Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ 635 เขตพื้นที่ด้านตะวันตกสุดของมนุษย์

Now you are reading Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ Chapter 635 เขตพื้นที่ด้านตะวันตกสุดของมนุษย์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 635 เขตพื้นที่ด้านตะวันตกสุดของมนุษย์

“สามหมื่นกับร้อยกว่า เลขท้ายเอามาเป็นอาหารได้พอดี” ผู้เฒ่าหลีกระโดดลงมา มือเล็กๆ ทั้งสองกลับเต็มไปด้วยวิญญาณทั้งหมด

“มีสามหมื่นก็พอ!” ชู่มู่ฉีกยิ้ม

โลกตะวันตกมีเมืองมารนิรยแห่งหนึ่งพอดี คาดว่าถ้าเสนอสองหมื่นวิญญาณ คนของวังมารนิรยน่าจะยอมให้วัตถุวิญญาณที่เพิ่มความแข็งแกร่งมารนิรยขาว

หนึ่งหมื่นวิญญาณที่เหลือ เอามาเพิ่มความแข็งแกร่งให้ภูตเวหาน้ำแข็งเถอะ ภูตเวหาน้ำแข็งอยู่ในระดับจักรพรรดิชั้นยอดแล้ว หลังจากอยู่ในลักษณะสิบ น่าจะสลายพลังส่วนหนึ่งของน้ำแข็งเทพดินได้แล้ว ชู่มู่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้มันอยู่ในระดับราชัน

หลังจากภูตเวหาน้ำแข็งอยู่ในระดับราชัน ชู่มู่ยังมีน้ำแข็งเทพดินอีกครึ่งหนึ่ง รออีกสักพักหนึ่ง ชู่มู่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้ภูตเวหาน้ำแข็งอยู่ในระดับราชันขั้นต่ำได้ เช่นนี้ ความสามารถของชู่มู่จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก!

เวลาไม่ถึงหนึ่งปี ชู่มู่จะอยู่เหนือราชันวิญญาณมากมายได้แน่นอน

“นายท่าน โดยปกติแล้ว จำนวนวิญญาณที่ผลิตต่อหนึ่งปีเป็นหนึ่งในสิบของจำนวนวิญญาณที่เก็บได้ในครั้งหนึ่ง เท่ากับว่า ที่นี่จะมีสามพันวิญญาณทุกปี ในเวลาสามปีจะสร้างเทียบเท่าราชันตัวหนึ่งได้ นี่เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์อย่างมาก แม้สิบปีหลังจากนั้นจะค่อยๆ ลดน้อยลง แต่ในเวลายี่สิบปีจะมีเทียบเท่าราชันประมาณห้าตัว เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก วิญญาณที่นายท่านชิงมาต้องนำมาเพิ่มความแข็งแกร่งดวงวิญญาณ แต่หลังจากที่ดวงวิญญาณทั้งหมดอยู่ในระดับราชันแล้ว จะใช้สิบกว่าวิญญาณต่อวัน การต่อสู้ครั้งใหญ่อาจใช้ถึงร้อยวิญญาณ นี่เป็นเงินทุนทั้งนั้น ต้องใช้แหล่งวิญญาณที่คงอยู่เป็นเวลานานเพื่อให้คงอยู่ต่อไป” ผู้เฒ่าหลีบอก

“อืม ข้าจะพยายามช่วยเหลือตระกูลชู่ ให้พวกเขาจัดการกิจการที่นี่” ชู่มู่พยักหน้า

แหล่งทรัพยากรรอบเมืองเจ็ดสีอุดมสมบูรณ์อย่างมาก แม้แต่เจ้าโลกยังสนใจอย่างมาก แต่น่าเสียดาย ที่นี่ยากจะค้นพบเหลือเกิน แต่ในตอนนี้ กลุ่มเสือดาวของภูเขาทรงพลังถูกกำจัดไปแล้ว พื้นที่ของโลกตะวันตกได้ขยายออก การขยายแบบนี้ทำให้ตระกูลชู่ได้แหล่งทรัพยากรที่พอจะให้ตระกูลก้าวกระโดดไปได้

“นายท่าน ถ้าจะครอบครองแหล่งทรัพยากรที่นี่ อย่างแรกต้องทำให้อำนาจหลายๆ แห่งชะงักลงก่อน อย่างแรกคือประตูเมืองหลัว ประตูเมืองหลัวจงใจส่งคนมาที่นี่ ราชันวิญญาณคนนั้นสนใจมานานแล้วแน่ๆ ถ้าไม่มีความสามารถมากพอไปหยุดเขาไว้ได้ เขาจะไม่หยุดง่ายๆ แน่นอน อีกอย่างคือ ตระกูลชู่หลัก ผู้แข็งแกร่งของตระกูลชู่หลักมีเยอะมาก ในนั้นมีผู้แข็งแกร่งที่ซ่อนตัวอยู่ในอำนาจด้วย คนพวกนี้จะใช้ชื่อของตระกูลชู่หลัก โดยปกติ จะปรากฏตัวที่ตระกูลชู่หลักเฉพาะช่วงที่เกิดภัยแร้งเท่านั้น” ผู้เฒ่าหลีบอก

“ตระกูลชู่หลักมีจุดพิเศษอะไร แล้วก็โลกตะวันตกเหมือนจะไม่ใช่โลกขั้นหนึ่งธรรมดา มีอำนาจเยอะมาก มีผู้แข็งแกร่งเยอะมาก”ชู่มู่ประหลาดใจมาก โดยปกติแล้ว เขตโลกขั้นหนึ่งน่าจะมีเจ้าโลกแค่คนเดียว คือราชันวิญญาณที่มีเทียบเท่าราชันคนหนึ่ง บางครั้งจะเป็นผู้แข็งแกร่งที่ใช้ชีวิตเกษียณในเขตโลกบางแห่ง แต่ในโลกตะวันตกแห่งนี้ อำนาจมากมาย ผู้แข็งแกร่งมากคน

“ระดับของเขตโลกหนึ่งจะประเมินจากแหล่งทรัพยากร ด้วยทรัพยากรของโลกตะวันตกแล้ว ยี่สิบปีถึงจะมีเทียบเท่าราชันหนึ่งตัว แต่โลกตะวันตกนี้อยู่ในตำแหน่งที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างมาก บริเวณด้านตะวันตกเฉียงเหนือ คือทะเลเหิงที่มีชื่อเสียงอย่างมาก ทะเลเหิงไม่อยู่ในเขตของมนุษย์ ครองโดยวังมารนิรย เท่ากับว่าภูเขาเหิงนั้นเป็นเมืองมารนิรยทั้งหมด”

“ด้านเหนือของโลกตะวันตก เป็นเมืองต้องห้าม ด้านเหนือสุดของเมืองต้องห้ามและเมืองอั่วกู่ได้ติดกับหุบเขาตัดมังกรหมื่นที่มีชื่อเสียงอย่างมาก ส่วนหุบเขาตัดมังกรหมื่นนี้เป็นชนเผ่าระดับที่เท่าไร จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครรู้…”

ส่วนเรื่องของหุบเขาตัดมังกรหมื่น ชู่มู่สงสัยอย่างมาก ทำไมผู้แข็งแกร่งของมนุษย์ถึงไม่ลงมือจัดการหุบเขาตัดนี้ อย่างไรหุบเขาตัดนี้มีโอกาสที่จะเกิดภัยแร้งสูงมาก เป็นอันตรายต่อมนุษย์อย่างมาก

ในตอนนี้ชู่มู่ได้ถามผู้เฒ่าหลีไปด้วย

“กำจัดแมลงปีศาจเวหางั้นหรือ เป็นไปไม่ได้ เจ้ารู้ว่า ศัตรูฉกาจของเมืองเทียนเซี่ยคืออะไรไหม” ผู้เฒ่าหลีพูดขึ้น

“หรือว่าจะเป็นหุบเขาตัดมังกรหมื่นแห่งนี้” ชู่มู่ถามขึ้นอย่างประหลาดใจ

ผู้เฒ่าหลีส่ายนิ้วชี้ พูดขึ้นว่า “พื้นที่ชนเผ่าของหุบเขาตัดมังกรหมื่น ไม่สามารถเทียบกับเขตของมนุษย์ได้ เปรียบเทียบแบบนี้จะดีกว่า ถ้าเมืองเทียนเซี่ยเป็นประเทศหนึ่ง ถ้าอย่างนั้นเมืองอั่วกู่จะเป็นช่องทางผ่านอันสำคัญที่เชื่อมไปยังอีกประเทศหนึ่ง เอาไว้เป็นป้อมเฝ้าชายแดน ส่วนอีกประเทศหนึ่งที่ว่า คืออาณาจักรหมวดแมลงที่ทำให้ผู้แข็งแกร่งมากมายในเมืองเทียนเซี่ยหน้าเสีย เพราะแมลงปีศาจเวหาคือผู้ปกครองอาณาจักรแมลงที่เต็มไปด้วยหมวดแมลงมากมาย ดังนั้นจึงถูกเรียกว่าอาณาจักรแมลงปีศาจเวหา ทั้งอาณาจักรหมวดแมลงนี้ได้ปกคลุมพื้นที่ทั้งหมดในด้านเหนือของเมืองต้องห้าม ใหญ่จนยากจะจินตนาการได้ อาจใหญ่กว่าทั้งเขตเมืองเทียนเซี่ยอีกด้วย”

“และทางผ่านที่ตั้งเชื่อมอยู่ระหว่างอาณาจักรของมนุษย์และชายแดนของแมลงปีศาจเวหา ก็คือหุบเขาตัดมังกรหมื่นนั่นเอง!” ผู้เฒ่าหลีบอก

พอผู้เฒ่าหลีพูดแบบนี้ ชู่มู่สะเทือนใจอย่างมาก !!!

ในตอนแรกที่ได้ยินเรื่องของหุบเขาตัดมังกรหมื่น หุบเขาพันและหุบเขาหมื่นไม่ใช่สถานที่ที่มนุษย์เข้าไปก้าวก่ายได้แล้ว

ที่ทำให้ชู่มู่คาดไม่ถึงคือ หุบเขาตัดมังกรหมื่นที่มีข่าวสะเทือนใจแบบนี้ กลับเป็นแค่หนึ่งในทางผ่านอันสำคัญบริเวณชายแดนของ ‘อาณาจักรหมวดแมลง’ ของเมืองต้องห้ามด้านเหนือ

ถ้าอย่างนั้นอาณาจักรหมวดแมลงในเมืองต้องห้ามนี้จะมีขอบเขตกว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุดมาเพียงใดกันแน่!

“เขตพื้นที่ของมนุษย์พวกเจ้าเหมือนจันทร์เสี้ยวที่วางอยู่บนแผ่นดินใหญ่”

“โลกตะวันตกคือเสี้ยวที่อยู่ด้านซ้ายสุด”

“ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของโลกตะวันจก (ซ้ายบน) คือทะเลเหิงกว้างใหญ่นั้น ด้านเหนือ (บน) คืออาณาจักรหมวดแมลงกว้างใหญ่มหาศาล ด้านตะวันตกเฉียงใต้ (ซ้ายล่าง) คือบ่อน้ำตะวันตก คือที่ตั้งของเมืองต้องห้าม ส่วนด้านตะวันออก (ขวา) คือโลกของมนุษย์”

“ทั้งสามด้านต่างเป็นเมืองต้องห้ามซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของดวงวิญญาณ โลกตะวันตกนี้จะไร้ความพิเศษได้อย่างไร? ด้านตะวันตกเฉียงเหนือมีวังมารนิรยครองอยู่ ด้านเหนือคือตระกูลชู่หลัก ด้านตะวันตกเฉียงใต้ไม่มีใครดูแล อย่างมากก็เป็นแค่ลัทธิทางใต้บางอย่าง”

“ความจริงเมืองตะวันตกที่นายท่านอยู่นี้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นเมืองตะวันตกเฉียงใต้ตั้งนานแล้ว ในตอนแรกสุดมนุษย์พัฒนาถึงแค่เมืองเจ็ดสี้นี้ ดังนั้น ถึงเรียกที่นี่ว่า เมืองตะวันตก ความจริงเมืองเจ็ดสีของเมืองตะวันตกคือตำแหน่งที่เข้าใกล้กับด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองต้องห้ามมากที่สุด เนื่องจากชนเผ่าของภูเขาทรงพลังค่อนข้างมั่นคง ชนเผ่าบ่อน้ำตะวันตกจึงว่างอยู่แค่ตรงนั้น ไม่ดุร้ายเหมือนทะเลเหิงกับหุบเขาตัดมังกรหมื่น ทิศทางนี้จึงค่อนข้างมั่นคงกว่า”

“ด้านตะวันตกเฉียงใต้ของโลกตะวันตกสงบมานานแล้ว ไม่มีอำนาจอะไรคอยป้องกัน ถ้าบอกว่าบ่อน้ำตะวันตกมาเพื่อแหล่งวิญญาณนี้ละก็ ถ้าอย่างนั้นเมืองเจ็ดสีจะต้องรับเคราะห์แล้ว แต่ถ้าบ่อน้ำตะวันตกเต็มไปด้วยความโลภ คิดจะกลืนกินโลกตะวันตกไปด้วย เกรงว่าทั้งทางใต้ของโลกตะวันตกจะต้องตกอยู่ที่มัน เพราะในทางใต้ของโลกตะวันตกนี้ไม่มีพลังใดจะต้านทานการบุกรุกของชนเผ่าขั้นสามได้” ผู้เฒ่าหลีบอก

“สาหัสขนาดนั้นเหรอ!” ชู่มู่พูดอย่างประหลาดใจ

เดิมชู่มู่คิดว่า มีแค่พื้นที่ของเมืองเจ็ดสีจะถูกกลืนกิน ต่อให้เป็นหายนะ อย่างมากก็แค่เมืองทั้งหมดของเมืองตะวันตก แต่ไม่คิดว่าภัยแร้งหายนะครั้งนี้จะกินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของโลกตะวันตก!

“รอดูข่าวเถอะ คาดว่าใกล้จะได้ผลสรุปแล้ว นายท่านคิดจะครองแหล่งวิญญาณนี้ นอกจากจะเกิดการแย่งชิงจาก วังมารนิรย ประตูเมืองหลัว ตระกูลชู่หลัก องค์กรการค้าแล้ว อีกอย่างก็คือบ่อน้ำตะวันตกชนเผ่าขั้นสามนี้แล้วละ”

“อำนาจของมนุษย์ยังไม่เท่าไร เจราจาได้ นายท่านไปพูดคุยกับราชันวิญญาณที่สนใจจะผูกมิตรกับท่านหรือคนที่เป็นมิตรกับท่านเหล่านั้น บอกเป็นนัยว่าจะมีส่วนแบ่งให้พวกเขา ด้วยตำแหน่งของนายท่านตำหนักวิญญาณ พวกเขายังคงสนับสนุนท่านอยู่ดี”

“บ่อน้ำตะวันตกชนเผ่าขั้นสาม อันนั้นพูดคุยยากแล้ว เดิมพวกมันก็คิดจะมาแย่งอยู่แล้ว และแล้วถูกนายท่านเข้าชิงก่อน นายท่านไม่มีความสามารถหยุดพวกมันไว้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องล้มเลิกรายได้สามพันวิญญาณต่อปีนี้แล้ว” ผู้เฒ่าหลีพูดพลางลูบหนวด

ในเวลาสองปี จะมีราชันวิญญาณกลุ่มใหญ่อยู่กับชู่มู่ ต้องแก้ปัญหาอาหารการกินด้วย มิฉะนั้น จะเกิดเป็นเงินมหาศาลถ้าปล่อยให้เวลาผ่านไป

ดังนั้น ชู่มู่ยังต้องคิดหาวิธีกำจัดบ่อน้ำตะวันตกนี้ จัดการไม่ได้ ก็ต้องให้พกวมันหยุดลง ให้ตระกูลชู่กลายเป็นผู้ปกครองในด้านทิศใต้นี้

หลังจากเก็บสามหมื่นวิญญาณแล้ว ชู่มู่ได้สำรวจรอบรังเก่าของราชันเสือดาวรอบหนึ่ง เก็บของที่ส่องประกายทั้งหมดไปด้วย

ของที่ส่องประกายเหล่านี้เป็นเหรียญทอง เอาไปเป็นเงินทุนขยายตระกูลให้ตระกูลชู่ แม้เมื่อเทียบวิญญาณกับเหรียญทองจะต่างกันอย่างมาก แต่ยังคงสำคัญต่อการพัฒนาตระกูลอย่างมาก

หลังจากเก็บกวาดแล้ว ชู่มู่ได้ใส่ไว้ในแหวนช่องว่างอันหนึ่งจนเต็ม นับว่าได้กลับไปอย่างเต็มกระเป๋า

“นายท่าน หลังจากภัยแร้งสงบลงแล้ว ให้ตระกูลชู่ตั้งกลุ่มสำรวจภูเขาทรงพลังเหล่านี้ กลุ่มเสือดาวจำนวนมหาศาลถูกกำจัดไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นในภูเขาแห่งนี้ จะต้องมีดวงวิญญาณตัวอ่อนมากมายกำพร้า ให้พวกเขาพาคนมาออกล่า จะได้ดวงวิญญาณตัวอ่อนมากมายแน่นอน ถ้ารวมพวกนี้เข้าด้วยกันละก็ จะได้เงินมหาศาลมาก ต่อให้ไม่ขาย เก็บไว้เป็นสวัสดิการของตระกูล ถ้าอย่างนั้นคงมีคนนับไม่ถ้วนแย่งกันเข้าร่วมตระกูลชู่ จะทำให้อำนาจของตระกูลแข็งแกร่งขึ้นมาทันตา” ผู้เฒ่าหลีบอก

พอผู้เฒ่าหลีพูดแบบนี้ ตาของชู่มู่เป็นประกายทันที

อำนาจหนึ่ง จะมีอะไรที่ดีกว่าสวัสดิการอย่างดวงวิญญาณตัวอ่อนล่ะ

คาดว่าหลังจากจับดวงวิญญาณตัวอ่อนพวกนี้แล้ว ตระกูลชู่จะรวยอีกครั้งแล้ว!

ถ้าจะถามว่า ทำไมชู่มู่ไม่จับดวงวิญญาณตัวอ่อนพวกนี้ไปด้วยตัวเองเลยล่ะ

ทั้งภูเขาทรงพลังนี้เกือบจะครึ่งหนึ่งของเขตโลกแล้ว ต่อให้ในตอนนี้มีทองเต็มทั่วภูเขาทรงพลัง ชู่มู่จะมีแรงไปเก็บทีละส่วนได้อย่างไรกัน

แน่นอนว่า ไม่ว่าสิ่งใด ก็ไม่สำคัญเท่าสามหมื่นวิญญาณนั้น ชู่มู่เก็บสามหมื่นวิญญาณไว้ในแหวนช่องว่างสำคัญที่สุดของตัวเอง กลับไปด้วยกระเป๋าที่เต็มไปด้วยของมากมาย

ตอนที่ชู่มู่กลับไปถึงหุบเขาทรงพลัง ฟ้าสว่างแล้ว เส้นทางค่อนข้างไกล ยังดีที่ที่อาศัยของราชันเสือดาวอยู่ไม่ใต้ไกลเกินไป มิฉะนั้นคงจะกลับมาไม่ได้ในหลายวัน

“ชู่มู่ ชู่มู่!!! เจ้ากลับมาสักที พวกข้าตกใจหมด!!!” ชู่หลั่งที่เฝ้าอยู่ด้านนอกหุบเขาเห็นชู่มู่กลับมา รีบวิ่งเข้ามา พูดอย่างใจร้อน

“ข้าเข้าไปดูในภูเขาทรงพลัง เก็บของบางอย่างมาด้วย สถานการณ์ในหุบเขาไม่เป็นไรใช่ไหม” ชู่มู่ฉีกยิ้มออกมา แล้วถามขึ้น

“อืม พวกเราเก็บกวาดกลุ่มเสือดาวที่ค้างอยู่ในหุบเขาทั้งคืน แต่แอ่งศพนั้น โดดเด่นเกินไป ข้าพาคนอื่นเดิมอ้อม ทุกคนยังคงอ้วกอยู่ดี แต่ตอนเช้า อาสองได้ให้คนไปเก็บเศษวิญญาณ ผลึกวิญญาณ ผลึกอวัยวะภายในมาแล้ว ค่อยทำการถม ตอนนี้น่าจะถมได้ประมาณหนึ่งแล้ว” ชู่หลั่งบอก

“พาข้าไปหาท่านอาเถอะ ข้ามีของบางอย่างจะให้เขา” ชู่มู่บอก

“ของอะไรหรือ” ชู่หลั่งเองก็ถามด้วยความสงสัย ด้วยความสามารถของชู่มู่ในตอนนี้ สิ่งที่เขาจะให้ไม่ธรรดาแน่นอน

“เดี๋ยวเจ้าก็รู้” ชู่มู่ยิ้มเล็กน้อย ตั้งใจทำให้ชู่หลั่งตื่นเต้น

คาดว่าตอนที่ชู่หลั่งเห็นเสือดาวระดับราชันตัวอ่อนกับเศษวิญญาณผลึกวิญญาณมหาศาล จะต้องตาถลนออกมาแน่

——————————————————————————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด