Supreme Magus 13 แลกเปลี่ยน(2)

Now you are reading Supreme Magus Chapter 13 แลกเปลี่ยน(2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Supreme Magus ตอนที่ 13 แลกเปลี่ยน(2) ตอนที่ 13 แลกเปลี่ยน(2) นาน่ามีจรรยาบรรณในการทํางานของ ตัวเอง แม้หญิงชราจะถูกใจลทมากแต่ในการลักษาทิสต้าทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบเท่าเทียมกับคนไข้คนอื่น ลิทเป็นคนที่พยายามและไม่ยอมแพ้สมัยอยู่มหาวิทยาลัยเขาใช้เวลาว่างทุกวินาทีทบทวนวิชาที่ตัวเองไม่ถนัด “ไม่ต้องใช้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งจะดีกว่าถ้าข้าจะปล่อยเวทมนตร์ธาตุแสงและธาตุมืดไปก่อนทั้งสองธาตุอยู่นอกเหนือหลักการทางวิทยาศาสตร์ มันยากจะเรียนได้ด้วยตัวเองนอกจากนี้ข้ายังต้องรออีกหลายปีถึงจะมีโอกาสอ่านหนังสือพวกนั้น เมื่อถึงคิวของทิสต้าลิทสะบัดความ คิดอื่นทิ้งไป แล้วตั้งใจดูการใช้เวทมนตร์ของนาน่า “Vinire Rad Tu!” เป็นเวทมนตร์บท เดิมที่นาน่าเคยใช้ตรวจหาความผิดปกติของลิทเมื่อ 3 ปีก่อน ลิทชื่นชมการควบคุมมานาของหญิงช รา แสงสีขาวห้อมล้อมร่างกายของ ทิสต้า มันค่อยๆเคลื่อนที่มารวมกันที่ หน้าอกของสาวน้อยแล้วเปลี่ยนเป็นสีเทาอย่างรวดเร็ว “ข้ามีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย ข่าวดีคือ การป่วยของทิสต้ายังคงที่ ไม่ได้แย่ลงจากเดิมข่าวร้ายคือข้ายังหาวิธีรักษาเธอ ไม่ได้ ข้ากลัวว่าเธออาจจะต้องป่วยแบบนี้ตลอดชีวิต ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเธอเติบ โตขึ้นโอกาสรักษาจะยิ่งลดน้อยลง” บรรยากาศในห้องเปลี่ยนมืดมน การมี ชีวิตแบบนี้ไปตลอดก็ไม่ต่างอะไรกับการไม่มีชีวิต ลิทตกใจที่ได้ยิน ทุกอย่างไม่มีความ หมายถ้าเขาไม่สามารถช่วยเหลือคนที่เขารักได้มันจะต่างอะไรจากชีวิตก่อน
พวกเขาออกจากบ้านนาน่าด้วยความหดหูระหว่างเดินทางกลับไม่มีใครพูดอะไร เมื่อกลับมาถึง เอเลน่าบอกข่าวร้ายกับ ราซและลูกทุกคน หลายคนร้องไห้และเดินเข้ามากอดทิสต้าทุกคนร่วมแบ่งปัน ความทุกข์กัน ลิทได้แต่สาปแช่งชะตากรรมที่โหดร้ายของทิสต้า การมีเวทมนตร์จะดียังไงถ้าข้าช่วยใครไม่ได้ครอบครัวของข้าล้วนเจอแต่ ความชั่วร้าย ทําไมข้าต้องกลับมาเกิดที่โลกใบใหม่ เพื่อจะมีชีวิตที่เลวร้ายไม่ ต่างจากเดิม เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่ต้องทําคือ ยอมรับความจริง ทิสต้าป่วยหนักตั้งแต่เกิดมันไม่ใช่ความผิดของลิท เมื่อได้รับการยอมรับจากนาน่าเด็กน้อยก็สามารถฝึกฝนเวทมนตร์ได้อย่างเปิดเผยเขาก็ได้พิสูจน์ความสามารถด้วยการทําความสะอาดบ้านทั้งหลังด้วยตัวเองช่วยลดภาระของเอเลน่าและเอเล ซ่า ด้วยเวทมนตร์ธาตุมืด การทําความสะ อาดจานและหม้อใช้เวลาไม่กี่นาทีไม่มีสิ่งใดที่ตกค้าง คราบไขมันสลายกลาย เป็นฝุ่น ใช้เวลาไปกับการทดลองเวทมนตร์ธา ตุแสงเพื่อค้นหาวิธีรักษาทิสต้าและสามารถช่วยลดอาการป่วยของเธอได้ ตอน นี้เธอไม่จําเป็นต้องไปหานาน่าบ่อยเหมือนเมื่อก่อน ความสามารถมากมายที่ลิทแสดงออก ทําให้ออป้าเกลียดเขามากขึ้นเรื่อยๆ “อวดดี! เจ้านั่นก็แค่ฉลาดนิดหน่อ ยกับใช้เวทมนตร์ได้เล็กน้อย ทําไมทุก คนถึงเองแต่ยกยอเขา? ทําไมไม่เห็นใจ ข้าที่ต้องทํางานหนักอยู่ในฟาร์มบ้าง?ทําไมเขาถึงเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ มากมาย? แต่ขากลับไม่มีอะไรเลย พลังมานาและความเข้าใจในเวทมน ตร์ของลิทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ความสัมพันธ์ของเขากับออป้าก็ลดลงเรื่อยๆเช่นกัน และคงไม่มีวันจะดีขึ้น ผ่านไปไม่นาน เมื่อลิทค้นพบหนืดเข้า ใจอะไรใหม่ๆเกี่ยวกับเวทมนตร์เขาไม่ได้ตื่นเต้นอีกต่อไป มันกลายเป็นความ
เคยชิน ในที่สุดลิทก็อายุ 4 ขวบ ในหมู่บ้านลู เทีย เด็กที่มีอายุเกิน 4 ขวบถือว่าโตขึ้นอีกขั้นพ่อแม่ไม่จําเป็นต้องดูและทุก เรื่อง พวกเขาจะมีอิสระมากขึ้น เป็นเวลาเหมาะสมในการพาพวกเขา ไปรู้จักเพื่อนบ้าน ทําความรู้จักกับเด็กในหมู่บ้านที่วัยใกล้เคียงกันพวกเขาจะมี มิตรภาพต่อกันและกลายเป็นเพื่อนกันเมื่อโตขึ้น เอเลซ่าพาลิทไปทําความรู้จักกับเพื่อ นบ้านทุกคนที่อยู่รอบๆฟาร์ม เด็กในวัยนี้ควรเริ่มมีสังคมและเล่นกับ เพื่อน แต่ลิทไม่สนใจและทําตามแผน การฝึกของเขาต่อไป เขาต้องพยายาม ให้มากกว่าความล้มเหลว ฟาร์มของราซตั้งอยู่ที่ทิศตะวันตกของ หมู่บ้านลูเทีย อยู่บริเวณปลายเขตของหมู่บ้านห่างจากฟาร์มไป 1 กิโลเมตร เป็นป่าใหญ่ที่ชื่อว่าป่าทราว์น ป่าทราว์นไม่ได้มีชื่อเสียงอันตรายผู้คนที่อาศัยในหมู่บ้านต่างก็พึ่งพิงป่านี้ในป่ามีทรัพยากรมากมายที่ช่วยในดํารงชีวิต ป่าทราว์นมีสัตว์ป่าอยู่นับไม่ถ้วนผู้กล้าหาญจะออกล่าเพื่อเนื้อและขนสัตว์มันเป็นสิ่งที่มีค่ามากโดยเฉพาะฤดูหนาว ไม่มีใครรู้ว่าลึกข้างในมีสัตว์น่ากลัวหรืออันตรายอะไรอยู่ ไม่มีใครกล้าทําและมันไม่จําเป็นดังนั้นพื้นที่ใจกลางของป่า ทราว์นจึงไม่มีข้อมูลอะไรอยู่บนแผนที่ การฝึกเวทมนตร์ต้องใช้พลังงานจํานวนมากและต่อเนื่อง ครอบครัวของลิทไม่มีอาหารเพียงพอกับความต้องการของเขา ตอนนี้เด็กน้อยคือคนที่ทํางานหนักมากที่สุดในบ้านดังนั้นเขาต้องการอาเอาหาร ปัญหาคือลิทไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการล่าสัตว์เลย นั่นเป็นเหตุผลให้เขามุ่งหน้าไปที่บ้านหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้ฟาร์ม เจ้าของบ้านคือเซเลียฟาสแทร์โรเธอเป็นนักล่าเพียงคนเดียวที่เป็นเพื่อนบ้านของเด็กน้อย “ข้าไม่รู้ว่าจะขอความเชื่อเหลือยังไง เธออาจมองว่าข้าเด็กเกินไปที่จะเรียนรู้การล่าสัตว์ข้าได้แต่หวังว่าเธอจะเป็นผู้ หญิงใจดีและเมตตา บ้านของเซเลียเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว มี ขนาดเล็กกว่าบ้านของลิท มีพื้นที่ประมาณ 60 ตารางเมตรพื้นที่หน้าบ้านเป็นทุ่งนาที่ถูกปล่อยร้างไว้ รอบๆไม่มีสิ่งก่อสร้างอย่างอื่นนอนจากบ้านตัวเอง “ไม่มีการปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ที่นี่เลย หมายความว่าเธอต้องล่าสัตว์เป็นอาชีพหลักและมีประสบการณ์มาก ถือว่า เป็นเรื่องดีสําหรับข้า ลืมเคาะประตูบ้านเซเลียด้วยความกัง วลเล็กน้อย ประตูเปิดเกือบทันที “เจ้าอีกแล้ว? เจ้าหลงทางหรือไง?” เซ เลียเป็นผู้หญิงวัยสามสิบต้นๆ สูง 1.7 เมตรผิวดําคล้ําผมสีดําถูกตัดสั้นจนเห มือนทรงผมผู้ชาย เธอเป็นผู้หญิงหน้าตาดี หน้าอกที่แบน ราบและดวงตาที่แหลมคม รวมกับนิสัยตรงไปตรงมา ทําให้เธอดูเหมือนผู้ชายคน นึ่ง เธอสวมเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีเขียว กางเกงขายาวลายพราง และรองเท้าบู๊ตสีน้ําตาล “สวัสดีท่านเซเพลียท่าพอจะว่างหรือ ไม่ ท่านช่วยสอนข้าชําแหละซากสัตว์ให้ข้าได้มั้ย?” เซเลียรู้สึกประหลาดใจ “ทําไม?” “เพราะข้าหิว” ลีทไม่รู้ว่าจะอธิบายยัง ไง เขาพยายามเลือกคําตอบที่คอดว่าดีที่สุด “ข้าหิวมากและข้าไม่มีอาหาร ข้าคิ ดว่าข้าสามารถล่าสัตว์ได้แต่ข้าไม่รู้วิธีจัดการกับซากสัตว์” “ไม่ ข้าหมายถึงว่าทําไมข้าต้องช่วยเจ้าข้าจะได้อะไร?” เซเลียหัวเราะเบาๆ “งั้นท่านต้องการอะไร?” เด็กน้อยถามกลับดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เรียนง่ายๆ “ข้าพูดตรงๆ ข้าไม่เชื่อว่าคนแคระที่สูงยังไม่ถึงเข็มขัดของข้าจะสามารถล่าสัตว์ ได้ ในเมื่อเจ้าต้องการให้ข้าสอนมันย่อมมีค่าตอบแทน” เซเลียยืนเกาคางอยู่เงียบๆเธอไม่เคยมีผู้ช่วยและคิดว่ามันไม่จําเป็นปกติแล้วเธอจะทําทุกอย่างด้วยตัวเอง “ข้ากลัวว่าเจ้าจะทําสินค้าข้าเสียหายเอาอย่างงี้ ในเมื่อเจ้าบอกว่าเจ้าสามารถ ล่าสัตว์ได้ งั้นล่าสัตว์แล้วเอาศพมันมาที่นี้ข้าจะสอนเจ้าถึงวิธีการชําแหละร่างสัตว์แต่ครึ่งหนึ่งจะเป็นค่าตอบแทนของ ข้า” “ผู้หญิงใจดีและเมตตา?ครึ่งหนึ่งนี่มันขโมยชัดๆ!”เด็กน้อยคํารามในความคิดแต่เขาไม่มีทางเลือก “ข้าจะกลับไปล่าสัตว์ท่านอยู่ที่บ้านเวลาไหนบ้าง? “ข้าอยู่ที่นี่ตลอดทั้งวัน มีอะไร?” เซเลียตอบ “อีกไม่นานข้าจะกลับมา อย่าลืมข้อตกลงของเรา” ลิทพูดจบแล้วปิดประตูโดยไม่รอคําตอบเขาหงุดหงิดกับข้อแลกเป ลี่ยนที่เหมือนโดนปล้น ลิทหันหลังกลับแล้วเดินไปทางป่าทราว์นเมื่อได้ยินเด็กน้อยบอกว่าจะไปล่าสัตว์และกลับมาในอีกไม่นานเซเลียอดไม่ได้ที่จะหัวเราะดังๆไม่ต้องพูดถึงเด็กน้อยไม่มีธนูกับดักหรืออุปกรณ์ช่วย เหลือสักอย่างเด็กรับขนาดนี้จะล่าสัตว์ได้ยังไง? ลิทเดินเข้าไปในป่าอย่างเงียบๆดวงตาเด็กน้อยเปล่งแสงสีเหลืองเหมือนแสงของอรุณ หนึ่งในผลลัพธ์จากการฝึกเวทมนตร์เมื่อปีที่แล้วด้วยการผสานเวทมนตร์ธาตุแสงเข้ากับดวงตาทให้ลิทสามารถมองเห็นพลังชีวิตของสิ่งมีชีวิตได้เขามองเห็นสิ่งมีชีวิตเป็นแสงสีขาวในขณะที่โลกกลายเป็นสีเทายิ่งพลังชีวิตมากแสงสีขาวก็ยิ่งสว่างมากขึ้นด้วยวิธีนี้เขาสามารถมองเห็นสัตว์ในป่าอย่างง่ายดายไม่ว่าพวกมันจะซ่อนตัวอยู่ใต้ดินหรือพุ่มไม้ก็ตาม เด็กน้อยไม่จําเป็นต้องล่าสัตว์ใหญ่ ตราบใดที่มันมีเนื้อและหนัง ก็เพียงพอที่จะใช้เรียนทักษะจากเซเลีย สัตว์ป่าส่วนใหญ่จะวิ่งหนีทันทีเมื่อเด็กน้อยเข้ามาใกล้ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดนกและกระรอกยังเกาะอยู่ตามต้นไม้สูงเพ ราะคิดว่าปลอดภัยแต่จิตเวทของเขาได้แตะระยะ 20 เมตรแล้วสัตว์ป่าที่อยู่ ในรัศมีของจิตเวทก็เหมือนอยู่ในกํามือของเขา เพียงแค่ยื่นมือออกไปที่เป้าหมายบีบและหมุนใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที่ศพนกที่มีขนแปลกประหลาด 2 ตัวและศพกระรอกอีก 2 ตัวก็มานอนกองรวมกันอยู่ที่พื้น “ข้าสามารถจับได้มากกว่านี้แต่หญิงโลภนั่นจะได้กําไร ลิทตัดสินใจหยุดล่าเด็กน้อยนิ้วร่างสัตว์ที่ล่าได้เดินกลับไปที่บ้านเซเลีย “ความจริงแล้วการชําแหละสัตว์เล็กๆราซน่าจะสอนบ้าได้ ที่ฟาร์มมีโรงเลี้ยงไก่และครอบครัวเรามีเนื้อไก่กิน แสดง ว่าต้องรู้วิธีจัดการกับไก่ด้วยแต่ต่อให้ราซยอมสอนข้า ข้าคงทําได้แค่ฝึกและไม่ได้กินมันอยู่ดี ลิทเดินมาหยุดที่หน้าประตูบ้านของเซเลียแล้วเคาะประตูเรียกเธอ เมื่อเซเลียรู้ว่าเป็นเด็กน้อยที่ไม่ยอมแพ้กลับมาเธอคิดจะเยาะเย้ยเขาว่าไม่มีความอดทนพร้อมกับสั่งสอนว่าการล่าสัตว์ไม่ใช่การเล่นสนุกของเด็ก แต่เมื่อเธอเปิดประตูออกไปคําพูดที่คิดไว้ก็ต้องค้างอยู่ในลําคอ

นิยาย Supreme Magus ตอนที่ 13 แลกเปลี่ยน(2)

ตอนที่ 13 แลกเปลี่ยน(2)

นาน่ามีจรรยาบรรณในการทํางานของ ตัวเอง แม้หญิงชราจะถูกใจลทมากแต่ในการลักษาทิสต้าทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบเท่าเทียมกับคนไข้คนอื่น

ลิทเป็นคนที่พยายามและไม่ยอมแพ้สมัยอยู่มหาวิทยาลัยเขาใช้เวลาว่างทุกวินาทีทบทวนวิชาที่ตัวเองไม่ถนัด

“ไม่ต้องใช้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งจะดีกว่าถ้าข้าจะปล่อยเวทมนตร์ธาตุแสงและธาตุมืดไปก่อนทั้งสองธาตุอยู่นอกเหนือหลักการทางวิทยาศาสตร์ มันยากจะเรียนได้ด้วยตัวเองนอกจากนี้ข้ายังต้องรออีกหลายปีถึงจะมีโอกาสอ่านหนังสือพวกนั้น

เมื่อถึงคิวของทิสต้าลิทสะบัดความ คิดอื่นทิ้งไป แล้วตั้งใจดูการใช้เวทมนตร์ของนาน่า

“Vinire Rad Tu!” เป็นเวทมนตร์บท เดิมที่นาน่าเคยใช้ตรวจหาความผิดปกติของลิทเมื่อ 3 ปีก่อน

ลิทชื่นชมการควบคุมมานาของหญิงช รา แสงสีขาวห้อมล้อมร่างกายของ ทิสต้า มันค่อยๆเคลื่อนที่มารวมกันที่ หน้าอกของสาวน้อยแล้วเปลี่ยนเป็นสีเทาอย่างรวดเร็ว

“ข้ามีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย ข่าวดีคือ การป่วยของทิสต้ายังคงที่ ไม่ได้แย่ลงจากเดิมข่าวร้ายคือข้ายังหาวิธีรักษาเธอ ไม่ได้ ข้ากลัวว่าเธออาจจะต้องป่วยแบบนี้ตลอดชีวิต ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเธอเติบ โตขึ้นโอกาสรักษาจะยิ่งลดน้อยลง”

บรรยากาศในห้องเปลี่ยนมืดมน การมี ชีวิตแบบนี้ไปตลอดก็ไม่ต่างอะไรกับการไม่มีชีวิต

ลิทตกใจที่ได้ยิน ทุกอย่างไม่มีความ หมายถ้าเขาไม่สามารถช่วยเหลือคนที่เขารักได้มันจะต่างอะไรจากชีวิตก่อน
พวกเขาออกจากบ้านนาน่าด้วยความหดหูระหว่างเดินทางกลับไม่มีใครพูดอะไร

เมื่อกลับมาถึง เอเลน่าบอกข่าวร้ายกับ ราซและลูกทุกคน หลายคนร้องไห้และเดินเข้ามากอดทิสต้าทุกคนร่วมแบ่งปัน ความทุกข์กัน

ลิทได้แต่สาปแช่งชะตากรรมที่โหดร้ายของทิสต้า

การมีเวทมนตร์จะดียังไงถ้าข้าช่วยใครไม่ได้ครอบครัวของข้าล้วนเจอแต่ ความชั่วร้าย ทําไมข้าต้องกลับมาเกิดที่โลกใบใหม่ เพื่อจะมีชีวิตที่เลวร้ายไม่ ต่างจากเดิม

เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่ต้องทําคือ ยอมรับความจริง ทิสต้าป่วยหนักตั้งแต่เกิดมันไม่ใช่ความผิดของลิท

เมื่อได้รับการยอมรับจากนาน่าเด็กน้อยก็สามารถฝึกฝนเวทมนตร์ได้อย่างเปิดเผยเขาก็ได้พิสูจน์ความสามารถด้วยการทําความสะอาดบ้านทั้งหลังด้วยตัวเองช่วยลดภาระของเอเลน่าและเอเล ซ่า

ด้วยเวทมนตร์ธาตุมืด การทําความสะ อาดจานและหม้อใช้เวลาไม่กี่นาทีไม่มีสิ่งใดที่ตกค้าง คราบไขมันสลายกลาย เป็นฝุ่น

ใช้เวลาไปกับการทดลองเวทมนตร์ธา ตุแสงเพื่อค้นหาวิธีรักษาทิสต้าและสามารถช่วยลดอาการป่วยของเธอได้ ตอน นี้เธอไม่จําเป็นต้องไปหานาน่าบ่อยเหมือนเมื่อก่อน

ความสามารถมากมายที่ลิทแสดงออก ทําให้ออป้าเกลียดเขามากขึ้นเรื่อยๆ

“อวดดี! เจ้านั่นก็แค่ฉลาดนิดหน่อ ยกับใช้เวทมนตร์ได้เล็กน้อย ทําไมทุก คนถึงเองแต่ยกยอเขา? ทําไมไม่เห็นใจ ข้าที่ต้องทํางานหนักอยู่ในฟาร์มบ้าง?ทําไมเขาถึงเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ มากมาย? แต่ขากลับไม่มีอะไรเลย

พลังมานาและความเข้าใจในเวทมน ตร์ของลิทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ความสัมพันธ์ของเขากับออป้าก็ลดลงเรื่อยๆเช่นกัน และคงไม่มีวันจะดีขึ้น

ผ่านไปไม่นาน เมื่อลิทค้นพบหนืดเข้า ใจอะไรใหม่ๆเกี่ยวกับเวทมนตร์เขาไม่ได้ตื่นเต้นอีกต่อไป มันกลายเป็นความ
เคยชิน

ในที่สุดลิทก็อายุ 4 ขวบ ในหมู่บ้านลู เทีย เด็กที่มีอายุเกิน 4 ขวบถือว่าโตขึ้นอีกขั้นพ่อแม่ไม่จําเป็นต้องดูและทุก เรื่อง พวกเขาจะมีอิสระมากขึ้น

เป็นเวลาเหมาะสมในการพาพวกเขา ไปรู้จักเพื่อนบ้าน ทําความรู้จักกับเด็กในหมู่บ้านที่วัยใกล้เคียงกันพวกเขาจะมี มิตรภาพต่อกันและกลายเป็นเพื่อนกันเมื่อโตขึ้น

เอเลซ่าพาลิทไปทําความรู้จักกับเพื่อ นบ้านทุกคนที่อยู่รอบๆฟาร์ม

เด็กในวัยนี้ควรเริ่มมีสังคมและเล่นกับ เพื่อน แต่ลิทไม่สนใจและทําตามแผน การฝึกของเขาต่อไป เขาต้องพยายาม ให้มากกว่าความล้มเหลว

ฟาร์มของราซตั้งอยู่ที่ทิศตะวันตกของ หมู่บ้านลูเทีย อยู่บริเวณปลายเขตของหมู่บ้านห่างจากฟาร์มไป 1 กิโลเมตร เป็นป่าใหญ่ที่ชื่อว่าป่าทราว์น

ป่าทราว์นไม่ได้มีชื่อเสียงอันตรายผู้คนที่อาศัยในหมู่บ้านต่างก็พึ่งพิงป่านี้ในป่ามีทรัพยากรมากมายที่ช่วยในดํารงชีวิต

ป่าทราว์นมีสัตว์ป่าอยู่นับไม่ถ้วนผู้กล้าหาญจะออกล่าเพื่อเนื้อและขนสัตว์มันเป็นสิ่งที่มีค่ามากโดยเฉพาะฤดูหนาว

ไม่มีใครรู้ว่าลึกข้างในมีสัตว์น่ากลัวหรืออันตรายอะไรอยู่ ไม่มีใครกล้าทําและมันไม่จําเป็นดังนั้นพื้นที่ใจกลางของป่า ทราว์นจึงไม่มีข้อมูลอะไรอยู่บนแผนที่

การฝึกเวทมนตร์ต้องใช้พลังงานจํานวนมากและต่อเนื่อง ครอบครัวของลิทไม่มีอาหารเพียงพอกับความต้องการของเขา

ตอนนี้เด็กน้อยคือคนที่ทํางานหนักมากที่สุดในบ้านดังนั้นเขาต้องการอาเอาหาร

ปัญหาคือลิทไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการล่าสัตว์เลย นั่นเป็นเหตุผลให้เขามุ่งหน้าไปที่บ้านหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้ฟาร์ม เจ้าของบ้านคือเซเลียฟาสแทร์โรเธอเป็นนักล่าเพียงคนเดียวที่เป็นเพื่อนบ้านของเด็กน้อย

“ข้าไม่รู้ว่าจะขอความเชื่อเหลือยังไง เธออาจมองว่าข้าเด็กเกินไปที่จะเรียนรู้การล่าสัตว์ข้าได้แต่หวังว่าเธอจะเป็นผู้ หญิงใจดีและเมตตา

บ้านของเซเลียเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว มี ขนาดเล็กกว่าบ้านของลิท มีพื้นที่ประมาณ 60 ตารางเมตรพื้นที่หน้าบ้านเป็นทุ่งนาที่ถูกปล่อยร้างไว้ รอบๆไม่มีสิ่งก่อสร้างอย่างอื่นนอนจากบ้านตัวเอง

“ไม่มีการปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ที่นี่เลย หมายความว่าเธอต้องล่าสัตว์เป็นอาชีพหลักและมีประสบการณ์มาก ถือว่า เป็นเรื่องดีสําหรับข้า

ลืมเคาะประตูบ้านเซเลียด้วยความกัง วลเล็กน้อย ประตูเปิดเกือบทันที

“เจ้าอีกแล้ว? เจ้าหลงทางหรือไง?” เซ เลียเป็นผู้หญิงวัยสามสิบต้นๆ สูง 1.7 เมตรผิวดําคล้ําผมสีดําถูกตัดสั้นจนเห มือนทรงผมผู้ชาย

เธอเป็นผู้หญิงหน้าตาดี หน้าอกที่แบน ราบและดวงตาที่แหลมคม รวมกับนิสัยตรงไปตรงมา ทําให้เธอดูเหมือนผู้ชายคน นึ่ง

เธอสวมเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีเขียว กางเกงขายาวลายพราง และรองเท้าบู๊ตสีน้ําตาล

“สวัสดีท่านเซเพลียท่าพอจะว่างหรือ ไม่ ท่านช่วยสอนข้าชําแหละซากสัตว์ให้ข้าได้มั้ย?”

เซเลียรู้สึกประหลาดใจ “ทําไม?”

“เพราะข้าหิว” ลีทไม่รู้ว่าจะอธิบายยัง ไง เขาพยายามเลือกคําตอบที่คอดว่าดีที่สุด “ข้าหิวมากและข้าไม่มีอาหาร ข้าคิ ดว่าข้าสามารถล่าสัตว์ได้แต่ข้าไม่รู้วิธีจัดการกับซากสัตว์”

“ไม่ ข้าหมายถึงว่าทําไมข้าต้องช่วยเจ้าข้าจะได้อะไร?” เซเลียหัวเราะเบาๆ

“งั้นท่านต้องการอะไร?” เด็กน้อยถามกลับดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เรียนง่ายๆ

“ข้าพูดตรงๆ ข้าไม่เชื่อว่าคนแคระที่สูงยังไม่ถึงเข็มขัดของข้าจะสามารถล่าสัตว์ ได้ ในเมื่อเจ้าต้องการให้ข้าสอนมันย่อมมีค่าตอบแทน”

เซเลียยืนเกาคางอยู่เงียบๆเธอไม่เคยมีผู้ช่วยและคิดว่ามันไม่จําเป็นปกติแล้วเธอจะทําทุกอย่างด้วยตัวเอง

“ข้ากลัวว่าเจ้าจะทําสินค้าข้าเสียหายเอาอย่างงี้ ในเมื่อเจ้าบอกว่าเจ้าสามารถ ล่าสัตว์ได้ งั้นล่าสัตว์แล้วเอาศพมันมาที่นี้ข้าจะสอนเจ้าถึงวิธีการชําแหละร่างสัตว์แต่ครึ่งหนึ่งจะเป็นค่าตอบแทนของ ข้า”

“ผู้หญิงใจดีและเมตตา?ครึ่งหนึ่งนี่มันขโมยชัดๆ!”เด็กน้อยคํารามในความคิดแต่เขาไม่มีทางเลือก

“ข้าจะกลับไปล่าสัตว์ท่านอยู่ที่บ้านเวลาไหนบ้าง?

“ข้าอยู่ที่นี่ตลอดทั้งวัน มีอะไร?” เซเลียตอบ

“อีกไม่นานข้าจะกลับมา อย่าลืมข้อตกลงของเรา” ลิทพูดจบแล้วปิดประตูโดยไม่รอคําตอบเขาหงุดหงิดกับข้อแลกเป ลี่ยนที่เหมือนโดนปล้น

ลิทหันหลังกลับแล้วเดินไปทางป่าทราว์นเมื่อได้ยินเด็กน้อยบอกว่าจะไปล่าสัตว์และกลับมาในอีกไม่นานเซเลียอดไม่ได้ที่จะหัวเราะดังๆไม่ต้องพูดถึงเด็กน้อยไม่มีธนูกับดักหรืออุปกรณ์ช่วย เหลือสักอย่างเด็กรับขนาดนี้จะล่าสัตว์ได้ยังไง?

ลิทเดินเข้าไปในป่าอย่างเงียบๆดวงตาเด็กน้อยเปล่งแสงสีเหลืองเหมือนแสงของอรุณ

หนึ่งในผลลัพธ์จากการฝึกเวทมนตร์เมื่อปีที่แล้วด้วยการผสานเวทมนตร์ธาตุแสงเข้ากับดวงตาทให้ลิทสามารถมองเห็นพลังชีวิตของสิ่งมีชีวิตได้เขามองเห็นสิ่งมีชีวิตเป็นแสงสีขาวในขณะที่โลกกลายเป็นสีเทายิ่งพลังชีวิตมากแสงสีขาวก็ยิ่งสว่างมากขึ้นด้วยวิธีนี้เขาสามารถมองเห็นสัตว์ในป่าอย่างง่ายดายไม่ว่าพวกมันจะซ่อนตัวอยู่ใต้ดินหรือพุ่มไม้ก็ตาม

เด็กน้อยไม่จําเป็นต้องล่าสัตว์ใหญ่ ตราบใดที่มันมีเนื้อและหนัง ก็เพียงพอที่จะใช้เรียนทักษะจากเซเลีย

สัตว์ป่าส่วนใหญ่จะวิ่งหนีทันทีเมื่อเด็กน้อยเข้ามาใกล้ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดนกและกระรอกยังเกาะอยู่ตามต้นไม้สูงเพ ราะคิดว่าปลอดภัยแต่จิตเวทของเขาได้แตะระยะ 20 เมตรแล้วสัตว์ป่าที่อยู่ ในรัศมีของจิตเวทก็เหมือนอยู่ในกํามือของเขา

เพียงแค่ยื่นมือออกไปที่เป้าหมายบีบและหมุนใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที่ศพนกที่มีขนแปลกประหลาด 2 ตัวและศพกระรอกอีก 2 ตัวก็มานอนกองรวมกันอยู่ที่พื้น

“ข้าสามารถจับได้มากกว่านี้แต่หญิงโลภนั่นจะได้กําไร

ลิทตัดสินใจหยุดล่าเด็กน้อยนิ้วร่างสัตว์ที่ล่าได้เดินกลับไปที่บ้านเซเลีย

“ความจริงแล้วการชําแหละสัตว์เล็กๆราซน่าจะสอนบ้าได้ ที่ฟาร์มมีโรงเลี้ยงไก่และครอบครัวเรามีเนื้อไก่กิน แสดง ว่าต้องรู้วิธีจัดการกับไก่ด้วยแต่ต่อให้ราซยอมสอนข้า ข้าคงทําได้แค่ฝึกและไม่ได้กินมันอยู่ดี

ลิทเดินมาหยุดที่หน้าประตูบ้านของเซเลียแล้วเคาะประตูเรียกเธอ

เมื่อเซเลียรู้ว่าเป็นเด็กน้อยที่ไม่ยอมแพ้กลับมาเธอคิดจะเยาะเย้ยเขาว่าไม่มีความอดทนพร้อมกับสั่งสอนว่าการล่าสัตว์ไม่ใช่การเล่นสนุกของเด็ก

แต่เมื่อเธอเปิดประตูออกไปคําพูดที่คิดไว้ก็ต้องค้างอยู่ในลําคอ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Supreme Magus 13 แลกเปลี่ยน(2)

Now you are reading Supreme Magus Chapter 13 แลกเปลี่ยน(2) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย Supreme Magus ตอนที่ 13 แลกเปลี่ยน(2) ตอนที่ 13 แลกเปลี่ยน(2) นาน่ามีจรรยาบรรณในการทํางานของ ตัวเอง แม้หญิงชราจะถูกใจลทมากแต่ในการลักษาทิสต้าทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบเท่าเทียมกับคนไข้คนอื่น ลิทเป็นคนที่พยายามและไม่ยอมแพ้สมัยอยู่มหาวิทยาลัยเขาใช้เวลาว่างทุกวินาทีทบทวนวิชาที่ตัวเองไม่ถนัด “ไม่ต้องใช้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งจะดีกว่าถ้าข้าจะปล่อยเวทมนตร์ธาตุแสงและธาตุมืดไปก่อนทั้งสองธาตุอยู่นอกเหนือหลักการทางวิทยาศาสตร์ มันยากจะเรียนได้ด้วยตัวเองนอกจากนี้ข้ายังต้องรออีกหลายปีถึงจะมีโอกาสอ่านหนังสือพวกนั้น เมื่อถึงคิวของทิสต้าลิทสะบัดความ คิดอื่นทิ้งไป แล้วตั้งใจดูการใช้เวทมนตร์ของนาน่า “Vinire Rad Tu!” เป็นเวทมนตร์บท เดิมที่นาน่าเคยใช้ตรวจหาความผิดปกติของลิทเมื่อ 3 ปีก่อน ลิทชื่นชมการควบคุมมานาของหญิงช รา แสงสีขาวห้อมล้อมร่างกายของ ทิสต้า มันค่อยๆเคลื่อนที่มารวมกันที่ หน้าอกของสาวน้อยแล้วเปลี่ยนเป็นสีเทาอย่างรวดเร็ว “ข้ามีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย ข่าวดีคือ การป่วยของทิสต้ายังคงที่ ไม่ได้แย่ลงจากเดิมข่าวร้ายคือข้ายังหาวิธีรักษาเธอ ไม่ได้ ข้ากลัวว่าเธออาจจะต้องป่วยแบบนี้ตลอดชีวิต ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเธอเติบ โตขึ้นโอกาสรักษาจะยิ่งลดน้อยลง” บรรยากาศในห้องเปลี่ยนมืดมน การมี ชีวิตแบบนี้ไปตลอดก็ไม่ต่างอะไรกับการไม่มีชีวิต ลิทตกใจที่ได้ยิน ทุกอย่างไม่มีความ หมายถ้าเขาไม่สามารถช่วยเหลือคนที่เขารักได้มันจะต่างอะไรจากชีวิตก่อน
พวกเขาออกจากบ้านนาน่าด้วยความหดหูระหว่างเดินทางกลับไม่มีใครพูดอะไร เมื่อกลับมาถึง เอเลน่าบอกข่าวร้ายกับ ราซและลูกทุกคน หลายคนร้องไห้และเดินเข้ามากอดทิสต้าทุกคนร่วมแบ่งปัน ความทุกข์กัน ลิทได้แต่สาปแช่งชะตากรรมที่โหดร้ายของทิสต้า การมีเวทมนตร์จะดียังไงถ้าข้าช่วยใครไม่ได้ครอบครัวของข้าล้วนเจอแต่ ความชั่วร้าย ทําไมข้าต้องกลับมาเกิดที่โลกใบใหม่ เพื่อจะมีชีวิตที่เลวร้ายไม่ ต่างจากเดิม เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่ต้องทําคือ ยอมรับความจริง ทิสต้าป่วยหนักตั้งแต่เกิดมันไม่ใช่ความผิดของลิท เมื่อได้รับการยอมรับจากนาน่าเด็กน้อยก็สามารถฝึกฝนเวทมนตร์ได้อย่างเปิดเผยเขาก็ได้พิสูจน์ความสามารถด้วยการทําความสะอาดบ้านทั้งหลังด้วยตัวเองช่วยลดภาระของเอเลน่าและเอเล ซ่า ด้วยเวทมนตร์ธาตุมืด การทําความสะ อาดจานและหม้อใช้เวลาไม่กี่นาทีไม่มีสิ่งใดที่ตกค้าง คราบไขมันสลายกลาย เป็นฝุ่น ใช้เวลาไปกับการทดลองเวทมนตร์ธา ตุแสงเพื่อค้นหาวิธีรักษาทิสต้าและสามารถช่วยลดอาการป่วยของเธอได้ ตอน นี้เธอไม่จําเป็นต้องไปหานาน่าบ่อยเหมือนเมื่อก่อน ความสามารถมากมายที่ลิทแสดงออก ทําให้ออป้าเกลียดเขามากขึ้นเรื่อยๆ “อวดดี! เจ้านั่นก็แค่ฉลาดนิดหน่อ ยกับใช้เวทมนตร์ได้เล็กน้อย ทําไมทุก คนถึงเองแต่ยกยอเขา? ทําไมไม่เห็นใจ ข้าที่ต้องทํางานหนักอยู่ในฟาร์มบ้าง?ทําไมเขาถึงเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ มากมาย? แต่ขากลับไม่มีอะไรเลย พลังมานาและความเข้าใจในเวทมน ตร์ของลิทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ความสัมพันธ์ของเขากับออป้าก็ลดลงเรื่อยๆเช่นกัน และคงไม่มีวันจะดีขึ้น ผ่านไปไม่นาน เมื่อลิทค้นพบหนืดเข้า ใจอะไรใหม่ๆเกี่ยวกับเวทมนตร์เขาไม่ได้ตื่นเต้นอีกต่อไป มันกลายเป็นความ
เคยชิน ในที่สุดลิทก็อายุ 4 ขวบ ในหมู่บ้านลู เทีย เด็กที่มีอายุเกิน 4 ขวบถือว่าโตขึ้นอีกขั้นพ่อแม่ไม่จําเป็นต้องดูและทุก เรื่อง พวกเขาจะมีอิสระมากขึ้น เป็นเวลาเหมาะสมในการพาพวกเขา ไปรู้จักเพื่อนบ้าน ทําความรู้จักกับเด็กในหมู่บ้านที่วัยใกล้เคียงกันพวกเขาจะมี มิตรภาพต่อกันและกลายเป็นเพื่อนกันเมื่อโตขึ้น เอเลซ่าพาลิทไปทําความรู้จักกับเพื่อ นบ้านทุกคนที่อยู่รอบๆฟาร์ม เด็กในวัยนี้ควรเริ่มมีสังคมและเล่นกับ เพื่อน แต่ลิทไม่สนใจและทําตามแผน การฝึกของเขาต่อไป เขาต้องพยายาม ให้มากกว่าความล้มเหลว ฟาร์มของราซตั้งอยู่ที่ทิศตะวันตกของ หมู่บ้านลูเทีย อยู่บริเวณปลายเขตของหมู่บ้านห่างจากฟาร์มไป 1 กิโลเมตร เป็นป่าใหญ่ที่ชื่อว่าป่าทราว์น ป่าทราว์นไม่ได้มีชื่อเสียงอันตรายผู้คนที่อาศัยในหมู่บ้านต่างก็พึ่งพิงป่านี้ในป่ามีทรัพยากรมากมายที่ช่วยในดํารงชีวิต ป่าทราว์นมีสัตว์ป่าอยู่นับไม่ถ้วนผู้กล้าหาญจะออกล่าเพื่อเนื้อและขนสัตว์มันเป็นสิ่งที่มีค่ามากโดยเฉพาะฤดูหนาว ไม่มีใครรู้ว่าลึกข้างในมีสัตว์น่ากลัวหรืออันตรายอะไรอยู่ ไม่มีใครกล้าทําและมันไม่จําเป็นดังนั้นพื้นที่ใจกลางของป่า ทราว์นจึงไม่มีข้อมูลอะไรอยู่บนแผนที่ การฝึกเวทมนตร์ต้องใช้พลังงานจํานวนมากและต่อเนื่อง ครอบครัวของลิทไม่มีอาหารเพียงพอกับความต้องการของเขา ตอนนี้เด็กน้อยคือคนที่ทํางานหนักมากที่สุดในบ้านดังนั้นเขาต้องการอาเอาหาร ปัญหาคือลิทไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการล่าสัตว์เลย นั่นเป็นเหตุผลให้เขามุ่งหน้าไปที่บ้านหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้ฟาร์ม เจ้าของบ้านคือเซเลียฟาสแทร์โรเธอเป็นนักล่าเพียงคนเดียวที่เป็นเพื่อนบ้านของเด็กน้อย “ข้าไม่รู้ว่าจะขอความเชื่อเหลือยังไง เธออาจมองว่าข้าเด็กเกินไปที่จะเรียนรู้การล่าสัตว์ข้าได้แต่หวังว่าเธอจะเป็นผู้ หญิงใจดีและเมตตา บ้านของเซเลียเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว มี ขนาดเล็กกว่าบ้านของลิท มีพื้นที่ประมาณ 60 ตารางเมตรพื้นที่หน้าบ้านเป็นทุ่งนาที่ถูกปล่อยร้างไว้ รอบๆไม่มีสิ่งก่อสร้างอย่างอื่นนอนจากบ้านตัวเอง “ไม่มีการปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ที่นี่เลย หมายความว่าเธอต้องล่าสัตว์เป็นอาชีพหลักและมีประสบการณ์มาก ถือว่า เป็นเรื่องดีสําหรับข้า ลืมเคาะประตูบ้านเซเลียด้วยความกัง วลเล็กน้อย ประตูเปิดเกือบทันที “เจ้าอีกแล้ว? เจ้าหลงทางหรือไง?” เซ เลียเป็นผู้หญิงวัยสามสิบต้นๆ สูง 1.7 เมตรผิวดําคล้ําผมสีดําถูกตัดสั้นจนเห มือนทรงผมผู้ชาย เธอเป็นผู้หญิงหน้าตาดี หน้าอกที่แบน ราบและดวงตาที่แหลมคม รวมกับนิสัยตรงไปตรงมา ทําให้เธอดูเหมือนผู้ชายคน นึ่ง เธอสวมเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีเขียว กางเกงขายาวลายพราง และรองเท้าบู๊ตสีน้ําตาล “สวัสดีท่านเซเพลียท่าพอจะว่างหรือ ไม่ ท่านช่วยสอนข้าชําแหละซากสัตว์ให้ข้าได้มั้ย?” เซเลียรู้สึกประหลาดใจ “ทําไม?” “เพราะข้าหิว” ลีทไม่รู้ว่าจะอธิบายยัง ไง เขาพยายามเลือกคําตอบที่คอดว่าดีที่สุด “ข้าหิวมากและข้าไม่มีอาหาร ข้าคิ ดว่าข้าสามารถล่าสัตว์ได้แต่ข้าไม่รู้วิธีจัดการกับซากสัตว์” “ไม่ ข้าหมายถึงว่าทําไมข้าต้องช่วยเจ้าข้าจะได้อะไร?” เซเลียหัวเราะเบาๆ “งั้นท่านต้องการอะไร?” เด็กน้อยถามกลับดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เรียนง่ายๆ “ข้าพูดตรงๆ ข้าไม่เชื่อว่าคนแคระที่สูงยังไม่ถึงเข็มขัดของข้าจะสามารถล่าสัตว์ ได้ ในเมื่อเจ้าต้องการให้ข้าสอนมันย่อมมีค่าตอบแทน” เซเลียยืนเกาคางอยู่เงียบๆเธอไม่เคยมีผู้ช่วยและคิดว่ามันไม่จําเป็นปกติแล้วเธอจะทําทุกอย่างด้วยตัวเอง “ข้ากลัวว่าเจ้าจะทําสินค้าข้าเสียหายเอาอย่างงี้ ในเมื่อเจ้าบอกว่าเจ้าสามารถ ล่าสัตว์ได้ งั้นล่าสัตว์แล้วเอาศพมันมาที่นี้ข้าจะสอนเจ้าถึงวิธีการชําแหละร่างสัตว์แต่ครึ่งหนึ่งจะเป็นค่าตอบแทนของ ข้า” “ผู้หญิงใจดีและเมตตา?ครึ่งหนึ่งนี่มันขโมยชัดๆ!”เด็กน้อยคํารามในความคิดแต่เขาไม่มีทางเลือก “ข้าจะกลับไปล่าสัตว์ท่านอยู่ที่บ้านเวลาไหนบ้าง? “ข้าอยู่ที่นี่ตลอดทั้งวัน มีอะไร?” เซเลียตอบ “อีกไม่นานข้าจะกลับมา อย่าลืมข้อตกลงของเรา” ลิทพูดจบแล้วปิดประตูโดยไม่รอคําตอบเขาหงุดหงิดกับข้อแลกเป ลี่ยนที่เหมือนโดนปล้น ลิทหันหลังกลับแล้วเดินไปทางป่าทราว์นเมื่อได้ยินเด็กน้อยบอกว่าจะไปล่าสัตว์และกลับมาในอีกไม่นานเซเลียอดไม่ได้ที่จะหัวเราะดังๆไม่ต้องพูดถึงเด็กน้อยไม่มีธนูกับดักหรืออุปกรณ์ช่วย เหลือสักอย่างเด็กรับขนาดนี้จะล่าสัตว์ได้ยังไง? ลิทเดินเข้าไปในป่าอย่างเงียบๆดวงตาเด็กน้อยเปล่งแสงสีเหลืองเหมือนแสงของอรุณ หนึ่งในผลลัพธ์จากการฝึกเวทมนตร์เมื่อปีที่แล้วด้วยการผสานเวทมนตร์ธาตุแสงเข้ากับดวงตาทให้ลิทสามารถมองเห็นพลังชีวิตของสิ่งมีชีวิตได้เขามองเห็นสิ่งมีชีวิตเป็นแสงสีขาวในขณะที่โลกกลายเป็นสีเทายิ่งพลังชีวิตมากแสงสีขาวก็ยิ่งสว่างมากขึ้นด้วยวิธีนี้เขาสามารถมองเห็นสัตว์ในป่าอย่างง่ายดายไม่ว่าพวกมันจะซ่อนตัวอยู่ใต้ดินหรือพุ่มไม้ก็ตาม เด็กน้อยไม่จําเป็นต้องล่าสัตว์ใหญ่ ตราบใดที่มันมีเนื้อและหนัง ก็เพียงพอที่จะใช้เรียนทักษะจากเซเลีย สัตว์ป่าส่วนใหญ่จะวิ่งหนีทันทีเมื่อเด็กน้อยเข้ามาใกล้ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดนกและกระรอกยังเกาะอยู่ตามต้นไม้สูงเพ ราะคิดว่าปลอดภัยแต่จิตเวทของเขาได้แตะระยะ 20 เมตรแล้วสัตว์ป่าที่อยู่ ในรัศมีของจิตเวทก็เหมือนอยู่ในกํามือของเขา เพียงแค่ยื่นมือออกไปที่เป้าหมายบีบและหมุนใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที่ศพนกที่มีขนแปลกประหลาด 2 ตัวและศพกระรอกอีก 2 ตัวก็มานอนกองรวมกันอยู่ที่พื้น “ข้าสามารถจับได้มากกว่านี้แต่หญิงโลภนั่นจะได้กําไร ลิทตัดสินใจหยุดล่าเด็กน้อยนิ้วร่างสัตว์ที่ล่าได้เดินกลับไปที่บ้านเซเลีย “ความจริงแล้วการชําแหละสัตว์เล็กๆราซน่าจะสอนบ้าได้ ที่ฟาร์มมีโรงเลี้ยงไก่และครอบครัวเรามีเนื้อไก่กิน แสดง ว่าต้องรู้วิธีจัดการกับไก่ด้วยแต่ต่อให้ราซยอมสอนข้า ข้าคงทําได้แค่ฝึกและไม่ได้กินมันอยู่ดี ลิทเดินมาหยุดที่หน้าประตูบ้านของเซเลียแล้วเคาะประตูเรียกเธอ เมื่อเซเลียรู้ว่าเป็นเด็กน้อยที่ไม่ยอมแพ้กลับมาเธอคิดจะเยาะเย้ยเขาว่าไม่มีความอดทนพร้อมกับสั่งสอนว่าการล่าสัตว์ไม่ใช่การเล่นสนุกของเด็ก แต่เมื่อเธอเปิดประตูออกไปคําพูดที่คิดไว้ก็ต้องค้างอยู่ในลําคอ

นิยาย Supreme Magus ตอนที่ 13 แลกเปลี่ยน(2)

ตอนที่ 13 แลกเปลี่ยน(2)

นาน่ามีจรรยาบรรณในการทํางานของ ตัวเอง แม้หญิงชราจะถูกใจลทมากแต่ในการลักษาทิสต้าทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบเท่าเทียมกับคนไข้คนอื่น

ลิทเป็นคนที่พยายามและไม่ยอมแพ้สมัยอยู่มหาวิทยาลัยเขาใช้เวลาว่างทุกวินาทีทบทวนวิชาที่ตัวเองไม่ถนัด

“ไม่ต้องใช้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งจะดีกว่าถ้าข้าจะปล่อยเวทมนตร์ธาตุแสงและธาตุมืดไปก่อนทั้งสองธาตุอยู่นอกเหนือหลักการทางวิทยาศาสตร์ มันยากจะเรียนได้ด้วยตัวเองนอกจากนี้ข้ายังต้องรออีกหลายปีถึงจะมีโอกาสอ่านหนังสือพวกนั้น

เมื่อถึงคิวของทิสต้าลิทสะบัดความ คิดอื่นทิ้งไป แล้วตั้งใจดูการใช้เวทมนตร์ของนาน่า

“Vinire Rad Tu!” เป็นเวทมนตร์บท เดิมที่นาน่าเคยใช้ตรวจหาความผิดปกติของลิทเมื่อ 3 ปีก่อน

ลิทชื่นชมการควบคุมมานาของหญิงช รา แสงสีขาวห้อมล้อมร่างกายของ ทิสต้า มันค่อยๆเคลื่อนที่มารวมกันที่ หน้าอกของสาวน้อยแล้วเปลี่ยนเป็นสีเทาอย่างรวดเร็ว

“ข้ามีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย ข่าวดีคือ การป่วยของทิสต้ายังคงที่ ไม่ได้แย่ลงจากเดิมข่าวร้ายคือข้ายังหาวิธีรักษาเธอ ไม่ได้ ข้ากลัวว่าเธออาจจะต้องป่วยแบบนี้ตลอดชีวิต ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเธอเติบ โตขึ้นโอกาสรักษาจะยิ่งลดน้อยลง”

บรรยากาศในห้องเปลี่ยนมืดมน การมี ชีวิตแบบนี้ไปตลอดก็ไม่ต่างอะไรกับการไม่มีชีวิต

ลิทตกใจที่ได้ยิน ทุกอย่างไม่มีความ หมายถ้าเขาไม่สามารถช่วยเหลือคนที่เขารักได้มันจะต่างอะไรจากชีวิตก่อน
พวกเขาออกจากบ้านนาน่าด้วยความหดหูระหว่างเดินทางกลับไม่มีใครพูดอะไร

เมื่อกลับมาถึง เอเลน่าบอกข่าวร้ายกับ ราซและลูกทุกคน หลายคนร้องไห้และเดินเข้ามากอดทิสต้าทุกคนร่วมแบ่งปัน ความทุกข์กัน

ลิทได้แต่สาปแช่งชะตากรรมที่โหดร้ายของทิสต้า

การมีเวทมนตร์จะดียังไงถ้าข้าช่วยใครไม่ได้ครอบครัวของข้าล้วนเจอแต่ ความชั่วร้าย ทําไมข้าต้องกลับมาเกิดที่โลกใบใหม่ เพื่อจะมีชีวิตที่เลวร้ายไม่ ต่างจากเดิม

เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่ต้องทําคือ ยอมรับความจริง ทิสต้าป่วยหนักตั้งแต่เกิดมันไม่ใช่ความผิดของลิท

เมื่อได้รับการยอมรับจากนาน่าเด็กน้อยก็สามารถฝึกฝนเวทมนตร์ได้อย่างเปิดเผยเขาก็ได้พิสูจน์ความสามารถด้วยการทําความสะอาดบ้านทั้งหลังด้วยตัวเองช่วยลดภาระของเอเลน่าและเอเล ซ่า

ด้วยเวทมนตร์ธาตุมืด การทําความสะ อาดจานและหม้อใช้เวลาไม่กี่นาทีไม่มีสิ่งใดที่ตกค้าง คราบไขมันสลายกลาย เป็นฝุ่น

ใช้เวลาไปกับการทดลองเวทมนตร์ธา ตุแสงเพื่อค้นหาวิธีรักษาทิสต้าและสามารถช่วยลดอาการป่วยของเธอได้ ตอน นี้เธอไม่จําเป็นต้องไปหานาน่าบ่อยเหมือนเมื่อก่อน

ความสามารถมากมายที่ลิทแสดงออก ทําให้ออป้าเกลียดเขามากขึ้นเรื่อยๆ

“อวดดี! เจ้านั่นก็แค่ฉลาดนิดหน่อ ยกับใช้เวทมนตร์ได้เล็กน้อย ทําไมทุก คนถึงเองแต่ยกยอเขา? ทําไมไม่เห็นใจ ข้าที่ต้องทํางานหนักอยู่ในฟาร์มบ้าง?ทําไมเขาถึงเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ มากมาย? แต่ขากลับไม่มีอะไรเลย

พลังมานาและความเข้าใจในเวทมน ตร์ของลิทเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ความสัมพันธ์ของเขากับออป้าก็ลดลงเรื่อยๆเช่นกัน และคงไม่มีวันจะดีขึ้น

ผ่านไปไม่นาน เมื่อลิทค้นพบหนืดเข้า ใจอะไรใหม่ๆเกี่ยวกับเวทมนตร์เขาไม่ได้ตื่นเต้นอีกต่อไป มันกลายเป็นความ
เคยชิน

ในที่สุดลิทก็อายุ 4 ขวบ ในหมู่บ้านลู เทีย เด็กที่มีอายุเกิน 4 ขวบถือว่าโตขึ้นอีกขั้นพ่อแม่ไม่จําเป็นต้องดูและทุก เรื่อง พวกเขาจะมีอิสระมากขึ้น

เป็นเวลาเหมาะสมในการพาพวกเขา ไปรู้จักเพื่อนบ้าน ทําความรู้จักกับเด็กในหมู่บ้านที่วัยใกล้เคียงกันพวกเขาจะมี มิตรภาพต่อกันและกลายเป็นเพื่อนกันเมื่อโตขึ้น

เอเลซ่าพาลิทไปทําความรู้จักกับเพื่อ นบ้านทุกคนที่อยู่รอบๆฟาร์ม

เด็กในวัยนี้ควรเริ่มมีสังคมและเล่นกับ เพื่อน แต่ลิทไม่สนใจและทําตามแผน การฝึกของเขาต่อไป เขาต้องพยายาม ให้มากกว่าความล้มเหลว

ฟาร์มของราซตั้งอยู่ที่ทิศตะวันตกของ หมู่บ้านลูเทีย อยู่บริเวณปลายเขตของหมู่บ้านห่างจากฟาร์มไป 1 กิโลเมตร เป็นป่าใหญ่ที่ชื่อว่าป่าทราว์น

ป่าทราว์นไม่ได้มีชื่อเสียงอันตรายผู้คนที่อาศัยในหมู่บ้านต่างก็พึ่งพิงป่านี้ในป่ามีทรัพยากรมากมายที่ช่วยในดํารงชีวิต

ป่าทราว์นมีสัตว์ป่าอยู่นับไม่ถ้วนผู้กล้าหาญจะออกล่าเพื่อเนื้อและขนสัตว์มันเป็นสิ่งที่มีค่ามากโดยเฉพาะฤดูหนาว

ไม่มีใครรู้ว่าลึกข้างในมีสัตว์น่ากลัวหรืออันตรายอะไรอยู่ ไม่มีใครกล้าทําและมันไม่จําเป็นดังนั้นพื้นที่ใจกลางของป่า ทราว์นจึงไม่มีข้อมูลอะไรอยู่บนแผนที่

การฝึกเวทมนตร์ต้องใช้พลังงานจํานวนมากและต่อเนื่อง ครอบครัวของลิทไม่มีอาหารเพียงพอกับความต้องการของเขา

ตอนนี้เด็กน้อยคือคนที่ทํางานหนักมากที่สุดในบ้านดังนั้นเขาต้องการอาเอาหาร

ปัญหาคือลิทไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการล่าสัตว์เลย นั่นเป็นเหตุผลให้เขามุ่งหน้าไปที่บ้านหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้ฟาร์ม เจ้าของบ้านคือเซเลียฟาสแทร์โรเธอเป็นนักล่าเพียงคนเดียวที่เป็นเพื่อนบ้านของเด็กน้อย

“ข้าไม่รู้ว่าจะขอความเชื่อเหลือยังไง เธออาจมองว่าข้าเด็กเกินไปที่จะเรียนรู้การล่าสัตว์ข้าได้แต่หวังว่าเธอจะเป็นผู้ หญิงใจดีและเมตตา

บ้านของเซเลียเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว มี ขนาดเล็กกว่าบ้านของลิท มีพื้นที่ประมาณ 60 ตารางเมตรพื้นที่หน้าบ้านเป็นทุ่งนาที่ถูกปล่อยร้างไว้ รอบๆไม่มีสิ่งก่อสร้างอย่างอื่นนอนจากบ้านตัวเอง

“ไม่มีการปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ที่นี่เลย หมายความว่าเธอต้องล่าสัตว์เป็นอาชีพหลักและมีประสบการณ์มาก ถือว่า เป็นเรื่องดีสําหรับข้า

ลืมเคาะประตูบ้านเซเลียด้วยความกัง วลเล็กน้อย ประตูเปิดเกือบทันที

“เจ้าอีกแล้ว? เจ้าหลงทางหรือไง?” เซ เลียเป็นผู้หญิงวัยสามสิบต้นๆ สูง 1.7 เมตรผิวดําคล้ําผมสีดําถูกตัดสั้นจนเห มือนทรงผมผู้ชาย

เธอเป็นผู้หญิงหน้าตาดี หน้าอกที่แบน ราบและดวงตาที่แหลมคม รวมกับนิสัยตรงไปตรงมา ทําให้เธอดูเหมือนผู้ชายคน นึ่ง

เธอสวมเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีเขียว กางเกงขายาวลายพราง และรองเท้าบู๊ตสีน้ําตาล

“สวัสดีท่านเซเพลียท่าพอจะว่างหรือ ไม่ ท่านช่วยสอนข้าชําแหละซากสัตว์ให้ข้าได้มั้ย?”

เซเลียรู้สึกประหลาดใจ “ทําไม?”

“เพราะข้าหิว” ลีทไม่รู้ว่าจะอธิบายยัง ไง เขาพยายามเลือกคําตอบที่คอดว่าดีที่สุด “ข้าหิวมากและข้าไม่มีอาหาร ข้าคิ ดว่าข้าสามารถล่าสัตว์ได้แต่ข้าไม่รู้วิธีจัดการกับซากสัตว์”

“ไม่ ข้าหมายถึงว่าทําไมข้าต้องช่วยเจ้าข้าจะได้อะไร?” เซเลียหัวเราะเบาๆ

“งั้นท่านต้องการอะไร?” เด็กน้อยถามกลับดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เรียนง่ายๆ

“ข้าพูดตรงๆ ข้าไม่เชื่อว่าคนแคระที่สูงยังไม่ถึงเข็มขัดของข้าจะสามารถล่าสัตว์ ได้ ในเมื่อเจ้าต้องการให้ข้าสอนมันย่อมมีค่าตอบแทน”

เซเลียยืนเกาคางอยู่เงียบๆเธอไม่เคยมีผู้ช่วยและคิดว่ามันไม่จําเป็นปกติแล้วเธอจะทําทุกอย่างด้วยตัวเอง

“ข้ากลัวว่าเจ้าจะทําสินค้าข้าเสียหายเอาอย่างงี้ ในเมื่อเจ้าบอกว่าเจ้าสามารถ ล่าสัตว์ได้ งั้นล่าสัตว์แล้วเอาศพมันมาที่นี้ข้าจะสอนเจ้าถึงวิธีการชําแหละร่างสัตว์แต่ครึ่งหนึ่งจะเป็นค่าตอบแทนของ ข้า”

“ผู้หญิงใจดีและเมตตา?ครึ่งหนึ่งนี่มันขโมยชัดๆ!”เด็กน้อยคํารามในความคิดแต่เขาไม่มีทางเลือก

“ข้าจะกลับไปล่าสัตว์ท่านอยู่ที่บ้านเวลาไหนบ้าง?

“ข้าอยู่ที่นี่ตลอดทั้งวัน มีอะไร?” เซเลียตอบ

“อีกไม่นานข้าจะกลับมา อย่าลืมข้อตกลงของเรา” ลิทพูดจบแล้วปิดประตูโดยไม่รอคําตอบเขาหงุดหงิดกับข้อแลกเป ลี่ยนที่เหมือนโดนปล้น

ลิทหันหลังกลับแล้วเดินไปทางป่าทราว์นเมื่อได้ยินเด็กน้อยบอกว่าจะไปล่าสัตว์และกลับมาในอีกไม่นานเซเลียอดไม่ได้ที่จะหัวเราะดังๆไม่ต้องพูดถึงเด็กน้อยไม่มีธนูกับดักหรืออุปกรณ์ช่วย เหลือสักอย่างเด็กรับขนาดนี้จะล่าสัตว์ได้ยังไง?

ลิทเดินเข้าไปในป่าอย่างเงียบๆดวงตาเด็กน้อยเปล่งแสงสีเหลืองเหมือนแสงของอรุณ

หนึ่งในผลลัพธ์จากการฝึกเวทมนตร์เมื่อปีที่แล้วด้วยการผสานเวทมนตร์ธาตุแสงเข้ากับดวงตาทให้ลิทสามารถมองเห็นพลังชีวิตของสิ่งมีชีวิตได้เขามองเห็นสิ่งมีชีวิตเป็นแสงสีขาวในขณะที่โลกกลายเป็นสีเทายิ่งพลังชีวิตมากแสงสีขาวก็ยิ่งสว่างมากขึ้นด้วยวิธีนี้เขาสามารถมองเห็นสัตว์ในป่าอย่างง่ายดายไม่ว่าพวกมันจะซ่อนตัวอยู่ใต้ดินหรือพุ่มไม้ก็ตาม

เด็กน้อยไม่จําเป็นต้องล่าสัตว์ใหญ่ ตราบใดที่มันมีเนื้อและหนัง ก็เพียงพอที่จะใช้เรียนทักษะจากเซเลีย

สัตว์ป่าส่วนใหญ่จะวิ่งหนีทันทีเมื่อเด็กน้อยเข้ามาใกล้ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดนกและกระรอกยังเกาะอยู่ตามต้นไม้สูงเพ ราะคิดว่าปลอดภัยแต่จิตเวทของเขาได้แตะระยะ 20 เมตรแล้วสัตว์ป่าที่อยู่ ในรัศมีของจิตเวทก็เหมือนอยู่ในกํามือของเขา

เพียงแค่ยื่นมือออกไปที่เป้าหมายบีบและหมุนใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที่ศพนกที่มีขนแปลกประหลาด 2 ตัวและศพกระรอกอีก 2 ตัวก็มานอนกองรวมกันอยู่ที่พื้น

“ข้าสามารถจับได้มากกว่านี้แต่หญิงโลภนั่นจะได้กําไร

ลิทตัดสินใจหยุดล่าเด็กน้อยนิ้วร่างสัตว์ที่ล่าได้เดินกลับไปที่บ้านเซเลีย

“ความจริงแล้วการชําแหละสัตว์เล็กๆราซน่าจะสอนบ้าได้ ที่ฟาร์มมีโรงเลี้ยงไก่และครอบครัวเรามีเนื้อไก่กิน แสดง ว่าต้องรู้วิธีจัดการกับไก่ด้วยแต่ต่อให้ราซยอมสอนข้า ข้าคงทําได้แค่ฝึกและไม่ได้กินมันอยู่ดี

ลิทเดินมาหยุดที่หน้าประตูบ้านของเซเลียแล้วเคาะประตูเรียกเธอ

เมื่อเซเลียรู้ว่าเป็นเด็กน้อยที่ไม่ยอมแพ้กลับมาเธอคิดจะเยาะเย้ยเขาว่าไม่มีความอดทนพร้อมกับสั่งสอนว่าการล่าสัตว์ไม่ใช่การเล่นสนุกของเด็ก

แต่เมื่อเธอเปิดประตูออกไปคําพูดที่คิดไว้ก็ต้องค้างอยู่ในลําคอ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+