Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ 515

Now you are reading Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ Chapter 515 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 515 ลางก่อนการแปรเปลี่ยนตระกูลของมั่วเย้ (2)

ในตอนที่ชู่มู่หมดสติไป จึงไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรกับมั่วเย้

“มั่วเย้ มานี่” ชู่มู่เรียกมั่วเย้ที่เปี่ยมด้วยพลังมาข้างตัวเอง

มั่วเย้น้อยสะบัดหาง กระโดดเข้ามาในอ้อมกอดของชู่มู่อย่างคล่องแคล่ว ขนนุ่มนิ่มนั้นจงใจถูไปที่ใบหน้าของชู่มู่…

“เจ้าใกล้จะแปรเปลี่ยนแล้วใช่ไหม” ชู่มู่ลูบหูของมั่วเย้น้อยแล้วถามขึ้น

ตามการคาดคะเนของชู่มู่ มั่วเย้น่าจะห่างจากการแปรเปลี่ยนไม่นานแล้ว อย่างไรก็ตามการแปรเปลี่ยนครั้งก่อนเกิดขึ้นที่เมืองเจี่ย ห่างจากตอนนี้หลายปีแล้ว !

“อู อู อู”

มั่วเย้ส่งเสียงร้องเล็ก ๆ ขึ้น มองไปยังชู่มู่ด้วยสีหน้ามึนงง

“วันที่จั้นเย้ระเบิด ผู้เฒ่าหลีบอกว่า ภาวะจิตของเจ้าประหลาดมาก” ชู่มู่ถามขึ้น

“อู อู อู อู อู” มั่วเย้ใช้ร่ายจิตสื่อสารกับชู่มู่

มั่วเย้บอกกับชู่มู่ว่า ในตอนที่จั้นเย้ตกลงไปในเหวลึก มันสัมผัสได้ว่า ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย การเปลี่ยนแปลงนี้คล้ายกับตอนแปรเปลี่ยนตระกูลอยู่บ้าง

ในตอนที่จั้นเย้ทำการเสียสละ อารมณ์ของมั่วเย้เปลี่ยนไปอย่างมาก อีกทั้งมันจะบังคับให้ตัวเองแปรเปลี่ยนด้วย เพราะมีเพียงแปรเปลี่ยนถึงจะเอาชนะตะขาบหมื่นขาได้ ถึงจะช่วยจั้นเย้ได้

และแล้ว ในตอนนั้นกลับแปรเปลี่ยนไม่สำเร็จ เพราะตอนที่มันอยู่ในขีดสุดใกล้จะแปรเปลี่ยน กลับสัมผัสได้ถึงการควบคุมทางจิตอย่างหนึ่ง

“เจ้าบอกว่า ในตอนนั้นเจ้าก็มีความรู้สึกว่า จะแปรเปลี่ยนแล้ว แต่ไม่สำเร็จ” ชู่มู่ถามอย่างประหลาดใจ

“อู อู อู” มั่วเย้บอกว่า ตัวเองก็ไม่รู้สาเหตุเหมือนกกัน เหมือนจะไม่เข้าเงื่อนไขบางอย่าง

ชู่มู่รู้ว่าการแปรเปลี่ยนครั้งต่อไปของมั่วเย้อาจเข้าสู่จักรพรรดิชั้นยอดหรือระดับราชันด้วย ดังนั้น ถ้าบอกช่วงนี้มั่วเย้มีลางจะแปรเปลี่ยนแล้ว นั่นเป็นเรื่องที่ทำให้ใจของชู่มู่พองโตจริง ๆ

มั่วเย้เกิดการแปรเปลี่ยนตระกูล ถ้าอย่างนั้นชู่มู่จะกล้าฝ่าเข้าด่านที่สิบแน่นอน และทำการท้าทายกับหุ่นเชิดเด็กสาวทรยศสักครั้ง!

ทว่า แปรเปลี่ยนไม่เร็จ จะเป็นเรื่องที่ชู่มู่ปวดหัวมากที่สุด

โดยปกติการแปรเปลี่ยนมาจากตัวมันเอง การแปรเปลี่ยนก่อนหน้านี้ ครั้งแรกเกิดจากการกระตุ้นของศัตรูฉกาจ ทำให้มั่วเย้กลายเป็นปีศาจจิ้งจอกหกหางอัคคีร้าย

และครั้งที่สองคือที่เมืองเจี่ย หลังจากหกหางของมั่วเย้ขาดจากการแช่แข็งแล้ว ได้กระตุ้นศักดิ์ศรีของมั่วเย้ บวกกับการสะสมพลังอยู่แล้ว ทำให้มั่วเย้ทำลายขีดจำกัดของระดับแม่ทัพสมบูรณ์แบบ ก้าวสู่ระดับผู้นำสมบูรณ์แบบ ความสามารถเพียงพอที่จะสู้กับระดับจักรพรรดิได้

ต่อจากนี้ จะมีการต่อสู้มากขึ้น ชู่มู่เองก็หวังว่ามั่วเย้จะเกิดการแปรเปลี่ยนอีกครั้ง โดยเฉพาะในเมืองเทียนเซี่ยที่เต็มไปด้วยศัตรูแห่งนี้

และช่วงนี้ภาวะของมั่วเย้ผิดปกติอย่างชัดเจน โดยเฉพาะหลังจากด่านที่เจ็ด มั่วเย้น่าจะรู้ว่าพลังต่อสู้ระดับจักรพรรดิขั้นกลางแทบไม่สามารถเผชิญหน้ากับศัตรูที่แท้จริงได้ จึงลองที่จะแปรเปลี่ยนดู….

แต่ว่าทำไมถึงผิดพลาดได้

ก่อนหน้านี้การแปรเปลี่ยนของมั่วเย้ไม่เคยผิดพลาดมาก่อน โดยปกติหลังจากเกิดการกระตุ้นแบบนั้นแล้ว วิญญาณของมันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงตามด้วยการก้าวข้ามความสามารถจากการแปรเปลี่ยนตระกูล แต่กลับไม่เกิดเหตุการณ์ผิดปกติเมื่อตอนอยู่เหวตะขาบครั้งก่อน

“นายท่าน ท่านมีความกังวลอะไรในใจ” ผู้เฒ่าหลีที่ซ่อนอยู่ในแหวนช่องว่างของชู่มู่ถามขึ้น

“อืม” ชู่มู่พยักหน้า

ชู่มู่ไม่ได้บอกเรื่องการแปรเปลี่ยนตระกูลต่อเนื่องของมั่วเย้ให้ผู้เฒ่าหลีรู้ ชู่มู่ในตอนนี้ลังเลว่าจะบอกเรื่องนี้หรือไม่

“ไม่มีอะไรที่ข้าผู้เฒ่าหลีไม่รู้ ! ” เสียงของผู้เฒ่าหลีมีความเยาะเย้ย

“เรื่องเกี่ยวกับการแปรเปลี่ยนตระกูล เจ้ารู้มากเพียงใด” ชู่มู่ถามขึ้น

“นี่…นายท่าน ท่านรู้จักตั้งคำถามจริง ๆ มักถามเรื่องที่คนปกติตอบไม่ได้” ผู้เฒ่าหลีพูดพร้อมฝืนยิ้ม

“ลองบอกมาเถอะ” ชู่มู่บอก

“การแปรเปลี่ยนตระกูล โอกาสนี้น้อยมาก ส่วนใหญ่จะปรากฏบนตัวดวงวิญญาณที่มีพรสวรรค์มากผิดปกติ พรสวรรค์ที่มากผิดปกติในที่นี้หมายถึงระดับการโจมตีที่มักจะเหนือกว่าระดับมาตรฐานของตระกูลนั้น มีนักปราชญ์เคยอธิบายไว้ว่า ความจริงดวงวิญญาณที่มีสายเลือดแปรเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดผิด แม้จะเป็นคำหยอกล้อ ความจริงก็มีเหตุผลระดับหนึ่ง เพราะดวงวิญญาณที่มีสายเลือดแปรเปลี่ยนมักมีพรสวรรค์สูงกว่ากลุ่มของพวกมันเองมาก ทันทีที่เปลี่ยนร่างใหม่ จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตขั้นสูงอีกชนิดหนึ่ง”

“กลุ่มยังคงมีการจำกัดของกลุ่มเอง เช่น สิ่งมีชีวิตระดับทาส ต่อให้เพิ่มความแข็งแกร่งอย่างไรก็ไม่อาจเพิ่มพลังต่อสู้จนอยู่ในระดับเดียวกับจักรพรรดิได้ มีเพียงการแปรเปลี่ยนตระกูล ถึงจะเป็นตัวทำลายข้อจำกัดของเจดีย์แห่งชีวิตนี้ได้” ผู้เฒ่าหลีเริ่มพูดพร่ำแล้ว

“เจดีย์แห่งชีวิตคืออะไร” ชู่มู่ถามอย่างไม่เข้าใจ

“เจดีย์แห่งชีวิตเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่มันจะมีอยู่ตลอดไป เจดีย์แห่งชีวิตเป็นความคิดอย่างหนึ่ง แต่ก็เป็นกฎแห่งธรรมชาติด้วย ดังนั้น สิ่งมีชีวิตทั้งหมดจำต้องเป็นไปตามกฎแห่งธรรมชาตินี้”

“กฎแห่งธรรมชาตินี้จะจัดตามรูปแบบของเจดีย์ จากล่างขึ้นบน ด้านล่างสุดเป็นสิ่งที่เรียกว่ามนุษย์อย่างพวกเจ้าส่วนที่เรียกว่าสัตว์เดรัจฉาน ก็คือพวกสิ่งมีชวิตเล็กน้อยที่ไม่มีความสามารถในการต่อสู้ ความจริงไม่ใช่ว่าพวกมันไม่มีความสามารถในการต่อสู้ แค่อ่อนแอเกินไป อ่อนแอจนถูกมนุษย์อย่างพวกเจ้าเพิกเฉย”

“พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำที่สุด และมีจำนวนมากจนนับไม่ถ้วน ขึ้นมาอีกหน่อย ก็คือสิ่งมีชีวิตระดับทาสที่มีพลังต่อสู้แล้ว”

“สิ่งมีชีวิตระดับทาสเป็นสิ่งที่มีกลุ่มมากที่สุดในโลกนี้ ประวัติศาสตร์ของมนุษย์พวกเจ้า ได้บันทึกไว้ว่า กลุ่มระดับทาสมีมากถึงเลขเจ็ดหลักแล้ว…จำไว้ มีจำนวนกลุ่มมากถึงเลขเจ็ดหลัก ! หลายครั้งกลุ่มของระดับทาสอันหนึ่ง ก็อาจมีร่างแยกเป็นหมื่นล้านตัว ! ”

“แม้ระดับทาสจะอ่อนแอที่สุด แต่พวกมันกลับเป็นตัวละครที่สำคัญที่สุดในทั้งประวัติศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตนี้ เพราะหลังจากระดับแม่ทัพ ผู้นำ จักรพรรดิจนถึงราชัน ส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากวิวัฒนาการของกลุ่มระดับทาสพิเศษบางตัว” ผู้เฒ่าหลีบอก

คำพูดเหล่านี้ของผู้เฒ่าหลีก็ทำให้ชู่มู่อึ้งเล็กน้อย ถามขึ้นด้วยความตกใจว่า “ระดับหลังจากระดับทาสมาจากการแปรเปลี่ยนของดวงวิญญาณระดับทาสหมดเหรอ”

“อืม ส่วนมากเป็นแบบนั้น เกิดระดับแม่ทัพ ก็เป็นเพราะในระดับทาสมหาศาลนั้น เกิดดวงวิญญาณที่มีสมรรถภาพพิเศษ ดวงวิญญาณเหล่านี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสายเลือดแปรเปลี่ยนนั่นเอง ! ”

“พวกมันแปรเปลี่ยนจากระดับทาสเป็นระดับแม่ทัพ ดวงวิญญาณกลุ่มเดียวกันจะสืบพันธุ์ได้ ทันทีที่ดวงวิญญาณระดับแม่ทัพปรากฏตัวขึ้น มันจะกลายเป็นราชาของกลุ่มนั้นแน่นอน เจ้าน่าจะเข้าใจกฎของผู้แข็งแกร่งอยู่บ้าง เพียงแค่เกิดเหตุการณ์พิเศษขึ้น ในหลายปีต่อจากนี้ ระดับแม่ทัพจะกลายเป็นกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่มหาศาลมาก”

“ทันทีที่ดวงวิญญาณระดับแม่ทัพกลายเป็นกลุ่มที่ใหญ่แล้ว มักจะมีระดับแม่ทัพที่จะเกิดการแปรเปลี่ยนตระกูล…ดังนั้น จึงเกิดดวงวิญญาณระดับผู้นำขึ้น และระดับจักรพรรดิและระดับราชันนั่นเอง” ผู้เฒ่าหลีลูปเครา ทำท่าทีมากความรู้ออกมา

“ระดับยิ่งสูง ความสามารถหลังเกิดก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น พวกมันก็ยิ่งเหมาะที่จะอยู่บนโลกนี้มากขึ้น ถ้าอย่างนั้นระดับทาสจะไม่สูญพันธุ์ไปเหรอ” ชู่มู่ถามขึ้น

“เจ้าคิดผิดแล้ว เจดีย์แห่งชีวิตสร้างการแบ่งระดับแบบนี้ เป็นการยอมรับการมีอยู่ของการแปรเปลี่ยนในขณะเดียวกัน และจะต้องมีเงื่อนไขจำกัดแน่นอน ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดที่สมบูรณ์แบบ และอาจบอกกับเจ้าได้ว่า ดวงวิญญาณระดับราชันใช่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของดวงวิญญาณระดับทาสได้” ผู้เฒ่าหลีบอก

ดวงวิญญาณระดับราชันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของดวงวิญญาณระดับทาสงั้นเหรอ

นี่อะไรกัน ผิดกับความรู้หมด !

“เจ้าพูดกลับกันหรือเปล่า” ชู่มู่พูดเตือนผู้เฒ่าหลี

“แน่นอนว่าไม่ หลายครั้งมนุษย์อย่างพวกเจ้ามองว่า ดวงวิญญาณเป็นแค่ร่างเดี่ยว เพราะมนุษย์อย่างพวกเจ้ามีดวงวิญญาณได้แค่ร่างเดียว ถ้ามองไปยังทั้งเจดีย์แห่งชีวิต ถ้าให้ดวงวิญญาณระดับทาสทั้งหมดสู้กับดวงวิญญาณระดับราชันที่พ่ายแพ้ จะต้องเป็นระดับราชันแน่นอน” ผู้เฒ่าหลีเห็นชู่มู่เริ่มสับสนกับคำพูดตัวเอง กลับทำท่าทีภูมิใจออกมา

“ธรรมชาติยังมีกฎอย่างหนึ่ง กฎนี้คืออัตราการสืบพันธุ์ ระดับราชันมีพลังทำลายล้าง สามารถใช้แรงของตัวเองทำลายสิ่งมีชีวิตนับพันหมื่นได้ แต่ความสามารถในการสืบพันธุ์ของพวกมันกลับถูกจำกัด ยกตัวอย่างเช่น สิ่งมีชีวิตระดับทาสหนึ่งพันล้านกับสิ่งมีชีวิตระดับราชันหนึ่งตัวที่มีความสามารถเทียบเท่ากัน เจ้าคิดว่าโอกาสที่ระดับทาสหนึ่งพัน ล้านตัวจะปรากฏขึ้นมีมากกว่า หรือจะเป็นดวงวิญญาณระดับราชันที่จะมีโอกาสปรากฏตัวได้มากกว่า จำไว้ว่าในเขตเมืองหนึ่ง ชีวิตของระดับทาสก็เกือบถึงหนึ่งพันล้านแล้ว คิดว่าจะมีดวงวิญญาณระดับราชันอยู่ในทุกพื้นที่เหรอ” ผู้เฒ่าหลีบอก

“ข้ายังไม่มีความคิดแบบนี้ ทว่า การแปรเปลี่ยนเป็นการเกิดหมวดทั้งหมดของดวงวิญญาณ นี่กลับทำให้ข้าประหลาดใจอย่างมาก…” ชู่มู่บอก

หลังจากพูดจบ ชู่มู่นึกบางอย่างขึ้นมาได้ พูดขึ้นว่า “ไม่สิ อย่างมังกรจำศีลอัมพรมรกตแบบนั้น…”

“นั่นเป็นการสืบพันธุ์แบบแยกส่วน ความสามารถของรุ่นหลังจากอ่อนกว่ามังกรจำศีลอัมพรมรกตเองระดับหนึ่ง มังกรจำศีลอัมพรมรกตเป็นสิ่งมีชีวิตหลัก เรื่องของร่างชีวิตหลักจะบอกกับเจ้าทีหลัง คล้ายกับร้อยแม่หมวดแมลง กลุ่มปีศาจมด กลุ่มผึ้งร้ายนั้น ล้วนเป็นการสืบพันธุ์แบบแยกร่าง” ผู้เฒ่าหลีบอก

“ได้ เจ้ากลับมาพูดเรื่องเดิมเถอะ ตอนนี้ข้าต้องการรู้ว่า ดวงวิญญาณที่มีสายเลือดแปรเปลี่ยนตัวหนึ่ง จะมีเงื่อนไขจำกัดอะไรบ้าง” ชู่มู่ในตอนนี้อยากรู้ว่า จะทำให้มั่วเย้แปรเปลี่ยนได้อย่างไร

ส่วนสิ่งที่ผู้เฒ่าหลีพูดเกี่ยวกับมุมมองของโลกนี้ หรือจะเป็นเจดีย์แห่งชีวิตนั้น สำหรับมนุษย์ที่อยู่ในเจดีย์แห่งชีวิตอันอ้างว้างแห่งนี้อย่างชู่มู่แล้ว พวกนี้เหมือนจะเป็นเรื่องที่ไกลตัวเกินไป

“ที่สำคัญที่สุดคือ ต้องมีสายเลือดแปรเปลี่ยน โดยปกติแค่มีเงื่อนไขนี้ก็แปรเปลี่ยนได้แล้ว” ผู้เฒ่าหลีบอก

“ถ้าสมมติว่า ข้ามีดวงวิญญาณที่มีสายเลือดแปรเปลี่ยนตัวหนึ่ง และในตอนนี้มันอยู่ในช่วงที่กำลังจะแปรเปลี่ยน ข้าจะต้องทำอย่างไร” ชู่มู่ถามขึ้น

“เรื่องนี้ง่ายมาก การต่อสู้ ทันทีที่ดวงวิญญาณอยู่ในระหว่างต่อสู้แล้วพบว่า ความสามารถของตัวเองไม่พอ จะต้องการเพิ่มความสามารถทันที ตอนที่วิญญาณและจิตใจเกิดการกระทบกัน อาจทำให้เกิดการแปรเปลี่ยนได้ง่ายที่สุด…”

“แน่นอนว่า ถ้าระดับของเจ้าต่ำเกินไป ดวงวิญญาณไม่อาจเกิดการแปรเปลี่ยนได้ สัญญาวิญญาณจะรั้งดวงวิญญาณที่จะแปรเปลี่ยนเอาไว้ ป้องกันไม่ให้ความสามารถของดวงวิญญาณนั้นแข็งแกร่งมากเกินไป แล้วจะส่งผลต่อจิตของเจ้าของ”

หลังจากฟังคำพูดนี้ของผู้เฒ่าหลี สีหน้าของชู่มู่เปลี่ยนไปทันที !

วินาทีนี้ชู่มู่ได้เข้าใจทุกอย่างกระจ่างแล้ว

การแปรเปลี่ยนของมั่วเย้ไม่สำเร็จ เป็นเพราะร่ายวิญญาณของตัวเองต่ำเกินไป !!!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด