Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ 532

Now you are reading Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ Chapter 532 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 532 ท้าทายสองคนที่แข็งแกร่งที่สุดของวังมารนิรย

“มีคนขึ้นเขาอีกแล้ว เหมือนจะเป็นคนของวังมารนิรย ผู้แข็งแกร่งสองคนของวังมารนิรยครองอยู่ จะมีใครกล้าขึ้นไปบนยอดเขาอีก!”

“ท่าทีนั้นเหมือนเป็นวังมารนิรย เหมือนจะมีกลิ่นไอของมารนิรยอยู่บนตัวด้วย”

“ทำไมข้ารู้สึกว่า คนนั้นเหมือนชู่เฉิงตำหนักวิญญาณ…วัยหนุ่มท้าทายข้ามขั้นที่มีท่าทีโดดเด่นเป็นพิเศษในด่านแรก ๆของการประลองฟ้าดิน”

ในตอนนี้ ชู่มู่กำลังมุ่งหน้าไปยังยอดเขาของภูเขาเวหาอมตะ สิ่งที่ตามอยู่ข้างเขาคือเย้ชิงจือที่ขี่อสูรนิมิตชุดม่วงอยู่

มั่วเย้สีหมึกที่เป็นทรงเหลี่ยมชัดเจน คู่กับชู่มู่ที่ใส่ชุดดำได้พอดี เผยให้เห็นความเยือกเย็นของชู่มู่

ผู้แข็งแกร่งทั้งสองของวังมารนิรยได้ครองยอดเขาเวหาอมตะ ชู่มู่รู้ว่าจะคุ้มกันให้สมาชิกวังมารนิรยตั้งนานแล้ว

ตอนนี้ ผู้แข็งแกร่งขั้นสองของทั้งวังมารนิรย มีเพียงมารนิรยของสองคนนี้ถึงเหมาะจะเป็นอาหารให้ปีศาจขาวของชู่มู่ ส่วนผู้เข้าแข่งขันวังมารนิรย ชู่มู่มองข้ามได้หมดเลย

ปีศาจขาวในตอนนี้อยู่ในลักษณะเก้าขั้นสี่ หลังจากได้กินวิญญาณของมารนิรยพวกเขาแล้ว ปีศาจขาวน่าจะเติบโตได้ประมาณหนึ่งถึงสองขั้น ส่วนพลังวิญญาณที่เหลือจะเป็นของชู่มู่ทั้งหมด ร่ายวิญญาณของชู่มู่จะเพิ่มขึ้นประมาณสามส่วนได้ เช่นนี้ร่ายวิญญาณของชู่มู่จะถึงประมาณเก้าส่วน ห่างกับร่ายวิญญาณเจ็ดร่ายแค่ก้าวเดียว!

ยอดเขาตั้งชัน ภายใต้ท้องฟ้าสีฟ้านี้ ราวกับเป็นสนามประลองกลางฟ้า !

ลมพัดอย่างรุนแรง บางครั้งจะกัดกร่อนชั้นหินเหล่านั้น ก่อเป็นฝุ่นที่ฟุ้งกระจาย ปลิวออกไปด้านนอกหุบเขา

“ซิงหยาง เจ้าได้แหวนนักโทษมาเท่าไร” เจียงอี้เถิงถามขึ้น

“ประมาณสามพันล้าน” ซิงหยางตอบ

“ข้าได้สี่พันล้าน น่าจะไม่มีใครได้มากกว่าข้าแล้วละ ฮะฮะ” เจียงอี้เถิงหัวเราะออกมา

“อาจจะ” ซิงหยางตอบ

“คนของตำหนักวิญญาณกับวังดวงวิญญาณถอยแล้ว น่าเบื่อจริง” เจียงอี้เถิงเดินไปยังขอบยอดเขา มองไปยังภูเขาเวหาอมตะทั้งแห่งนี้ด้วยท่าทีเบื่อหน่ายแต่กลับเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง

เขาชอบความรู้สึกที่มองดูคนทั้งหมดจากยอดเขาสูงสุดแบบนี้ เช่นเดียวกับท่านพ่อจักรพรรดิเจียงของเขา!

“ในขั้นสองไม่มีบุคคลอันตรายแล้ว ต่อมาก็แค่จัดการซือเทียนองค์กรวิญญาณ เกียรติสุดท้ายในขั้นสองนี้เป็นสิ่งที่อยู่ในมือแล้ว” ซิงหยางยืนพิงอยู่บนหินก้อนหนึ่ง แล้วพูดขึ้น

“ฮะฮะ ความสามารถของซือเทียนก็ไม่เท่าไร ข้าเคยประลองกับเขาแล้ว”เจียงอี้เถิงหัวเราะออกมาทันที

“เจ้ารู้เรื่องของเขาจะดียิ่งขึ้น…” ซิงหยางพูดไป ทันใดนั้น ได้กวาดตามองไปยังภูตวิญญาณของตัวเอง เหมือนภูตวิญญาณได้บอกบางอย่างกับเขา สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป พูดต่อว่า “มีคนขึ้นมาแล้ว เหมือนจะไม่ใช่คนของวังมารนิรย”

“เป็นฟางเจ๋อจะดีที่สุด” เจียงอี้เถิงถอยกลับไปยังตำแหน่งใจกลางของยอดเขา รอคอยเจ้าคนที่รนหาที่ตายคนนั้น

จั้นเย้สีหมึกวิ่งไปตามยอดเขาที่เป็นแนวดิ่ง ในไม่ช้า เข้าใกล้ยอดเขาอย่างมากแล้ว

ขาหลังของจั้นเย้เหยียบลงบนหินก้อนหนึ่ง กระโดดขึ้น ออกจากยอดเขาสูงสิบกว่าเมตร

“เพ้ง”

จั้นเย้ลงบนพื้นอย่างมั่นคง หินที่ขาทั้งสี่เหยียบลงกลายเป็นเศษ รอยแยกกระจายตัวออก !

“โฮร่ !!! ”

สายตาของจั้นเย้เพ่งเล็งไปยังผู้เข้าแข่งขันวังมารนิรยสองคนบนยอดเขาตั้งนานแล้ว ส่งเสียงคำรามท้าทายไปยังพวกเขา !

ในตอนที่เจียงอี้เถิงเห็นชู่มู่ชุดดำปรากฏบนยอดเขาแห่งนี้ สีหน้าของทั้งสองคนต่างเกิดการเปลี่ยนแปลง เห็นได้ชัดว่า พวกเขาแทบไม่คิดว่าเจ้าคนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงนั้นกลับไม่ใช่คนที่พวกเขาคาดไว้

“ที่แท้เป็นเจ้า ฮะฮะฮะ” ทันใดนั้น เจียงอี้เถิงหัวเราะขึ้นมา เสียงหัวเราะนี้ไม่ปิดบังความเย้ยหยันที่เขามีต่อชู่มู่แม้แต่น้อย

“เขาคือใคร” ซิงหยางไม่เคยได้ยินชื่อชู่มู่มาก่อน ในสายตาของเขามีเพียงคนที่จะเป็นอันตรายต่อตัวเองอย่างแท้จริงเท่านั้น ส่วนเจ้าคนที่อวดดีแบบนี้ ซิงหยางเพิกเฉยมาตลอด ต่อให้พวกเขาจะมีชื่อเสียงมากเพียงใดก็ตาม

“ตัวละครน้อยคนหนึ่งของตำหนักวิญญาณ น่าเบื่อจริง คิดว่าจะเป็นคนที่เก่งกาจ” เจียงอี้เถิงพูดไป ก้าวไปหาชู่มู่ พูดต่อว่า”ทำไม เจ้าเก็บแหวนนักโทษมากพอแล้วเหรอ จะเข้ามาถวายให้เหรอ”

ชู่มู่ไม่พูดมาก เปิดแหวนช่องว่างออก เทแหวนนักโทษออกมาในครั้งเดียว

แหวนนักโทษต่างระดับจะมีสีที่ต่างกัน ขั้นเจ็ดเป็นสีฟ้า ขั้นแปดเป็นสีม่วง ในตอนที่แหวนกองใหญ่นี้ปรากฏขึ้น ได้ส่องประกายงดงามภายใต้การสาดส่องของแสงอาทิตย์

“มีแหวนนักโทษเยอะจัง !!! ”

“นี่…คงมีประมาณห้าพันกว่าล้าน !!!”

ตอนที่ชู่มู่เอาแหวนนักโทษพวกนี้ออกมา เหล่าผู้ชมต่างพูดไม่ออก

โดยปกติในมือของเหล่าผู้เข้าแข่งขันจะมีแหวนนักโทษประมาณห้าร้อยล้าน และเงินห้าพันล้านนี้น่าจะซื้อจักรพรรดิขั้นกลางที่มีประสิทธิภาพธรรมดาตัวหนึ่งได้ สำหรับเหล่าผู้เข้าแข่งขันขั้นสองนี้ นับว่าเป็นจำนวนมหาศาลแล้ว

และแล้ว ในมือของชู่มู่นี้ สีม่วงสีฟ้า กลับมีแหวนนักโทษประมาณห้าพันกว่าล้าน คนทั้งหมดที่เห็นต่างตาแดง !

“น่าแปลก ทำไมมีแหวนนักโทษสีแดงวงหนึ่ง ในแหวนนักโทษมีสีแดงด้วยเหรอ” ในไม่ช้า คนทั้งหมดได้สังเกตเห็นแหวนที่มีประกายสีแดง

เหล่าผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่ไม่รู้ถึงการมีอยู่ของนักโทษขั้นเก้า ดังนั้นจึงเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้น

รอยยิ้มบนใบหน้าเจียงอี้เถิงแข็งทื่อทันที แหวนในมือชู่มู่นี้กลับเยอะกว่าของเขาอีก อีกทั้ง เจ้านี่ยังฆ่านักโทษขั้นเก้าซึ่งเป็นเกียรติสูงสุดของด่านที่แปด แหวนที่มีมูลค่าหนึ่งพันล้าน เท่ากับว่าในมือของชู่มู่มีแหวนนักโทษหกพันกว่าล้าน !

เจียงอี้เถิงเองเก็บแหวนนักโทษได้แค่ประมาณสี่พันล้านเท่านั้น เขาคิดว่า ตัวเองเป็นที่หนึ่งในด่านที่แปดนี้ แต่เมื่อเทียบกับคนที่อยู่ตรงหน้าแล้ว กลับห่างกันถึงสองพันล้านเต็ม ๆ !

“ก็ดี รวมกับแหวนนักโทษหกพันล้านนี้ ข้าจะมีหมื่นล้านแล้ว ซื้อชุดวิญญาณโจมตีรอบด้านขั้นเก้าได้”หลังจากที่สีหน้าของเจียงอี้เถิงแข็งทื่อ กลับหัวเราะออกมาทันที

“เขาฆ่านักโทษมากมายขนาดนี้ได้ ในนั้นยังรวมถึงนักโทษขั้นเก้า ความสามารถน่าจะแข็งแกร่งมาก” ซิงหยางใองไปยังชู่มู่แล้วพูดกับเจียงอี้เถิงเสียงเบา

ชู่มู่มองด้วยสายตาเฉยเมย กวาดตาผ่านเจียงอี้เถิงกับซิงหยาง พูดได้ว่า”อัญเชิญดวงวิญญาณแข็งแกร่งที่สุดของพวกเจ้าออกมา เอาชนะข้าได้ เจ้าแบ่งหกพันล้านนี้ได้ตามใจ”

“อวดดีจริง ก่อนหน้านี้ที่สะพานรุ้ง ข้าขี้เกียจเปลืองแรงกายของข้าจัดการเจ้า เหยียบแมลงให้ตายง่ายมาก แต่นั่นมีค่าแค่ให้ข้ายกเท้า แต่ในตอนนี้ เจ้ามีค่าให้ข้ายกเท้าแล้ว หึหึ สำหรับคนของตำหนักวิญญาณ ข้าไม่เคยออมมือมาก่อน” เจียงอี้เถิงบอก

“ชู่เฉิงเป็นอะไรกันแน่ แม้เขาจะชนะหลู่ซานหลี แต่ความสามารถของซิงหยางกับเจียงอี้เถิงแข็งแกร่งกว่าหลู่ซานหลีหลายเท่า” ถิงหลันพึมพำ เผยความกังวลออกจากนัยน์ตา

“ถิงหลัน เมื่อกี้เจ้าบอกว่าเขาชนะหลู่ซานหลีงั้นหรือ” หลัวปิงอึ้งเล็กน้อย แล้วถามขึ้น

ถิงหลันพยักหน้า กวาดตามองไปยังเหล่าผู้ชมวังมารนิรยที่ขี่ดวงวิญญาณหมวดปีกฝูงนั้น

ในตอนนี้กลุ่มผู้ชมของวังมารนิรยกำลังส่งเสียงดังเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้รู้จากคนอื่นว่า คนที่ทำให้หลู่ซานหลีได้รับบาดเจ็บคือชู่เฉิง !

“ข้าเองก็จัดการหลู่ซานหลีได้ ความสามารถของเจียงอี้เถิงแข็งแกร่งมากจริง เขาไม่สามารถชนะได้ !” หลัวปิงได้สติแล้วพูดขึ้น

ชู่มู่ชนะหลู่ซานหลีได้ทำให้หลัวปิงประหลาดใจอย่างมาก แต่เจียงอี้เถิงเองก็มีสิทธิที่จะอวดดีได้ ตอนที่สู้กับเจียงอี้เถิง หลัวปิงแพ้อย่างหมดจด เขาคิดว่านายท่านฟางเจ๋อใช่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ ผู้เข้าแข่งขันที่มาทีหลังอย่างชู่มู่นี้ คงจะเผชิญชะตาเดียวกับเขา

“ซิงหยาง หรือว่าเจ้าคิดว่าข้าคนเดียวจัดการพวกเขาไม่ได้” เจียงอี้เถิงกวาดตามองไปยังซิงหยาง พบว่าซิงหยางทำท่าทีพร้อมจะต่อสู้ พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเยือกเย็นทันที

ซิงหยางจับจ้องไปยังเย้ชิงจือที่เดินตามมาจากด้านหลัง เห็นได้ชัดว่าเย้ชิงจือมาพร้อมกับชู่มู่ ซิงหยางย่อมต้องลงมือ

“อัญเชิญมารนิรยของพวกเจ้าออกมาเถอะ ข้าไม่มีเวลาให้พวกเจ้าขนาดนั้น” ชู่มู่กระโดดลงจากตัวจั้นเย้

ชู่มู่จำต้องจบการต่อสู้อย่างรวดเร็ว ไม่กี่วันก่อน เขารับรู้ได้ว่า ปีศาจฉิงเย้ที่เจอตอนอยู่ทะเลทรายกำลังสะกดรอยตามตัวเองอยู่

ชู่มู่กับเย้ชิงจือใช้หลายวิธีเพื่อสลัดเจ้าคนที่มาจากภูเขาตะวันตกขั้นหนึ่งคนนี้ เชื่อว่าอีกไม่นานเขาจะตามมา ชู่มู่จำต้องให้ปีศาจขาวกลืนกินมารนิรยของผู้แข็งแกร่งวังมารนิรยทั้งสองคนนี้ก่อนที่เขาจะมาถึงที่นี่ !

ผู้เข้าแข่งขันสามารถท้าทายข้ามขั้นได้ และสมาชิกของขั้นที่หนึ่งถ้าสามารถใช้วิธีพิเศษเข้ามาในสนามล่าของขั้นสองในตอนนี้ได้ ผู้เฝ้าฝ่ายจัดการประลองก็ไม่มีสิทธิห้ามการกระทำของเขา

ดังนั้น ต่อให้บนยอดเขาเวหาอมตะในตอนนี้มีผู้ชมมากมาย จะห้ามผู้แข็งแกร่งขั้นหนึ่งอย่างฉิงเย้ลงมือไม่ได้ ดังนั้น เวลากระชันชิดอย่างมาก !

จะสู้ก็สู้ ชู่มู่ไม่ชอบพูดเยอะอยู่แล้ว

ในตอนนี้ ชู่มู่ได้ออกคำสั่งไปยังจั้นเย้โดยตรง !!!

“ฮู ฮู ฮู !!!”

ตอนที่จั้นเย้วิ่งเต็มแรงมีลมแห่งความมืดอย่างหนึ่ง ตีบนตัวดวงวิญญาณของเจียงอี้เถิงกับซิงหยาง

เป้าหมายโจมตีของจั้นเย้คือ มารนิรยขาวลักษณะเก้าขั้นสูงของเจียงอี้เถิง !

“ซัวะ !!!”

กริดสีดำนี้พาดผ่าน ก่อเป็นประกายแสงงดงามที่เหมือนเสี้ยวพระจันทร์ สาดส่องกลางยอดเขา !

และการโจมตีนี้ กลายเป็นการจุดประกายต่อสู้แห่งการประลองบนยอดเขาเวหาอมตะแห่งนี้ เกิดเป็นบรรยากาศแห่งการต่อสู้ทันที

“ชู่เฉิงได้เริ่มโจมตีก่อน !!! สู้กับผู้แข็งแกร่งลำดับที่หนึ่งและสองของวังมารนิรย เจ้าชู่เฉิงนี้บ้าคลั่งจริง สมแล้วที่เป็นคนของตำหนักวิญญาณพวกเรา !!!”

การต่อสู้ครั้งนี้ ไม่ว่าชู่มู่จะชนะหรือไม่ อย่างน้อยความกล้าที่จะท้าทายวังมารนิรยแบบนั้น ก็เพียงพอที่จะทำให้สมาชิกตำหนักวิญญาณทั้งหมดฮึกเหิม !!!

วินาทีนี้ คนทั้งหมดจับจ้องไปยังยอดเขา หวังว่าผู้แข็งแกร่งตำหนักวิญญาณที่ซ่อนความสามารถอย่างมิดชิด ชนะหลู่ซานหลีและนักโทษขั้นเก้าคนนี้จะกู้หน้าให้ตำหนักวิญญาณได้ !!!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด