ตกหลุมร้าย! ยากูซ่าพ่อลูกติด 3-1

Now you are reading ตกหลุมร้าย! ยากูซ่าพ่อลูกติด Chapter 3-1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มินจุนสุดแสนจะสุขใจ เมื่อโทมะนำสมุดวาดภาพที่มีรูปคนหัวกลมๆ เหมือนมันฝรั่งและมีแท่งแหลมๆ เหมือนหนวดเต็มตัวเดินเข้ามาหาแล้วบอกว่า”นี่หม่าม้า” หากคิดจะตั้งชื่อให้เจ้าตัวประหลาดในภาพนี้ ก็คงจะเป็นเม่นหรือเปล่านะ

เราดูเหมือนเม่นงั้นเหรอ เคยได้ยินคนบอกว่าเหมือนกระรอกอยู่เหมือนกัน แต่เม่นนี่ไม่น่าใช่นะ…

พอเห็นร่างบางนั่งจ้องสมุดวาดภาพครู่หนึ่งโดยไม่พูดอะไร เด็กน้อยจึงดึงแขนมินจุนแล้วเอ่ยถาม

“หม่าม้า ฉ๋วยมั้ย”

“โทมะ เอ่อ… นี่หม่าม้าจริงๆ เหรอ”

“อื้อๆ หม่าม้า”

“แล้วแหลมๆ นี่ล่ะ”

“ไหน ไหน”

โทมะแย่งสมุดวาดภาพมาจากมืออีกคนมาวางบนหน้าตักตัวเอง ก่อนจะบอกออกไปเสียงดัง

“ใจ่เจื้อขนๆ เจื้อขนๆ”

จู่ๆ ก็รู้สึกมึนงงเหมือนโดนทุบด้วยค้อนหนักสิบตันพร้อมกับความรู้ที่ถาโถมเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว เขามองภาพวาดของโทมะ แล้วหันกลับมามองเสื้อตัวเอง เสื้อขนสัตว์ที่ใส่อยู่…

“ว้าว โทมะของเราเป็นอัจฉริยะ! ทำไงดีเนี่ย ต้องพาไปโรงเรียนกิฟต์[1]แล้วสิ ไม่ได้การแล้ว เคนตะ เคนตะครับ!”

เพราะน้ำเสียงรีบร้อนของมินจุน เคนตะจึงล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อพลางแสดงความสามารถในการกระโดดขั้นสูง ระดับที่ก้าวเพียงสามก้าวก็เข้ามาในห้องราวกับโผบิน

“เกิดอะไรขึ้นครับ!?”

“เคนตะ โทมะเป็นอัจฉริยะครับ นี่ๆ ฟังผมนะ เขาบอกว่าวาดรูปผมแล้วก็ถือสมุดมาให้ดู บอกตามตรงมันเหมือนมันฝรั่ง ไม่ก็เม่นมากกว่า ดูยังไงก็ไม่ใช่ผมใช่ไหมครับ ผมก็เลยถามไปว่าแล้วไอ้แหลมๆ นี่มันคืออะไร เนี่ย เขาตอบว่าเสื้อขนสัตว์ที่ผมใส่อยู่! โรงเรียนกิฟต์ที่ใกล้ที่สุดอยู่ไหนครับ ต้องลองพาไปสมัครสักครั้งแล้วล่ะ”

นัยน์ตาของเคนตะคล้ายมีประกายโมโหอยู่หน่อยๆ จ้องมองมินจุนด้วยใบหน้าที่สลักชัดเจนว่า ‘แค่เป็นหม่าม้าของโทมะก็พอ เรื่องพวกนั้นน่ะ ช่างมันเถอะ’ ก่อนจะมองสมุดวาดภาพที่คุณชายยกให้ดู

มันก็แค่ขนไม่กี่เส้นชี้ออกมาจากรูปวงกลม…

ทว่ามันก็ยังดีกว่าช่วงเวลาอาหารเช้าอันหม่นหมอง เคนตะเอามืออกจากปืน ก่อนจะเอ่ยกับมินจุนด้วยน้ำเสียงที่พยายามควบคุมอารมณ์ที่สุด

“พี่ใหญ่โชบอกจะทำมันเผาในสวน ออกไปดูไหมครับ”

“มันเผาเหรอ ก็ต้องออกไปสิครับ โทมะ ไปใส่เสื้อแล้วออกไปข้างนอกกันไหม ไปกินมันเผากัน”

“อื้อๆ มังเผา มังเผา อาหย่อย”

“งั้นเราไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันนะ”

หลังจากมินจุนอุ้มโทมะในท่าเครื่องบินพร้อมทำเสียงบรื้นๆ หายไปในห้องแต่งตัว เคนตะก็ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอ่านข้อความที่เพิ่งได้รับมาอีกรอบ

-การเจรจาครั้งแรกไม่สำเร็จ บอสกำลังลองอีกครั้ง-

ข้อความจากฮาคุโตะที่ตอนนี้อยู่โอซาก้า หากเป็นเช่นนี้ บอสก็น่าจะไม่สามารถกลับบ้านได้ตามกำหนด แถมไม่รู้เลยว่าจะกลับเมื่อไหร่ เคนตะถอนหายใจเพราะเริ่มเป็นห่วงมินจุน ระหว่างคอยดูแลโทมะก็อีกฝ่ายหัวเราะคิกคักสนุกสนาน แต่สักพักก็ซึมเศร้าเพราะไม่เห็นบอสมาทั้งวัน จนแสดงอารมณ์แปรปวนให้เห็น คงต้องแจ้งไว้หน่อยสินะ…

มันคือความใส่ใจจากโชที่มีให้มินจุน ชายวัยกลางคนรวบรวมกิ่งไม้แห้งมากองรวมกันแล้วจุดไฟเผาเพื่อย่างมันเทศ ท่ามกลางอากาศค่อนข้างเย็นแม้จะใกล้หมดฤดูหนาวแล้วก็ตาม แถมยังจัดปาร์ตี้บาร์บีคิวด้วย

ปาร์ตี้จัดขึ้นเพื่อคนที่แทบจะไม่แตะข้าวเช้า รวมถึงข้าวกลางวันอย่างมินจุน โทมะเองก็ไม่อยากอาหารทุกครั้งที่ป๊ะป๋าไม่อยู่เหมือนกัน

“หม่าม้า ย้อน ย้อนนน”

“ก็ร้อนสิ แล้วหนูจะถือทำไม หม่าม้ากำลังเป่าให้อยู่นี่ไง… อั่ก ร้อนนน!”

ร่างบางหยิบมันเผาร้อนมาจากมือเล็กๆ ก่อนจะกระทืบเท้าปึงปังคล้ายจะร้องไห้แล้วก็ตะโกนว่าร้อน กระโดดโหยงเหยงพลางโยนมันไปมาเป็นลูกบอล เคนตะทนดูไม่ไหวจึงหยิบมันเผาลูกนั้นไปวางบนโต๊ะ

“ทั้งสองท่านนั่งลงก่อนดีไหมครับ”

“ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ ดูแล้วตลกจะตายไป”

โชพลิกเนื้อบนเตาแล้วพูดกับเคนตะ ทว่ามินจุนกลับลุกพรวดขึ้นประท้วงทันที

“เดี๋ยวนะ ลุงโชกะจะยืนมองพวกเรามือพองอย่างเดียวเลยเหรอ”

“โธ่ๆ คุณหนูโกรธซะแล้ว แค่บอกว่าตลกเฉยๆ เอง”

“ผมไม่ใช่คุณหนูนะ! เป็นผู้ชายมีไอ้นั่น ไอ้นั่นน่ะ เอาให้ดูไหม จะดูไหมXXของผมอะ!”

“XXอะไร! พอเลย! ฉันไม่อยากโดนบอสฆ่าตายหรอกนะ”

“ดะ ดะ ไดกิเกี่ยวอะไรด้วย ตลกจริงๆ เลย เอ้อ โทมะ เรามานั่งกิน… อ๊าก! ทำอะไรน่ะโทมะ”

ใบหน้าแดงเถือกขึ้นมาราวกับถ่านติดไฟ พอหันหน้าไปมองเด็กน้อย เขาก็โวยวายออกมาอย่างตกตะลึง เพราะโทมะดึงกางเกงของตัวเองลงมาหมด รวมถึงกางเกงในด้วย

มินจุนรีบดึงกางเกงขึ้นให้อย่างว่องไว พลางเอ่ยถามโทมะตาโต

“ถอดทำไม ปวดฉี่เหรอ”

“โทมะเปงผู้ชาย มีจุ้ดจู๋”

“ใช่แล้ว โทมะก็ต้องเป็นผู้ชายสิ! แต่จะเอาไปโชว์คนอื่นตามใจชอบไม่ได้นะ หม่าม้าเคยบอกแล้วนี่นา ยิ่งกับพวกลุงๆ ที่อยู่ตรงนี้ โดยเฉพาะลุงโชน่ะ ไม่ได้เลยเด็ดขาด!”

“เฮ้ยๆ มากไปไหม ฉันไม่ใช่โชตะค่อน[2]นะ”

“หึ ก็ไม่รู้สิครับ ผมจะไปรู้ได้ไงล่ะ”

“แต่เดี๋ยวนะ ไม่ใช่ว่าท่านโทมะทราบอยู่แล้วเหรอ ว่าหม่าม้าก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน แล้วทำไมถึงยังเรียกหม่าม้าล่ะ”

โชคีบเนื้อออกมาจากเตา ผ่านช่วงชีวิตของยากูซ่ามากว่าครึ่งชีวิต ก็ยิ่งดูคล้ายกับปฏิกิริยาตอบสนองของสัตว์ป่า กวาดมองทุกคนแล้วคีบเนื้อบนโต๊ะใส่ปาก

“นั่นสิ ก็อาบน้ำด้วยกันทุกวัน…”

มินจุนเองก็รู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ สักอย่างพลางเอียงคอไปมา

“โทมะ ทำไมหม่าม้าถึงเป็นหม่าม้าล่ะ”

เด็กน้อยยู่ปากเหมือนคิดอะไรบางอย่างกับคำถามของมินจุน ก่อนจะวิ่งไปยื่นมือขอโทรศัพท์มือถือจากเคนตะ

“เคงตะ ขอโทสับโหน่ย”

“โทรศัพท์? ของท่านโทมะอยู่ในห้อง ให้ผมไปเอาให้ไหมครับ”

“งื้อออ มะใช่ ของเคงตะ”

“ของผมเหรอครับ”

เคนตะจึงหยิบโทรศัพท์มือถือตัวเองออกมาจากกระเป๋ากางเกง ปลดล็อครหัสแล้วส่งให้คุณชาย โทมะจิ้มเข้าไปที่แกลอรี่แล้วเลื่อนภาพในนั้นไปเรื่อยๆ อันที่จริงมันก็เป็นแค่การกระทำของเด็กๆ แต่เด็กน้อยคนนี้เป็นใครกันล่ะ บอสรุ่นถัดไปของกลุ่มอูเอยามะเชียวนะ ทุกคนต่างทำตาวาวพากันมารุมล้อมโทมะ

หลังจากเลื่อนหารูปอยู่ครู่หนึ่ง โทมะก็ยกมือถือขึ้นมาแล้วตะโกนเสียงดัง

“อังนี้ๆ ดูจิ ดู~”

มินจุนมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่เด็กชายยื่นมาให้ ก่อนจะตกใจจนแทบทำมันตกพื้น บนหน้าจอมีภาพของเขาสวมชุดเมดในงานเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงของมหาวิทยาลัย กำลังยืนประชาสัมพันธ์ชมรมอยู่ตรงหน้าประตูใหญ่ ถึงจะหลุดโฟกัสไปนิดหน่อย แต่มันคือตัวเขาแน่นอน โทมะใช้นิ้วป้อมๆ เลื่อนภาพอื่นให้ดูอีก นั่นมันเขาเลยนี่นา รูปอื่นก็ด้วย… ร่างบางเลยถลึงตาจ้องเคนตะเขม็ง

“คุณเคนตะ นี่มันอะไรกับครับ คุณเป็นสตอล์กเกอร์เหรอครับ”

“พูดอะไรของท่านมินจุนครับ”

พอเจอคำว่าสตอล์กเกอร์เข้าไป ใบหน้าสุขุมนุ่มนวลก็ไม่อาจปกปิดความโกรธเคืองไว้ได้ เคนจะแย่งโทรศัพท์คืนมาจากมือมินจุน

“ภาพพวกนี้… ผมไม่ได้เป็นคนถ่ายครับ บางครั้งเวลารถติด ท่านโทมะก็จะเอามือถือผมไปเล่น… ไม่ใช่ว่าถ่ายมาตอนนั้นเหรอครับ”

“พูดอะไรที่มันเป็นไปได้หน่อยสิครับ เด็กอายุสามขวบจะไป…”

“โทมะถ่ายเองๆ หม่าม้า โทมะถ่ายยย”

ไม่รู้ว่าโทมะสนุกสนานอะไร ถึงเอาแต่วิ่งวนไปรอบๆ พลางร้องตะโกนว่าตัวเองเป็นคนถ่าย บางทีมินจุนอาจจะเข้าไปจับจองพื้นที่ในหัวใจของเด็กน้อยในฐานะหม่าม้าตั้งแต่ตอนนั้นแล้วก็เป็นได้

“หม่าม้าฉ๋วยมะ โทมะถ่ายเองฮับ”

คนตัวเล็กมองโทมะจับแขนตัวเองหมุนติ้วๆ เป็นวงกลมหัวเราะสนุกสนานเสียงดัง ประทับใจกับความจริงที่ว่าเขามีตัวตนอยู่ในใจของเด็กคนนี้มาเนิ่นนานแล้ว ก่อนจะคว้าตัวหมับดึงเข้ามากอดทั้งๆ ที่น้ำตาไหลพราก

“โทมะ หม่าม้ารักหนูมากๆ เลย”

“อื้อ โทมะโด้ย ยักเท่าฟ้า ยักเท่าแผ่งดิงเยย ยักหม่าม้ามั่กๆ ยักป๊ะป๋าโด้ยฮับ”

ทันทีที่คำว่าป๊ะป๋าออกมาจากปากของโทมะ ความเป็นห่วงที่เพิ่งสงบลงไปชั่วครู่ก็ถาโถมกลับเข้ามาราวกับคลื่นซัด มินจุนทรุดตัวลงกับพื้นแล้วร้องไห้โฮ

“ฮือออ! ไม่มีคุณสมบัติความเป็นแม่เลยเรา… จะเป็นแบบนี้ไม่ได้นะ แต่น้ำตาก็ไม่ยอมหยุดไหลสักทีอะ ขอโทษนะโทมะ หม่าม้าขอร้องไห้แค่แป๊บเดียว”

จากนั้นปาร์ตี้บาร์บีคิวก็กลายเป็นเป็นปาร์ตี้น้ำตา ทุกคนในที่นี้ล้วนคิดว่ามันไม่ถูกต้อง ถึงจะประทับใจขนาดไหน แต่มันถึงขั้นต้องร้องไห้งอแงแบบนี้เลยเหรอ ต่างคนต่างก็สบสายตากัน ก่อนจะมองไปทางเนื้อย่างที่เริ่มเย็นแล้วด้วยความเสียดาย

[1] โรงเรียนกิฟต์ โรงเรียนสำหรับเด็กที่มีความสามารถ

[2] โชตะค่อน กลุ่มคนชื่นชอบเด็กผู้ชายอายุน้อย ไร้เดียงสา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด