Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ 561

Now you are reading Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ Chapter 561 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 561 ลายเส้นอัคคีแห่งโทษ ดอกบัวอัคคีสลายโลก

อัคคีแห่งโทษเป็นสีแดงเข้ม เป็นการผสมระหว่างเลือดกับความมืด อีกทั้งมีความร้อนที่พร้อมจะแผดเผาทุกสรรพสิ่ง!

ลำตัวของมั่วเย๋ถูกอัคคีแห่งโทษนี้แผดเผาเอาไว้ ราวกับลำตัวทั้งหมดได้หล่อหลอมเข้าไปในเปลวไฟ มีเพียงดวงตาสูงส่งเยือกเย็นที่เห็นได้ชัดเจน!

“ฮูฮูฮูฮูฮู”

กลิ่นไอของอัคคีแห่งโทษนี้ได้ปล่อยพลังออกมาพร้อมกัน กดทับในพื้นที่รัศมีร้อยเมตรซึ่งมีมั่วเย๋เป็นศูนย์กลาง

ที่น่าตกใจคือ พื้นสีดำที่อยู่ใต้เท้ามั่วเย๋ กลายเป็นลายเส้นอัคคีแห่งโทษยักษ์ใหญ่ ลายเส้นนี้ได้ซ่อนพลังแข็งแกร่งที่สุดที่ทำให้จิ้งจอกแห่งโทษทั้งเจ็ดทำลายโลกนี้ได้ อีกทั้งยังผนึกความสามารถไร้ที่สิ้นสุดของพวกมันเอาไว้!!

ลายเส้นที่ผนึกไว้มีพลังสะเทือนอย่างมาก เหล่าผู้เฝ้าหินแทบไม่กล้าก้าวเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว ต่างถอยไปด้วยความหวาดกลัว

ส่วนมั่วเย๋ที่ยืนอยู่ใจกลางลายเส้นอัคคีแห่งโทษนี้ ลำตัวสีเงินสูงส่งปรากฎท่ามกลางอัคคีแห่งโทษร้อนระอุนี้อย่างช้าๆ!

สิ่งที่ปรากฎออกมาก่อนคือหัวของมั่วเย๋ เมื่อเทียบกับจิ้งจอกอัคคีเก้าหางมงกุฎเพลิงแล้ว ลักษณะเปลี่ยนไปไม่มากเท่าไร แต่ในหางตาเรียวยาวนั้นกลับมีลายเส้นอลังการปรากฎขึ้น ลายเส้นนี้คืบคลานไปยังใบหน้าและลำคอของมั่วเย๋ ราวกับเป็นหน้ากากเยือกเย็น!

ลายเส้นนี้ไม่เพียงแต่ไม่ทำลายความงดงามของราชันจิ้งจอกของมั่วเย๋ แต่ยังเพิ่มความแข็งแกร่งของราชันมากขึ้น!

ลำตัวของจิ้งจอกอัคคีเก้าหางมงกุฎเพลิงเป็นการรวมตัวของพลังและความงาม ส่วนราชันจิ้งจอกแห่งโทษทั้งเจ็ดนี้ หลังจากที่มั่วเย๋แปรเปลี่ยนตระกูลแล้ว ร่างของมันเต็มไปด้วยความสมดุลระหว่างพลัง ความงาม ความลึกลับ และความป่าเถื่อน นับว่าเป็นท่าทีสมบูรณ์แบบที่สุดของสิ่งมีชีวิต

ไม่ว่าจะเป็นอัตราส่วนของรูปร่าง โครงร่างของกล้ามเนื้อ ความยาวของสี่ขา แทบจะหาจุดบกพร่องไม่เจอ แม้แต่ขนสีเงินแต่ละเส้นยังสร้างขึ้นอย่างตั้งใจ ตอนที่พลิ้วไหวไปตามสายลม จะทำให้ผู้คุมดวงวิญญาณนับไม่ถ้วนต้องคลั่งไคล้ต่อลักษณะภายนอกสมบูรณ์แบบนี้!

หางเก้าเส้นที่เต็มไปด้วยพลังของมั่วเย๋ไม่ได้หายไป แต่กลับกระจายไปตามลายเส้นอัคคีแห่งโทษนี้ ลากลงพื้น กางออกอย่างกลังการ อีกทั้งยังพลิ้วไหวไปตามอัคคีแห่งโทษอย่างบ้าคลั่ง ก่อเป็นลายเส้นหางจิ้งจอกที่ทรงพลัง!!

ผู้คุมดวงวิญญาณแต่ละคนต่างรู้ดี อย่าสนใจภายนอกของดวงวิญญาณมากเกินไป แต่ว่า ด้วยมุมมองความงามของมนุษย์แล้ว ต่อให้เป็นผู้คุมดวงวิญญาณมากประสบการณ์ ในตอนที่พวกเขาเห็นดวงวิญญาณ มักถูกลักษณะภายนอกของดวงวิญญาณดึงดูดได้ เพราะลักษณะภายนอกของดวงวิญญาณตัวหนึ่งมักบ่งบอกถึงภาวะเติบโตของมัน เป็นตัวตัดสินพลังที่มันมี!

ดังนั้น ลายเส้นกล้ามเนื้อทรงพลังอันงดงาม ขนงดงามบริสุทธิ์ เกราะที่เป็นนทรงเลี่ยมเงางาม ขาทั้งสี่ที่ทรงพลัง..สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นมุมมองความงามที่มีต่อดวงวิญญาณหมวดอสูร

และในตอนที่จิ้งจอกแห่งโทษทั้งเจ็ดเกิดท่ามกลางอัคคีแห่งโทษ ทำให้ชู่มู่ได้รับรู้ถึงความสมบูรณ์แบบราวกับผลงานศิลปะที่แท้จริง ยากที่จะจินตนาการได้ว่า สิ่งมีชีวิตที่งดงามแบบนี้ในโลกของสิ่งมีชีวิตจะถูกมนุษย์เรียกว่าเป็นต้นกำเนิดของบาปทั้งหลาย!

ความสมบูรณ์แบบของจิ้งจอกแห่งโทษทั้งเจ็ดนี้ไม่ได้มีเพียงลักษณะภายนอกของพวกมัน พลังที่พวกมันมีสมบูรณ์แบบยิ่งกว่า อีกทั้งสมบูรณ์แบบเกินกว่าระดับตระกูลของตัวพวกมันเอง!!

เช่นเดียวกันที่ผู้เฒ่าหลีร้องขึ้นก่อนหน้านี้ เดิมจิ้งจอกแห่งโทษทั้งเจ็ดเป็นจักรพรรดิสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว พลังหมวดอสูรกับพลังหมวดภูตวิญญาณของพวกมัน ทำให้พลังต่อสู้ของมันที่มีมาตั้งแต่เกิดเกินกว่าจักรพรรดิแล้ว อยู่ในระดับเทียบเท่าราชัน!

บวกกับอัคคีแห่งโทษที่ตามตำนานบอกไว้ว่าจะแผดเผาโลกทั้งใบนี้ ระดับพลังต่อสู้ของมั่วเย๋อยู่ในระดับราชันขั้นต่ำทันที!!

ความสามารถระหว่างเทียบเท่าราชันกับราชันขั้นต่ำห่างกันถึงสามขั้น เท่ากับว่า มั่วเย่ในตอนนี้ปล่อยทักษะใดๆก็จะฆ่าตะขาบหมื่นขาลักษณะสิบในเหวตะขาบนั้นได้ในเสี้ยววินาที!!

ในตอนที่อยู่ด่านที่เจ็ด ชู่มู่ที่เผชิญหน้ากับตะขาบหมื่นขาทำได้แค่เผยใบหน้าหวาดกลัวออกมา ตอนนี้ตะขาบหมื่นขากลับกลายเป็นแมลงน่าสงสารตัวหนึ่งไปแล้ว!

ที่สำคัญที่สุดคือ ศัตรูทั้งหมดที่ชู่มู่เผชิญอยู่ในตอนนี้ กองทัพจักรพรรดิที่ทำให้สิ่งมีชีวิตระดับราชันหวาดกลัวได้ แต่ในตอนนี้กลับอึ้งกับพลังราชันของมั่วเย๋ ไม่มีผู้เฝ้าหินตัวใดกล้าโจมตีไปยังมั่วเย่ จักรพรรดิขั้นสูงที่โจมตีมั่วเย๋ก่อนหน้านี้เหมือนกับรูปปั้นในตอนนี้ ยืนนิ่งอยู่กับที่ เห็นได้ชัดมากว่า ผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นสูงตัวนี้ก็คิเไม่ถึงว่าจิ้งจอกอัคคีเก้าหางมงกุฎเพลิงตัวนี้จะแปรเปลี่ยนแบบนี้ได้!

ต่อหน้าราชันจิ้งจอกแห่งโทษทั้งเจ็ดมั่วเย๋นี้ ผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นสูงอ่อนแออย่างมาก อีกทั้งไม่มีความกล้าแม้แต่จะหนีไป!

หางยาวที่เหมือนมังกรนี้ยืนออกไปด้านหน้า มั่วเย๋ยืนอยู่กับที่ หางราชันจิ้งจอกเส้นนี้กลับลอยไปตรงหน้าผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นสูงตัวนี้ช้าๆ ม้วนจักรพรรดิขั้นสูงตัวนี้เอาไว้

ผู้เฝ้าหินแทบไม่มีความสามารถต้านทานได้ หางของราชันจิ้งจอกมีพลังรัดกุม พลังของผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นสูงแทบไม่สามารถสลัดออกได้!

ดวงตาของมั่วเย๋เยือกเย็นสูงส่ง ราวกับเป็นราชันดุร้ายที่กำลังจับจ้องไปยังขุนนางไร้ความสามารถของตัวเอง พร้อมที่จะฆ่ามันให้ตายในทันที!

“บึ้ง!!!!!!!!!!”

ทันใดนั้น ร่างของผู้เฝ้าหินสลายเป็นเศษด้วยพลังของหางราชันจิ้งจอกมั่วเย๋!!!

พลังป้องกันของผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นสูงอยู่ในขั้นเก้าระยะสมบูรณ์ มีเพียงพลังขั้นสิบถึงจะฆ่ามันตายได้ และแล้วจิ้งจอกแห่งโทษทั้งเจ็ดเหมือนแทบจะไม่ได้ใช่แรงใดๆ ก็บีบขยี้จักรพรรดิขั้นสูงตัวนี้ให้สลายได้!!

ผู้เฝ้าหินมีสติปัญญาของพวกมันเอง พวกมันล้อมรอบมั่วเย๋เป็นร้อยๆ แต่ในตอนที่พวกมันเห็นผู้นำของตัวเองถูกฆ่าตายเหมือนมด ผู้เฝ้าหินทั้งหมดต่างสั่นคลอ!

ความเยือกเย็นของมั่วเย๋ เกิดจากความโกรธของมัน!

ในตอนนี้ เผชิญหน้ากับผู้เฝ้าหินที่นำความตายมาให้มั่วเย๋ก่อนหน้านี้ มั่วเย๋ที่โกรธเคืองอย่างมากจะทำให้พวกมันสัมผัสถึงความตายอันสิ้นหวังเหมือนกัน!

“อูอูอูอูอูอูอู!!!!!!!!!”

มั่วเย๋ส่งเสียงร้องทรงพลังยิ่ง

เสียงนี้ราวกับเปลวไฟ พุ่งเข้าไปในฟ้ายามค่ำคืน!

ลายเส้นอัคคีแห่งโทษด้านล่างมั่วเย๋หมองค้ำลงอย่างช้าๆ ตามเสียงร้องด้วยความโกรธของมั่วเย๋ ลายเส้นอัคคีแห่งโทษนี้ทยานขึ้นฟ้าช้าๆ

สุดท้าย ลายเส้นอัคีแห่งความโกรธนี้ได้สะท้อยบนฟ้าสีดำ ปกคลุมทั่วทั้งลานกว้างแท่นบูชา!

ลานกว้างแท่นบูชานี้มากถึงพันเมตร จินตนาการได้ว่าลายเส้นอัคคีแห่งโทษนี้ยิ่งใหญ่มากเพียงใดที่จะปกคลุมทั้งลานกว้างนี้ได้ เท่ากับว่าได้ปกคลุมฟ้าทั้งผืนนี้เอาไว้!!

ลายเส้นอัคคีแห่งโทษ ดอกบัวอัคคีสลายโลก!

ตามข่าวลือ ตอนที่ยังไม่มีผนึก ทักษะนี้เองที่ทำให้จิ้งจอกราชันอัคคีสลายโทษทั้งเจ็ดนี้แผดเผาโลกนี้จนสิ้นซาก!

ต่อให้เป็นต้นเรื่องของบาปทั้งหมด ต่อให้พลังถูกผนึกเอาไว้ พลังของอัคคีสลายโลกนี้ยังเพียงพอที่จะแผดเผาพื้นที่แห่งนี้ได้!

หยดไฟสีแดงเข้มตกลงจากลายเส้นอัคคีแห่งโทษอย่างช้าๆ มองดูไม่ต่างจากเปลวไฟธรรมดาเท่าไร อีกทั้งระหว่างที่ตกลงยังเงียบสงัดมาก…

ทันใดนั้น ตอนที่หยดไฟสีแดงเข้มตกถึงพื้น บริเวณของอัคคีแห่งโทษนั้นได้ก่อเป็นดอกบัวอัคคีสีเลือดเข้ม!!

ดอกบัวอัคคีนี้ได้กลืนกินผู้เฝ้าหินรอบตัวมันในเสี้ยววินาที ผู้เฝ้าหินไม่มีแม้แต่โอกาสจะดิ้นรน กลายเป็นเถ้าถ่านด้วยพพลังนี้!

ผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นต่ำมีพลังป้องกันน่ากลัวมากเพียงใด แต่หยดแห่งดอกบัวอัคคีเพียงหยดเดียว ก็พอที่จะฆ่าพวกมันในเสี้ยววินาทีได้แล้ว!

ในไม่ช้า หยดดอกบัวอัคคีหยดจากลายเส้นอัคคีแห่งโทษมากขึ้นเรื่อยๆ จะมีดอกบัวอัคคีสีแดงเข้มซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความตายปรากฎขึ้น สลายผู้เฝ้าหินรอบๆมัน!

“โคร้มโคร้ม!!โคร้ม!!!!!!!!”

ลายเส้นอัคคีแห่งโทษกลายเป็นคำพิพากษาวันสิ้นโลก ผู้เฝ้าหินจักรพรรดินับพันตัวต้องทนต่อการชำระล้างของราชันอัคคีผู้เกรี้ยวกราด ลานกว้างแท่นบูชาเต็มไปด้วยดอกบัวอัคคีร้อนระอุยิ่ง งดงามแต่โหดร้ายยิ่ง!

“จิ๊ดจิ๊ดจิ๊ดจิ๊ด”

ในที่ไกลออกไป ดวงวิญญาณส่งสารพิเศษตัวนั้นส่งเสียงร้องด้วยความหวาดกลัว

สายตาของมันร่วมกับผู้คุมดวงวิญญาณรับสาร ในระยะห่างแบบนี้ ผู้คุมดวงวิญญาณรับสารแทบไม่อาจรู้ว่ามั่วเย๋ได้เกิดการแปรเปลี่ยนตระกูลขึ้น

อย่างไรก็ตาม เขาได้เห็นจิ้งจอกแห่งโทษทั้งเจ็ดที่มีอัคคีแห่งโทษตัวหนึ่งปรากฎขึ้น ตามด้วยหายนะที่พัดพา ทำให้ดวงวิญญาณส่งสารอ่อนแอตัวนั้นเกือบถูกกลิ่นไอของเปลวไฟเผาเป็นเถ้าถ่าน!

ผู้คุมดวงวิญญาณรับสารเองก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ผ่านไปเนิ่นนานถึงประกาศข่าวนี้ให้ลานกว้างเทียนเซี่ยรับรู้

ก่อนหน้านี้ทั้งเมืองเทียนเซี่ยยังตกอยู่ในความเงียบ ความจริงคนทั้งหมดกำลังรอข่าวความตายของชู่เฉิงตำหนักวิญญาณและดวงวิญญาณของเขา

“ชู่เฉิงตำหนักวิญญาณ…เขา…เขายังไม่ตาย ไม่รู้ว่ามีดวงวิญญาณหมวดไฟระดับราชันปรากฎขึ้นตั้งแต่เมื่อไร!!!”

“ดวงวิญญาณหมวดไฟระดับราชันตัวนี้กำลังฆ่าล้างผู้เฝ้าหิน ผู้เฝ้าหินฝูงใหญ่กำลังถูกดอกบัวอัคคีนี้ฆ่าในเสี้ยววินาที!!”

ดวงวิญญาณหมวดไฟระดับราชัน?

ผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นต่ำถูกฆ่าตายในเสี้ยวินาที?

นี่เป็นตรรกะอะไร?วัยหนุ่มขั้นสองคนหนึ่งมีดวงวิญญาณที่มีความสามารถระดับจักรพรรดิขั้นต่ำลักษณะสิบตัวหนึ่งก็เพียงพอที่จะเข้าสู่ลำดับแข็งแกร่งที่สุดในด่านที่เก้าได้แล้ว!!

และแล้วในตอนนี้ ในลำดับแข็งแกร่งที่สุดของขั้นสองนี้กลับถูกฆ่าในเสี้ยววินาที อีกทั้งยังถูกฆ่าเป็นหมู่!

“ข่าวนี้เป็นเรื่องจริง!”ในตอนนี้ ไห่ชิวหนึ่งในสี่ที่นั่งได้รวมร่ายวิญญาณเป็นเสียง ส่งไปยังลานกว้างเทียนเซี่ย ส่งเข้าหูของทุกคน

“สมาชิกฝ่ายจัดการประลองที่อยู่เมืองอมตะของพวกเราสัมผัสได้ถึงพลังเปลวไฟมหาศาลที่ส่งมาจากตำแหน่งของแท่นบูชาอสูรเลือก!”

ผู้คุมดวงวิญญาณรับสารอาจโกหกได้ แต่ประธานฝ่ายจัดการประลองฟ้าดิน ไห่ชิวที่มีตำแหน่งสูงส่งในสมาคมผู้อาวุโสจะโกหกเหรอ?

วินาทีนี้ คนทั้งหมดในลานกว้างถึงรู้ว่าสิ่งที่ผู้คุมดวงวิญญาณรับสารพูดไม่ใช่เรื่องแต่ง!!

ถ้าบอกว่านี่เป็นความจริง ถ้าอย่างนั้นดวงวิญญาณระดับราชันที่ฆ่าล้างผู้เฝ้าหินในเสี้ยววินาทีนี้ มีอยู่จริง!!

แม้แต่สมาชิกฝ่ายจัดการประลองนอกเมืองอมตะยังสัมผัสได้ถึงพลังไฟที่คืบคานออกมา พอจะรู้ว่าหมวดไฟที่ปรากฎในลานกว้างนั้นเป็นหายนะที่สาหัสมากเพียงใด!!

“ระดับราชัน…พระเจ้า!!”จ้าวเหิงร้องขึ้น

“ชู่เฉิงอยู่ที่นั่น เห็นได้ชัดว่าดวงวิญญาณระดับราชันตัวนั้นกำลังช่วยชู่เฉิงต่อสู้กับผู้เฝ้าหินนับพันตัว…หรือว่า…”สมาชิกตำหนักวิญญาณแต่ละคนต่างเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา ถ้าพูดต่อไป พวกเขาเองก็แทบไม่เชื่อ!

“หรือว่า นั่นถึงจะเป็นดวงวิญญาณหลักที่แข็งแกร่งที่สุดของชู่เฉิง การมีอยู่ของระดับราชัน!”

“ดวงวิญญาณหลักระดับราชัน…ชู่เฉิงนี่ผิดปกติเกินไปแล้ว!!!เจ้าเด็กนี่ควรถูกห้ามเข้าแข่งขันตั้งแต่แรกแล้ว!!”แม้แต่นักวิญญาณเฒ่าเต๋อที่อยู่ตรงนี้ตั้งแต่แรกก็ทนไม่ไหวแล้ว ร้องขึ้นทันที!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด