ข้าคือหงส์พันปี 694 งั้นท่านแม่ของข้า คืนนี้ก็ปล่อยเป็นหน้าที่ของท่านดูแล

Now you are reading ข้าคือหงส์พันปี Chapter 694 งั้นท่านแม่ของข้า คืนนี้ก็ปล่อยเป็นหน้าที่ของท่านดูแล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จักรพรรดิเป่ยเซี่ยดูแข็งทื่อ จ้องไปที่ซูเซียนและตรัสว่า “เจ้าตัวน้อยนี่ถูกส่งมาแย่งลูกชายของข้างั้นหรือ? ยังเด็กยังเล็กแท้ ๆ แต่กลับมีกลอุบายมากนัก”

ซูเซี่ยนเล่นหมากรุกต่อไปอย่างสบาย ๆ และกล่าวว่า “ฝ่าบาทยังจะเล่นหมากรุกอีกไหมพ่ะย่ะค่ะ?”

จักรพรรดิเป่ยเซี่ยไม่สามารถทำอะไรเขาได้ เอาเถอะ พอเถอะ สามารถทำให้หลานชายที่รักอยู่กับพระองค์ได้ในคืนนี้ก็ควรต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยน เด็กคนนี้ฉลาดหลักแหลมเสียจริง ตั้งแต่ที่เขามาถึงที่นี่ เขาก็มีแผนการไว้ตลอดเวลา

ไม่ง่ายเลยที่เขาจะสงบสติอารมณ์และใช้เวลาทั้งวันกับพระองค์ที่นี่ได้

จักรพรรดิเป่ยเซี่ยคิดว่า ต่อให้ออกคำสั่งห้ามไม่ให้ซูเจ๋อพักค้างคืนที่เรือนของเฉินเสียน ก็ไม่แน่เสมอไปที่จะขัดขวางได้ เรื่องอย่างว่าของผู้หญิงผู้ชายพระองค์ไม่สามารถกำหนดได้ ขอเพียงแค่เฉินเสียนไม่นำตัวลูกของเธอหนีพระองค์ไปก็พอแล้ว

จักรพรรดิเป่ยเซี่ยคิดไปเองว่า ที่พระองค์ทำแบบนี้ก็ถือว่าทรงพระทัยดีมากแล้ว แต่มองยังไงก็รู้สึกเหมือนลูกชายตัวเองจะเสียเปรียบ

จักรพรรดิเป่ยเซี่ยตรัสกับซูเซี่ยนว่า “ทำไมเจ้าถึงตัดสินใจทำแบบนี้แทนท่านแม่ของเจ้าล่ะ สนมในวังหลังของท่านแม่ของเจ้ามีตั้งเยอะ และไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นท่านพ่อของเจ้าเท่านั้น หากท่านแม่ของเจ้าต้องการคนดูแล ก็สามารถไปหาเหล่าชายหนุ่มรูปงามนั้นได้”

สีหน้าของซูเซี่ยนดูเย็นชาเล็กน้อยและกล่าวว่า “ท่านแม่รู้จักปฏิเสธอย่างเคร่งครัด บริสุทธิ์และรักตัวของท่านแม่เอง และโปรดอย่าประเมินท่านแม่ของกระหม่อมต่ำเกินไป ไม่เช่นนั้นกระหม่อมจะยุ่งเกี่ยวกับฝ่าบาท ฝ่าบาทไม่มีความเคารพในตัวเด็ก งั้นก็อย่าหวังว่าเด็กจะเคารพในตัวฝ่าบาท”

จักรพรรดิเป่ยเซี่ยตรัส “ข้าดูถูกท่านแม่ของเจ้าหรือ เป็นเพราะท่านแม่ของเจ้าพาชายรูปงามเหล่านั้นมาต่างหาก ก็ไม่แปลกที่คนอื่นจะดูถูกท่านแม่ของเจ้า”

“สนมเหล่านั้นกระหม่อมเป็นคนช่วยท่านแม่หามาเอง ไม่เคยเจอหน้ากัน ท่านแม่ไม่รู้จักพวกเขาด้วยซ้ำ”

จักรพรรดิเป่ยเซี่ยประหลาดใจมาก และตระหนักถึงความตั้งใจของซูเซี่ยนที่จะทำเช่นนี้ แต่พระองค์ก็ยังไม่ค่อยมั่นใจนักและกล่าวว่า “ต่อให้สนมเหล่านั้นเป็นเรื่องโกหก แต่องคชายหกแห่งเย่เหลียงคงไม่ใช่เรื่องโกหกใช่ไหม เขาเป็นสนมในวังหลังของท่านแม่ของเจ้าจริง ๆ”

ซูเซี่ยนกล่าว “ท่านแม่ของกระหม่อมและเขาไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ กัน ไม่ว่าตอนอยู่ข้างนอกจะต้องเสแสร้งมากมายเพียงใด แต่ในใจของท่านแม่ก็มีเพียงท่านพ่อเพียงคนเดียว กระหม่อมจะไม่ยอมให้ฝ่าบาทดูถูกท่านแม่ของกระหม่อม”

จักรพรรดิเป่ยเซี่ยนิ่งเงียบ

ในฐานะจักรพรรดิ เขาสามารถปกป้องเฉพาะสิ่งที่เขารักเท่านั้น รักคนคนเดียวไปตลอดชีวิต และละเลยผู้อ่อนแอสามพันคนได้หรือไม่?

เฉินเสียนยังเด็กมาก และเธออาจต้องประสบกับความสิ้นหวังของจักรพรรดิมากมายในอนาคต แต่เธอยังคงไม่ยอมแพ้ ยึดมั่นต่อความรักในใจ ซึ่งทำให้จักรพรรดิเป่ยเซี่ยประหลาดใจ

ในตอนแรก องค์ชายหกแห่งเย่เหลียงได้รับอนุญาตให้เข้าไปในวัง อาจจะเป็นเพราะเรื่องผลประโยชน์ แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เธอไม่เคยมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนมากเกินไป และเธอจะไม่มีวันชดเชยความว่างเปล่าและความเหงาของเธอ

ไม่ต้องพูดถึงจักรพรรดิ แม้แต่คนธรรมดาก็แทบจะไม่สามารถยึดติดได้เท่าเธอขนาดนี้

และก็ไม่น่าแปลกใจที่ผู้หญิงอย่างเธอเท่านั้นที่สามารถสอนเสี่ยวอาเซี่ยนให้เป็นอิสระและมีเหตุผล

ในท้ายที่สุด จักรพรรดิเป่ยเซียก็ถอนหายใจเล็กน้อยและตรัสว่า “เจ้าหนูน้อย คิดจริงจังไปได้ เอาล่ะ เอาล่ะ ต่อไปข้าไม่ดูถูกท่านแม่ของเจ้าก็ได้”

หลังจากที่เหล่าชายรูปงามย้ายออกไปจากราชนิเวศน์ เย่ซวิ่นก็อาศัยอยู่คนเดียวในเรือนอันกว้างขวาง วันนี้ทั้งวันก็รู้สึกเบื่อหน่าย

ภายในเรือนไม่เพียงแต่มีองครักษ์วังหลวงของเฉินเสียนที่คอยดูแลความปลอดภัยของเขาเท่านั้น ยังมีคนของซูเจ๋อที่คอยเฝ้าสังเกตเขา หากเขาคิดจะไปรบกวนเฉินเสียนอีก ก็คงไม่ง่ายอีกต่อไป

อดหลับอดนอนมาหลายวันก่อนหน้านี้จนชินแล้ว  เดิมทีคิดว่าหลังจากที่ซูเจ๋อเรียกตัวชายคนที่แขนเคล็ดไปสอบปากคำ ได้รู้ว่าเฉินเสียนและเย่ซวิ่นมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาจะเริ่มทำตัวออกห่างจากเฉินเสียน เพราะไม่มีผู้ชายคนไหนอยากให้ผู้หญิงกลายเป็นชู้กับผู้ชายคนอื่น

แต่สิ่งที่ทำให้เย่ซวิ่นรู้สึกโกรธคือ ซูเจ๋อไม่ได้ทำตัวออกห่างจากเฉินเสียนเลย และไม่มีทั้งอารมณ์โกรธ โมโหหรือเข้าใจผิดแม้แต่น้อย เขาอดทนได้ขนาดนี้ ทำเหมือนกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นยังไงยังงั้น ได้ยินมาว่าวันนี้ตอนกลางวันเขาก็ยังคงไปที่เฉินเสียน และยังอยู่กับเธอตลอดทั้งวัน

เย่ซวิ่นโกรธมาก เขาคิดว่าซูเจ๋อเป็นคนที่ระมัดระวังและอาจไม่เชื่อในสิ่งที่คนอื่นพูดอย่างเต็มที่ เขาต้องหาเวลาให้เขาเห็นด้วยตาของเขาเองก่อนจึงจะสามารถขับไล่เขาได้อย่างสมบูรณ์

เย่ซวิ่นรู้ดีว่าเขาต้องการจะได้ใจของเฉินเสียน แม้ว่าเฉินเสียนจะไม่รักเขา ตราบใดที่เขาเป็นผู้ชายคนเดียวในวังหลัง ก็มีเพียงเขาเท่านั้นที่อยู่กับเธอได้บ่อย ๆ

และอีกปัจจัยที่สำคัญมากคือตัวตนของซูเจ๋อ

ตอนนี้ซูเจ๋อเป็นองค์ชายของเป่ยเซี่ย หากต่อไปเขาจะเป็นเหมือนเย่ซวิ่นที่ต้องเข้าไปอยู่ในวังหลังของอาณาจักรต้าฉู่ จะทำให้สถานการณ์ปัจจุบันที่เย่เหลียงและต้าฉู่กำลังเป็นฝ่ายได้เปรียบเป่ยเซี่ยนั้นพังลง และกลับไปสู่ความสมดุลดั้งเดิมที่เท่ากัน นั่นจะไม่เป็นผลดีต่อเย่เหลียง

ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างต้าฉู่และเป่ยเซี่ยควรจะแข็งที่สุด และความสัมพันธ์ระหว่างเฉินเสียนและซูเจ๋อก็ควรจะแข็งที่สุด หากทำให้ทั้งสองตัดขาดจากกันได้ในที่สุด ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก ก็เท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

คืนนี้ไม่มีพระจันทร์ และกลางคืนก็มืดมิด เย่ซวิ่นได้ยินมาว่า ซูเซี่ยนไปที่จักรพรรดิเป่ยเซี่ยตลอดทั้งวัน และหลังจากค่ำ ซูเจ๋อไปที่ที่จักรพรรดิเป่ยเซี่ยเพื่อนำซูเซี่ยนกลับมา

นี่เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมสำหรับเย่ซวิ่น

หลังจากที่ซูเจ๋อออกมาจากที่จักรพรรดิเป่ยเซี่ยน ก่อนที่เขาจะมาถึงเรือนของเฉินเสียน องครักษ์ก็รีบวิ่งเข้าไปรายงานเรื่องสำคัญ

ภายในราชนิเวศน์มีองครักษ์หลวงอยู่ จักรพรรดิเป่ยเซี่ยได้มอบบางส่วนสำคัญให้ซูเจ๋อ ให้เขาจัดการตามความประสงค์ เพื่อปกป้องความปลอดภัยของเขา

องครักษ์หลวงนี้เป็นคนที่เขาจัดวางกำลังไว้บนเรือของเฉินเสียนตั้งแต่เรือของเธอมาถึง

แรกเริ่มจักรพรรดิเป่ยเซี่ยออกประกาศแจ้งคนทั้งเมือง ดังนั้นผู้คนในเมืองชิงไห่จึงทราบกันดีเกี่ยวกับการมาเยือนของจักรพรรดิต้าฉู่ และข่าวก็แพร่สะพัดออกไป หากมีคนไม่ดีที่คิดเอาเปรียบหรือทำร้ายจักรพรรดิต้าฉู่หรือองค์รัชทายาท และหากไม่สะดวกที่จะลงมือในราชนิเวศน์ พวกเขาอาจจะหาวิธีขึ้นไปจัดการลงมือบนเรือ

เมื่อเห็นใบหน้าที่จริงจังของเขา ซูเจ๋อก็ขมวดคิ้วและกล่าวว่า “เกิดอะไรขึ้น”

องครักษ์หลวงกล่าว “ที่ท่านอ๋องสั่งให้ข้าน้อยเฝ้าจับตาดู เป็นไปตามที่ท่านอ๋องคาดไว้ไม่ผิด ในที่สุดคืนนี้ก็พบสิ่งผิดปกติ มีคนแอบเข้ามาบนเรือ ปลอมเป็นช่างซ่อมบำรุงเรือ และแอบทำลายโครงสร้างของเรือในช่วงจังหวะที่ไม่มีคน ตอนนี้คนของข้าน้อยพบเห็น พวกเขากำลังทุบใต้ท้องเรือที่อยู่ในห้องโดยสาร เมื่อเรือทอดสมออยู่ที่ฝั่งจะดูไม่มีความผิดปกติ แต่ผลที่ตามมาคาดเดาได้ยากเมื่อออกทะเลไป สันนิษฐานว่า พวกเขาคงต้องการให้เกิดอุบัติเหตุเรืออับปางหลังจากจักรพรรดิต้าฉู่และองค์รัชทายาทออกเรือไปกลางทะเลพ่ะย่ะค่ะ”

ซูเจ๋อถาม “จับคนร้ายได้ไหม”

องครักษ์หลวงกล่าว “จับได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ ทั้งหมดห้าคน ไม่มีใครหนีไปได้พ่ะย่ะค่ะ”

“คนบงการล่ะ ยอมรับหรือยัง?”

“ยังพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยรีบมากราบทูลรายงานท่านอ๋อง รอให้ท่านอ๋องไปสอบสวน” หยุดไปพักหนึ่ง องครักษ์หลวงก็กล่าวอีกว่า “ต้องนำเรื่องนี้กราบทูลรายงานฝ่าบาทไหมพ่ะย่ะค่ะ?”

ซูเจ๋อเดินผ่านเขาไป และในคืนกลางฤดูร้อน ลมหนาวก็พัดหายไป และเขาพูดเบา ๆ ว่า “หากกราบทูลรายงานไปเวลานี้ จะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น เรื่องนี้ปล่อยเป็นหน้าที่ของข้าตัดสินใจ รอให้จัดการเรื่องนี้ให้เสร็จค่อยกราบทูลรายงานก็ยังไม่สาย”

องครักษ์หลวงจึงรีบออกไปพร้อมกับซูเจ๋อ

เวลานี้ซูเจ๋อไม่มีเวลาไปอยู่กับเฉินเสียนในเรือนแล้ว หากเรื่องนี้จัดการได้เร็ว หากเขากลับมาได้ทันตอนกลางคืนขอแค่ไม่รบกวนเวลาฝันของเธอ

เมื่อซูเจ๋อนึกถึงเฉินเสียน ไม่ว่าหัวใจของเขาจะยากแค่ไหน เขาจะเพิ่มความอ่อนโยนลงไป

เดิมทีซูเจ๋อต้องการให้นางกำนัลเข้ามาบอกกับเฉินเสียน เพื่อไม่ให้เธอรอ

แต่หลังจากที่เดินออกมาได้ไม่นาน ก็มีองครักษ์หลวงอีกหนึ่งคนวิ่งเข้ามา จนใกล้เข้ามาถึงข้างหน้า ด้วยความหอบเหนื่อยและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง องค์ชายหกแห่งเย่เหลียงแอบออกจากเรือนในจังหวะที่ข้าน้อยเผลอ และเดินไปทางเรือนของจักรพรรดิต้าฉู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

จะพยายามเร่งใหจบภายในสัปดาห์นี้ค่ะ ผู้เขียนมีเรื่องใหม่ที่เตรียมตัวจะลงอีก ฝากติดตามด้วยนะคะ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ข้าคือหงส์พันปี 694 งั้นท่านแม่ของข้า คืนนี้ก็ปล่อยเป็นหน้าที่ของท่านดูแล

Now you are reading ข้าคือหงส์พันปี Chapter 694 งั้นท่านแม่ของข้า คืนนี้ก็ปล่อยเป็นหน้าที่ของท่านดูแล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

จักรพรรดิเป่ยเซี่ยดูแข็งทื่อ จ้องไปที่ซูเซียนและตรัสว่า “เจ้าตัวน้อยนี่ถูกส่งมาแย่งลูกชายของข้างั้นหรือ? ยังเด็กยังเล็กแท้ ๆ แต่กลับมีกลอุบายมากนัก”

ซูเซี่ยนเล่นหมากรุกต่อไปอย่างสบาย ๆ และกล่าวว่า “ฝ่าบาทยังจะเล่นหมากรุกอีกไหมพ่ะย่ะค่ะ?”

จักรพรรดิเป่ยเซี่ยไม่สามารถทำอะไรเขาได้ เอาเถอะ พอเถอะ สามารถทำให้หลานชายที่รักอยู่กับพระองค์ได้ในคืนนี้ก็ควรต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยน เด็กคนนี้ฉลาดหลักแหลมเสียจริง ตั้งแต่ที่เขามาถึงที่นี่ เขาก็มีแผนการไว้ตลอดเวลา

ไม่ง่ายเลยที่เขาจะสงบสติอารมณ์และใช้เวลาทั้งวันกับพระองค์ที่นี่ได้

จักรพรรดิเป่ยเซี่ยคิดว่า ต่อให้ออกคำสั่งห้ามไม่ให้ซูเจ๋อพักค้างคืนที่เรือนของเฉินเสียน ก็ไม่แน่เสมอไปที่จะขัดขวางได้ เรื่องอย่างว่าของผู้หญิงผู้ชายพระองค์ไม่สามารถกำหนดได้ ขอเพียงแค่เฉินเสียนไม่นำตัวลูกของเธอหนีพระองค์ไปก็พอแล้ว

จักรพรรดิเป่ยเซี่ยคิดไปเองว่า ที่พระองค์ทำแบบนี้ก็ถือว่าทรงพระทัยดีมากแล้ว แต่มองยังไงก็รู้สึกเหมือนลูกชายตัวเองจะเสียเปรียบ

จักรพรรดิเป่ยเซี่ยตรัสกับซูเซี่ยนว่า “ทำไมเจ้าถึงตัดสินใจทำแบบนี้แทนท่านแม่ของเจ้าล่ะ สนมในวังหลังของท่านแม่ของเจ้ามีตั้งเยอะ และไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นท่านพ่อของเจ้าเท่านั้น หากท่านแม่ของเจ้าต้องการคนดูแล ก็สามารถไปหาเหล่าชายหนุ่มรูปงามนั้นได้”

สีหน้าของซูเซี่ยนดูเย็นชาเล็กน้อยและกล่าวว่า “ท่านแม่รู้จักปฏิเสธอย่างเคร่งครัด บริสุทธิ์และรักตัวของท่านแม่เอง และโปรดอย่าประเมินท่านแม่ของกระหม่อมต่ำเกินไป ไม่เช่นนั้นกระหม่อมจะยุ่งเกี่ยวกับฝ่าบาท ฝ่าบาทไม่มีความเคารพในตัวเด็ก งั้นก็อย่าหวังว่าเด็กจะเคารพในตัวฝ่าบาท”

จักรพรรดิเป่ยเซี่ยตรัส “ข้าดูถูกท่านแม่ของเจ้าหรือ เป็นเพราะท่านแม่ของเจ้าพาชายรูปงามเหล่านั้นมาต่างหาก ก็ไม่แปลกที่คนอื่นจะดูถูกท่านแม่ของเจ้า”

“สนมเหล่านั้นกระหม่อมเป็นคนช่วยท่านแม่หามาเอง ไม่เคยเจอหน้ากัน ท่านแม่ไม่รู้จักพวกเขาด้วยซ้ำ”

จักรพรรดิเป่ยเซี่ยประหลาดใจมาก และตระหนักถึงความตั้งใจของซูเซี่ยนที่จะทำเช่นนี้ แต่พระองค์ก็ยังไม่ค่อยมั่นใจนักและกล่าวว่า “ต่อให้สนมเหล่านั้นเป็นเรื่องโกหก แต่องคชายหกแห่งเย่เหลียงคงไม่ใช่เรื่องโกหกใช่ไหม เขาเป็นสนมในวังหลังของท่านแม่ของเจ้าจริง ๆ”

ซูเซี่ยนกล่าว “ท่านแม่ของกระหม่อมและเขาไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ กัน ไม่ว่าตอนอยู่ข้างนอกจะต้องเสแสร้งมากมายเพียงใด แต่ในใจของท่านแม่ก็มีเพียงท่านพ่อเพียงคนเดียว กระหม่อมจะไม่ยอมให้ฝ่าบาทดูถูกท่านแม่ของกระหม่อม”

จักรพรรดิเป่ยเซี่ยนิ่งเงียบ

ในฐานะจักรพรรดิ เขาสามารถปกป้องเฉพาะสิ่งที่เขารักเท่านั้น รักคนคนเดียวไปตลอดชีวิต และละเลยผู้อ่อนแอสามพันคนได้หรือไม่?

เฉินเสียนยังเด็กมาก และเธออาจต้องประสบกับความสิ้นหวังของจักรพรรดิมากมายในอนาคต แต่เธอยังคงไม่ยอมแพ้ ยึดมั่นต่อความรักในใจ ซึ่งทำให้จักรพรรดิเป่ยเซี่ยประหลาดใจ

ในตอนแรก องค์ชายหกแห่งเย่เหลียงได้รับอนุญาตให้เข้าไปในวัง อาจจะเป็นเพราะเรื่องผลประโยชน์ แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เธอไม่เคยมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนมากเกินไป และเธอจะไม่มีวันชดเชยความว่างเปล่าและความเหงาของเธอ

ไม่ต้องพูดถึงจักรพรรดิ แม้แต่คนธรรมดาก็แทบจะไม่สามารถยึดติดได้เท่าเธอขนาดนี้

และก็ไม่น่าแปลกใจที่ผู้หญิงอย่างเธอเท่านั้นที่สามารถสอนเสี่ยวอาเซี่ยนให้เป็นอิสระและมีเหตุผล

ในท้ายที่สุด จักรพรรดิเป่ยเซียก็ถอนหายใจเล็กน้อยและตรัสว่า “เจ้าหนูน้อย คิดจริงจังไปได้ เอาล่ะ เอาล่ะ ต่อไปข้าไม่ดูถูกท่านแม่ของเจ้าก็ได้”

หลังจากที่เหล่าชายรูปงามย้ายออกไปจากราชนิเวศน์ เย่ซวิ่นก็อาศัยอยู่คนเดียวในเรือนอันกว้างขวาง วันนี้ทั้งวันก็รู้สึกเบื่อหน่าย

ภายในเรือนไม่เพียงแต่มีองครักษ์วังหลวงของเฉินเสียนที่คอยดูแลความปลอดภัยของเขาเท่านั้น ยังมีคนของซูเจ๋อที่คอยเฝ้าสังเกตเขา หากเขาคิดจะไปรบกวนเฉินเสียนอีก ก็คงไม่ง่ายอีกต่อไป

อดหลับอดนอนมาหลายวันก่อนหน้านี้จนชินแล้ว  เดิมทีคิดว่าหลังจากที่ซูเจ๋อเรียกตัวชายคนที่แขนเคล็ดไปสอบปากคำ ได้รู้ว่าเฉินเสียนและเย่ซวิ่นมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาจะเริ่มทำตัวออกห่างจากเฉินเสียน เพราะไม่มีผู้ชายคนไหนอยากให้ผู้หญิงกลายเป็นชู้กับผู้ชายคนอื่น

แต่สิ่งที่ทำให้เย่ซวิ่นรู้สึกโกรธคือ ซูเจ๋อไม่ได้ทำตัวออกห่างจากเฉินเสียนเลย และไม่มีทั้งอารมณ์โกรธ โมโหหรือเข้าใจผิดแม้แต่น้อย เขาอดทนได้ขนาดนี้ ทำเหมือนกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นยังไงยังงั้น ได้ยินมาว่าวันนี้ตอนกลางวันเขาก็ยังคงไปที่เฉินเสียน และยังอยู่กับเธอตลอดทั้งวัน

เย่ซวิ่นโกรธมาก เขาคิดว่าซูเจ๋อเป็นคนที่ระมัดระวังและอาจไม่เชื่อในสิ่งที่คนอื่นพูดอย่างเต็มที่ เขาต้องหาเวลาให้เขาเห็นด้วยตาของเขาเองก่อนจึงจะสามารถขับไล่เขาได้อย่างสมบูรณ์

เย่ซวิ่นรู้ดีว่าเขาต้องการจะได้ใจของเฉินเสียน แม้ว่าเฉินเสียนจะไม่รักเขา ตราบใดที่เขาเป็นผู้ชายคนเดียวในวังหลัง ก็มีเพียงเขาเท่านั้นที่อยู่กับเธอได้บ่อย ๆ

และอีกปัจจัยที่สำคัญมากคือตัวตนของซูเจ๋อ

ตอนนี้ซูเจ๋อเป็นองค์ชายของเป่ยเซี่ย หากต่อไปเขาจะเป็นเหมือนเย่ซวิ่นที่ต้องเข้าไปอยู่ในวังหลังของอาณาจักรต้าฉู่ จะทำให้สถานการณ์ปัจจุบันที่เย่เหลียงและต้าฉู่กำลังเป็นฝ่ายได้เปรียบเป่ยเซี่ยนั้นพังลง และกลับไปสู่ความสมดุลดั้งเดิมที่เท่ากัน นั่นจะไม่เป็นผลดีต่อเย่เหลียง

ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างต้าฉู่และเป่ยเซี่ยควรจะแข็งที่สุด และความสัมพันธ์ระหว่างเฉินเสียนและซูเจ๋อก็ควรจะแข็งที่สุด หากทำให้ทั้งสองตัดขาดจากกันได้ในที่สุด ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก ก็เท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

คืนนี้ไม่มีพระจันทร์ และกลางคืนก็มืดมิด เย่ซวิ่นได้ยินมาว่า ซูเซี่ยนไปที่จักรพรรดิเป่ยเซี่ยตลอดทั้งวัน และหลังจากค่ำ ซูเจ๋อไปที่ที่จักรพรรดิเป่ยเซี่ยเพื่อนำซูเซี่ยนกลับมา

นี่เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมสำหรับเย่ซวิ่น

หลังจากที่ซูเจ๋อออกมาจากที่จักรพรรดิเป่ยเซี่ยน ก่อนที่เขาจะมาถึงเรือนของเฉินเสียน องครักษ์ก็รีบวิ่งเข้าไปรายงานเรื่องสำคัญ

ภายในราชนิเวศน์มีองครักษ์หลวงอยู่ จักรพรรดิเป่ยเซี่ยได้มอบบางส่วนสำคัญให้ซูเจ๋อ ให้เขาจัดการตามความประสงค์ เพื่อปกป้องความปลอดภัยของเขา

องครักษ์หลวงนี้เป็นคนที่เขาจัดวางกำลังไว้บนเรือของเฉินเสียนตั้งแต่เรือของเธอมาถึง

แรกเริ่มจักรพรรดิเป่ยเซี่ยออกประกาศแจ้งคนทั้งเมือง ดังนั้นผู้คนในเมืองชิงไห่จึงทราบกันดีเกี่ยวกับการมาเยือนของจักรพรรดิต้าฉู่ และข่าวก็แพร่สะพัดออกไป หากมีคนไม่ดีที่คิดเอาเปรียบหรือทำร้ายจักรพรรดิต้าฉู่หรือองค์รัชทายาท และหากไม่สะดวกที่จะลงมือในราชนิเวศน์ พวกเขาอาจจะหาวิธีขึ้นไปจัดการลงมือบนเรือ

เมื่อเห็นใบหน้าที่จริงจังของเขา ซูเจ๋อก็ขมวดคิ้วและกล่าวว่า “เกิดอะไรขึ้น”

องครักษ์หลวงกล่าว “ที่ท่านอ๋องสั่งให้ข้าน้อยเฝ้าจับตาดู เป็นไปตามที่ท่านอ๋องคาดไว้ไม่ผิด ในที่สุดคืนนี้ก็พบสิ่งผิดปกติ มีคนแอบเข้ามาบนเรือ ปลอมเป็นช่างซ่อมบำรุงเรือ และแอบทำลายโครงสร้างของเรือในช่วงจังหวะที่ไม่มีคน ตอนนี้คนของข้าน้อยพบเห็น พวกเขากำลังทุบใต้ท้องเรือที่อยู่ในห้องโดยสาร เมื่อเรือทอดสมออยู่ที่ฝั่งจะดูไม่มีความผิดปกติ แต่ผลที่ตามมาคาดเดาได้ยากเมื่อออกทะเลไป สันนิษฐานว่า พวกเขาคงต้องการให้เกิดอุบัติเหตุเรืออับปางหลังจากจักรพรรดิต้าฉู่และองค์รัชทายาทออกเรือไปกลางทะเลพ่ะย่ะค่ะ”

ซูเจ๋อถาม “จับคนร้ายได้ไหม”

องครักษ์หลวงกล่าว “จับได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ ทั้งหมดห้าคน ไม่มีใครหนีไปได้พ่ะย่ะค่ะ”

“คนบงการล่ะ ยอมรับหรือยัง?”

“ยังพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยรีบมากราบทูลรายงานท่านอ๋อง รอให้ท่านอ๋องไปสอบสวน” หยุดไปพักหนึ่ง องครักษ์หลวงก็กล่าวอีกว่า “ต้องนำเรื่องนี้กราบทูลรายงานฝ่าบาทไหมพ่ะย่ะค่ะ?”

ซูเจ๋อเดินผ่านเขาไป และในคืนกลางฤดูร้อน ลมหนาวก็พัดหายไป และเขาพูดเบา ๆ ว่า “หากกราบทูลรายงานไปเวลานี้ จะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น เรื่องนี้ปล่อยเป็นหน้าที่ของข้าตัดสินใจ รอให้จัดการเรื่องนี้ให้เสร็จค่อยกราบทูลรายงานก็ยังไม่สาย”

องครักษ์หลวงจึงรีบออกไปพร้อมกับซูเจ๋อ

เวลานี้ซูเจ๋อไม่มีเวลาไปอยู่กับเฉินเสียนในเรือนแล้ว หากเรื่องนี้จัดการได้เร็ว หากเขากลับมาได้ทันตอนกลางคืนขอแค่ไม่รบกวนเวลาฝันของเธอ

เมื่อซูเจ๋อนึกถึงเฉินเสียน ไม่ว่าหัวใจของเขาจะยากแค่ไหน เขาจะเพิ่มความอ่อนโยนลงไป

เดิมทีซูเจ๋อต้องการให้นางกำนัลเข้ามาบอกกับเฉินเสียน เพื่อไม่ให้เธอรอ

แต่หลังจากที่เดินออกมาได้ไม่นาน ก็มีองครักษ์หลวงอีกหนึ่งคนวิ่งเข้ามา จนใกล้เข้ามาถึงข้างหน้า ด้วยความหอบเหนื่อยและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง องค์ชายหกแห่งเย่เหลียงแอบออกจากเรือนในจังหวะที่ข้าน้อยเผลอ และเดินไปทางเรือนของจักรพรรดิต้าฉู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

จะพยายามเร่งใหจบภายในสัปดาห์นี้ค่ะ ผู้เขียนมีเรื่องใหม่ที่เตรียมตัวจะลงอีก ฝากติดตามด้วยนะคะ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+