กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ 34 : เงื่อนไขของ โอโรจิมารุ

Now you are reading กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ Chapter 34 : เงื่อนไขของ โอโรจิมารุ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย กําเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ : Reborn into …

Chapter 34 : เงื่อนไขของ โอโรจิมารุ

คุโรโตะ อยากบอก โอโรจิมารุ เกี่ยวกับสายแร่มังกรและโมเรียว แต่หลังจากพิจารณาดูแล้วเขาคิดว่ามันคงยากที่จะอธิบายให้โอโรจิมารุฟังว่าเขารู้ข้อมูลลับเหล่านี้ได้อย่างไรคุโรโตะลังเลอยู่ครู่หนึ่งและในที่สุดเขาก็เลือกที่ จะไม่พูด

เมื่อมองไปที่โอโรจิมารุก็ดูเหมือนจะไม่สนใจสัตว์หางเทียมสักเท่าไร

แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะโอโรจิมารุไม่มีปัญหาเรื่องปริมาณจักระ

ผู้ที่เชี่ยวชาญในวิชาป้ายชีพอมตะและวิชาลับฟื้นฟูร่างกายและกําลังพัฒนาคาถาสัมภเวสีคืนชีพคงจะไม่มีปัญหาในเรื่องปริมาณจักระอย่างแน่นอน

หลังจากชั่งน้ำหนักข้อมูลทั้งหมดที่เขามีอยู่ในมือแล้วในที่สุดคุโรโตะก็ถามคําถามมูลค่าล้านเหรียญว่า“ท่านโอโรจิมารุบอกผมหน่อยได้ไหมครับว่าผมจะต้องแลกกับอะไรถ้าผมอยากรู้ข้อมูล เกี่ยวกับสัตว์หางเทียมที่ท่านรู้”
โอโรจิมารุ มองคุโรโตะด้วยความสนใจ “ฉันอยากรู้จังเลย คุโรโตะคุงทําไมเธอถึงหลงใหลกับสัตว์หางเทียมขนาดนั้นมีเหตุผลพิเศษอะไรที่อยากจะบอกฉันไหมใครจะรู้บางทีฉันอาจแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับการวิจัยให้เธอโดยที่เธอไม่ต้องจ่ายอะไรเลยก็ได้”

เห็นได้ชัดว่า คุโรโตะจะไม่เปิดเผยความตั้งใจที่แท้จริงของเขาอย่างแน่นอนกฎข้อแรกในการเจรจาคืออย่าเปิดเผยเจตนาที่แท้จริงของคุณเพียงเท่านี้คุณก็จะได้รับประโยชน์จากมัน

ดังนั้น คุโรโตะ จึงไม่ตอบโดยตรง แต่ ถามคําถามกลับไปว่า “ก็คงเหมือนกับที่ท่านหลงใหลในวิชาต้องห้ามแหละครับอย่างที่ท่านเคยพูดเราเหมือนกันมากกว่าที่คิดผมก็แค่อยากได้ข้อมูลในการวิ จัย มันก็แค่เรื่องที่ผมในใจ”

โอโรจิมารุ อดทนรอให้คุโรโตะพูดจบก่อนจึงพูดขึ้น “ถึงสิ่งที่เธอพูดจะเป็นความจริงแต่คําอธิบายของเธอก็ยังไม่เพียงพอที่จะโน้มน้าวใจฉันได้”หลังจาก

ส่ายหัวขณะจ้องมอง คุโรโตะ เขาก็ยิ้ม เล็กน้อย “ยังไงก็ตามฉันก็อยากเห็นว่าเธอจะสร้างสัตว์หางแบบไหนได้และเธอจะกลายเป็นอะไร! ดังนั้นครั้งนี้ฉันจะทําตามที่เธอขอ”

คุโรโตะ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้ยินโอโรจิมารุเห็นด้วย
อย่างไรก็ตาม โอโรจิมารุก็ยกนิ้วขึ้น 2 นิ้ว “ฉันจะให้ข้อมูลทั้งหมดกับเธอแต่มีเงื่อนไข 2 ข้อ”

“ได้เลยครับ!”

โอโรจิมารุยิ้มและพูดว่า “ข้อแรกฉันต้องการให้เธอแบ่งปันผลการวิจัยให้กับฉันข้อ 2 ฉันต้องการให้เธอรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกทั้งหมดของหน่วยลับรวมถึงข้อมูลองครักษ์ของตาแก่รุ่น 3 ด้วย”

น้ำเสียงของโอโรจิมารุในประโยคนี้ไม่เหมือนกับการบอกเงื่อนไขแต่เป็นการออกคําสั่งเห็นได้ชัดว่าคุโรโตะไม่มีทางเลือกอื่นหรือที่ว่างสําหรับการเจรจาดังนั้นเขาจึงพยักหน้าและตกลง

หลังจากพูดคุยกันอีกเล็กน้อยโอโรจิ มารุก็ลุกขึ้นและจากไป

ในคืนวันเดียวกัน คุโรโตะได้รับข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับสัตว์หางเทียมที่เก็บไว้ในม้วนปิดผนึกจากปากของงูพิษตาเดียว

เมื่อมองดูม้วนกระดาษในมือคุโรโตะก็สามารถอนุมานได้ว่า โอโรจิมารุได้ขโมยวิชาต้องห้ามและงานวิจัยส่วนใหญ่จากหอจดหมายเหตุออกมาก่อนที่จะหลบหนีออกจากหมู่บ้านไปและนี่อาจเป็นเหตุผลว่าทําไมเจ้าหน้าระดับสูงจึงทําการกวาดล้างผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ โอโรจิมารุ

เมื่อคลี่ม้วนคัมภีร์ที่บันทึกข้อมูลของสัตว์หางเทียมออกคุโรโตะก็เหลือบมองเล็กน้อยและขมวดคิ้ว

ความซับซ้อนของผลวิจัยและข้อมูลการทดลองเกี่ยวกับสัตว์หางเทียมนั้นเหนือความคาดหมายก่อนหน้านี้ทั้งหมด

การวิจัยระบุว่ามีวิชาสะกดที่ซับซ้อน มากกว่า 700 ชนิดที่

เกี่ยวข้องใน กระบวนการนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคาถา ผนึกที่ยากต่อการดําเนินการแม้แต่กับโจนินระดับงก็ตามสูง

นอกจากนี้ วัสดุที่ใช้สร้างแกนพลังของสัตว์หางเทียมก็ยังหาได้ยากมาก

ตามข้อมูล หมู่บ้านได้ทําการทดสอบโดยใช้วัสดุ 17 ชนิดที่แตกต่างกันซึ่งมีเพียงวัสดุเดียวคือดินเหนียวสีม่วงที่สามารถทนต่อปริมาณจักระอันมหาศาลได้

ดินเหนียวสีม่วง เป็นวัสดุพิเศษของ แคว้นนูมะ (แคว้นแห่งหนองน้ำ)มันเป็นดินเหนียวชนิดพิเศษที่พบในส่วนที่ลึกที่สุดของหนองน้ำ

เนื่องจากดินเหนียวสีม่วงนั้นยากต่ อการขุด ดังนั้นมันจึงค่อนข้างหายากด้วยเหตุนี้ราคาของมันในตลาดจึงเทียบเท่าทองคํา

ตอนแรก คโรโตะ คิดว่าการหาแหล่ง จักระที่มหาศาลเป็นปัญหาเดียวในการสร้างสัตว์หางเทียมแต่หลังจากอ่านข้อมูลนี้แล้วเกือบทุกอย่างตั้งแต่ต้นกําเนิดของจักระไปจนถึงวัสดุสําหรับร่างกายหลักก็เป็นปัญหาทั้งสิ้น!

“ไม่น่าแปลกใจเลยที่แม้แต่ ชินโนก็ยังต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะสามารถสร้าง 0 หางขึ้นมาได้แม้ว่ามันจะอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ก็ตาม”

หลังจากถอนหายใจด้วยความรู้สึกผิดหวัง คุโรโตะ ก็ส่ายหัวและปิดม้วนคัมภีร์นั้นกลับไป

การสร้างสัตว์หางเทียมเป็นหนทางเดียวที่ คุโรโตะ คิดว่าจะทําให้เขาพัฒนาขึ้นไปได้อีกแต่ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่ต้องใช้ความรู้เรื่องคาถาผนึกหรือเงินทุนที่ต้องใช้ในการดําเนินการวิจัยและการทดลองเขาขาดสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดดังนั้นคุโรโตะจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยกเลิกความคิดในการสร้างสัตว์หางเทียมเอาไว้ชั่วคราว

หลังจากเคลียร์ความคิดทั้งหมดแล้วคุโรโตะก็เข้านอนเนื่องจากเขาหมดแรงกับเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นในวันนี้

เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น

คุโรโตะ รีบไปที่สํานักงานหน่วยลับทันที

หลังจากผ่านขั้นตอนการเลื่อนขั้นอย่างสมบูรณ์แล้ว เขาก็ได้รับ ID นินจาใหม่ และตอนนี้เขาก็เป็นโจนินพิเศษของ หมู่บ้านโคโนฮะอย่างเป็นทางการในขณะเดียวกันเขาก็ได้เป็นหน่วยลับที่ทํางานภายใต้คําสั่งของโฮคาเงะโดยตรงอีกด้วย

ในห้องอุปกรณ์ คุโรโตะ ได้พบกับ ไมโตะ ไก และ อุจิฮะ ชิซุย

หลังจากทักทายกันแล้ว ทั้ง 3 คนก็เลือกอุปกรณ์ของตัวเองอย่างระมัดระวัง

เมื่อถึงคราวที่พวกเขาต้องเลือกหน้ากาก คุโรโตะ ก็ลองสวมหน้ากากนกอินทรีและเขาก็คิดว่ามันเหมาะกับเขา เขาจึงเลือกใช้หน้ากากนี้

ไก เลือกหน้ากากสุนัข

ชิซุยดูลังเลระหว่างหน้ากากสุนัขจิ้งจอกกับหน้ากากแมว แต่สุดท้ายเขาก็ทิ้งหน้ากากสุนัขจิ้งจอกที่ดูเจ้าเล่ห์กว่าและเลือกหน้ากากแมวที่ดูอ่อนโยนกว่า

ในขณะที่เรื่องทั้งหมดนี้กําลังเกิดขึ้น ก็มีความคิดหนึ่งที่ดูเหมือนจะทําให้คุโรโตะรู้สึกสับสนและนั่นคือทําไมไมโตะไกถึงได้รับเลือกให้เป็นหน่วยลับ?

คุโรโตะ รู้ดีกว่าใครว่าไมโตะไกเป็นยังไงด้วยบุคลิกที่ตรงไปตรงมาของเขาทําให้เขาขาดความมืดที่จําเป็นในการเป็นหน่วยลับ และความจริงข้อนี้ก็น่าจะชัดเจนสําหรับโฮคาเงะรุ่น 3 เช่นกันแล้ วทําไมเขาถึงตัดสินใจเลือกไก่ให้มาเป็นหน่วยลับล่ะ?

นี่คือสิ่งที่คุโรโตะไม่เข้าใจและที่จริงแล้วเขาจําได้จากความทรงจําในชาติก่อนของเขาถึงแม้ว่าไมโตะไกจะพยายามที่จะเข้าหน่วยลับเพื่อไปกับคาคาชิแต่สุดท้ายเขาก็ถูกโฮคาเงะรุ่น 3 ปฏิเสธก็น่าจะเพราะเหตุผลเดียวกับที่คุโรโตะคิดแต่แล้วทําไมตอนนี้เขาถึงเปลี่ยนใจ?

พูดตามตรง คุโรโตะ ทําได้เพียงถอนหายใจกับการเปลี่ยนแปลงที่คาดเดาไม่ได้ของเรื่องมีแนวโน้มว่าที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะการมีอยู่ของเขาเพราะเขาไม่สามารถนึกถึงเหตุผลอื่นใดที่ทําให้เกิ ดการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ขึ้นได้

หลังจากสลัดความคิดเหล่านั้นออกไปคุโรโตะก็เดินตามชิซุยและไกออกจากห้องอุปกรณ์

สํานักงานโฮคาเงะ

ฮิวงะ คุโรโตะ , อุจิฮะ ชิซุยและไมโตะไกที่ตอนนี้เปลี่ยนชุดเป็นหน่วยลับอย่างเป็นทางการแล้วยืนตรงต่อหน้าโฮคาเงะรุ่น 3
โฮคาเงะรุ่น 3 มองดูหน่วยลับทั้ง 3 อย่างระมัดระวังอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าอย่างพึงพอใจและพูดว่า“ดีมากพวกเธอดูดีมากฉันหวังว่าพวกเธอจะยังคงรักษาภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งแบบนี้ไว้ตลอดนะ แต่ก่อนที่พวกเธอจะได้เข้าหน่วยลับอย่างเป็นทางการพวกเธอต้องผ่านการทดสอบพิเศษของหน่วยลับเสีย ก่อน จนกว่าจะถึงตอนนั้นพวกเธอจะถูกเรียกว่าทีมชั่วคราวที่ 11”

หลังจากพูดแบบนั้นแล้วโฮคาเงะรุ่น 3 ก็ปรบมือเบา ๆ

หลังจากเสียงปรบมือ ร่างหนึ่งที่นั่งคุกเข่าข้างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาข้าง ๆ เขา

ท่านรุ่น 3 พูดแนะนํา “เขาคือหน้ากากสุนัขจิ้งจอก ฉันคิดว่าพวกเธอน่าจะรู้จักตัวตนของเขาดีเขาจะเป็นหัวหน้าทีมชั่ว คราวให้พวกเธอและเป็นผู้ประเมินพ วกเธอด้วย”

หน้ากากสุนัขจิ้งจอก ถอดหน้ากากออกและแนะนําตัวเองอย่างเฉยเมย “ฮาตาเคะคาคาชิ ยินดีที่รู้จัก!”

คุโรโตะ , ไก และ ชิซุย ถอดหน้ากากของตนออกตามและแนะนําตัวที่ละคน

“ทีนี้ก็มาพูดถึงภารกิจของพวกเธอกัน!” ท่านรุ่น 3 เคาะโต๊ะด้วยท่อยาสูบเพื่อดึงดูดความสนใจของทั้ง 4 คนและพูดต่อว่า “เมื่อไม่กี่วันก่อนแม่มดแห่งแคว้นโอนได้ส่งคําขอมายังโคโนฮะให้ส่งนินจาไปช่วยพวกเขาผนึกปีศาจจากอีกโลกอื่นข้อมูลภารกิจโดยละ เอียดอยู่ในม้วนกระดาษนี้นี่เป็นภารกิจถึงหน่วยลับซึ่งหมายความว่าพวกเธอทั้งหมดจะไม่ได้ทําภารกิจนี้ในฐานะหน่วยลับแต่คาคาชิ จะเป็นผู้รับผิดชอบในการตัดสินใจทั้งหมดรวมไปถึงประเมินว่าพวกเธอทั้ง 3 คนมีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมหน่วยลับหรือไม่ภารกิจนี้ เป็นภารกิจระดับ S! ขอให้พวกเธอโชค

เมื่อ คุโรโตะ ได้ยินเช่นนี้ หัวใจของเขาก็แทบจะหยุดเต้น

ไม่ใช่เพราะภารกิจนี้มีการประเมินแต่เพราะเมื่อวานนี้เขาเพิ่งคิดเกี่ยวกับโมเรียวของแควันโอนที่เป็นแหล่งจักระที่เป็นไปได้สําหรับการวิจัยของเขาแล้ววันนี้โฮคาเงะรุ่น 3 ก็ได้มอบหมายภารกิจให้เขาไปผนึกมันคุโรโตะไม่รู้ว่ามัน เป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญหรือว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงรู้เรื่องแผนสัตว์หางเทียมของเขาแล้ว
โดยไม่สนใจพวกเขาทั้ง 3 คน โฮคาเงะรุ่น 3 ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วหันไปมองหมู่บ้านผ่านหน้าต่างห้องทํางานหลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเขาก็พูดต่อ “พวกเธอทั้ง 4 คนทํางานเป็นทีมโดยมีโจนินเป็นหัวหน้าและโจนินพิเศษ อีก 3 คนระหว่างทําภารกิจนี้พวกเธออาจได้เจอกับนินจาจากหมู่บ้านใหญ่อื่นๆพยายามระมัดระวังเป็นพิเศษและปฏิบัติภารกิจเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่ไม่จําเป็นกับพวกเขา”

“ครับ!” นินจาทั้ง 4 พยักหน้าพร้อมกัน

“เท่านี้! ไปได้!” ด้วยคําสั่งสุดท้ายของโฮคาเงะนินจาทั้ง 4 ออกจากสํานักงานโฮคาเงะทันทีและด้วยมันเป็นภารกิจที่เร่งด่วนหลังจากที่ทั้ง 4 คนเตรียมอุปกรณ์และวัสดุที่จําเสร็จพวกเขาก็ไม่รอช้าและเดินทางออกจากหมู่บ้านตรงไปยังแคว้นโอนิทันที
ทันทีที่ทั้ง 4 ออกจากหมู่บ้านไกก็พูดอย่างตื่นเต้นขณะที่วิ่งไปยังจุดหมาย “คาคาชิคู่แข่งตลอดกาลของฉัน!ในที่สุดฉันก็ใกล้จะไล่ตามนายทันแล้ว”

คาคาชิ ตอบอย่างแผ่วเบา “เอ้อ เอ้อ…”

ไก ไม่ได้สังเกตเห็นความรําคาญของคาคาชิเลยและยังคงพูดต่อ “คาคาชิการไล่ตามเพื่อนและเติบโตไปด้วยกันคือพลังวัยรุ่นอย่างแท้จริงคิดแล้วฉันก็รู้สึกว่าฉันมีพลังขึ้นมาเลย!”

คาคาชิ หันศีรษะและเหลือบมองฮิวงะคุโรโตะและอุจิฮะชิซุยที่อยู่ ด้านหลังทีมเล็กน้อยในขณะที่ยังคงไม่สนใจคําพูดของไกต่อไป

ข้างหลังทีม ชิซุยรู้สึกว่าคุโรโตะดูอารมณ์เสียเล็กน้อยเขาจึงถามขึ้นด้วยความสงสัย“คุณคุโรโตะเป็นอะไรเปล่าครับ?”

คุโรโตะ ส่ายหัวเล็กน้อย “ไม่มีอะไร”

ตอนนี้ ความคิดของ คุโรโตะ กําลังจดจ่ออยู่กับการค้นหาความเป็นไปได้บางอย่างนั่นก็คือความสงสัยของเขาที่มีต่อหมู่บ้านที่เขากําลังจะไปทําภารกิจ

คุโรโตะรู้สึกสงสัยเล็กน้อยเกี่ยวกับภารกิจนี้เมื่อวานนี้เขาได้พบกับ โอโรจิมารุและพูดคุยถึงแผนการของสัตว์หางเทียมถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดถึงโมเรียวแต่เขาก็คิดว่ามันเป็นแหล่งจักระที่เหมาะสม มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญจริง ๆ เหรอที่เขาได้รับภารกิจให้ไปผนึกโม เรียวในวันรุ่งขึ้น?

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะระดมสมอง ทั้งหมดเท่าที่เขามีเขาก็จําได้แค่ว่าแม่มดแห่งแคว้นโอนิจะเสียชีวิตในช่วงเวล
นี้และทิ้งให้ชิออนลูกสาวคนเดียวของเธอไว้เป็นแม่มดรุ่นต่อไป ซึ่งลูกของเธอมีอายุใกล้เคียงกันนารูโตะ…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ 34 : เงื่อนไขของ โอโรจิมารุ

Now you are reading กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ Chapter 34 : เงื่อนไขของ โอโรจิมารุ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย กําเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ : Reborn into …

Chapter 34 : เงื่อนไขของ โอโรจิมารุ

คุโรโตะ อยากบอก โอโรจิมารุ เกี่ยวกับสายแร่มังกรและโมเรียว แต่หลังจากพิจารณาดูแล้วเขาคิดว่ามันคงยากที่จะอธิบายให้โอโรจิมารุฟังว่าเขารู้ข้อมูลลับเหล่านี้ได้อย่างไรคุโรโตะลังเลอยู่ครู่หนึ่งและในที่สุดเขาก็เลือกที่ จะไม่พูด

เมื่อมองไปที่โอโรจิมารุก็ดูเหมือนจะไม่สนใจสัตว์หางเทียมสักเท่าไร

แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะโอโรจิมารุไม่มีปัญหาเรื่องปริมาณจักระ

ผู้ที่เชี่ยวชาญในวิชาป้ายชีพอมตะและวิชาลับฟื้นฟูร่างกายและกําลังพัฒนาคาถาสัมภเวสีคืนชีพคงจะไม่มีปัญหาในเรื่องปริมาณจักระอย่างแน่นอน

หลังจากชั่งน้ำหนักข้อมูลทั้งหมดที่เขามีอยู่ในมือแล้วในที่สุดคุโรโตะก็ถามคําถามมูลค่าล้านเหรียญว่า“ท่านโอโรจิมารุบอกผมหน่อยได้ไหมครับว่าผมจะต้องแลกกับอะไรถ้าผมอยากรู้ข้อมูล เกี่ยวกับสัตว์หางเทียมที่ท่านรู้”
โอโรจิมารุ มองคุโรโตะด้วยความสนใจ “ฉันอยากรู้จังเลย คุโรโตะคุงทําไมเธอถึงหลงใหลกับสัตว์หางเทียมขนาดนั้นมีเหตุผลพิเศษอะไรที่อยากจะบอกฉันไหมใครจะรู้บางทีฉันอาจแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับการวิจัยให้เธอโดยที่เธอไม่ต้องจ่ายอะไรเลยก็ได้”

เห็นได้ชัดว่า คุโรโตะจะไม่เปิดเผยความตั้งใจที่แท้จริงของเขาอย่างแน่นอนกฎข้อแรกในการเจรจาคืออย่าเปิดเผยเจตนาที่แท้จริงของคุณเพียงเท่านี้คุณก็จะได้รับประโยชน์จากมัน

ดังนั้น คุโรโตะ จึงไม่ตอบโดยตรง แต่ ถามคําถามกลับไปว่า “ก็คงเหมือนกับที่ท่านหลงใหลในวิชาต้องห้ามแหละครับอย่างที่ท่านเคยพูดเราเหมือนกันมากกว่าที่คิดผมก็แค่อยากได้ข้อมูลในการวิ จัย มันก็แค่เรื่องที่ผมในใจ”

โอโรจิมารุ อดทนรอให้คุโรโตะพูดจบก่อนจึงพูดขึ้น “ถึงสิ่งที่เธอพูดจะเป็นความจริงแต่คําอธิบายของเธอก็ยังไม่เพียงพอที่จะโน้มน้าวใจฉันได้”หลังจาก

ส่ายหัวขณะจ้องมอง คุโรโตะ เขาก็ยิ้ม เล็กน้อย “ยังไงก็ตามฉันก็อยากเห็นว่าเธอจะสร้างสัตว์หางแบบไหนได้และเธอจะกลายเป็นอะไร! ดังนั้นครั้งนี้ฉันจะทําตามที่เธอขอ”

คุโรโตะ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้ยินโอโรจิมารุเห็นด้วย
อย่างไรก็ตาม โอโรจิมารุก็ยกนิ้วขึ้น 2 นิ้ว “ฉันจะให้ข้อมูลทั้งหมดกับเธอแต่มีเงื่อนไข 2 ข้อ”

“ได้เลยครับ!”

โอโรจิมารุยิ้มและพูดว่า “ข้อแรกฉันต้องการให้เธอแบ่งปันผลการวิจัยให้กับฉันข้อ 2 ฉันต้องการให้เธอรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกทั้งหมดของหน่วยลับรวมถึงข้อมูลองครักษ์ของตาแก่รุ่น 3 ด้วย”

น้ำเสียงของโอโรจิมารุในประโยคนี้ไม่เหมือนกับการบอกเงื่อนไขแต่เป็นการออกคําสั่งเห็นได้ชัดว่าคุโรโตะไม่มีทางเลือกอื่นหรือที่ว่างสําหรับการเจรจาดังนั้นเขาจึงพยักหน้าและตกลง

หลังจากพูดคุยกันอีกเล็กน้อยโอโรจิ มารุก็ลุกขึ้นและจากไป

ในคืนวันเดียวกัน คุโรโตะได้รับข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับสัตว์หางเทียมที่เก็บไว้ในม้วนปิดผนึกจากปากของงูพิษตาเดียว

เมื่อมองดูม้วนกระดาษในมือคุโรโตะก็สามารถอนุมานได้ว่า โอโรจิมารุได้ขโมยวิชาต้องห้ามและงานวิจัยส่วนใหญ่จากหอจดหมายเหตุออกมาก่อนที่จะหลบหนีออกจากหมู่บ้านไปและนี่อาจเป็นเหตุผลว่าทําไมเจ้าหน้าระดับสูงจึงทําการกวาดล้างผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ โอโรจิมารุ

เมื่อคลี่ม้วนคัมภีร์ที่บันทึกข้อมูลของสัตว์หางเทียมออกคุโรโตะก็เหลือบมองเล็กน้อยและขมวดคิ้ว

ความซับซ้อนของผลวิจัยและข้อมูลการทดลองเกี่ยวกับสัตว์หางเทียมนั้นเหนือความคาดหมายก่อนหน้านี้ทั้งหมด

การวิจัยระบุว่ามีวิชาสะกดที่ซับซ้อน มากกว่า 700 ชนิดที่

เกี่ยวข้องใน กระบวนการนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคาถา ผนึกที่ยากต่อการดําเนินการแม้แต่กับโจนินระดับงก็ตามสูง

นอกจากนี้ วัสดุที่ใช้สร้างแกนพลังของสัตว์หางเทียมก็ยังหาได้ยากมาก

ตามข้อมูล หมู่บ้านได้ทําการทดสอบโดยใช้วัสดุ 17 ชนิดที่แตกต่างกันซึ่งมีเพียงวัสดุเดียวคือดินเหนียวสีม่วงที่สามารถทนต่อปริมาณจักระอันมหาศาลได้

ดินเหนียวสีม่วง เป็นวัสดุพิเศษของ แคว้นนูมะ (แคว้นแห่งหนองน้ำ)มันเป็นดินเหนียวชนิดพิเศษที่พบในส่วนที่ลึกที่สุดของหนองน้ำ

เนื่องจากดินเหนียวสีม่วงนั้นยากต่ อการขุด ดังนั้นมันจึงค่อนข้างหายากด้วยเหตุนี้ราคาของมันในตลาดจึงเทียบเท่าทองคํา

ตอนแรก คโรโตะ คิดว่าการหาแหล่ง จักระที่มหาศาลเป็นปัญหาเดียวในการสร้างสัตว์หางเทียมแต่หลังจากอ่านข้อมูลนี้แล้วเกือบทุกอย่างตั้งแต่ต้นกําเนิดของจักระไปจนถึงวัสดุสําหรับร่างกายหลักก็เป็นปัญหาทั้งสิ้น!

“ไม่น่าแปลกใจเลยที่แม้แต่ ชินโนก็ยังต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะสามารถสร้าง 0 หางขึ้นมาได้แม้ว่ามันจะอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ก็ตาม”

หลังจากถอนหายใจด้วยความรู้สึกผิดหวัง คุโรโตะ ก็ส่ายหัวและปิดม้วนคัมภีร์นั้นกลับไป

การสร้างสัตว์หางเทียมเป็นหนทางเดียวที่ คุโรโตะ คิดว่าจะทําให้เขาพัฒนาขึ้นไปได้อีกแต่ไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่ต้องใช้ความรู้เรื่องคาถาผนึกหรือเงินทุนที่ต้องใช้ในการดําเนินการวิจัยและการทดลองเขาขาดสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดดังนั้นคุโรโตะจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยกเลิกความคิดในการสร้างสัตว์หางเทียมเอาไว้ชั่วคราว

หลังจากเคลียร์ความคิดทั้งหมดแล้วคุโรโตะก็เข้านอนเนื่องจากเขาหมดแรงกับเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นในวันนี้

เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น

คุโรโตะ รีบไปที่สํานักงานหน่วยลับทันที

หลังจากผ่านขั้นตอนการเลื่อนขั้นอย่างสมบูรณ์แล้ว เขาก็ได้รับ ID นินจาใหม่ และตอนนี้เขาก็เป็นโจนินพิเศษของ หมู่บ้านโคโนฮะอย่างเป็นทางการในขณะเดียวกันเขาก็ได้เป็นหน่วยลับที่ทํางานภายใต้คําสั่งของโฮคาเงะโดยตรงอีกด้วย

ในห้องอุปกรณ์ คุโรโตะ ได้พบกับ ไมโตะ ไก และ อุจิฮะ ชิซุย

หลังจากทักทายกันแล้ว ทั้ง 3 คนก็เลือกอุปกรณ์ของตัวเองอย่างระมัดระวัง

เมื่อถึงคราวที่พวกเขาต้องเลือกหน้ากาก คุโรโตะ ก็ลองสวมหน้ากากนกอินทรีและเขาก็คิดว่ามันเหมาะกับเขา เขาจึงเลือกใช้หน้ากากนี้

ไก เลือกหน้ากากสุนัข

ชิซุยดูลังเลระหว่างหน้ากากสุนัขจิ้งจอกกับหน้ากากแมว แต่สุดท้ายเขาก็ทิ้งหน้ากากสุนัขจิ้งจอกที่ดูเจ้าเล่ห์กว่าและเลือกหน้ากากแมวที่ดูอ่อนโยนกว่า

ในขณะที่เรื่องทั้งหมดนี้กําลังเกิดขึ้น ก็มีความคิดหนึ่งที่ดูเหมือนจะทําให้คุโรโตะรู้สึกสับสนและนั่นคือทําไมไมโตะไกถึงได้รับเลือกให้เป็นหน่วยลับ?

คุโรโตะ รู้ดีกว่าใครว่าไมโตะไกเป็นยังไงด้วยบุคลิกที่ตรงไปตรงมาของเขาทําให้เขาขาดความมืดที่จําเป็นในการเป็นหน่วยลับ และความจริงข้อนี้ก็น่าจะชัดเจนสําหรับโฮคาเงะรุ่น 3 เช่นกันแล้ วทําไมเขาถึงตัดสินใจเลือกไก่ให้มาเป็นหน่วยลับล่ะ?

นี่คือสิ่งที่คุโรโตะไม่เข้าใจและที่จริงแล้วเขาจําได้จากความทรงจําในชาติก่อนของเขาถึงแม้ว่าไมโตะไกจะพยายามที่จะเข้าหน่วยลับเพื่อไปกับคาคาชิแต่สุดท้ายเขาก็ถูกโฮคาเงะรุ่น 3 ปฏิเสธก็น่าจะเพราะเหตุผลเดียวกับที่คุโรโตะคิดแต่แล้วทําไมตอนนี้เขาถึงเปลี่ยนใจ?

พูดตามตรง คุโรโตะ ทําได้เพียงถอนหายใจกับการเปลี่ยนแปลงที่คาดเดาไม่ได้ของเรื่องมีแนวโน้มว่าที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะการมีอยู่ของเขาเพราะเขาไม่สามารถนึกถึงเหตุผลอื่นใดที่ทําให้เกิ ดการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ขึ้นได้

หลังจากสลัดความคิดเหล่านั้นออกไปคุโรโตะก็เดินตามชิซุยและไกออกจากห้องอุปกรณ์

สํานักงานโฮคาเงะ

ฮิวงะ คุโรโตะ , อุจิฮะ ชิซุยและไมโตะไกที่ตอนนี้เปลี่ยนชุดเป็นหน่วยลับอย่างเป็นทางการแล้วยืนตรงต่อหน้าโฮคาเงะรุ่น 3
โฮคาเงะรุ่น 3 มองดูหน่วยลับทั้ง 3 อย่างระมัดระวังอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าอย่างพึงพอใจและพูดว่า“ดีมากพวกเธอดูดีมากฉันหวังว่าพวกเธอจะยังคงรักษาภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งแบบนี้ไว้ตลอดนะ แต่ก่อนที่พวกเธอจะได้เข้าหน่วยลับอย่างเป็นทางการพวกเธอต้องผ่านการทดสอบพิเศษของหน่วยลับเสีย ก่อน จนกว่าจะถึงตอนนั้นพวกเธอจะถูกเรียกว่าทีมชั่วคราวที่ 11”

หลังจากพูดแบบนั้นแล้วโฮคาเงะรุ่น 3 ก็ปรบมือเบา ๆ

หลังจากเสียงปรบมือ ร่างหนึ่งที่นั่งคุกเข่าข้างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาข้าง ๆ เขา

ท่านรุ่น 3 พูดแนะนํา “เขาคือหน้ากากสุนัขจิ้งจอก ฉันคิดว่าพวกเธอน่าจะรู้จักตัวตนของเขาดีเขาจะเป็นหัวหน้าทีมชั่ว คราวให้พวกเธอและเป็นผู้ประเมินพ วกเธอด้วย”

หน้ากากสุนัขจิ้งจอก ถอดหน้ากากออกและแนะนําตัวเองอย่างเฉยเมย “ฮาตาเคะคาคาชิ ยินดีที่รู้จัก!”

คุโรโตะ , ไก และ ชิซุย ถอดหน้ากากของตนออกตามและแนะนําตัวที่ละคน

“ทีนี้ก็มาพูดถึงภารกิจของพวกเธอกัน!” ท่านรุ่น 3 เคาะโต๊ะด้วยท่อยาสูบเพื่อดึงดูดความสนใจของทั้ง 4 คนและพูดต่อว่า “เมื่อไม่กี่วันก่อนแม่มดแห่งแคว้นโอนได้ส่งคําขอมายังโคโนฮะให้ส่งนินจาไปช่วยพวกเขาผนึกปีศาจจากอีกโลกอื่นข้อมูลภารกิจโดยละ เอียดอยู่ในม้วนกระดาษนี้นี่เป็นภารกิจถึงหน่วยลับซึ่งหมายความว่าพวกเธอทั้งหมดจะไม่ได้ทําภารกิจนี้ในฐานะหน่วยลับแต่คาคาชิ จะเป็นผู้รับผิดชอบในการตัดสินใจทั้งหมดรวมไปถึงประเมินว่าพวกเธอทั้ง 3 คนมีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมหน่วยลับหรือไม่ภารกิจนี้ เป็นภารกิจระดับ S! ขอให้พวกเธอโชค

เมื่อ คุโรโตะ ได้ยินเช่นนี้ หัวใจของเขาก็แทบจะหยุดเต้น

ไม่ใช่เพราะภารกิจนี้มีการประเมินแต่เพราะเมื่อวานนี้เขาเพิ่งคิดเกี่ยวกับโมเรียวของแควันโอนที่เป็นแหล่งจักระที่เป็นไปได้สําหรับการวิจัยของเขาแล้ววันนี้โฮคาเงะรุ่น 3 ก็ได้มอบหมายภารกิจให้เขาไปผนึกมันคุโรโตะไม่รู้ว่ามัน เป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญหรือว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงรู้เรื่องแผนสัตว์หางเทียมของเขาแล้ว
โดยไม่สนใจพวกเขาทั้ง 3 คน โฮคาเงะรุ่น 3 ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วหันไปมองหมู่บ้านผ่านหน้าต่างห้องทํางานหลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเขาก็พูดต่อ “พวกเธอทั้ง 4 คนทํางานเป็นทีมโดยมีโจนินเป็นหัวหน้าและโจนินพิเศษ อีก 3 คนระหว่างทําภารกิจนี้พวกเธออาจได้เจอกับนินจาจากหมู่บ้านใหญ่อื่นๆพยายามระมัดระวังเป็นพิเศษและปฏิบัติภารกิจเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่ไม่จําเป็นกับพวกเขา”

“ครับ!” นินจาทั้ง 4 พยักหน้าพร้อมกัน

“เท่านี้! ไปได้!” ด้วยคําสั่งสุดท้ายของโฮคาเงะนินจาทั้ง 4 ออกจากสํานักงานโฮคาเงะทันทีและด้วยมันเป็นภารกิจที่เร่งด่วนหลังจากที่ทั้ง 4 คนเตรียมอุปกรณ์และวัสดุที่จําเสร็จพวกเขาก็ไม่รอช้าและเดินทางออกจากหมู่บ้านตรงไปยังแคว้นโอนิทันที
ทันทีที่ทั้ง 4 ออกจากหมู่บ้านไกก็พูดอย่างตื่นเต้นขณะที่วิ่งไปยังจุดหมาย “คาคาชิคู่แข่งตลอดกาลของฉัน!ในที่สุดฉันก็ใกล้จะไล่ตามนายทันแล้ว”

คาคาชิ ตอบอย่างแผ่วเบา “เอ้อ เอ้อ…”

ไก ไม่ได้สังเกตเห็นความรําคาญของคาคาชิเลยและยังคงพูดต่อ “คาคาชิการไล่ตามเพื่อนและเติบโตไปด้วยกันคือพลังวัยรุ่นอย่างแท้จริงคิดแล้วฉันก็รู้สึกว่าฉันมีพลังขึ้นมาเลย!”

คาคาชิ หันศีรษะและเหลือบมองฮิวงะคุโรโตะและอุจิฮะชิซุยที่อยู่ ด้านหลังทีมเล็กน้อยในขณะที่ยังคงไม่สนใจคําพูดของไกต่อไป

ข้างหลังทีม ชิซุยรู้สึกว่าคุโรโตะดูอารมณ์เสียเล็กน้อยเขาจึงถามขึ้นด้วยความสงสัย“คุณคุโรโตะเป็นอะไรเปล่าครับ?”

คุโรโตะ ส่ายหัวเล็กน้อย “ไม่มีอะไร”

ตอนนี้ ความคิดของ คุโรโตะ กําลังจดจ่ออยู่กับการค้นหาความเป็นไปได้บางอย่างนั่นก็คือความสงสัยของเขาที่มีต่อหมู่บ้านที่เขากําลังจะไปทําภารกิจ

คุโรโตะรู้สึกสงสัยเล็กน้อยเกี่ยวกับภารกิจนี้เมื่อวานนี้เขาได้พบกับ โอโรจิมารุและพูดคุยถึงแผนการของสัตว์หางเทียมถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดถึงโมเรียวแต่เขาก็คิดว่ามันเป็นแหล่งจักระที่เหมาะสม มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญจริง ๆ เหรอที่เขาได้รับภารกิจให้ไปผนึกโม เรียวในวันรุ่งขึ้น?

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะระดมสมอง ทั้งหมดเท่าที่เขามีเขาก็จําได้แค่ว่าแม่มดแห่งแคว้นโอนิจะเสียชีวิตในช่วงเวล
นี้และทิ้งให้ชิออนลูกสาวคนเดียวของเธอไว้เป็นแม่มดรุ่นต่อไป ซึ่งลูกของเธอมีอายุใกล้เคียงกันนารูโตะ…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+