ข้ามเวลาล่าฝันบทที่ 26 1
ข้ามเวลาล่าฝัน! บทที่ 26 ตอนที่ 1
มารุจําไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขามาถึงโรงเรียนได้ยังไง ก่อนเขาจะทันรู้ตัว เขาก็มานั่งเหยียดในที่นั่งของตัวเองแล้ว โดจินเองก็นอนกรนอยู่ข้าง ๆ ที่ด้านหน้า เดมยังเองก็หมดสติไปเช่นกัน
“ตื่นได้แล้วเจ้าพวกโง่” ครูเดินเข้ามาพูด
ตอนนี้เป็นเวลาของวิชาลอจิกเกต มารุตื่นขึ้น พวกเขาต้องตื่นไปอีกสี่ชั่วโมง จนกว่าจะถึงพักเที่ยง เรื่องนั้นมันจะไหวแน่เหรอ?
‘ต้องตั้งใจเรียน…’
หนังตาของมารุนั้นเริ่มตกลงแทบจะทันที ชีวิต… มันไม่ง่ายเลยหากต้องการควบคุมชีวิตของตัวเอง
“รอดจนได้” โดจินกล่าว หลังจากคาบ 4 จบลง มารุก็ก้มหัวลงฟุบกับโต๊ะพร้อมกับพูดว่า ‘เวลางีบ’ กับตัวเอง
“พวกนายไหวไหม?” เดมยังหันมาถามเพื่อนทั้งสองคนเมื่อวานมิโซฝึกเขาอย่างหนักเป็นพิเศษ สั่งให้เขาวิ่งบ้าง กระโดดบ้าง ไปทั่วห้อง…
‘จริง ๆ เธออาจจะแค่อยากแกล้งให้เขาต้องทรมานก็ได้’
ขาของเขายังคงเจ็บปวด จนน่าจะลาพักวันนี้ไปเสียด้วยซ้ำ
“ฉันยังไหวหรอก แกล่ะ เดมยัง?”
“ฉัน?”
เดมยังชี้ลงไปที่ขาของตัวเอง มันสั่นอย่างหยุดไม่อยู่
“เรื่องนั้นน่ะนะ… ”
เด็กหนุ่มได้แต่ยิ้ม
“เฮ้อ”
“ฮ่า”
มารุและโดจินยืนประกบข้างเดมยัง พวกเขาพยายามจะช่วยเพื่อนให้เดินไปให้ถึงโรงอาหาร แถวที่โรงอาหารเริ่มยาวขึ้นแล้ว มารุเห็นนักเรียนปีหนึ่งหน้าตาคุ้น ๆ อยู่หลายคน พวกเขาต่างก้มลงนวดขาของตัวเอง
“เกนซุค” มารุตะโกนเรียก เด็กหนุ่มหันกลับมายิ้มให้
พวกเขารู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนร่วมสนามรบกันมา เด็กหนุ่มเกนซุคค่อนข้างเป็นคนยิ้มง่ายเลยเมื่ออยู่นอกชมรม เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าเขาจริงจังกับการแสดงมากแค่ไหน
‘แล้วฉันล่ะ?’
มันเป็นเวลากว่า 4 อาทิตย์แล้วที่เขากลับมายังชีวิตใหม่ครั้งนี้ เขาปรับตัวได้ค่อนข้างดี แต่ถ้าพูดให้ถูกคงต้องบอกว่าเขายอมรับชีวิตใหม่ได้ค่อนข้างดีมากกว่า เพราะการปรับตัวนั้นคือ การหลอมรวมตัวเองเข้ากับสิ่งใหม่ แต่เขาไม่สามารถจะทําแบบนั้นได้
มันช่วยไม่ได้หรอก เขายังคงเป็นตัวเขาในวัย 45 ปี ถึงเขาจะไม่สามารถจําชีวิตก่อนหน้าของเขาได้มากมายนัก แต่ประสบการณ์ต่าง ๆ ก็ยังคงฝังอยู่ในจิตใจเขา ในร่างของเด็กมัธยมปลายนี้มีจิตใจของชายวัน 45 ปีอยู่ เขา หันไปมองที่โดจินและเดมยัง ทั้งสองคนเป็นเพื่อนของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย แต่…ในความเป็นจริง เขาไม่ได้มองทั้งสองอย่างเท่าเทียม เขามองเห็นทั้งสองเป็นเด็กเล็ก ๆ ที่เขาต้องดูแล
มันเป็นเรื่องที่ไม่ดีรึเปล่า? เขาไม่รู้เลย เพราะเขาไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน แถมจะไปถามใครที่ได้ใช้ชีวิตที่สองก็คงไม่มี สุดท้าย เขาก็ต้องลองหาคําตอบด้วยตัวเอง มีแต่ต้องรอให้เขาอายุครบ 45 ปีอีกครั้งเท่านั้น เขาถึงจะสามารถตอบคําถามนี้ได้
“อ่า ใช้ชีวิตมาดีจริง ๆ”
หรือว่า…
“นี่ ไปกันเถอะ” โดจินโบกมือบอก แถวด้านหน้าของเขาขยับแล้ว
“ได้ ๆ”
ตอนนี้ เขามีแต่ต้องมุ่งหน้าต่อไป
คาบเรียนหมดลง มารุไม่สามารถจําได้เลยว่าวันนี้เขาได้เรียนเรื่องอะไรไปแล้วบ้าง หรือเขาทําอะไรไปบ้างในการเรียนวันนี้
“ฮ่าว” โดจินหาวพร้อมยึดบิดตัว “กลับกันเถอะ เดี๋ยวขากลับเลี้ยงมันฝรั่งทอดเอาไหม?”
“ฟังดูดี”
“เดมยังโว้ย กลับกัน”
เด็กหนุ่มที่นั่งแถวหน้าพยายามฝืนลุกขึ้นยืน
“เพื่อนเอ้ย เมื่อเช้าแกมาถึงโรงเรียนได้ยังไงวะ?”
“ก็ฉันไม่อยากโดนดุ ครูเขาน่ากลัวจะตาย เลยวิ่งมาสุดแรงน่ะ แฮะ ๆ”
โดจินถือกระเป๋าให้เดมยัง ทั้งสองคนเดินออกจากห้องไปพร้อมพูดถึงความเจ็บปวดที่ต้องเผชิญเมื่อคืนหลังกลับถึงบ้าน ขณะที่มารุกําลังจะเดินตามทั้งสองคนออกไป เขากลับได้ยินเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“นี่ ขอบุหรี่หน่อยดิวะ”
ไม่นานก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้น มารหันไปดู เขาเห็นฉางฮูและพ้องเพื่อนกําลังล้อมโต๊ะของโดวุคอยู่ ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนสนิทกันมาก แต่กลับกลายเป็นศัตรูกันภายในเวลาแค่ชั่วข้ามคืน
ฉางฮูและพรรคพวกดูท่าทางสดชื่นมาก เขาไม่มีสีหน้าท่าทางเหมือนคนที่กําลังกลั่นแกล้งคนอื่นอยู่เลย ราวกับว่าพวกเขาแค่ขอของจากเพื่อนเท่านั้น มารุไม่ชอบสีหน้าแบบนั้น พวกเด็กในกลุ่มบางคนแค่ทําตามฉางฮูต้อย ๆ โดยไม่ได้คิดอะไรเสียด้วยซ้ำ แค่เห็นคนแบบนั้นก็ทําให้มารุรู้สึกรําคาญอย่างบอกไม่ถูกแล้ว
“น่าเพื่อน แค่บุหรี่”
ฉางฮูเตะโต๊ะเบา ๆ โดวุคหันไปมองหน้าเด็กหนุ่มพร้อมกับกระซิบเบา ๆ ว่า ‘ไม่มี’
“ฮ่า ๆ ๆ งั้นก็บอกมาแต่แรกสิวะ จะทําท่ากลัวไปเพื่อ?”
ซองบุหรี่ตกลงบนโต๊ะของโดวุค
“นี่ เอาไปสูบแล้วเลิกทําตัวเป็นตุ๊ดทีเถอะ ขอล่ะนะ? แกน่ะเป็นคนดี ใช่ไหม? อย่าไปแกล้งมันเลยพวก เนอะ? มันเป็นคนดี”
เด็กรอบ ๆ ตัวฉางฮูต่างหัวเราะออกมาเบา ๆ
“โดวุค เราต้องสนิทกันไว้นะ เนอะ? พวกสาว ๆ ที่สวนก็เริ่มถามหาแกแล้ว นะเพื่อน รู้ใช่ไหมว่าต้องทํายังไง?”
ฉางฮูดันซองบุหรี่ไปให้โดวุคอีกครั้งก่อนจะเดินออกห้องไป
“ไว้เจอกันว่ะ”
มารุหันไปมองเด็กหนุ่มอย่างสงสัย
“อะไร?” ฉางฮูพูดขึ้น
“เปล่า”
“…ระวังแล้วกัน นะ?”
“ไม่เป็นไรหรอกเว้ย”
มารุตบหลังฉางฮูเบา ๆ ทําให้เด็กหนุ่มต้องหันกลับมาขู่ใส่ก่อนเดินออกไป เหล่าเด็กหนุ่มผู้ติดตามเองก็หันมาจ้องมองมารุก่อนจะเดินตามจ่าฝูงไป
Comments
ข้ามเวลาล่าฝันบทที่ 26 1
ข้ามเวลาล่าฝัน! บทที่ 26 ตอนที่ 1
มารุจําไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขามาถึงโรงเรียนได้ยังไง ก่อนเขาจะทันรู้ตัว เขาก็มานั่งเหยียดในที่นั่งของตัวเองแล้ว โดจินเองก็นอนกรนอยู่ข้าง ๆ ที่ด้านหน้า เดมยังเองก็หมดสติไปเช่นกัน
“ตื่นได้แล้วเจ้าพวกโง่” ครูเดินเข้ามาพูด
ตอนนี้เป็นเวลาของวิชาลอจิกเกต มารุตื่นขึ้น พวกเขาต้องตื่นไปอีกสี่ชั่วโมง จนกว่าจะถึงพักเที่ยง เรื่องนั้นมันจะไหวแน่เหรอ?
‘ต้องตั้งใจเรียน…’
หนังตาของมารุนั้นเริ่มตกลงแทบจะทันที ชีวิต… มันไม่ง่ายเลยหากต้องการควบคุมชีวิตของตัวเอง
“รอดจนได้” โดจินกล่าว หลังจากคาบ 4 จบลง มารุก็ก้มหัวลงฟุบกับโต๊ะพร้อมกับพูดว่า ‘เวลางีบ’ กับตัวเอง
“พวกนายไหวไหม?” เดมยังหันมาถามเพื่อนทั้งสองคนเมื่อวานมิโซฝึกเขาอย่างหนักเป็นพิเศษ สั่งให้เขาวิ่งบ้าง กระโดดบ้าง ไปทั่วห้อง…
‘จริง ๆ เธออาจจะแค่อยากแกล้งให้เขาต้องทรมานก็ได้’
ขาของเขายังคงเจ็บปวด จนน่าจะลาพักวันนี้ไปเสียด้วยซ้ำ
“ฉันยังไหวหรอก แกล่ะ เดมยัง?”
“ฉัน?”
เดมยังชี้ลงไปที่ขาของตัวเอง มันสั่นอย่างหยุดไม่อยู่
“เรื่องนั้นน่ะนะ… ”
เด็กหนุ่มได้แต่ยิ้ม
“เฮ้อ”
“ฮ่า”
มารุและโดจินยืนประกบข้างเดมยัง พวกเขาพยายามจะช่วยเพื่อนให้เดินไปให้ถึงโรงอาหาร แถวที่โรงอาหารเริ่มยาวขึ้นแล้ว มารุเห็นนักเรียนปีหนึ่งหน้าตาคุ้น ๆ อยู่หลายคน พวกเขาต่างก้มลงนวดขาของตัวเอง
“เกนซุค” มารุตะโกนเรียก เด็กหนุ่มหันกลับมายิ้มให้
พวกเขารู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนร่วมสนามรบกันมา เด็กหนุ่มเกนซุคค่อนข้างเป็นคนยิ้มง่ายเลยเมื่ออยู่นอกชมรม เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าเขาจริงจังกับการแสดงมากแค่ไหน
‘แล้วฉันล่ะ?’
มันเป็นเวลากว่า 4 อาทิตย์แล้วที่เขากลับมายังชีวิตใหม่ครั้งนี้ เขาปรับตัวได้ค่อนข้างดี แต่ถ้าพูดให้ถูกคงต้องบอกว่าเขายอมรับชีวิตใหม่ได้ค่อนข้างดีมากกว่า เพราะการปรับตัวนั้นคือ การหลอมรวมตัวเองเข้ากับสิ่งใหม่ แต่เขาไม่สามารถจะทําแบบนั้นได้
มันช่วยไม่ได้หรอก เขายังคงเป็นตัวเขาในวัย 45 ปี ถึงเขาจะไม่สามารถจําชีวิตก่อนหน้าของเขาได้มากมายนัก แต่ประสบการณ์ต่าง ๆ ก็ยังคงฝังอยู่ในจิตใจเขา ในร่างของเด็กมัธยมปลายนี้มีจิตใจของชายวัน 45 ปีอยู่ เขา หันไปมองที่โดจินและเดมยัง ทั้งสองคนเป็นเพื่อนของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย แต่…ในความเป็นจริง เขาไม่ได้มองทั้งสองอย่างเท่าเทียม เขามองเห็นทั้งสองเป็นเด็กเล็ก ๆ ที่เขาต้องดูแล
มันเป็นเรื่องที่ไม่ดีรึเปล่า? เขาไม่รู้เลย เพราะเขาไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน แถมจะไปถามใครที่ได้ใช้ชีวิตที่สองก็คงไม่มี สุดท้าย เขาก็ต้องลองหาคําตอบด้วยตัวเอง มีแต่ต้องรอให้เขาอายุครบ 45 ปีอีกครั้งเท่านั้น เขาถึงจะสามารถตอบคําถามนี้ได้
“อ่า ใช้ชีวิตมาดีจริง ๆ”
หรือว่า…
“นี่ ไปกันเถอะ” โดจินโบกมือบอก แถวด้านหน้าของเขาขยับแล้ว
“ได้ ๆ”
ตอนนี้ เขามีแต่ต้องมุ่งหน้าต่อไป
คาบเรียนหมดลง มารุไม่สามารถจําได้เลยว่าวันนี้เขาได้เรียนเรื่องอะไรไปแล้วบ้าง หรือเขาทําอะไรไปบ้างในการเรียนวันนี้
“ฮ่าว” โดจินหาวพร้อมยึดบิดตัว “กลับกันเถอะ เดี๋ยวขากลับเลี้ยงมันฝรั่งทอดเอาไหม?”
“ฟังดูดี”
“เดมยังโว้ย กลับกัน”
เด็กหนุ่มที่นั่งแถวหน้าพยายามฝืนลุกขึ้นยืน
“เพื่อนเอ้ย เมื่อเช้าแกมาถึงโรงเรียนได้ยังไงวะ?”
“ก็ฉันไม่อยากโดนดุ ครูเขาน่ากลัวจะตาย เลยวิ่งมาสุดแรงน่ะ แฮะ ๆ”
โดจินถือกระเป๋าให้เดมยัง ทั้งสองคนเดินออกจากห้องไปพร้อมพูดถึงความเจ็บปวดที่ต้องเผชิญเมื่อคืนหลังกลับถึงบ้าน ขณะที่มารุกําลังจะเดินตามทั้งสองคนออกไป เขากลับได้ยินเสียงดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“นี่ ขอบุหรี่หน่อยดิวะ”
ไม่นานก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้น มารหันไปดู เขาเห็นฉางฮูและพ้องเพื่อนกําลังล้อมโต๊ะของโดวุคอยู่ ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนสนิทกันมาก แต่กลับกลายเป็นศัตรูกันภายในเวลาแค่ชั่วข้ามคืน
ฉางฮูและพรรคพวกดูท่าทางสดชื่นมาก เขาไม่มีสีหน้าท่าทางเหมือนคนที่กําลังกลั่นแกล้งคนอื่นอยู่เลย ราวกับว่าพวกเขาแค่ขอของจากเพื่อนเท่านั้น มารุไม่ชอบสีหน้าแบบนั้น พวกเด็กในกลุ่มบางคนแค่ทําตามฉางฮูต้อย ๆ โดยไม่ได้คิดอะไรเสียด้วยซ้ำ แค่เห็นคนแบบนั้นก็ทําให้มารุรู้สึกรําคาญอย่างบอกไม่ถูกแล้ว
“น่าเพื่อน แค่บุหรี่”
ฉางฮูเตะโต๊ะเบา ๆ โดวุคหันไปมองหน้าเด็กหนุ่มพร้อมกับกระซิบเบา ๆ ว่า ‘ไม่มี’
“ฮ่า ๆ ๆ งั้นก็บอกมาแต่แรกสิวะ จะทําท่ากลัวไปเพื่อ?”
ซองบุหรี่ตกลงบนโต๊ะของโดวุค
“นี่ เอาไปสูบแล้วเลิกทําตัวเป็นตุ๊ดทีเถอะ ขอล่ะนะ? แกน่ะเป็นคนดี ใช่ไหม? อย่าไปแกล้งมันเลยพวก เนอะ? มันเป็นคนดี”
เด็กรอบ ๆ ตัวฉางฮูต่างหัวเราะออกมาเบา ๆ
“โดวุค เราต้องสนิทกันไว้นะ เนอะ? พวกสาว ๆ ที่สวนก็เริ่มถามหาแกแล้ว นะเพื่อน รู้ใช่ไหมว่าต้องทํายังไง?”
ฉางฮูดันซองบุหรี่ไปให้โดวุคอีกครั้งก่อนจะเดินออกห้องไป
“ไว้เจอกันว่ะ”
มารุหันไปมองเด็กหนุ่มอย่างสงสัย
“อะไร?” ฉางฮูพูดขึ้น
“เปล่า”
“…ระวังแล้วกัน นะ?”
“ไม่เป็นไรหรอกเว้ย”
มารุตบหลังฉางฮูเบา ๆ ทําให้เด็กหนุ่มต้องหันกลับมาขู่ใส่ก่อนเดินออกไป เหล่าเด็กหนุ่มผู้ติดตามเองก็หันมาจ้องมองมารุก่อนจะเดินตามจ่าฝูงไป
Comments