หวนแค้นชะตารัก 696 แผนซ้อนแผน / 697 กู้จื่อหยวนหลงกล

Now you are reading หวนแค้นชะตารัก Chapter 696 แผนซ้อนแผน / 697 กู้จื่อหยวนหลงกล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 696 แผนซ้อนแผน   

 

 

ซูเหิงเกรงว่าถ้าขืนพูดต่อจะทำให้คนอื่นรู้ จึงไม่ต่อคำกู้จื่อหยวน เขาสะกดความโกรธไว้ในใจ ปกติทั้งสองไม่พูดคุยกัน วันนี้กู้จื่อหยวนจงใจแหย่ให้เขาโกรธ  

 

 

กู้จื่อหยวนยกเหล้าขึ้นดื่มช้าๆ ท่าทางพอใจที่เห็นซูเหิงยอมแพ้ ซูเหิงไม่อยากนั่งกับกู้จื่อหยวนต่อ จึงถือโอกาสลุกไปเดินให้สร่างเมา  

 

 

ซูเหิงออกไปไม่นาน ก็มีคนกระซิบข้างหูเฟิ่งหลิงอวี่ เฟิ่งหลิงอวี่เองก็ลุกไป  

 

 

“อาหลาน เจ้าตามซูเหิงไป อย่าให้เกิดเรื่อง”  

 

 

อาหลานพยักหน้า แอบตามออกไป  

 

 

ครู่หนึ่ง อาหลานก็กลับมา กระซิบข้างหูซูจิ่วซือ “ฮองเฮา บ่าวเจอท่านโหว เห็นท่านโหวสลบไป นอนอยู่ที่พุ่มไม้  

 

 

องค์หญิงสามเสื้อผ้าหลุดรุ่ยสลบอยู่ข้างท่านโหว บ่าวพาท่านโหวไปที่อื่น และเพื่อไม่ให้องค์หญิงสามฟื้นขึ้นมาโวยวาย บ่าวจึงสกัดจุดองค์หญิงสามไว้ จะให้จัดการองค์หญิงสามอย่างไรเพคะ”  

 

 

ซูจิ่วซือสีหน้าเย็นชาลง นี่แสดงว่ามีคนต้องการยัดเยียดเฟิ่งหลิงอวี่ให้ซูเหิง เฟิ่งอวิ๋นหล่างคงไม่ทำอย่างนี้ นางจึงนึกถึงกู้จื่อหยวนทันที  

 

 

วันนี้พอออกจากวังหย่งโซ่วกง นางกับกู้ชิงเฉิงสนทนากันครู่หนึ่ง กู้ชิงเฉิงฉพูดถึงเรื่องที่ว่าเฟิ่งอวิ๋นหล่างอยากให้เฟิ่งหลิงอวี่หมั้นหมายกับกู้จื่อหยวน ในเมื่อเป็นอย่างนี้ นางก็จะซ้อนแผน  

 

 

เฟิ่งหลิงอวี่จะแต่งงานเข้าจวนอันผิงโหวไม่ได้เด็ดขาด ถ้าปล่อยให้นางอยู่ในจวนอันผิงโหว จวนอันผิงโหวคงไม่มีวันสงบ  

 

 

ในใจวางแผนไว้แล้ว ซูจิ่วซือกำชับอาหลาน แล้วลุกยืนทันที หันไปบอกขออภัยเฟิ่งอวิ๋นหล่าง “ฝ่าพระบาท หม่อมฉันดื่มเหล้าได้ไม่มาก อยากออกไปเดินให้สร่างเมา เชิญฝ่าพระบาทกับฮองเฮาตามสบายเพคะ”  

 

 

เฟิ่งอวิ๋นหล่างพยักหน้า เผยปิงปิงได้ยินว่าซูจิ่วซือจะออกไปเดินให้สร่างเมา ก็อยากตามออกไป ซูจิ่วซือกระซิบบอก “ปิงปิง เจ้านั่งเป็นเพื่อนหลียวนที่นี่ ข้ายังมีธุระ เดี๋ยวมีงานให้เจ้าช่วย”  

 

 

พอได้ยินว่าซูจิ่วซือมีแผนอยู่แล้ว เผยปิงปิงก็ไม่ดึงดัน ปล่อยให้ซูจิ่วซือเสด็จนำอาหลานออกไป  

 

 

ทั้งสองออกไปไม่นาน กู้จื่อหยวนก็ลุกออกไป  

 

 

อาหลานพาซูจิ่วซือเดินไปยังสถานที่ที่เฟิ่งหลิงอวี่สลบอยู่ เฟิ่งหลิงอวี่ฟื้นแล้ว แต่ยังนอนที่พื้นพูดไม่ได้ และขยับตัวไม่ได้ ได้แต่เบิ่งตากว้างถลึงตาใส่ซูจิ่วซือ  

 

 

ซูจิ่วซือก้มหน้าลงมองเฟิ่งหลิงอวี่ ริมฝีปากผุดรอยยิ้มจางๆ “ข้ารู้ว่าเจ้าอยากพูดอะไร คิดจะด่าข้าใช่หรือไม่  

 

 

เฟิ่งหลิงอวี่ เมื่อก่อนเจ้าเป็นองค์หญิงใหญ่ ข้าเป็นเพียงองค์หญิงไม่มีอำนาจบารมี ข้าไม่รู้จะจัดการกับเจ้าอย่างไร จึงยอมปล่อยเจ้าไป เจ้าไม่ต้องแค้นข้า ข้ากับเฉินหรงแต่งงานกันแล้ว เจ้าเองก็สมควรแต่งงาน ข้าเลือกสามีให้เจ้าเอง เป็นไง”  

 

 

เฟิ่งหลิงอวี่ถลึงตามากกว่าเดิม แค้นจนอยากกินซูจิ่วซือ แต่ไม่รู้ทำอย่างไรเพราะพูดไม่ได้  

 

 

“คุณหนู กู้จื่อหยวนมาแล้ว”  

 

 

อาหลานระแวดระวังมาก ร้องเตือนซูจิ่วซือ  

 

 

ซูจิ่วซือพยักหน้า “เดี๋ยวทำตามที่ข้าบอกไว้”  

 

 

พูดจบซูจิ่วซือก็ก้าวไปตามหลังเสียงเท้าเดิน เฟิ่งหลิงอวี่นอนที่พื้น มีพุ่มไม้บังอยู่ ดูข้างนอกมองไม่เห็นเฟิ่งหลิงอวี่  

 

 

ขณะที่เดินไปสิบกว่าก้าว ซูจิ่วซือก็เห็นกู้จื่อหยวน นางรู้ว่ากู้จื่อหยวนซึ่งคอยสังเกตการกระทำทุกอย่างของนางต้องตามออกมาแน่ และคาดไว้ไม่ผิด เขาตามออกมาจริงๆ  

 

 

“ใต้เท้ากู้ก็ออกมาเดินให้สร่างเมาหรือ”  

 

 

ซูจิ่วซือยิ้มให้กู้จื่อหยวนอย่างเจื่อนๆ  

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 697 กู้จื่อหยวนหลงกล  

 

 

“บังเอิญจริงๆ ได้มาเจอฮองเฮาที่นี่”  

 

 

“นึกไม่ถึงว่าใต้เท้ากู้ยังนึกถึงข้า” ซูจิ่วซือหยุดยิ้ม น้ำเสียงเย็นชา “เฉี่ยวฉินเป็นคนของเจ้าใช่หรือไม่”  

 

 

กู้จื่อหยวนนึกไม่ถึงว่าซูจิ่วซือจะสืบได้เร็วอย่างนี้ เขาตะลึงครู่หนึ่ง แล้วรีบปฏิเสธทันที “เฉี่ยวฉินเป็นผู้หญิงคนใกล้ชิดซูเหิงไม่ใช่หรือ จะเกี่ยวข้องกับข้าได้อย่างไร”  

 

 

“ใต้เท้ากู้ ไม่ต้องปฏิเสธ ถ้าไม่มีหลักฐาน ข้าจะพูดอย่างนี้ได้อย่างไร เจ้าพยายามสืบหาเฉี่ยวฉิน นางเคยเป็นคู่หมั้นของซูคังตอนอยู่ที่ซูโจว นางมาเพื่อแก้แค้นให้ซูคัง”  

 

 

ในเมื่อซูจิ่วซือรู้ความลับนี้แล้ว เฉี่ยวฉินก็เป็นเบี้ยที่ไร้ประโยชน์ ซูจิ่วซือคงไม่ปล่อยเฉี่ยวฉินแน่ กู้จื่อหยวนยิ้มหยัน “ฮองเฮาเก่งกาจจริงๆ ใช้เวลาไม่นานก็สืบรู้  

 

 

“ข้าไม่จำเป็นต้องสืบ นางมีสาวใช้ใกล้ชิดที่กลัวตายคนหนึ่ง แค่ขู่ก็พูดออกมาหมด เจ้าจะทำอะไรข้าก็ทำ ข้าไม่มีวันปล่อยให้เจ้าทำร้ายซูเหิงแน่”  

 

 

“ถ้าเช่นนั้นเจ้าควรมาอยู่ที่จิงเฉิงเสียเลย”  

 

 

“แม้เจ้าจะแค้นข้า แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับซูเหิง เจ้าจะเอาชีวิตซูเหิงให้ได้ กู้จื่อหยวน ตอนแรกข้ายังนึกว่าเจ้าคงไม่เหมือนกู้เฝิ่นไต้ ยังรู้จักผิดชอบชั่วดีอยู่บ้าง แต่ข้าดูเจ้าผิดไป เจ้าก็ไม่ต่างจากกู้เฝิ่นไต้สักนิด”  

 

 

กู้จื่อหยวนสีหน้าเครียดทันที “พวกเจ้าบีบข้าให้เป็นอย่างนี้ ข้ากับซูเหิงไม่มีความแค้นต่อกันก็จริง ถ้าจะโทษก็ต้องโทษซูเหิงที่มีพี่สาวอย่างเจ้า”  

 

 

“เจ้าบีบตัวเองต่างหาก แต่กลับโทษคนอื่น เจ้ารู้อยู่แก่ใจว่าแม่เจ้ากับกู้เฝิ่นไต้เคยทำอะไรไว้ ในเมื่อกล้าทำก็ต้องนึกถึงสักวันหนึ่งจะเป็นอย่างไร เจ้าไม่เข้าใจเรื่องนี้ แต่กลับโยนความผิดทั้งหมดมาใส่ให้ข้ากับเฉินหรง ไม่รู้สึกน่าหัวเราะหรือ”  

 

 

กู้จื่อหยวนเริ่มรู้สึกโกรธ ขณะที่กำลังจะพูดออกมา อาหลานซึ่งซุ่มอยู่ก็พุ่งออกมา สกัดจุดกู้จื่อหยวนทันที ทำให้เขาขยับตัวไม่ได้และพูดไม่ได้  

 

 

กู้จื่อหยวนถลึงตาใส่ซูจิ่วซือ พอถึงตอนนี้เขาเพิ่งรู้ตัว่าหลงกลซูจิ่วซือแล้ว  

 

 

“อาหลาน พาตัวองค์หญิงสามมา”  

 

 

“เพคะ ฮองเฮา”  

 

 

อาหลานรับคำ แล้วรีบพาเฟิ่งหลิงอวี่มาทันที จากนั้นก็ผลักกู้จื่อหยวนล้มลงกับพื้น ให้เฟิ่งหลิงอวี่ซึ่งเสื้อผ้าหลุดลุ่ยเอนตัวซบอกกู้จื่อหยวน  

 

 

กู้จื่อหยวนแค้นใจมาก แต่ทำอะไรไม่ได้ เดิมทีเขาจะยัดเยียดเฟิ่งหลิงอวี่ให้ซูเหิง แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นยกหินทุ่มขาตัวเอง  

 

 

ซูจิ่วซือมองทั้งสองอย่างเย็นชา “ฝ่าพระบาทจะพระราชทานการแต่งงานให้เจ้าทั้งสอง ทำไมพวกเจ้าขัดขืน องค์หญิงสาม เจ้ากับตระกูลกู้มีวาสนาต่อกัน ไม่ได้แต่งงานกับคนตระกูลกู้คนนั้น สุดท้ายก็แต่งงานกับคนตระกูลกู้สมใจ หวังว่าเจ้าทั้งสองจะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า”  

 

 

พูดจบซูจิ่วซือก็ออกไปไม่หันมามอง  

 

 

เฟิ่งหลิงอวี่รู้เจตนาของซูจิ่วซือแล้ว นางโกรธจนแทบกระอักเลือด ซูจิ่วซือต้องการทำลายชื่อเสียงของนาง นางเป็นองค์หญิงใหญ่ในวัง แต่เสื่อมเสียชื่อเสียงจนต้องแต่งงานกับกู้จื่อหยวน สำหรับนางแล้วเป็นการถูกหลบหลู่อย่างยิ่ง  

 

 

ถ้ามีใครมาเห็นเข้า นางคงอับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน  

 

 

ซูจิ่วซือ จิตใจเจ้าช่างชั่วร้ายจริงๆ  

 

 

ซูจิ่วซือออกไปครู่หนึ่ง เผยปิงปิงก็เข้ามาพร้อมกับกู้ชิงเฉิง ทันเห็นเหตุการณ์นี้เข้าพอดี อาหลานซึ่งแอบอยู่ไม่ไกล รีบดีดกรวดคลายจุดให้คนทั้งคู่ทันที  

 

 

เผยปิงปิงรู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แสร้งร้องโวยวาย “นี่องค์หญิงสามกับน้องสามหรือนี่ เจ้าทั้งสองถึงรักใคร่กันอย่างไรก็ควรรู้จักอายบ้าง ถึงกับทำเรื่องบัดสีในวัง”  

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หวนแค้นชะตารัก 696 แผนซ้อนแผน / 697 กู้จื่อหยวนหลงกล

Now you are reading หวนแค้นชะตารัก Chapter 696 แผนซ้อนแผน / 697 กู้จื่อหยวนหลงกล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 696 แผนซ้อนแผน   

 

 

ซูเหิงเกรงว่าถ้าขืนพูดต่อจะทำให้คนอื่นรู้ จึงไม่ต่อคำกู้จื่อหยวน เขาสะกดความโกรธไว้ในใจ ปกติทั้งสองไม่พูดคุยกัน วันนี้กู้จื่อหยวนจงใจแหย่ให้เขาโกรธ  

 

 

กู้จื่อหยวนยกเหล้าขึ้นดื่มช้าๆ ท่าทางพอใจที่เห็นซูเหิงยอมแพ้ ซูเหิงไม่อยากนั่งกับกู้จื่อหยวนต่อ จึงถือโอกาสลุกไปเดินให้สร่างเมา  

 

 

ซูเหิงออกไปไม่นาน ก็มีคนกระซิบข้างหูเฟิ่งหลิงอวี่ เฟิ่งหลิงอวี่เองก็ลุกไป  

 

 

“อาหลาน เจ้าตามซูเหิงไป อย่าให้เกิดเรื่อง”  

 

 

อาหลานพยักหน้า แอบตามออกไป  

 

 

ครู่หนึ่ง อาหลานก็กลับมา กระซิบข้างหูซูจิ่วซือ “ฮองเฮา บ่าวเจอท่านโหว เห็นท่านโหวสลบไป นอนอยู่ที่พุ่มไม้  

 

 

องค์หญิงสามเสื้อผ้าหลุดรุ่ยสลบอยู่ข้างท่านโหว บ่าวพาท่านโหวไปที่อื่น และเพื่อไม่ให้องค์หญิงสามฟื้นขึ้นมาโวยวาย บ่าวจึงสกัดจุดองค์หญิงสามไว้ จะให้จัดการองค์หญิงสามอย่างไรเพคะ”  

 

 

ซูจิ่วซือสีหน้าเย็นชาลง นี่แสดงว่ามีคนต้องการยัดเยียดเฟิ่งหลิงอวี่ให้ซูเหิง เฟิ่งอวิ๋นหล่างคงไม่ทำอย่างนี้ นางจึงนึกถึงกู้จื่อหยวนทันที  

 

 

วันนี้พอออกจากวังหย่งโซ่วกง นางกับกู้ชิงเฉิงสนทนากันครู่หนึ่ง กู้ชิงเฉิงฉพูดถึงเรื่องที่ว่าเฟิ่งอวิ๋นหล่างอยากให้เฟิ่งหลิงอวี่หมั้นหมายกับกู้จื่อหยวน ในเมื่อเป็นอย่างนี้ นางก็จะซ้อนแผน  

 

 

เฟิ่งหลิงอวี่จะแต่งงานเข้าจวนอันผิงโหวไม่ได้เด็ดขาด ถ้าปล่อยให้นางอยู่ในจวนอันผิงโหว จวนอันผิงโหวคงไม่มีวันสงบ  

 

 

ในใจวางแผนไว้แล้ว ซูจิ่วซือกำชับอาหลาน แล้วลุกยืนทันที หันไปบอกขออภัยเฟิ่งอวิ๋นหล่าง “ฝ่าพระบาท หม่อมฉันดื่มเหล้าได้ไม่มาก อยากออกไปเดินให้สร่างเมา เชิญฝ่าพระบาทกับฮองเฮาตามสบายเพคะ”  

 

 

เฟิ่งอวิ๋นหล่างพยักหน้า เผยปิงปิงได้ยินว่าซูจิ่วซือจะออกไปเดินให้สร่างเมา ก็อยากตามออกไป ซูจิ่วซือกระซิบบอก “ปิงปิง เจ้านั่งเป็นเพื่อนหลียวนที่นี่ ข้ายังมีธุระ เดี๋ยวมีงานให้เจ้าช่วย”  

 

 

พอได้ยินว่าซูจิ่วซือมีแผนอยู่แล้ว เผยปิงปิงก็ไม่ดึงดัน ปล่อยให้ซูจิ่วซือเสด็จนำอาหลานออกไป  

 

 

ทั้งสองออกไปไม่นาน กู้จื่อหยวนก็ลุกออกไป  

 

 

อาหลานพาซูจิ่วซือเดินไปยังสถานที่ที่เฟิ่งหลิงอวี่สลบอยู่ เฟิ่งหลิงอวี่ฟื้นแล้ว แต่ยังนอนที่พื้นพูดไม่ได้ และขยับตัวไม่ได้ ได้แต่เบิ่งตากว้างถลึงตาใส่ซูจิ่วซือ  

 

 

ซูจิ่วซือก้มหน้าลงมองเฟิ่งหลิงอวี่ ริมฝีปากผุดรอยยิ้มจางๆ “ข้ารู้ว่าเจ้าอยากพูดอะไร คิดจะด่าข้าใช่หรือไม่  

 

 

เฟิ่งหลิงอวี่ เมื่อก่อนเจ้าเป็นองค์หญิงใหญ่ ข้าเป็นเพียงองค์หญิงไม่มีอำนาจบารมี ข้าไม่รู้จะจัดการกับเจ้าอย่างไร จึงยอมปล่อยเจ้าไป เจ้าไม่ต้องแค้นข้า ข้ากับเฉินหรงแต่งงานกันแล้ว เจ้าเองก็สมควรแต่งงาน ข้าเลือกสามีให้เจ้าเอง เป็นไง”  

 

 

เฟิ่งหลิงอวี่ถลึงตามากกว่าเดิม แค้นจนอยากกินซูจิ่วซือ แต่ไม่รู้ทำอย่างไรเพราะพูดไม่ได้  

 

 

“คุณหนู กู้จื่อหยวนมาแล้ว”  

 

 

อาหลานระแวดระวังมาก ร้องเตือนซูจิ่วซือ  

 

 

ซูจิ่วซือพยักหน้า “เดี๋ยวทำตามที่ข้าบอกไว้”  

 

 

พูดจบซูจิ่วซือก็ก้าวไปตามหลังเสียงเท้าเดิน เฟิ่งหลิงอวี่นอนที่พื้น มีพุ่มไม้บังอยู่ ดูข้างนอกมองไม่เห็นเฟิ่งหลิงอวี่  

 

 

ขณะที่เดินไปสิบกว่าก้าว ซูจิ่วซือก็เห็นกู้จื่อหยวน นางรู้ว่ากู้จื่อหยวนซึ่งคอยสังเกตการกระทำทุกอย่างของนางต้องตามออกมาแน่ และคาดไว้ไม่ผิด เขาตามออกมาจริงๆ  

 

 

“ใต้เท้ากู้ก็ออกมาเดินให้สร่างเมาหรือ”  

 

 

ซูจิ่วซือยิ้มให้กู้จื่อหยวนอย่างเจื่อนๆ  

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 697 กู้จื่อหยวนหลงกล  

 

 

“บังเอิญจริงๆ ได้มาเจอฮองเฮาที่นี่”  

 

 

“นึกไม่ถึงว่าใต้เท้ากู้ยังนึกถึงข้า” ซูจิ่วซือหยุดยิ้ม น้ำเสียงเย็นชา “เฉี่ยวฉินเป็นคนของเจ้าใช่หรือไม่”  

 

 

กู้จื่อหยวนนึกไม่ถึงว่าซูจิ่วซือจะสืบได้เร็วอย่างนี้ เขาตะลึงครู่หนึ่ง แล้วรีบปฏิเสธทันที “เฉี่ยวฉินเป็นผู้หญิงคนใกล้ชิดซูเหิงไม่ใช่หรือ จะเกี่ยวข้องกับข้าได้อย่างไร”  

 

 

“ใต้เท้ากู้ ไม่ต้องปฏิเสธ ถ้าไม่มีหลักฐาน ข้าจะพูดอย่างนี้ได้อย่างไร เจ้าพยายามสืบหาเฉี่ยวฉิน นางเคยเป็นคู่หมั้นของซูคังตอนอยู่ที่ซูโจว นางมาเพื่อแก้แค้นให้ซูคัง”  

 

 

ในเมื่อซูจิ่วซือรู้ความลับนี้แล้ว เฉี่ยวฉินก็เป็นเบี้ยที่ไร้ประโยชน์ ซูจิ่วซือคงไม่ปล่อยเฉี่ยวฉินแน่ กู้จื่อหยวนยิ้มหยัน “ฮองเฮาเก่งกาจจริงๆ ใช้เวลาไม่นานก็สืบรู้  

 

 

“ข้าไม่จำเป็นต้องสืบ นางมีสาวใช้ใกล้ชิดที่กลัวตายคนหนึ่ง แค่ขู่ก็พูดออกมาหมด เจ้าจะทำอะไรข้าก็ทำ ข้าไม่มีวันปล่อยให้เจ้าทำร้ายซูเหิงแน่”  

 

 

“ถ้าเช่นนั้นเจ้าควรมาอยู่ที่จิงเฉิงเสียเลย”  

 

 

“แม้เจ้าจะแค้นข้า แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับซูเหิง เจ้าจะเอาชีวิตซูเหิงให้ได้ กู้จื่อหยวน ตอนแรกข้ายังนึกว่าเจ้าคงไม่เหมือนกู้เฝิ่นไต้ ยังรู้จักผิดชอบชั่วดีอยู่บ้าง แต่ข้าดูเจ้าผิดไป เจ้าก็ไม่ต่างจากกู้เฝิ่นไต้สักนิด”  

 

 

กู้จื่อหยวนสีหน้าเครียดทันที “พวกเจ้าบีบข้าให้เป็นอย่างนี้ ข้ากับซูเหิงไม่มีความแค้นต่อกันก็จริง ถ้าจะโทษก็ต้องโทษซูเหิงที่มีพี่สาวอย่างเจ้า”  

 

 

“เจ้าบีบตัวเองต่างหาก แต่กลับโทษคนอื่น เจ้ารู้อยู่แก่ใจว่าแม่เจ้ากับกู้เฝิ่นไต้เคยทำอะไรไว้ ในเมื่อกล้าทำก็ต้องนึกถึงสักวันหนึ่งจะเป็นอย่างไร เจ้าไม่เข้าใจเรื่องนี้ แต่กลับโยนความผิดทั้งหมดมาใส่ให้ข้ากับเฉินหรง ไม่รู้สึกน่าหัวเราะหรือ”  

 

 

กู้จื่อหยวนเริ่มรู้สึกโกรธ ขณะที่กำลังจะพูดออกมา อาหลานซึ่งซุ่มอยู่ก็พุ่งออกมา สกัดจุดกู้จื่อหยวนทันที ทำให้เขาขยับตัวไม่ได้และพูดไม่ได้  

 

 

กู้จื่อหยวนถลึงตาใส่ซูจิ่วซือ พอถึงตอนนี้เขาเพิ่งรู้ตัว่าหลงกลซูจิ่วซือแล้ว  

 

 

“อาหลาน พาตัวองค์หญิงสามมา”  

 

 

“เพคะ ฮองเฮา”  

 

 

อาหลานรับคำ แล้วรีบพาเฟิ่งหลิงอวี่มาทันที จากนั้นก็ผลักกู้จื่อหยวนล้มลงกับพื้น ให้เฟิ่งหลิงอวี่ซึ่งเสื้อผ้าหลุดลุ่ยเอนตัวซบอกกู้จื่อหยวน  

 

 

กู้จื่อหยวนแค้นใจมาก แต่ทำอะไรไม่ได้ เดิมทีเขาจะยัดเยียดเฟิ่งหลิงอวี่ให้ซูเหิง แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นยกหินทุ่มขาตัวเอง  

 

 

ซูจิ่วซือมองทั้งสองอย่างเย็นชา “ฝ่าพระบาทจะพระราชทานการแต่งงานให้เจ้าทั้งสอง ทำไมพวกเจ้าขัดขืน องค์หญิงสาม เจ้ากับตระกูลกู้มีวาสนาต่อกัน ไม่ได้แต่งงานกับคนตระกูลกู้คนนั้น สุดท้ายก็แต่งงานกับคนตระกูลกู้สมใจ หวังว่าเจ้าทั้งสองจะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า”  

 

 

พูดจบซูจิ่วซือก็ออกไปไม่หันมามอง  

 

 

เฟิ่งหลิงอวี่รู้เจตนาของซูจิ่วซือแล้ว นางโกรธจนแทบกระอักเลือด ซูจิ่วซือต้องการทำลายชื่อเสียงของนาง นางเป็นองค์หญิงใหญ่ในวัง แต่เสื่อมเสียชื่อเสียงจนต้องแต่งงานกับกู้จื่อหยวน สำหรับนางแล้วเป็นการถูกหลบหลู่อย่างยิ่ง  

 

 

ถ้ามีใครมาเห็นเข้า นางคงอับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน  

 

 

ซูจิ่วซือ จิตใจเจ้าช่างชั่วร้ายจริงๆ  

 

 

ซูจิ่วซือออกไปครู่หนึ่ง เผยปิงปิงก็เข้ามาพร้อมกับกู้ชิงเฉิง ทันเห็นเหตุการณ์นี้เข้าพอดี อาหลานซึ่งแอบอยู่ไม่ไกล รีบดีดกรวดคลายจุดให้คนทั้งคู่ทันที  

 

 

เผยปิงปิงรู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แสร้งร้องโวยวาย “นี่องค์หญิงสามกับน้องสามหรือนี่ เจ้าทั้งสองถึงรักใคร่กันอย่างไรก็ควรรู้จักอายบ้าง ถึงกับทำเรื่องบัดสีในวัง”  

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+