กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ 23 : ติดตามและเผชิญหน้า

Now you are reading กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ Chapter 23 : ติดตามและเผชิญหน้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Chapter 23 : ติดตามและเผชิญหน้า

 

หลังจากพลิกดูรายการภารกิจระดับ A ไปหลายหน้า ชื่อภารกิจหนึ่งก็ดึงดูดสายตาของ คุโรโตะ

 

ภารกิจนั้นคือ “ปราบปรามนินจาพเนจรใน แคว้นแห่งไฟ…”

 

การต่อสู้ระหว่างนินจาเป็นเรื่องธรรมดาของภารกิจระดับ A แต่ก็มีสิ่งที่ คุโรโตะ ต้องตระหนักไว้ 3 อย่างก่อนที่จะเลือกภารกิจ

 

อย่างแรกคือระยะทางไปยังที่ตั้งของภารกิจไม่ควรไกลเกินไป เพราะหากสถานที่นั้นอยู่ไกลเกินไป โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางก็จะมากขึ้น เพราะ มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 เพิ่งจะจบไปได้ไม่นาน ก็คงไม่แปลกที่การเดินทางจะได้พบกันนินจาถอนตัวอย่าง ซาโซริ หรือนินจาถอนตัวระดับ S จากหมู่บ้านอื่น ๆ ที่อาจทําไปสู่การต่อสู้ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

 

อย่างที่ 2 คือเป้าหมายของภารกิจ นั่นคือศัตรูที่เขาจะต้องต่อสู้/ปราบปราม/ฆ่า ไม่ควรแข็งแกร่งเกินไป

 

และอย่างสุดท้ายก็คือ เบื้องหลังของศัตรูไม่ควรซับซ้อนเกินไป ด้วยสถานการณ์ของ คุโรโตะ ในตอนนี้ เขาไม่ต้องการสร้างศัตรูเพิ่มอีกดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการดึงดูดความเกลียดชังของใครโดยที่มี ซาโซริ ตามล่าเขาอยู่

 

เนื่องจากภารกิจ “ปราบปรามนินจาพเนจรใน แคว้นแห่งไฟ” เป็นไปตามเงื่อนไขทั้ง 3 อย่างที่ คุโรโตะ ตั้งไว้ ดังนั้นจึงเป็นภารกิจที่เขาคิดว่าเหมาะสมที่สุดที่จะทํา

 

หลังจากตัดสินใจแล้ว คุโรโตะ ก็ส่งรายละเอียดภารกิจให้ไก ที่ดูกระตือรือร้นเพื่อดูว่าวัตถุประสงค์ของภารกิจคืออะไร จากนั้น คุโรโตะ ก็ถาม ไก ว่า “นายว่าภารกิจนี้เป็นไง?”

 

ขณะที่ ไก รับรายละเอียดภารกิจไปและอ่านอย่างรวดเร็ว เขาก็ตอบในที่สุดว่า “ฉันไม่มีปัญหา

 

“ถ้างั้นเราทําภารกิจนี้ก็แล้วกัน” คุโรโตะ พูด

 

“อืม…” ไก ก็เห็นด้วย

 

หลังจากตกลงกันเสร็จ คุโรโตะ ก็รับภารกิจจากเจ้าหน้าที่และในที่สุด จูนิน ทั้ง 2 ก็ออกเดินทางไปยังสถานที่ที่กําหนดทันที

 

ระหว่างทาง คุโรโตะ วิเคราะห์ข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลที่เขาได้รับเพิ่มเติมตอนที่เขาลงทะเบียนรับภารกิจกับเจ้าหน้าที่

 

ผู้ที่มอบหมายภารกิจคือ ไดเมียวของแคว้นแห่งไฟ

 

เมื่อเร็วๆ นี้ มีกลุ่มนินจาพเนจรโจมตีหมู่บ้านต่าง ๆ ในแคว้นแห่งไฟ อย่างต่อเนื่อง ทําให้เกิดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเป็นอย่างมาก ตามรายงานข่าวกรอง มีนินจาพเนจรอยู่ประมาณ 5 ถึง 7 คน ซึ่งถูกสงสัยว่าถอนตัวออกมาจาก หมู่บ้านคิริ ความแข็งแกร่งของพวกเขาอยู่ในระดับ จูนิน และวิธีการของพวกมันช่างโหดร้ายจริง ๆ

 

เนื่องจาก มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 ทําให้จํานวนนินจาถอนตัวก็เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก เรื่องนี้เกิดขึ้นกับทุกหมู่บ้านไม่เว้น โคโนฮะ และโดยปกติแล้วนินจาถอนตัวเหล่านี้จะสร้างฐานปฏิบัติการอยู่ในแคว้นเล็ก ๆ ที่ไม่มีหมู่บ้านนินจาเพื่อหลีกเลี่ยงการดึงดูดความสนใจจากหมู่บ้านใหญ่ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่กับสถานการณ์นี้ นินจาพเนจรเหล่านี้ได้โจมตีหมู่บ้านใน แคว้นแห่งไฟ อย่างโจ่งแจ้ง ข้อเท็จจริงนี้เพียงอย่างเดียวแสดงให้เห็นว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นที่นั้น

 

“ศัตรูกล้าโจมตีและปล้นหมู่บ้านใน แคว้นแห่งไฟ อย่างเปิดเผย ก็หมายความว่าศัตรูที่เราต้องเจอไม่อ่อนแออย่างแน่นอน ระวังอย่าใช้พวกเขารู้ตัวและอย่าประมาท!” คุโรโตะ เตือน ไก ถึงความจริงจังของภารกิจนี้

 

ไก ก็พยักหน้าอย่างจริงจังเมื่อได้ยินคําพูดของ คุโรโตะ

 

เมื่อมองไปที่ปฏิกิริยาของ ไก คุโรโตะ ก็สังเกตได้ว่า ไก ดูประหม่าเล็กน้อย คุโรโตะ จึงตัดสินใจพูดให้เขาหายกังวลเล็กน้อย “ไม่ต้องกังวลไป ถึงฉันจะบอกว่าภารกิจนี้ไม่ใช่ภารกิจที่ง่าย แต่ก็นั่นแหละ มันก็ใช้ว่าเราจะทําไม่ได้ตราบใดที่เราไม่ทําอะไรโง่ ๆ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”

 

เมื่อได้ฟังคําพูดของ คุโรโตะ ไก ก็กําหมัดแน่นและพูดด้วยความกระฉับกระเฉง “ฉันไม่กลัวพวกมันหรอก!”

 

คุโรโตะ แค่ยิ้มให้กับท่าทางของ ไก จากนั้นทั้ง 2 ก็เดินทางต่อ

 

ไม่กี่วันต่อมา

 

คุโรโตะ และ ไก เดินทางมาถึงหมู่บ้านที่เพิ่งถูกโจมตีเมื่อไม่นานนี้

 

จากสภาพหมู่บ้านก็เดาได้ไม่ยากว่าโดนโจมตีไปไม่นาน

 

ดูเหมือนทั้งหมู่บ้านจะเต็มไปด้วยซากศพทั่วทุกแห่ง กลิ่นเหม็นของเลือดที่โชยมาในอากาศ และก็มีเสียงร้องคร่ำครวญของผู้รอดชีวิตไม่กี่คนในหมู่บ้าน

 

ทันทีที่ คุโรโตะ และ ไก มาถึงหมู่บ้าน ทั้งคู่ก็ต้องตกใจเมื่อได้เห็นสภาพที่น่าสยดสยองในหมู่บ้านนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาได้ไปเยือนสถานที่ที่มีสถานการณ์เลวร้ายเช่นนี้ แต่ภาพนี้นี่ก็น่าหนักใจไม่แพ้กับสงครามแม้ว่าสงครามจะจบยุติลงไปแล้วก็ตาม นี่เป็นเพียงการแสดงให้เห็นถึงความทุกข์ทรมานของคนทั่วไปที่อยู่ในโลกนินจา

 

หลังจากมาถึงหมู่บ้านแล้ว คุโรโตะ ก็มาหาผู้รอดชีวิตและถามว่า “พวกเราคือนินจาจาก โคโนฮะ ท่านช่วยอธิบายให้เราฟังได้ไหมว่าใครเป็นคนโจมตีหมู่บ้านนี้”

 

สีหน้าของผู้รอดชีวิตค่อนข้างจืดชืด ในขณะที่เขาจ้องมอง คุโรโตะ ด้วยอาการมึนงง และในที่สุดเขาก็ตอบว่า “ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร! พวกเขาเอาแต่ฆ่า ฆ่า ฆ่า แล้วก็ฆ่า จากนั้น..พวกเขาก็จากไป…พวกเขาจากไปหลังจากที่พวกเขาคิดว่าฆ่าพวกเราหมดแล้ว” เขาเริ่มร้องไห้และพูดไม่เป็นประโยค

 

เมื่อเห็นโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นในหมู่บ้านแห่งนี้ แม้ คุโรโตะ จะตกใจ แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น จากนั้นเขาก็ถามอย่างใจเย็นว่า “พวกมันมาทั้งหมดกี่คน? แล้วพวกเขาจากไปตั้งแต่เมื่อไร? แล้วพวกเขาหนีไปทางไหน?”

 

เมื่อ คุโรโตะ ตั้งคําถามเพิ่มเติม ผู้รอดชีวิตก็ชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง “ฉัน…ฉันไม่รู้ว่าพวกมันมีกี่คน แต่พวกมันไปทางนั้น! เมื่อประมาณ 2 ชั่วโมงที่แล้วแล้ว”

 

คุโรโตะ จ้องไปยังทิศทางที่ผู้รอดชีวิตชี้ จากนั้นเขาก็พูดอย่างเย็นชาว่า “เราจะไล่ตามไป!”

 

ไก ซึ่งอยู่ตรงข้าม คุโรโตะ เต็มไปด้วยสีหน้าของความโกรธแค้น เขาพยักหน้าอย่างรุนแรง “อื้ม!!”

 

สําหรับ สมาชิกตระกูลฮิวงะ การตามรอยเป็นเรื่องพื้นฐานที่พวกเขาทําได้ สมาชิกตระกูลฮิวงะ ทุกคนที่เคยไปที่สนามรบล้วนแล้วแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตามรอยไม่เว้นแต่ คุโรโตะ ดังนั้นเขาจึงพบร่องรอยที่ศัตรูทั้งไว้อย่างรวดเร็ว

 

หลังจากเดินตามรอยไปซักพัก จูนิน ทั้ง 2 ก็มาถึงหน้าบึงแห่งหนึ่ง

 

รอยเท้ายังเหลืออยู่ เมื่อตรวจสอบแล้วเขาก็สรูปได้ว่า “ข้อมูลเป็นไปตามเป้าหมายภารกิจ ศัตรูน่าจะมีกันประมาณ 5 คน และถ้าพวกเขาจงใจไม่ซ่อนร่องรอยแบบนี้ก็แสดงว่าพวกเขามั่นใจในความแข็งแกร่งของพวกเขามาก หรือไม่พวกเขาก็กําลังรีบร้อนมาก”

 

เมื่อฟังข้อสรุปของ คุโรโตะ ไก ก็พูดอย่างกังวลใจว่า “แล้วเราจะรออะไรล่ะ? รีบตามพวกมันไปกันเถอะ!”

 

อย่างไรก็ตาม คุโรโตะ ก็สายหัวและชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล “อย่ารีบร้อน ลองดูมอสบนต้นไม้นั่นสิ!”

 

ไก มองไปยังทิศทางที่ คุโรโตะ ชี้ไปและสังเกตเห็นรอยเท้าครึ่งหนึ่งที่เหลืออยู่บนตะไคร่น้ำที่เกาะอยู่บนเปลือกของต้นไม้ใหญ่ ไก สงสัยว่า “ทําไมถึงมีรอยเท้าอยู่ตรงนั้นล่ะ? หมายความว่ามีคนอื่นกําลังไล่ตามพวกมันอยู่เห รอ?”

 

เห็นได้ชัดว่ารอยเท้าในบึงกับรอยเท้าบนต้นไม้ไม่ใช่ของนินจากลุ่มเดียวกัน ถ้าหากรอยเท้าในบึงเป็นของกลุ่มนินจาพเนจร รอยเท้าบนต้นไม้นั้นก็น่าจะเป็นของนินจาคนอื่น

 

“อืม เป็นไปได้มากเลยทีเดียว เราเป็นทีมที่รับทําภารกิจนี้ ดังนั้น โคโนฮะ จึงไม่น่าส่งใครมาเพิ่ม ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือ กลุ่มนินจาที่ตามไล่กลุ่มนินจาพเนจรอยู่ น่าจะเป็นนินจาของ หมู่บ้านคิริ”

 

ไม่มีอะไรยืนยันคําอธิบายของ คุโรโตะ แต่ที่เขาคิดแบบนั้นก็เพราะจากรายงานภารกิจ นินจาถอนตัวเหล่านี้น่าจะมาจาก หมู่บ้านคิริ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ คิริ จะส่งนินจาไล่ล่าพวกเขา

 

เนื่องจากตอนนี้ภารกิจนี้เกี่ยวข้องกับหมู่บ้านใหญ่แห่งอื่น ดังนั้น ไก จึงสับสนว่าต้องทําอย่างไร “แล้วเราควรทําอย่างไรดีล่ะ?”

 

คุโรโตะ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงตอบอย่างหนักแน่นว่า “ทุกสิ่งที่ขัดขวางไม่ให้เราทําภารกิจให้สําเร็จ เราจะถือว่ามันเป็นศัตรู!”

 

“แต่ ”

 

“รีบตามพวกมันไปกันเถอะ”

 

หลังจากตามรอยไปได้ซักพัก ในที่สุด คุโรโตะ และ ไก ก็ตามทั้ง 2 ฝ่ายทัน

 

อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ต้องซ่อนตัวเพราะนินจา 2 ฝ่ายกําลังเผชิญหน้ากันอยู่

 

ฝ่ายนินจาพเนจร พวกเขามีกัน 4 คน พวกเขาสวมหน้ากากและแต่งตัวด้วยเครื่องแต่งกายของหน่วยลับ มีเพียงหัวหน้าของพวกเขาคนเดียวเท่านั้นที่ไม่สวมหน้ากาก แต่เขาใช้ผ้าพันแผลพันส่วนล่างของใบหน้าแทน จากรูปร่างและรูปลักษณ์ของเขาแล้ว คุโรโตะ ก็จําได้ว่าเขาก็คือ โมโมจิ ซาบุสะ

 

อีกด้านหนึ่งมีเพียง 2 คนเท่านั้นและทั้ง 2 เป็นหน่วยลับของ โคโนฮะ หนึ่งในนั้นยังเด็กและมีผมสีขาวเงิน แม้ว่าเขาจะสวมหน้ากากสุนัขจิ้งจอก แต่ คุโรโตะ ก็จําได้ว่าเขาคือนินจาอัจฉริยะในรุ่นเดียวกับเขาที่ชื่อว่า ฮาตาเคะ คาคาชิ นั้นเอง

 

ทั้ง 2 ฝ่ายต่างแสดงจิตสังหารออกมาอย่างเต็มที่และพร้อมที่จะพุ่งเข้าต่อสู้กันทุกเมื่อ

 

อย่างไรก็ตามการซ่อนตัวของ คุโรโตะ และ ไก ก็ไม่สามารถรอดพ้นจากสัมผัสของ ซาบุสะ ได้ เมื่อ ซาบุสะ เห็นว่า นินจาโคโนฮะ มีพวกมาเพิ่ม เขาก็ดึงดาบยาวที่อยู่บนหลังออกมา ราวกับว่าเขากําลังจะเริ่มการโจมตี

 

ขณะยืนอยู่บนกิ่งไม้ คุโรโตะ ก็เหลือบมองไปที่ นินจาคิริ และด้วยท่าเท้าเอว เขาพูดด้วยท่าทางหยิ่งยโสและดูถูกอีกฝ่ายว่า “หยุดเดี๋ยวนี้!”

 

ซาบุสะ ที่ได้ยินการดูหมิ่นของ คุโรโตะ ก็แสดงสีหน้าโกรธจัดออกมา “แกอยากตายมากรึไงไอ่หนู?!”

 

คุโรโตะ ไม่ตอบ ซาบุสะ และสั่ง ไก เบา ๆ ว่า “ไก ไปสั่งสอนเขาว่าอย่ามายุ่งกับ นินจาโคโนฮะ”

 

และ ไก ที่คุ้นเคยกับการเชื่อฟังคําสั่งของ คุโรโตะ มาตลอดทาง เขาก็ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็น นินจาคิริ หรือไม่ แต่เมื่อ คุโรโตะ สั่งมา เขาก็ตะโกนตอบรับและรีบวิ่งเข้าหา ซาบุสะ ทันที

 

ทั้ง หน่วยลับคิริ และ หน่วยลับโคโนฮะ ต่างตกตะลึงกับพฤติกรรมที่เย่อหยิ่งที่ คุโรโตะ และ ไก แสดงออกมา แต่พวกเขาก็เป็นนินจาที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดี ดังนั้นพวกเขาจึงหลีกทางให้ ซาบุสะ และ ไก ได้ต่อสู้กันแบบตัวต่อตัว

 

ในฐานะนินจาที่เชี่ยวชาญในการต่อสู้โดยใช้กระบวนท่า ไก จึงเข้าประชิดตัวศัตรูและไม่ปล่อยให้คู่ต่อสู้มีโอกาสใช้คาถานินจา

 

อย่างไรก็ตาม ซาบุสะ ก็ไม่ใช่ศัตรูธรรมดา ดูเหมือนว่าเขาจะมั่นใจในทักษะดาบของเขามาก ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวการต่อสู้ด้วยกระบวนท่าหรือการต่อสู้ด้วยอาวุธระยะประชิด

 

เสียงการต่อสู้แลกหมัดดังขึ้นทั่วบริเวณและอาวุธต่าง ๆ ก็กระเด็นไปรอบ ๆ!

 

ในเวลานี้ โมโมจิ ซาบุสะ เป็นนินจาที่มีชื่อเสียงของ หมู่บ้านคิริ แม้ว่าตอนนี้เขายังไม่ได้เป็นหนึ่งใน กลุ่ม 7 ดาบนินจาในตํานานแห่งคิริ แต่เขาก็เป็นนินจาที่เก่งที่สุดในนินจารุ่นเดียวกัน ดังนั้นการเคลื่อนไหวทั้งหมดของเขาจึงเฉียบแหลม และอันตรายเป็นอย่างมาก

 

ส่วน ไมโตะ ไก เขากําลังอยู่ในช่วงของการเติบโตอย่างรวดเร็วในด้านความแข็งแกร่งและความเร็ว ดังนั้นความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากในทุกวัน และตอนนี้เขาก็ไม่ใช่เด็กหลังห้องคนเดิมกับตอนที่อยู่ในโรงเรียนนินจาอีกต่อไป

 

การต่อสู้ของทั้ง 2 รุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ และระยะการเคลื่อนไหวของพวกเขาก็ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ทําให้ หน่วยลับคิริ 2 คนที่เฝ้าดูอยู่ต้องถอยห่างออกไป

 

ไม่นานหลังจากนั้น ลูกเตะของ ไก ก็พุ่งตรงไปที่ใบหน้าของ ซาบุสะ แต่ ซาบุสะ ก็ยกดาบของเขาขึ้นและป้องกันเอาไว้ได้ทัน หลังจากการปะทะกันครั้งนี้ ทั้งคู่ก็กระโดดออกห่างจากกัน และยืนตั้งท่าเตรียมพร้อม…และทั้งสนามรบก็ตกอยู่ในความเงียบ…

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ 23 : ติดตามและเผชิญหน้า

Now you are reading กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ Chapter 23 : ติดตามและเผชิญหน้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Chapter 23 : ติดตามและเผชิญหน้า

 

หลังจากพลิกดูรายการภารกิจระดับ A ไปหลายหน้า ชื่อภารกิจหนึ่งก็ดึงดูดสายตาของ คุโรโตะ

 

ภารกิจนั้นคือ “ปราบปรามนินจาพเนจรใน แคว้นแห่งไฟ…”

 

การต่อสู้ระหว่างนินจาเป็นเรื่องธรรมดาของภารกิจระดับ A แต่ก็มีสิ่งที่ คุโรโตะ ต้องตระหนักไว้ 3 อย่างก่อนที่จะเลือกภารกิจ

 

อย่างแรกคือระยะทางไปยังที่ตั้งของภารกิจไม่ควรไกลเกินไป เพราะหากสถานที่นั้นอยู่ไกลเกินไป โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางก็จะมากขึ้น เพราะ มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 เพิ่งจะจบไปได้ไม่นาน ก็คงไม่แปลกที่การเดินทางจะได้พบกันนินจาถอนตัวอย่าง ซาโซริ หรือนินจาถอนตัวระดับ S จากหมู่บ้านอื่น ๆ ที่อาจทําไปสู่การต่อสู้ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

 

อย่างที่ 2 คือเป้าหมายของภารกิจ นั่นคือศัตรูที่เขาจะต้องต่อสู้/ปราบปราม/ฆ่า ไม่ควรแข็งแกร่งเกินไป

 

และอย่างสุดท้ายก็คือ เบื้องหลังของศัตรูไม่ควรซับซ้อนเกินไป ด้วยสถานการณ์ของ คุโรโตะ ในตอนนี้ เขาไม่ต้องการสร้างศัตรูเพิ่มอีกดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการดึงดูดความเกลียดชังของใครโดยที่มี ซาโซริ ตามล่าเขาอยู่

 

เนื่องจากภารกิจ “ปราบปรามนินจาพเนจรใน แคว้นแห่งไฟ” เป็นไปตามเงื่อนไขทั้ง 3 อย่างที่ คุโรโตะ ตั้งไว้ ดังนั้นจึงเป็นภารกิจที่เขาคิดว่าเหมาะสมที่สุดที่จะทํา

 

หลังจากตัดสินใจแล้ว คุโรโตะ ก็ส่งรายละเอียดภารกิจให้ไก ที่ดูกระตือรือร้นเพื่อดูว่าวัตถุประสงค์ของภารกิจคืออะไร จากนั้น คุโรโตะ ก็ถาม ไก ว่า “นายว่าภารกิจนี้เป็นไง?”

 

ขณะที่ ไก รับรายละเอียดภารกิจไปและอ่านอย่างรวดเร็ว เขาก็ตอบในที่สุดว่า “ฉันไม่มีปัญหา

 

“ถ้างั้นเราทําภารกิจนี้ก็แล้วกัน” คุโรโตะ พูด

 

“อืม…” ไก ก็เห็นด้วย

 

หลังจากตกลงกันเสร็จ คุโรโตะ ก็รับภารกิจจากเจ้าหน้าที่และในที่สุด จูนิน ทั้ง 2 ก็ออกเดินทางไปยังสถานที่ที่กําหนดทันที

 

ระหว่างทาง คุโรโตะ วิเคราะห์ข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลที่เขาได้รับเพิ่มเติมตอนที่เขาลงทะเบียนรับภารกิจกับเจ้าหน้าที่

 

ผู้ที่มอบหมายภารกิจคือ ไดเมียวของแคว้นแห่งไฟ

 

เมื่อเร็วๆ นี้ มีกลุ่มนินจาพเนจรโจมตีหมู่บ้านต่าง ๆ ในแคว้นแห่งไฟ อย่างต่อเนื่อง ทําให้เกิดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเป็นอย่างมาก ตามรายงานข่าวกรอง มีนินจาพเนจรอยู่ประมาณ 5 ถึง 7 คน ซึ่งถูกสงสัยว่าถอนตัวออกมาจาก หมู่บ้านคิริ ความแข็งแกร่งของพวกเขาอยู่ในระดับ จูนิน และวิธีการของพวกมันช่างโหดร้ายจริง ๆ

 

เนื่องจาก มหาสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3 ทําให้จํานวนนินจาถอนตัวก็เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก เรื่องนี้เกิดขึ้นกับทุกหมู่บ้านไม่เว้น โคโนฮะ และโดยปกติแล้วนินจาถอนตัวเหล่านี้จะสร้างฐานปฏิบัติการอยู่ในแคว้นเล็ก ๆ ที่ไม่มีหมู่บ้านนินจาเพื่อหลีกเลี่ยงการดึงดูดความสนใจจากหมู่บ้านใหญ่ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่กับสถานการณ์นี้ นินจาพเนจรเหล่านี้ได้โจมตีหมู่บ้านใน แคว้นแห่งไฟ อย่างโจ่งแจ้ง ข้อเท็จจริงนี้เพียงอย่างเดียวแสดงให้เห็นว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นที่นั้น

 

“ศัตรูกล้าโจมตีและปล้นหมู่บ้านใน แคว้นแห่งไฟ อย่างเปิดเผย ก็หมายความว่าศัตรูที่เราต้องเจอไม่อ่อนแออย่างแน่นอน ระวังอย่าใช้พวกเขารู้ตัวและอย่าประมาท!” คุโรโตะ เตือน ไก ถึงความจริงจังของภารกิจนี้

 

ไก ก็พยักหน้าอย่างจริงจังเมื่อได้ยินคําพูดของ คุโรโตะ

 

เมื่อมองไปที่ปฏิกิริยาของ ไก คุโรโตะ ก็สังเกตได้ว่า ไก ดูประหม่าเล็กน้อย คุโรโตะ จึงตัดสินใจพูดให้เขาหายกังวลเล็กน้อย “ไม่ต้องกังวลไป ถึงฉันจะบอกว่าภารกิจนี้ไม่ใช่ภารกิจที่ง่าย แต่ก็นั่นแหละ มันก็ใช้ว่าเราจะทําไม่ได้ตราบใดที่เราไม่ทําอะไรโง่ ๆ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”

 

เมื่อได้ฟังคําพูดของ คุโรโตะ ไก ก็กําหมัดแน่นและพูดด้วยความกระฉับกระเฉง “ฉันไม่กลัวพวกมันหรอก!”

 

คุโรโตะ แค่ยิ้มให้กับท่าทางของ ไก จากนั้นทั้ง 2 ก็เดินทางต่อ

 

ไม่กี่วันต่อมา

 

คุโรโตะ และ ไก เดินทางมาถึงหมู่บ้านที่เพิ่งถูกโจมตีเมื่อไม่นานนี้

 

จากสภาพหมู่บ้านก็เดาได้ไม่ยากว่าโดนโจมตีไปไม่นาน

 

ดูเหมือนทั้งหมู่บ้านจะเต็มไปด้วยซากศพทั่วทุกแห่ง กลิ่นเหม็นของเลือดที่โชยมาในอากาศ และก็มีเสียงร้องคร่ำครวญของผู้รอดชีวิตไม่กี่คนในหมู่บ้าน

 

ทันทีที่ คุโรโตะ และ ไก มาถึงหมู่บ้าน ทั้งคู่ก็ต้องตกใจเมื่อได้เห็นสภาพที่น่าสยดสยองในหมู่บ้านนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาได้ไปเยือนสถานที่ที่มีสถานการณ์เลวร้ายเช่นนี้ แต่ภาพนี้นี่ก็น่าหนักใจไม่แพ้กับสงครามแม้ว่าสงครามจะจบยุติลงไปแล้วก็ตาม นี่เป็นเพียงการแสดงให้เห็นถึงความทุกข์ทรมานของคนทั่วไปที่อยู่ในโลกนินจา

 

หลังจากมาถึงหมู่บ้านแล้ว คุโรโตะ ก็มาหาผู้รอดชีวิตและถามว่า “พวกเราคือนินจาจาก โคโนฮะ ท่านช่วยอธิบายให้เราฟังได้ไหมว่าใครเป็นคนโจมตีหมู่บ้านนี้”

 

สีหน้าของผู้รอดชีวิตค่อนข้างจืดชืด ในขณะที่เขาจ้องมอง คุโรโตะ ด้วยอาการมึนงง และในที่สุดเขาก็ตอบว่า “ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร! พวกเขาเอาแต่ฆ่า ฆ่า ฆ่า แล้วก็ฆ่า จากนั้น..พวกเขาก็จากไป…พวกเขาจากไปหลังจากที่พวกเขาคิดว่าฆ่าพวกเราหมดแล้ว” เขาเริ่มร้องไห้และพูดไม่เป็นประโยค

 

เมื่อเห็นโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นในหมู่บ้านแห่งนี้ แม้ คุโรโตะ จะตกใจ แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น จากนั้นเขาก็ถามอย่างใจเย็นว่า “พวกมันมาทั้งหมดกี่คน? แล้วพวกเขาจากไปตั้งแต่เมื่อไร? แล้วพวกเขาหนีไปทางไหน?”

 

เมื่อ คุโรโตะ ตั้งคําถามเพิ่มเติม ผู้รอดชีวิตก็ชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง “ฉัน…ฉันไม่รู้ว่าพวกมันมีกี่คน แต่พวกมันไปทางนั้น! เมื่อประมาณ 2 ชั่วโมงที่แล้วแล้ว”

 

คุโรโตะ จ้องไปยังทิศทางที่ผู้รอดชีวิตชี้ จากนั้นเขาก็พูดอย่างเย็นชาว่า “เราจะไล่ตามไป!”

 

ไก ซึ่งอยู่ตรงข้าม คุโรโตะ เต็มไปด้วยสีหน้าของความโกรธแค้น เขาพยักหน้าอย่างรุนแรง “อื้ม!!”

 

สําหรับ สมาชิกตระกูลฮิวงะ การตามรอยเป็นเรื่องพื้นฐานที่พวกเขาทําได้ สมาชิกตระกูลฮิวงะ ทุกคนที่เคยไปที่สนามรบล้วนแล้วแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตามรอยไม่เว้นแต่ คุโรโตะ ดังนั้นเขาจึงพบร่องรอยที่ศัตรูทั้งไว้อย่างรวดเร็ว

 

หลังจากเดินตามรอยไปซักพัก จูนิน ทั้ง 2 ก็มาถึงหน้าบึงแห่งหนึ่ง

 

รอยเท้ายังเหลืออยู่ เมื่อตรวจสอบแล้วเขาก็สรูปได้ว่า “ข้อมูลเป็นไปตามเป้าหมายภารกิจ ศัตรูน่าจะมีกันประมาณ 5 คน และถ้าพวกเขาจงใจไม่ซ่อนร่องรอยแบบนี้ก็แสดงว่าพวกเขามั่นใจในความแข็งแกร่งของพวกเขามาก หรือไม่พวกเขาก็กําลังรีบร้อนมาก”

 

เมื่อฟังข้อสรุปของ คุโรโตะ ไก ก็พูดอย่างกังวลใจว่า “แล้วเราจะรออะไรล่ะ? รีบตามพวกมันไปกันเถอะ!”

 

อย่างไรก็ตาม คุโรโตะ ก็สายหัวและชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล “อย่ารีบร้อน ลองดูมอสบนต้นไม้นั่นสิ!”

 

ไก มองไปยังทิศทางที่ คุโรโตะ ชี้ไปและสังเกตเห็นรอยเท้าครึ่งหนึ่งที่เหลืออยู่บนตะไคร่น้ำที่เกาะอยู่บนเปลือกของต้นไม้ใหญ่ ไก สงสัยว่า “ทําไมถึงมีรอยเท้าอยู่ตรงนั้นล่ะ? หมายความว่ามีคนอื่นกําลังไล่ตามพวกมันอยู่เห รอ?”

 

เห็นได้ชัดว่ารอยเท้าในบึงกับรอยเท้าบนต้นไม้ไม่ใช่ของนินจากลุ่มเดียวกัน ถ้าหากรอยเท้าในบึงเป็นของกลุ่มนินจาพเนจร รอยเท้าบนต้นไม้นั้นก็น่าจะเป็นของนินจาคนอื่น

 

“อืม เป็นไปได้มากเลยทีเดียว เราเป็นทีมที่รับทําภารกิจนี้ ดังนั้น โคโนฮะ จึงไม่น่าส่งใครมาเพิ่ม ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือ กลุ่มนินจาที่ตามไล่กลุ่มนินจาพเนจรอยู่ น่าจะเป็นนินจาของ หมู่บ้านคิริ”

 

ไม่มีอะไรยืนยันคําอธิบายของ คุโรโตะ แต่ที่เขาคิดแบบนั้นก็เพราะจากรายงานภารกิจ นินจาถอนตัวเหล่านี้น่าจะมาจาก หมู่บ้านคิริ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ คิริ จะส่งนินจาไล่ล่าพวกเขา

 

เนื่องจากตอนนี้ภารกิจนี้เกี่ยวข้องกับหมู่บ้านใหญ่แห่งอื่น ดังนั้น ไก จึงสับสนว่าต้องทําอย่างไร “แล้วเราควรทําอย่างไรดีล่ะ?”

 

คุโรโตะ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงตอบอย่างหนักแน่นว่า “ทุกสิ่งที่ขัดขวางไม่ให้เราทําภารกิจให้สําเร็จ เราจะถือว่ามันเป็นศัตรู!”

 

“แต่ ”

 

“รีบตามพวกมันไปกันเถอะ”

 

หลังจากตามรอยไปได้ซักพัก ในที่สุด คุโรโตะ และ ไก ก็ตามทั้ง 2 ฝ่ายทัน

 

อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ต้องซ่อนตัวเพราะนินจา 2 ฝ่ายกําลังเผชิญหน้ากันอยู่

 

ฝ่ายนินจาพเนจร พวกเขามีกัน 4 คน พวกเขาสวมหน้ากากและแต่งตัวด้วยเครื่องแต่งกายของหน่วยลับ มีเพียงหัวหน้าของพวกเขาคนเดียวเท่านั้นที่ไม่สวมหน้ากาก แต่เขาใช้ผ้าพันแผลพันส่วนล่างของใบหน้าแทน จากรูปร่างและรูปลักษณ์ของเขาแล้ว คุโรโตะ ก็จําได้ว่าเขาก็คือ โมโมจิ ซาบุสะ

 

อีกด้านหนึ่งมีเพียง 2 คนเท่านั้นและทั้ง 2 เป็นหน่วยลับของ โคโนฮะ หนึ่งในนั้นยังเด็กและมีผมสีขาวเงิน แม้ว่าเขาจะสวมหน้ากากสุนัขจิ้งจอก แต่ คุโรโตะ ก็จําได้ว่าเขาคือนินจาอัจฉริยะในรุ่นเดียวกับเขาที่ชื่อว่า ฮาตาเคะ คาคาชิ นั้นเอง

 

ทั้ง 2 ฝ่ายต่างแสดงจิตสังหารออกมาอย่างเต็มที่และพร้อมที่จะพุ่งเข้าต่อสู้กันทุกเมื่อ

 

อย่างไรก็ตามการซ่อนตัวของ คุโรโตะ และ ไก ก็ไม่สามารถรอดพ้นจากสัมผัสของ ซาบุสะ ได้ เมื่อ ซาบุสะ เห็นว่า นินจาโคโนฮะ มีพวกมาเพิ่ม เขาก็ดึงดาบยาวที่อยู่บนหลังออกมา ราวกับว่าเขากําลังจะเริ่มการโจมตี

 

ขณะยืนอยู่บนกิ่งไม้ คุโรโตะ ก็เหลือบมองไปที่ นินจาคิริ และด้วยท่าเท้าเอว เขาพูดด้วยท่าทางหยิ่งยโสและดูถูกอีกฝ่ายว่า “หยุดเดี๋ยวนี้!”

 

ซาบุสะ ที่ได้ยินการดูหมิ่นของ คุโรโตะ ก็แสดงสีหน้าโกรธจัดออกมา “แกอยากตายมากรึไงไอ่หนู?!”

 

คุโรโตะ ไม่ตอบ ซาบุสะ และสั่ง ไก เบา ๆ ว่า “ไก ไปสั่งสอนเขาว่าอย่ามายุ่งกับ นินจาโคโนฮะ”

 

และ ไก ที่คุ้นเคยกับการเชื่อฟังคําสั่งของ คุโรโตะ มาตลอดทาง เขาก็ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็น นินจาคิริ หรือไม่ แต่เมื่อ คุโรโตะ สั่งมา เขาก็ตะโกนตอบรับและรีบวิ่งเข้าหา ซาบุสะ ทันที

 

ทั้ง หน่วยลับคิริ และ หน่วยลับโคโนฮะ ต่างตกตะลึงกับพฤติกรรมที่เย่อหยิ่งที่ คุโรโตะ และ ไก แสดงออกมา แต่พวกเขาก็เป็นนินจาที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดี ดังนั้นพวกเขาจึงหลีกทางให้ ซาบุสะ และ ไก ได้ต่อสู้กันแบบตัวต่อตัว

 

ในฐานะนินจาที่เชี่ยวชาญในการต่อสู้โดยใช้กระบวนท่า ไก จึงเข้าประชิดตัวศัตรูและไม่ปล่อยให้คู่ต่อสู้มีโอกาสใช้คาถานินจา

 

อย่างไรก็ตาม ซาบุสะ ก็ไม่ใช่ศัตรูธรรมดา ดูเหมือนว่าเขาจะมั่นใจในทักษะดาบของเขามาก ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวการต่อสู้ด้วยกระบวนท่าหรือการต่อสู้ด้วยอาวุธระยะประชิด

 

เสียงการต่อสู้แลกหมัดดังขึ้นทั่วบริเวณและอาวุธต่าง ๆ ก็กระเด็นไปรอบ ๆ!

 

ในเวลานี้ โมโมจิ ซาบุสะ เป็นนินจาที่มีชื่อเสียงของ หมู่บ้านคิริ แม้ว่าตอนนี้เขายังไม่ได้เป็นหนึ่งใน กลุ่ม 7 ดาบนินจาในตํานานแห่งคิริ แต่เขาก็เป็นนินจาที่เก่งที่สุดในนินจารุ่นเดียวกัน ดังนั้นการเคลื่อนไหวทั้งหมดของเขาจึงเฉียบแหลม และอันตรายเป็นอย่างมาก

 

ส่วน ไมโตะ ไก เขากําลังอยู่ในช่วงของการเติบโตอย่างรวดเร็วในด้านความแข็งแกร่งและความเร็ว ดังนั้นความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากในทุกวัน และตอนนี้เขาก็ไม่ใช่เด็กหลังห้องคนเดิมกับตอนที่อยู่ในโรงเรียนนินจาอีกต่อไป

 

การต่อสู้ของทั้ง 2 รุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ และระยะการเคลื่อนไหวของพวกเขาก็ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ทําให้ หน่วยลับคิริ 2 คนที่เฝ้าดูอยู่ต้องถอยห่างออกไป

 

ไม่นานหลังจากนั้น ลูกเตะของ ไก ก็พุ่งตรงไปที่ใบหน้าของ ซาบุสะ แต่ ซาบุสะ ก็ยกดาบของเขาขึ้นและป้องกันเอาไว้ได้ทัน หลังจากการปะทะกันครั้งนี้ ทั้งคู่ก็กระโดดออกห่างจากกัน และยืนตั้งท่าเตรียมพร้อม…และทั้งสนามรบก็ตกอยู่ในความเงียบ…

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+