The Undetectable Strongest Job: Rule Breaker 27 : เด็กล่องหนในเมืองหลวง

Now you are reading The Undetectable Strongest Job: Rule Breaker Chapter 27 : เด็กล่องหนในเมืองหลวง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 27 : เด็กล่องหนในเมืองหลวง

เมืองหลวงของอาณาจักรพอนโซเนียคือ จ. พอนโซเนียและเป็นที่รู้จักกันในนามเมืองหลวงราบ

 

การที่มีพื้นดินระดับเดียวกันเช่นนี้นั้นค่อนข้างมีประโยชน์ทั้งง่ายที่จะขยายเมือง, ขยายเส้นทางคมนาคมและขยายทุ่งการเกษตรซึ่งยุ้งฉางขนาดใหญ่ – จุดเด่นของพอนโซเนีย – แผ่กว้างออกไปจนใกล้กับเมืองหลวงและในช่วงฤดูใบไม้ร่วงไร่ทั้งหมดนั้นดูราวกับเป็นทะเลทองคํา

อาณาจักรถูกล้อมไปด้วยพันธมิตรและศัตรู ขุนนางที่อาศัยอยู่ใกล้ชายแดนจะเป็นคนรับมือกับศัตรูเหล่านี้ซึ่งพวกเขาถูกเรียกว่ามาร์คกราฟและได้รับอนุญาตจากอาณาจักรให้สามารถสร้างกองทัพอิสระขึ้นมาเองได้เลย

 

ตั้งแต่มาร์คกราฟแข็งแกร่งและป้องกันภัยคุกคามจากนอกราชอาณาจักรได้ยังฉางที่อยู่ภายในก็เจริญรุ่งเรืองขึ้น ผลิตภัณฑ์จากธัญพืชที่ถูกกว่าที่อื่นทําให้พวกเขาร่ํารวยขึ้นอย่างมาก พอนโซเนียอยู่ในยุคที่เฟื่องฟูที่สุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนและเพราะเช่นนี้จึงไม่น่าแปลกใจเลยถ้าราชอาณาจักรจะมีความทะเยอทะยานที่จะก ระจายอิทธิพลไปในต่างแดน

 

เนื่องจากพอนโซเนียเป็นประเทศที่มีพื้นที่ราบและไม่มีทางออกสู่ทะเลการถูกบุกรุกจึงเป็นเรื่องง่ายและเพื่อตอบโต้กลับไปทางกองทัพจึงได้พัฒนาสิ่งที่ไม่เหมือนใครขึ้นมาและนั่นก็คือป้อมปราการเคลื่อนที่หรือที่พอนโซเนียรู้จักกันในชื่อของกองกําลังอาวุธหนักซึ่งไม่ใช่แค่เคลื่อนที่ได้รวดเร็วแต่ยังมีการป้องกันที่สูงอย่างไม่น่าเชื่ออี กด้วย

 

“งั้นนั่นก็คือกองกําลังอาวุธหนักที่ฉันได้ยินบ่อยๆสินะถ้าถามฉัน ฉันว่าเครื่องมือมันดูเบา ๆ นะ

 

การฝึกขนาดใหญ่ถูกจัดขึ้นที่ชานเมืองหลวงซึ่งนี่ก็มีเหตุผลอยู่สองประการ ประการแรกคือแสดงให้ผู้คนที่เข้ามาในอาณาจักรรวมถึงสายลับให้เห็นว่าที่นี่มีกองทัพที่ทรงพลังอยู่ประการที่สองนั้นง่ายมากการถือเครื่องมือที่หนักอย่างนั้นเป็นเรื่องยากดังนั้นการฝึก แบบธรรมดาจึงปฏิบัติในเมืองหลวงและการฝึกฝนขนาดใหญ่แบบนี้จึงปฏิบัติในพื้นที่ใกล้เคียงแทน

“มันน่าเหลือเชื่อไปเลยนะ ฉันก็พึ่งเคยเห็นครั้งแรกเหมือนกันลาเวียพูดขึ้น

 

เธอก็ด้วยหรอ คือ แต่มันเป็นจุดขายของพอนโซเนียนใช่ไหม

 

ฮิคารุและลาเวียกําลังคุยกันอยู่ในเกวียนสวนผู้โดยสารคนอื่นๆนั้นนั่งห่างออกไปพวกเขาจึงสามารถกระซิบคุยกันได้ เขาทั้งสองมองเห็นการฝึกฝนนี้ผ่านทางหน้าต่างและมันก็เป็นฉากที่น่าทึ่งฉากหนึ่งเลย

ทหารราบใส่ชุดเกราะคลุมทั้งตัวไล่ไปจนถึงใบหน้า เกราะถูกย้อมสีเป็นสีเขียวสีม่วงและสีน้ําเงินซึ่งเป็นการแบ่งเหล่าท หารออกเป็นสามหน่วยตามสีพวกเขามีหอกยาวเป็นอาวุธโดย ปลายหอกมีลักษณะเหมือนขวาน – ง้าวฮิคารุเกิดความสงสัยว่าในบอร์ดวิญญาณนั้นจ้าวถือเป็นหอกยาวหรือเปล่า

ทหารกวัดแกว่งง้าวของพวกเขาอยู่ ทั้งพุ่งจู่โจมและกระโดดนอกจากนี้พวกเขายังปล่อยให้ตัวเองถูกโยนเพื่อฝึกฝนวิธีการล้มอย่างถูกต้องอีกด้วยแต่ก็มีบางคนที่ตีลังกากลับหลังแทน

 

Tพวกเขาใช้เวทมนตร์รึเปล่า

[แน่นอนสิ ไม่ใช่ตัวพวกเขาเองที่เก่งขนาดนั้นหรอกเป็นเพราะชุดเกราะน่ะฉันอ่านมาจากหนังสือ

“อ่อ อย่างงี้นี่เอง

 

ตอนนี้ทุกอย่างสมเหตุสมผลแล้ว ตัวชุดเกราะเองน่าจะเป็นไอเทมเวทมนตร์พวกเขาอาจจะทําให้มันเบาไม่ก็เพิ่มความสามารถทางกายภาพของคนสวม มันเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากจริง ๆเพราะแทนที่จะฝึกทหารที่ละชุดแต่ชุดเกราะที่พวกเขาใส่กลับยกระดับกองทัพโดยรวมเลยแม้ว่ามันจะไม่ทํางานถ้าไม่มีมานาก็เถอะและบางที่อุปกรณ์เสริมนี่อาจใช้งานได้ในเวลาที่จํากัดเท่านั้นก็ได้

สงครามที่ไม่มีปืน ฮ่ะ… อยากเห็นจังว่าจะเป็นแบบไหนแต่ถึงยังไงสงครามก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี

ในการต่อสู้กัน ผลไม้แห่งชัยชนะนั้นจืดชืดไปเลยถ้าเปรียบเทียบกับสิ่งที่ต้องเสียไปและสาหรับฝ่ายที่แพ้มันก็แย่ยิ่งกว่านั้นเสียอีก

Tฉันเห็นเมืองหลวงแล้ว] ลาเวียพูดขึ้น

ฮิคารุมองไปข้างหน้า ในระยะที่ไกลออกไปหน่อยเขาเห็นสิ่งที่เหมือนเป็นยอดแหลมของปราสาท สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ตั้งอยู่รอบ ๆโดยมีปราสาทตั้งอยู่ตรงกลาง

 

Tใหญ่มาก

นั่นคือความประทับใจแรกของฮิคารุ

T..ล้อเล่นน่า

แต่ในไม่ช้าเขาก็เริ่มไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองจากระยะไกลที่เขาเห็นยอดปราสาทนั้นขนาดของปราสาทยังดูไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยแต่ทว่าเกวียนที่พวกเขานั่งมานั้นกําลังวิ่งผ่านเมืองแล้วฮิคารุจําได้ว่าจิลเคยบอกไว้ว่าเมืองหลวงมีจํานวนประชากรมากกว่าพอนด์งสี่สิบไม่ก็ห้าสิบเท่าย้อนกลับไปตอนนั้นเขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเลข นี้มันใหญ่แค่ไหนแต่ตอนนี้เขาก็ค่อยๆตระหนักได้แล้ว

ที่นี่มันอะไรกันใหญ่แค่ไหนกันเนี่ย

 

“เดี๋ยวนะ ที่นี่ไม่มีการตรวจสอบอะไรเลยนิ

เสียงของเขาดังขึ้นเล็กน้อยทําให้ชายรูปร่างแข็งแรงผู้ซึ่งดูเหมือนจะเป็นพ่อค้าหัวเราะขึ้นมา

 

“ฮ่าๆๆ! ถูกแล้วไอ้หนู ที่นี่ไม่มีการตรวจสอบหรอกใหญ่ขนาดนี้มันทําไม่ได้หรอก

ดูเป็นคนดีนะฮิคารุคิดในใจพร้อมดําเนินการหาข้อมูลให้ครบถ้วน

 

Tจริงด้วยนะ งั้นก็ไปที่ไหนก็ได้ในเมืองหลวงหรอครับ

 

Tใกล้กับปราสาทมีบริเวณที่เรียกว่าเขตขุนนางอยู่ นอกจากนี้ยังมีเขตที่พักอาศัยอยู่ถึง 2 เขตพวกเขาอยู่ในกําแพงนั่นแหละมันก็มีการตรวจสอบก่อนเข้าไปอยู่นะ

 

อ๋อ แต่ก็ไม่รู้สึกปลอดภัยขนาดนั้นนะครับตรวจแค่ตรงนั้น

เอง!

 

Tไม่เป็นไรหรอก ถึงแถวนี้จะอยู่ไกลจากปราสาทแต่ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของเมืองหลวงนะ มันก็มียามลาดตระเวนอยู่รอบ ๆนั่นแหละแต่แปลกนะตอนนี้เราน่าจะได้เห็นการลาดตระเวนไม่หนึ่งก็สองครั้งแล้วนะแต่ตอนนี้ฉันยังไม่เห็นเลย

 

ลาดตระเวนหรอ พวกเขาจะสุ่มตรวจรึเปล่า ฮิคารุรู้สึกสั่นเย็กเยีอกไปถึงกระดูกสันหลัง เขามองออกไปนอกหน้าต่างสิ่งที่เขาเห็นคือเกวียนและผู้คนกําลังเดินอยู่ไม่มีการลาดตระเวน

แล้วผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างพ่อค้าซึ่งเป็นภรรยาของเขาก็พูด

Tเพราะว่ากําลังจะมีสงครามไงล่ะที่รัก

 

อ้า… |

สีหน้าของพวกเขาดูมืดมนลง อาณาจักรไม่สามารถแบ่งคนมาลาดตระเวนได้เนื่องจากกําลังเตรียมสงครามอยู่ งั้นการฝึกขนาดใหญ่นั่นก็แกล้งทําเฉยๆสินะ – เพื่อแสดงให้เห็นว่าแม้ราชอาณาจักรกําลังเตรียมทําสงครามแต่พวกเขาก็ยังมีทหารจํานวนมากอยู่

Tแล้วนี่หนูมาที่เมืองหลวงกันทําไมหรอพวกเราน่ะมีร้าน. ]

 

ทั้งคู่ดูเหมือนจะกังวลเพราะพวกฮิคารุยังเด็กอยู่ พวกเขาจึงเสนอจะช่วยเหลือแต่ฮิคารุก็ปฏิเสธไปอย่างสุภาพ

มีคนดี ๆ อยู่แถวนี้ด้วย คงเป็นเรื่องธรรมดาล่ะนะ

และเช่นนั้นฮิคารุและลาเวียจึงเข้าสู่เมืองหลวงได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ เลย

ฉันได้ของแล้ว ขอบคุณนะ]

กิลด์ผจญภัยในเมืองหลวงนั้นใหญ่กว่ากิลด์ในพอนด์ประมาณสิบเท่าพวกเขามีพนักงานต้อนรับอยู่ที่เคาน์เตอร์ถึงเจ็ดคนแต่เพราะขนาดของมันจึงทําให้รู้สึกวังเวงอยู่หน่อย บางที่สงครามอาจส่งผลกระทบต่อกิลด์ด้วยเช่นกัน

 

งานของฮิคารุคือการส่งจดหมายที่ถูกผนึกไว้ฉบับหนึ่งให้กับพ่อค้าในเมืองหลวงและเควสนี้จะสําเร็จได้ก็ต่อเมื่อเขาส่งจดหมายให้กับกิลด์ที่นี่การส่งจดหมายจากกิลด์ถึงชายคนนั้นเป็นอีกเควสหนึ่ง

ในโลกนี้มีบริการไปรษณีย์เช่นเดียวกับที่ญี่ปุ่นซึ่งเป็นที่สําหรับส่งจดหมายจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่งแต่การให้บริการนั้นจะใช้ได้เฉพาะกับเมืองใหญ่ ๆ เท่านั้น นักผจญภัยที่มีเวลาว่างจะส่งจดหมายไปยังพื้นที่ห่างไกล เช่น หมู่บ้านที่อยู่ลึกเข้าไปในภูเขาแม้อัตราความสําเร็จจะต่ําก็ตาม

 

Tโอ้ หลังทําเควสนี้เสร็จก็เหลืออีกแค่ 2 เควสคุณก็จะได้เลื่อนไปอยู่ระดับ F แล้ว]

 

นี่เป็นหนึ่งเหตุผลที่ฮิคารุทําเควสส่งของตอนนี้เขาอยู่ระดับ G เขาต้องการขึ้นไปยังระดับ E เพื่อที่จะได้เข้าไปในดันเจี้ยนที่ถูกดูแลโดยกิลด์ผจญภัยได้

เงื่อนไขในการเลื่อนเป็นระดับ F คือการทําเควสที่ต้องเคลื่อนที่จากกิลด์นักผจญภัยที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ในกรณีนี้เควสที่ง่ายที่สุดที่เราสามารถทําได้คือเควสการจัดส่งหรืองานคุ้มกันนั่นเองแต่ก็ไม่มีใครผิดปกติมากพอที่จะจ้างคนที่อยู่ระดับต่ําสุดของนักผจญภัยมา เป็นผู้คุ้มกันหรอก

คุณมีเควสง่าย ๆ ที่สมเหตุสมผลอยู่ไหมครับ

[ ตอนนี้เรามีเยอะเลย เรากําลังขาดคนอยู่นะเพราะนักผจญภัยกําลังถูกเกณฑ์ให้เข้าร่วมสงครามอยู่

นักผจญภัยถูกส่งไปทําสงคราม คือ…]

Tใช่ มันหมายความว่าพระราชาจริงจังนะ]

พนักงานต้อนรับดูหดหูและเธอก็ไม่สามารถวิจารณ์กษัตริย์ในที่สาธารณะได้

ฮิคารุตรวจสอบเควสทุกรายการบนกระดานคําขอ การส่งของในเมืองหลวง ช่วยทําความสะอาดขนาดใหญ่ ช่วยผู้สูงอายุและถือกระเป๋าเดินทาง… เหมือน ๆ กับที่พอนด์นั่นแหละและยังมี แต่เควสระดับ G ด้วย ไม่มีงานที่ต้องต่อสู้เลย;เนื่องจากกองกําลัง นั้นใช้พื้นที่รอบ ๆ เมืองหลวงเพื่อซักซ้อมพวกเขาจึงได้ฆ่ามอนสเตอร์ทุกตัวไปแล้ว แต่มันอาจยังมีบางอย่าง

Tเจออะไรไหม

น่าจะพอแล้วแหละ ไปหาที่พักกันเถอะ

พวกเขาออกจากกิลด์มาแล้ว ฮิคารุเริ่มวางแผนในหัวของเขาเกี่ยวกับสิ่งที่เขาต้องทําขณะที่อยู่ที่นี่

 

Tเรายังเหลือเวลาอีกนาน ฮิคารุพูดขึ้น

แต่นายดูสนุกนะ ไม่สิ เดี่ยว ไม่ใช่ละ ถ้าเป็นนายมันเหมือนกําลังวางแผนอีกแล้วมากกว่า

 

แปลกจัง ฟังดูไม่เหมือนคําชมเลย]

Tฉันเสียใจที่ไม่ได้ช่วยนายทํากิจกรรมตอนกลางคืนนั่นนะ]

 

เธอไม่ต้องกังวลหรอก ความสามารถตอนนี้ของฉันมันก็ยากหน่อยถ้าจะพาเธอไปด้วย

 

นายจะไม่บอกฉันว่านายกําลังทําอะไรอยู่ใช่ไหม

Tโทษทีนะ ตอนนี้มันยังเป็นความลับน่ะ

 

ฮิคารุยังไม่อยากบอกทุกอย่างให้ลาเวียรู้รวมถึงความสามารถของเขาด้วย มันไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อใจเธอแต่เขายังไม่เห็นประโยชน์ใด ๆ ในการบอกเธอตอนนี้

 

แต่ฉันคิดว่าเธอคงไม่เบื่อหรอก

Tทําไมล่ะ ฉันว่าฉันคงเบื่อสุด ๆ ไปเลยยิ่งถ้านายไม่อยู่ด้วย

Tคุณพูดอะไรครับเนี่ย ตอนนี้เราอยู่ในเมืองหลวงนะครับคุณผู้หญิง

Tแล้ว? ฉันไม่ไปข้างนอกหรอกนะ

 

Tมันมีร้านหนังสือใหญ่มากนะ]

 

ตาของลาเวียเบิกกว้างขึ้น

 

ว่าไง? มีนิยายแนวผจญภัยเยอะ – ]

 

Tไปจองห้องกันเถอะ เร็วเข้า! ฉันขอที่ ๆ มีโต๊ะใหญ่ ๆ ที่ใช้ตะเกียงเวทมนตร์ได้เยอะเท่าที่ต้องการเลยนะ!

เห็นลาเวียร่าเริงแบบนี้ฮิคารุก็อดยิ้มไม่ได้

 

T.นี่คือรายงานทั้งหมดที่ฉันจะให้พระราชาในวันพรุ่งนี้

 

เจ้าหน้าที่สอบสวนได้ไปพบหัวหน้าสภาอัศวินในช่วงกลางดึกที่ห้องทํางานในเมืองหลวงตัวห้องทํางานนั้นอยู่ภายในบริเวณปราสาทที่แข็งแรงซึ่งสร้างจากหิน

มันเป็นห้องที่น่าเบื่อและปราศจากสิ่งฟุ่มเฟือยไม่มีการตกแต่งที่หรูหราใด ๆ เลยเจ้าหน้าที่สอบสวนกําลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ทําจากไม้โอ๊คโดยไม่มีเบาะรองนั่งฝั่งตรงข้ามของเขาเป็นเก้าอี้แบบเดียวกันและมีขนาดใหญ่พอสําหรับเขาแต่แคบเกินที่จะให้เขานั่ง

เจ้าหน้าที่สอบสวนเขามีขาที่หนาเหมือนท่อนซุง ร่างกายของเขามีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของคนปกติและแทบไม่มีไขมันเลยกล้ามเนื้อของเขาก็เต้นเป็นจังหวะชายคนนี้มีคอที่ทั้งหนาและใหญ่ถ้าหัวของเขาถูกกระแทกลงกับพื้นเขาก็คงจะสบายดีแต่ถึงอย่างนั้นดวงตาของเขาก็ดูอ่อนโยนและใจดี

หัวหน้าของเหล่าอัศวิน เขามีอายุประมาณสี่สิบปีและมีแผลเป็นขนาดใหญ่บนใบหน้า ผมบลอนด์ของเขาถูกตัดจนสั้นซึ่งแน่นอนว่ามันทําให้ฮิคารุนึกถึงนักเบสบอล

 

“ลอว์เรนซ์] ผู้สอบสวนถามหัวหน้าที่ยังคงนิ่งอยู่

โอ้ โทษที ๆ ฉันแค่กําลังคิดสิ่งที่นายพูดอยู่น่ะ มันขัดแย้งกันอยู่เยอะเลย

ตรงข้ามกับลักษณะของเขาเลย หัวหน้านั้นมีน้ําเสียงที่อ่อนเยาว์และดวงตาของเขาก็อ่อนโยนแต่จากร่างกายที่กํายําของเขาแล้วเขา ไม่ใช่แค่ใจดีเท่านั้นหรอก – ซึ่งจริง ๆ แล้วเขาเป็นคนที่ใจดีและก็ อีกมากมาย

 

ชายผู้นี้เป็นที่รู้จักกันในนามหัวหน้านักดาบและปรมจารย์ดาบเขาได้ผ่านการฝึกฝนพิเศษมาแล้ว แม้ว่าการใช้คําว่า “ฝึกฝน” นั้นยังเป็นที่น่าสงสัยอยู่อย่างไรก็ตามหลักการฝึกของเขาคือกา รผ่านความตายอย่างเฉียดฉิวให้ได้นั่นเอง

 

Tั้นนั่นก็คือรายงานของนายสินะ

 

(ฉันรู้ดีว่ารายงานของฉันมีสิ่งที่จะนําความเสื่อมเสียมาสู่สภาอยู่แต่ฉันก็เปลี่ยนแปลงมันไม่ได้ การที่พูดคุยกับนายในตอนนี้มันก็ไม่ถูกต้องเหมือนกัน

(ฉันเข้าใจ ฉันไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นหรอก

 

ดาบและโล่ของกษัตริย์ – อัศวินและผู้ที่รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือก็คือเจ้าหน้าที่สอบสวนผู้ที่รับคําสั่งจากสายการบังคับบัญชาที่ต่างออกไปนั่นเอง การให้ข้อมูลที่เขารวบรวมมาได้แก่อัศวินก่อนที่จะเผยแพร่สู่สาธารณะนั้นเป็นการกระทําที่นอกเหนือจากอํานาจของเขาแต่เขาก็เป็นกังวลเกี่ยวกับสภาอัศวินและ เชื่อว่าหัวหน้าลอว์เรนซ์ ด.ฟอลคอนนี้เป็นคนที่ไว้ใจได้ดังนั้นผู้สอบ สวนจึงอธิบายสิ่งต่าง ๆ ให้เขาฟังก่อนซึ่งแน่นอนว่าเขาได้รับความยินยอมจากสํานักแล้ว

Tอีสท์ยังขาดประสบการณ์และสําหรับผู้ที่ทําให้เกียรติของอัศวินด่างพร้อยก็จะมีการลงโทษที่หนักหนารออยู่ซึ่งเขาก็สามารถชดเชยความผิดนั้นของตนเองได้ด้วยความตายเท่านั้น)

[คงเป็นอย่างนั้นแหละ

 

Tแล้วเขาอยู่ในทีมที่ 6 ใช่ไหม พวกเขาคงจะเฉื่อยชากันน่ะสิฉันต้องกระตุ้นพวกนั้นให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมเป็นการส่วนตัวหน่อยแล้ว

ผู้สอบสวนหลับตาลงเมื่อเขาได้ยินคําพูดของหัวหน้านักดาบบางทีอีสท์อาจโชคดีแล้วที่ถูกตัดสินประหารชีวิตเขาคิดในใจลอว์เรนซ์บอกว่าจะฝึกพวกนั้นให้เป็นการส่วนตัวซึ่งคนในเมืองนี้ก็รู้ดีว่าการฝึกของเขาเคร่งครัดแค่ไหนหวังว่าจะไม่มีใครบาดเจ็บหรือตายไปนะ

Tหมม นั่นใคร หัวหน้าพูด

มีเสียงเคาะดังขึ้นที่ประตู อัศวินหนุ่มจากสภาก้าวเข้ามาในห้อง

ขอโทษที่ต้องมารบกวนตอนดึกครับหัวหน้า

Tขอให้เป็นเรื่องด่วนนะ แล้วก็ไม่ต้องอ้อมค้อมนายมาทําไมว่า

มาเลย

 

Tครับ]

อัศวินผู้ที่หน้าซีดราวกับกระดาษมีเหงื่อเย็น ๆ ไหลผ่านบนหน้าผากของเขา เขาเหล่มองไปที่เจ้าหน้าที่สอบสวนที่กําลังจะลุกขึ้นจากที่นั่งเพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวแต่หัวหน้าก็ยกมือห้ามเขา

 

Tไม่เป็นไร เอาล่ะ รายงานมา

มีความเป็นไปได้สองประการว่าทําไมเขาจึงอนุญาตให้เจ้าหน้าที่สอบสวนอยู่ต่อ บางทีมันอาจจะเป็นการตอบแทนน้ําใจที่ผู้สอบสวนใส่ใจเขามากพอที่จะมาบอกเขาก่อนที่จะส่งรายงานไปหรืออาจเป็นไปได้ว่าสัญชาตญาณของเขากําลังบอกว่ารายงานของอัศวินหนุ่มคนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับรายงานของผู้สอบสวนด้วยเช่นกัน

 

Tครับท่าน อัศวินพูดพร้อมกลืนน้ําลาย ผู้บัญชาการของทีม ที่ 6 สก็อตต์ ฟ.แลนส์ ถูกโจมตีในห้องนอนของเขาที่บ้านของเขาเองโชคดีที่เขาแค่กระดูกหักหลายชิ้นเท่านั้นแต่ชีวิตของเขาไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายใด ๆ จากที่เขาบอกมานั้นเป็นเด็กคนหนึ่งที่ทําร้ายเขา เขาสวมเสื้อคลุมทั้งตัวและใส่หน้ากากของเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ครับ] อัศวินหนุ่มพูดทั้งหมดนี้ด้วยลมหายใจเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The Undetectable Strongest Job: Rule Breaker 27 : เด็กล่องหนในเมืองหลวง

Now you are reading The Undetectable Strongest Job: Rule Breaker Chapter 27 : เด็กล่องหนในเมืองหลวง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 27 : เด็กล่องหนในเมืองหลวง

เมืองหลวงของอาณาจักรพอนโซเนียคือ จ. พอนโซเนียและเป็นที่รู้จักกันในนามเมืองหลวงราบ

 

การที่มีพื้นดินระดับเดียวกันเช่นนี้นั้นค่อนข้างมีประโยชน์ทั้งง่ายที่จะขยายเมือง, ขยายเส้นทางคมนาคมและขยายทุ่งการเกษตรซึ่งยุ้งฉางขนาดใหญ่ – จุดเด่นของพอนโซเนีย – แผ่กว้างออกไปจนใกล้กับเมืองหลวงและในช่วงฤดูใบไม้ร่วงไร่ทั้งหมดนั้นดูราวกับเป็นทะเลทองคํา

อาณาจักรถูกล้อมไปด้วยพันธมิตรและศัตรู ขุนนางที่อาศัยอยู่ใกล้ชายแดนจะเป็นคนรับมือกับศัตรูเหล่านี้ซึ่งพวกเขาถูกเรียกว่ามาร์คกราฟและได้รับอนุญาตจากอาณาจักรให้สามารถสร้างกองทัพอิสระขึ้นมาเองได้เลย

 

ตั้งแต่มาร์คกราฟแข็งแกร่งและป้องกันภัยคุกคามจากนอกราชอาณาจักรได้ยังฉางที่อยู่ภายในก็เจริญรุ่งเรืองขึ้น ผลิตภัณฑ์จากธัญพืชที่ถูกกว่าที่อื่นทําให้พวกเขาร่ํารวยขึ้นอย่างมาก พอนโซเนียอยู่ในยุคที่เฟื่องฟูที่สุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนและเพราะเช่นนี้จึงไม่น่าแปลกใจเลยถ้าราชอาณาจักรจะมีความทะเยอทะยานที่จะก ระจายอิทธิพลไปในต่างแดน

 

เนื่องจากพอนโซเนียเป็นประเทศที่มีพื้นที่ราบและไม่มีทางออกสู่ทะเลการถูกบุกรุกจึงเป็นเรื่องง่ายและเพื่อตอบโต้กลับไปทางกองทัพจึงได้พัฒนาสิ่งที่ไม่เหมือนใครขึ้นมาและนั่นก็คือป้อมปราการเคลื่อนที่หรือที่พอนโซเนียรู้จักกันในชื่อของกองกําลังอาวุธหนักซึ่งไม่ใช่แค่เคลื่อนที่ได้รวดเร็วแต่ยังมีการป้องกันที่สูงอย่างไม่น่าเชื่ออี กด้วย

 

“งั้นนั่นก็คือกองกําลังอาวุธหนักที่ฉันได้ยินบ่อยๆสินะถ้าถามฉัน ฉันว่าเครื่องมือมันดูเบา ๆ นะ

 

การฝึกขนาดใหญ่ถูกจัดขึ้นที่ชานเมืองหลวงซึ่งนี่ก็มีเหตุผลอยู่สองประการ ประการแรกคือแสดงให้ผู้คนที่เข้ามาในอาณาจักรรวมถึงสายลับให้เห็นว่าที่นี่มีกองทัพที่ทรงพลังอยู่ประการที่สองนั้นง่ายมากการถือเครื่องมือที่หนักอย่างนั้นเป็นเรื่องยากดังนั้นการฝึก แบบธรรมดาจึงปฏิบัติในเมืองหลวงและการฝึกฝนขนาดใหญ่แบบนี้จึงปฏิบัติในพื้นที่ใกล้เคียงแทน

“มันน่าเหลือเชื่อไปเลยนะ ฉันก็พึ่งเคยเห็นครั้งแรกเหมือนกันลาเวียพูดขึ้น

 

เธอก็ด้วยหรอ คือ แต่มันเป็นจุดขายของพอนโซเนียนใช่ไหม

 

ฮิคารุและลาเวียกําลังคุยกันอยู่ในเกวียนสวนผู้โดยสารคนอื่นๆนั้นนั่งห่างออกไปพวกเขาจึงสามารถกระซิบคุยกันได้ เขาทั้งสองมองเห็นการฝึกฝนนี้ผ่านทางหน้าต่างและมันก็เป็นฉากที่น่าทึ่งฉากหนึ่งเลย

ทหารราบใส่ชุดเกราะคลุมทั้งตัวไล่ไปจนถึงใบหน้า เกราะถูกย้อมสีเป็นสีเขียวสีม่วงและสีน้ําเงินซึ่งเป็นการแบ่งเหล่าท หารออกเป็นสามหน่วยตามสีพวกเขามีหอกยาวเป็นอาวุธโดย ปลายหอกมีลักษณะเหมือนขวาน – ง้าวฮิคารุเกิดความสงสัยว่าในบอร์ดวิญญาณนั้นจ้าวถือเป็นหอกยาวหรือเปล่า

ทหารกวัดแกว่งง้าวของพวกเขาอยู่ ทั้งพุ่งจู่โจมและกระโดดนอกจากนี้พวกเขายังปล่อยให้ตัวเองถูกโยนเพื่อฝึกฝนวิธีการล้มอย่างถูกต้องอีกด้วยแต่ก็มีบางคนที่ตีลังกากลับหลังแทน

 

Tพวกเขาใช้เวทมนตร์รึเปล่า

[แน่นอนสิ ไม่ใช่ตัวพวกเขาเองที่เก่งขนาดนั้นหรอกเป็นเพราะชุดเกราะน่ะฉันอ่านมาจากหนังสือ

“อ่อ อย่างงี้นี่เอง

 

ตอนนี้ทุกอย่างสมเหตุสมผลแล้ว ตัวชุดเกราะเองน่าจะเป็นไอเทมเวทมนตร์พวกเขาอาจจะทําให้มันเบาไม่ก็เพิ่มความสามารถทางกายภาพของคนสวม มันเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากจริง ๆเพราะแทนที่จะฝึกทหารที่ละชุดแต่ชุดเกราะที่พวกเขาใส่กลับยกระดับกองทัพโดยรวมเลยแม้ว่ามันจะไม่ทํางานถ้าไม่มีมานาก็เถอะและบางที่อุปกรณ์เสริมนี่อาจใช้งานได้ในเวลาที่จํากัดเท่านั้นก็ได้

สงครามที่ไม่มีปืน ฮ่ะ… อยากเห็นจังว่าจะเป็นแบบไหนแต่ถึงยังไงสงครามก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี

ในการต่อสู้กัน ผลไม้แห่งชัยชนะนั้นจืดชืดไปเลยถ้าเปรียบเทียบกับสิ่งที่ต้องเสียไปและสาหรับฝ่ายที่แพ้มันก็แย่ยิ่งกว่านั้นเสียอีก

Tฉันเห็นเมืองหลวงแล้ว] ลาเวียพูดขึ้น

ฮิคารุมองไปข้างหน้า ในระยะที่ไกลออกไปหน่อยเขาเห็นสิ่งที่เหมือนเป็นยอดแหลมของปราสาท สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ตั้งอยู่รอบ ๆโดยมีปราสาทตั้งอยู่ตรงกลาง

 

Tใหญ่มาก

นั่นคือความประทับใจแรกของฮิคารุ

T..ล้อเล่นน่า

แต่ในไม่ช้าเขาก็เริ่มไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองจากระยะไกลที่เขาเห็นยอดปราสาทนั้นขนาดของปราสาทยังดูไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยแต่ทว่าเกวียนที่พวกเขานั่งมานั้นกําลังวิ่งผ่านเมืองแล้วฮิคารุจําได้ว่าจิลเคยบอกไว้ว่าเมืองหลวงมีจํานวนประชากรมากกว่าพอนด์งสี่สิบไม่ก็ห้าสิบเท่าย้อนกลับไปตอนนั้นเขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเลข นี้มันใหญ่แค่ไหนแต่ตอนนี้เขาก็ค่อยๆตระหนักได้แล้ว

ที่นี่มันอะไรกันใหญ่แค่ไหนกันเนี่ย

 

“เดี๋ยวนะ ที่นี่ไม่มีการตรวจสอบอะไรเลยนิ

เสียงของเขาดังขึ้นเล็กน้อยทําให้ชายรูปร่างแข็งแรงผู้ซึ่งดูเหมือนจะเป็นพ่อค้าหัวเราะขึ้นมา

 

“ฮ่าๆๆ! ถูกแล้วไอ้หนู ที่นี่ไม่มีการตรวจสอบหรอกใหญ่ขนาดนี้มันทําไม่ได้หรอก

ดูเป็นคนดีนะฮิคารุคิดในใจพร้อมดําเนินการหาข้อมูลให้ครบถ้วน

 

Tจริงด้วยนะ งั้นก็ไปที่ไหนก็ได้ในเมืองหลวงหรอครับ

 

Tใกล้กับปราสาทมีบริเวณที่เรียกว่าเขตขุนนางอยู่ นอกจากนี้ยังมีเขตที่พักอาศัยอยู่ถึง 2 เขตพวกเขาอยู่ในกําแพงนั่นแหละมันก็มีการตรวจสอบก่อนเข้าไปอยู่นะ

 

อ๋อ แต่ก็ไม่รู้สึกปลอดภัยขนาดนั้นนะครับตรวจแค่ตรงนั้น

เอง!

 

Tไม่เป็นไรหรอก ถึงแถวนี้จะอยู่ไกลจากปราสาทแต่ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของเมืองหลวงนะ มันก็มียามลาดตระเวนอยู่รอบ ๆนั่นแหละแต่แปลกนะตอนนี้เราน่าจะได้เห็นการลาดตระเวนไม่หนึ่งก็สองครั้งแล้วนะแต่ตอนนี้ฉันยังไม่เห็นเลย

 

ลาดตระเวนหรอ พวกเขาจะสุ่มตรวจรึเปล่า ฮิคารุรู้สึกสั่นเย็กเยีอกไปถึงกระดูกสันหลัง เขามองออกไปนอกหน้าต่างสิ่งที่เขาเห็นคือเกวียนและผู้คนกําลังเดินอยู่ไม่มีการลาดตระเวน

แล้วผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างพ่อค้าซึ่งเป็นภรรยาของเขาก็พูด

Tเพราะว่ากําลังจะมีสงครามไงล่ะที่รัก

 

อ้า… |

สีหน้าของพวกเขาดูมืดมนลง อาณาจักรไม่สามารถแบ่งคนมาลาดตระเวนได้เนื่องจากกําลังเตรียมสงครามอยู่ งั้นการฝึกขนาดใหญ่นั่นก็แกล้งทําเฉยๆสินะ – เพื่อแสดงให้เห็นว่าแม้ราชอาณาจักรกําลังเตรียมทําสงครามแต่พวกเขาก็ยังมีทหารจํานวนมากอยู่

Tแล้วนี่หนูมาที่เมืองหลวงกันทําไมหรอพวกเราน่ะมีร้าน. ]

 

ทั้งคู่ดูเหมือนจะกังวลเพราะพวกฮิคารุยังเด็กอยู่ พวกเขาจึงเสนอจะช่วยเหลือแต่ฮิคารุก็ปฏิเสธไปอย่างสุภาพ

มีคนดี ๆ อยู่แถวนี้ด้วย คงเป็นเรื่องธรรมดาล่ะนะ

และเช่นนั้นฮิคารุและลาเวียจึงเข้าสู่เมืองหลวงได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ เลย

ฉันได้ของแล้ว ขอบคุณนะ]

กิลด์ผจญภัยในเมืองหลวงนั้นใหญ่กว่ากิลด์ในพอนด์ประมาณสิบเท่าพวกเขามีพนักงานต้อนรับอยู่ที่เคาน์เตอร์ถึงเจ็ดคนแต่เพราะขนาดของมันจึงทําให้รู้สึกวังเวงอยู่หน่อย บางที่สงครามอาจส่งผลกระทบต่อกิลด์ด้วยเช่นกัน

 

งานของฮิคารุคือการส่งจดหมายที่ถูกผนึกไว้ฉบับหนึ่งให้กับพ่อค้าในเมืองหลวงและเควสนี้จะสําเร็จได้ก็ต่อเมื่อเขาส่งจดหมายให้กับกิลด์ที่นี่การส่งจดหมายจากกิลด์ถึงชายคนนั้นเป็นอีกเควสหนึ่ง

ในโลกนี้มีบริการไปรษณีย์เช่นเดียวกับที่ญี่ปุ่นซึ่งเป็นที่สําหรับส่งจดหมายจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่งแต่การให้บริการนั้นจะใช้ได้เฉพาะกับเมืองใหญ่ ๆ เท่านั้น นักผจญภัยที่มีเวลาว่างจะส่งจดหมายไปยังพื้นที่ห่างไกล เช่น หมู่บ้านที่อยู่ลึกเข้าไปในภูเขาแม้อัตราความสําเร็จจะต่ําก็ตาม

 

Tโอ้ หลังทําเควสนี้เสร็จก็เหลืออีกแค่ 2 เควสคุณก็จะได้เลื่อนไปอยู่ระดับ F แล้ว]

 

นี่เป็นหนึ่งเหตุผลที่ฮิคารุทําเควสส่งของตอนนี้เขาอยู่ระดับ G เขาต้องการขึ้นไปยังระดับ E เพื่อที่จะได้เข้าไปในดันเจี้ยนที่ถูกดูแลโดยกิลด์ผจญภัยได้

เงื่อนไขในการเลื่อนเป็นระดับ F คือการทําเควสที่ต้องเคลื่อนที่จากกิลด์นักผจญภัยที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ในกรณีนี้เควสที่ง่ายที่สุดที่เราสามารถทําได้คือเควสการจัดส่งหรืองานคุ้มกันนั่นเองแต่ก็ไม่มีใครผิดปกติมากพอที่จะจ้างคนที่อยู่ระดับต่ําสุดของนักผจญภัยมา เป็นผู้คุ้มกันหรอก

คุณมีเควสง่าย ๆ ที่สมเหตุสมผลอยู่ไหมครับ

[ ตอนนี้เรามีเยอะเลย เรากําลังขาดคนอยู่นะเพราะนักผจญภัยกําลังถูกเกณฑ์ให้เข้าร่วมสงครามอยู่

นักผจญภัยถูกส่งไปทําสงคราม คือ…]

Tใช่ มันหมายความว่าพระราชาจริงจังนะ]

พนักงานต้อนรับดูหดหูและเธอก็ไม่สามารถวิจารณ์กษัตริย์ในที่สาธารณะได้

ฮิคารุตรวจสอบเควสทุกรายการบนกระดานคําขอ การส่งของในเมืองหลวง ช่วยทําความสะอาดขนาดใหญ่ ช่วยผู้สูงอายุและถือกระเป๋าเดินทาง… เหมือน ๆ กับที่พอนด์นั่นแหละและยังมี แต่เควสระดับ G ด้วย ไม่มีงานที่ต้องต่อสู้เลย;เนื่องจากกองกําลัง นั้นใช้พื้นที่รอบ ๆ เมืองหลวงเพื่อซักซ้อมพวกเขาจึงได้ฆ่ามอนสเตอร์ทุกตัวไปแล้ว แต่มันอาจยังมีบางอย่าง

Tเจออะไรไหม

น่าจะพอแล้วแหละ ไปหาที่พักกันเถอะ

พวกเขาออกจากกิลด์มาแล้ว ฮิคารุเริ่มวางแผนในหัวของเขาเกี่ยวกับสิ่งที่เขาต้องทําขณะที่อยู่ที่นี่

 

Tเรายังเหลือเวลาอีกนาน ฮิคารุพูดขึ้น

แต่นายดูสนุกนะ ไม่สิ เดี่ยว ไม่ใช่ละ ถ้าเป็นนายมันเหมือนกําลังวางแผนอีกแล้วมากกว่า

 

แปลกจัง ฟังดูไม่เหมือนคําชมเลย]

Tฉันเสียใจที่ไม่ได้ช่วยนายทํากิจกรรมตอนกลางคืนนั่นนะ]

 

เธอไม่ต้องกังวลหรอก ความสามารถตอนนี้ของฉันมันก็ยากหน่อยถ้าจะพาเธอไปด้วย

 

นายจะไม่บอกฉันว่านายกําลังทําอะไรอยู่ใช่ไหม

Tโทษทีนะ ตอนนี้มันยังเป็นความลับน่ะ

 

ฮิคารุยังไม่อยากบอกทุกอย่างให้ลาเวียรู้รวมถึงความสามารถของเขาด้วย มันไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อใจเธอแต่เขายังไม่เห็นประโยชน์ใด ๆ ในการบอกเธอตอนนี้

 

แต่ฉันคิดว่าเธอคงไม่เบื่อหรอก

Tทําไมล่ะ ฉันว่าฉันคงเบื่อสุด ๆ ไปเลยยิ่งถ้านายไม่อยู่ด้วย

Tคุณพูดอะไรครับเนี่ย ตอนนี้เราอยู่ในเมืองหลวงนะครับคุณผู้หญิง

Tแล้ว? ฉันไม่ไปข้างนอกหรอกนะ

 

Tมันมีร้านหนังสือใหญ่มากนะ]

 

ตาของลาเวียเบิกกว้างขึ้น

 

ว่าไง? มีนิยายแนวผจญภัยเยอะ – ]

 

Tไปจองห้องกันเถอะ เร็วเข้า! ฉันขอที่ ๆ มีโต๊ะใหญ่ ๆ ที่ใช้ตะเกียงเวทมนตร์ได้เยอะเท่าที่ต้องการเลยนะ!

เห็นลาเวียร่าเริงแบบนี้ฮิคารุก็อดยิ้มไม่ได้

 

T.นี่คือรายงานทั้งหมดที่ฉันจะให้พระราชาในวันพรุ่งนี้

 

เจ้าหน้าที่สอบสวนได้ไปพบหัวหน้าสภาอัศวินในช่วงกลางดึกที่ห้องทํางานในเมืองหลวงตัวห้องทํางานนั้นอยู่ภายในบริเวณปราสาทที่แข็งแรงซึ่งสร้างจากหิน

มันเป็นห้องที่น่าเบื่อและปราศจากสิ่งฟุ่มเฟือยไม่มีการตกแต่งที่หรูหราใด ๆ เลยเจ้าหน้าที่สอบสวนกําลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ทําจากไม้โอ๊คโดยไม่มีเบาะรองนั่งฝั่งตรงข้ามของเขาเป็นเก้าอี้แบบเดียวกันและมีขนาดใหญ่พอสําหรับเขาแต่แคบเกินที่จะให้เขานั่ง

เจ้าหน้าที่สอบสวนเขามีขาที่หนาเหมือนท่อนซุง ร่างกายของเขามีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของคนปกติและแทบไม่มีไขมันเลยกล้ามเนื้อของเขาก็เต้นเป็นจังหวะชายคนนี้มีคอที่ทั้งหนาและใหญ่ถ้าหัวของเขาถูกกระแทกลงกับพื้นเขาก็คงจะสบายดีแต่ถึงอย่างนั้นดวงตาของเขาก็ดูอ่อนโยนและใจดี

หัวหน้าของเหล่าอัศวิน เขามีอายุประมาณสี่สิบปีและมีแผลเป็นขนาดใหญ่บนใบหน้า ผมบลอนด์ของเขาถูกตัดจนสั้นซึ่งแน่นอนว่ามันทําให้ฮิคารุนึกถึงนักเบสบอล

 

“ลอว์เรนซ์] ผู้สอบสวนถามหัวหน้าที่ยังคงนิ่งอยู่

โอ้ โทษที ๆ ฉันแค่กําลังคิดสิ่งที่นายพูดอยู่น่ะ มันขัดแย้งกันอยู่เยอะเลย

ตรงข้ามกับลักษณะของเขาเลย หัวหน้านั้นมีน้ําเสียงที่อ่อนเยาว์และดวงตาของเขาก็อ่อนโยนแต่จากร่างกายที่กํายําของเขาแล้วเขา ไม่ใช่แค่ใจดีเท่านั้นหรอก – ซึ่งจริง ๆ แล้วเขาเป็นคนที่ใจดีและก็ อีกมากมาย

 

ชายผู้นี้เป็นที่รู้จักกันในนามหัวหน้านักดาบและปรมจารย์ดาบเขาได้ผ่านการฝึกฝนพิเศษมาแล้ว แม้ว่าการใช้คําว่า “ฝึกฝน” นั้นยังเป็นที่น่าสงสัยอยู่อย่างไรก็ตามหลักการฝึกของเขาคือกา รผ่านความตายอย่างเฉียดฉิวให้ได้นั่นเอง

 

Tั้นนั่นก็คือรายงานของนายสินะ

 

(ฉันรู้ดีว่ารายงานของฉันมีสิ่งที่จะนําความเสื่อมเสียมาสู่สภาอยู่แต่ฉันก็เปลี่ยนแปลงมันไม่ได้ การที่พูดคุยกับนายในตอนนี้มันก็ไม่ถูกต้องเหมือนกัน

(ฉันเข้าใจ ฉันไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นหรอก

 

ดาบและโล่ของกษัตริย์ – อัศวินและผู้ที่รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือก็คือเจ้าหน้าที่สอบสวนผู้ที่รับคําสั่งจากสายการบังคับบัญชาที่ต่างออกไปนั่นเอง การให้ข้อมูลที่เขารวบรวมมาได้แก่อัศวินก่อนที่จะเผยแพร่สู่สาธารณะนั้นเป็นการกระทําที่นอกเหนือจากอํานาจของเขาแต่เขาก็เป็นกังวลเกี่ยวกับสภาอัศวินและ เชื่อว่าหัวหน้าลอว์เรนซ์ ด.ฟอลคอนนี้เป็นคนที่ไว้ใจได้ดังนั้นผู้สอบ สวนจึงอธิบายสิ่งต่าง ๆ ให้เขาฟังก่อนซึ่งแน่นอนว่าเขาได้รับความยินยอมจากสํานักแล้ว

Tอีสท์ยังขาดประสบการณ์และสําหรับผู้ที่ทําให้เกียรติของอัศวินด่างพร้อยก็จะมีการลงโทษที่หนักหนารออยู่ซึ่งเขาก็สามารถชดเชยความผิดนั้นของตนเองได้ด้วยความตายเท่านั้น)

[คงเป็นอย่างนั้นแหละ

 

Tแล้วเขาอยู่ในทีมที่ 6 ใช่ไหม พวกเขาคงจะเฉื่อยชากันน่ะสิฉันต้องกระตุ้นพวกนั้นให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมเป็นการส่วนตัวหน่อยแล้ว

ผู้สอบสวนหลับตาลงเมื่อเขาได้ยินคําพูดของหัวหน้านักดาบบางทีอีสท์อาจโชคดีแล้วที่ถูกตัดสินประหารชีวิตเขาคิดในใจลอว์เรนซ์บอกว่าจะฝึกพวกนั้นให้เป็นการส่วนตัวซึ่งคนในเมืองนี้ก็รู้ดีว่าการฝึกของเขาเคร่งครัดแค่ไหนหวังว่าจะไม่มีใครบาดเจ็บหรือตายไปนะ

Tหมม นั่นใคร หัวหน้าพูด

มีเสียงเคาะดังขึ้นที่ประตู อัศวินหนุ่มจากสภาก้าวเข้ามาในห้อง

ขอโทษที่ต้องมารบกวนตอนดึกครับหัวหน้า

Tขอให้เป็นเรื่องด่วนนะ แล้วก็ไม่ต้องอ้อมค้อมนายมาทําไมว่า

มาเลย

 

Tครับ]

อัศวินผู้ที่หน้าซีดราวกับกระดาษมีเหงื่อเย็น ๆ ไหลผ่านบนหน้าผากของเขา เขาเหล่มองไปที่เจ้าหน้าที่สอบสวนที่กําลังจะลุกขึ้นจากที่นั่งเพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวแต่หัวหน้าก็ยกมือห้ามเขา

 

Tไม่เป็นไร เอาล่ะ รายงานมา

มีความเป็นไปได้สองประการว่าทําไมเขาจึงอนุญาตให้เจ้าหน้าที่สอบสวนอยู่ต่อ บางทีมันอาจจะเป็นการตอบแทนน้ําใจที่ผู้สอบสวนใส่ใจเขามากพอที่จะมาบอกเขาก่อนที่จะส่งรายงานไปหรืออาจเป็นไปได้ว่าสัญชาตญาณของเขากําลังบอกว่ารายงานของอัศวินหนุ่มคนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับรายงานของผู้สอบสวนด้วยเช่นกัน

 

Tครับท่าน อัศวินพูดพร้อมกลืนน้ําลาย ผู้บัญชาการของทีม ที่ 6 สก็อตต์ ฟ.แลนส์ ถูกโจมตีในห้องนอนของเขาที่บ้านของเขาเองโชคดีที่เขาแค่กระดูกหักหลายชิ้นเท่านั้นแต่ชีวิตของเขาไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายใด ๆ จากที่เขาบอกมานั้นเป็นเด็กคนหนึ่งที่ทําร้ายเขา เขาสวมเสื้อคลุมทั้งตัวและใส่หน้ากากของเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ครับ] อัศวินหนุ่มพูดทั้งหมดนี้ด้วยลมหายใจเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+