จิตวิญญาณเทพยุทธ์สยบเทวะ 25 ทะลวงระดับ

Now you are reading จิตวิญญาณเทพยุทธ์สยบเทวะ Chapter 25 ทะลวงระดับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        หลู่เส่าโหย่วสูดลมหายใจเข้าอย่างช้าๆ และหยิบขวดหยกออกมาจากแหวนมิติของเขา จากนั้นยาเสริมพลังก็ปรากฏขึ้นในมือ เขารู้ว่าหากพลังลมปราณในตัวเขาได้ทะลวงขึ้นอีกขั้น เขาก็จะสามารถทะลวงระดับนักรบแล้ว เมื่อถึงตอนนั้น ระดับของผู้ฝึกวิญญาณของเขาก็จะทะลวงด้วยอย่างแน่นอน

        หลู่เส่าโหย่วยิ้มเล็กน้อย มองดูโอสถที่อยู่ในมือ ตัวเขาในตอนนี้ หากจะหลอมโอสถเสริมพลังสักเม็ดก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย หลังจากดมกลิ่นที่หอมสดชื่นของมัน หลู่เส่าโหย่วก็โยนโอสถเสริมพลังเข้าไปในปากโดยไม่ลังเล

        เมื่อกินโอสถเสริมพลังเข้าไป หลู่เส่าโหย่วก็สัมผัสได้ว่ามีพลังความร้อนที่บริสุทธิ์กำลังพลุ่งพล่านอยู่ภายในตัวเขา ทันใดนั้น หลู่เส่าโหย่วก็ได้โคจรทักษะวิญญาณหยินหยางทันที

        พลังงานที่บริสุทธิ์นี้ หลู่เส่าโหย่วเคยชินกับมันมานานแล้ว ตอนแรกเริ่ม พลังงานที่บริสุทธิ์นี้สามารถทำให้เขาทะลวงได้ถึงสองขั้นเล็ก แต่ในภายหลัง มันสามารถทะลวงได้ขั้นเดียว และหลังจากนั้นอีก มันก็ทำให้พลังเพิ่มขึ้นเพียงครึ่งขั้นเท่านั้น

        เมื่อรวมกับเม็ดนี้ ตั้งแต่ระดับสาวกขั้นหนึ่งถึงขั้นเก้า หลู่เส่าโหย่วก็ได้ใช้โอสถเสริมพลังไปทั้งหมดเจ็ดเม็ดแล้ว คิดเป็นสามร้อยห้าสิบเหรียญทอง ยังดีที่ตอนนี้เขายังมีวิธีหาเงิน ไม่เช่นนั้นเขาได้แย่แน่

        สามร้อยห้าสิบเหรียญทองไม่ใช่ตัวเลขที่น้อยเลย แต่ถ้าหากผู้อื่นรู้ว่าเงินสามร้อยห้าสิบเหรียญทองนี้สามารถทำให้พวกรุ่นเยาว์ในตระกูลที่มีระดับสาวกทะลวงถึงระดับนักรบได้ล่ะก็ คาดว่าทุกคนในตระกูลคงจะนำมันไปให้รุ่นเยาว์ทั้งหมดในตระกูลเพื่อที่จะทะลวงให้ถึงระดับนักรบ

        หลังจากสงบจิตใจลงอย่างช้าๆ มือทั้งสองข้างของหลู่เส่าโหย่วก็ได้ทับซ้อนกันจนเป็นท่าประทับ การหายใจของเขามั่นคงขึ้นเรื่อยๆ และลมปราณภายในร่างก็เริ่มดูดซับผลของโอสถเสริมพลังขึ้นมา

        เบื้องหน้าบนยอดเขาแห่งหนึ่งได้ปรากฏร่างของลุงหนานอยู่บนนั้น เขากำลังจับจ้องมาที่หลู่เส่าโหย่วและกล่าวพึมพำ “ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน ก็ได้ทะลวงระดับนักรบอีกครั้ง ร่างกายหยินหยางนั้นน่าเหลือเชื่อจริงๆ”

        ไม่รู้ว่าระยะเวลาผ่านไปนานแค่ไหน สามชั่วยาม หรือว่าสี่ชั่วยาม อากาศรอบข้างที่สงบได้เกิดความผันผวนขึ้นมา ระลอกของลมปราณที่ผันผวนได้ทะลุผ่านอากาศกระจายออกไป และท้ายที่สุดก็ล้อมรอบร่างกายของหลู่เส่าโหย่วเอาไว้

        หลู่เส่าโหย่วรู้สึกว่าเมื่อเขากำลังดูดซับพลังของโอสถเสริมพลัง พลังของมันก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นกลุ่มพลังลมปราณ เมื่อมีพลังลมปราณเหล่านี้ พลังลมปราณในร่างของเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วที่เห็นไม่ได้ด้วยตาเปล่า และภายในทะเลลมปราณในตันเถียนของเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยากจะเข้าใจ

        พลังของโอสถเสริมพลังได้ถูกปรับแต่งเป็นพลังลมปราณอย่างต่อเนื่อง มันได้ไหลผ่านเส้นชีพจนทั่วร่างของเขา และท้ายที่สุดก็เข้าสู่ทะเลลมปราณภายในตันเถียน

        ในตอนท้าย หลู่เส่าโหย่วรู้สึกว่าทะเลลมปราณในตันเถียนได้เข้าสู่สภาวะที่ดูดซับจนสมบูรณ์แล้ว แม้แต่เส้นชีพจรในร่างของเขาก็เต็มไปด้วยพลังลมปราณ

        แต่พลังงานโอสถเสริมพลังยังไม่ถูกปรับแต่งจนหมด และยังคงปรับแต่งไปเรื่อยๆ เมื่อพลังในโอสถเสริมพลังกำลังจะถูกปรับแต่งจนหมดนั้น หลู่เส่าโหย่วก็พบว่าลมปราณภายในร่างของเขาได้ถูกเติมเต็มจนถึงจุดสูงสุดแล้ว

        ใบหน้าของหลู่เส่าโหย่วได้กระตุกขึ้นมา การขยายของพลังลมปราณภายในร่างทำให้เส้นชีพจรของเขากระตุก ความเจ็บปวดนี้ทำให้หลู่เส่าโหย่วทรมาณเป็นอย่างมาก

        เหตุการณ์ทั้งหมดนี้หลู่เส่าโหย่วเคยลิ้มรสของมันมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อตอนที่เขาจะกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่แท้จริง หลังจากสูดอากาศที่สดชื่นเข้าไป ท่าประทับในมือของเขาก็เปลี่ยนไป เขาได้โคจรทักษะวิญญาณหยินหยาง ร่างกายที่เต็มไปด้วยพลังลมปราณก็ถูกกระตุ้นทันทีราวกับมีแรงดึงดูดที่รุนแรง พลังลมปราณได้หดตัวและกระแทกเข้าใส่ตำแหน่งท้องน้อยที่มีจุดตันเถียนอย่างรวดเร็ว

        พลังลมปราณเหล่านี้พุ่งเข้าสู่ทะเลลมปราณภายในตันเถียนของเขา ทันใดนั้น ทะเลลมปราณภายในตันเถียนก็ได้ถูกขยายออกอย่างรวดเร็ว ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้หลู่เส่าโหย่วหลั่งเหงื่อเย็นออกมา

        หลู่เส่าโหย่วได้แต่อดทนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขารู้ว่าตัวเองในตอนนี้กำลังจะทะลวงระดับ ในเวลาเดียวกันนั้นเขาก็ได้ควบคุมพลังลมปราณทั้งหมดในชีพจรให้หดตัว และบีบอัดเข้าไปในทะเลลมปราณอย่างรุนแรง

        “ปัง!”

        เสียงอู้อี้เบาๆ ดังขึ้นจากภายในทะเลลมปราณในตันเถียน หลู่เส่าโหย่วรู้สึกว่าภายในร่างของเขารู้สึกสบายสุดจะพรรณนา พลังลมปราณมีมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าในทะเลลมปราณภายในจุดตันเถียน และเส้นชีพจรได้ถูกพลังลมปราณเติมเต็มอีกครั้ง

        หลู่เส่าโหย่วเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อสัมผัสถึงพลังลมปราณภายในร่างของตัวเองในตอนนี้ ภายใต้ทักษะวิญญาณหยินหยางที่วิปริต ตัวเขาก็ได้ทะลวงสู่ระดับนักรบขั้นหนึ่งแล้ว

        “จะทะลวงแล้วอย่างนั้นหรือ” ในตอนนี้เอง หลู่เส่าโหย่วก็เหยียดยิ้มที่มุมปากอีกครั้ง เขาสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณที่วนเวียนอยู่ภายในจิตใจมาเป็นเวลานานกำลังเริ่มผันผวนขึ้นมา

        หลังจากนั้น ท่าประทับในมือของหลู่เส่าโหย่วก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย พลังวิญญาณที่มีชีวิตชีวาในจิตใจเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ดูเหมือนว่ามันจะชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ

        จากนั้นครู่หนึ่ง หลู่เส่าโหย่วสัมผัสได้อย่างชัดเจน พลังวิญญาณภายในจิตใจของเขากับพื้นที่โดยรอบเกิดความผันผวนที่ลึกลับจนมองไม่เห็น

        ภายในพื้นที่โดยรอบ พลังงานที่มองไม่เห็นได้เริ่มไหลเข้าไปภายในจิตใจของหลู่เส่าโหย่ว ตัวเขาสามารถสัมผัสได้ว่า พลังที่มองไม่เห็นนี้เหมือนจะเป็นพลังระหว่างฟ้าดินชนิดหนึ่ง ผลของพลังชนิดนี้ทำให้พลังวิญญาณภายในจิตใจของเขาขยายตัวอย่างรวดเร็ว

        ขณะที่พลังวิญญาณกำลังขยายตัว หลู่เส่าโหย่วก็รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย แต่ในเวลานี้ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขาก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว ทั้งที่คลุมเครือและมองไม่เห็นเขาก็ยังสามารถสอดส่องได้อย่างชัดเจน

        “ซือ…”

        มีเสียงที่ชัดเจนดังขึ้นในจิตใจของหลู่เส่าโหย่ว จากนั้นพลังวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ก็ได้ห่อหุ้มร่างกายของเขาทั้งหมด และท้ายที่สุดก็ถูกดูดซับกลับไป หลู่เส่าโหย่วรู้สึกว่าพลังวิญญาณภายในจิตใจของเขาใหญ่ขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ทั่วร่างรู้สึกสบายสุดจะพรรณนา

        “ฟู่ว…” เขาพ่นอากาศที่ขุ่นมัวออกมาจากร่างกาย เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังลมปราณและพลังวิญญาณที่มีอยู่มากมายภายในร่างกายและจิตใจ ก็ทำให้เกิดรอยยิ้มขึ้นบนมุมปากของหลู่เส่าโหย่ว

        “ทะลวงระดับแล้ว ถือว่าเร็วเสียจริง” บนยอดเขาที่ห่างไกล ลุงหนานได้เผยรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย และจากนั้นชายชราก็หายตัวไป เรื่องทั้งหมดนี้ หลู่เส่าโหย่วไม่รู้เลยสักนิด

        หลู่เส่าโหย่วนั่งขัดสมาธิต่อไป เขาสงบจิตใจและหลับตาทั้งสองข้างลง และจากนั้นก็ได้สอดส่องภายในร่างกายของตัวเอง ภายในทะเลลมปราณภายในตันเถียนของเขาในตอนนี้ พื้นที่ด้านในได้ขยายใหญ่ขึ้นอย่างมาก และภายในนั้นก็มีกลุ่มอากาศธาตุที่ดูแวววาวกำลังหมุนวนอย่างช้าๆ นั่นคือพลังลมปราณภายในร่างของเขาเอง

        และเมื่อเขาสอดส่องเข้าไปภายในจิตใจ หลู่เส่าโหย่วก็ค้นพบว่าในจิตใจของเขานั้นมีการคงอยู่ของพื้นที่ที่เหมือนช่องว่างของทะเลอากาศ เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน เขาก็พบว่ามีพลังวิญญาณที่ใหญ่โตกว่าเดิมหลายเท่ากำลังยึดมั่นอยู่ข้างใน

        จิตใจได้ควบคุมพลังลมปราณภายในทะเลลมปราณ พลังลมปราณสีกากีได้ถูกรวมตัวอย่างรวดเร็วบนฝ่ามือขวาของเขา และในเวลาเดียวกัน พลังวิญญาณก็ได้รวมตัวกันเป็นเปลวเพลิงเล็กๆ ที่สั่นไหวไปมาอยู่บนฝ่ามือข้างซ้าย

 

        “ในที่สุดก็ทะลวงระดับเสียที” หลู่เส่าโหย่วยิ้มเล็กน้อย ในรูม่านตาสีดำมีประกายแสงวาบขึ้นมา และค่อยๆ จางหายไปภายในเวลาไม่กี่วินาที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จิตวิญญาณเทพยุทธ์สยบเทวะ 25 ทะลวงระดับ

Now you are reading จิตวิญญาณเทพยุทธ์สยบเทวะ Chapter 25 ทะลวงระดับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        หลู่เส่าโหย่วสูดลมหายใจเข้าอย่างช้าๆ และหยิบขวดหยกออกมาจากแหวนมิติของเขา จากนั้นยาเสริมพลังก็ปรากฏขึ้นในมือ เขารู้ว่าหากพลังลมปราณในตัวเขาได้ทะลวงขึ้นอีกขั้น เขาก็จะสามารถทะลวงระดับนักรบแล้ว เมื่อถึงตอนนั้น ระดับของผู้ฝึกวิญญาณของเขาก็จะทะลวงด้วยอย่างแน่นอน

        หลู่เส่าโหย่วยิ้มเล็กน้อย มองดูโอสถที่อยู่ในมือ ตัวเขาในตอนนี้ หากจะหลอมโอสถเสริมพลังสักเม็ดก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย หลังจากดมกลิ่นที่หอมสดชื่นของมัน หลู่เส่าโหย่วก็โยนโอสถเสริมพลังเข้าไปในปากโดยไม่ลังเล

        เมื่อกินโอสถเสริมพลังเข้าไป หลู่เส่าโหย่วก็สัมผัสได้ว่ามีพลังความร้อนที่บริสุทธิ์กำลังพลุ่งพล่านอยู่ภายในตัวเขา ทันใดนั้น หลู่เส่าโหย่วก็ได้โคจรทักษะวิญญาณหยินหยางทันที

        พลังงานที่บริสุทธิ์นี้ หลู่เส่าโหย่วเคยชินกับมันมานานแล้ว ตอนแรกเริ่ม พลังงานที่บริสุทธิ์นี้สามารถทำให้เขาทะลวงได้ถึงสองขั้นเล็ก แต่ในภายหลัง มันสามารถทะลวงได้ขั้นเดียว และหลังจากนั้นอีก มันก็ทำให้พลังเพิ่มขึ้นเพียงครึ่งขั้นเท่านั้น

        เมื่อรวมกับเม็ดนี้ ตั้งแต่ระดับสาวกขั้นหนึ่งถึงขั้นเก้า หลู่เส่าโหย่วก็ได้ใช้โอสถเสริมพลังไปทั้งหมดเจ็ดเม็ดแล้ว คิดเป็นสามร้อยห้าสิบเหรียญทอง ยังดีที่ตอนนี้เขายังมีวิธีหาเงิน ไม่เช่นนั้นเขาได้แย่แน่

        สามร้อยห้าสิบเหรียญทองไม่ใช่ตัวเลขที่น้อยเลย แต่ถ้าหากผู้อื่นรู้ว่าเงินสามร้อยห้าสิบเหรียญทองนี้สามารถทำให้พวกรุ่นเยาว์ในตระกูลที่มีระดับสาวกทะลวงถึงระดับนักรบได้ล่ะก็ คาดว่าทุกคนในตระกูลคงจะนำมันไปให้รุ่นเยาว์ทั้งหมดในตระกูลเพื่อที่จะทะลวงให้ถึงระดับนักรบ

        หลังจากสงบจิตใจลงอย่างช้าๆ มือทั้งสองข้างของหลู่เส่าโหย่วก็ได้ทับซ้อนกันจนเป็นท่าประทับ การหายใจของเขามั่นคงขึ้นเรื่อยๆ และลมปราณภายในร่างก็เริ่มดูดซับผลของโอสถเสริมพลังขึ้นมา

        เบื้องหน้าบนยอดเขาแห่งหนึ่งได้ปรากฏร่างของลุงหนานอยู่บนนั้น เขากำลังจับจ้องมาที่หลู่เส่าโหย่วและกล่าวพึมพำ “ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน ก็ได้ทะลวงระดับนักรบอีกครั้ง ร่างกายหยินหยางนั้นน่าเหลือเชื่อจริงๆ”

        ไม่รู้ว่าระยะเวลาผ่านไปนานแค่ไหน สามชั่วยาม หรือว่าสี่ชั่วยาม อากาศรอบข้างที่สงบได้เกิดความผันผวนขึ้นมา ระลอกของลมปราณที่ผันผวนได้ทะลุผ่านอากาศกระจายออกไป และท้ายที่สุดก็ล้อมรอบร่างกายของหลู่เส่าโหย่วเอาไว้

        หลู่เส่าโหย่วรู้สึกว่าเมื่อเขากำลังดูดซับพลังของโอสถเสริมพลัง พลังของมันก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นกลุ่มพลังลมปราณ เมื่อมีพลังลมปราณเหล่านี้ พลังลมปราณในร่างของเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วที่เห็นไม่ได้ด้วยตาเปล่า และภายในทะเลลมปราณในตันเถียนของเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยากจะเข้าใจ

        พลังของโอสถเสริมพลังได้ถูกปรับแต่งเป็นพลังลมปราณอย่างต่อเนื่อง มันได้ไหลผ่านเส้นชีพจนทั่วร่างของเขา และท้ายที่สุดก็เข้าสู่ทะเลลมปราณภายในตันเถียน

        ในตอนท้าย หลู่เส่าโหย่วรู้สึกว่าทะเลลมปราณในตันเถียนได้เข้าสู่สภาวะที่ดูดซับจนสมบูรณ์แล้ว แม้แต่เส้นชีพจรในร่างของเขาก็เต็มไปด้วยพลังลมปราณ

        แต่พลังงานโอสถเสริมพลังยังไม่ถูกปรับแต่งจนหมด และยังคงปรับแต่งไปเรื่อยๆ เมื่อพลังในโอสถเสริมพลังกำลังจะถูกปรับแต่งจนหมดนั้น หลู่เส่าโหย่วก็พบว่าลมปราณภายในร่างของเขาได้ถูกเติมเต็มจนถึงจุดสูงสุดแล้ว

        ใบหน้าของหลู่เส่าโหย่วได้กระตุกขึ้นมา การขยายของพลังลมปราณภายในร่างทำให้เส้นชีพจรของเขากระตุก ความเจ็บปวดนี้ทำให้หลู่เส่าโหย่วทรมาณเป็นอย่างมาก

        เหตุการณ์ทั้งหมดนี้หลู่เส่าโหย่วเคยลิ้มรสของมันมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อตอนที่เขาจะกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่แท้จริง หลังจากสูดอากาศที่สดชื่นเข้าไป ท่าประทับในมือของเขาก็เปลี่ยนไป เขาได้โคจรทักษะวิญญาณหยินหยาง ร่างกายที่เต็มไปด้วยพลังลมปราณก็ถูกกระตุ้นทันทีราวกับมีแรงดึงดูดที่รุนแรง พลังลมปราณได้หดตัวและกระแทกเข้าใส่ตำแหน่งท้องน้อยที่มีจุดตันเถียนอย่างรวดเร็ว

        พลังลมปราณเหล่านี้พุ่งเข้าสู่ทะเลลมปราณภายในตันเถียนของเขา ทันใดนั้น ทะเลลมปราณภายในตันเถียนก็ได้ถูกขยายออกอย่างรวดเร็ว ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้หลู่เส่าโหย่วหลั่งเหงื่อเย็นออกมา

        หลู่เส่าโหย่วได้แต่อดทนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขารู้ว่าตัวเองในตอนนี้กำลังจะทะลวงระดับ ในเวลาเดียวกันนั้นเขาก็ได้ควบคุมพลังลมปราณทั้งหมดในชีพจรให้หดตัว และบีบอัดเข้าไปในทะเลลมปราณอย่างรุนแรง

        “ปัง!”

        เสียงอู้อี้เบาๆ ดังขึ้นจากภายในทะเลลมปราณในตันเถียน หลู่เส่าโหย่วรู้สึกว่าภายในร่างของเขารู้สึกสบายสุดจะพรรณนา พลังลมปราณมีมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าในทะเลลมปราณภายในจุดตันเถียน และเส้นชีพจรได้ถูกพลังลมปราณเติมเต็มอีกครั้ง

        หลู่เส่าโหย่วเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อสัมผัสถึงพลังลมปราณภายในร่างของตัวเองในตอนนี้ ภายใต้ทักษะวิญญาณหยินหยางที่วิปริต ตัวเขาก็ได้ทะลวงสู่ระดับนักรบขั้นหนึ่งแล้ว

        “จะทะลวงแล้วอย่างนั้นหรือ” ในตอนนี้เอง หลู่เส่าโหย่วก็เหยียดยิ้มที่มุมปากอีกครั้ง เขาสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณที่วนเวียนอยู่ภายในจิตใจมาเป็นเวลานานกำลังเริ่มผันผวนขึ้นมา

        หลังจากนั้น ท่าประทับในมือของหลู่เส่าโหย่วก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย พลังวิญญาณที่มีชีวิตชีวาในจิตใจเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ดูเหมือนว่ามันจะชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ

        จากนั้นครู่หนึ่ง หลู่เส่าโหย่วสัมผัสได้อย่างชัดเจน พลังวิญญาณภายในจิตใจของเขากับพื้นที่โดยรอบเกิดความผันผวนที่ลึกลับจนมองไม่เห็น

        ภายในพื้นที่โดยรอบ พลังงานที่มองไม่เห็นได้เริ่มไหลเข้าไปภายในจิตใจของหลู่เส่าโหย่ว ตัวเขาสามารถสัมผัสได้ว่า พลังที่มองไม่เห็นนี้เหมือนจะเป็นพลังระหว่างฟ้าดินชนิดหนึ่ง ผลของพลังชนิดนี้ทำให้พลังวิญญาณภายในจิตใจของเขาขยายตัวอย่างรวดเร็ว

        ขณะที่พลังวิญญาณกำลังขยายตัว หลู่เส่าโหย่วก็รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย แต่ในเวลานี้ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขาก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว ทั้งที่คลุมเครือและมองไม่เห็นเขาก็ยังสามารถสอดส่องได้อย่างชัดเจน

        “ซือ…”

        มีเสียงที่ชัดเจนดังขึ้นในจิตใจของหลู่เส่าโหย่ว จากนั้นพลังวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ก็ได้ห่อหุ้มร่างกายของเขาทั้งหมด และท้ายที่สุดก็ถูกดูดซับกลับไป หลู่เส่าโหย่วรู้สึกว่าพลังวิญญาณภายในจิตใจของเขาใหญ่ขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ทั่วร่างรู้สึกสบายสุดจะพรรณนา

        “ฟู่ว…” เขาพ่นอากาศที่ขุ่นมัวออกมาจากร่างกาย เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังลมปราณและพลังวิญญาณที่มีอยู่มากมายภายในร่างกายและจิตใจ ก็ทำให้เกิดรอยยิ้มขึ้นบนมุมปากของหลู่เส่าโหย่ว

        “ทะลวงระดับแล้ว ถือว่าเร็วเสียจริง” บนยอดเขาที่ห่างไกล ลุงหนานได้เผยรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย และจากนั้นชายชราก็หายตัวไป เรื่องทั้งหมดนี้ หลู่เส่าโหย่วไม่รู้เลยสักนิด

        หลู่เส่าโหย่วนั่งขัดสมาธิต่อไป เขาสงบจิตใจและหลับตาทั้งสองข้างลง และจากนั้นก็ได้สอดส่องภายในร่างกายของตัวเอง ภายในทะเลลมปราณภายในตันเถียนของเขาในตอนนี้ พื้นที่ด้านในได้ขยายใหญ่ขึ้นอย่างมาก และภายในนั้นก็มีกลุ่มอากาศธาตุที่ดูแวววาวกำลังหมุนวนอย่างช้าๆ นั่นคือพลังลมปราณภายในร่างของเขาเอง

        และเมื่อเขาสอดส่องเข้าไปภายในจิตใจ หลู่เส่าโหย่วก็ค้นพบว่าในจิตใจของเขานั้นมีการคงอยู่ของพื้นที่ที่เหมือนช่องว่างของทะเลอากาศ เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน เขาก็พบว่ามีพลังวิญญาณที่ใหญ่โตกว่าเดิมหลายเท่ากำลังยึดมั่นอยู่ข้างใน

        จิตใจได้ควบคุมพลังลมปราณภายในทะเลลมปราณ พลังลมปราณสีกากีได้ถูกรวมตัวอย่างรวดเร็วบนฝ่ามือขวาของเขา และในเวลาเดียวกัน พลังวิญญาณก็ได้รวมตัวกันเป็นเปลวเพลิงเล็กๆ ที่สั่นไหวไปมาอยู่บนฝ่ามือข้างซ้าย

 

        “ในที่สุดก็ทะลวงระดับเสียที” หลู่เส่าโหย่วยิ้มเล็กน้อย ในรูม่านตาสีดำมีประกายแสงวาบขึ้นมา และค่อยๆ จางหายไปภายในเวลาไม่กี่วินาที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จิตวิญญาณเทพยุทธ์สยบเทวะ 25 ทะลวงระดับ

Now you are reading จิตวิญญาณเทพยุทธ์สยบเทวะ Chapter 25 ทะลวงระดับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        หลู่เส่าโหย่วสูดลมหายใจเข้าอย่างช้าๆ และหยิบขวดหยกออกมาจากแหวนมิติของเขา จากนั้นยาเสริมพลังก็ปรากฏขึ้นในมือ เขารู้ว่าหากพลังลมปราณในตัวเขาได้ทะลวงขึ้นอีกขั้น เขาก็จะสามารถทะลวงระดับนักรบแล้ว เมื่อถึงตอนนั้น ระดับของผู้ฝึกวิญญาณของเขาก็จะทะลวงด้วยอย่างแน่นอน

        หลู่เส่าโหย่วยิ้มเล็กน้อย มองดูโอสถที่อยู่ในมือ ตัวเขาในตอนนี้ หากจะหลอมโอสถเสริมพลังสักเม็ดก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย หลังจากดมกลิ่นที่หอมสดชื่นของมัน หลู่เส่าโหย่วก็โยนโอสถเสริมพลังเข้าไปในปากโดยไม่ลังเล

        เมื่อกินโอสถเสริมพลังเข้าไป หลู่เส่าโหย่วก็สัมผัสได้ว่ามีพลังความร้อนที่บริสุทธิ์กำลังพลุ่งพล่านอยู่ภายในตัวเขา ทันใดนั้น หลู่เส่าโหย่วก็ได้โคจรทักษะวิญญาณหยินหยางทันที

        พลังงานที่บริสุทธิ์นี้ หลู่เส่าโหย่วเคยชินกับมันมานานแล้ว ตอนแรกเริ่ม พลังงานที่บริสุทธิ์นี้สามารถทำให้เขาทะลวงได้ถึงสองขั้นเล็ก แต่ในภายหลัง มันสามารถทะลวงได้ขั้นเดียว และหลังจากนั้นอีก มันก็ทำให้พลังเพิ่มขึ้นเพียงครึ่งขั้นเท่านั้น

        เมื่อรวมกับเม็ดนี้ ตั้งแต่ระดับสาวกขั้นหนึ่งถึงขั้นเก้า หลู่เส่าโหย่วก็ได้ใช้โอสถเสริมพลังไปทั้งหมดเจ็ดเม็ดแล้ว คิดเป็นสามร้อยห้าสิบเหรียญทอง ยังดีที่ตอนนี้เขายังมีวิธีหาเงิน ไม่เช่นนั้นเขาได้แย่แน่

        สามร้อยห้าสิบเหรียญทองไม่ใช่ตัวเลขที่น้อยเลย แต่ถ้าหากผู้อื่นรู้ว่าเงินสามร้อยห้าสิบเหรียญทองนี้สามารถทำให้พวกรุ่นเยาว์ในตระกูลที่มีระดับสาวกทะลวงถึงระดับนักรบได้ล่ะก็ คาดว่าทุกคนในตระกูลคงจะนำมันไปให้รุ่นเยาว์ทั้งหมดในตระกูลเพื่อที่จะทะลวงให้ถึงระดับนักรบ

        หลังจากสงบจิตใจลงอย่างช้าๆ มือทั้งสองข้างของหลู่เส่าโหย่วก็ได้ทับซ้อนกันจนเป็นท่าประทับ การหายใจของเขามั่นคงขึ้นเรื่อยๆ และลมปราณภายในร่างก็เริ่มดูดซับผลของโอสถเสริมพลังขึ้นมา

        เบื้องหน้าบนยอดเขาแห่งหนึ่งได้ปรากฏร่างของลุงหนานอยู่บนนั้น เขากำลังจับจ้องมาที่หลู่เส่าโหย่วและกล่าวพึมพำ “ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน ก็ได้ทะลวงระดับนักรบอีกครั้ง ร่างกายหยินหยางนั้นน่าเหลือเชื่อจริงๆ”

        ไม่รู้ว่าระยะเวลาผ่านไปนานแค่ไหน สามชั่วยาม หรือว่าสี่ชั่วยาม อากาศรอบข้างที่สงบได้เกิดความผันผวนขึ้นมา ระลอกของลมปราณที่ผันผวนได้ทะลุผ่านอากาศกระจายออกไป และท้ายที่สุดก็ล้อมรอบร่างกายของหลู่เส่าโหย่วเอาไว้

        หลู่เส่าโหย่วรู้สึกว่าเมื่อเขากำลังดูดซับพลังของโอสถเสริมพลัง พลังของมันก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นกลุ่มพลังลมปราณ เมื่อมีพลังลมปราณเหล่านี้ พลังลมปราณในร่างของเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วที่เห็นไม่ได้ด้วยตาเปล่า และภายในทะเลลมปราณในตันเถียนของเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยากจะเข้าใจ

        พลังของโอสถเสริมพลังได้ถูกปรับแต่งเป็นพลังลมปราณอย่างต่อเนื่อง มันได้ไหลผ่านเส้นชีพจนทั่วร่างของเขา และท้ายที่สุดก็เข้าสู่ทะเลลมปราณภายในตันเถียน

        ในตอนท้าย หลู่เส่าโหย่วรู้สึกว่าทะเลลมปราณในตันเถียนได้เข้าสู่สภาวะที่ดูดซับจนสมบูรณ์แล้ว แม้แต่เส้นชีพจรในร่างของเขาก็เต็มไปด้วยพลังลมปราณ

        แต่พลังงานโอสถเสริมพลังยังไม่ถูกปรับแต่งจนหมด และยังคงปรับแต่งไปเรื่อยๆ เมื่อพลังในโอสถเสริมพลังกำลังจะถูกปรับแต่งจนหมดนั้น หลู่เส่าโหย่วก็พบว่าลมปราณภายในร่างของเขาได้ถูกเติมเต็มจนถึงจุดสูงสุดแล้ว

        ใบหน้าของหลู่เส่าโหย่วได้กระตุกขึ้นมา การขยายของพลังลมปราณภายในร่างทำให้เส้นชีพจรของเขากระตุก ความเจ็บปวดนี้ทำให้หลู่เส่าโหย่วทรมาณเป็นอย่างมาก

        เหตุการณ์ทั้งหมดนี้หลู่เส่าโหย่วเคยลิ้มรสของมันมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อตอนที่เขาจะกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่แท้จริง หลังจากสูดอากาศที่สดชื่นเข้าไป ท่าประทับในมือของเขาก็เปลี่ยนไป เขาได้โคจรทักษะวิญญาณหยินหยาง ร่างกายที่เต็มไปด้วยพลังลมปราณก็ถูกกระตุ้นทันทีราวกับมีแรงดึงดูดที่รุนแรง พลังลมปราณได้หดตัวและกระแทกเข้าใส่ตำแหน่งท้องน้อยที่มีจุดตันเถียนอย่างรวดเร็ว

        พลังลมปราณเหล่านี้พุ่งเข้าสู่ทะเลลมปราณภายในตันเถียนของเขา ทันใดนั้น ทะเลลมปราณภายในตันเถียนก็ได้ถูกขยายออกอย่างรวดเร็ว ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้หลู่เส่าโหย่วหลั่งเหงื่อเย็นออกมา

        หลู่เส่าโหย่วได้แต่อดทนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขารู้ว่าตัวเองในตอนนี้กำลังจะทะลวงระดับ ในเวลาเดียวกันนั้นเขาก็ได้ควบคุมพลังลมปราณทั้งหมดในชีพจรให้หดตัว และบีบอัดเข้าไปในทะเลลมปราณอย่างรุนแรง

        “ปัง!”

        เสียงอู้อี้เบาๆ ดังขึ้นจากภายในทะเลลมปราณในตันเถียน หลู่เส่าโหย่วรู้สึกว่าภายในร่างของเขารู้สึกสบายสุดจะพรรณนา พลังลมปราณมีมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าในทะเลลมปราณภายในจุดตันเถียน และเส้นชีพจรได้ถูกพลังลมปราณเติมเต็มอีกครั้ง

        หลู่เส่าโหย่วเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อสัมผัสถึงพลังลมปราณภายในร่างของตัวเองในตอนนี้ ภายใต้ทักษะวิญญาณหยินหยางที่วิปริต ตัวเขาก็ได้ทะลวงสู่ระดับนักรบขั้นหนึ่งแล้ว

        “จะทะลวงแล้วอย่างนั้นหรือ” ในตอนนี้เอง หลู่เส่าโหย่วก็เหยียดยิ้มที่มุมปากอีกครั้ง เขาสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณที่วนเวียนอยู่ภายในจิตใจมาเป็นเวลานานกำลังเริ่มผันผวนขึ้นมา

        หลังจากนั้น ท่าประทับในมือของหลู่เส่าโหย่วก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย พลังวิญญาณที่มีชีวิตชีวาในจิตใจเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ดูเหมือนว่ามันจะชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ

        จากนั้นครู่หนึ่ง หลู่เส่าโหย่วสัมผัสได้อย่างชัดเจน พลังวิญญาณภายในจิตใจของเขากับพื้นที่โดยรอบเกิดความผันผวนที่ลึกลับจนมองไม่เห็น

        ภายในพื้นที่โดยรอบ พลังงานที่มองไม่เห็นได้เริ่มไหลเข้าไปภายในจิตใจของหลู่เส่าโหย่ว ตัวเขาสามารถสัมผัสได้ว่า พลังที่มองไม่เห็นนี้เหมือนจะเป็นพลังระหว่างฟ้าดินชนิดหนึ่ง ผลของพลังชนิดนี้ทำให้พลังวิญญาณภายในจิตใจของเขาขยายตัวอย่างรวดเร็ว

        ขณะที่พลังวิญญาณกำลังขยายตัว หลู่เส่าโหย่วก็รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย แต่ในเวลานี้ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขาก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว ทั้งที่คลุมเครือและมองไม่เห็นเขาก็ยังสามารถสอดส่องได้อย่างชัดเจน

        “ซือ…”

        มีเสียงที่ชัดเจนดังขึ้นในจิตใจของหลู่เส่าโหย่ว จากนั้นพลังวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ก็ได้ห่อหุ้มร่างกายของเขาทั้งหมด และท้ายที่สุดก็ถูกดูดซับกลับไป หลู่เส่าโหย่วรู้สึกว่าพลังวิญญาณภายในจิตใจของเขาใหญ่ขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ทั่วร่างรู้สึกสบายสุดจะพรรณนา

        “ฟู่ว…” เขาพ่นอากาศที่ขุ่นมัวออกมาจากร่างกาย เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังลมปราณและพลังวิญญาณที่มีอยู่มากมายภายในร่างกายและจิตใจ ก็ทำให้เกิดรอยยิ้มขึ้นบนมุมปากของหลู่เส่าโหย่ว

        “ทะลวงระดับแล้ว ถือว่าเร็วเสียจริง” บนยอดเขาที่ห่างไกล ลุงหนานได้เผยรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย และจากนั้นชายชราก็หายตัวไป เรื่องทั้งหมดนี้ หลู่เส่าโหย่วไม่รู้เลยสักนิด

        หลู่เส่าโหย่วนั่งขัดสมาธิต่อไป เขาสงบจิตใจและหลับตาทั้งสองข้างลง และจากนั้นก็ได้สอดส่องภายในร่างกายของตัวเอง ภายในทะเลลมปราณภายในตันเถียนของเขาในตอนนี้ พื้นที่ด้านในได้ขยายใหญ่ขึ้นอย่างมาก และภายในนั้นก็มีกลุ่มอากาศธาตุที่ดูแวววาวกำลังหมุนวนอย่างช้าๆ นั่นคือพลังลมปราณภายในร่างของเขาเอง

        และเมื่อเขาสอดส่องเข้าไปภายในจิตใจ หลู่เส่าโหย่วก็ค้นพบว่าในจิตใจของเขานั้นมีการคงอยู่ของพื้นที่ที่เหมือนช่องว่างของทะเลอากาศ เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน เขาก็พบว่ามีพลังวิญญาณที่ใหญ่โตกว่าเดิมหลายเท่ากำลังยึดมั่นอยู่ข้างใน

        จิตใจได้ควบคุมพลังลมปราณภายในทะเลลมปราณ พลังลมปราณสีกากีได้ถูกรวมตัวอย่างรวดเร็วบนฝ่ามือขวาของเขา และในเวลาเดียวกัน พลังวิญญาณก็ได้รวมตัวกันเป็นเปลวเพลิงเล็กๆ ที่สั่นไหวไปมาอยู่บนฝ่ามือข้างซ้าย

 

        “ในที่สุดก็ทะลวงระดับเสียที” หลู่เส่าโหย่วยิ้มเล็กน้อย ในรูม่านตาสีดำมีประกายแสงวาบขึ้นมา และค่อยๆ จางหายไปภายในเวลาไม่กี่วินาที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จิตวิญญาณเทพยุทธ์สยบเทวะ 25 ทะลวงระดับ

Now you are reading จิตวิญญาณเทพยุทธ์สยบเทวะ Chapter 25 ทะลวงระดับ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

        หลู่เส่าโหย่วสูดลมหายใจเข้าอย่างช้าๆ และหยิบขวดหยกออกมาจากแหวนมิติของเขา จากนั้นยาเสริมพลังก็ปรากฏขึ้นในมือ เขารู้ว่าหากพลังลมปราณในตัวเขาได้ทะลวงขึ้นอีกขั้น เขาก็จะสามารถทะลวงระดับนักรบแล้ว เมื่อถึงตอนนั้น ระดับของผู้ฝึกวิญญาณของเขาก็จะทะลวงด้วยอย่างแน่นอน

        หลู่เส่าโหย่วยิ้มเล็กน้อย มองดูโอสถที่อยู่ในมือ ตัวเขาในตอนนี้ หากจะหลอมโอสถเสริมพลังสักเม็ดก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย หลังจากดมกลิ่นที่หอมสดชื่นของมัน หลู่เส่าโหย่วก็โยนโอสถเสริมพลังเข้าไปในปากโดยไม่ลังเล

        เมื่อกินโอสถเสริมพลังเข้าไป หลู่เส่าโหย่วก็สัมผัสได้ว่ามีพลังความร้อนที่บริสุทธิ์กำลังพลุ่งพล่านอยู่ภายในตัวเขา ทันใดนั้น หลู่เส่าโหย่วก็ได้โคจรทักษะวิญญาณหยินหยางทันที

        พลังงานที่บริสุทธิ์นี้ หลู่เส่าโหย่วเคยชินกับมันมานานแล้ว ตอนแรกเริ่ม พลังงานที่บริสุทธิ์นี้สามารถทำให้เขาทะลวงได้ถึงสองขั้นเล็ก แต่ในภายหลัง มันสามารถทะลวงได้ขั้นเดียว และหลังจากนั้นอีก มันก็ทำให้พลังเพิ่มขึ้นเพียงครึ่งขั้นเท่านั้น

        เมื่อรวมกับเม็ดนี้ ตั้งแต่ระดับสาวกขั้นหนึ่งถึงขั้นเก้า หลู่เส่าโหย่วก็ได้ใช้โอสถเสริมพลังไปทั้งหมดเจ็ดเม็ดแล้ว คิดเป็นสามร้อยห้าสิบเหรียญทอง ยังดีที่ตอนนี้เขายังมีวิธีหาเงิน ไม่เช่นนั้นเขาได้แย่แน่

        สามร้อยห้าสิบเหรียญทองไม่ใช่ตัวเลขที่น้อยเลย แต่ถ้าหากผู้อื่นรู้ว่าเงินสามร้อยห้าสิบเหรียญทองนี้สามารถทำให้พวกรุ่นเยาว์ในตระกูลที่มีระดับสาวกทะลวงถึงระดับนักรบได้ล่ะก็ คาดว่าทุกคนในตระกูลคงจะนำมันไปให้รุ่นเยาว์ทั้งหมดในตระกูลเพื่อที่จะทะลวงให้ถึงระดับนักรบ

        หลังจากสงบจิตใจลงอย่างช้าๆ มือทั้งสองข้างของหลู่เส่าโหย่วก็ได้ทับซ้อนกันจนเป็นท่าประทับ การหายใจของเขามั่นคงขึ้นเรื่อยๆ และลมปราณภายในร่างก็เริ่มดูดซับผลของโอสถเสริมพลังขึ้นมา

        เบื้องหน้าบนยอดเขาแห่งหนึ่งได้ปรากฏร่างของลุงหนานอยู่บนนั้น เขากำลังจับจ้องมาที่หลู่เส่าโหย่วและกล่าวพึมพำ “ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน ก็ได้ทะลวงระดับนักรบอีกครั้ง ร่างกายหยินหยางนั้นน่าเหลือเชื่อจริงๆ”

        ไม่รู้ว่าระยะเวลาผ่านไปนานแค่ไหน สามชั่วยาม หรือว่าสี่ชั่วยาม อากาศรอบข้างที่สงบได้เกิดความผันผวนขึ้นมา ระลอกของลมปราณที่ผันผวนได้ทะลุผ่านอากาศกระจายออกไป และท้ายที่สุดก็ล้อมรอบร่างกายของหลู่เส่าโหย่วเอาไว้

        หลู่เส่าโหย่วรู้สึกว่าเมื่อเขากำลังดูดซับพลังของโอสถเสริมพลัง พลังของมันก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นกลุ่มพลังลมปราณ เมื่อมีพลังลมปราณเหล่านี้ พลังลมปราณในร่างของเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วที่เห็นไม่ได้ด้วยตาเปล่า และภายในทะเลลมปราณในตันเถียนของเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยากจะเข้าใจ

        พลังของโอสถเสริมพลังได้ถูกปรับแต่งเป็นพลังลมปราณอย่างต่อเนื่อง มันได้ไหลผ่านเส้นชีพจนทั่วร่างของเขา และท้ายที่สุดก็เข้าสู่ทะเลลมปราณภายในตันเถียน

        ในตอนท้าย หลู่เส่าโหย่วรู้สึกว่าทะเลลมปราณในตันเถียนได้เข้าสู่สภาวะที่ดูดซับจนสมบูรณ์แล้ว แม้แต่เส้นชีพจรในร่างของเขาก็เต็มไปด้วยพลังลมปราณ

        แต่พลังงานโอสถเสริมพลังยังไม่ถูกปรับแต่งจนหมด และยังคงปรับแต่งไปเรื่อยๆ เมื่อพลังในโอสถเสริมพลังกำลังจะถูกปรับแต่งจนหมดนั้น หลู่เส่าโหย่วก็พบว่าลมปราณภายในร่างของเขาได้ถูกเติมเต็มจนถึงจุดสูงสุดแล้ว

        ใบหน้าของหลู่เส่าโหย่วได้กระตุกขึ้นมา การขยายของพลังลมปราณภายในร่างทำให้เส้นชีพจรของเขากระตุก ความเจ็บปวดนี้ทำให้หลู่เส่าโหย่วทรมาณเป็นอย่างมาก

        เหตุการณ์ทั้งหมดนี้หลู่เส่าโหย่วเคยลิ้มรสของมันมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อตอนที่เขาจะกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่แท้จริง หลังจากสูดอากาศที่สดชื่นเข้าไป ท่าประทับในมือของเขาก็เปลี่ยนไป เขาได้โคจรทักษะวิญญาณหยินหยาง ร่างกายที่เต็มไปด้วยพลังลมปราณก็ถูกกระตุ้นทันทีราวกับมีแรงดึงดูดที่รุนแรง พลังลมปราณได้หดตัวและกระแทกเข้าใส่ตำแหน่งท้องน้อยที่มีจุดตันเถียนอย่างรวดเร็ว

        พลังลมปราณเหล่านี้พุ่งเข้าสู่ทะเลลมปราณภายในตันเถียนของเขา ทันใดนั้น ทะเลลมปราณภายในตันเถียนก็ได้ถูกขยายออกอย่างรวดเร็ว ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้หลู่เส่าโหย่วหลั่งเหงื่อเย็นออกมา

        หลู่เส่าโหย่วได้แต่อดทนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขารู้ว่าตัวเองในตอนนี้กำลังจะทะลวงระดับ ในเวลาเดียวกันนั้นเขาก็ได้ควบคุมพลังลมปราณทั้งหมดในชีพจรให้หดตัว และบีบอัดเข้าไปในทะเลลมปราณอย่างรุนแรง

        “ปัง!”

        เสียงอู้อี้เบาๆ ดังขึ้นจากภายในทะเลลมปราณในตันเถียน หลู่เส่าโหย่วรู้สึกว่าภายในร่างของเขารู้สึกสบายสุดจะพรรณนา พลังลมปราณมีมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าในทะเลลมปราณภายในจุดตันเถียน และเส้นชีพจรได้ถูกพลังลมปราณเติมเต็มอีกครั้ง

        หลู่เส่าโหย่วเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อสัมผัสถึงพลังลมปราณภายในร่างของตัวเองในตอนนี้ ภายใต้ทักษะวิญญาณหยินหยางที่วิปริต ตัวเขาก็ได้ทะลวงสู่ระดับนักรบขั้นหนึ่งแล้ว

        “จะทะลวงแล้วอย่างนั้นหรือ” ในตอนนี้เอง หลู่เส่าโหย่วก็เหยียดยิ้มที่มุมปากอีกครั้ง เขาสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณที่วนเวียนอยู่ภายในจิตใจมาเป็นเวลานานกำลังเริ่มผันผวนขึ้นมา

        หลังจากนั้น ท่าประทับในมือของหลู่เส่าโหย่วก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย พลังวิญญาณที่มีชีวิตชีวาในจิตใจเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ดูเหมือนว่ามันจะชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ

        จากนั้นครู่หนึ่ง หลู่เส่าโหย่วสัมผัสได้อย่างชัดเจน พลังวิญญาณภายในจิตใจของเขากับพื้นที่โดยรอบเกิดความผันผวนที่ลึกลับจนมองไม่เห็น

        ภายในพื้นที่โดยรอบ พลังงานที่มองไม่เห็นได้เริ่มไหลเข้าไปภายในจิตใจของหลู่เส่าโหย่ว ตัวเขาสามารถสัมผัสได้ว่า พลังที่มองไม่เห็นนี้เหมือนจะเป็นพลังระหว่างฟ้าดินชนิดหนึ่ง ผลของพลังชนิดนี้ทำให้พลังวิญญาณภายในจิตใจของเขาขยายตัวอย่างรวดเร็ว

        ขณะที่พลังวิญญาณกำลังขยายตัว หลู่เส่าโหย่วก็รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย แต่ในเวลานี้ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขาก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว ทั้งที่คลุมเครือและมองไม่เห็นเขาก็ยังสามารถสอดส่องได้อย่างชัดเจน

        “ซือ…”

        มีเสียงที่ชัดเจนดังขึ้นในจิตใจของหลู่เส่าโหย่ว จากนั้นพลังวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ก็ได้ห่อหุ้มร่างกายของเขาทั้งหมด และท้ายที่สุดก็ถูกดูดซับกลับไป หลู่เส่าโหย่วรู้สึกว่าพลังวิญญาณภายในจิตใจของเขาใหญ่ขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ทั่วร่างรู้สึกสบายสุดจะพรรณนา

        “ฟู่ว…” เขาพ่นอากาศที่ขุ่นมัวออกมาจากร่างกาย เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังลมปราณและพลังวิญญาณที่มีอยู่มากมายภายในร่างกายและจิตใจ ก็ทำให้เกิดรอยยิ้มขึ้นบนมุมปากของหลู่เส่าโหย่ว

        “ทะลวงระดับแล้ว ถือว่าเร็วเสียจริง” บนยอดเขาที่ห่างไกล ลุงหนานได้เผยรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย และจากนั้นชายชราก็หายตัวไป เรื่องทั้งหมดนี้ หลู่เส่าโหย่วไม่รู้เลยสักนิด

        หลู่เส่าโหย่วนั่งขัดสมาธิต่อไป เขาสงบจิตใจและหลับตาทั้งสองข้างลง และจากนั้นก็ได้สอดส่องภายในร่างกายของตัวเอง ภายในทะเลลมปราณภายในตันเถียนของเขาในตอนนี้ พื้นที่ด้านในได้ขยายใหญ่ขึ้นอย่างมาก และภายในนั้นก็มีกลุ่มอากาศธาตุที่ดูแวววาวกำลังหมุนวนอย่างช้าๆ นั่นคือพลังลมปราณภายในร่างของเขาเอง

        และเมื่อเขาสอดส่องเข้าไปภายในจิตใจ หลู่เส่าโหย่วก็ค้นพบว่าในจิตใจของเขานั้นมีการคงอยู่ของพื้นที่ที่เหมือนช่องว่างของทะเลอากาศ เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน เขาก็พบว่ามีพลังวิญญาณที่ใหญ่โตกว่าเดิมหลายเท่ากำลังยึดมั่นอยู่ข้างใน

        จิตใจได้ควบคุมพลังลมปราณภายในทะเลลมปราณ พลังลมปราณสีกากีได้ถูกรวมตัวอย่างรวดเร็วบนฝ่ามือขวาของเขา และในเวลาเดียวกัน พลังวิญญาณก็ได้รวมตัวกันเป็นเปลวเพลิงเล็กๆ ที่สั่นไหวไปมาอยู่บนฝ่ามือข้างซ้าย

 

        “ในที่สุดก็ทะลวงระดับเสียที” หลู่เส่าโหย่วยิ้มเล็กน้อย ในรูม่านตาสีดำมีประกายแสงวาบขึ้นมา และค่อยๆ จางหายไปภายในเวลาไม่กี่วินาที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+