เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้ายบทที่ 109 สามีที่อ่อนแอไม่สามารถดูแลตัวเองได้ของข้า

Now you are reading เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย Chapter บทที่ 109 สามีที่อ่อนแอไม่สามารถดูแลตัวเองได้ของข้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 109 สามีที่อ่อนแอไม่สามารถดูแลตัวเองได้ของข้า

ชายผู้นั้นย่อมไม่กล้าพูดอะไรอีก และรีบหยิบรายชื่อปึกหนึ่งออกมาจากอกเสื้อทันที ที่เขียนอยู่บนนั้นล้วนเป็นรายชื่อคนสนิทของเผยยวนทั้งสิ้น บางคนถูกขีดฆ่าด้วยสีแดง ซึ่งนั่นหมายความว่าตายไปแล้ว

คนสนิทที่เหลืออยู่ทั้งหมดถูกพวกเขาจับขังไว้ในคุกใต้ดินของค่ายองครักษ์ลับ

ไอสังหารก่อตัวขึ้นในแววตาของเผยยวน เขาใช้ปลายกระบี่เชยคางของคนผู้นั้นขึ้นมา “ใครเป็นผู้บังคับบัญชาค่ายองครักษ์ลับในตอนนี้?”

“ตอนนี้ยังไม่มีใครขึ้นเป็นผู้บังคับบัญชา ท่านหญิงซ่างหยางเคยเสนอให้เซี่ยอวินรับตำแหน่งชั่วคราว แต่ฝ่าบาทไม่ทรงเห็นด้วย”

คนผู้นั้นเมื่อพูดถึงตรงนี้ก็รีบคุกเข่าและเอ่ยขึ้นมา “ผู้น้อยผิดไปแล้ว ผู้น้อยยอมเป็นม้ารับใช้นายท่าน ขอนายท่านให้โอกาสผู้น้อยอีกสักครั้งเถอะขอรับ”

“เฮอะ” คนที่เคยหักหลังจะปล่อยเอาไว้ทำไมอีก?

เซี่ยอวิน หลานชายแท้ ๆ ของเซี่ยฉงฟาง แม่ที่แสนดีของเขา

ดี ดีมาก

ค่ายองครักษ์ลับของทหารเกราะเหล็กที่ท่านพ่อดูแลมากับมือ และเป็นคนสนิทของเขา แต่เซี่ยฉงฟางกลับจะยกให้กับตระกูลเซี่ยของตัวเอง

เช่นนั้นก็ต้องถามว่าเขาตกลงหรือไม่?

“หากว่าท่านต้องการตามหาเซี่ยอวิน ข้าสามารถพา…”

ชายผู้นั้นยังพูดไม่ทันจบ เผยยวนก็ฟันคอของเขาจนหัวตกลงมาทันที

“นายท่าน ท่านไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่ขอรับ ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านต้องยังมีชีวิตอยู่”

กลุ่มคนที่เดิมราวกับร่างไร้วิญญาณและรอเพียงความตายมาเยือน เวลานี้คนทั้งหมดต่างมองไปที่เผยยวนด้วยความตื่นเต้น กลัวว่าภาพตรงหน้าจะเป็นแค่เรื่องโกหก

นับตั้งแต่เผยยวนสลบไป พวกเขาก็ใช้ชีวิตเหมือนหมูเหมือนหมา คิดว่าชาตินี้คงต้องใช้ชีวิตเช่นนี้ไปตลอดเสียแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่านายท่านจะกลับมา กลับมาช่วยพวกเขา

เผยยวนปล่อยพวกเขาทีละคน พลางมองดูบาดแผลบนร่างกายของพวกเขา “ยังเดินไหวหรือไม่?”

“ไหวขอรับ!”

“ดี ข้าจะพาพวกเจ้าไปที่ ๆ หนึ่ง พวกเจ้าไปพักรักษาตัวที่นั่นก่อน เรื่องอื่นยังไม่ต้องรีบร้อน”

เผยยวนเพิ่งเอ่ยจบ ซูเฟิงก็จับมือของเขาเอาไว้ “นายท่าน ตอนนี้ท่านเป็นเช่นไรบ้างขอรับ ท่านปลอดภัยดีหรือไม่ เจ้าคนทรยศพวกนี้บอกว่าท่านอยู่ได้อีกไม่นานเป็นเรื่องจริงหรือไม่ขอรับ?”

พี่น้องเหล่านี้เป็นทหารเดนตายที่พ่อของเผยยวนฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก ไม่สามารถเอามาเทียบกับคนที่เข้าค่ายองครักษ์ลับทีหลังได้ เผยยวนเชื่อมาตลอดว่าพวกเขาไม่มีทางทรยศตนเอง และทันทีที่เขาเห็นรายชื่อ เขาก็เข้าใจได้ในทันทีว่าความเชื่อใจของเขานั้นไม่ผิดเลย

“ข้าไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดของพวกเจ้าก็คือรักษาตัวเองให้หายดี จากนั้นก็ให้ไปที่นี่และติดต่อคนผู้นี้”

ซูเฟิงรับแผนที่มาจากเผยยวน “นายท่าน แล้วท่านเล่าขอรับ?”

“ข้ายังมีเรื่องที่ต้องจัดการ วางใจเถอะ ความอยุติธรรมที่พวกเจ้าได้รับ ข้าจะให้พวกเขาชดใช้ทีละดาบ”

จ้านอิ่งรออยู่บนฝั่ง ไม่รู้ว่ามีฝนตกปรอย ๆ ลงมาตั้งแต่เมื่อใด เผยยวนเดินอยู่บนถนน โดยมีผู้คนเดินสวนไปมาตลอดเวลา

หากคนเหล่านั้นสังเกตดี ๆ จะพบว่าผมของชายหนุ่มที่เดินสวนกับพวกเขานั้นไม่ได้เปียกฝนเลยแม้แต่น้อย

“ขอโทษที่ทำให้รอนาน กลับบ้านกันเถอะ” เผยยวนลูบแผงคอของจ้านอิ่ง พลางเอ่ยปลอบเบา ๆ

จ้านอิ่งย่ำเท้าไปมา ส่งสัญญาณให้เผยยวนรีบขึ้นมา เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว มันเพิ่งออกมาได้ไม่นานแต่ตอนนี้อยากจะกลับบ้านเต็มทนแล้ว

เมื่อเผยยวนขึ้นไปบนหลังของมัน จ้านอิ่งก็พุ่งตัวออกไปราวกับลูกธนูที่ถูกปล่อยออกจากคันศร

ฝนยังคงตกอยู่ ด้านหน้ามืดจนแทบมองไม่เห็นทาง แต่ในหัวของเผยยวนกลับหวนนึกถึงคำพูดที่พวกเขาคุยกันเมื่อครู่

“นายท่าน ท่านอย่าได้หลงเชื่อฮูหยินอีกนะขอรับ นางหาได้เห็นท่านเป็นลูกชายไม่”

“นายท่าน พี่น้องหลายคนของเราล้วนไม่อยู่แล้ว ท่านต้องแก้แค้นให้พวกเขานะขอรับ”

“พวกเราสงสัยว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับตระกูลใหญ่หลายตระกูลที่แบ่งกองทัพเกราะเหล็กไป น่าเสียดายที่พวกเรายังไม่ทันได้ออกไป ก็ถูกคนทรยศเหล่านี้จับตัวไว้เสียก่อน ช่วงที่ผ่านมาจึงไม่สามารถไปตามหาท่านได้ พวกเราไร้ความสามารถเองขอรับ”

ไม่ใช่ พวกเขาไม่ได้ไร้ความสามารถ แต่เป็นเพราะเขาเองที่เชื่อเซี่ยฉงฟาง สตรีผู้นั้นอีกครั้งต่างหาก!

เชื่อว่าการที่นางยอมทำดีด้วย เป็นเพราะยอมรับลูกชายคนนี้แล้ว แต่น่าเสียดายที่เขาคิดผิดไปเอง

กองทัพเกราะเหล็กเป็นสิ่งที่ท่านพ่อทิ้งเอาไว้ หากไม่ได้รับความยินยอมจากฝ่าบาท ตระกูลเหล่านั้นจะแบ่งไปได้อย่างไร แต่เป็นเพราะพวกเขาแน่ใจว่าเขาจะกลับมาไม่ได้อีก จึงได้ตัดสินใจทำเช่นนี้

เขาอยู่ในสนามรบตั้งแต่อายุแปดขวบ หลายปีมานี้ผ่านร้อนผ่านฝนมามากมาย ยามที่หลับตานอนตอนค่ำคืนก็ยังฝันถึงเสียงแตร แต่สิ่งที่ได้รับคืออะไรกัน?

ผลงานสูงส่ง จนฮ่องเต้หวาดกลัว

ในเมื่อเป็นเช่นนั้นยังจะต้องเกรงใจพวกเขาอีกทำไม ให้พวกเขาคิดว่าข้าตายไปแล้วก็ดีเหมือนกัน ให้ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับ ทุกวันใช้ชีวิตอยู่ในความหวาดกลัว จากนั้นก็ค่อยชิงทุกสิ่งที่พวกเขาต้องการมา

เช้าวันรุ่งขึ้น จี้จือฮวนนอนหลับสบายกว่าทุกคืน

นางลุกขึ้นมาพับผ้าห่มให้เรียบร้อย เมื่อเปิดประตูออกก็พบว่าวัสดุที่คนงานกองไว้ในลานบ้านอย่างส่ง ๆ เมื่อวานได้รับการทำความสะอาดแล้ว โอ่งน้ำเต็มแล้ว ขี้ไก่ในลานบ้านถูกคนเก็บกวาดแล้ว แม้แต่ชามที่เมื่อคืนยังไม่ได้ล้างก็ถูกล้างจนสะอาดแล้ว

???

ใครกันขยันถึงเพียงนี้

คงจะเป็นอาอินกระมัง เด็กหญิงตัวน้อยที่ไม่มีที่ที่จะปลดปล่อยพลัง ทุกวันล้วนมีพลังไร้ขีดจำกัด

“ท่านแม่ อรุณสวัสดิ์ขอรับ!” ประตูห้องข้าง ๆ ยังไม่ทันเปิดออก เสียงน่ารักของอาชิงก็ดังออกมาแล้ว

จี้จือฮวนรู้สึกตลกสิ้นดี “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าตื่นแล้ว?”

“เพราะข้าได้ยินเสียงฝีเท้าของท่านแม่น่ะสิขอรับ ในใจของอาชิงคิดถึงแต่ท่านแม่ ต้องรู้ได้ทันทีอยู่แล้ว!” เอ่ยไปเสียงนั้นก็ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ไม่นานเจ้าตัวเล็กที่เพิ่งใส่กางเกงเสร็จก็วิ่งดุกดิกมาที่ข้างกายของนาง

จี้จือฮวนจึงอดไม่ได้ที่จะบีบแก้มอ้วน ๆ ของเขา “โอ้โห อาชิงน้อยของเราปากหวานขึ้นทุกวัน ให้ข้าดูหน่อยสิว่าแอบกินน้ำผึ้งไปหรือไม่”

อาชิงเอ่ยพลางบิดตัวไปมา “หากท่านแม่หอมข้าฟอดใหญ่ ปากอาชิงจะหวานกว่านี้อีกนะขอรับ”

จี้จือฮวนไหนเลยจะปฏิเสธ จึงหอมแก้มทั้งสองข้างของเขาทันที

(* ˉˉ3)(εˉˉ *)

อาอินเดินผ่านมาพอดี เห็นอาชิงกุมแก้มวิ่งกลับเข้าห้องไปด้วยความเขินอายก็ตัวสั่นขึ้นมา

จี้จือฮวนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ขอบใจนะ”

อาอิน “???”

“แต่คราวหน้าไม่ต้องตักน้ำแล้วนะ ท่อน้ำที่บ้านต่อเสร็จแล้ว ต่อมาจากภูเขาด้านหลัง แค่ดึงที่อุดออกก็มีน้ำไหลออกมาแล้ว”

อาอินเกาหัวแกรก ๆ เรื่องนี้ข้ารู้แล้ว ในบ้านเกรงว่าคงจะมีแค่ท่านพ่อที่ยังไม่รู้กระมัง

อาอินได้ยินดังนั้นก็ปรายตาไปมองทางโอ่งน้ำ ก่อนจะรู้ได้ทันที ดวงตาของนางกลอกไปมา ก่อนจะวิ่งกลับเข้าห้องไป

เผยยวนเพิ่งสวมเสื้อผ้าเสร็จ อาชิงกำลังอวดเขาอยู่

“ท่านแม่หอมข้าแล้วนะขอรับ ท่านพ่อยังไม่ได้หอมกระมัง ทั้งบ้านมีแค่อาชิงที่ถูกหอม”

เผยยวนแทบจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเพราะความโมโหเจ้าลูกโง่คนนี้ “อืม พ่ออิจฉามากจริง ๆ”

อาชิงได้ยินดังนั้นก็ดีใจเป็นอย่างมาก ไม่ได้ พี่ใหญ่กับท่านป้ายังไม่รู้ ยังมี เอิ๊กอ๊าก ไก่กุ๊กกุ๊ก ฮวาฮวากับเมี้ยวเมี้ยวด้วย เขาต้องไปอวดทีละคน!!!

อาชิงเพิ่งจะออกจากห้องไป อาอินก็เอ่ยขึ้นมาอย่างมีเลศนัย “ท่านพ่อ ร่างกายท่านหายดีแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ?”

มือของเผยยวนชะงักไป “เปล่านี่นา”

อาอินนึกสงสัยขึ้นมา “อย่างนั้นหรือเจ้าคะ เช่นนั้นน้ำในโอ่งใครเป็นคนตักกัน เพราะบ้านเรามีน้ำที่ไหลมาจากภูเขาด้านหลังอยู่แล้วนี่นา”

สาวน้อยคิดว่าตัวเองค้นพบความลับใหญ่หลวงเข้าเสียแล้ว ทว่าสุดท้ายก็เป็นแค่ข่าวโคมลอยเท่านั้น

นางเกาศีรษะก่อนจะหมุนกายออกไป

เมื่อเผยยวนออกมาจากห้องอีกครั้ง ก็กลายเป็นเผยยวนคนที่ไร้เดียงสา และน่าสงสาร อ่อนแอไม่สามารถดูแลตัวเองได้ แสร้งทำเป็นป่วยออดแอด

“ให้ข้าช่วยเจ้าเถอะ” เมื่อวานเผยยวนเห็นนางไปหาของป่าจากบนเขามามากมายเช่นนั้นก็นึกสงสารจับใจ แต่เขาทำได้เพียงอยู่แต่ในเรือนคุยเป็นเพื่อนพวกท่านป้า เมื่อคืนหลังจากออกไปข้างนอกมา จึงได้ช่วยทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ

“ไม่ต้อง ๆ เจ้าไปผิงแดดก็พอแล้ว” จี้จือฮวนมีความอดทนกับเผยยวนที่ไม่สบายมากเป็นพิเศษ เพราะนี่เป็นตัวละครที่นางรักและสงสารมากที่สุดในเรื่อง เพราะพระเอกของเรื่องที่มีหญิงงามในวังไม่ขาดสาย พัวพันกับนางรองคนนั้นทีคนนี้ทีไม่หยุดหย่อน เทียบกับเผยยวนแล้วแย่กว่ามาก ไม่อย่างนั้นตอนแรกนางก็คงไม่รักษาให้เขา

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *