ท่านประธานที่รัก 241 ความหวังพังทลาย

Now you are reading ท่านประธานที่รัก Chapter 241 ความหวังพังทลาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เถียนเถียนสีหน้าไม่เปลี่ยน

“ แม้ว่าฉันจะชื่นชมเฉินเฉียวที่หลังจากบาดเจ็บยังทิ้งหลักฐานไว้ให้คุณ แต่ว่าฉันอยากจะคุณก็คือ เมื่อวาน วันนี้ฉันไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลเลย ในกล้องวงจรปิดทั้งโรงพยาบาลก็จับฉันอยู่ ไม่ได้ออกไปไหน ถ้าไม่เชื่อคุณก็ไปตรวจสอบได้เลย "

ดูเหมือนเธอจะหมดความหวังที่มีต่อเขาและคำเรียกเขาก็เปลี่ยนไป

น้ำเสียงยิ่งแข็งกร้าว

ซังหลินจวินมองไปที่เธอเป็นเวลานานราวกับว่าพยายามเค้นคนตรงหน้าอย่างละเอียด

เขาเลิกเปลือกตาขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มเป็นเวลานาน

เขาคิดผิด

เขาคิดว่าเถียนเถียนในตอนนี้ก็ยังคงเป็นผู้หญิงที่ตกอยู่ในกำมือเขาเหมือนเดิม แต่คิดไม่ถึงว่า เธอที่เก็บซ่อนควานอ่อนโยนนั้น เป็นเหมือนศัตรูที่แข็งแกร่ง

แต่เขาก็ยังคงไม่พอใจกับเธอ

ซังหลินจวินไม่ต้องการคุยกับเธออย่างลับๆเขาบีบข้อมือเธอแรงๆ ราบกับว่าจะให้ข้อมือเธอหัก

เขาพูดอย่างเย็นชา: "บอกผมมาว่าเฉินเฉียวอยู่ที่ไหน"

คุณมันน่าสงสารจริงๆจู่ๆเถียนเถียนก็ก้าวเข้ามาใกล้เขาเมื่อทั้งสองคนเสื้อผ้าแนบชิดติดกัน เธอมองเขาและพูดเบาๆ "ฉันจะบอกคุณให้นะ ผู้หญิงคนนั้นหน่ะโดนฉันโยนลงแม่น้ำไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้น่าจะกลายเป็นอาหารปลาแล้ว”

เมื่อได้ยินคำสารภาพของเธอซังหลินจวินก็ทนไม่ได้กับความจริงนี้เขาจึงปล่อยเธอและก้าวถอยหลัง

ถึงแม้วันนี้เขาจะได้เห็นกับตาตัวเอง เขาไม่เชื่อว่าคนๆนั้นเป็นเธอ

เพราะเมื่อเขาเห็นคน ๆ นั้นหัวใจของเขาเหมือนหยุดเต้นเขาจึงไม่เชื่อว่าคน ๆ นั้นคือเธอเลย

แต่ตอนนี้ฟางเส้นสุดท้ายมันขาดแล้ว

เมื่อมองไปที่ผู้ร้ายที่อยู่ตรงหน้าเขาซังหลินจวินก้าวไปข้างหน้าและบีบคอของเธอด้วยมือข้างเดียวบีบแน่น

ทันใดนั้นเสียงกริ่งเรียกของโรงพยาบาลก็ดังขึ้น

จากนั้นไม่นานแพทย์หลายคนก็เดินเข้ามาจากข้างนอก

เมื่อเห็นเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและโทรไปที่สถานีตำรวจ

ซังหลินจวินมองด้วยสายตาเย้ยหยันทำให้หมอที่เพิ่งพูดคำนั้นกลืนน้ำลายอย่างสั่น ๆ

แต่ไม่รู้ว่าซังหลินจวินโชคไม่ดีหรือเปล่า กลุ่มตำรวจรีบวิ่งเข้ามาก่อนที่จะถูกพาตัวออกไปเขามองไปที่เถียนเถียนเขากัดฟันและพูดว่า: "ครั้งนี้รอดไปได้นะ มีครั้งต่อไป อนาคตเรายังอีกยาวไกล

จนทุกคนแยกย้ายออกไป

เถียนเฟิงเสียงที่นอนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล ลืมตาขึ้นและมองไปที่ลูกสาวที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่กำลังปลอกผลไม้ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะอย่างภาคภูมิใจ: "สมกับเป็นลูกสาวฉันจริงๆ ทำได้ดีกว่าฉันอีก "

เถียนเถียนมองเขาอย่างเย็นชาและไม่ได้หันไปมองอีก

แต่ในใจเธอกังวลเฉินเฉียวที่ตายไปแล้วยังจะทำให้เธอแอบเครียด

เมื่อซังหลินจวินถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจเพื่อสอบสวนไม่นานพ่อแม่ของเขาก็มาถึง

อวี้เฟยพาทนายมาด้วย

พูดสองสามประโยคก็จัดการเรื่องได้

หลังจากออกจากสถานีตำรวจซังหลีหย่วนได้ด่าเขาสองสามคำแม่เขาก็ปกป้องเข้าทันที

เพียงมองไปที่แม่ที่เขาเคารพที่สุดเขาก็รู้สึกเหนื่อย เขาไม่ได้นั่งรถคันเดียวกับพวกเขา ซังหลินจวินขึ้นรถที่ซังอวี้ขับ พอขึ้นรถแล้วก็โทรหาเจียงอี้ฝานทันที

เขายังไม่ทันได้พูด ปลายสายก็แทรกมาก่อน: "เหล่าซัง ฉันรู้ว่ามันยากที่จะยอมรับว่าเฉินเฉียวเสียชีวิตแล้ว แต่ฉันเอาร่างของเธอไปโรงพยาบาลแล้วชันสูตรแล้วว่าเป็นเฉินเฉียวจริงๆ”

ซังหลินจวินเงียบไปชั่วขณะก่อนที่จะตอบ: "ขอบคุณ"

เขายังไม่เชื่อ

เมื่อเขากลับไปที่จิ้งหย่วนเขาก็ขังตัวเองไว้ในห้องโย่วอี

ตอนนี้เขาสามารถแสดงออกความอ่อนแอของเขาทั้งหมดได้

ดวงตาเขาแดงเป็นเลือดจุกหน้าอกและนึกถึงความทรงจำเกี่ยวกับความหอมหวานในอดีตก็เกิดความเจ็บปวดในใจของเขา

มีอาการเจ็บที่หน้าอกและไออย่างควบคุมไม่ได้

เขาเอามือยันประตูด้วยมือข้างหนึ่งและอีกข้างปิดปาก

“ พ่อ เสียงดังจังเลย”ทันใดนั้นเสียงที่เหมือนฝันก็ดังมาถึงหูของเขา

ซังหลินจวินเงยหน้าขึ้นมอง

เด็กผู้ชายตัวน้อยที่นอนอยู่บนเตียงมานานก็ลืมตาขึ้นมาแก้มของเขาตอบเล็กน้อยและเสียงของเขาก็แหบแห้งมาก

เขาเอามือขยี้ตา ไม่เชื่อในสายตาตัวเอง

พอโย่วอีฟื้นขึ้นมา ก็ถามซังหลินจวินทันที: "พ่อ ทำไมพ่ออยู่คนเดียวพี่เฉียวล่ะ ในความฝันผมได้ยินเสียงเธอตลอดเลย ทำไมเธอถึงไม่อยู่"

เขากลอกตาไปมาสองสามครั้งดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความคิดถึง

ซังหลินจวินในใจรู้สึกดีใจที่โย่วอีฟื้นอาการไอของเขาก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

สายตาที่เป็นห่วงมองไปที่พ่อเขาที่เอาแต่ไอ

ซังหลินจวินผ่อนคลายลง และขยับเข้าไปใกล้เขาและพูดว่า "เฉินเฉียวยุ่งกับบริษัทเธอมาก อย่าเพิ่งไปเจอเธอ รอหายดีก่อน เดี๋ยวเธอจะมาหาลูกเอง”

โย่วอีรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ในไม่ช้าเขาก็สงบลงยังไงซะเข้าก็ไม่ใช่เด็กขี้แงเขาเข้าใจได้

แต่ตอนนี้เขาเป็นห่วงสุขภาพพ่อของเขามากกว่า

"พ่อครับ หักโหมมากไปไหม พ่อไปตรวจที่โรงบาลหน่อยดีไหม"

ซังหลินจวินใช้มือข้างหนึ่งแตะๆแขนเขาเบา ๆ แล้วพูดว่า "เอ็งนินับวันยิ่งเอาใหญ่ หลับไปนานขนาดนี้ไม่หิวหรือไง? เดี๋ยวจะไปเรียกให้ป้ามั่วทำโจ๊กให้ "

โย่วอีคิดจะปฎิเสธ เขาเกลียดโจ๊กจืดพวกนั้นมาก ถ้าจะกินก็จะกินของที่ตัวเองอยากกิน แต่เขาเพิ่งฟื้นเลยโดนซังหลินจวินบังคับให้กินโจ๊ก

หลังจากออกจากห้องซังหลินจวินก็กลับไปที่ห้องนอนของเขาก่อนเขาไปห้องน้ำเปิดก๊อกน้ำและล้างสิ่งสกปรกในฝ่ามือของเขา

เลือดสีแดงในดวงตาของเขายังไม่จางหาย

เพราะว่าโย่วอีฟื้นขึ้นมา ซังหลีหย่วนกับภรรยาเขาเดิมทีที่ไม่อยากออกจากจิ้งหย่วน ก็ยิ่งไม่อยากจากหลานอีก พวกเขาเลยอยู่ห้องนอนแขก

แต่ก่อนพวกเขารักโย่วอีกมากอยู่แล้ว หลังจากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ โย่วอีก็ได้รับความรักจากพวกเขามากยิ่งขึ้น

แต่หน้าโย่วอีบูดบึ้งอยู่เสมอ

เพราะเขาอยากเจอเฉินเฉียวมากๆ แต่คนในบ้านไม่มีใครเอ่ยถึงชื่อเธอเลย

หลังจากพ่อเขาโผล่มาตอนที่เข้าฟื้น ก็ไม่เห็นเงาเขาอีกเลย

ทุกคนล้วนบอกว่าพ่อเขายุ่งเรื่องบริษัท พ่อเขาก็บอกว่าเฉินเฉียวก็ยุ่งเรื่องบริษัทของเธอ

เรื่องของ บริษัท สำคัญกว่าเขาหรือเปล่า

คิดแบบนี้โย่วอีก็ไม่มีความสุข

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ท่านประธานที่รัก 241 ความหวังพังทลาย

Now you are reading ท่านประธานที่รัก Chapter 241 ความหวังพังทลาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เถียนเถียนสีหน้าไม่เปลี่ยน

“ แม้ว่าฉันจะชื่นชมเฉินเฉียวที่หลังจากบาดเจ็บยังทิ้งหลักฐานไว้ให้คุณ แต่ว่าฉันอยากจะคุณก็คือ เมื่อวาน วันนี้ฉันไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลเลย ในกล้องวงจรปิดทั้งโรงพยาบาลก็จับฉันอยู่ ไม่ได้ออกไปไหน ถ้าไม่เชื่อคุณก็ไปตรวจสอบได้เลย "

ดูเหมือนเธอจะหมดความหวังที่มีต่อเขาและคำเรียกเขาก็เปลี่ยนไป

น้ำเสียงยิ่งแข็งกร้าว

ซังหลินจวินมองไปที่เธอเป็นเวลานานราวกับว่าพยายามเค้นคนตรงหน้าอย่างละเอียด

เขาเลิกเปลือกตาขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มเป็นเวลานาน

เขาคิดผิด

เขาคิดว่าเถียนเถียนในตอนนี้ก็ยังคงเป็นผู้หญิงที่ตกอยู่ในกำมือเขาเหมือนเดิม แต่คิดไม่ถึงว่า เธอที่เก็บซ่อนควานอ่อนโยนนั้น เป็นเหมือนศัตรูที่แข็งแกร่ง

แต่เขาก็ยังคงไม่พอใจกับเธอ

ซังหลินจวินไม่ต้องการคุยกับเธออย่างลับๆเขาบีบข้อมือเธอแรงๆ ราบกับว่าจะให้ข้อมือเธอหัก

เขาพูดอย่างเย็นชา: "บอกผมมาว่าเฉินเฉียวอยู่ที่ไหน"

คุณมันน่าสงสารจริงๆจู่ๆเถียนเถียนก็ก้าวเข้ามาใกล้เขาเมื่อทั้งสองคนเสื้อผ้าแนบชิดติดกัน เธอมองเขาและพูดเบาๆ "ฉันจะบอกคุณให้นะ ผู้หญิงคนนั้นหน่ะโดนฉันโยนลงแม่น้ำไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้น่าจะกลายเป็นอาหารปลาแล้ว”

เมื่อได้ยินคำสารภาพของเธอซังหลินจวินก็ทนไม่ได้กับความจริงนี้เขาจึงปล่อยเธอและก้าวถอยหลัง

ถึงแม้วันนี้เขาจะได้เห็นกับตาตัวเอง เขาไม่เชื่อว่าคนๆนั้นเป็นเธอ

เพราะเมื่อเขาเห็นคน ๆ นั้นหัวใจของเขาเหมือนหยุดเต้นเขาจึงไม่เชื่อว่าคน ๆ นั้นคือเธอเลย

แต่ตอนนี้ฟางเส้นสุดท้ายมันขาดแล้ว

เมื่อมองไปที่ผู้ร้ายที่อยู่ตรงหน้าเขาซังหลินจวินก้าวไปข้างหน้าและบีบคอของเธอด้วยมือข้างเดียวบีบแน่น

ทันใดนั้นเสียงกริ่งเรียกของโรงพยาบาลก็ดังขึ้น

จากนั้นไม่นานแพทย์หลายคนก็เดินเข้ามาจากข้างนอก

เมื่อเห็นเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและโทรไปที่สถานีตำรวจ

ซังหลินจวินมองด้วยสายตาเย้ยหยันทำให้หมอที่เพิ่งพูดคำนั้นกลืนน้ำลายอย่างสั่น ๆ

แต่ไม่รู้ว่าซังหลินจวินโชคไม่ดีหรือเปล่า กลุ่มตำรวจรีบวิ่งเข้ามาก่อนที่จะถูกพาตัวออกไปเขามองไปที่เถียนเถียนเขากัดฟันและพูดว่า: "ครั้งนี้รอดไปได้นะ มีครั้งต่อไป อนาคตเรายังอีกยาวไกล

จนทุกคนแยกย้ายออกไป

เถียนเฟิงเสียงที่นอนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาล ลืมตาขึ้นและมองไปที่ลูกสาวที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่กำลังปลอกผลไม้ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะอย่างภาคภูมิใจ: "สมกับเป็นลูกสาวฉันจริงๆ ทำได้ดีกว่าฉันอีก "

เถียนเถียนมองเขาอย่างเย็นชาและไม่ได้หันไปมองอีก

แต่ในใจเธอกังวลเฉินเฉียวที่ตายไปแล้วยังจะทำให้เธอแอบเครียด

เมื่อซังหลินจวินถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจเพื่อสอบสวนไม่นานพ่อแม่ของเขาก็มาถึง

อวี้เฟยพาทนายมาด้วย

พูดสองสามประโยคก็จัดการเรื่องได้

หลังจากออกจากสถานีตำรวจซังหลีหย่วนได้ด่าเขาสองสามคำแม่เขาก็ปกป้องเข้าทันที

เพียงมองไปที่แม่ที่เขาเคารพที่สุดเขาก็รู้สึกเหนื่อย เขาไม่ได้นั่งรถคันเดียวกับพวกเขา ซังหลินจวินขึ้นรถที่ซังอวี้ขับ พอขึ้นรถแล้วก็โทรหาเจียงอี้ฝานทันที

เขายังไม่ทันได้พูด ปลายสายก็แทรกมาก่อน: "เหล่าซัง ฉันรู้ว่ามันยากที่จะยอมรับว่าเฉินเฉียวเสียชีวิตแล้ว แต่ฉันเอาร่างของเธอไปโรงพยาบาลแล้วชันสูตรแล้วว่าเป็นเฉินเฉียวจริงๆ”

ซังหลินจวินเงียบไปชั่วขณะก่อนที่จะตอบ: "ขอบคุณ"

เขายังไม่เชื่อ

เมื่อเขากลับไปที่จิ้งหย่วนเขาก็ขังตัวเองไว้ในห้องโย่วอี

ตอนนี้เขาสามารถแสดงออกความอ่อนแอของเขาทั้งหมดได้

ดวงตาเขาแดงเป็นเลือดจุกหน้าอกและนึกถึงความทรงจำเกี่ยวกับความหอมหวานในอดีตก็เกิดความเจ็บปวดในใจของเขา

มีอาการเจ็บที่หน้าอกและไออย่างควบคุมไม่ได้

เขาเอามือยันประตูด้วยมือข้างหนึ่งและอีกข้างปิดปาก

“ พ่อ เสียงดังจังเลย”ทันใดนั้นเสียงที่เหมือนฝันก็ดังมาถึงหูของเขา

ซังหลินจวินเงยหน้าขึ้นมอง

เด็กผู้ชายตัวน้อยที่นอนอยู่บนเตียงมานานก็ลืมตาขึ้นมาแก้มของเขาตอบเล็กน้อยและเสียงของเขาก็แหบแห้งมาก

เขาเอามือขยี้ตา ไม่เชื่อในสายตาตัวเอง

พอโย่วอีฟื้นขึ้นมา ก็ถามซังหลินจวินทันที: "พ่อ ทำไมพ่ออยู่คนเดียวพี่เฉียวล่ะ ในความฝันผมได้ยินเสียงเธอตลอดเลย ทำไมเธอถึงไม่อยู่"

เขากลอกตาไปมาสองสามครั้งดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความคิดถึง

ซังหลินจวินในใจรู้สึกดีใจที่โย่วอีฟื้นอาการไอของเขาก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

สายตาที่เป็นห่วงมองไปที่พ่อเขาที่เอาแต่ไอ

ซังหลินจวินผ่อนคลายลง และขยับเข้าไปใกล้เขาและพูดว่า "เฉินเฉียวยุ่งกับบริษัทเธอมาก อย่าเพิ่งไปเจอเธอ รอหายดีก่อน เดี๋ยวเธอจะมาหาลูกเอง”

โย่วอีรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ในไม่ช้าเขาก็สงบลงยังไงซะเข้าก็ไม่ใช่เด็กขี้แงเขาเข้าใจได้

แต่ตอนนี้เขาเป็นห่วงสุขภาพพ่อของเขามากกว่า

"พ่อครับ หักโหมมากไปไหม พ่อไปตรวจที่โรงบาลหน่อยดีไหม"

ซังหลินจวินใช้มือข้างหนึ่งแตะๆแขนเขาเบา ๆ แล้วพูดว่า "เอ็งนินับวันยิ่งเอาใหญ่ หลับไปนานขนาดนี้ไม่หิวหรือไง? เดี๋ยวจะไปเรียกให้ป้ามั่วทำโจ๊กให้ "

โย่วอีคิดจะปฎิเสธ เขาเกลียดโจ๊กจืดพวกนั้นมาก ถ้าจะกินก็จะกินของที่ตัวเองอยากกิน แต่เขาเพิ่งฟื้นเลยโดนซังหลินจวินบังคับให้กินโจ๊ก

หลังจากออกจากห้องซังหลินจวินก็กลับไปที่ห้องนอนของเขาก่อนเขาไปห้องน้ำเปิดก๊อกน้ำและล้างสิ่งสกปรกในฝ่ามือของเขา

เลือดสีแดงในดวงตาของเขายังไม่จางหาย

เพราะว่าโย่วอีฟื้นขึ้นมา ซังหลีหย่วนกับภรรยาเขาเดิมทีที่ไม่อยากออกจากจิ้งหย่วน ก็ยิ่งไม่อยากจากหลานอีก พวกเขาเลยอยู่ห้องนอนแขก

แต่ก่อนพวกเขารักโย่วอีกมากอยู่แล้ว หลังจากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ โย่วอีก็ได้รับความรักจากพวกเขามากยิ่งขึ้น

แต่หน้าโย่วอีบูดบึ้งอยู่เสมอ

เพราะเขาอยากเจอเฉินเฉียวมากๆ แต่คนในบ้านไม่มีใครเอ่ยถึงชื่อเธอเลย

หลังจากพ่อเขาโผล่มาตอนที่เข้าฟื้น ก็ไม่เห็นเงาเขาอีกเลย

ทุกคนล้วนบอกว่าพ่อเขายุ่งเรื่องบริษัท พ่อเขาก็บอกว่าเฉินเฉียวก็ยุ่งเรื่องบริษัทของเธอ

เรื่องของ บริษัท สำคัญกว่าเขาหรือเปล่า

คิดแบบนี้โย่วอีก็ไม่มีความสุข

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+