ข้ามเวลาล่าฝันบทที่ 11 1
ข้ามเวลาล่าฝัน! บทที่ 11 ตอนที่ 1
ยูนจังมองไปที่ประตูห้องชมรมด้วยความตื่นเต้น
“ให้ตายสิ ในที่สุดก็จะมีรุ่นน้องแล้ว ตื่นเต้นจัง…”
“อยู่เฉย ๆ เป็นไหม?” เดนมิกล่าว
แต่ยูนจังเองก็สังเกตเห็นได้ว่าเดนมิก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน ถึงขั้นขาสั่นกันเลยทีเดียว
“12 คนเหรอ ไม่มากเท่าที่หวัง แต่ก็เยอะพอตัวเลย”
“เท่านี้เราก็เล่นเรื่องที่ใช้คนเกิน 10 คนได้แล้ว”
“ถ้าได้ล่ะนะ ฉันว่าต้องมีเด็กที่อยากเป็นแค่ทีมงานอยู่ด้วยบ้างแหละ” จุงฮยุกพูดขัดขึ้น
ยูนจังแลบลิ้นใส่ด้วยความรำคาญ จุงฮยุกนั้นเอาแต่ยึดติดกับความเป็นจริง เป็นคนที่คอยพูดอะไรให้มันสมเหตุสมผลเสมอไป ก็ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีหรอกนะ
“เอาน่า มีความหวังหน่อย น้องอาจจะอยากเป็นนักแสดงกันหมดเลยก็ได้นะ” ยูนจังตอบกลับ
“อืม ถ้าได้งั้นก็ดีสิ” จุงฮยุกพูดพร้อม ๆ กับดันกระโถนเข้าไปเก็บที่มุมห้อง นี่เป็นของที่ถูกใช้งานเมื่อ 6 ปีก่อน จะว่าไป…
“ชุดที่พวกเราใช้กันตอนนี้ สักวันหนึ่งรุ่นน้องจะทำเหมือนมันเป็นผ้าขี้ริ้วรึเปล่านะ?”
“ก็คงงั้น”
“แย่จริง”
“นี่ พวกเรายังเหลือเวลาอีกตั้ง 2 ปีนะ กว่าจะจบ” ยูนจังเบะปากใส่จุงฮยุกจากด้านหลัง มันเป็นนิสัยที่เธอมีมาตั้งแต่เด็ก พวกผู้ใหญ่ชอบบอกให้เธอเลิกทำปากแบบนั้นแต่เธอก็แก้นิสัยนี้ไม่ได้เสียที
“จะมากันแล้ว” เดนมิกล่าว พร้อมก้มลงมองนาฬิกาที่ข้อมือ
ยูนจังหันไปมองที่หน้าประตูอย่างใจจดใจจ่อ อีกสิบนาที สิบนาทีพวกปีหนึ่งก็จะมาถึง
* * *
“เปิดดิ”
“ม-ไม่เอา”
“กลัวเหรอวะ?”
“ไม่ใช่ แต่…”
“งั้นก็เปิดดิ”
“ท-ทำไมไม่เปิดเองล่ะ?”
“ไม่เอาอะ”
“…”
มารุเดินขึ้นไปด้านหน้าหลังเห็นเพื่อนทั้งสองคนเถียงกันอยู่นาน เขาจับที่ด้ามจับประตู ด้ามที่เคลือบด้วยสเตนเลสมีร่องรอยการสึกหรอจากการใช้งานมาอย่างยาวนาน พอเขาลองบิดเปิดดู ประตูก็ส่งเสียงดัง แกร๊ก
“มากันเกือบครบแล้ว”
เสียงนั้นเป็นของมินซอง รุ่นพี่หัวโอ๊ก ปีสองแยกตัวเองออกไปอยู่ทางฝั่งซ้ายของห้อง ส่วนมารุเดินเข้าไปรวมกับกลุ่มปีหนึ่งที่เหลือ
“ยินดีต้อนรับ ฉันขอทำตัวเป็นกันเองหน่อยนะ ไหน ๆ ก็เข้าชมรมมากันหมดแล้ว แต่เรามีเรื่องต้องทำกันก่อน ทุกคน หันไปด้านหลัง”
เหล่าเด็กปีหนึ่งหันไป และพบกับไวท์บอร์ดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ด้านบนเขียนชื่อของพวกปีสองไว้ โดยมีชื่อ ‘ลี ยูนจัง’ เขียนไว้ด้วยปากกาสีน้ำเงิน พร้อมด้วยคำว่า ‘ประธาน’ ต่อท้ายชื่อ
“แต่ละคนช่วยเขียนชื่อของตัวเองลงไปด้วย พร้อมกับสาขาเอก” มินซองพูดต่อ
คนตัวใหญ่นั้นเป็นคนแรกที่ก้าวออกไป เขาหยิบปากกามาร์คเกอร์ขึ้นและเปิดฝาออก ก่อนจะบรรจงเขียนชื่อของตัวเองลงไป เด็กสาวอีกสองคนก็เขียนตามไปหลังเด็กหนุ่มเขียนเสร็จ
ฮง เกนซุค, ลี ยูริม, คิม โซยอน
ทั้งสามคนเรียกเอกการออกแบบ โซยอนโยนปากกามาให้มารุเพื่อเขาจะได้เขียนต่อ
“มารุ?”
เขาได้ยินเสียงคนพูดมาจากด้านหลัง เขาคุ้นเคยกับการตอบสนองแบบนี้ดี แม้หลังจากเรียนจบไปแล้ว คนอื่นก็มักจะประหลาดใจเมื่อได้รู้ชื่อของเขา ตอนหนุ่ม ๆ มันทำให้เขาเครียดมาก แต่พอแก่ตัวลง เขาก็เริ่มชอบชื่อของตัวเองขึ้นเรื่อย ๆ การมีชื่อที่น่าจดจำน่ะ เป็นเรื่องดี
“เราแนะนำตัวกันไปเมื่อวานแล้ว วันนี้จะไม่พูดอีก เดี๋ยวอยู่กันไปก็จะรู้เองแหละว่าพวกเราไม่ใช่รุ่นพี่ที่โหดร้ายอะไร มาสนุกไปด้วยกันเถอะ นะ? แต่ถ้ามีใครทำผิดอะไรขึ้นมา พวกเราก็พร้อมจะด่าเสมอนะ เพราะเราไม่ได้มาเล่นสนุกกันเฉย ๆ”
คำพูดของจุงฮยุกทำให้บรรยากาศในห้องเย็นยะเยือกขึ้นทันที
“เฮ้ย ทำไมชอบทำให้ทุกอย่างมันดูน่ากลัวไปหมดกัน? มาฟังน้องเราแนะนำตัวกันก่อนดีกว่า”
มินซองปรบมือ และชี้ไปยังเกนซุคที่นั่งอยู่สุดแถว
“สูงดีนะเรา ตัวใหญ่ด้วย ชื่อว่า… ฮง เกนซุค ใช่ไหม แนะนำตัวเอง เหตุผลที่เข้า และเป้าหมาย หรือถ้าอยากพูดอะไรเพิ่มเติมก็เชิญได้เลย”
มินซองนั่งลงด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดี ปีหนึ่งการออกแบบ ฮง เกนซุค มาเรียนที่โรงเรียนนี้เพื่อมาเข้าชมรมนี้โดยเฉพาะ อยากร่วมแสดงละครอันแสนวิเศษกับทุกคนในอนาคต เป้าหมายคือการได้ไปแสดงในศูนย์ศิลปะกรุงโซลครับ”
เกนซุคพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ราวกับว่าเขาพยายามจะย้ำให้ทุกคนเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดไป แทนที่มันจะฟังดูน่าหมั่นไส้ มารุกลับรับรู้ได้ถึงความหนักแน่นในน้ำเสียงของเด็กหนุ่ม เท่จริง ๆ ถึงเขาจะดูแตกต่างมาแต่แรกแล้วก็ตาม แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าเขามีความฝันแบบนั้น…
“เดี๋ยวนะเกนซุค มาโรงเรียนช่างเพราะอยากเข้าชมรมการแสดงเหรอ?”
“ครับ”
“ถามจริงดิ?”
“ครับ”
“ทำไมล่ะ? โรงเรียนอื่นก็มีชมรมการแสดงนะ”
“ผมอยากสัมผัสประสบการณ์ที่พี่ชายเคยได้พบเจอครับ”
“พี่ชาย?”
“ครับ”
ยูนจังคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะเดินไปทางชั้นวางหนังสือ ที่เก็บรวบรวมอัลบั้มของชมรมเอาไว้
“ต้องขอถามหน่อยล่ะ ใครเหรอ?” เธอเป็นคนประเภทที่ห้ามความสงสัยของตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ จริง ๆ เธอดูจะตื่นเต้นกว่าเก่าด้วยซ้ำ ร่าเริงกว่าเดิม ใช่ ร่าเริง
“ฮง เกนโซ จากรุ่นแรกครับ”
“…ว่าแล้วเชียว”
ชมรมดูครึกครื้นขึ้นมาทันทีที่ได้ยินชื่อนั้น ไม่แปลกหรอกที่จะเป็นแบบนั้น เพราะขนาดมารุยังรู้จักชื่อนี้เลย เขาคือคนที่รับบทบรรยายจากเรื่องมาโรเนียพาร์ค และหลังจากนั้นก็มีผู้กำกับมาทาบทามไปเล่นหนัง ในการแสดงครั้งแรกของเขา เขาได้รับผลตอบรับที่ค่อนข้างดี ถึงขนาดชนะรางวัลมาเลยด้วย หลังจากนั้นก็ผันตัวเองไปทำงานอยู่สายเพลงและดนตรีแทน
Comments
ข้ามเวลาล่าฝันบทที่ 11 1
ข้ามเวลาล่าฝัน! บทที่ 11 ตอนที่ 1
ยูนจังมองไปที่ประตูห้องชมรมด้วยความตื่นเต้น
“ให้ตายสิ ในที่สุดก็จะมีรุ่นน้องแล้ว ตื่นเต้นจัง…”
“อยู่เฉย ๆ เป็นไหม?” เดนมิกล่าว
แต่ยูนจังเองก็สังเกตเห็นได้ว่าเดนมิก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน ถึงขั้นขาสั่นกันเลยทีเดียว
“12 คนเหรอ ไม่มากเท่าที่หวัง แต่ก็เยอะพอตัวเลย”
“เท่านี้เราก็เล่นเรื่องที่ใช้คนเกิน 10 คนได้แล้ว”
“ถ้าได้ล่ะนะ ฉันว่าต้องมีเด็กที่อยากเป็นแค่ทีมงานอยู่ด้วยบ้างแหละ” จุงฮยุกพูดขัดขึ้น
ยูนจังแลบลิ้นใส่ด้วยความรำคาญ จุงฮยุกนั้นเอาแต่ยึดติดกับความเป็นจริง เป็นคนที่คอยพูดอะไรให้มันสมเหตุสมผลเสมอไป ก็ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีหรอกนะ
“เอาน่า มีความหวังหน่อย น้องอาจจะอยากเป็นนักแสดงกันหมดเลยก็ได้นะ” ยูนจังตอบกลับ
“อืม ถ้าได้งั้นก็ดีสิ” จุงฮยุกพูดพร้อม ๆ กับดันกระโถนเข้าไปเก็บที่มุมห้อง นี่เป็นของที่ถูกใช้งานเมื่อ 6 ปีก่อน จะว่าไป…
“ชุดที่พวกเราใช้กันตอนนี้ สักวันหนึ่งรุ่นน้องจะทำเหมือนมันเป็นผ้าขี้ริ้วรึเปล่านะ?”
“ก็คงงั้น”
“แย่จริง”
“นี่ พวกเรายังเหลือเวลาอีกตั้ง 2 ปีนะ กว่าจะจบ” ยูนจังเบะปากใส่จุงฮยุกจากด้านหลัง มันเป็นนิสัยที่เธอมีมาตั้งแต่เด็ก พวกผู้ใหญ่ชอบบอกให้เธอเลิกทำปากแบบนั้นแต่เธอก็แก้นิสัยนี้ไม่ได้เสียที
“จะมากันแล้ว” เดนมิกล่าว พร้อมก้มลงมองนาฬิกาที่ข้อมือ
ยูนจังหันไปมองที่หน้าประตูอย่างใจจดใจจ่อ อีกสิบนาที สิบนาทีพวกปีหนึ่งก็จะมาถึง
* * *
“เปิดดิ”
“ม-ไม่เอา”
“กลัวเหรอวะ?”
“ไม่ใช่ แต่…”
“งั้นก็เปิดดิ”
“ท-ทำไมไม่เปิดเองล่ะ?”
“ไม่เอาอะ”
“…”
มารุเดินขึ้นไปด้านหน้าหลังเห็นเพื่อนทั้งสองคนเถียงกันอยู่นาน เขาจับที่ด้ามจับประตู ด้ามที่เคลือบด้วยสเตนเลสมีร่องรอยการสึกหรอจากการใช้งานมาอย่างยาวนาน พอเขาลองบิดเปิดดู ประตูก็ส่งเสียงดัง แกร๊ก
“มากันเกือบครบแล้ว”
เสียงนั้นเป็นของมินซอง รุ่นพี่หัวโอ๊ก ปีสองแยกตัวเองออกไปอยู่ทางฝั่งซ้ายของห้อง ส่วนมารุเดินเข้าไปรวมกับกลุ่มปีหนึ่งที่เหลือ
“ยินดีต้อนรับ ฉันขอทำตัวเป็นกันเองหน่อยนะ ไหน ๆ ก็เข้าชมรมมากันหมดแล้ว แต่เรามีเรื่องต้องทำกันก่อน ทุกคน หันไปด้านหลัง”
เหล่าเด็กปีหนึ่งหันไป และพบกับไวท์บอร์ดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ด้านบนเขียนชื่อของพวกปีสองไว้ โดยมีชื่อ ‘ลี ยูนจัง’ เขียนไว้ด้วยปากกาสีน้ำเงิน พร้อมด้วยคำว่า ‘ประธาน’ ต่อท้ายชื่อ
“แต่ละคนช่วยเขียนชื่อของตัวเองลงไปด้วย พร้อมกับสาขาเอก” มินซองพูดต่อ
คนตัวใหญ่นั้นเป็นคนแรกที่ก้าวออกไป เขาหยิบปากกามาร์คเกอร์ขึ้นและเปิดฝาออก ก่อนจะบรรจงเขียนชื่อของตัวเองลงไป เด็กสาวอีกสองคนก็เขียนตามไปหลังเด็กหนุ่มเขียนเสร็จ
ฮง เกนซุค, ลี ยูริม, คิม โซยอน
ทั้งสามคนเรียกเอกการออกแบบ โซยอนโยนปากกามาให้มารุเพื่อเขาจะได้เขียนต่อ
“มารุ?”
เขาได้ยินเสียงคนพูดมาจากด้านหลัง เขาคุ้นเคยกับการตอบสนองแบบนี้ดี แม้หลังจากเรียนจบไปแล้ว คนอื่นก็มักจะประหลาดใจเมื่อได้รู้ชื่อของเขา ตอนหนุ่ม ๆ มันทำให้เขาเครียดมาก แต่พอแก่ตัวลง เขาก็เริ่มชอบชื่อของตัวเองขึ้นเรื่อย ๆ การมีชื่อที่น่าจดจำน่ะ เป็นเรื่องดี
“เราแนะนำตัวกันไปเมื่อวานแล้ว วันนี้จะไม่พูดอีก เดี๋ยวอยู่กันไปก็จะรู้เองแหละว่าพวกเราไม่ใช่รุ่นพี่ที่โหดร้ายอะไร มาสนุกไปด้วยกันเถอะ นะ? แต่ถ้ามีใครทำผิดอะไรขึ้นมา พวกเราก็พร้อมจะด่าเสมอนะ เพราะเราไม่ได้มาเล่นสนุกกันเฉย ๆ”
คำพูดของจุงฮยุกทำให้บรรยากาศในห้องเย็นยะเยือกขึ้นทันที
“เฮ้ย ทำไมชอบทำให้ทุกอย่างมันดูน่ากลัวไปหมดกัน? มาฟังน้องเราแนะนำตัวกันก่อนดีกว่า”
มินซองปรบมือ และชี้ไปยังเกนซุคที่นั่งอยู่สุดแถว
“สูงดีนะเรา ตัวใหญ่ด้วย ชื่อว่า… ฮง เกนซุค ใช่ไหม แนะนำตัวเอง เหตุผลที่เข้า และเป้าหมาย หรือถ้าอยากพูดอะไรเพิ่มเติมก็เชิญได้เลย”
มินซองนั่งลงด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดี ปีหนึ่งการออกแบบ ฮง เกนซุค มาเรียนที่โรงเรียนนี้เพื่อมาเข้าชมรมนี้โดยเฉพาะ อยากร่วมแสดงละครอันแสนวิเศษกับทุกคนในอนาคต เป้าหมายคือการได้ไปแสดงในศูนย์ศิลปะกรุงโซลครับ”
เกนซุคพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ราวกับว่าเขาพยายามจะย้ำให้ทุกคนเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดไป แทนที่มันจะฟังดูน่าหมั่นไส้ มารุกลับรับรู้ได้ถึงความหนักแน่นในน้ำเสียงของเด็กหนุ่ม เท่จริง ๆ ถึงเขาจะดูแตกต่างมาแต่แรกแล้วก็ตาม แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าเขามีความฝันแบบนั้น…
“เดี๋ยวนะเกนซุค มาโรงเรียนช่างเพราะอยากเข้าชมรมการแสดงเหรอ?”
“ครับ”
“ถามจริงดิ?”
“ครับ”
“ทำไมล่ะ? โรงเรียนอื่นก็มีชมรมการแสดงนะ”
“ผมอยากสัมผัสประสบการณ์ที่พี่ชายเคยได้พบเจอครับ”
“พี่ชาย?”
“ครับ”
ยูนจังคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะเดินไปทางชั้นวางหนังสือ ที่เก็บรวบรวมอัลบั้มของชมรมเอาไว้
“ต้องขอถามหน่อยล่ะ ใครเหรอ?” เธอเป็นคนประเภทที่ห้ามความสงสัยของตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ จริง ๆ เธอดูจะตื่นเต้นกว่าเก่าด้วยซ้ำ ร่าเริงกว่าเดิม ใช่ ร่าเริง
“ฮง เกนโซ จากรุ่นแรกครับ”
“…ว่าแล้วเชียว”
ชมรมดูครึกครื้นขึ้นมาทันทีที่ได้ยินชื่อนั้น ไม่แปลกหรอกที่จะเป็นแบบนั้น เพราะขนาดมารุยังรู้จักชื่อนี้เลย เขาคือคนที่รับบทบรรยายจากเรื่องมาโรเนียพาร์ค และหลังจากนั้นก็มีผู้กำกับมาทาบทามไปเล่นหนัง ในการแสดงครั้งแรกของเขา เขาได้รับผลตอบรับที่ค่อนข้างดี ถึงขนาดชนะรางวัลมาเลยด้วย หลังจากนั้นก็ผันตัวเองไปทำงานอยู่สายเพลงและดนตรีแทน
Comments