ตกหลุมร้าย! ยากูซ่าพ่อลูกติด 3-3

Now you are reading ตกหลุมร้าย! ยากูซ่าพ่อลูกติด Chapter 3-3 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

วันนี้เสียงลมหายใจของโทมะไม่สามารถทำให้จิตใจของมินจุนสงบได้ มีแสงสว่างวาบผ่านหน้าต่างอีกครั้ง คงจะมีฟ้าผ่าที่ไหนสักแห่งหลังได้ยินเสียงฟ้าร้องแว่วๆ ร่างบางลุกขึ้นจากเตียงพลางมองไปทางหน้าต่างที่มีตุ๊กตาทำจากผ้ามีแต่หัว รูปร่างเหมือนวิญญาณห้อยอยู่ราวกับหยดน้ำ… ขอให้วันต่อไปสดชื่นแจ่มใสเป็นสองเท่า อย่าได้มีฝนตกหนักเท่าวันนี้อีกเลย ทว่าคำขอของเขาดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์เอาเสียเลย

ตอนนี้มันล่วงเลยเกินจากเวลาที่ไดกิสัญญาไว้กว่าสองชั่วโมงแล้ว

ยากูซ่านี่ชอบผิดนัดเหรอ ง่ายๆ แบบนี้เลยหรือไง ตอนเย็นเราอุตส่าห์นั่งเหม่อกินข้าวไม่ได้ อยากให้ผ่านสองชั่วโมงไปเร็วๆ ถึงขั้นไปเรียกเคนตะมานั่งทำตุ๊กตาไล่ฝนทั้งๆ ที่ไม่อยากทำ เอามันไปติดทุกที่ที่เป็นหน้าต่าง แต่พอตกดึกแล้วมันเหมือนผีชายโสดเลยอะ… ไดกิโทรหากันหน่อยสิ

ตอนนี้ที่โตเกียวเป็นช่วงหน้าแล้ง ต้องมีใครทำตุ๊กตาขอฝนตัวใหญ่จำนวนมากมาห้อยไว้แน่ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีเหตุผลอะไรมาขัดขวางคำอธิฐานอย่างเอาเป็นเอาตายยิ่งกว่าตอนขอให้สอบซูนึง[1]ผ่านแบบนี้หรอก มินจุนคิดพลางทิ้งตัวลงนอนอย่างฝืนใจ

ทว่าขณะนั้นกลับมีแสงไฟวาบผ่านนอกหน้าต่าง ตอนแรกก็นึกว่าเป็นฟ้าแลบหรือเปล่า แต่แสงไฟนั่นมีอะไรแปลกๆ เพราะสว่างขึ้นมาจากด้านล่างไม่ใช่บนท้องฟ้า มินจุนผุดลุกขึ้นอย่างแรงแล้วรีบวิ่งไปที่หน้าต่าง มีรถยนต์กำลังเคลื่อนตัวเข้ามา… รถยนต์ของไดกิขับผ่านประตูใหญ่เข้ามาที่โรงจอดรถ ไดกิกลับมาแล้ว!

หัวใจเต้นแรงจนรู้สึกเจ็บท้อง เจ็บ เจ็บมากจริงๆ คนตัวเล็กขยุ้มท้องอย่างแรง จะยืดตัวขึ้นยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่บนใบหน้ากลับยกยิ้มกว้าง มินจุนไม่อยากโดนจับได้ว่า ตีสองกว่าแล้วแต่ไม่ยอมนอน เอาแต่รอคอยอีกฝ่าย แค่ได้เห็นว่ากลับมาอย่างปลอดภัยก็พอใจแล้ว ค่อยเรียกร้องเป็นสองเท่าคราวหน้าก็ได้ จะอ้างนู่นอ้างนี่ ขอให้อยู่ด้วยกันทบเป็นหลายๆ เท่าของเวลาที่เหลืออยู่ไปเลย จากนั้นจึงเดินกลับขึ้นไปนอนข้างโทมะอีกครั้ง

แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลับอยู่ดี มินจุนไม่สามารถหลับตาลงได้ หากไม่ได้เห็นแผ่นหลังของไดกิเดินผ่านเข้ามาในห้องนี้ก่อนจะเดินเข้าห้องของตัวเอง ไดกิที่ไม่ได้พบหน้ามาสามวัน… คิดถึงเหลือเกิน บางครั้งหลังจากโทมะหลับแล้ว เขาก็แอบไปเปิดประตูห้องอีกฝ่ายดูเหมือนกัน แม้จะไม่กล้าเดินเข้าไป แต่ว่า…

ระหว่างคิดเพลินๆ ประตูห้องโทมะถูกเปิดเข้ามาพอดี คนแกล้งหลับเลยสะดุ้งลุกพรวดขึ้นตามสัญชาติญาณต่างจากที่ตัวเองคิดเองไว้ ไดกิกับมินจุนจดจ้องกันและกันอยู่อย่างนั้น ก่อนร่างสูงจะเดินตรงเข้ามาที่เตียง ทว่าสายตาของเขากลับไม่หลุดโฟกัสจากมินจุนเลยแม้แต่นิดเดียว พอเข้ามาจนใกล้ แววตาไร้ความรู้สึกก็หยุดอยู่ที่ร่างบางครู่หนึ่งแล้วเลยผ่านไปยังโทมะ ไดกิลูบศีรษะของลูกชายที่กำลังหลับ

“ทำไมไม่นอน”

บรรยากาศยามใกล้รุ่งมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด ทั้งรู้สึกพิศวง บางครั้งก็ให้ความรู้สึกอีโรติก… เป็นเสน่ห์ที่จากต่างช่วงเช้าตรู่และช่วงพลบค่ำ น้ำเสียงอีกฝ่ายดังแทรกผ่านบรรยากาศนั้นเข้ามา สำหรับมินจุนแล้วมันคือความปรารถนา

“เอ่อ… นอนไม่หลับครับ…”

“ดึกแล้ว นอนซะ”

จากนั้นไดกิก็เอ่ยทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงยากจะคาดเดาความรู้สึก ก่อนจะลุกขึ้นแล้วหมุนตัวเดินกลับไปที่ห้องของตนเอง มินจุนจึงทิ้งตัวลงกับเตียงอีกครั้ง หนึ่งนาที สองนาที สิบนาที… หลังนอนมองเพดานตาแป๋ว เขาลุกออกจากเตียง ไม่ใช่ว่าไม่เสียใจกับคำพูดแสนเฉยชานั่น แต่เพราะไม่เคยคาดหวังความอบอุ่นจากอีกฝ่ายมาตั้งแต่ต้น ได้แค่นั้นก็ดีเท่าไหร่แล้ว ทว่าไม่สามารถรับมือกับความปรารถนาในตัวไดกิได้ เขาอาจจะโดนด่าว่าเป็นคนมักมาก แล้วโดนไล่กลับมาที่ห้องโทมะก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถหยุดตัวเองไม่ให้เดินไปหาเขาคนนั้นได้เลย

มินจุนยืนปรับลมหายใจอยู่หน้าประตูห้องครู่หนึ่งก่อนจะเอื้อมมือออกไปเปิดมัน และในชั่วพริบตานั้นจู่ๆ ประตูก็เปิดออกพร้อมการปรากฏตัวของไดกิในชุดคลุมอาบน้ำ ดวงตาสีดำแผ่ซ่านด้วยความปรารถนารุนแรงกำลังจับจ้องมาทางเขา ทว่ามินจุนไม่เพียงไม่หลบเท่านั้น แต่กลับเดินหน้าขึ้นไปหา

ช่วงเวลาเดียวกับที่ร่างบางยื่นมือออกไปยังศีรษะเปียกชื้นตรงหน้า ก็ถูกเรี่ยวแรงมหาศาลดึงเข้าไปกกกอดจนซี่โครงแทบหัก มินจุนถูกพาเข้าไปในห้องทั้งๆ อย่างนั้น ด้วยการหอบหายใจฮักๆ ผสมผสานกับลิ้นร้อนของอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว

จูบของไดกิก็คือความหิวกระหาย มินจุนเองก็ไม่คิดจะซ่อนเร้นความปรารถนาของตัวเองเช่นกัน จูบของทั้งคู่จึงกลืนกินซึ่งกันและกัน ร่างสูงใช้มือข้างหนึ่งกอดรัดเอวบางไว้แน่น ส่วนอีกข้างก็ล็อกท้ายทอยเพื่อไม่ให้คนตรงหน้าขยับหนีไปไหน ระหว่างที่ตนรุกล้ำเข้าไปในโพรงปากอย่างดุดัน แม้มินจุนจะส่งเสียงครวญครางต้องการอาการหายใจและน้ำลายไหลซึม แต่ไดกิก็ยังคงบดจูบอย่างหนักหน่วงมอบลมหายใจของตัวเองให้แทน ขบกัดเรียวลิ้นราวกับจะบดให้ละเอียดก่อนจะลามเลียไปทั่วเพดานปาก ดับความกระกระหายราวกับจะเผาไหม้ตัวเองตลอดสามวันที่ผ่านมา

ไดกิถอดเสื้อผ้าของมินจุนออกอย่างหยาบโลน ผละออกจากริมฝีปากมาไล่เลียจากลำคอขึ้นมาจนถึงติ่งหูอ่อนนุ่ม ขบเม้มแล้วกระซิบด้วยน้ำเสียงร้อนรุ่ม

“คิดไว้หรือยัง”

“อ๊ะ เหมือนจะไม่ได้ นะครับ… ก็คุณผิด… สัญ… อ๊ะ เจ็บ… สัญญา”

“แล้วไง”

“ก็ต้องเบิ้ลเข้าไปอีกสิ เดี๋ยวผมจะไปคิดมาใหม่”

“โลภจริงๆ ถ้างั้นก็ต้องเริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลยสินะ”

พูดจบแล้วก็วางมินจุนลงบนเตียงราวกับจับโยน ก่อนจะลอกสิ่งปกปิดร่างกายออกจนหมด มินจุนตกใจรีบเอามือปิดส่วนอ่อนไหวของตัวเองที่ชูชันขึ้นมาอย่างน่ารักน่าชัง อย่างไรก็ยังรู้สึกอายเวลาต้องเปลือยเปล่าต่อหน้าไดกิที่เป็นผู้ชายแท้ๆ คนหนึ่งอยู่ดี

“อะไร เขินหรือไง”

“อะ อะไรครับ มันก็ต้องเป็นงั้นสิ คุณไม่เป็นหรือไงครับ”

“ไม่หนิ ไม่เคย ให้ดูโต้งๆ ไปเลยยังจะดีกว่า”

จากนั้นชายหนุ่มก็ถอดชุดคลุมอาบน้ำออก มินจุนไม่อาจละสายตาไปไหนได้เลย จุดสัมผัสทั่วทั้งร่างกายล้วนรู้สึกไปหมด ราวกับโดยอวัยวะใหญ่โตมีสีแดงก่ำนั่นทะลุผ่านเข้ามา เพียงแค่คิดว่ากำลังจะถูกเติมเต็มด้วยตัวตนของอีกฝ่าย ก็รู้สึกเสียวซ่านหมดเรี่ยวแรงคล้ายจะเสร็จขึ้นมาทันทีทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ทำอะไร

“ที่เขินคงจะมีแต่ร่างกายนายละแล้วล่ะ”

“ของคุณไม่อายเลย… ผมอยากได้”

“แมวบ้านไหนกัน ทำไมถึงได้ลามกนัก”

“…เม่นต่างหากครับ”

“หือ?”

“ไว้ผมจะเอาให้ดูครับ”

มินจุนอดรนทนรออีกต่อไปไม่ไหวแล้ว เขายื่นมือไปสัมผัสต้นขาแกร่งก่อนจะดันแกนกายตื่นตัวเข้าปากตัวเอง แม้ว่ามันจะเข้าไปจนเต็มปากแล้ว ทว่าเจ้าสิ่งนั้นก็ยังเหลืออยู่อีกครึ่งหนึ่ง พยายามอ้าปากจนสุดให้มันลงไปจนถึงในลำคอ ดันเข้าไปให้ลึกที่สุด ดูดเลียจนแก้มตอบ

เสียงครางพึงพอใจดังออกมาจากปากของไดกิ มือใหญ่ที่กำลังลูบเส้นผมทำให้สัมผัสถึงความใส่ใจอย่างไม่มีสิ้นสุด มินจุนลูบคลำก้อนกลมทั้งสองก้อนตรงหน้าอย่างนิ่มนวล ขยับศีรษะลูบคลำอย่างตั้งใจให้เสียวซ่านจากสัมผัสนี้

ทั้งสองแทบไม่ยอมให้อีกฝ่ายได้พัก ก้นของมินจุนขมิบรัว เอวสั่นสะท้านขยี้เข้ากับหัวเข่า พอไดกิใช้นิ้วสะกิดเบาๆ ที่ศีรษะเล็ก มินจุนก็ค่อยๆ คายแกนกายออกมาจากปาก…

พวกเขาสบตากันอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นไดกิก็จับร่างบางพลิกแล้วขึ้นคร่อมอย่างรวดเร็ว มินจุนมองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากความปรารถนาอันดำมืดของตัวเอง

ริมฝีปากร้อนกัดลงที่ยอดอกชูชันเตะสายตาทันทีแล้วดูดดึงอย่างแรง จนร่างบางโก่งแผ่นหลังโค้งราวกับพระจันทร์เสี้ยว พลางถูไถส่วนอ่อนไหวของตนเองเข้ากับเอวสอบของอีกฝ่าย ไม่ลืมออดอ้อนเสียงแหลม เขาอดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เพียงแค่มือใหญ่ลากผ่านตรงบริเวณนั้นก็วูบวาบและเจ็บแปลบๆ ขึ้นมา เมื่อลิ้นของไดกิหมุนวนอยู่บนหน้าอกที่ไวต่อความรู้สึก ภายในหัวของมินจุนพลันขาวโพลนคิดอะไรไม่ออกแม้แต่อย่างเดียว จากนั้นร่างสูงก็เอื้อมมือไปจับแกนกายของมินจุนแล้วรูดขึ้นลง

“อึก… อย่า ไดกิ… ไม่เอา…”

“หุบปาก แค่เลียไม่กี่ครั้งก็จะเสร็จซะแล้ว นอนร้องไห้ไปซะ ฉันชอบเสียงสะอื้นของนาย”

“อ๊ะ อา… ไดกิ”

ทว่าพอไดกิแตะริมฝีปากที่กำลังหอบหายใจถี่พร้อมกระซิบว่าชอบ… คนตัวเล็กก็เบิกตากว้างแล้วปลดปล่อยใส่มือซะอย่างนั้น ไดกิยกขาเรียวขึ้นสูงแล้วนำน้ำขาวขุ่นของเจ้าตัวป้ายลงกับช่องทางที่กำลังบีบรัดและขมิบไปมา แต่มินจุนกลับรั้งมือของอีกฝ่ายไว้

“อึก! อย่า… ไม่เอา…”

“ทำไม เพิ่งจะเริ่มเองนะ”

“ไดกิ… ได้โปรด”

“อะไรอีก”

“ขอร้อง… ใช้โลชั่นนะ ผมอายมากจริงๆ”

“จะลองคิดดู”

“คิดอะไร… อ๊ะๆ อ๊า… ไดกิ”

ร่างกายสั่นไหวจนไม่สามารถพูดให้จบประโยค เพราะการแทรกตัวเข้ามาที่เหนือกว่าทุกอย่าง ขนาดใหญ่โตเข้ามาเติมเต็มและจับจองพื้นที่ภายในร่างกาย ไดกิเริ่มขยับเอวโดยไม่ให้พักเลยแม้แต่วินาทีเดียว ร่างกายของมินจุนกระเพื่อมไปมาบนผ้าคลุมเตียงสีดำราวกับคลื่น ผลักแขนแกร่งราวกับประท้วงการกระทำแสนรุนแรง

ไดกิความไร้ปราณี มือใหญ่จับล็อกสะโพกอิ่มแน่นแล้วยกขึ้นให้อยู่ในระดับที่เหมาะต่อการสอดใส่ ก่อนจะขยับเข้าออกโดยไม่ปล่อยให้ได้พัก ความเสียวซ่านที่มากเกินไปผลักดันมินจุนให้จมอยู่กับความมืดมิดไม่มีสิ้นสุด ซึ่งมาพร้อมกับความเจ็บปวด และเพื่อไม่ให้ตัวเองตกลงไปจนถึงสุดความมืดนั้น เขาจึงต้องยกแขนคล้องลำคอของไดกิอย่างยากลำบาก อดทนต่อการวิ่งแล่นราวกับสัตว์ป่าของอีกคน

ทว่าร่างกายของมินจุนแข็งแกร่งกว่าสติสัมปชัญญะ ภายในร้อนผ่าวบีบรัดแกนกายที่ขยับเข้าออกราวกับเคลือบด้วยกาวใส คิ้วหนาบิดเบี้ยวเป็นพักๆ เพราะความสุขสม ไดกิจับใบหน้ามินจุนยกขึ้นแล้วกดจูบลงไป

เช้ามืดที่มีฝนฟ้าคะนอง แสงแวบวาบส่องผ่านเข้ามาในห้องนอนมืดสนิทแวบหนึ่ง ปรากฎภาพเปลือยเปล่าของชายหนุ่มสองคนที่กำลังเสพสุขกันราวกับสัตว์ ยิ่งไดกิกอดมินจุนมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งกระหายในตัวของอีกฝ่ายมากเท่านั้น กระทั่งดุุนดันเข้าไปจนถึงขีดจำกัดแล้วขยับเข้าออก

ไม่ได้การ จะปล่อยให้มันเป็นอย่างนี้ไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนี้คงปล่อยมินจุนไปไม่ได้แน่ๆ แม้กระทั่งตอนนี้ เพียงแค่คิดว่าจะมีใครบ้างที่ได้คว้าร่างบอบบางนี่แล้วขยับไปมา ต่อให้เป็นอดีตที่ผ่านไปแล้ว ก็ยังรู้สึกโกรธจนเลือดพลุ่งพล่าน ไดกิล็อกใบหน้าสวยให้หันมาเผชิญหน้ากันด้วยความรักกับความปรารถนา

“ฉันจะทำยังไงกับนายดี”

“อ๊า… ไดกิ ดูเหมือนผมจะรักคุณ… ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม…”

มินจุนร้องไห้พร้อมกับสารภาพ ต่อให้ต้องตาย เขาก็อยากจะพูดมันออกไปอยู่ดี แค่ได้ถูกผู้ชายอย่างคุณกอดสักครั้ง ถึงต้องตาย ผมก็ไม่ขออะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว เคยคิดแค่นั้นแท้ๆ แต่ตอนนี้ดูเหมือนแค่นั้นจะไม่พอแล้ว

“หุบปาก อย่าพูดคำนั้น ฉันเคยบอกไปแล้วไม่ใช่หรือไง อย่าทำให้ฉันหวั่นไหว”

“ชอบนะครับ…”

“บอกให้หุบปาก”

“ชอบ”

“หยุด! นายทำมันไม่สำเร็จหรอก”

“คุณอย่ามาตัดสินใจเองนะ รักนะครับ รัก… ไม่ว่าคุณจะพูดยังไงผมก็รัก… อ๊ะ อึก เจ็บ…”

ไดกิเหมือนโดนกระตุ้นด้วยคำสารภาพของมินจุน จับร่างบางพลิกตัวทั้งๆ ที่ยังไม่ถอนแกนกายออกแล้วโถมกอดอีกครั้ง มินจุนโก่งสะโพกจัดท่าทางตัวเองให้ง่ายต่อการรับอีกคนเข้ามาแม้จะไม่มีสติแล้ว ซึ่งการกระทำนั้นยิ่งทำให้ร่างสูงโมโห

“เคยทำให้ใครมาบ้างแล้วล่ะ”

ก่อนจะขบกัดไปต้นคอเต็มแรง แม้มินจุนจะประท้วงด้วยความเจ็บปวด ทั้งสะอึกสะอื้น ชายหนุ่มก็ไม่คิดจะหยุด ไดกิโมโหจนแทบบ้าเมื่อคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนแรกของอีกฝ่าย ทุกอย่างช่างขัดแย้ง ไม่อาจส่งคนๆ นี้ไปได้ ไม่สิ ตอนนี้เขาค่อยๆ สูญเสียความเป็นตัวเองไปทีละน้อยแล้ว

“ต่อไปห้ามทำพฤติกรรมอะไร ยกเว้นที่เรียนไปจากฉัน เข้าใจไหม ถ้าฉันยังเห็นมารยาพวกนั้นอีกล่ะก็ ฉันจะไม่กอดนายอีกเป็นครั้งที่สองแน่…”

“ไดกิ… ผมถือว่านั่นเป็น… คำสารภาพได้ไหม”

ทว่าไดกิกลับไม่พูดอะไรต่อ ทำเพียงแค่โอบกอดมินจุนจนร่างแทบแตกสลาย จากนั้นก็ถอนหายใจราวกับจะปลดปล่อยทุกอย่างออกมา ก่อนจะขยับสะโพกรุนแรงเพื่อปลดปล่อยขั้นสุดท้าย

[1] ซูนึง การสอบเข้ามหาวิทยาลัยของประเทศเกาหลี

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด