[นิยายแปล(WN)] 魔法少女タイラントシルフ สนวม.ซิลฟ์ 13 สาวน้อยเวทมนตร์เจอกับแม่มด

Now you are reading [นิยายแปล(WN)] 魔法少女タイラントシルフ สนวม.ซิลฟ์ Chapter 13 สาวน้อยเวทมนตร์เจอกับแม่มด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

[แก้จากหน่วยงานเวทมนตร์ เป็นกรมเวทมนตร์นะ ไม่กลับไปแก้ตอนก่อนนะขี้เกียจ]

ตอนที่ 1-4 แม่มด ② ☆

 

 ผึ้งสีดำตัวใหญ่เท่ารถยนต์ห้าที่นั่งบินอยู่เต็มท้องฟ้า เมื่อพวกมันกระพือปีกส่งเสียงไม่พึงประสงค์ที่ทำให้รู้สึกหวาดกลัวต่อขนาดของมันดังก้องอยู่ในโลกปลอมแห่งนี้ และดูเหมือนว่าเจ้านี่จะเป็นหนึ่งในวิธีการโจมตีของมัน

 

 

 

“–!”

 

“อะไรเหรอคะ!?”

 

 

 

 สาวน้อยเวทมนตร์แรบบิทฟุตหรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักเธอในนาม แม่มดกระต่าย เธอคนนี้เองที่เป็นคนลากตัวพาฉันมาที่นี่ค่ะ และเธอก็กำลังตะโกนใส่ฉันเพื่อต้องการที่จะบอกให้ฉันทำบางอย่างค่ะ แต่ฉันไม่ได้ยินเธอเลยสักนิดเพราะว่าเสียงกระพือปีกของผึ้งยักษ์นั้นดังมากเกินไปค่ะ

 

 

 

 มันดังและดังมากๆ ดังจนเกินจะทนไหวค่ะ! ในเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีไม่มีปัญหา งั้นฉันลงมือเลยก็แล้วกันค่ะ

 

 

 

“พายุทอร์นาโดโหมกระหน่ำ ไตรทอร์นาโดมิกเซอร์”

 

 

 

 มันไม่ใช่เวทมนตร์ที่เพิ่งได้เรียนรู้มาใหม่หรอกค่ะ แต่เป็นเวทมนตร์ที่พอมีความเชี่ยวชาญมากพอแล้วก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้โดยการเรียนรู้วิธีใช้จากเวทมนตร์ที่มีอยู่แล้วค่ะ และนั่นก็คือเทคนิคที่เรียกว่า ไตร ค่ะ

 

 ความสามารถของมันนั้นเข้าใจง่ายมาก มันเป็นเวทย์มนตร์ที่เพิ่ม ทอร์นาโดมิกเซอร์ เป็นสามลูกและต้องบังคับควบคุมพวกมันแยกออกจากกันค่ะ

 

 

 

 ดิสประเภทผึ้งยักษ์พวกนี้เป็น ดิสสายพันธุ์ใหม่ที่รวมผึ้งจำนวนมากทั้งหมดเข้าเป็นฝูงเดียว และเท่าที่ฉันเคยต่อสู้เอาชนะพวกมันมาก่อนพวกมันส่วนใหญ่จะอยู่ในคลาสเดียวกันค่ะ แล้วคลาสที่ว่าก็คือคลาสบารอนค่ะ แต่ประเด็นก็คือหากพวกมันรวมตัวกันเป็นฝูงเดียวจะจัดอยู่ในระดับคลาสมาควิสแทนค่ะ

 

 ไตร ทอร์นาโด มิกเซอร์ นั้นยังไม่อยู่ในระดับที่ฉันสามารถควบคุมพายุทอร์นาโดทั้งหมดได้สมบูรณ์ตามต้องการหรอกค่ะ แต่ด้วยจำนวนพายุมากขนาดนี้ทำให้สามารถเอาชนะ ดิส ที่มีจำนวนมากได้ง่ายๆเพียงแค่ใช้เวทมนตร์ออกมาค่ะ  

 

พายุทอร์นาโดที่วาดวิถีโค้งตัดผ่านอากาศและเลี้ยวอย่างไม่สมเหตุสมผลเหมือนมังกรที่ส่ายหัวไปมากลืนกิน ดิส เข้าไปหลายตัวแล้วสลายหายไป

 

 

 

 ความมหัศจรรย์ของมันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้นค่ะ กระแสอากาศถูกรบกวนอย่างมากจากพายุทอร์นาโดเกิดการแปรปรวน และแม้ว่าพวกมันจะไม่ได้ปะทะเข้ากับลูกของพายุโดยตรง แต่ก็มี ดิส จำนวนไม่น้อยที่ถูกกระแสลมที่พัดผ่านไปซัดเข้าไป และค่อยๆเสียสมดุลร่วงหล่นลงจากฟ้าทีละตัวค่ะ แม้ว่าฉันหวังว่ามันจะเป็นไปด้วยดีแบบนี้ แต่ฉันไม่คิดว่ามันจะไปได้สวยขนาดนี้ทุกครั้งหรอกค่ะ แต่บังเอิญว่าในครั้งนี้ฉันแค่โชคดีก็เท่านั้นค่ะ

 

 

 

 มันเหมือนกันกับสัตว์ประหลาดนกที่ฉันเคยต่อสู้มาก่อนหน้านี้ค่ะ เพราะดูเหมือนว่าฉันจะเหมาะที่จะต่อสู้กับ ดิส ประเภทที่ซึ่งต่อสู้อยู่บนอากาศเป็นหลักค่ะ

 

 

 

“คุณแรบบิทฟุตคะ! พวกดิสที่ร่วงลงไปพวกนั้นคงต้องรบกวนคุณแล้วค่ะ”

 

“ห๋า! มาขอให้ฉันคนนี้เก็บกวาดให้เนี่ยนะ! เธอนี่ช่างเป็นเด็กที่ไร้ยางอายอะไรอย่างนี้นะ! แบบนี้ก็มีแต่จะต้องทำไม่ใช่รึยังไง!”

 

 

 

 เอ๊ะ..เด็กที่ไร้ยางอายคนนั้นอยู่ที่ไหนเหรอคะ…?

 

 

 

 ฉันบอกได้เลยว่าเป็นเรื่องสมควรแล้วที่เธอจะถูกเรียกว่าแม่มดค่ะ คุณแรบบิทฟุตซึ่งเริ่มออกวิ่งด้วยความเร็วมหาศาล พุ่งตัวเข้าไปกระโดดเตะดิสที่กำลังร่วงลงไปที่พื้นราวกับว่าเธอกำลังใช้มันต่างแท่นเหยียบค่ะ และด้วยวิธีนั้นเธอก็สามารถย้ายตัวเองไปที่ดิสอีกตัวนึงแล้วบดขยี้พวกมันลงไปที่พื้นด้วยวิธีการแบบเดิมเรื่อยๆค่ะ แล้วหลังจากที่ได้ทำแบบนั้นซ้ำๆ พวกดิสก็ค่อยๆ สลายหายไปทีละตัวราวกับการดีดลูกพินบอลลงจากฟ้า

 

 

 

 ท้องฟ้าที่เคยถูกย้อมไปด้วยสีดำค่อยๆ ฟื้นคืนกลับมาเป็นสีฟ้าอันงดงามอีกครั้ง และดิสร่วงลงบนพื้นก็ค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ

 

 

 

 ฉันดีใจที่มันจบลงอย่างปลอดภัยค่ะ แต่แรกเริ่มเดิมทีแล้วทำไมฉันถึงต้องมาทำเรื่องพวกนี้ด้วยล่ะค่ะ?

 

 จริงๆ แล้ว ฉันก็แค่อยากจะรู้วิธีกลับคืนสู่ร่างเดิมจากโลกเวทมนตร์และฟ้องร้องเรื่องพฤติกรรมที่แจ็คก่อก็แค่นั้น…

 

 

 

 ย้อนกลับเวลากลับไปสักเล็กน้อย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 ร้านนี้อยู่ที่นี่ และมีร้านนั้นอยู่ฝั่งตรงข้าม? ดังนั้นตำแหน่งปัจจุบันของฉันควรจะอยู่ที่นี่ใช่ไหมคะ? ว่าแต่ทำไมฉันถึงต้องเดินไปทางนี้…อืม? ฉันกลับมาที่เดิมอีกครั้งรึเปล่าคะเนี่ย?

 

 

 

“ที่นี่ที่ไหน…?”

 

 

 

 หลังจากเพลิดเพลินกับอาหารอย่างอื่นที่นอกเหนือจากของเสียบไม้ย่างอย่างเช่นทาโกะยากิและช็อกโกบานาน่าแล้ว ฉันก็กำลังเดินทางไปที่กรมเวทมนตร์ค่ะ แต่ดูเหมือนว่าฉันจะหลงทางไปซะแล้วล่ะค่ะ

 

 

 

 ฉันมีแผนที่ของโลกเวทมนตร์ซึ่งมันเป็นหนึ่งในฟังก์ชั่นของมากิโฟนค่ะ แต่ฉันไม่ค่อยเข้าใจวิธีการอ่านแผนที่…และนั่นเป็นเพราะแผนที่นี้ดูเหมือนจะไม่มีฟังก์ชั่นแสดงตำแหน่งปัจจุบันของฉันค่ะ ดังนั้นฉันจึงไม่มีทางรู้ได้เลยว่าฉันกำลังอยู่ที่ไหนและกำลังเดินไปทางไหนค่ะ เจ้านี่น่ะไม่มี GPS รึไงคะ?

 

 

 

 อดไม่ได้จริงๆค่ะที่จะต้องบ่นเรื่องอุปกรณ์…แม้ว่าฉันจะไม่อยากทำอย่างนั้นก็ตามค่ะ แต่สุดท้ายแล้วฉันก็คงจะต้องพึ่งพาแผนที่นี้อีกสักหน่อยค่ะ และถ้าไม่ได้ผลฉันคงต้องถามจากใครสักคนแล้วค่ะ

 

 

 

“เอโตะ..ทิศเหนืออยู่ข้างบน ทิศตะวันออกอยู่ทางขวา…”

 

“เดี๋ยวสิ! หลบไปนะอย่ามาเกะกะขวางทาง!”

 

“เอ๊ะ?”

 

 

 

 ขณะที่ฉันกำลังจ้องมอง มากิโฟน ในมือและตรวจสอบแผนที่ ฉันก็ได้ยินเสียงของเด็กสาวที่ดูเหมือนว่าจะร้อนรนจากด้านบนศีรษะค่ะ

 

 ฉันไม่สามารถตอบสนองกับสิ่งต่างๆได้ทันและกำลังพยายามจะเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ค่ะ แต่ก่อนที่ฉันจะได้ทำแบบนั้นก็ได้มีบางอย่างตกลงมาจากด้านบนเสียก่อนและฉันก็ถูกทับค่ะ

 

 

 

“อูยยย เจ็บจัง! เดี๋ยวสินี่เธอ! ถ้าฉันบอกให้หลบไปก็หลบให้พ้นสิยะ!! วันนี้โชคร้ายจริงๆ! แย่ที่สุด! แถมพวกนั้นก็ยังไม่ได้ติดต่อฉันมาเลยด้วย!”

 

“…ฉันขอโทษนะคะที่ไม่ได้มองไปข้างหน้า แต่มันก็ค่อนข้างไม่ปกติเหมือนกันนะคะ ที่ตกลงมาจากท้องฟ้าน่ะ”

 

 

 

 เด็กสาวผมสีขาว ตาสีแดง ที่มีหูกระต่ายอยู่บนหัวนั่งทับอยู่บนตัวของฉัน และมองลงมาที่ฉันด้วยสายตาดูถูกและพูดจาไม่ดีใส่ฉันค่ะ ดวงตาของเธอดูแข็งกร้าวและหางตาของเธอก็เชิดขึ้นเล็กน้อย เธอสวมผ้ากันเปื้อนสีส้มที่ด้านนอกและใส่ชุดพริ้วๆที่มีจีบระบายสีขาวอยู่ด้านในค่ะ บางทีเธอคงจะเป็นสาวน้อยเวทมนตร์กระต่ายมั้งคะ?

 

 

 

 ฉันไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรมากนักเพราะฉันในตอนนี้อยู่ในร่างสาวน้อยเวทมนตร์ค่ะ และฉันคิดว่าที่เด็กสาวคนนี้บอกว่าเธอเจ็บมันก็น่าจะเป็นเรื่องโกหกค่ะ

 

 

 

“หุบปากไปเลยนะยะ! อย่างริอาจมาพูดกับฉันนะ! รู้ไหมว่าฉันคนนี้เป็นใครกัน!”

 

“…คุณเป็นคนดังเหรอคะ?”

 

 

 ฉันจ้องมองผู้หญิงคนนั้นในขณะที่ถูกเธอนั่งทับอยู่ค่ะ แต่ฉันจำเธอไม่ได้เลยสักนิดค่ะ และมากไปกว่านั้นคือฉันไม่ค่อยรู้จักสาวน้อยเวทมนตร์คนอื่นๆ มาตั้งแต่แรกแล้วค่ะ ดังนั้นแม้ว่าพวกเธอจะเป็นคนดัง ฉันก็ไม่มีทางที่จะรู้จักเธอได้เลยค่ะ

 

 แต่ถ้าหากเธอมั่นใจมากหรือที่จะกล่าวอีกนัยนึงถ้าเธอคิดว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดามากที่ทุกคนจะรู้จักเธอ ก็เป็นไปได้ไหมคะว่าเธออาจจะเป็นแม่มด?

 

 

 

“วะหว่าา!? เธอเป็นมือใหม่หรอกเหรอ!? หรือว่าจะเป็นพวกสมองกลวง! ไม่รู้จักท่านแรบบิตฟุตผู้นี้ได้ยังไงกันคะ! แต่ก็มีบางคนที่เรียกฉันว่าแม่มดกระต่ายเหมือนกันนะ!”

 

“แรบบิทฟุต? ที่เป็นเครื่องรางนำโชคเหรอคะ?”

 

 

 

 แต่เธอบอกก่อนหน้านี้นี่นาว่าเธอโชคไม่ดี

 

 อีกอย่างเธอจะขี่ฉันอีกนานแค่ไหนกันคะ? ฉันอยากให้เธอลุกออกไปได้แล้วค่ะ

 

 

 

“เธอนี่ใจเย็นจนน่าแปลกใจเลยนะ ช่างเป็นเจ้าตัวเล็กที่อวดดีจริงๆค่ะ”  

 

 

 

 ในที่สุดคุณแรบบิทฟุตก็ลุกขึ้นจากตัวฉันค่ะ และเธอก็พูดในขณะที่มองฉันลุกขึ้น

 

 ในเรื่องส่วนสูง ฉันคิดว่าตัวคุณเองก็ไม่ต่างกันมากหรอกนะคะ

 

 

 

“…ฉันสงสัยว่านี่จะเป็นโชคชะตาบางอย่างรึเปล่านะ? เพราะปกติแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ฉันคนนี้จะโชคร้าย”

 

“พูดเรื่องอะไรเหรอคะ?”

 

“ไม่มีอะไรหรอก ที่สำคัญกว่านั้นเธอน่ะ สามารถใช้อาวุธพิเศษของเธอได้ไหม?”

 

“อาวุธพิเศษ…? อา ใช้ได้ค่ะ”

 

 

 

 ในทีแรกฉันไม่เข้าใจความหมายของมัน(อาวุธพิเศษ)ในขณะที่ฉันถูกถามค่ะ แต่เวลาต่อมาฉันจำมันได้ในทันทีเพราะมันเป็นไม้เท้าที่ฉันมักจะใช้ประจำค่ะ

 

 ลองคิดดูสิคะ แจ็คบอกว่าปกติแล้วจะสามารถใช้อาวุธพิเศษได้เมื่อเข้าสู่เฟส 2 ค่ะ แต่ฉันใช้ไม้เท้าอันนี้มาตั้งแต่ต้นแล้วค่ะ ดังนั้นฉันจึงลืมว่าจริงๆมันคืออะไรไปเสียสนิทเลยค่ะ

 

 

 

“แล้วมันทำไมเหรอคะ?”

 

 

 

 อาจเป็นเพราะที่นี่เป็นบ้านหลังที่สองของเหล่าสาวน้อยเวทมนตร์ หรืออาจเป็นเพราะฉันคิดว่าฉันคงจะไม่เจอกับ คุณแรบบิทฟุตอีกในอนาคตอยู่แล้ว แต่ฉันก็ไม่รู้จริงๆ ว่าแท้จริงแล้วอะไรกันแน่ที่ดลใจทำให้ฉันที่ปกติแล้วจะเมินและวิ่งหนีไป ตัดสินใจคุยกับเธออีกค่ะ แม้ว่าฉันจะพยายามแก้ตัวว่ามันเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินแต่สุดท้ายแล้วฉันก็เอ่ยคำพูดต่อไปออกมาด้วยตนเองอยู่ดีค่ะ

 

 และอีกในไม่ช้าฉันก็จะเสียใจที่ไม่ได้จบการสนทนาลงค่ะ อันที่จริงตอนนี้ฉันควรจะรีบหนีไปได้แล้วค่ะ

 

 

 

“เหมาะเหม็ง มากับฉันเลย”

 

“เอ๊ะ!? ดะ อะวา…อุว้าาาาาาาา”

 

 

 

 ทันใดนั้นเองฉันถูกบีบบังคับให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตนเองโดนอุ้มเหมือนเป็นเจ้าหญิงและคุณแรบบิทฟุตก็กระโดดขึ้นไปบนฟ้าโดยไม่มีแม้แต่เวลาที่จะให้ฉันได้บ่นค่ะ แล้วมันก็ไม่ใช่เวทมนตร์บิน แต่เป็นเพียงการกระโดดธรรมดาๆที่ใช้ความสามารถทางกายภาพล้วนๆค่ะ ร่างกายถูกดีดขึ้นไปบนท้องฟ้าและตกลงมาด้วยความเร็วที่สูงยิ่งกว่า

 

 ฉันมักจะบินไปบนท้องฟ้าเพื่อต่อสู้กับ ดิส แต่นี่เป็นอะไรที่แตกต่างออกไปจากเดิมโดยสิ้นเชิงค่ะ มันเป็นการตกอย่างอิสระตามอำเภอใจที่ฉันไม่สามารถควบคุมหรือทำอะไรกับมันได้เลยค่ะ เพราะสัมผัสได้เลยค่ะว่าชีวิตของฉันกำลังตกอยู่ในอันตราย ทำให้ฉันใช้เวทมนตร์โดยไม่ได้ตั้งใจค่ะ

 

 

 

“ปีกแห่งสายลม ปีกเหินเวหา!”

 

 

 

 ดูเหมือนว่าเวทมนตร์จะได้ผลกับคุณแรบบิทฟุตที่จับฉันไว้ด้วยค่ะ และร่างที่กำลังร่วงลงของพวกเราก็หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศค่ะ

 

 

 

“ห๋า!? นี่ทำอะไรลงไปน่ะ!?”

 

“นั่นน่ะเป็นคำพูดที่ทางนี้ต้องเป็นฝ่ายถามต่างหากล่ะค่ะ!! จู่ๆ คุณก็เข้ามาทำอะไรแบบนี้ต้องการอะไรกันแน่คะ!”

 

“โวยวายน่ารำคาญชะมัด! เพราะงี้แหละฉันถึงไม่ชอบร่วมงานกับเด็กๆ”

 

“คุณเองก็ยังเป็นเด็กอยู่ไม่ใช่เหรอคะ!”

 

“คุณเองก็ยังเป็นเด็กอยู่ไม่ใช่เหรอ! ไม่มีเวลาให้เธอมาพูดอะไรแบบนี้หรอกนะ! ถ้าบินได้ก็บินเอาแล้วกัน! ฉันจะไปที่กรมเวทมนตร์น่ะ!!”

 

“… ช่ายอธิบายทีหลังด้วยนะคะ”

 

 

 

 คุณแรบบิทฟุตแม้ว่าจะเป็นฝ่ายที่เข้ามาหาเรื่องก่อนและทำตัวแปลกๆ แต่ฉันก็สามารถบอกได้จากสีหน้าของเธอว่าเธอน่าจะมีเหตุผลสำคัญที่จะต้องรีบไปที่กรมเวทมนตร์ค่ะ แล้วก็บังเอิญว่าปลายทางที่ต้องการจะไปของฉันคือกรมเวทมนตร์ด้วยเหมือนกัน ดังนั้นเป็นความจริงในเรื่องที่ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะโต้เถียงกันไปมากกว่านี้ค่ะ และฉันก็ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ก็เลยตัดสินใจในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ที่จะฟังสิ่งที่้เด็กอย่างเธอพูดในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่กว่าค่ะ

 

 

 

 แค่บินตรงไปด้วยความเร็วสูงสุดก็มาถึงกรมเวทมนตร์ได้ในเวลาเพียงสิบนาที แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะค้นหาจากท้องฟ้าเมื่อมีระยะห่างมากขนาดนี้ แต่ฉันก็คงต้องพยายามจำพวกลักษณะทางภูมิศาสตร์ของพื้นที่แห่งนี้ให้ได้ในภายหลังค่ะ

 

 

 

“เพราะมันช่วยไม่ได้ดังนั้นฉันจะอธิบายให้เธอฟัง ตอนนี้ดิสระดับมาควิสได้ปรากฏตัวขึ้นที่ฮอกไกโด และสาวน้อยเวทมนตร์ของที่นั่นกำลังพยายามจัดการกับมันอยู่ แต่สุดท้ายสิ่งที่พวกเธอก็ทำได้ก็มีเพียงแค่ต่อสู้ติดพันกับมันอยู่อย่างนั้น และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ฉันจะช่วยพวกเธอโดยการเคลื่อนย้ายระยะไกล เป็นไงฟังแล้วจะซาบซึ้งจนเคารพบูชาฉันคนนี้ผู้มีจิตใจอ่อนโยนเลยก็ได้นะ”

 

“เรื่องที่ว่ามานั้นเกรงใจค่ะ แต่มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันใช่ไหมล่ะคะ? แล้วสรุปคุณพาฉันมาที่นี่ทำไมคะ?”

 

 

 

 ฉันคิดว่าจะพาคุณแรบบิทฟุตไปส่งที่กรมเวทมนตร์และบอกลาเธอที่นั่นค่ะ แต่เธอกลับคว้าแขนของฉันไว้แล้วลากฉันไปด้วยค่ะ ดูเหมือนว่าเธอคนนี้แข็งแกร่งมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอกที่เห็นมาก

 

 

 

“ยิ่งมีกำลังรบมากก็ย่อมดีกว่า ถึงจะเป็นแค่เฟส 2 แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย เอาล่ะเธอควรช่วยเหลืองานนี้ให้มากๆ แล้วฉันจะยกโทษให้ในเรื่องที่เธอทำอะไรไม่ยั้งคิดนะ”

 

“ทำไมต้องเป็นฉันด้วย…”

 

 

 

 ฉันไม่คิดว่ามันมีเป็นไปได้ที่จะสลัดเธอให้หลุดและออกวิ่งหนีได้จริงๆ และมันเป็นเรื่องยุ่งยากที่บางทีอาจจะโดนติดตามและถูกจับตามองหลังจากนี้ ดังนั้นยอมมาให้ร่วมมือที่นี่อย่างเงียบๆ แล้วหนีไปอย่างเงียบๆ เมื่อทุกอย่างจบลงดีกว่าค่ะ

 

 ลองคิดดูสิ บางทีฉันคงจะไม่ได้เจอกับดิสระดับมาควิสอีกครั้งในเร็ววันนี้หรอกค่ะ และมันก็ไม่ได้แย่นักถ้าคิดว่ามันจะกลายเป็นคะแนนที่ได้รับค่ะ

 

 

 

“แรบบิทฟุต! คุณพร้อมสำหรับการเทเลพอร์ตระยะไกลหรือยัง?”

 

“พร้อมแล้วล่ะ~ แล้วเด็กคนนั้นล่ะ?”

 

 

 

 ฉันถูกลากขึ้นลิฟต์และถูกคุณแรบบิทฟุตพามายังห้องนึงซึ่งมีเครื่องมือต่างๆ วางอยู่เต็มไปหมด และที่นั่นมีมนุษย์แมวหลายคนกำลังเคาะแป้นพิมพ์ที่ดูเหมือนจะเป็นแผงควบคุมอยู่ค่ะ

 

 มนุษย์แมวที่มีขนปุกปุยเงางามที่สุดซึ่งกำลังดูจอมอนิเตอร์อยู่เบี่ยงสายตาจ้องมองมาที่ฉันด้วยความสนใจ

 

 

 

“ฉันจะพาเธอไปกับฉันด้วย”

 

“ไม่มีทางหรอก~ มีแม่มดเท่านั้นที่สามารถใช้อุปกรณ์นี้ได้~”

 

“หุบปากน่า! ฉันรู้นะว่าพวกนายจะลำบากถ้าจำนวนแม่มดลดลงไปอีก! ไม่ใช่ว่ามีเฟส 2 เพียงคนเดียวในพื้นที่นั้นรึไง! นี่น่ะคือการเผื่อไว้ไงล่ะ เผื่อไว้!!”

 

“ก็จริง แต่ว่า~…….ห๊ะ~?”

 

 

 

 มนุษย์แมวที่มีสีหน้าลำบากใจ จู่ๆ ก็เริ่มจ้องมองทั้งตัวของฉันราวกับว่าเขาสังเกตเห็นอะไรบางอย่างเข้าค่ะ

 

 

 

“เธอ บางทีคงจะเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ที่แจ็คดูแลอยู่ตอนนี้ใช่ไหม?”

 

“ถ้าหมายถึงคุณผีฟักทองล่ะก็ ใช่ค่ะ”

 

“อ่า~ งั้นก็~ โอเค~”

 

“ตอนแรกทำเป็นวางท่าไปได้! ฮึ้ม!”

 

 

 

 ฉันไม่รู้แน่ชัดหรอกค่ะ แต่ดูเหมือนว่าบทสนทนาจะจบลงในทิศทางที่ฉันสามารถใช้เครื่องมือวิเศษเทเลพอร์ตระยะไกลได้ค่ะ แม้ฉันจะไม่รู้สึกอย่างนั้นแต่จริงๆแล้วแต่ดูเหมือนว่าฉันเป็นแม่มดด้วยเหมือนกันค่ะ และมนุษย์แมวคนนั้นก็ดูเหมือนจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้วด้วยค่ะ

 

 

 

“ไปกันเถอะ!”

 

 

 

 ในท้ายที่สุด พวกเราลงเอยด้วยการไปต่อสู้ด้วยกันโดยไม่ได้แม้แต่คิดจะแนะนำตัวต่อกันค่ะ แต่อย่างที่เห็นผลลัพธ์ของมันคือพวกเรากลับสู่เรื่องราวในตอนเริ่มค่ะ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล(WN)] 魔法少女タイラントシルフ สนวม.ซิลฟ์ 13 สาวน้อยเวทมนตร์เจอกับแม่มด

Now you are reading [นิยายแปล(WN)] 魔法少女タイラントシルフ สนวม.ซิลฟ์ Chapter 13 สาวน้อยเวทมนตร์เจอกับแม่มด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

[แก้จากหน่วยงานเวทมนตร์ เป็นกรมเวทมนตร์นะ ไม่กลับไปแก้ตอนก่อนนะขี้เกียจ]

ตอนที่ 1-4 แม่มด ② ☆

 

 ผึ้งสีดำตัวใหญ่เท่ารถยนต์ห้าที่นั่งบินอยู่เต็มท้องฟ้า เมื่อพวกมันกระพือปีกส่งเสียงไม่พึงประสงค์ที่ทำให้รู้สึกหวาดกลัวต่อขนาดของมันดังก้องอยู่ในโลกปลอมแห่งนี้ และดูเหมือนว่าเจ้านี่จะเป็นหนึ่งในวิธีการโจมตีของมัน

 

 

 

“–!”

 

“อะไรเหรอคะ!?”

 

 

 

 สาวน้อยเวทมนตร์แรบบิทฟุตหรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักเธอในนาม แม่มดกระต่าย เธอคนนี้เองที่เป็นคนลากตัวพาฉันมาที่นี่ค่ะ และเธอก็กำลังตะโกนใส่ฉันเพื่อต้องการที่จะบอกให้ฉันทำบางอย่างค่ะ แต่ฉันไม่ได้ยินเธอเลยสักนิดเพราะว่าเสียงกระพือปีกของผึ้งยักษ์นั้นดังมากเกินไปค่ะ

 

 

 

 มันดังและดังมากๆ ดังจนเกินจะทนไหวค่ะ! ในเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีไม่มีปัญหา งั้นฉันลงมือเลยก็แล้วกันค่ะ

 

 

 

“พายุทอร์นาโดโหมกระหน่ำ ไตรทอร์นาโดมิกเซอร์”

 

 

 

 มันไม่ใช่เวทมนตร์ที่เพิ่งได้เรียนรู้มาใหม่หรอกค่ะ แต่เป็นเวทมนตร์ที่พอมีความเชี่ยวชาญมากพอแล้วก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้โดยการเรียนรู้วิธีใช้จากเวทมนตร์ที่มีอยู่แล้วค่ะ และนั่นก็คือเทคนิคที่เรียกว่า ไตร ค่ะ

 

 ความสามารถของมันนั้นเข้าใจง่ายมาก มันเป็นเวทย์มนตร์ที่เพิ่ม ทอร์นาโดมิกเซอร์ เป็นสามลูกและต้องบังคับควบคุมพวกมันแยกออกจากกันค่ะ

 

 

 

 ดิสประเภทผึ้งยักษ์พวกนี้เป็น ดิสสายพันธุ์ใหม่ที่รวมผึ้งจำนวนมากทั้งหมดเข้าเป็นฝูงเดียว และเท่าที่ฉันเคยต่อสู้เอาชนะพวกมันมาก่อนพวกมันส่วนใหญ่จะอยู่ในคลาสเดียวกันค่ะ แล้วคลาสที่ว่าก็คือคลาสบารอนค่ะ แต่ประเด็นก็คือหากพวกมันรวมตัวกันเป็นฝูงเดียวจะจัดอยู่ในระดับคลาสมาควิสแทนค่ะ

 

 ไตร ทอร์นาโด มิกเซอร์ นั้นยังไม่อยู่ในระดับที่ฉันสามารถควบคุมพายุทอร์นาโดทั้งหมดได้สมบูรณ์ตามต้องการหรอกค่ะ แต่ด้วยจำนวนพายุมากขนาดนี้ทำให้สามารถเอาชนะ ดิส ที่มีจำนวนมากได้ง่ายๆเพียงแค่ใช้เวทมนตร์ออกมาค่ะ  

 

พายุทอร์นาโดที่วาดวิถีโค้งตัดผ่านอากาศและเลี้ยวอย่างไม่สมเหตุสมผลเหมือนมังกรที่ส่ายหัวไปมากลืนกิน ดิส เข้าไปหลายตัวแล้วสลายหายไป

 

 

 

 ความมหัศจรรย์ของมันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้นค่ะ กระแสอากาศถูกรบกวนอย่างมากจากพายุทอร์นาโดเกิดการแปรปรวน และแม้ว่าพวกมันจะไม่ได้ปะทะเข้ากับลูกของพายุโดยตรง แต่ก็มี ดิส จำนวนไม่น้อยที่ถูกกระแสลมที่พัดผ่านไปซัดเข้าไป และค่อยๆเสียสมดุลร่วงหล่นลงจากฟ้าทีละตัวค่ะ แม้ว่าฉันหวังว่ามันจะเป็นไปด้วยดีแบบนี้ แต่ฉันไม่คิดว่ามันจะไปได้สวยขนาดนี้ทุกครั้งหรอกค่ะ แต่บังเอิญว่าในครั้งนี้ฉันแค่โชคดีก็เท่านั้นค่ะ

 

 

 

 มันเหมือนกันกับสัตว์ประหลาดนกที่ฉันเคยต่อสู้มาก่อนหน้านี้ค่ะ เพราะดูเหมือนว่าฉันจะเหมาะที่จะต่อสู้กับ ดิส ประเภทที่ซึ่งต่อสู้อยู่บนอากาศเป็นหลักค่ะ

 

 

 

“คุณแรบบิทฟุตคะ! พวกดิสที่ร่วงลงไปพวกนั้นคงต้องรบกวนคุณแล้วค่ะ”

 

“ห๋า! มาขอให้ฉันคนนี้เก็บกวาดให้เนี่ยนะ! เธอนี่ช่างเป็นเด็กที่ไร้ยางอายอะไรอย่างนี้นะ! แบบนี้ก็มีแต่จะต้องทำไม่ใช่รึยังไง!”

 

 

 

 เอ๊ะ..เด็กที่ไร้ยางอายคนนั้นอยู่ที่ไหนเหรอคะ…?

 

 

 

 ฉันบอกได้เลยว่าเป็นเรื่องสมควรแล้วที่เธอจะถูกเรียกว่าแม่มดค่ะ คุณแรบบิทฟุตซึ่งเริ่มออกวิ่งด้วยความเร็วมหาศาล พุ่งตัวเข้าไปกระโดดเตะดิสที่กำลังร่วงลงไปที่พื้นราวกับว่าเธอกำลังใช้มันต่างแท่นเหยียบค่ะ และด้วยวิธีนั้นเธอก็สามารถย้ายตัวเองไปที่ดิสอีกตัวนึงแล้วบดขยี้พวกมันลงไปที่พื้นด้วยวิธีการแบบเดิมเรื่อยๆค่ะ แล้วหลังจากที่ได้ทำแบบนั้นซ้ำๆ พวกดิสก็ค่อยๆ สลายหายไปทีละตัวราวกับการดีดลูกพินบอลลงจากฟ้า

 

 

 

 ท้องฟ้าที่เคยถูกย้อมไปด้วยสีดำค่อยๆ ฟื้นคืนกลับมาเป็นสีฟ้าอันงดงามอีกครั้ง และดิสร่วงลงบนพื้นก็ค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ

 

 

 

 ฉันดีใจที่มันจบลงอย่างปลอดภัยค่ะ แต่แรกเริ่มเดิมทีแล้วทำไมฉันถึงต้องมาทำเรื่องพวกนี้ด้วยล่ะค่ะ?

 

 จริงๆ แล้ว ฉันก็แค่อยากจะรู้วิธีกลับคืนสู่ร่างเดิมจากโลกเวทมนตร์และฟ้องร้องเรื่องพฤติกรรมที่แจ็คก่อก็แค่นั้น…

 

 

 

 ย้อนกลับเวลากลับไปสักเล็กน้อย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 ร้านนี้อยู่ที่นี่ และมีร้านนั้นอยู่ฝั่งตรงข้าม? ดังนั้นตำแหน่งปัจจุบันของฉันควรจะอยู่ที่นี่ใช่ไหมคะ? ว่าแต่ทำไมฉันถึงต้องเดินไปทางนี้…อืม? ฉันกลับมาที่เดิมอีกครั้งรึเปล่าคะเนี่ย?

 

 

 

“ที่นี่ที่ไหน…?”

 

 

 

 หลังจากเพลิดเพลินกับอาหารอย่างอื่นที่นอกเหนือจากของเสียบไม้ย่างอย่างเช่นทาโกะยากิและช็อกโกบานาน่าแล้ว ฉันก็กำลังเดินทางไปที่กรมเวทมนตร์ค่ะ แต่ดูเหมือนว่าฉันจะหลงทางไปซะแล้วล่ะค่ะ

 

 

 

 ฉันมีแผนที่ของโลกเวทมนตร์ซึ่งมันเป็นหนึ่งในฟังก์ชั่นของมากิโฟนค่ะ แต่ฉันไม่ค่อยเข้าใจวิธีการอ่านแผนที่…และนั่นเป็นเพราะแผนที่นี้ดูเหมือนจะไม่มีฟังก์ชั่นแสดงตำแหน่งปัจจุบันของฉันค่ะ ดังนั้นฉันจึงไม่มีทางรู้ได้เลยว่าฉันกำลังอยู่ที่ไหนและกำลังเดินไปทางไหนค่ะ เจ้านี่น่ะไม่มี GPS รึไงคะ?

 

 

 

 อดไม่ได้จริงๆค่ะที่จะต้องบ่นเรื่องอุปกรณ์…แม้ว่าฉันจะไม่อยากทำอย่างนั้นก็ตามค่ะ แต่สุดท้ายแล้วฉันก็คงจะต้องพึ่งพาแผนที่นี้อีกสักหน่อยค่ะ และถ้าไม่ได้ผลฉันคงต้องถามจากใครสักคนแล้วค่ะ

 

 

 

“เอโตะ..ทิศเหนืออยู่ข้างบน ทิศตะวันออกอยู่ทางขวา…”

 

“เดี๋ยวสิ! หลบไปนะอย่ามาเกะกะขวางทาง!”

 

“เอ๊ะ?”

 

 

 

 ขณะที่ฉันกำลังจ้องมอง มากิโฟน ในมือและตรวจสอบแผนที่ ฉันก็ได้ยินเสียงของเด็กสาวที่ดูเหมือนว่าจะร้อนรนจากด้านบนศีรษะค่ะ

 

 ฉันไม่สามารถตอบสนองกับสิ่งต่างๆได้ทันและกำลังพยายามจะเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ค่ะ แต่ก่อนที่ฉันจะได้ทำแบบนั้นก็ได้มีบางอย่างตกลงมาจากด้านบนเสียก่อนและฉันก็ถูกทับค่ะ

 

 

 

“อูยยย เจ็บจัง! เดี๋ยวสินี่เธอ! ถ้าฉันบอกให้หลบไปก็หลบให้พ้นสิยะ!! วันนี้โชคร้ายจริงๆ! แย่ที่สุด! แถมพวกนั้นก็ยังไม่ได้ติดต่อฉันมาเลยด้วย!”

 

“…ฉันขอโทษนะคะที่ไม่ได้มองไปข้างหน้า แต่มันก็ค่อนข้างไม่ปกติเหมือนกันนะคะ ที่ตกลงมาจากท้องฟ้าน่ะ”

 

 

 

 เด็กสาวผมสีขาว ตาสีแดง ที่มีหูกระต่ายอยู่บนหัวนั่งทับอยู่บนตัวของฉัน และมองลงมาที่ฉันด้วยสายตาดูถูกและพูดจาไม่ดีใส่ฉันค่ะ ดวงตาของเธอดูแข็งกร้าวและหางตาของเธอก็เชิดขึ้นเล็กน้อย เธอสวมผ้ากันเปื้อนสีส้มที่ด้านนอกและใส่ชุดพริ้วๆที่มีจีบระบายสีขาวอยู่ด้านในค่ะ บางทีเธอคงจะเป็นสาวน้อยเวทมนตร์กระต่ายมั้งคะ?

 

 

 

 ฉันไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรมากนักเพราะฉันในตอนนี้อยู่ในร่างสาวน้อยเวทมนตร์ค่ะ และฉันคิดว่าที่เด็กสาวคนนี้บอกว่าเธอเจ็บมันก็น่าจะเป็นเรื่องโกหกค่ะ

 

 

 

“หุบปากไปเลยนะยะ! อย่างริอาจมาพูดกับฉันนะ! รู้ไหมว่าฉันคนนี้เป็นใครกัน!”

 

“…คุณเป็นคนดังเหรอคะ?”

 

 

 ฉันจ้องมองผู้หญิงคนนั้นในขณะที่ถูกเธอนั่งทับอยู่ค่ะ แต่ฉันจำเธอไม่ได้เลยสักนิดค่ะ และมากไปกว่านั้นคือฉันไม่ค่อยรู้จักสาวน้อยเวทมนตร์คนอื่นๆ มาตั้งแต่แรกแล้วค่ะ ดังนั้นแม้ว่าพวกเธอจะเป็นคนดัง ฉันก็ไม่มีทางที่จะรู้จักเธอได้เลยค่ะ

 

 แต่ถ้าหากเธอมั่นใจมากหรือที่จะกล่าวอีกนัยนึงถ้าเธอคิดว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดามากที่ทุกคนจะรู้จักเธอ ก็เป็นไปได้ไหมคะว่าเธออาจจะเป็นแม่มด?

 

 

 

“วะหว่าา!? เธอเป็นมือใหม่หรอกเหรอ!? หรือว่าจะเป็นพวกสมองกลวง! ไม่รู้จักท่านแรบบิตฟุตผู้นี้ได้ยังไงกันคะ! แต่ก็มีบางคนที่เรียกฉันว่าแม่มดกระต่ายเหมือนกันนะ!”

 

“แรบบิทฟุต? ที่เป็นเครื่องรางนำโชคเหรอคะ?”

 

 

 

 แต่เธอบอกก่อนหน้านี้นี่นาว่าเธอโชคไม่ดี

 

 อีกอย่างเธอจะขี่ฉันอีกนานแค่ไหนกันคะ? ฉันอยากให้เธอลุกออกไปได้แล้วค่ะ

 

 

 

“เธอนี่ใจเย็นจนน่าแปลกใจเลยนะ ช่างเป็นเจ้าตัวเล็กที่อวดดีจริงๆค่ะ”  

 

 

 

 ในที่สุดคุณแรบบิทฟุตก็ลุกขึ้นจากตัวฉันค่ะ และเธอก็พูดในขณะที่มองฉันลุกขึ้น

 

 ในเรื่องส่วนสูง ฉันคิดว่าตัวคุณเองก็ไม่ต่างกันมากหรอกนะคะ

 

 

 

“…ฉันสงสัยว่านี่จะเป็นโชคชะตาบางอย่างรึเปล่านะ? เพราะปกติแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ฉันคนนี้จะโชคร้าย”

 

“พูดเรื่องอะไรเหรอคะ?”

 

“ไม่มีอะไรหรอก ที่สำคัญกว่านั้นเธอน่ะ สามารถใช้อาวุธพิเศษของเธอได้ไหม?”

 

“อาวุธพิเศษ…? อา ใช้ได้ค่ะ”

 

 

 

 ในทีแรกฉันไม่เข้าใจความหมายของมัน(อาวุธพิเศษ)ในขณะที่ฉันถูกถามค่ะ แต่เวลาต่อมาฉันจำมันได้ในทันทีเพราะมันเป็นไม้เท้าที่ฉันมักจะใช้ประจำค่ะ

 

 ลองคิดดูสิคะ แจ็คบอกว่าปกติแล้วจะสามารถใช้อาวุธพิเศษได้เมื่อเข้าสู่เฟส 2 ค่ะ แต่ฉันใช้ไม้เท้าอันนี้มาตั้งแต่ต้นแล้วค่ะ ดังนั้นฉันจึงลืมว่าจริงๆมันคืออะไรไปเสียสนิทเลยค่ะ

 

 

 

“แล้วมันทำไมเหรอคะ?”

 

 

 

 อาจเป็นเพราะที่นี่เป็นบ้านหลังที่สองของเหล่าสาวน้อยเวทมนตร์ หรืออาจเป็นเพราะฉันคิดว่าฉันคงจะไม่เจอกับ คุณแรบบิทฟุตอีกในอนาคตอยู่แล้ว แต่ฉันก็ไม่รู้จริงๆ ว่าแท้จริงแล้วอะไรกันแน่ที่ดลใจทำให้ฉันที่ปกติแล้วจะเมินและวิ่งหนีไป ตัดสินใจคุยกับเธออีกค่ะ แม้ว่าฉันจะพยายามแก้ตัวว่ามันเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินแต่สุดท้ายแล้วฉันก็เอ่ยคำพูดต่อไปออกมาด้วยตนเองอยู่ดีค่ะ

 

 และอีกในไม่ช้าฉันก็จะเสียใจที่ไม่ได้จบการสนทนาลงค่ะ อันที่จริงตอนนี้ฉันควรจะรีบหนีไปได้แล้วค่ะ

 

 

 

“เหมาะเหม็ง มากับฉันเลย”

 

“เอ๊ะ!? ดะ อะวา…อุว้าาาาาาาา”

 

 

 

 ทันใดนั้นเองฉันถูกบีบบังคับให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตนเองโดนอุ้มเหมือนเป็นเจ้าหญิงและคุณแรบบิทฟุตก็กระโดดขึ้นไปบนฟ้าโดยไม่มีแม้แต่เวลาที่จะให้ฉันได้บ่นค่ะ แล้วมันก็ไม่ใช่เวทมนตร์บิน แต่เป็นเพียงการกระโดดธรรมดาๆที่ใช้ความสามารถทางกายภาพล้วนๆค่ะ ร่างกายถูกดีดขึ้นไปบนท้องฟ้าและตกลงมาด้วยความเร็วที่สูงยิ่งกว่า

 

 ฉันมักจะบินไปบนท้องฟ้าเพื่อต่อสู้กับ ดิส แต่นี่เป็นอะไรที่แตกต่างออกไปจากเดิมโดยสิ้นเชิงค่ะ มันเป็นการตกอย่างอิสระตามอำเภอใจที่ฉันไม่สามารถควบคุมหรือทำอะไรกับมันได้เลยค่ะ เพราะสัมผัสได้เลยค่ะว่าชีวิตของฉันกำลังตกอยู่ในอันตราย ทำให้ฉันใช้เวทมนตร์โดยไม่ได้ตั้งใจค่ะ

 

 

 

“ปีกแห่งสายลม ปีกเหินเวหา!”

 

 

 

 ดูเหมือนว่าเวทมนตร์จะได้ผลกับคุณแรบบิทฟุตที่จับฉันไว้ด้วยค่ะ และร่างที่กำลังร่วงลงของพวกเราก็หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศค่ะ

 

 

 

“ห๋า!? นี่ทำอะไรลงไปน่ะ!?”

 

“นั่นน่ะเป็นคำพูดที่ทางนี้ต้องเป็นฝ่ายถามต่างหากล่ะค่ะ!! จู่ๆ คุณก็เข้ามาทำอะไรแบบนี้ต้องการอะไรกันแน่คะ!”

 

“โวยวายน่ารำคาญชะมัด! เพราะงี้แหละฉันถึงไม่ชอบร่วมงานกับเด็กๆ”

 

“คุณเองก็ยังเป็นเด็กอยู่ไม่ใช่เหรอคะ!”

 

“คุณเองก็ยังเป็นเด็กอยู่ไม่ใช่เหรอ! ไม่มีเวลาให้เธอมาพูดอะไรแบบนี้หรอกนะ! ถ้าบินได้ก็บินเอาแล้วกัน! ฉันจะไปที่กรมเวทมนตร์น่ะ!!”

 

“… ช่ายอธิบายทีหลังด้วยนะคะ”

 

 

 

 คุณแรบบิทฟุตแม้ว่าจะเป็นฝ่ายที่เข้ามาหาเรื่องก่อนและทำตัวแปลกๆ แต่ฉันก็สามารถบอกได้จากสีหน้าของเธอว่าเธอน่าจะมีเหตุผลสำคัญที่จะต้องรีบไปที่กรมเวทมนตร์ค่ะ แล้วก็บังเอิญว่าปลายทางที่ต้องการจะไปของฉันคือกรมเวทมนตร์ด้วยเหมือนกัน ดังนั้นเป็นความจริงในเรื่องที่ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะโต้เถียงกันไปมากกว่านี้ค่ะ และฉันก็ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ก็เลยตัดสินใจในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ที่จะฟังสิ่งที่้เด็กอย่างเธอพูดในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่กว่าค่ะ

 

 

 

 แค่บินตรงไปด้วยความเร็วสูงสุดก็มาถึงกรมเวทมนตร์ได้ในเวลาเพียงสิบนาที แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะค้นหาจากท้องฟ้าเมื่อมีระยะห่างมากขนาดนี้ แต่ฉันก็คงต้องพยายามจำพวกลักษณะทางภูมิศาสตร์ของพื้นที่แห่งนี้ให้ได้ในภายหลังค่ะ

 

 

 

“เพราะมันช่วยไม่ได้ดังนั้นฉันจะอธิบายให้เธอฟัง ตอนนี้ดิสระดับมาควิสได้ปรากฏตัวขึ้นที่ฮอกไกโด และสาวน้อยเวทมนตร์ของที่นั่นกำลังพยายามจัดการกับมันอยู่ แต่สุดท้ายสิ่งที่พวกเธอก็ทำได้ก็มีเพียงแค่ต่อสู้ติดพันกับมันอยู่อย่างนั้น และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ฉันจะช่วยพวกเธอโดยการเคลื่อนย้ายระยะไกล เป็นไงฟังแล้วจะซาบซึ้งจนเคารพบูชาฉันคนนี้ผู้มีจิตใจอ่อนโยนเลยก็ได้นะ”

 

“เรื่องที่ว่ามานั้นเกรงใจค่ะ แต่มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันใช่ไหมล่ะคะ? แล้วสรุปคุณพาฉันมาที่นี่ทำไมคะ?”

 

 

 

 ฉันคิดว่าจะพาคุณแรบบิทฟุตไปส่งที่กรมเวทมนตร์และบอกลาเธอที่นั่นค่ะ แต่เธอกลับคว้าแขนของฉันไว้แล้วลากฉันไปด้วยค่ะ ดูเหมือนว่าเธอคนนี้แข็งแกร่งมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอกที่เห็นมาก

 

 

 

“ยิ่งมีกำลังรบมากก็ย่อมดีกว่า ถึงจะเป็นแค่เฟส 2 แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย เอาล่ะเธอควรช่วยเหลืองานนี้ให้มากๆ แล้วฉันจะยกโทษให้ในเรื่องที่เธอทำอะไรไม่ยั้งคิดนะ”

 

“ทำไมต้องเป็นฉันด้วย…”

 

 

 

 ฉันไม่คิดว่ามันมีเป็นไปได้ที่จะสลัดเธอให้หลุดและออกวิ่งหนีได้จริงๆ และมันเป็นเรื่องยุ่งยากที่บางทีอาจจะโดนติดตามและถูกจับตามองหลังจากนี้ ดังนั้นยอมมาให้ร่วมมือที่นี่อย่างเงียบๆ แล้วหนีไปอย่างเงียบๆ เมื่อทุกอย่างจบลงดีกว่าค่ะ

 

 ลองคิดดูสิ บางทีฉันคงจะไม่ได้เจอกับดิสระดับมาควิสอีกครั้งในเร็ววันนี้หรอกค่ะ และมันก็ไม่ได้แย่นักถ้าคิดว่ามันจะกลายเป็นคะแนนที่ได้รับค่ะ

 

 

 

“แรบบิทฟุต! คุณพร้อมสำหรับการเทเลพอร์ตระยะไกลหรือยัง?”

 

“พร้อมแล้วล่ะ~ แล้วเด็กคนนั้นล่ะ?”

 

 

 

 ฉันถูกลากขึ้นลิฟต์และถูกคุณแรบบิทฟุตพามายังห้องนึงซึ่งมีเครื่องมือต่างๆ วางอยู่เต็มไปหมด และที่นั่นมีมนุษย์แมวหลายคนกำลังเคาะแป้นพิมพ์ที่ดูเหมือนจะเป็นแผงควบคุมอยู่ค่ะ

 

 มนุษย์แมวที่มีขนปุกปุยเงางามที่สุดซึ่งกำลังดูจอมอนิเตอร์อยู่เบี่ยงสายตาจ้องมองมาที่ฉันด้วยความสนใจ

 

 

 

“ฉันจะพาเธอไปกับฉันด้วย”

 

“ไม่มีทางหรอก~ มีแม่มดเท่านั้นที่สามารถใช้อุปกรณ์นี้ได้~”

 

“หุบปากน่า! ฉันรู้นะว่าพวกนายจะลำบากถ้าจำนวนแม่มดลดลงไปอีก! ไม่ใช่ว่ามีเฟส 2 เพียงคนเดียวในพื้นที่นั้นรึไง! นี่น่ะคือการเผื่อไว้ไงล่ะ เผื่อไว้!!”

 

“ก็จริง แต่ว่า~…….ห๊ะ~?”

 

 

 

 มนุษย์แมวที่มีสีหน้าลำบากใจ จู่ๆ ก็เริ่มจ้องมองทั้งตัวของฉันราวกับว่าเขาสังเกตเห็นอะไรบางอย่างเข้าค่ะ

 

 

 

“เธอ บางทีคงจะเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ที่แจ็คดูแลอยู่ตอนนี้ใช่ไหม?”

 

“ถ้าหมายถึงคุณผีฟักทองล่ะก็ ใช่ค่ะ”

 

“อ่า~ งั้นก็~ โอเค~”

 

“ตอนแรกทำเป็นวางท่าไปได้! ฮึ้ม!”

 

 

 

 ฉันไม่รู้แน่ชัดหรอกค่ะ แต่ดูเหมือนว่าบทสนทนาจะจบลงในทิศทางที่ฉันสามารถใช้เครื่องมือวิเศษเทเลพอร์ตระยะไกลได้ค่ะ แม้ฉันจะไม่รู้สึกอย่างนั้นแต่จริงๆแล้วแต่ดูเหมือนว่าฉันเป็นแม่มดด้วยเหมือนกันค่ะ และมนุษย์แมวคนนั้นก็ดูเหมือนจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้วด้วยค่ะ

 

 

 

“ไปกันเถอะ!”

 

 

 

 ในท้ายที่สุด พวกเราลงเอยด้วยการไปต่อสู้ด้วยกันโดยไม่ได้แม้แต่คิดจะแนะนำตัวต่อกันค่ะ แต่อย่างที่เห็นผลลัพธ์ของมันคือพวกเรากลับสู่เรื่องราวในตอนเริ่มค่ะ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

[นิยายแปล(WN)] 魔法少女タイラントシルフ สนวม.ซิลฟ์ 13 สาวน้อยเวทมนตร์เจอกับแม่มด

Now you are reading [นิยายแปล(WN)] 魔法少女タイラントシルフ สนวม.ซิลฟ์ Chapter 13 สาวน้อยเวทมนตร์เจอกับแม่มด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

[แก้จากหน่วยงานเวทมนตร์ เป็นกรมเวทมนตร์นะ ไม่กลับไปแก้ตอนก่อนนะขี้เกียจ]

ตอนที่ 1-4 แม่มด ② ☆

 

 ผึ้งสีดำตัวใหญ่เท่ารถยนต์ห้าที่นั่งบินอยู่เต็มท้องฟ้า เมื่อพวกมันกระพือปีกส่งเสียงไม่พึงประสงค์ที่ทำให้รู้สึกหวาดกลัวต่อขนาดของมันดังก้องอยู่ในโลกปลอมแห่งนี้ และดูเหมือนว่าเจ้านี่จะเป็นหนึ่งในวิธีการโจมตีของมัน

 

 

 

“–!”

 

“อะไรเหรอคะ!?”

 

 

 

 สาวน้อยเวทมนตร์แรบบิทฟุตหรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักเธอในนาม แม่มดกระต่าย เธอคนนี้เองที่เป็นคนลากตัวพาฉันมาที่นี่ค่ะ และเธอก็กำลังตะโกนใส่ฉันเพื่อต้องการที่จะบอกให้ฉันทำบางอย่างค่ะ แต่ฉันไม่ได้ยินเธอเลยสักนิดเพราะว่าเสียงกระพือปีกของผึ้งยักษ์นั้นดังมากเกินไปค่ะ

 

 

 

 มันดังและดังมากๆ ดังจนเกินจะทนไหวค่ะ! ในเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีไม่มีปัญหา งั้นฉันลงมือเลยก็แล้วกันค่ะ

 

 

 

“พายุทอร์นาโดโหมกระหน่ำ ไตรทอร์นาโดมิกเซอร์”

 

 

 

 มันไม่ใช่เวทมนตร์ที่เพิ่งได้เรียนรู้มาใหม่หรอกค่ะ แต่เป็นเวทมนตร์ที่พอมีความเชี่ยวชาญมากพอแล้วก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้โดยการเรียนรู้วิธีใช้จากเวทมนตร์ที่มีอยู่แล้วค่ะ และนั่นก็คือเทคนิคที่เรียกว่า ไตร ค่ะ

 

 ความสามารถของมันนั้นเข้าใจง่ายมาก มันเป็นเวทย์มนตร์ที่เพิ่ม ทอร์นาโดมิกเซอร์ เป็นสามลูกและต้องบังคับควบคุมพวกมันแยกออกจากกันค่ะ

 

 

 

 ดิสประเภทผึ้งยักษ์พวกนี้เป็น ดิสสายพันธุ์ใหม่ที่รวมผึ้งจำนวนมากทั้งหมดเข้าเป็นฝูงเดียว และเท่าที่ฉันเคยต่อสู้เอาชนะพวกมันมาก่อนพวกมันส่วนใหญ่จะอยู่ในคลาสเดียวกันค่ะ แล้วคลาสที่ว่าก็คือคลาสบารอนค่ะ แต่ประเด็นก็คือหากพวกมันรวมตัวกันเป็นฝูงเดียวจะจัดอยู่ในระดับคลาสมาควิสแทนค่ะ

 

 ไตร ทอร์นาโด มิกเซอร์ นั้นยังไม่อยู่ในระดับที่ฉันสามารถควบคุมพายุทอร์นาโดทั้งหมดได้สมบูรณ์ตามต้องการหรอกค่ะ แต่ด้วยจำนวนพายุมากขนาดนี้ทำให้สามารถเอาชนะ ดิส ที่มีจำนวนมากได้ง่ายๆเพียงแค่ใช้เวทมนตร์ออกมาค่ะ  

 

พายุทอร์นาโดที่วาดวิถีโค้งตัดผ่านอากาศและเลี้ยวอย่างไม่สมเหตุสมผลเหมือนมังกรที่ส่ายหัวไปมากลืนกิน ดิส เข้าไปหลายตัวแล้วสลายหายไป

 

 

 

 ความมหัศจรรย์ของมันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้นค่ะ กระแสอากาศถูกรบกวนอย่างมากจากพายุทอร์นาโดเกิดการแปรปรวน และแม้ว่าพวกมันจะไม่ได้ปะทะเข้ากับลูกของพายุโดยตรง แต่ก็มี ดิส จำนวนไม่น้อยที่ถูกกระแสลมที่พัดผ่านไปซัดเข้าไป และค่อยๆเสียสมดุลร่วงหล่นลงจากฟ้าทีละตัวค่ะ แม้ว่าฉันหวังว่ามันจะเป็นไปด้วยดีแบบนี้ แต่ฉันไม่คิดว่ามันจะไปได้สวยขนาดนี้ทุกครั้งหรอกค่ะ แต่บังเอิญว่าในครั้งนี้ฉันแค่โชคดีก็เท่านั้นค่ะ

 

 

 

 มันเหมือนกันกับสัตว์ประหลาดนกที่ฉันเคยต่อสู้มาก่อนหน้านี้ค่ะ เพราะดูเหมือนว่าฉันจะเหมาะที่จะต่อสู้กับ ดิส ประเภทที่ซึ่งต่อสู้อยู่บนอากาศเป็นหลักค่ะ

 

 

 

“คุณแรบบิทฟุตคะ! พวกดิสที่ร่วงลงไปพวกนั้นคงต้องรบกวนคุณแล้วค่ะ”

 

“ห๋า! มาขอให้ฉันคนนี้เก็บกวาดให้เนี่ยนะ! เธอนี่ช่างเป็นเด็กที่ไร้ยางอายอะไรอย่างนี้นะ! แบบนี้ก็มีแต่จะต้องทำไม่ใช่รึยังไง!”

 

 

 

 เอ๊ะ..เด็กที่ไร้ยางอายคนนั้นอยู่ที่ไหนเหรอคะ…?

 

 

 

 ฉันบอกได้เลยว่าเป็นเรื่องสมควรแล้วที่เธอจะถูกเรียกว่าแม่มดค่ะ คุณแรบบิทฟุตซึ่งเริ่มออกวิ่งด้วยความเร็วมหาศาล พุ่งตัวเข้าไปกระโดดเตะดิสที่กำลังร่วงลงไปที่พื้นราวกับว่าเธอกำลังใช้มันต่างแท่นเหยียบค่ะ และด้วยวิธีนั้นเธอก็สามารถย้ายตัวเองไปที่ดิสอีกตัวนึงแล้วบดขยี้พวกมันลงไปที่พื้นด้วยวิธีการแบบเดิมเรื่อยๆค่ะ แล้วหลังจากที่ได้ทำแบบนั้นซ้ำๆ พวกดิสก็ค่อยๆ สลายหายไปทีละตัวราวกับการดีดลูกพินบอลลงจากฟ้า

 

 

 

 ท้องฟ้าที่เคยถูกย้อมไปด้วยสีดำค่อยๆ ฟื้นคืนกลับมาเป็นสีฟ้าอันงดงามอีกครั้ง และดิสร่วงลงบนพื้นก็ค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ

 

 

 

 ฉันดีใจที่มันจบลงอย่างปลอดภัยค่ะ แต่แรกเริ่มเดิมทีแล้วทำไมฉันถึงต้องมาทำเรื่องพวกนี้ด้วยล่ะค่ะ?

 

 จริงๆ แล้ว ฉันก็แค่อยากจะรู้วิธีกลับคืนสู่ร่างเดิมจากโลกเวทมนตร์และฟ้องร้องเรื่องพฤติกรรมที่แจ็คก่อก็แค่นั้น…

 

 

 

 ย้อนกลับเวลากลับไปสักเล็กน้อย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 ร้านนี้อยู่ที่นี่ และมีร้านนั้นอยู่ฝั่งตรงข้าม? ดังนั้นตำแหน่งปัจจุบันของฉันควรจะอยู่ที่นี่ใช่ไหมคะ? ว่าแต่ทำไมฉันถึงต้องเดินไปทางนี้…อืม? ฉันกลับมาที่เดิมอีกครั้งรึเปล่าคะเนี่ย?

 

 

 

“ที่นี่ที่ไหน…?”

 

 

 

 หลังจากเพลิดเพลินกับอาหารอย่างอื่นที่นอกเหนือจากของเสียบไม้ย่างอย่างเช่นทาโกะยากิและช็อกโกบานาน่าแล้ว ฉันก็กำลังเดินทางไปที่กรมเวทมนตร์ค่ะ แต่ดูเหมือนว่าฉันจะหลงทางไปซะแล้วล่ะค่ะ

 

 

 

 ฉันมีแผนที่ของโลกเวทมนตร์ซึ่งมันเป็นหนึ่งในฟังก์ชั่นของมากิโฟนค่ะ แต่ฉันไม่ค่อยเข้าใจวิธีการอ่านแผนที่…และนั่นเป็นเพราะแผนที่นี้ดูเหมือนจะไม่มีฟังก์ชั่นแสดงตำแหน่งปัจจุบันของฉันค่ะ ดังนั้นฉันจึงไม่มีทางรู้ได้เลยว่าฉันกำลังอยู่ที่ไหนและกำลังเดินไปทางไหนค่ะ เจ้านี่น่ะไม่มี GPS รึไงคะ?

 

 

 

 อดไม่ได้จริงๆค่ะที่จะต้องบ่นเรื่องอุปกรณ์…แม้ว่าฉันจะไม่อยากทำอย่างนั้นก็ตามค่ะ แต่สุดท้ายแล้วฉันก็คงจะต้องพึ่งพาแผนที่นี้อีกสักหน่อยค่ะ และถ้าไม่ได้ผลฉันคงต้องถามจากใครสักคนแล้วค่ะ

 

 

 

“เอโตะ..ทิศเหนืออยู่ข้างบน ทิศตะวันออกอยู่ทางขวา…”

 

“เดี๋ยวสิ! หลบไปนะอย่ามาเกะกะขวางทาง!”

 

“เอ๊ะ?”

 

 

 

 ขณะที่ฉันกำลังจ้องมอง มากิโฟน ในมือและตรวจสอบแผนที่ ฉันก็ได้ยินเสียงของเด็กสาวที่ดูเหมือนว่าจะร้อนรนจากด้านบนศีรษะค่ะ

 

 ฉันไม่สามารถตอบสนองกับสิ่งต่างๆได้ทันและกำลังพยายามจะเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ค่ะ แต่ก่อนที่ฉันจะได้ทำแบบนั้นก็ได้มีบางอย่างตกลงมาจากด้านบนเสียก่อนและฉันก็ถูกทับค่ะ

 

 

 

“อูยยย เจ็บจัง! เดี๋ยวสินี่เธอ! ถ้าฉันบอกให้หลบไปก็หลบให้พ้นสิยะ!! วันนี้โชคร้ายจริงๆ! แย่ที่สุด! แถมพวกนั้นก็ยังไม่ได้ติดต่อฉันมาเลยด้วย!”

 

“…ฉันขอโทษนะคะที่ไม่ได้มองไปข้างหน้า แต่มันก็ค่อนข้างไม่ปกติเหมือนกันนะคะ ที่ตกลงมาจากท้องฟ้าน่ะ”

 

 

 

 เด็กสาวผมสีขาว ตาสีแดง ที่มีหูกระต่ายอยู่บนหัวนั่งทับอยู่บนตัวของฉัน และมองลงมาที่ฉันด้วยสายตาดูถูกและพูดจาไม่ดีใส่ฉันค่ะ ดวงตาของเธอดูแข็งกร้าวและหางตาของเธอก็เชิดขึ้นเล็กน้อย เธอสวมผ้ากันเปื้อนสีส้มที่ด้านนอกและใส่ชุดพริ้วๆที่มีจีบระบายสีขาวอยู่ด้านในค่ะ บางทีเธอคงจะเป็นสาวน้อยเวทมนตร์กระต่ายมั้งคะ?

 

 

 

 ฉันไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรมากนักเพราะฉันในตอนนี้อยู่ในร่างสาวน้อยเวทมนตร์ค่ะ และฉันคิดว่าที่เด็กสาวคนนี้บอกว่าเธอเจ็บมันก็น่าจะเป็นเรื่องโกหกค่ะ

 

 

 

“หุบปากไปเลยนะยะ! อย่างริอาจมาพูดกับฉันนะ! รู้ไหมว่าฉันคนนี้เป็นใครกัน!”

 

“…คุณเป็นคนดังเหรอคะ?”

 

 

 ฉันจ้องมองผู้หญิงคนนั้นในขณะที่ถูกเธอนั่งทับอยู่ค่ะ แต่ฉันจำเธอไม่ได้เลยสักนิดค่ะ และมากไปกว่านั้นคือฉันไม่ค่อยรู้จักสาวน้อยเวทมนตร์คนอื่นๆ มาตั้งแต่แรกแล้วค่ะ ดังนั้นแม้ว่าพวกเธอจะเป็นคนดัง ฉันก็ไม่มีทางที่จะรู้จักเธอได้เลยค่ะ

 

 แต่ถ้าหากเธอมั่นใจมากหรือที่จะกล่าวอีกนัยนึงถ้าเธอคิดว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดามากที่ทุกคนจะรู้จักเธอ ก็เป็นไปได้ไหมคะว่าเธออาจจะเป็นแม่มด?

 

 

 

“วะหว่าา!? เธอเป็นมือใหม่หรอกเหรอ!? หรือว่าจะเป็นพวกสมองกลวง! ไม่รู้จักท่านแรบบิตฟุตผู้นี้ได้ยังไงกันคะ! แต่ก็มีบางคนที่เรียกฉันว่าแม่มดกระต่ายเหมือนกันนะ!”

 

“แรบบิทฟุต? ที่เป็นเครื่องรางนำโชคเหรอคะ?”

 

 

 

 แต่เธอบอกก่อนหน้านี้นี่นาว่าเธอโชคไม่ดี

 

 อีกอย่างเธอจะขี่ฉันอีกนานแค่ไหนกันคะ? ฉันอยากให้เธอลุกออกไปได้แล้วค่ะ

 

 

 

“เธอนี่ใจเย็นจนน่าแปลกใจเลยนะ ช่างเป็นเจ้าตัวเล็กที่อวดดีจริงๆค่ะ”  

 

 

 

 ในที่สุดคุณแรบบิทฟุตก็ลุกขึ้นจากตัวฉันค่ะ และเธอก็พูดในขณะที่มองฉันลุกขึ้น

 

 ในเรื่องส่วนสูง ฉันคิดว่าตัวคุณเองก็ไม่ต่างกันมากหรอกนะคะ

 

 

 

“…ฉันสงสัยว่านี่จะเป็นโชคชะตาบางอย่างรึเปล่านะ? เพราะปกติแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ฉันคนนี้จะโชคร้าย”

 

“พูดเรื่องอะไรเหรอคะ?”

 

“ไม่มีอะไรหรอก ที่สำคัญกว่านั้นเธอน่ะ สามารถใช้อาวุธพิเศษของเธอได้ไหม?”

 

“อาวุธพิเศษ…? อา ใช้ได้ค่ะ”

 

 

 

 ในทีแรกฉันไม่เข้าใจความหมายของมัน(อาวุธพิเศษ)ในขณะที่ฉันถูกถามค่ะ แต่เวลาต่อมาฉันจำมันได้ในทันทีเพราะมันเป็นไม้เท้าที่ฉันมักจะใช้ประจำค่ะ

 

 ลองคิดดูสิคะ แจ็คบอกว่าปกติแล้วจะสามารถใช้อาวุธพิเศษได้เมื่อเข้าสู่เฟส 2 ค่ะ แต่ฉันใช้ไม้เท้าอันนี้มาตั้งแต่ต้นแล้วค่ะ ดังนั้นฉันจึงลืมว่าจริงๆมันคืออะไรไปเสียสนิทเลยค่ะ

 

 

 

“แล้วมันทำไมเหรอคะ?”

 

 

 

 อาจเป็นเพราะที่นี่เป็นบ้านหลังที่สองของเหล่าสาวน้อยเวทมนตร์ หรืออาจเป็นเพราะฉันคิดว่าฉันคงจะไม่เจอกับ คุณแรบบิทฟุตอีกในอนาคตอยู่แล้ว แต่ฉันก็ไม่รู้จริงๆ ว่าแท้จริงแล้วอะไรกันแน่ที่ดลใจทำให้ฉันที่ปกติแล้วจะเมินและวิ่งหนีไป ตัดสินใจคุยกับเธออีกค่ะ แม้ว่าฉันจะพยายามแก้ตัวว่ามันเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินแต่สุดท้ายแล้วฉันก็เอ่ยคำพูดต่อไปออกมาด้วยตนเองอยู่ดีค่ะ

 

 และอีกในไม่ช้าฉันก็จะเสียใจที่ไม่ได้จบการสนทนาลงค่ะ อันที่จริงตอนนี้ฉันควรจะรีบหนีไปได้แล้วค่ะ

 

 

 

“เหมาะเหม็ง มากับฉันเลย”

 

“เอ๊ะ!? ดะ อะวา…อุว้าาาาาาาา”

 

 

 

 ทันใดนั้นเองฉันถูกบีบบังคับให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ตนเองโดนอุ้มเหมือนเป็นเจ้าหญิงและคุณแรบบิทฟุตก็กระโดดขึ้นไปบนฟ้าโดยไม่มีแม้แต่เวลาที่จะให้ฉันได้บ่นค่ะ แล้วมันก็ไม่ใช่เวทมนตร์บิน แต่เป็นเพียงการกระโดดธรรมดาๆที่ใช้ความสามารถทางกายภาพล้วนๆค่ะ ร่างกายถูกดีดขึ้นไปบนท้องฟ้าและตกลงมาด้วยความเร็วที่สูงยิ่งกว่า

 

 ฉันมักจะบินไปบนท้องฟ้าเพื่อต่อสู้กับ ดิส แต่นี่เป็นอะไรที่แตกต่างออกไปจากเดิมโดยสิ้นเชิงค่ะ มันเป็นการตกอย่างอิสระตามอำเภอใจที่ฉันไม่สามารถควบคุมหรือทำอะไรกับมันได้เลยค่ะ เพราะสัมผัสได้เลยค่ะว่าชีวิตของฉันกำลังตกอยู่ในอันตราย ทำให้ฉันใช้เวทมนตร์โดยไม่ได้ตั้งใจค่ะ

 

 

 

“ปีกแห่งสายลม ปีกเหินเวหา!”

 

 

 

 ดูเหมือนว่าเวทมนตร์จะได้ผลกับคุณแรบบิทฟุตที่จับฉันไว้ด้วยค่ะ และร่างที่กำลังร่วงลงของพวกเราก็หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศค่ะ

 

 

 

“ห๋า!? นี่ทำอะไรลงไปน่ะ!?”

 

“นั่นน่ะเป็นคำพูดที่ทางนี้ต้องเป็นฝ่ายถามต่างหากล่ะค่ะ!! จู่ๆ คุณก็เข้ามาทำอะไรแบบนี้ต้องการอะไรกันแน่คะ!”

 

“โวยวายน่ารำคาญชะมัด! เพราะงี้แหละฉันถึงไม่ชอบร่วมงานกับเด็กๆ”

 

“คุณเองก็ยังเป็นเด็กอยู่ไม่ใช่เหรอคะ!”

 

“คุณเองก็ยังเป็นเด็กอยู่ไม่ใช่เหรอ! ไม่มีเวลาให้เธอมาพูดอะไรแบบนี้หรอกนะ! ถ้าบินได้ก็บินเอาแล้วกัน! ฉันจะไปที่กรมเวทมนตร์น่ะ!!”

 

“… ช่ายอธิบายทีหลังด้วยนะคะ”

 

 

 

 คุณแรบบิทฟุตแม้ว่าจะเป็นฝ่ายที่เข้ามาหาเรื่องก่อนและทำตัวแปลกๆ แต่ฉันก็สามารถบอกได้จากสีหน้าของเธอว่าเธอน่าจะมีเหตุผลสำคัญที่จะต้องรีบไปที่กรมเวทมนตร์ค่ะ แล้วก็บังเอิญว่าปลายทางที่ต้องการจะไปของฉันคือกรมเวทมนตร์ด้วยเหมือนกัน ดังนั้นเป็นความจริงในเรื่องที่ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะโต้เถียงกันไปมากกว่านี้ค่ะ และฉันก็ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ก็เลยตัดสินใจในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ที่จะฟังสิ่งที่้เด็กอย่างเธอพูดในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่กว่าค่ะ

 

 

 

 แค่บินตรงไปด้วยความเร็วสูงสุดก็มาถึงกรมเวทมนตร์ได้ในเวลาเพียงสิบนาที แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะค้นหาจากท้องฟ้าเมื่อมีระยะห่างมากขนาดนี้ แต่ฉันก็คงต้องพยายามจำพวกลักษณะทางภูมิศาสตร์ของพื้นที่แห่งนี้ให้ได้ในภายหลังค่ะ

 

 

 

“เพราะมันช่วยไม่ได้ดังนั้นฉันจะอธิบายให้เธอฟัง ตอนนี้ดิสระดับมาควิสได้ปรากฏตัวขึ้นที่ฮอกไกโด และสาวน้อยเวทมนตร์ของที่นั่นกำลังพยายามจัดการกับมันอยู่ แต่สุดท้ายสิ่งที่พวกเธอก็ทำได้ก็มีเพียงแค่ต่อสู้ติดพันกับมันอยู่อย่างนั้น และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ฉันจะช่วยพวกเธอโดยการเคลื่อนย้ายระยะไกล เป็นไงฟังแล้วจะซาบซึ้งจนเคารพบูชาฉันคนนี้ผู้มีจิตใจอ่อนโยนเลยก็ได้นะ”

 

“เรื่องที่ว่ามานั้นเกรงใจค่ะ แต่มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันใช่ไหมล่ะคะ? แล้วสรุปคุณพาฉันมาที่นี่ทำไมคะ?”

 

 

 

 ฉันคิดว่าจะพาคุณแรบบิทฟุตไปส่งที่กรมเวทมนตร์และบอกลาเธอที่นั่นค่ะ แต่เธอกลับคว้าแขนของฉันไว้แล้วลากฉันไปด้วยค่ะ ดูเหมือนว่าเธอคนนี้แข็งแกร่งมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอกที่เห็นมาก

 

 

 

“ยิ่งมีกำลังรบมากก็ย่อมดีกว่า ถึงจะเป็นแค่เฟส 2 แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย เอาล่ะเธอควรช่วยเหลืองานนี้ให้มากๆ แล้วฉันจะยกโทษให้ในเรื่องที่เธอทำอะไรไม่ยั้งคิดนะ”

 

“ทำไมต้องเป็นฉันด้วย…”

 

 

 

 ฉันไม่คิดว่ามันมีเป็นไปได้ที่จะสลัดเธอให้หลุดและออกวิ่งหนีได้จริงๆ และมันเป็นเรื่องยุ่งยากที่บางทีอาจจะโดนติดตามและถูกจับตามองหลังจากนี้ ดังนั้นยอมมาให้ร่วมมือที่นี่อย่างเงียบๆ แล้วหนีไปอย่างเงียบๆ เมื่อทุกอย่างจบลงดีกว่าค่ะ

 

 ลองคิดดูสิ บางทีฉันคงจะไม่ได้เจอกับดิสระดับมาควิสอีกครั้งในเร็ววันนี้หรอกค่ะ และมันก็ไม่ได้แย่นักถ้าคิดว่ามันจะกลายเป็นคะแนนที่ได้รับค่ะ

 

 

 

“แรบบิทฟุต! คุณพร้อมสำหรับการเทเลพอร์ตระยะไกลหรือยัง?”

 

“พร้อมแล้วล่ะ~ แล้วเด็กคนนั้นล่ะ?”

 

 

 

 ฉันถูกลากขึ้นลิฟต์และถูกคุณแรบบิทฟุตพามายังห้องนึงซึ่งมีเครื่องมือต่างๆ วางอยู่เต็มไปหมด และที่นั่นมีมนุษย์แมวหลายคนกำลังเคาะแป้นพิมพ์ที่ดูเหมือนจะเป็นแผงควบคุมอยู่ค่ะ

 

 มนุษย์แมวที่มีขนปุกปุยเงางามที่สุดซึ่งกำลังดูจอมอนิเตอร์อยู่เบี่ยงสายตาจ้องมองมาที่ฉันด้วยความสนใจ

 

 

 

“ฉันจะพาเธอไปกับฉันด้วย”

 

“ไม่มีทางหรอก~ มีแม่มดเท่านั้นที่สามารถใช้อุปกรณ์นี้ได้~”

 

“หุบปากน่า! ฉันรู้นะว่าพวกนายจะลำบากถ้าจำนวนแม่มดลดลงไปอีก! ไม่ใช่ว่ามีเฟส 2 เพียงคนเดียวในพื้นที่นั้นรึไง! นี่น่ะคือการเผื่อไว้ไงล่ะ เผื่อไว้!!”

 

“ก็จริง แต่ว่า~…….ห๊ะ~?”

 

 

 

 มนุษย์แมวที่มีสีหน้าลำบากใจ จู่ๆ ก็เริ่มจ้องมองทั้งตัวของฉันราวกับว่าเขาสังเกตเห็นอะไรบางอย่างเข้าค่ะ

 

 

 

“เธอ บางทีคงจะเป็นสาวน้อยเวทมนตร์ที่แจ็คดูแลอยู่ตอนนี้ใช่ไหม?”

 

“ถ้าหมายถึงคุณผีฟักทองล่ะก็ ใช่ค่ะ”

 

“อ่า~ งั้นก็~ โอเค~”

 

“ตอนแรกทำเป็นวางท่าไปได้! ฮึ้ม!”

 

 

 

 ฉันไม่รู้แน่ชัดหรอกค่ะ แต่ดูเหมือนว่าบทสนทนาจะจบลงในทิศทางที่ฉันสามารถใช้เครื่องมือวิเศษเทเลพอร์ตระยะไกลได้ค่ะ แม้ฉันจะไม่รู้สึกอย่างนั้นแต่จริงๆแล้วแต่ดูเหมือนว่าฉันเป็นแม่มดด้วยเหมือนกันค่ะ และมนุษย์แมวคนนั้นก็ดูเหมือนจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้วด้วยค่ะ

 

 

 

“ไปกันเถอะ!”

 

 

 

 ในท้ายที่สุด พวกเราลงเอยด้วยการไปต่อสู้ด้วยกันโดยไม่ได้แม้แต่คิดจะแนะนำตัวต่อกันค่ะ แต่อย่างที่เห็นผลลัพธ์ของมันคือพวกเรากลับสู่เรื่องราวในตอนเริ่มค่ะ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+