ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ 893 ภารกิจของหลงเชวี่ย

Now you are reading ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ Chapter 893 ภารกิจของหลงเชวี่ย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลี่ว์ซู่ว่ามีบางอย่างแปลกๆ เกี่ยวกับโลกใบนี้เต็มไปหมด ถ้าหลงเชวี่ยเป็นแบบที่เขาคิดจริงๆ ก็แปลว่ายังมีเรื่องแปลกๆ อีกเยอะในโลกนี้!  

 

 

เอาเรื่องตัวตนทางเพศของเธอไว้ก่อน หลี่ว์ซู่จับอะไรได้บางอย่างในคำพูดของเธอ ลงใต้ไปเมืองหนานเกิง แล้ววกกลับมาเมื่อไปถึงชายแดนแล้ว  

 

 

ทุกคนรู้ว่าทัพเฮยอวี่กำลังใกล้เข้ามา แล้วแม่ค้าธรรมดาจะไปแถวชายแดนทำไมกันล่ะ ถึงแม้ถ้าเป็นระดับหนึ่งก็จะสามารถบินได้ก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถจะปกป้องคนทั้งหมดในคาราวานการค้าจากความโกลาหลนี้ได้หรอก ใช่ไหมล่ะ  

 

 

เว้นเสียแต่ว่าหลงเชวี่ยกำลังปิดบังอะไรอยู่!  

 

 

ที่เมืองหนานเกิงมีเมืองเล็กๆ อยู่รอบๆ สามเมือง และหนึ่งในเมืองนั้นก็มีพื้นที่เพาะปลูกด้วย!  

 

 

ถึงแม้ว่าหลี่ว์ซู่จะไม่แน่ใจว่าเธอจะตรงไปที่พื้นที่เพาะปลูกหรือเปล่า แต่เขาก็เชื่อว่าการคาดเดาของเขาถูกต้อง!  

 

 

จางเว่ยอวี่เป็นคนแปลก เพราะฉะนั้นหลี่ว์ซู่ก็เลยอดคิดว่าเรื่องนี้อาจจะเกี่ยวกับจางเว่ยอวี่ หลงเชวี่ยและจางเว่ยอวี่ไปตกลงอะไรกันไว้หรือเปล่านะ หลี่ว์ซู่ไม่แน่ใจเรื่องนี้เหมือนกัน ถ้าพวกเขามีภารกิจเดียวกัน งั้นหลงเชวี่ยก็มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าจางเว่ยอวี่มาก  

 

 

หลี่ว์ซู่เริ่มระมัดระวังขึ้นมาแล้ว สิ่งที่จางเว่ยอวี่เข้าไปเกี่ยวข้องนั้นน่าจะเกี่ยวกับราชาแห่งทวยเทพ หลี่ว์ซู่เดาว่าจางเว่ยอวี่คือคนที่ใกล้ชิดกับราชาแห่งทวยเทพมากที่สุด  

 

 

เมื่อหลี่ว์ซู่นึกถึงเรื่องนั้นแล้ว เขาก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เขาควรจะเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้อง ถึงเขาจะฝึกจนอยู่จุดสูงสุดในโลกนี้แล้ว หรือฝึกจนเป็นเสินฉังจิ้งในโลกที่เขาจากมา ราชาแห่งทวยเทพก็น่าจะเป็นคนที่แข็งแกร่งกว่าเขาอยู่ดี  

 

 

นี่ไม่ใช่เรื่องที่ผู้บำเพ็ญระดับห้าอย่างเขาจะเข้าไปเกี่ยวข้องได้ เป้าหมายของหลี่ว์ซู่ก็คือบังคับให้ตัวเองเลื่อนระดับขึ้นไปอีกหลังจากที่เขาอยู่ระดับหนึ่งแล้วด้วยการใช้ท่วงท่าวิชากระบี่ จากนั้นเขาก็จะเอาแต้มอารมณ์ไปแลกผลดวงดาวและหาทางกลับบ้าน  

 

 

หลี่ว์ซู่อยากจะอยู่บนโลกที่เขาจากมามากกว่าโลกนี้  

 

 

หลี่ว์ซู่ถามออกไปอย่างสบายๆ “ถ้าทัพเฮยอวี่ยกทัพกันมาล่ะ คุณไม่กลัวหรือครับ”  

 

 

หลงเชวี่ยยิ้มตอบ “คนที่ฝึกไปจนเป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แล้วจะโจมตีไม่ได้ เราไม่ต้องกลัวอะไรหรอก ตอนนี้ไม่มีใครกล้ามาแตะต้องกฎที่ราชาแห่งทวยเทพสร้างไว้แน่นอน”  

 

 

หลี่ว์ซู่ตะลึง งั้นคนที่เป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ก็ไม่อนุญาตให้โจมตีงั้นสิ!  

 

 

หลงเชวี่ยเข้ามาหาเขาแล้วก็ออกไปอย่างรวดเร็ว เขายังสงสัยอยู่เลยว่าหลงเชวี่ยจะขนสบู่ที่มีค่า 40,000 เหรียญไปได้อย่างไร ดูเหมือนว่าเธอจะมีคลังไร้รูปอยู่นะ  

 

 

เมื่อเป็นแบบนั้นแล้วหลี่ว์ซู่ก็ยิ่งแน่ใจว่าว่าเธอมีตัวตนที่ไม่ธรรมดาแน่นอน เพราะคลังไร้รูปไม่ใช่สิ่งของที่จะหาได้ทั่วไปในโลกนี้  

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋และหลี่ว์ซู่นั่งอยู่บนกำแพงหมู่บ้าน แล้วอยู่ๆ หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ก็ถามขึ้นมา “เธอว่าทัพเฮยอวี่จะมาที่นี่ไหม”  

 

 

“ตอบไม่ได้หรอกนะ เราจะต้องดูก่อนว่าทัพชิงไซนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน” หลี่ว์ซู่คิดแล้วพูดต่อไป “แต่จากที่ฉันดูแล้วทัพชิงไซน่าจะแข็งแกร่งพอๆ กับทัพเฮยอวี่เลยนะ ถ้าให้เปรียบเทียบกับแบรนด์ก็คงเป็นชาเนลกับปราด้า แต่ละคนก็มีข้อได้เปรียบของตัวเอง”  

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋อึ้งไป “แล้วถ้าอย่างนั้นทัพอู่เว่ยล่ะ เปรียบเหมือนกับแบรนด์อะไร”  

 

 

หลี่ว์ซู่เงียบไปสองวินาที “เคยได้ยินโรงงานผลิตหนังเจียงหนานไหม…”  

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋คิดตาม ก็สมเหตุสมผลดีนะ…  

 

 

“เมื่อเร็วๆ นี้ฉันเจอวิธีสกัดน้ำมันแบบใหม่ได้แล้วนะ” หลี่ว์ซู่พูดขึ้นมา “ตอนแรกคิดว่าน้ำมันหมูน่าจะไม่ค่อยแพงและเป็นเพียงของเหลือที่ใช้หลังการทอดอาหารเท่านั้น แต่หลังจากที่เราขยายตลาดธุรกิจไป เราก็จ่ายค่าซื้อหมูเสียเป็นส่วนใหญ่ ฉันลองไปถามหลี่เฮยทั่นแล้วว่าเรามีถั่วเหลืองกับเมล็ดคาโนลาบ้างหรือเปล่า เขาบอกว่ามีคนปลูกถั่วลิสงอยู่แถวเมืองอวิ๋นอัน เราน่าจะผลิตน้ำมันโดยใช้วิธีนี้ได้”  

 

 

โลกนี้ยังไม่มีการใช้น้ำมันพืชในการทำอาหาร แต่ผู้คนเอาน้ำมันพืชไปทำเสื้อผ้าแทน โดยเฉพาะน้ำมันงา  

 

 

วิธีการทำน้ำมันถั่วลิสงนั้นง่ายแสนง่าย คนธรรมดาเองก็ยังทำได้เลย ก็แค่เอาถั่วลิสงมาคั่วบนกระทะประมาณ 5 นาทีด้วยความร้อน 200 องศาเซลเซียส จากนั้นบีบคั้นน้ำมันออกมา  

 

 

เมื่อทำการแยกน้ำมันออกมากากถั่วลิสงแล้วเอาไปทำสบู่ สบู่ที่ทำจากน้ำมันถั่วลิสงจะดูใสกว่าและสวยกว่า ซึ่งนั่นก็ทำให้หลี่ว์ซู่ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาขายได้  

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่มีความรู้เรื่องการตลาด เขาไม่มีหัวเรื่องการทำธุรกิจเช่นกัน เขารู้แค่ว่าเขาอยากหาเงินและเขาก็ต้องหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาขาย สบู่สวยๆ พวกนี้คงเอาไว้ล่อตาลูกค้ารวยๆ ได้แน่ และสบู่หน้าตาธรรมดาก็ค่อยเอาไว้ขายให้ชาวบ้านแบบถูกๆ ทำแบบนี้แล้วความต้องการของทุกคนก็จะถูกเติมเต็ม  

 

 

ความจริงแล้วการเป็นโจรก็ไม่ได้ยากเท่าไหร่ เพราะเมื่อเอากระบี่ขึ้นมาขู่บนโต๊ะแล้วคนอื่นก็จะอยากซื้อของกันเอง ถึงของนั้นจะเป็นเพียงแค่ก้อนหินก็ตาม แต่หลี่ว์ซู่เป็นโจรที่มีอุดมการณ์ เขาจะต้องพัฒนาธุรกิจของเขาให้ยั่งยืนให้ได้…  

 

 

หลี่ว์ซู่บอกให้หลี่เฮยทั่นออกไปกว้านซื้อถั่วลิสงมาให้หมด เขายังส่งเสริมการเพาะปลูกอีกด้วย ถ้ามีคนปลูกถั่วลิสงหนึ่งหมู่[1]พวกเขาก็จะได้รับเงินไป 50 เหรียญ หลังจากที่ปลูกจนโตเต็มที่แล้วหลี่ว์ซู่จะขอซื้อในราคาจริง…  

 

 

หลี่ว์ซู่รู้สึกว่าเขากำลังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจของเมืองอวิ๋นอัน เขาได้ยินมาว่ามีทหารบางคนของทัพอู่เว่ยหันมาปลูกถั่วลิสงกันบ้าง ทหารของทัพอู่เว่ยมีพื้นที่เพาะปลูกของตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อก่อนการขายผลผลิตไม่ค่อยได้กำไรเท่าไหร่ ทุกคนก็เลยขี้เกียจจะปลูกพืช ก็การปลูกพืชมันรวยไม่เร็วเท่าการปล้นน่ะสิ!  

 

 

แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป เพราะมีการอุดหนุนทางการเงินเกิดขึ้น…  

 

 

อย่างไรก็ตามน้ำมันในทัพอู่เว่ยนั้นล้วนกระจุกตัวอยู่ในมือของชนชั้นกลางขึ้นไป ทหารและคนระดับที่ต่ำลงมาต้องไปผ่านกระบวนการที่ยาวนานกว่าจะได้กินอาหาร แต่ตอนนี้พวกเขามีโอกาสที่จะหาเงินได้เองแล้ว พวกเขาได้รับการอุดหนุนทางการเงินด้วยเหมือนกัน อีกอย่างพวกหมู่บ้านมังกรฟ้าก็ขอซื้อถั่วลิสงในราคาที่สูงพอตัวด้วย…  

 

 

ผู้คนในเมืองอวิ๋นอันจึงประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูก ทหารขี้เกียจๆ ในทัพอู่เว่ยเริ่มจะขยันเพาะปลูกกันแล้ว…  

 

 

ผู้คนพวกนี้รู้สึกสิ้นหวังกับเมืองอวิ๋นอันแบบเก่า แต่ตอนนี้พวกเขากลับรู้สึกว่าเมืองอวิ๋นอันกำลังเกิดใหม่อย่างเปล่งประกาย  

 

 

ตอนนี้คนที่เคยมาเอาสบู่ไปฝากพวกญาติๆ ของพวกเขาก็เอารางวัลกลับมาให้หลี่ว์ซู่บ้าง พวกเขาไม่แค่เอาสบู่ไปแจกจ่ายเท่านั้นแต่ยังเอาข่าวไปกระจายด้วย พวกเขาบอกว่าพวกโจรในอวิ๋นอันที่มาจากหมู่บ้านมังกรฟ้าไม่ปล้นคนแล้ว แต่ตอนนี้พวกเขากลับมาทำธุรกิจแทน!  

 

 

ผ่านไปแค่ครึ่งเดือนเท่านั้น ก็มีพ่อค้าจากเมืองหนานเกิงจากทางใต้และเมืองไคไท่จากทางเหนือมารวมตัวกันที่เมืองอวิ๋นอัน พวกทาสในร้านค้าที่ประตูเมืองต้องตอบคำถามมากมายว่าหมู่บ้านมังกรฟ้าอยู่ไหนตอนที่พวกเขากำลังจะเปิดร้าน…  

 

 

แค่เพียงครึ่งเดือนเท่านั้น หลายๆ คนก็ได้เห็นโอกาสทางธุรกิจในสบู่แล้ว!  

 

 

พวกเขาอยากจะทำวิจัยว่าสบู่ทำขึ้นมาได้อย่างไร แต่พวกเขาก็คิดไม่ออก  

 

 

คนธรรมดาจะคิดทำสบู่ที่กำจัดคราบสกปรกและคราบมันขึ้นมาได้อย่างไร แถมยังทำมาจากไขมันด้วย พวกเขายังไม่มีนักเคมีเลยนะ!  

 

 

เย่เสี่ยวหมิงที่อยู่ในวังไม่เข้าใจสถานการณ์ที่ลูกน้องของเขารายงานมาเลยแม้แต่น้อย พวกหมู่บ้านมังกรฟ้ากำลังทำอะไรกันอยู่ ธุรกิจหลายแห่งที่เขาเห็นมักจะหลีกเลี่ยงไม่ไปยุ่งกับพวกโจร แต่โลกกลับเปลี่ยนไปแล้ว พ่อค้ากลับเข้าหาโจรเองเสียนี่!  

 

 

พวกเขาบ้ากันไปแล้วเหรอ  

 

 

ในตอนนั้นเองที่หมู่บ้านมังกรฟ้า หลี่ว์ซู่ได้เริ่มงานแสดงสินค้าเป็นเวลาเจ็ดวัน เขายืนอยู่บนเวทีหินปูนอย่างกล้าหาญและดูมีชีวิตชีวา เขามองลงไปเห็นหน้าของพวกพ่อค้าที่เดินทางมาพร้อมกับฝุ่นละอองที่ติดทั่วใบหน้า “พวกคุณอยากประสบความสำเร็จกันหรือเปล่า ขอผมบอกอะไรพวกคุณหน่อยนะครับ มีพ่อค้าคนหนึ่งที่ไม่เชื่อในผลิตภัณฑ์ของผม แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าโลกนี้มีคนอยู่สองประเภทแล้ว ประเภทแรกก็คือคนที่เข้ามาร่วมการแลกเปลี่ยนทางการค้าอย่างพวกคุณ และอีกประเภทคือคนที่กำลังพยายามทำความเข้าใจการแลกเปลี่ยนนี้อยู่ เอาล่ะ ความสำเร็จอยู่ใกล้แค่ปลายจมูกของทุกคนแล้วนะครับ…”  

 

 

 

 

 

——

 

 

[1] หน่วยวัดพื้นที่ของจีน มีค่าประมาณ 165 ตารางวา

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ 893 ภารกิจของหลงเชวี่ย

Now you are reading ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ Chapter 893 ภารกิจของหลงเชวี่ย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หลี่ว์ซู่ว่ามีบางอย่างแปลกๆ เกี่ยวกับโลกใบนี้เต็มไปหมด ถ้าหลงเชวี่ยเป็นแบบที่เขาคิดจริงๆ ก็แปลว่ายังมีเรื่องแปลกๆ อีกเยอะในโลกนี้!  

 

 

เอาเรื่องตัวตนทางเพศของเธอไว้ก่อน หลี่ว์ซู่จับอะไรได้บางอย่างในคำพูดของเธอ ลงใต้ไปเมืองหนานเกิง แล้ววกกลับมาเมื่อไปถึงชายแดนแล้ว  

 

 

ทุกคนรู้ว่าทัพเฮยอวี่กำลังใกล้เข้ามา แล้วแม่ค้าธรรมดาจะไปแถวชายแดนทำไมกันล่ะ ถึงแม้ถ้าเป็นระดับหนึ่งก็จะสามารถบินได้ก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถจะปกป้องคนทั้งหมดในคาราวานการค้าจากความโกลาหลนี้ได้หรอก ใช่ไหมล่ะ  

 

 

เว้นเสียแต่ว่าหลงเชวี่ยกำลังปิดบังอะไรอยู่!  

 

 

ที่เมืองหนานเกิงมีเมืองเล็กๆ อยู่รอบๆ สามเมือง และหนึ่งในเมืองนั้นก็มีพื้นที่เพาะปลูกด้วย!  

 

 

ถึงแม้ว่าหลี่ว์ซู่จะไม่แน่ใจว่าเธอจะตรงไปที่พื้นที่เพาะปลูกหรือเปล่า แต่เขาก็เชื่อว่าการคาดเดาของเขาถูกต้อง!  

 

 

จางเว่ยอวี่เป็นคนแปลก เพราะฉะนั้นหลี่ว์ซู่ก็เลยอดคิดว่าเรื่องนี้อาจจะเกี่ยวกับจางเว่ยอวี่ หลงเชวี่ยและจางเว่ยอวี่ไปตกลงอะไรกันไว้หรือเปล่านะ หลี่ว์ซู่ไม่แน่ใจเรื่องนี้เหมือนกัน ถ้าพวกเขามีภารกิจเดียวกัน งั้นหลงเชวี่ยก็มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าจางเว่ยอวี่มาก  

 

 

หลี่ว์ซู่เริ่มระมัดระวังขึ้นมาแล้ว สิ่งที่จางเว่ยอวี่เข้าไปเกี่ยวข้องนั้นน่าจะเกี่ยวกับราชาแห่งทวยเทพ หลี่ว์ซู่เดาว่าจางเว่ยอวี่คือคนที่ใกล้ชิดกับราชาแห่งทวยเทพมากที่สุด  

 

 

เมื่อหลี่ว์ซู่นึกถึงเรื่องนั้นแล้ว เขาก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เขาควรจะเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้อง ถึงเขาจะฝึกจนอยู่จุดสูงสุดในโลกนี้แล้ว หรือฝึกจนเป็นเสินฉังจิ้งในโลกที่เขาจากมา ราชาแห่งทวยเทพก็น่าจะเป็นคนที่แข็งแกร่งกว่าเขาอยู่ดี  

 

 

นี่ไม่ใช่เรื่องที่ผู้บำเพ็ญระดับห้าอย่างเขาจะเข้าไปเกี่ยวข้องได้ เป้าหมายของหลี่ว์ซู่ก็คือบังคับให้ตัวเองเลื่อนระดับขึ้นไปอีกหลังจากที่เขาอยู่ระดับหนึ่งแล้วด้วยการใช้ท่วงท่าวิชากระบี่ จากนั้นเขาก็จะเอาแต้มอารมณ์ไปแลกผลดวงดาวและหาทางกลับบ้าน  

 

 

หลี่ว์ซู่อยากจะอยู่บนโลกที่เขาจากมามากกว่าโลกนี้  

 

 

หลี่ว์ซู่ถามออกไปอย่างสบายๆ “ถ้าทัพเฮยอวี่ยกทัพกันมาล่ะ คุณไม่กลัวหรือครับ”  

 

 

หลงเชวี่ยยิ้มตอบ “คนที่ฝึกไปจนเป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แล้วจะโจมตีไม่ได้ เราไม่ต้องกลัวอะไรหรอก ตอนนี้ไม่มีใครกล้ามาแตะต้องกฎที่ราชาแห่งทวยเทพสร้างไว้แน่นอน”  

 

 

หลี่ว์ซู่ตะลึง งั้นคนที่เป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ก็ไม่อนุญาตให้โจมตีงั้นสิ!  

 

 

หลงเชวี่ยเข้ามาหาเขาแล้วก็ออกไปอย่างรวดเร็ว เขายังสงสัยอยู่เลยว่าหลงเชวี่ยจะขนสบู่ที่มีค่า 40,000 เหรียญไปได้อย่างไร ดูเหมือนว่าเธอจะมีคลังไร้รูปอยู่นะ  

 

 

เมื่อเป็นแบบนั้นแล้วหลี่ว์ซู่ก็ยิ่งแน่ใจว่าว่าเธอมีตัวตนที่ไม่ธรรมดาแน่นอน เพราะคลังไร้รูปไม่ใช่สิ่งของที่จะหาได้ทั่วไปในโลกนี้  

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋และหลี่ว์ซู่นั่งอยู่บนกำแพงหมู่บ้าน แล้วอยู่ๆ หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ก็ถามขึ้นมา “เธอว่าทัพเฮยอวี่จะมาที่นี่ไหม”  

 

 

“ตอบไม่ได้หรอกนะ เราจะต้องดูก่อนว่าทัพชิงไซนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน” หลี่ว์ซู่คิดแล้วพูดต่อไป “แต่จากที่ฉันดูแล้วทัพชิงไซน่าจะแข็งแกร่งพอๆ กับทัพเฮยอวี่เลยนะ ถ้าให้เปรียบเทียบกับแบรนด์ก็คงเป็นชาเนลกับปราด้า แต่ละคนก็มีข้อได้เปรียบของตัวเอง”  

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋อึ้งไป “แล้วถ้าอย่างนั้นทัพอู่เว่ยล่ะ เปรียบเหมือนกับแบรนด์อะไร”  

 

 

หลี่ว์ซู่เงียบไปสองวินาที “เคยได้ยินโรงงานผลิตหนังเจียงหนานไหม…”  

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋คิดตาม ก็สมเหตุสมผลดีนะ…  

 

 

“เมื่อเร็วๆ นี้ฉันเจอวิธีสกัดน้ำมันแบบใหม่ได้แล้วนะ” หลี่ว์ซู่พูดขึ้นมา “ตอนแรกคิดว่าน้ำมันหมูน่าจะไม่ค่อยแพงและเป็นเพียงของเหลือที่ใช้หลังการทอดอาหารเท่านั้น แต่หลังจากที่เราขยายตลาดธุรกิจไป เราก็จ่ายค่าซื้อหมูเสียเป็นส่วนใหญ่ ฉันลองไปถามหลี่เฮยทั่นแล้วว่าเรามีถั่วเหลืองกับเมล็ดคาโนลาบ้างหรือเปล่า เขาบอกว่ามีคนปลูกถั่วลิสงอยู่แถวเมืองอวิ๋นอัน เราน่าจะผลิตน้ำมันโดยใช้วิธีนี้ได้”  

 

 

โลกนี้ยังไม่มีการใช้น้ำมันพืชในการทำอาหาร แต่ผู้คนเอาน้ำมันพืชไปทำเสื้อผ้าแทน โดยเฉพาะน้ำมันงา  

 

 

วิธีการทำน้ำมันถั่วลิสงนั้นง่ายแสนง่าย คนธรรมดาเองก็ยังทำได้เลย ก็แค่เอาถั่วลิสงมาคั่วบนกระทะประมาณ 5 นาทีด้วยความร้อน 200 องศาเซลเซียส จากนั้นบีบคั้นน้ำมันออกมา  

 

 

เมื่อทำการแยกน้ำมันออกมากากถั่วลิสงแล้วเอาไปทำสบู่ สบู่ที่ทำจากน้ำมันถั่วลิสงจะดูใสกว่าและสวยกว่า ซึ่งนั่นก็ทำให้หลี่ว์ซู่ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาขายได้  

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่มีความรู้เรื่องการตลาด เขาไม่มีหัวเรื่องการทำธุรกิจเช่นกัน เขารู้แค่ว่าเขาอยากหาเงินและเขาก็ต้องหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาขาย สบู่สวยๆ พวกนี้คงเอาไว้ล่อตาลูกค้ารวยๆ ได้แน่ และสบู่หน้าตาธรรมดาก็ค่อยเอาไว้ขายให้ชาวบ้านแบบถูกๆ ทำแบบนี้แล้วความต้องการของทุกคนก็จะถูกเติมเต็ม  

 

 

ความจริงแล้วการเป็นโจรก็ไม่ได้ยากเท่าไหร่ เพราะเมื่อเอากระบี่ขึ้นมาขู่บนโต๊ะแล้วคนอื่นก็จะอยากซื้อของกันเอง ถึงของนั้นจะเป็นเพียงแค่ก้อนหินก็ตาม แต่หลี่ว์ซู่เป็นโจรที่มีอุดมการณ์ เขาจะต้องพัฒนาธุรกิจของเขาให้ยั่งยืนให้ได้…  

 

 

หลี่ว์ซู่บอกให้หลี่เฮยทั่นออกไปกว้านซื้อถั่วลิสงมาให้หมด เขายังส่งเสริมการเพาะปลูกอีกด้วย ถ้ามีคนปลูกถั่วลิสงหนึ่งหมู่[1]พวกเขาก็จะได้รับเงินไป 50 เหรียญ หลังจากที่ปลูกจนโตเต็มที่แล้วหลี่ว์ซู่จะขอซื้อในราคาจริง…  

 

 

หลี่ว์ซู่รู้สึกว่าเขากำลังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจของเมืองอวิ๋นอัน เขาได้ยินมาว่ามีทหารบางคนของทัพอู่เว่ยหันมาปลูกถั่วลิสงกันบ้าง ทหารของทัพอู่เว่ยมีพื้นที่เพาะปลูกของตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อก่อนการขายผลผลิตไม่ค่อยได้กำไรเท่าไหร่ ทุกคนก็เลยขี้เกียจจะปลูกพืช ก็การปลูกพืชมันรวยไม่เร็วเท่าการปล้นน่ะสิ!  

 

 

แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป เพราะมีการอุดหนุนทางการเงินเกิดขึ้น…  

 

 

อย่างไรก็ตามน้ำมันในทัพอู่เว่ยนั้นล้วนกระจุกตัวอยู่ในมือของชนชั้นกลางขึ้นไป ทหารและคนระดับที่ต่ำลงมาต้องไปผ่านกระบวนการที่ยาวนานกว่าจะได้กินอาหาร แต่ตอนนี้พวกเขามีโอกาสที่จะหาเงินได้เองแล้ว พวกเขาได้รับการอุดหนุนทางการเงินด้วยเหมือนกัน อีกอย่างพวกหมู่บ้านมังกรฟ้าก็ขอซื้อถั่วลิสงในราคาที่สูงพอตัวด้วย…  

 

 

ผู้คนในเมืองอวิ๋นอันจึงประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูก ทหารขี้เกียจๆ ในทัพอู่เว่ยเริ่มจะขยันเพาะปลูกกันแล้ว…  

 

 

ผู้คนพวกนี้รู้สึกสิ้นหวังกับเมืองอวิ๋นอันแบบเก่า แต่ตอนนี้พวกเขากลับรู้สึกว่าเมืองอวิ๋นอันกำลังเกิดใหม่อย่างเปล่งประกาย  

 

 

ตอนนี้คนที่เคยมาเอาสบู่ไปฝากพวกญาติๆ ของพวกเขาก็เอารางวัลกลับมาให้หลี่ว์ซู่บ้าง พวกเขาไม่แค่เอาสบู่ไปแจกจ่ายเท่านั้นแต่ยังเอาข่าวไปกระจายด้วย พวกเขาบอกว่าพวกโจรในอวิ๋นอันที่มาจากหมู่บ้านมังกรฟ้าไม่ปล้นคนแล้ว แต่ตอนนี้พวกเขากลับมาทำธุรกิจแทน!  

 

 

ผ่านไปแค่ครึ่งเดือนเท่านั้น ก็มีพ่อค้าจากเมืองหนานเกิงจากทางใต้และเมืองไคไท่จากทางเหนือมารวมตัวกันที่เมืองอวิ๋นอัน พวกทาสในร้านค้าที่ประตูเมืองต้องตอบคำถามมากมายว่าหมู่บ้านมังกรฟ้าอยู่ไหนตอนที่พวกเขากำลังจะเปิดร้าน…  

 

 

แค่เพียงครึ่งเดือนเท่านั้น หลายๆ คนก็ได้เห็นโอกาสทางธุรกิจในสบู่แล้ว!  

 

 

พวกเขาอยากจะทำวิจัยว่าสบู่ทำขึ้นมาได้อย่างไร แต่พวกเขาก็คิดไม่ออก  

 

 

คนธรรมดาจะคิดทำสบู่ที่กำจัดคราบสกปรกและคราบมันขึ้นมาได้อย่างไร แถมยังทำมาจากไขมันด้วย พวกเขายังไม่มีนักเคมีเลยนะ!  

 

 

เย่เสี่ยวหมิงที่อยู่ในวังไม่เข้าใจสถานการณ์ที่ลูกน้องของเขารายงานมาเลยแม้แต่น้อย พวกหมู่บ้านมังกรฟ้ากำลังทำอะไรกันอยู่ ธุรกิจหลายแห่งที่เขาเห็นมักจะหลีกเลี่ยงไม่ไปยุ่งกับพวกโจร แต่โลกกลับเปลี่ยนไปแล้ว พ่อค้ากลับเข้าหาโจรเองเสียนี่!  

 

 

พวกเขาบ้ากันไปแล้วเหรอ  

 

 

ในตอนนั้นเองที่หมู่บ้านมังกรฟ้า หลี่ว์ซู่ได้เริ่มงานแสดงสินค้าเป็นเวลาเจ็ดวัน เขายืนอยู่บนเวทีหินปูนอย่างกล้าหาญและดูมีชีวิตชีวา เขามองลงไปเห็นหน้าของพวกพ่อค้าที่เดินทางมาพร้อมกับฝุ่นละอองที่ติดทั่วใบหน้า “พวกคุณอยากประสบความสำเร็จกันหรือเปล่า ขอผมบอกอะไรพวกคุณหน่อยนะครับ มีพ่อค้าคนหนึ่งที่ไม่เชื่อในผลิตภัณฑ์ของผม แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าโลกนี้มีคนอยู่สองประเภทแล้ว ประเภทแรกก็คือคนที่เข้ามาร่วมการแลกเปลี่ยนทางการค้าอย่างพวกคุณ และอีกประเภทคือคนที่กำลังพยายามทำความเข้าใจการแลกเปลี่ยนนี้อยู่ เอาล่ะ ความสำเร็จอยู่ใกล้แค่ปลายจมูกของทุกคนแล้วนะครับ…”  

 

 

 

 

 

——

 

 

[1] หน่วยวัดพื้นที่ของจีน มีค่าประมาณ 165 ตารางวา

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+