าขั้นสุริยะพรายของผู้พิทักษ์รัตติกาล

เขารีบหันทอดมองไกลออกไป แต่เขาก็มองไม่เห็น

และไม่รู้สึกถึงคลื่นพลังเหนือธรรมชาติใดๆ ด้วย!

มันอยู่เหนือขอบเขตที่ตนจะหยั่งถึงอย่างนั้นหรือ

ในตอนนั้นเองหลี่ฮ่าวพลันก็ฉุกนึกอะไรขึ้นมาได้จึงรีบวางอู๋เชาลงแล้วเดินเข้าไปหาผู้มีพลังเหนือธรรมชาติคนนั้น กล่าวอย่างประหม่าว่า “ผมยอมแพ้! คุณจับผมไปเถอะ คุณรีบพาผมไปก่อน อีกฝ่ายเร็วเกินไปแล้ว ผมกลัวพวกเขาจะสู้กันมาถึงตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนของฝั่งไหน ถึงเวลานั้นพวกเขาที่มัวแต่สู้กันคงไม่สนความเป็นความตายของพวกเราหรอก! พวกคุณดูเหมือนไม่คิดจะฆ่าผมตอนนี้อยู่แล้ว…แต่คนฝั่งนั้นใช่ว่าจะสนใจ ถึงจะสนใจก็ใช่ว่าจะควบคุมได้…”

ยอมแพ้หรือ

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติมองหลี่ฮ่าวด้วยสายตายะเยือก หมอนี่กลับมาขอให้เขาคุ้มกันในเวลาแบบนี้อย่างนั้นหรือ!

เป็นเรื่องน่าขันที่สุดในโลก!

เงาโลหิตตายเพียงเพื่อต้องการปกป้องเจ้าหมอนี่…มันช่างซวยอะไรอย่างนี้!

แต่ก็ดีอย่างน้อยก็มีข้ออ้างหนึ่ง พอกลับไปรายงานตามความจริงอาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตนัก นี่ไม่ใช่ความผิดของตน แต่มียอดฝีมือกำลังประชันกันอยู่เลยส่งผลให้เกิดแรงสะเทือนจนทำให้เงาโลหิตต้องตายเพราะปกป้องหลี่ฮ่าว

เพราะหลี่ฮ่าวในตอนนี้ยังตายไม่ได้!

เขาจับไหล่หลี่ฮ่าวในคราวเดียว หลิวเยี่ยนตาลุกวาวอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ เธอหลงคิดว่าหลี่ฮ่าวจะลอบฆ่าอีกฝ่ายเหมือนก่อนหน้านี้

ปรากฏว่า…เปล่าเลย!

หลี่ฮ่าวยอมให้อีกฝ่ายจับกุมตัวแต่โดยดี

เขาไม่ได้โง่สักหน่อย ความจริงเมื่อกี้ตอนเขามาก็เห็นแล้วว่าหลิวเยี่ยนโจมตีโดยใช้มีดแทงอีกฝ่ายไม่สำเร็จ

อีกฝ่ายมีพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติป้องกันตัวอยู่นี่นา!

หากลอบโจมตีตอนนี้มีความเป็นไปได้สูงที่หมอนี่จะไม่ตาย แต่กลับจะดึงดูดความสนใจของเขาแทน ถึงตอนนั้นละจบเห่อย่างแท้จริง

ไหล่ของหลี่ฮ่าวที่ถูกเขาจับราวกับกระดูกแทบแหลกรอมร่อจนเผลอร้องอุทานออกมาเสียงดัง “เบาหน่อย เราถอยก่อน หรือเข้าไปหลบภัยก่อนไหม…สองคนนั้นเก่งเกินไป ข้างในมีกระจกครอบผลึกเหมันต์ป้องกันอยู่ ไม่แน่อาจจะช่วยเราไม่ให้ถูกคลื่นพลังเหนือธรรมชาติฆ่าเอาได้!”

“กระจกครอบผลึกเหมันต์เหรอ”

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติธาตุน้ำผู้นั้นเข้าใจอย่างถ่องแท้ มิน่าหมอนี่ถึงดั้นด้นจะวิ่งมาทางนี้!

ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง!

แต่ในเมื่อตนรู้เรื่องแล้วก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ละ ยิ่งไปกว่านั้นคนพวกนี้ก็จวนเจียนจะไม่ไหวแล้วด้วย

เขาไม่พูดอะไรก่อนจะรวมพลังสร้างธนูวารีขึ้นมาอีกครั้ง

ต่อให้คนเหล่านี้จะไม่เป็นภัยคุกคามมากพอ แต่ฆ่าอีกฝ่ายไปตอนนี้ยังดีกว่าปล่อยให้โอกาสอีกฝ่ายสร้างปัญหาให้ตน ดังนั้นชิงฆ่าอีกฝ่ายก่อนค่อยพาหลี่ฮ่าวเข้าไปหลบภัย ต่อให้เป็นการต่อสู้กันระหว่างระดับขั้นสุริยะพราย ลำพังแค่คลื่นพลังเท่านั้นเอง หากมีกระจกครอบผลึกเหมันต์อยู่ด้วย บวกกับตนที่อย่างน้อยก็อยู่ลำดับขั้นจันทราทมิฬคงจะมีพลังป้องกันตัวได้

หลิวเยี่ยนในตอนนี้หันไปเขม่นตาใส่หลี่ฮ่าวแวบหนึ่งอย่างนึกแค้นใจแล้วลากอู๋เชาหมายจะวิ่งออกไป ตะโกนเสียงดัง “ถอย!”

เธอจะถอยแล้ว!

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติคิดจะตามไป แต่หลี่ฮ่าวรีบตะโกนแทรกมาว่า “พวกเขาตายแน่ เราเข้าไปหลบภัยก่อน พวกเขาหนีไปสิดีเสียอีก ไม่แน่คุณอาจจะต้องคอยระวังตัวเผื่อพวกเขาคิดจะลงมือกับคุณตอนเข้าไปข้างในอีกก็ได้…”

ก็ถูก!

หนำซ้ำตอนนี้เป็นช่วงเวลาคับขัน แม้ไม่รู้ว่าสองคนนั้นอยู่ไหน แต่คงไม่ไกลจากจุดที่เงาโลหิตตาย

หากปะทะกับหลิวเยี่ยนจนเสียเวลาแล้วพลอยโดนคลื่นพลังไปด้วยก็แย่ล่ะ

ส่วนเรื่องที่น่าสงสัย…

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติมีข้อสงสัยอยู่เล็กน้อย แต่…แต่เงาโลหิตตายไปแล้วนะ!

อีกอย่างพวกหลิวเยี่ยนหนีไปแล้ว หากตนพาหลี่ฮ่าวเข้าไปอยู่ในกระจกครอบผลึกเหมันต์ พลังเหนือธรรมชาติของเขาก็จะถูกจำกัดการใช้งาน แต่ก็ไม่ใช่ระดับที่มือสิบสังหารทั่วไปเทียบเคียงได้

หลี่ฮ่าว…ไม่ใช่ภัยคุกคามแม้แต่น้อย!

เพราะจากข้อมูลของเขา ทางองค์กรรู้เรื่องนี้ดีที่สุดแล้ว!

ถึงจะเคยเรียนวิชายุทธกับหยวนซั่ว แต่สองปีที่เรียนมาก็เป็นเพียงเคล็ดวิชาห้าปาณภูตขั้นพื้นฐานจึงไม่มีพลังทำลายล้างใดๆ เลย

และเพิ่งสัมผัสพลังเหนือธรรมชาติแค่สองวันมานี้เอง

ทุกความเคลื่อนไหวทุกอิริยาบถของหลี่ฮ่าวล้วนอยู่ในสายตาขององค์กรเสมอ

เคล็ดวิชาห้าปาณภูตของหลี่ฮ่าวพัฒนาขึ้นจากเดิมเล็กน้อย จากการรายงานของข้อมูลอาจจะถึงระดับสองสังหารหรือสามสังหาร…ก็เท่านั้น!

ขั้นสองสังหารสามสังหารเหรอ…ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติคร้านจะไปคิดถึงมัน

ต่อให้หลี่ฮ่าวฆ่าเขาโต้งๆ โดยไม่ต่อกรด้วย เขาก็ยังฆ่าไม่ได้ด้วยซ้ำ

เขาไม่คิดอะไรมากไปกว่านี้และไม่สนใจพวกหลิวเยี่ยนอีก จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในโกดังโดยตรง ปิดประตูแล้วรีบพาหลี่ฮ่าววิ่งเข้าไป

กระจกครอบผลึกเหมันต์ หลี่ฮ่าวไม่พูดก็ช่าง แต่พอพูดแล้วความจริงเขาก็พอจะสัมผัสได้ การสำรวจพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติ หากที่ใดมีอุปสรรคขัดขวางไม่ให้ตนสำรวจที่นั่น ตรงนั้นย่อมเป็นเขตที่มีกระจกครอบผลึกเหมันต์

ไม่นานทั้งคู่ก็วิ่งมาถึงด้านหลังของโกดัง ที่นั่นมีตู้สินค้าเล็กๆ แยกออกมา น่าจะเป็นตรงนั้นละ!

ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติมองสำรวจรอบหนึ่งแต่ไม่รู้สึกถึงอะไร

ส่วนระเบิดที่ถูกฝังอยู่ด้านใต้…เขาในตอนนี้ก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ การจะจุดระเบิดให้ปะทุได้ต่อหน้าต่อตาของผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ คนพวกนั้นยังมีความสามารถไม่ถึงขั้นนั้นหรอก ต่อให้จุดระเบิดจริง คนพวกนั้นตายหลี่ฮ่าวก็ต้องตายเช่นกัน

หลบภัยก่อนค่อยว่ากัน!

…………………………………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+